คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Mistake 2
Mistake
2
วันนี้จงแดตื่นมาทำงานแต่เช้าตามปกติ ถึงแม้หน้าตาจะยิ้มแย้มให้กับผู้คนที่เดินผ่านแต่ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นก็คือ...ตอนนี้ในใจของจงแดมันช่างว้าวุ่นเหมือนคลื่นทะเลที่ไม่ยอมสงบ
ในเมื่อจุนมยอนบอกว่าจะไม่ไว้หน้าพี่อี้ชิงนั่นก็หมายถึงการตัดขาดมิตรภาพของทั้งสอง จงแดอดที่จะคิดไม่ได้ว่าที่มิตรภาพของทั้งสองต้องขาดสะบั้นลงนั้นเป็นเพราะตนคนเดียว ซึ่งความจริงแล้วมันก็คงเป็นเช่นนั้น
สองขาเรียวเล็กของจงแดยังคงก้าวเดินตามถนนสายเดิมไปเหมือนทุกวัน ถึงแม้จงแดจะพักอยู่หอเดียวกับแบคฮยอน ทำงานที่ร้านพี่อี้ชิงเหมือนกันแต่จงแดก็ไม่เคยที่จะเดินไปทำงานพร้อมกับแบคฮยอนเลย เจ้าตัวมักจะหลีกเลี่ยงการเดินกับแบคฮยอยทุกครั้งที่ทำได้ ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรือปิดกั้นตัวเองออกจากเพื่อนเพียงคนเดียว แต่ทั้งหมดที่จงแดทำก็เพียงเพราะอยากจะให้แบคฮยอนปลอดภัย
คิม จุนมยอนไม่เคยที่จะไม่ทำร้ายคนที่ยุ่งเกี่ยวกับจงแด
ซึ่งข้อนี้จงแดเองก็รู้ดีถึงได้หลีกเลี่ยงออกจากผู้คนที่เข้ามาทำความรู้จักและหวังจะมาสร้างมิตรภาพที่ดีด้วย ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคนทั้งนั้น อี้ชิงเป็นอีกคนที่เข้ามาสร้างมิตรภาพที่ดีด้วย ครั้งแรกจงแดปฏิเสธอี้ชิงทุกอย่างทั้งเรื่องที่ทำงานหรือแม้กระทั่ง...เรื่องของจุนมยอนที่อี้ชิงเคยบอกว่าจะลองคุยให้
แต่ถึงแม้จงแดจะปฏิเสธอี้ชิงสักกี่ครั้งอี้ชิงก็ยังคงไม่เลิกตื้อเสียที จนเป็นจงแดเองนั่นแหละที่ใจอ่อนยอมรับการช่วยเหลือจากอี้ชิง จนถึงปัจจุบันที่จงแดยังคงทำงานอยู่ร้านของอี้ชิง ซึ่งเหตุผลที่จงแดยอมรับงานนี้ก็เพราะอี้ชิงบอกว่าเจ้าตัวเป็นเพื่อนของจุนมยอนและจงแดก็คิดตื้นๆแค่ว่าจุนมยอนคงไม่ทำร้ายเพื่อนของตัวเองเป็นแน่ แต่จงแดคงลืมคิดไปถึงความจริงอีกอย่างที่ว่า...จุนมยอนเป็นคนไม่มีหัวใจ เขาทำได้ทุกอย่างขอเพียงแค่ได้สิ่งที่ต้องการ และสิ่งที่จุนมยอนต้องการก็คือ...คิมจงแด
ไม่รู้ว่าตัวเองเหม่อลอยขนาดนี้ได้ยังไงเพราะพอรู้ตัวอีกทีจงแดก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้านของอี้ชิงเสียแล้ว เพราะว่ามันยังเช้าอยู่ร้านเลยยังเงียบเพราะพนักงานบางคนก็คงยังไม่มาถึง จงแดผลักประตูเปิดเข้าไป ภายในร้านยังคงอบอุ่นเหมือนบ้านหลังที่สองของจงแดเหมือนเดิม แต่ทำไมความรู้สึกของจงแดถึงได้บอกว่า...มันจะต้องมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม
