คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Mistake 4
Mistake
4
ตกดึก...
จงแดที่ทานข้าวเสร็จก็ว่าจะช่วยล้างจานเสียหน่อยเป็นอันต้องโดนจุนมยอนบวกเหล่าแม่บ้านไล่ให้ขึ้นมานอน คนที่เคยนอนดึกตื่นเช้าอย่างเขาจะให้มานอนเร็วกว่าเวลาปกติก็คงจะนอนไม่หลับ จงแดจึงออกมายืนรับลมเย็นๆกับบรรยากาศอันแสนจะสดชื่นของตอนกลางคืนที่หน้าระเบียงของห้องแทน
ตลอดระยะเวลาสิบกว่านาทีที่จงแดยืนอยู่ตรงนี้มันช่วยให้เขาผ่อนคลายหลายๆเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะผ่อนคลายไปหมดทีเดียว และเรื่องที่มีอิทธิพลต่อจงแดมากที่สุดในตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของ...จุนมยอน
ยิ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์อันน่าอกสั่นขวัญผวาแบบเมื่อก่อนจะไปทานมื้อเย็นแล้วจงแดยิ่งสับสน ทุกครั้งที่คิดย้อนไปถึงช่วงเวลาที่ริมฝีปากอุ่นนุ่มนั้นประทับลงมาแนบสนิทกับริมฝีปากบางของตัวเองหัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ แถมยังอาการร้อนๆที่ใบหน้าโดยเฉพาะที่สองข้างแก้มนั่นอีก แต่เมื่อยิ่งหัวใจเต้นแรงความเจ็บปวดก็เหมือนจะประดังเข้ามาซัดซ้ำให้ต้องเจ็บปวด...จงแดไม่ลืมหรอกนะว่าจุนมยอนเคยทำอะไรไว้กับเขาและครอบครัวบ้าง
ทุกอย่างจงแดเข้าใจดีเพียงแต่ว่า...จงแดแค่สับสน
บางครั้งจุนมยอนก็ดูเป็นคนดีจนไม่น่าเชื่อว่าจะทำร้ายใครได้ แต่บางทีจุนมยอนก็เลวร้ายจนแทบจะมองไม่เห็นถึงด้านดี จงแดไม่รู้หรอกว่านิสัยใจคอจริงๆของจุนมยอนจะเป็นแบบไหนกันแน่ ที่จงแดรู้มีเพียงแค่อย่างเดียวคือ...การเข้มแข็ง ไม่รู้ว่าจุนมยอนจะร้ายจะดีตอนไหนจงแดจึงเลือกที่จะใช้วิธีง่ายๆเพียงแค่ 'เข้มแข็ง' แค่เข้มแข็งเข้าไว้แล้วทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไป
จงแดเชื่อว่ายังคงมีอีกหลายเรื่องที่เขายังไม่รู้เกี่ยวกับจุนมยอน เจ้าตัวนั้นเหมือนจะคอยสร้างกำแพงบดบังความลับอะไรสักอย่างไว้ไม่ให้ใครได้เข้าถึง และจงแดก็ไม่รู้ด้วยว่าจุนมยอนปิดบังอะไรไว้แล้วทำไมต้องปิดบัง ทำไมต้องสร้างกำแพงที่แข็งแรงนั้นไว้ไม่ให้ใครเข้าถึง
เอาจริงๆจงแดก็แค้นนะที่จุนมยอนมาทำร้ายครอบครัวของเขา แต่จงแดก็ไม่คิดที่จะแก้แค้นคืน ไม่ใช่ว่าเป็นคนดีอะไรนักหนาแต่เขาแค่อยากจะให้ทุกอย่างมันจบๆไปไม่ต้องมีใครมาเจ็บปวดหรือทรมานอีกต่อไป เพราะถ้ายังแก้แค้นกันกันไปกันมาแบบนี้ก็จะยิ่งมีแต่คนเจ็บปวดเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นจนไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
และถ้าหากว่าเป็นไปได้จงแดก็อยากจะย้อนเวลากลับไป ย้อนกลับไปในตอนที่ไม่รู้จักจุนมยอน...ถ้าหากไม่มีจุนมยอนเขาและครอบครัวคงไม่ต้องมาเจอกับอะไรที่มันโหดร้ายแบบนี้
