ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Pretty Boy [ALLCHEN]

    ลำดับตอนที่ #27 : SF Sehun X Chen Bad Guy V END

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 59


     

    SEHUN X CHEN

    Bad Guy V

     

             

              วันต่อมา

                ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าจนเกือบจะเรียกว่าสายของอีกวันหลังจากที่เมื่อวานผมฟื้นในตอนค่ำๆ แล้วพบกับเรื่องที่ทำให้ผมแปลกใจนิดหน่อยหรืออาจจะแปลกใจมากเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อวานนี้เซฮุนอยู่กับผมตลอดจนผมหลับไปเขาคอยดูแลผมตลอดเหมือนกับว่าเซฮุนคนเดินกลับมาแล้ว แต่ผมก็ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองให้มากเขาอาจจะแค่รู้สึกผิดที่เป็นคนทำให้ผมเจ็บก็ได้ เลยเอาแต่พูดขอโทษซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น...

                แต่ที่น่าแปลกคือเมื่อวานผมไม่เห็นจงอินเลย... ทั้งๆ ที่ปกติแค่ผมเป็นหวัดจงอินก็คอยดูแลอย่างกะผมป่วยมาเป็นชาติขนาดว่ายอมโดดซ้อมเต้นมาอยู่กับผมทั้งวันไล่ขนาดไหนยังไม่ยอมไปเลย ผมได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะมีธุระสำคัญจริงๆ แล้วก็ได้แต่หวังว่าคงจะไม่ได้มีเรื่องอะไร แบคฮยอนเพื่อนผมเมื่อวานนี้ก็ดูซึมๆ ไม่ค่อยพูดเอาแต่นั่งก้มหน้าจนชานยอลต้องขอพากลับไปพัก

                ทุกคนดูแปลกไปจนผมเริ่มจะสงสัยแล้วว่าเมื่อตอนที่ผมสลบไปมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า แล้วทำไมทุกคนต้องทำเหมือนปิดบังอะไรผมอยู่สักอย่าง

                “อ้าว ตื่นแล้วหรอครับจงแดฮยองหิวไหมครับผมลงไปซื้อซุปมาให้กำลังร้อนๆ เลยเดี๋ยวทานซะหน่อยนะครับจะได้ทานยาต่อ” เป็นเซฮุนที่เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับในมือที่ชูถุงซุปร้อนๆ ขึ้นมาโชว์ให้ผมดู

                ผมยิ้มรับเขาเลยส่งยิ้มตอบกลับมาแล้วเดินเข้ามาจัดจานเตรียมอาหารเช้าที่เกือบสายๆ ให้กับผม ใบหน้าของเขายังคงเปื้อนยิ้มเหมือนเมื่อวานแต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าในรอยยิ้มสดใสนั้นมันมีความเศร้าหรืออะไรสักอย่างซ่อนอยู่

                “เซฮุน...”

                “ครับ ฮยองอยากได้อะไรบอกผมได้เลยนะครับ” แม้แต่เสียงขานรับของเขามันยังสดใสเลย เหมือนเขาทำเพื่อปกปิดอะไรบ้างอย่างจริงๆ นะ

                “เมื่อวาน...มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า”

                “...”

                ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมที่คิดว่าเห็นเซฮุนชะงักไปตอนผมถามคำถามนั้น แสดงว่าเมื่อวานตอนที่ผมสลบไปมันจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ และมันก็คงจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงพอสมควร

                “...ผมว่าฮยองทานซุปซะหน่อยนะครับจะได้สดชื่นขึ้น” ซุปร้อนๆ ถูกนำมาจ่อไว้ตรงหน้า ผมมองเซฮุนอย่างต้องการคำอธิบาย เซฮุนเองก็คงจะรู้ว่าไม่สามารถปิดบังอะไรผมได้เขาเพียงถอนหายใจก่อนจะเอาถ้วยซุปไปวางไว้ที่โต๊ะแล้วลากเก้าอี้มานั่งอยู่ข้างเตียงก่อนสองมือนั้นจะรวบมือผมไปกุมไว้

                “ผมรู้ว่าฮยองอึดอัดกับเวลานี้ แต่ว่าผมยังไม่สามารถพูดอะไรได้ในตอนนี้ฮยองต้องเข้าใจผมนะครับ”

                “...”