จงแดสะบัดหัวไล่ความคิดประหลาดๆออกไปจากหัว เขาควรทำตัวให้สดใสร่าเริงไม่ใช่มายืนทำหน้าเศร้าเหงาหงอยแบบนี้ถ้าพี่อี้ชิงมาเห็นคงไม่สบายใจเป็นแน่ มุมปากที่ยกสูงเหมือนลูกแมวแย้มยิ้มออกมากลบเกลื่อนความเศร้าหมองในใจ ก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุดที่หลังร้านเพื่อเตรียมทำงานเช่นทุกวัน
ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด...เราเพียงแค่ต้องรับมือกับมันให้ได้เท่านั้น
วันนี้ทั้งวันจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเที่ยงเหตุการณ์เดิมๆซ้ำๆยังคงเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะอี้ชิงฝีมือการชงกาแฟตกหรือเพราะไม่มีสมาธิกันแน่ เพราะวันนี้แทบทั้งวันลูกค้ามักจะโวยวายเรื่องรสชาติของกาแฟที่แทบจะเรียกได้ว่าห่วยแตกเข้าขั้นของอี้ชิง จงแดก็สงสัยเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ แต่อี้ชิงที่เห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะเสียลูกค้าไปมากกว่านี้จึงทำการปิดร้าน และเช็คดูส่วนผสมต่างๆที่เพิ่งทราบว่ามันปะปนกันจนมั่วไปหมด ผงนมสดผสมกับคาปูชิโน่ ลาเต้ผสมกับโกโก้ หรือแม้กระทั่งน้ำตาลที่พอลองแตะชิมดูถึงได้รู้ว่ามันมีเกลือผสมอยู่ด้วย
อี้ชิงกับจงแดสบตากันเพียงแวบ เขาสองคนรู้ดีว่าเรื่องบ้าบอพวกนี้เป็นฝีมือของใคร
คิม จุนมยอนนายทำการเร็วกว่าที่คิดไว้เสียอีกนะ
กรุ๊งกริ๊ง~
เสียงกระดิ่งที่ห้อยไว้เป็นสัญญาณแจ้งเตือนว่ามีคนเปิดประตูเข้ามาในร้าน เพราะว่าอี้ชิงสั่งให้พนักงานของร้านทุกคนเลิกงานกลับบ้านก่อนเวลาเพื่อที่อี้ชิงจะได้ตรวจสอบหาที่มาของรสชาติกาแฟอันพิสดาร แต่จงแดเลือกที่จะช่วยตรวจสอบหาข้อเท็จจริงนั้นด้วยจึงกลายเป็นว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันในร้านเพียงสองคน
แล้วใครกันล่ะที่มาใหม่...พนักงานที่ร้านลืมของหรือ? ก็ไม่น่าใช่ เพราะว่าทุกคนไม่ได้เอาของสำคัญมาถ้าลืมจริงพรุ่งนี้ค่อยมาเอาก็น่าจะได้
หรือจะเป็นลูกค้า? นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เพราะป้ายที่หน้าร้านถูกเปลี่ยนเป็นคำว่า close แล้วเรียบร้อย
แล้วใครกันที่มาเอาป่านนี้?