เมื่อ 3 ปีให้หลัง ครอบครัวของจงแดเคยร่ำรวยเพราะธุรกิจการนำเข้าเครื่องสำอางเป็นไปด้วยดี จากบริษัทเล็กๆก็ขยับขยายจนกลายเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ หลายๆคนเชื่อใจและวางใจที่จะใช้สินค้าที่บริษัทของครอบครัวเขานำเข้า เพราะไม่เคยมีประวัติเสียหายในเรื่องของสินค้า คุณพ่อและคุณแม่ของจงแดเป็นคนตรวจสอบสินค้าทุกตัวด้วยมือท่านเอง สินค้าแต่ละตัวที่จะผ่านไปถึงมือผู้บริโภคต้องมั่นใจว่าได้มาตรฐาน ทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัวและดูดีไปเสียหมดถ้าหากว่า...ไม่มีคนปล่อยข่าวให้บริษัทของครอบครัวจงแดในทางเสียหายซะก่อน
เกิดการประท้วงของผู้บริโภคว่าครีมที่นำเข้าโดยบริษัทของครอบครัวเขานั้นไม่ได้มาตรฐาน จนทำให้ผู้ใช้เกิดอาการแพ้ขั้นรุนแรง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงมาทำการตรวจสอบว่าครีมที่นำเข้ามานั้นไม่ได้มาตรฐานจริงหรือไม่
ทางครอบครัวของจงแดก็ยังนึกสงสัยทั้งๆที่ตรวจสอบครีมทุกตัวมาเองกับมือและครีมทุกตัวก็ได้มาตรฐานหมด แต่ทำไมถึงโดนกล่าวหาว่าครีมไร้คุณภาพไร้มาตรฐานแบบนี้ ก็เห็นหลายคนใช้มาตั้งหลายปีไม่เห็นจะแพ้ แล้วมาเกิดจะแพ้อะไรเอาป่านนี้
แต่ก็เพราะความบริสุทธิ์ใจและมั่นใจในสินค้าที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ทางครอบครัวจึงไม่คับแคลงใจที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ แต่ครอบครัวของจงแดคงไม่รู้ว่าวันนั้นจะเป็นวันที่พวกเขา...ต้องสูญเสียสิ่งที่สำคัญไป
ทางหน่วยงานแจ้งให้ทราบว่าในตัวครีมที่นำเข้านั้นมีสารเคมีที่อันตรายผู้ใช้จึงเกิดอาการแพ้ พ่อกับแม่ของจงแดจึงถูกตั้งข้อหาค้าของไร้คุณภาพโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค บริษัทก็ถูกศาลสั่งให้ทำการปิดไป ทรัพย์สินก็ถูกยึด แม้แต่บ้านจงแดก็ไม่มี ครอบครัวของจงแดเชื่อว่าต้องมีใครสักคนเอาครีมที่มีสารเคมีร้ายแรงแบบนี้มาไว้ที่โกดังเก็บของก่อนที่หน่วยงานจะมาตรวจสอบเป็นแน่!! แต่ครั้นจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่ามันเสียซะนี่
พ่อกับแม่ของจงแดจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะควบคุมตัวไปฝากขัง จงแดก็ไม่รู้ว่าพวกท่านฆ่าตัวตายได้ยังไงทั้งๆที่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายที่คุมตัวพวกท่านอยู่บอกกับเขาเพียงแค่ว่าพวกท่านทั้งสองได้แย่งปืนไปจากพวกเขาแล้วทั้งสองก็...ปลิดชีพตัวเองด้วยปืนกระบอกนั้น
จงแดไม่รู้ว่าทำไมพวกท่านถึงได้ทำแบบนั้น ไม่รู้ว่าทำไมพวกท่านต้องทิ้งเขาไป ไม่รู้ว่าทำไมพวกท่านถึงได้ทิ้งให้เขาอยู่คนเดียว ทำไมทั้งสองคนถึงไม่คิดบ้างว่าจงแดจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีพวกท่าน ทำไมพ่อกับแม่ไม่คิดบ้างว่าจงแดจะอยู่คนเดียวได้ยังไงบนโลกที่แสนจะโหดร้ายแบบนี้
ตอนนั้นจงแดแทบไม่เป็นผู้เป็นคน จะฆ่าตัวตายก็หลายครั้งแต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ได้พี่อี้ชิงกับแบคฮยอนช่วยไว้ ตอนนั้นทั้งสองคนเป็นเหมือนคนแปลกหน้าที่จงแดหวาดกลัว แต่ดีหน่อยที่แบคฮยอนนั้นเป็นพวกความอดทนสูงและมีทักษะในการพูดโน้มน้าวใจคน