                “ขอเวลาอีกสักหน่อยผมสัญญาว่าผมจะดูแลฮยองไม่ไปไหน”

     

    - B A D G U Y –

     

                            หลังจากวันนั้นระหว่างผมกับเซฮุนก็เหมือนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เหมือนตอนที่เซฮุนยังไม่ได้ไปต่างประเทศ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือการที่คนสำคัญในชีวิตของผมสองคนหายไป แบคฮยอนหลังจากวันนั้นที่โรงพยาบาลผมก็ไม่เจอเขาเลยพอถามชานยอลหมอนั่นก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบบอกแค่ว่าเดี๋ยวก็รู้แล้วก็ไม่บอกอะไร และพอผมถามถึงจงอินก็ไม่มีใครตอบ ทั้งชานยอลทั้งเซฮุนพวกเขาเอาแต่บอกว่าให้ผมรอเวลาที่เหมาะสมแค่นั้น...

                แล้วเมื่อไหร่มันจะถึงเวลาที่ผมจะได้รู้ซักทีว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอีก

                “จงแดแบคฝากมาให้”

                “หืม? แบคฮยอนฝากมาให้เราหรอ” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเมื่อเพื่อนในคลาสซึ่งจำได้ว่าบ้านอยู่ใกล้กับแบคฮยอนแต่อยู่คนละกลุ่มกับพวกผมเอาจดหมายมาให้

                “อื้อ”

                “แล้วทำไมแบคฮยอนไม่เอามาให้เราเองล่ะ แล้วทำไมต้องเอาจดหมายมาให้หมอนั่นหายไปไหนเราไม่เห็นหมอนั่นมาจะอาทิตย์หนึ่งได้แล้วนะ”

                “เขาไปฝรั่งเศษน่ะ เห็นบอกว่าจะไปเรียนต่อที่นู่นแบคไม่ได้บอกจงแดหรอ” คยองซูเอียงคอถามผมกลับอย่างสงสัย เพราะปกติแล้วผมกับแบคฮยอนแล้วก็ชานยอลตัวติดกันจะตาย แต่นี่เพื่อนจะไปเรียนต่อต่างประเทศทั้งทีผมกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด

                “ไม่ได้บอกอ่ะ ติดต่อไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”

                “คงกำลังยุ่งเรื่องเดินทางหล่ะมั้ง” ผมพยักหน้าเข้าใจแม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกเห็นด้วยกับเหตุผลที่คยองซูยกมาก็เถอะ นี่มันเป็นการตั้งใจหลบหน้ากันชัดๆ!

                แล้วทำไมหมอนั่นต้องทำแบบนั้นกับผมกัน?

     

                ซอกจดหมายสีฟ้าอ่อนถูกเปิดออกทันทีเมื่อคยองซูเดินออกไป ตอนนี้ชานยอลเองก็กำลังเล่นบอลอยู่กับเพื่อนคนอื่นๆ มีแค่ผมที่นั่งรอหมอนั่นอยู่คนเดียว คงถึงเวลาที่ผมจะได้รู้ซะทีว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับผมอีก คราวนี้คงถึงเวลาจริงๆ แล้วล่ะ!

     

                ถึงจงแดเพื่อนรัก

    ฉันรู้สึกผิดทุกครั้งที่เรียกนายว่าเพื่อนรักตั้งแต่เกิดเรื่องบ้าๆ ที่ฉันทำอะไรโง่ๆ ลงไป ระหว่างนายกับเซฮุนมันเป็นเพราะฉันเองฉันเป็นคนโกหกเรื่องที่เซฮุนไปต่างประเทศเพราะไปหมั้นทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงในรูปนั้นเป็นญาติห่างๆกับเซฮุน และฉันยังทำชั่วด้วยการแกล้งส่งข้อความหาเซฮุนว่านายกับจงอินกำลังสมรู้ร่วมคิดกันหักหลังเขาด้วยการแอบคบกัน ฉันผิดเองจงแด...ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าเรื่องที่ฉันทำมันไม่สามารถให้อภัยได้ฉันถึงได้ไม่กล้าแม้แต่จะไปเจอนาย เหตุผลทั้งหมดที่ฉันทำเรื่องนั้นมันก็เป็นเพราะฉันเห็นแก่ตัวเองที่อยากให้จงอินคนที่ฉันรักได้สมหวังกับนาย เพียงแค่ไม่อยากเห็นเขาเสียใจฉันถึงได้ทำเรื่องเลวร้ายพวกนั้นไป

    และกว่านายจะได้อ่านจดหมายฉบับนี้ฉันก็คงอยู่ที่ฝรั่งเศสแล้ว ฉันขี้ขลาดจนไม่กล้าไปขอโทษนายต่อหน้าได้แต่ส่งจดหมายมาขอโทษอย่างคนขี้ขลาด ฉันขอเวลาอีกสักหน่อยถ้าหากว่าฉันรวบรวมความกล้าได้แล้วฉันจะไปขอโทษนายด้วยตัวฉันเอง สุดท้ายนี้ฉันไม่ขอให้นายอภัยให้แต่ฉันแค่อยากจะให้นายได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับเซฮุนเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็น ฉันรักนายเพื่อน

     

    นี่มัน...เรื่องอะไรกัน?