"เดี๋ยวผมไปดูเองฮะ"
จงแดเอ่ยกับอี้ชิงก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้ที่ใช้นั่งอยู่กับอี้ชิงที่หลังร้าน
"อืม ระวังตัวด้วยนะพี่รู้สึกไม่ค่อยดีเอาเสียเลย" อี้ชิงเอ่ยอย่างเป็นห่วง
"ครับ ผมจะระวัง"
จงแดเดินออกมาจากหลังร้านมาที่หน้าร้าน ลุ่มชายชุดดำสามคนกำลังยืนมองมาที่เขา จงแดตกใจถอยหลังกรูดแต่ก็ต้องชะงักเพราะแผ่นหลังไปชนเข้ากับอกแกร่งของใครสักคน จงแดค่อยๆหันหน้ากลับมามองก็เป็นอันต้องเบิกตากว้างเมื่อเจอเข้ากับคนที่ตัวเองนั้นเกลียดเสียยิ่งกว่าอะไร...คิม จุนมยอน
"นะ นายมาได้ไง" จงแดเอ่ยถามเสียงสั่น
"ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะมาจัดชุดใหญ่ให้กับเพื่อนสุดที่รัก จาง อี้ชิง"
จุนมยอนเดินเข้ามาใกล้จงแดที่เอาแต่ถอยร่นหนีตนอย่างหวาดกลัว ดวงตาสั่นระริกนั้นกลับดูแข็งกร้าวจนน่าแปลกใจ
"นายจะทำอะไรพี่อี้ชิง"
"แล้วนายคิดว่าฉันควรจะทำอย่างไรกับพวกแมวขโมยดีล่ะ : ) "
"ยะ อย่าทำอะไรพี่อี้ชิงนะ! พี่อี้ชิงเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยสักนิด"
"หึ! มันนั่นแหละตัวดีเลย"
จุนมยอนพูดกับจงแดเพียงเท่านั้นก่อนจะหันไปพยักหน้าเหมือนจะสั่งอะไรสักอย่างให้กับลูกน้องซึ่งจงแดก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจุนมยอนจะสั่งให้ลูกน้องพวกนั้นทำอะไร
ผู้ชายที่จงแดเห็นในตอนแรกเดินเข้าไปที่หลังร้านซึ่งมีอี้ชิงที่ยังอยู่ในนั้น พวกมันเข้าไปกันเพียงสองคนส่วนอีกคนยังคงยืนอยู่ด้านหลังของจงแด
"จะทำอะไรน่ะ อย่ายุ่งกับพี่อี้ชิงนะ!"
"ห่วงมันมากนักรึไงฮะ! คิม จงแด!"
จุนมยอนตรงเข้าไปประชิดตัวจงแด มือขาวบีบเข้าที่แก้มของจงแดแน่นจนมันแดงเถือก จงแดพยายามแกะมือของจุนมยอนออกแต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งที่ขนาดตัวก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่แต่ทำไมจงแดถึงสู้แรงของจุนมยอนไม่ได้เลย...
"พวกแกจะทำอะไรน่ะ ห้ามยุ่งกับจงแดเด็ดขาดนะ!"
จุนมยอนหันไปมองเสียงนุ่มทุ้มของผู้มาใหม่ แต่มือก็ยังคงอยู่ที่แก้มของจงแดเหมือนเดิม จงแดที่ไม่ต้องหันไปมองให้เสียเวลาก็เห็นทันทีว่าผู้มาใหม่เป็นใครเพราะเจ้าตัวหันหน้าไปทางนั้นพอดี ร่างของอี้ชิงที่โดนหิ้วปีกออกมา มุมปากมีเลือดออกเล็กน้อย จงแดแอบเห็นว่าที่หางคิ้วของอี้ชิงนั้นก็มีเลือดออกมาจากแผลที่ปริแตกเล็กน้อย
จุนมยอนหัวเราะในลำคอมือขาวละจากแก้มใสของจงแดที่บัดนี้คงเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะแรงบีบของจุนมยอนมาโอบที่เอวบางก่อนจะดึงจงแดเข้าไปชิดตัว จงแดดิ้นขลุกขลักๆอยู่แบบนั้นแต่ก็ไม่มีแม้วี่แววว่าจะหลุด
"มาแล้วเหรอครับเพื่อนรัก : ) " จุนมยอนเอ่ยกับอี้ชิงอย่างกวนประสาท
"แกทำขนาดนี้ยังจะกล้าเรียกฉันว่าเพื่อนอีกเหรอ หึ! ไอ้งั่งอย่างแกไม่ใช่เพื่อนฉันหรอก"
"ปากดีนักนะครับเพื่อนรัก ไหนมาดูสิว่าถ้าสิ่งที่นายทุ่มเทให้กับมันนักหนาถ้าเกิดมันพังไปต่อหน้าต่อตานายจะยังปากดีอยู่อีกรึเปล่า"
"แกจะทำอะไร!"