แบคฮยอนคอยปลอบและดูแลจงแดเรียกได้ว่าแทบจะทุกอย่าง แบคฮยอนให้ข้าวให้น้ำจงแด แบคฮยอนให้ที่อยู่อาศัยกับจงแด แบคฮยอนยอมทำงานหนักเป็นสองเท่าเพื่อที่จะได้เอาเงินมาจ่ายค่าห้องพักที่มีคนไร้ประโยชน์แบบจงแดมาอาศัยอยู่ด้วยเพิ่มอีกคน
จนเวลาล่วงเลยไปจงแดก็เริ่มที่จะเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น เขาเริ่มที่จะหางานทำเพื่อช่วยแบคฮยอนหาเงินจ่ายค่าห้องพักและค่าของใช้ค่ากับข้าวต่างๆนานา แต่จงแดก็ไม่ลืมที่จะหาว่าใครคือคนปล่อยข่าวบ้าๆนั่นจนมันทำให้ครอบครัวของเขาต้องมาเจอจุดจบแบบนี้
ยังดีที่จงแดได้แบคฮยอนกับพี่อี้ชิงช่วยสืบหาอีกแรง พวกเราสามคนรวบรวมหลักฐานและวิเคราะห์ดูว่าใครที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และใครกันแน่ที่เป็นคนทำลายครอบครัวจงแด!!
จากการสันนิษฐานและข้อมูลต่างๆที่ได้มาทำให้จงแดได้รู้ว่าคนที่ทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ก็คือ คิม จุนมยอน อดีตคู่หมั้นของจงแด
ก่อนหน้านั้นครอบครัวของจงแดได้ตกลงไว้ว่าจะให้เขาแต่งงานกับจุนมยอนแต่เพราะว่าจงแดนั้นรั้นเกินกว่าจะยอมให้ใครมาคลุมถุงชน เขาจึงประกาศกร้าวว่าไม่มีทางแต่งงานหรือหมั้นกับจุนมยอนเด็ดขาด!! แม่ของจงแดที่ตามใจจงแดอยู่แล้วจึงได้คุยกับคุณพ่อของจงแดให้ ทั้งคู่เป็นคนมีเหตุมีผลและคิดถึงความสุขของคนในครอบครัวมาก่อนสิ่งไหน พวกท่านจึงได้ขอยกเลิกเรื่องที่จะยกจงแดให้กับจุนมยอน
และนั่นคงจะทำให้จุนมยอนเสียหน้าไม่น้อยนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงถึงได้ขอประกาศตัวเป็นคู่แข่งกับบริษัทของพ่อจงแดตั้งแต่นั้นมา
ครอบครัวของจงแดไม่เคยมีศรัทตรูที่ไหนนอกจากจุนมยอน นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลใหญ่ๆที่ทำให้รู้ว่าคนที่ปล่อยข่าวและทำเรื่องเลวร้ายกับครอบครัวของจงแดนั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คิม จุนมยอน
จงแดก็อยากจะเอาผิดจุนมยอนนะ อยากจะให้ทุกคนได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้เลวร้ายแค่ไหน! อยากจะให้ทุกคนได้รู้ว่าครอบครัวเขาถูกใส่ร้าย อยากจะให้จุนมยอนโดนจับเข้าคุก อยากทำลายชีวิตจุนมยอนให้ย่อยยับเหมือนที่จุนมยอนได้ทำกับครอบครัวของเขา
แต่ทุกอย่างมันก็ติดอยู่ที่ว่า...เขาไม่มีหลักฐานมากพอที่จะมาเอาผิดจุนมยอน ลำพังจะให้เด็กที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเขาไปป่าวประกาศว่าจุนมยอนเป็นคนเลวที่ใส่ร้ายครอบครัวเขาแถมยังเอาครีมที่มีสารเคมีร้ายแรงมาไว้ในโกดังของบริษัทเขาจนทำให้ครอบครัวเขาโดนฟ้องล้มละลาย โดนยึดทรัพย์สินไม่มีแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน แบบนี้นะเหรอ เหอะ!! ใครมันจะมาเชื่อ จริงไหม?
