ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC EXO Mistake {SUHO x CHEN}

    ลำดับตอนที่ #12 : :: Special :: Promise Suho x ChenChen

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 58




    Promise 2

    SUHO x CHEN

     

     

    ถ้าหากว่าคำสัญญาทำให้เราผูกพันกันมากขึ้น...



     

     

     

    เหตุการณ์ที่เด็กชายตัวเล็กตกน้ำในสวนดอกไม้ที่คฤหาสน์ตระกูลคิมผ่านมาเกือบสัปดาห์ครอบครัวของซูโฮแสดงออกถึงความเสียใจเป็นอย่างมาก พวกเขาแวะเวียนไปเยี่ยมจงแดกับครอบครัวเกือบทุกวันเหตุผลอีกอย่างก็คงเพราะพ่อของจงแดและซูโฮเองก็เป็นเพื่อนสนิทกันด้วยล่ะมั้งเลยไม่เป็นเรื่องแปลกอะไรที่ทั้งสองครอบครัวจะผลัดกันไปเยี่ยมเยือนกันบ้าง

     

    คุณหนูทั้งสองตระกูลก็ดูจะเข้ากันได้ดีคนน้องก็ติดคนพี่แจเพราะว่าคนพี่นั้นคอยเอาอกเอาใจดี เรียกได้ว่าน้องอยากได้อะไรพี่ก็ให้หมดไม่มีอิดออด และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่สองครอบครัวมาอยู่กันพร้อมหน้าตามเดิม เด้กน้อยทั้งสองเลยปล่อยให้ผู้ใหญ่คุยกันไปส่วนทั้งสองก็ออกมานั่งเล่นกินขนมกันที่สวนสองคน

     

    พี่ซูโฮฮะ คุณพ่อของน้องจงแดบอกว่าพี่ซูโฮเรียนภาษาจีนด้วยเหรอฮะคนน้องเอ่ยถามทั้งที่ปากเล็กยังมีขนมอยู่เต็มปาก

     

    ใช่ครับ ทำไม จงแดอยากเรียนเหรอ

     

    คนน้องส่ายหน้าทันทีแสดงออกว่าไม่ได้อยากจะเรียนมันเลยภาษาจีนเนี่ย คนพี่เมื่อเห็นท่าทีของน้องก็หัวเราะเบาๆ ให้กับความน่ารักของน้อง มือเรียวของเด็กหนุ่มที่กำลังเติบโตเอื้อมไปยีผมนุ่มของเด็กตัวเล็กเบาๆ ด้วยความเอ็นดู

     

    อยากได้ชื่อเป็นภาษาจีนไหมล่ะเดี๋ยวพี่ตั้งให้

     

    จริงเหรอฮะ! พี่ตั้งชื่อจีนให้จงแดได้จริงๆ เหรอเด็กน้อยถามเสียงใสด้วยความตื่นเต้น

     

    แน่นอนสิ อืม....เอาชื่ออะไรดีน้า

     

    ในขณะที่คนพี่ทำท่าใช้ความคิดอยู่คนน้องก็จ้องรอชื่อใหม่อย่างใจจดใจจ่อ ดวงตาเฉี่ยวใสแจ๋วฉายแววตื่นเต้นออกมาอย่างปิดไม่มิด คนเป็นพี่มองไปรอบๆ ก่อนสายตาจะไปหยุดอยู่ที่เปลือกส้มที่น้องนั้นกินหมดไปนานแล้ว เขาจำท่าทางเวลาที่น้องกินส้มด้วยความอร่อยแล้วก็เหมือนว่าน้องจะชอบมันมากเสียด้วย ฮ่า! คิดออกแล้ว!!

     

    เฉิน... เฉินเฉิน! ดีไหม

     

    เฉินเฉิน เย้ๆ จงแดชอบๆ จงแดชอบชื่อเฉินเฉิน!”

     

    เสียงแหลมตะโกนเสียงดังลั่นแล้วลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ ซูโฮได้แต่หัวเราะเสียงดังไปกับน้องแล้วจึงปรามให้น้องเลิกกระโดดโลดเต้นได้แล้วเพราะกลัวว่าจะพลาดล้มมาบาดเจ็บอีก คนน้องก็ยอมเชื่อฟังพี่แต่โดยดี

     

    แล้วเฉินเฉินนี่มันแปลว่าอะไรเหรอฮะ

     

    ซูโฮแทบจะขำพรืดออกมาแต่ยังดีที่กลั้นไว้ได้ทัน นี่ขนาดว่ายังไม่รู้ความหมายหรือที่มาของชื่อเจ้าตัวเล็กยังจะออกอาการดีใจเสียขนาดนั้นเลย หรือที่จริงแล้วคงไม่ใช่ว่าไม่ชอบชื่อที่เขาตั้งให้แต่แกล้งทำเป็นดีใจเพราะกลัวว่าเขาจะเสียใจ เสียความรู้สึกหรอกนะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงเด็กน้อยตรงหน้านี่ก็น่ารักเป็นบ้าเลยล่ะ!