"เดี๋ยวก็รู้ : ) "
จุนมยอนหันไปพยักหน้าให้กับลูกน้องอีกคนที่ยังคงยืนอยู่ข้างหลัง ชายร่างยักษ์ก้มหน้าน้อมรับคำสั่งก่อนจะเดินไปยังโต๊ะนั่งดื่มกาแฟที่อยู่ใกล้ที่สุด
พลัก!
เพล้ง!!
เสียงแตกของกระจกดังขึ้นจนจงแดตกใจ ภาพของชายร่างยักษ์กำลังพังโต๊ะนั่งและของตกแต่งภายในร้านกาแฟเล็กๆของอี้ชิงยิ่งตอกย้ำความผิดที่มันเกาะกินในใจของจงแดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จงแดนายมันเป็นตัวซวย! นอกจากจะเป็นต้นเหตุทำให้คนที่มีพระคุณต้องเจ็บตัวแล้วยังจะเป็นต้นเหตุทำให้ร้านที่เป็นเหมือนดั่งทั้งชีวิตของอี้ชิงพังทะลายลงในพริบตาอีก
"หยุดนะ! สั่งให้ลูกน้องของนายหยุดเดี๋ยวนี้นะจุนมยอน!" จงแดหันไปสั่งจุนมยอนแต่หมอนั่นกลับไม่สนใจเลยสักนิด
"เอาเลยสิจุนมยอน แกอยากจะทำอะไรก็ทำเลย แต่ฉันขอแค่ให้แกปล่อยจงแดไป"
อี้ชิงที่ยังคงโดนล็อคตัวไว้ตะโกนแข็งกับเสียงของที่ตกแตกไม่หยุด จงแดยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีกเมื่อเห็นว่าในดวงตาของอี้ชิงนั้นมันมีแต่ความเจ็บปวดที่เห็นร้านที่เป็นเหมือนทุกอย่างของชีวิตพังไปต่อหน้าต่อตา แต่ถึงอย่างนั้นอี้ชิงก็ยังคงจะเป็นห่วงเขา เป็นห่วงตัวต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตของอี้ชิงเจอแต่เรื่องเลวร้าย
"เป็นห่วงกันเสียจริงนะครับ ได้ฉันจะทำให้แกเห็นว่าคนที่บังอาจมายุ่งกับจงแดของฉันมันต้องเจอกับอะไร"
จุนมยอนพยักหน้าไปทางชายร่างยักษ์อีกคนที่ยังคงล็อคตัวอี้ชิงไว้อย่างแน่นหนา ชายคนนั้นพยักหน้ารับแล้วจึงเหวี่ยงตัวของอี้ชิงไปชนกับผนัง
ตุบ!!
"ไม่นะ! อย่าทำอะไรพี่อี้ชิงนะ"
จงแดพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของจุนมยอน แต่มันก็ยากยิ่งนักเพราะจุนมยอนนั้นแรงเยอะกว่าจงแดอยู่มากโข
ตุบ!!
อั๊ค!!!
"ไม่นะ! พอแล้ว หยุดได้แล้ว! ฮึก ผมยอมแล้ว ยอมทุกอย่างอย่าทำอะไรพี่อี้ชิงเลย"
จงแดร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง เขาไม่คิดว่าจุนมยอนจะยอมหยุดทุกอย่างง่ายๆหากเขายังไม่ยอมทำตามที่เจ้าตัวต้องการ
"หึ พอก่อน!"