ก็เพราะว่าเป็นแบบนี้ไงถึงเอาผิดคนชั่วไม่ได้สักที!
ส่วนจุนมยอนก็มักจะเข้ามาวุ่นวายกับจงแดเสมอ คอยทำร้ายทุกคนที่เข้าใกล้จงแด ไม่เว้นแม้กระทั่งแบคฮยอนหรือเจ้าของร้านดอกไม้ที่จงแดทำงานอยู่ และนั่นจึงทำให้จงแดย้ายออกจากห้องแบคฮยอนแล้วมาเปิดห้องใหม่ ยอมลาออกจากงานทั้งๆที่รู้ดีว่าถ้าออกไปแล้วจะไม่มีเงินใช้ แต่ถ้าให้จงแดทำงานต่อที่เดิมแล้วต้องทนเห็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรต้องมาเจ็บตัวเพราะเขา จงแดก็คงไม่ยอมเหมือนกัน!
จงแดพยายามที่จะอยู่ห่างแบคฮยอนให้มากที่สุด หรือแม้แต่พี่อี้ชิงเองก็ตาม แต่ทั้งพี่อี้ชิงและแบคฮยอนกลับไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งสองคนยังคงคอยเข้าหาจงแดอยู่อย่างนั้น พี่อี้ชิงเสนอให้จงแดมาทำงานที่ร้านกาแฟของพี่เขาเพราะว่าพี่เขาเป็นเพื่อนกับจุนมยอนจึงไม่ได้กลัวว่าจุนมยอนจะส่งคนมาทำร้ายตัวเอง แถมยังบอกว่าจะลองไปเจรจาให้จุนมยอนเลิกยุ่งวุ่นวายกับจงแดเสียด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหละ...จงแดก็แค่คิดว่าจุนมยอนไม่น่าจะกล้าทำร้ายเพื่อนตัวเองถึงได้ตกลงไปทำงานที่ร้านพี่อี้ชิง
จนวันนี้...วันที่จงแดได้รู้แน่แท้แล้วว่า คิม จุนมยอน เป็นคนไม่มีหัวใจ ทำร้ายได้แม้กระทั่งเพื่อนตัวเอง!
หมับ!
"อ๊ะ!"
แรงกอดรัดจากทางด้านหลังทำเอาจงแดที่กำลังเหม่อลอยไปไกลสะดุ้งโหยง พอจะหันไปมองว่าเป็นใครก็เป็นอันต้องชะงักค้างกว่าเดิมเมื่อแก้มใสสัมผัสกับจมูกโด่งๆของจุนมยอน
อันที่จริงจงแดก็ไม่ได้เขินหรืออะไรหรอกนะ ที่สะตั้นไปก็เพราะว่าตกใจแค่นั้นเอ๊งงงง~ (เสียงสูง) หน้าเน้อนี่ก็ไม่ได้รู้สึกร้อนวูบวาบๆเลยจริงจริ๊ง
-/////////////-
"อะ เอ่อ คือว่า...นะ นายช่วยปล่อยฉันก่อนได้ไหม" จงแดเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก ใบหน้าหวานก้มลงต่ำไม่กล้าสบตากับคนข้างหลัง
"ทำไมล่ะ" จุนมยอนเอ่ยด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ แต่คนตัวเล็กดันก้มหน้าอยู่นี่สิถึงได้ไม่ทันเห็น
"ก็...เปล่า ฉันแค่อึดอัดไม่ชอบให้ใครมากอด"
"อืม...งั้นฉันไม่กอดก็ได้ แต่ว่าต้องแลกกับนี่ก็แล้วกันนะ จุ๊บ" คนเจ้าเล่ห์เอ่ยจบก็หอมแก้มคนที่ก้มหน้างุดอยู่ไปทีหนึ่งเรียกริ้วแดงๆให้ยิ่งพาดสองข้างแก้มมากขึ้น ก่อนที่สองแขนแกร่งจะค่อยๆคลายอ้อมกอดออกอย่างเสียดาย ส่วนจงแดก็ได้แต่เอามือทั้งสองข้างมาปิดแก้มตัวเองไว้ กันไม่ให้จุนมยอนได้เห็นแก้มแดงๆของตัวเอง
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
เอาอีกแล้ว หัวใจเต้นแรงอีกแล้ว หยุดเลยนะจงแด! หยุดใจเต้นแรงให้ผู้ชายคนนี้ ผู้ชายคนนี้เขาทำอะไรกับนายไว้นายอย่าลืมสิ! เขาทำลายครอบครัวนายนะ แล้วเขายังทำร้ายคนที่นายรักด้วย
จงแดตบตีกับความคิดของตัวเองอยู่ได้ไม่นานก็เพิ่งจะคิดอะไรได้
จริงสิ! พี่อี้ชิงโดนทำร้ายนี่นาป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
"เอ่อ...ฉันขอถามไรหน่อยสิ" จงแดละทิ้งอาการเขินอายแล้วเอ่ยกับจุนมยอน
"ว่า?"