    ล้อกันเล่นใช่ไหม? แบคฮยอนชอบจงอินอย่างนั้นหรอ แล้วที่ผ่านมาระหว่างผมกับเซฮุนมันคือความเข้าใจผิดสินะ และที่จงอินหายไปก็เพราะเหตุผลนี้ด้วยรึเปล่า...

    เซฮุนเองก็รู้เรื่องนี้แล้วงั้นเหรอ? มิน่าล่ะเขาถึงได้เอาแต่ขอโทษแถมยังกลับมาทำดีกับผมเหมือนเดิม เรื่องทุกอย่าง...มันเป็นแบบนี้เองสินะ

    ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สองขาของผมมันออกวิ่งไปตามทางที่มันจะพาผมไปเจอกับเซฮุน สิ่งที่รู้อยู่ตอนนี้ก็คือผมควบคุมสองขานี้ให้วิ่งช้าลงไม่ได้เลย...

     

    - B A D G U Y –

     

     

                “เซฮุนนา!!!” ไม่รู้ว่าเกิดบ้าดีเดือดมาจากไหนผมถึงได้กล้าตะโกนเรียกเซฮุนที่กำลังเล่นบาสกันอยู่กับเพื่อนที่มากกว่าสิบคน! แล้วนี่คือวิ่งจากสนามบอลมาสนามบาสของคณะเจ้าเด็กนี่มันไม่ใช่ใกล้ๆ เลยนะนั่น แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้วล่ะครับ เมื่อเห็นว่าเซฮุนอยู่ตรงไหนผมก็วิ่งเข้าไปหาเขาทันที

                “อ้าว จงแดฮยองมา เอ๋?”

                “ขอโทษ...ฮยองขอโทษ” ผมอาจจะเป็นบ้าไปแล้วก็ได้เพราะไม่รู้ว่าผมไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้มากระโดดกอดเซฮุนกลางสนามบาสขนาดนี้ ทุกอย่างรอบตัวเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะเป็นเสียงของเซฮุนที่ดังขึ้นข้างหูผมพร้อมกับมือนั้นที่ลูบหัวผมเหมือนปลอบโยน

                “รู้เรื่องแล้วงั้นเหรอครับ”

                “ฮึก ขอโทษ”ผมไม่สามารถเอ่ยคำไหนได้เลยนอกจากคำว่าขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเองด้วยที่ไม่เชื่อใจเซฮุนให้มากกว่านี้ และผมผิดเองที่ไม่ได้ถามเขาก่อนว่าความจริงมันคืออะไร ตัดสินเขาแค่สิ่งที่ตัวเองเห็นเอาแต่เชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอกโดยไม่ได้ถามเขาด้วยซ้ำว่าความจริงมันคืออะไร

                “ฮยองไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมต่างหากที่จะต้องเป็นคนขอโทษ ผมขอโทษนะครับที่วู่วามใช้แต่อารมณ์ ไม่ได้ถามฮยองซะก่อนว่าความจริงคืออะไร ผมผิดเองที่ไม่ไว้ใจฮยองผมขอโทษนะครับ”

                “ไม่ฮยองต่างหากที่ต้องขอโทษนาย”

                “เอ่อ...จะขอโทษกันอีกนานไหมครับ ถ้านานพวกผมจะได้ไปเล่นที่อื่นต่อ” น้ำเสียงกวนๆ มาพร้อมกับใบหน้าทะเล้นที่แทรกเข้ามาตรงกลางตอนที่ผมกับเซฮุนผละออกจากกัน เป็นเจ้าเด็กโย่งเซโล่เพื่อนสนิทอีกคนของเซฮุนนั่นเอง

                “ขะ ขอโทษ ฮยองไม่ได้ตั้งใจ” ผมว่าพลางก้มหน้าอย่างอายๆ ให้ตายเหอะตอนจะทำล่ะไม่คิด พอมีสติแอบเหลือบมองรอบๆ ถึงได้รู้ว่าตัวเองคิดผิดแค่ไหนที่เลือกจะมาขอโทษเซฮุนเอาวันนี้และตอนนี้ สายตาจากทั่วทิศกำลังมองมายังผมสองคนพร้อมกับรอยยิ้มล้อเลียนจนผมต้องรีบหันหลังเตรียมจะเดินหนีออกมา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีมือมาคว้าแขนผมไว้

                “จะทิ้งให้ผมโดนล้อคนเดียวอย่างนั้นหรอครับ?”