จุนมยอนเอ่ยเพียงสั้นๆลูกน้องทั้งสามคนก็หยุดการกระทำทุกอย่างลง ทั้งคนที่กำลังจะลงเท้าใส่อี้ชิงอีกครั้งก็ชะงักค้าง ส่วนพวกที่พังร้านจนเละเทะก็ชะงักเช่นกัน ทั้งสามคนละจากสิ่งที่ทำค้างอยู่แล้ววิ่งมาต่อแถวหน้ากระดานตรงหน้าจุนมยอน จงแดไม่รอช้ารีบสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของจุนมยอนทันที ซึ่งคราวนี้มันก็หลุดออกมาอย่างง่ายดาย
จงแดวิ่งเข้าไปหาร่างของอี้ชิงที่นอนอยู่บนพื้น ยิ่งได้เห็นสภาพของอี้ชิงใกล้ๆจงแดก็ยิ่งนึกอยากจะฆ่าตัวเองให้ตายไปเสีย เลือดที่เลอะไปทั่วตัวของอี้ชิงมันเต็มไปหมดจนจงแดแทบดูไม่ออกว่ามันไหลออกมาจากที่ไหนบ้าง มือบางช้อนเอาศีรษะของอี้ชิงขึ้นมาวางไว้ที่ตักอย่าแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะทำให้อี้ชิงเจ็บยิ่งกว่าเดิม แต่ถึงจะเบาแรงแค่ไหนจงแดก็ยังคงได้ยินเสียงครางต่ำเบาๆที่บ่งบอกถึงความเจ็บของอี้ชิงได้อย่างชัดเจน
"ฮึก พี่ชิงผมขอโทษเพราะผมแท้ๆพี่ถึงต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ ฮึก ผมขอโทษ"
จงแดร่ำไห้ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่คิดที่จะเช็ดออกไปแม้แต่น้อย มือบางที่สั่นเทาลูบเบาๆบนใบหน้าของอี้ชิงอย่างกลัวว่าอีกคนจะเจ็บ อี้ชิงฝืนยิ้มให้จงแดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่ฟังแล้วเสียงมันช่างแผ่วเบาผิดไปจากเดิมยิ่งนัก
"อย่าโทษตัวเองเลย...เด็กดี พะ พี่ไม่เป็นไรมากหรอก"
"ฮึก พี่ชิง..."
"สั่งลากันพอรึยัง ไปได้แล้วจงแด"
เป็นจุนมยอนที่ทนดูภาพของทั้งสองคนไม่ไหวจนต้องเอ่ยขัด จงแดที่ได้ยินอย่างนั้นถึงแม้จะไม่พอใจแค่ไหนแต่ก็ต้องวางอี้ชิงลงเพราะกลัวว่าจุนมยอนจะให้คนมาทำร้ายอี้ชิงซ้ำอีกหากตนทำอะไรให้เจ้าตัวไม่พอใจแม้เพียงน้อยนิด
"ไม่ ไม่จงแดอย่าไป อึก กับมันนะ"
อี้ชิงพยายามยกมือขึ้นมาจับมือของจงแดไว้ แต่จงแดก็ยืนขึ้นแล้วค่อยๆเดินไปหาจุนมยอนที่ยืนทำหน้าทมึงทึงรออยู่
"จงแด...อย่าไปกับ...มัน"
"ฮึก ผมขออะไรคุณอีกสักอย่างได้ไหม?"
จงแดที่เดินมาหาจุนมยอนแล้วก็โดนคนใจร้ายดึงเข้าไปสู่อ้อมแขนแกร่ง จงแดเอ่ยออกมาเสียงเบาขอร้องให้อีกคนช่วยทำตามสิ่งที่ตนต้องการอีกสักอย่าง
"ได้สิ ถ้ามันเป็นความต้องการของนาย" จุนมยอนเอ่ยปากตกลงอย่างอารมณ์ที่เริ่มจะดีขึ้นกว่าเมื่อกี้เล็กน้อย
"ช่วยพาพี่อี้ชิงส่งโรงพยาบาลด้วยนะครับ"
จุนมยอนทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักพักจนจงแดต้องเอ่ยข้อเสนอให้อีกคน
"แล้วผมจะทำทุกอย่างตามที่คุณต้องการ"
จุนมยอนยิ้มร่าก่อนจะพยักหน้าตกลง สีหน้าที่บ่งบอกถึงความสุขอันเปี่ยมล้นบนความทุกข์ของคนอื่นมันยิ่งทำให้จงแดรังเกียจจุนมยอนมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น
"พวกแกพามันไปหาหมอด้วย ห้ามให้มันตายเด็ดขาด ถ้ามันตายพวกแกก็ต้องตายด้วย เข้าใจไหม?!"