"พี่อี้ชิง...เอ่อ...นายพาพี่อี้ชิงส่งโรงพยาบาลรึยัง"
พอได้ยินคำถามจุนมยอนก็ถึงกับขมวดคิ้วแน่น รู้สึกว่าคิ้วจะกระตุกๆแบบแปลกๆ เหมือนจะไม่พอใจที่จงแดเอ่ยหาใครอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเอง แต่ถึงจะไม่พอใจเพียงใดจุนมยอนก็ยังใจดีตอบตำถามคนตรงหน้าไป
"อืม ส่งแล้ว"
"โรงพยาบาลอะไรเหรอ" จงแดถามอย่างกระตือรือร้น ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองเขาตาแป๋วอย่างรอตำตอบ จุนมยอนถอนหายใจเบาๆก่อนจะเอ่ยปากบอก
"โรงพยาบาล xx "
"พรุ่งนี้ฉันขอไปเยี่ยมพี่อี้ชิงนะ" ทันทีที่จงแดเอ่ยความต้องการออกมาจุนมยอนก็ถึงกับโมโหอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"ไม่ให้ไป!!"
จงแดสะดุ้งโหยงเพราะตกใจที่อยู่ดีๆอีกคนก็ตะโกนออกมาซะเสียงดัง ร่างบางขมวดคิ้วแน่น ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องแค่นี้จุนมยอนถึงต้องโมโหด้วย ก็แค่ขอไปเยี่ยมพี่อี้ชิงจะอะไรกันนักกันหนา
"แต่ว่าที่พี่อี้ชิงเจ็บตัวก็เป็นเพราะฉัน! ถ้าฉันไม่ไปดูแลพี่เขาบ้างมันจะดูไม่ดีเอาได้นะ อีกอย่างพี่อี้ชิงก็มีพระคุณกับฉันมาก"
"แล้วไง?" จุนมยอนเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน ร่างโปร่งตีหน้านิ่งจนจงแดนึกว่าเป็นคนละคนกับตอนที่เข้ามาในห้องใหม่ๆซะอีก
ก็บอกแล้วไงว่าจุนมยอนน่ะเดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย! เมนท์ไม่มารึยังไงก็ไม่รู้...
"ยังไงก็เถอะ พรุ่งนี้ฉันจะไปเยี่ยมพี่อี้ชิงนายไม่มีสิทธิ์มาห้าม!" จงแดพูดจบก็เดินกระแทกไหล่จุนมยอนออกไปทางห้องนอน แต่จุนมยอนนั้นไวกว่า ด้วยพละกำลังที่เหนือกว่าจุนมยอนจับเข้าที่ข้อมือบางของจงแดแน่นจนเจ้าของข้อมือต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
จุนมยอนดึงรั้งร่างของจงแดให้หันหน้ามาสบตากับตน จงแดที่พยายามจะขืนแรงดึงไว้ก็เป็นอันต้องจำยอมด้วยรู้ว่าแม้จะดิ้นไปยังไงก็ไม่มีทางหลุดพ้น จงแดได้แต่กัดฟันแน่นอย่างข่มความเจ็บเมื่อจุนมยอนเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือแน่นขึ้น
"ปล่อยนะ! ฉันเจ็บ! ไอ้บ้าจุนมยอนฉันบอกให้ปล่อย!" จงแดตะคอกใส่จุนมยอนอย่างเหลืออด นี่มันจะมากไปแล้วนะ ตอนนี้ข้อมือของเขาเริ่มที่จะแดงเป็นปื้นขึ้นมาแล้วด้วย ไอ้บ้านี่ก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหนทั้งที่ตัวก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรไปกว่าเขาเลย
"ไม่ปล่อย จนกว่านายจะรับปากฉันว่าจะไม่ไปหาไอ้อี้ชิง!"