                “ถ้าไม่อยากโดนล้อก็ตามมาสิ >//<

                ถึงแม้จะเป็นผมที่ออกปากชวนให้เขาตามมาแต่เอาเข้าจริงคนที่พาผมวิ่งหนีออกมากลับเป็นเซฮุนเองต่างหาก เสียงล้อดังขึ้นอยู่ข้างหลังอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีแต่ก็อดจะยอมรับไม่ได้ว่านี่เป็นเวลาแห่งความสุขของผมจริงๆ หลังจากที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนี้มาเป็นเวลานาน

                ผมสัญญากับตัวเองไว้เลยว่าต่อแต่นี้ไปผมจะรักษาคนที่เป็นความสุขของผมไว้ให้ดีที่สุด และผมจะเชื่อใจใช้เหตุผลกับความรักครั้งนี้ให้มากที่สุด จะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

     

                Special

                “เซฮุนจดหมายอะไรหรอ” ผมถามเซฮุนที่นั่งจิบกาแฟพลางอ่านจดหมายในมือด้วยใบหน้าที่ดูงงงวย

                อ้อ ตอนนี้ผมกับเซฮุนเราแต่งงานกันแล้วครับ แต่เป็นการแต่งงานแบบเงียบๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรมีเพียงคนในครอบครัวแล้วก็เพื่อนสนิทของผมทั้งสองคนเท่านั้นที่ไปเป็นพยานรักให้ แต่น่าเสียดายที่แบคฮยอนกับจงอินไม่ยอมมาด้วย แต่ผมก็เข้าใจนะว่าพวกเขาคงยังทำใจกับเรื่องนั้นไม่ได้

                หลังจากที่แต่งงานกันไม่นานเซฮุนก็ขึ้นเป็นผู้บริหารแทนคุณพ่อของเขาที่ขอลามือจากการบริหารงานอันเหนื่อยล้า ผมเองก็เป็นผู้ช่วยส่วนตัวให้เซฮุนเขาอีกที ชีวิตประจำวันของเราสองคนก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมนักเป็นไปในแนวเรียบง่ายซะมากกว่า แม้จะมีทะเลาะกันบ้างแต่พอเวลาผ่านไปเราก็มาปรับความเข้าใจกัน ผมว่าผมชอบการใช้ชีวิตแบบนี้นะ

                “ฮยองดูเองเถอะครับ”

                “หืม? จดหมายอะไรเนี่ย” ผมถอดผ้ากันเปื้อนเดินไปหยิบเอาจดหมายเจ้าปัญหานั้นมาอ่าน ก่อนจะต้องเอามือปิดปากอุทานออกมาด้วยความช็อก “ขอเชิญร่วมงานมงคลสมรส บยอน แบคฮยอน กับ คิม จงอิน!!!

                ผมหันหน้าเหวอๆ กลับไปมองเซฮุน รายนั้นก็พยักหน้าให้ผมด้วยใบหน้าที่บอกถึงความเหวออยู่ไม่น้อยไปกว่าผมเลย

                สองคนนั้น...ให้ตายเหอะ! นี่มันยิ่งกว่าฝันอีกเหอะ

                “จะยังไงก็เถอะ ผมว่าเราควรไปตัดชุดพิเศษสำหรับงานนี้นะครับ”

                “...”

                “และที่สำคัญ...” ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังก่อนที่แขนยาวจะโอบรอบเอวผมไว้กระชับแน่นๆ แล้วกระซิบประโยคที่ทำให้ผมเขินจนหน้าแดงด้วยน้ำเสียงที่ผมเคยบอกว่ามันเซ็กซี่ที่สุดของเขา

                “...เราควรรีบเร่งในการผลิตทายาทให้ได้ก่อนที่คู่นั้นจะแซงหน้าเราไปก่อนนะครับ J

     

    จบเหอะ


    ขอโทษที่ตอนจบไม่มีอะไรเลย T0T

                          
                                 
     
      CR.SQW
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×