"เข้าใจแล้วครับนายท่าน"
"หึ ดีมาก : ) "
จงแดถูกพาตัวมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่คงไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นของจุนมยอน หลังจากที่รถจอดสนิทดีแล้วก็มีคนมาเปิดประตูรถให้จุนมยอนไม่รอช้าที่จะลากจงแดที่นั่งอยู่ใกล้ๆให้ลงมาด้วย จงแดเลิกที่จะขัดขืนแล้วยอมทำตามทุกอย่างที่จุนมยอนต้องการ ถ้าหากยังดื้อรั้นและขัดขืนจงแดก็ไม่รู้ว่าจะต้องมีอีกสักกี่คนที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะเขาเพียงคนเดียว เพราะฉะนั้นแค่ยอมๆไปก่อนก็น่าจะโอเคกว่า
"ไปจัดการหาเสื้อผ้ามาให้คุณจงแดซะ ต่อไปนี้คุณจงแดจะเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะ..." จุนมยอนเว้นไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะหันมายกยิ้มมุมปากให้เขา
"ไปกันเถอะจงแด พี่จะพาขึ้นไปดูห้อง ของเรา" จุนมยอนเอ่ยเน้นในคำว่า ของเรา ให้จงแดได้กระจ่างแจ้งทันทีว่าตนนั้นต้องได้นอนห้องเดียวกับจุนมยอนอย่างไม่ต้องสงสัย จงแดที่ไม่อยากนอนร่วมห้องกับจุนมยอนขืนแรงไว้เล็กน้อยจนจุนมยอนต้องหันมามองด้วยความไม่พอใจ
"เอ่อ ผมขอนอนคนเดียวได้ไหม ที่ห้องคนใช้หรือห้องเก็บของก็ได้" จงแดเอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆ บัดนี้จงแดสิ้นฤทธิ์แล้วราบคาบ
"นี่นายรังเกียจพี่ขนาดนั้นเลยเหรอจงแด"
"เอ่อ เปล่าผมแค่...เกรงใจ" จงแดพูดปดไปแล้วสิ แต่จะให้บอกได้ไงว่าตนน่ะรังเกียจที่จะนอนห้องเดียวกับจุนมยอนแค่ไหน
"นายไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้นเพราะนี่คือคำสั่งของพี่ และนาย...ต้องทำตาม"
มารู้แน่ชัดกับตัวก็วันนี้ว่าจุนมยอนนั้นเอาแต่ใจและเผด็จการขนาดไหน! เพราะพอหลังจากที่เอ่ยประโยคนั้นจบจุนมยอนก็จัดการลากเขาให้ขึ้นบันไดตามตนไปอย่างไม่ถามความเต็มใจเลยสักนิด
ห้องนอนของจุนมยอนนั้นใหญ่โตเสียจนให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในพระราชวังแห่งใดแห่งหนึ่ง เฟอนิเจอร์ทุกอย่างก็ดูจะหรูหราเสียจนจงแดไม่กล้าที่จะแตะต้อง
"ไปอาบน้ำซะเดี๋ยวพี่จะให้คนเอาเสื้อผ้ามาให้ แล้วจะได้ลงไปทานข้าวกัน" แม้ประโยคที่เอ่ยออกมาจะค่อนไปทางบังคับแต่จงแดกลับรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนในน้ำเสียงนั้นอย่างน่าประหลาด
"ขาดเหลืออะไรก็บอกกับคนใช้แล้วกันนะครับ พี่ขอไปเครียร์งานเสียหน่อย" จุนมยอนพูดแล้วเอามือมาลูบหัวจงแดเบาๆ ฝ่ามืออบอุ่นนั้นเรียกให้หัวใจของจงแดกระตุกอย่างน่าตกใจ ไหนจะรอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนนั้นอีก...ตกลงจุนมยอนเป็นคนแบบไหนกันแน่ จะดีหรือจะร้าย
@ ห้องทำงานของจุนมยอน