"ไม่มีทาง! ยังไงฉันก็จะไปหาพี่อี้ชิง"
"คิม จงแด!" จุนมยอนกดเสียงต่ำ แต่จงแดก็หาได้กลัวไม่ ทั้งสองจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนสุดท้ายจงแดก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน
"นายห้ามฉันไม่ได้หรอก คิม จุนมยอน"
"หึ นายลืมอะไรไปรึเปล่าน่ะจงแด" คราวนี้จุนมยอนไม่ได้ตะคอกใส่เหมือนทุกครั้ง เจ้าตัวกลับพูดด้วยท่าทางสบายๆเสียด้วยซ้ำ แต่รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของร่างโปร่งนั้นทำให้จงแดรู้แน่ว่าจุนมยอนกำลังมีแผน หรือไม่ก็รู้วิธีที่จะต้อนเขาให้จนมุมนั่นแหละ
"ลืม? ลืมอะไรฉันไม่ได้ลืมอะไรทั้งนั้นแหละ!"
"ก่อนที่จะมาที่นี่นายตกลงกับฉันว่านายจะทำตามที่ฉันต้องการ...ทุกอย่าง!"
"แต่ฉัน-จะ-ไป!" จงแดพูดเน้นทีละคำ จุนมยอนที่เริ่มจะโมโหเพราะคนตัวเล็กไม่ยอมทำตามที่ตนต้องการก็เปลี่ยนจากที่กำข้อมือบางมาเป็นบีบไหล่มนทั้งสองข้างแทน ในตาของจุนมยอนนั้นวาวโรจน์จนจงแดยังแอบนึกกลัว แต่จงแดก็ฉลาดพอที่จะไม่แสดงอาการกลัวออกมาให้อีกคนเห็น
"ฉันบอกว่าไม่ให้ไปก็คือไม่ให้ไป!!"
"นายเป็นบ้าไปแล้วรึไง! พี่อี้ชิงเขาเป็นเพื่อนนายนะ แล้วคนที่ทำร้ายพี่อี้ชิงก็คือนาย! แต่นายกลับทำตัวไม่เดือดไม่ร้อนแถมยังมาห้ามไม่ให้ฉันไปเยี่ยมพี่เขาอีก" จงแดที่เริ่มจะทนไม่ไหวก็เอ่ยวาจาออกมาอย่างไม่มีท้อมีถอย
"แล้วใครใช้ให้มันเสนอหน้ามายุ่งกับนายเองล่ะ"
"เพราะพี่เขาเป็นคนดีไง พี่อี้ชิงเขาทนเห็นนายรังแกคนไม่มีทางสู้ไม่ได้ถึงต้องคอยยื่นมือมาช่วยยังไงล่ะ!" จงแดตะโกนใส่หน้าจุนมยอนอย่างเหลืออด ผู้ชายคนนี้มันไม่มีหัวใจจริงๆ
"หึ ในเมื่อฉันไม่ให้ไปก็คือไม่ให้ไป! ไหนๆก็ไหนๆล่ะเรามาลองดูกันสิว่านายจะหนีไปยังไง : ) " พูดจบจุนมยอนก็ผลักจงแดอย่างแรงจนร่างบางถึงกับล้มลงไปกองกับพื้น
จุนมยอนมองหน้าจงแดก่อนจะแสยะยิ้มเล็กน้อยแล้วหันหลังเดินออกไป...โดยไม่หันมามองจงแดอีกเลย
ปัง!!!!!
เสียงปิดประตูที่ไม่มีการออมแรงบ่งบอกถึงอารมณ์ของคนปิดได้เป็นอย่างดี จงแดเค้นยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะจมลงไปในคิดของตัวเอง
เอาสิ! ให้มันรู้ไปว่าเรื่องแค่นี้ คิม จงแด จะทำไม่ได้
"พรุ่งนี้ฉันต้องไปเยี่ยมพี่อี้ชิงให้ได้! คอยดูสิ คิม จุนมยอน"
.
.
.
"แล้วเราจะได้เห็นดีกัน! คิม จงแด!"
...TBC...
อ่านจบแล้วอย่าลืมเม้นนะค่ะ
ความคิดเห็น