ร่างโปร่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ ถึงเขาจะไม่ได้ยิ้มให้ผู้อยู่ตรงหน้าในตอนนี้แบบที่ยิ้มให้จงแดแต่ท่าทางอารมณ์ดีเกินเหตุของจุนมยอนก็ทำให้ลูกน้องผู้จงรักภัคดีรู้สึกดีไปด้วย...นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เห็นจุนมยอนเป็นแบบนี้ คงตั้งแต่ตอนอายุ 13 ที่เจ้าตัวต้องเสียพ่อและแม่ไปต่อหน้าต่อตา ด้วยน้ำมือของพ่อ...จงแด สินะ
"วันนี้ดูนายท่านอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะครับ" ลูกน้องแสนจะใจกล้าถามเจ้านายหนุ่มอย่างยิ้มแย้ม
"ก็แน่สิ ในเมื่อฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการแล้วนิ" สิ่งที่เจ้าตัวต้องการก็คงจะเป็นอะไรอื่นไม่ได้นอกเสียจาก คิม จงแด
"นายท่านจะทำแบบนี้จริงๆหรือครับ คุณจงแดไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้แม้แต่น้อยเลยนะครับ " เป็นลูกน้องคนเดิมที่เอ่ยถาม
"นั่นมันก็เรื่องของเขา ฉันหน่ะมีหน้าที่แค่แก้แค้นเท่านั้นแหละ แล้วอี้ชิงน่ะมันตายรึยัง"
"ฉันยังไม่ตายง่ายๆหรอกน่า แต่ลูกน้องแกเล่นหนักเป็นบ้านี่ถ้าฉันตายจริงๆขึ้นมาจะทำไง"
ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในห้องทำงานของจุนมยอนอีกคน ชายคนนั้นที่จงแดไว้ใจที่สุด...จาง อี้ชิง
น่าแปลกที่ตามตัวของอี้ชิงไม่ได้มีแผลเยอะพอที่ควรจะเป็น...แล้วจะให้มันเยอะแยะอะไรนักหนาล่ะในเมื่อมันเป็นแค่การแสดง : )
"หึ ตายยากจังนะไอ้เพื่อนรัก : )"
"ถ้าฉันตายเร็วแล้วใครจะช่วยแกแก้แค้นกันล่ะ"
"นั่นสินะ : ) "
ทั้งสองคนยิ้มให้กันอย่างคนที่ได้รับชัยชนะ อีกไม่นานหรอกจงแด อีกไม่นานทุกอย่างก็จะจบ นายก็อย่าดื้อจนต้องเสียแผนแล้วกัน ไม่งั้นนายนั่นแหละจะยิ่งเจ็บปวดกว่าเดิม : )
"แล้วเรื่องไอ้แบคฮยอนจัดการไปถึงไหนแล้ว"
จุนมยอนเอ่ยถามกับลูกน้องที่ตนได้มอบหมายงานให้ตั้งแต่เมื่อวาน
"ตอนนี้พวกเรากำลังจับตาดูอยู่ครับ ถ้านายท่านต้องการตัวเมื่อไหร่พวกเราก็พร้อมเข้าจัดการทันทีครับ"
"นี่แกยังจะไปยุ่งกับแบคฮยอนอีกเหรอ หมอนั่นไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยนะ" อี้ชิงถามอย่างข้องใจ ก็ในเมื่อแบคฮยอนไม่ได้มีตัวตนในเกมนี้แล้วทำไมยังต้องให้คนคอยติดตามตัวไว้
"ก็เพราะว่าหมอนั่นมายุ่งกับคนของฉันมากเกินไปน่ะสิ : ) " จุนมยอนตอบอย่างไม่ยี่หระ
"นายคงไม่ได้หมายถึง..."
"ใช่ ฉันหมายถึงจงแด หมอนั่นเป็นคนของฉันใครหน้าไหนก็ห้ามยุ่ง เด็ดขาด!"
ทั้งที่เข้าหาเพราะเพียงอยากจะแก้แค้นให้ครอบครัว...แต่ก็ไม่รู้ทำไมต้องไม่พอใจเวลาใครมายุ่งกับจงแด...จุนมยอนเองก็หาคำตอบให้กับคำถามนี้ไม่ได้เช่นกัน
TBC
อ่านจบแล้วอย่าลืมเม้นนะค่ะ
ความคิดเห็น