     

    ไม่รู้ความหมายแล้วทำไมต้องดีใจขนาดนั้นด้วยล่ะ หืม

     

    ก็จงแด เอ๊ะ! ไม่สิ เฉินเฉินชอบชื่อที่พี่ซูโฮตั้งให้นี่ฮะ

     

    พูดจริงรึเปล่า

     

    จริงสิฮะ เฉินเฉินไม่โกหกหรอก เพราะคุณแม่บอกว่าคนโกหกเป็นคนนิสัยไม่ดี

     

    เมื่อได้ฟังคำตอบแสนน่ารักของเด็กดีซูโฮก็เป็นอันต้องยิ้มกว้างอีกครั้ง เด็กคนนี้ทำให้เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยจริงๆ สิเนี่ย ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง

     

    โอเคพี่จะบอกให้ก็ได้ว่าเฉินน่ะภาษาจีนแปลว่า ส้ม แต่ถ้าเรียกเฉินเฉยๆ มันไม่ค่อยเหมาะกับเราพี่เลยเรียก เฉินเฉิน เพราะมันดูน่ารักเหมาะกับเราที่สุด

     

    ส้ม? เฉินเฉินชอบส้มที่สุดเลย!”

     

    ฮ่าฮา อืม พี่ตั้งชื่อเก่งใช่ไหมล่ะ

     

    แน่นอน! พี่ซูโฮของเฉินเฉินน่ะเก่งทุกเรื่องอยู่แล้ว

     

    เด็กชายตัวเล็กยกยอปอปั้นพี่ชายตัวขาวอย่างออเซาะอยู่ในที เสียงหัวเราะสดใสของทั้งสองคนดังทั่วสวนจนผู้ใหญ่ทั้งสี่คนต้องเดินออกมามองดูที่หน้าต่างซึ่งสามารถมองเห็นเด็กทั้งสองคนได้จากมุมนี้ ภาพเด็กชายสองคนนั่งคุยกันแล้วหัวเราะลั่นนั้นอดไม่ได้ที่จะทำให้ผู้พบเห็นเป็นต้องยิ้มตาม

     

    ดูเหมือนตาซูโฮจะเอ็นดูน้องจงแดมากๆ เลยนะค่ะคุณแม่คนสวยของซูโฮเหมือนจะพึมพำคนเดียวเสียมากกว่า แต่ผู้ร่วมเหตุการณ์ที่ได้ยินกลับเห็นพ้องต้องกันเสียหมด

     

    จงแดเองก็ดูจะรักพี่ชายคนใหม่มากเหมือนกันนะค่ะคราวนี้เป็นคุณแม่คนสวยของจงแดที่เอ่ยบ้าง ทั้งสี่คนไม่ได้พูดอะไรกันต่อสายตาทั้งสี่คู่กลับมองตรงไปยังเด็กน้อยทั้งสองด้วยความเอ็นดู

     

     

     

     

    ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกันระหว่าจงแดกับซูโฮนี่ก็ผ่านมาเกือบจะสองเดือนเข้าไปแล้ว ทั้งสองคนสนิทกันมากขึ้นต่างฝ่ายต่างผลัดวันไปหากันหากว่าวันไหนไม่ได้เจอจงแดก็จะงอแงเรียกหาแต่พี่ซูโฮอย่างเดียว ไม่ต่างจากคนพี่ที่วันไหนไม่ได้เจอน้องก็จะนั่งซึมเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก

     

    วันนี้เป็นคราวที่จงแดมาหาพี่ชายตัวขาวบ้าง เด็กน้อยนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวเพียงเล็กน้อยตัวเดียวกับพี่ชายตัวขาว ด้านหน้าของทั้งสองคนมีเปียโนตัวใหญ่สีขาวตั้งอยู่ มือทั้งสองข้างของซูโฮบรรจงเล่นเปียโนให้น้องฟังด้วยบทเพลงหวานซึ้งที่เพิ่งจะได้เรียนมา

     

    เด็กน้อยตั้งใจฟังเป็นอย่างดี โยกตัวไปมาตามจังหวะดนตรีที่พี่ชายตัวขาวเล่น มุมปากเล็กยกยิ้มกว้างดวงตาสวยหลับพริ้มตั้งอกตั้งใจฟังเสียงเปียโนเพราะๆ นี้ จนกระทั่งเสียงเปียโนหยุดลงในโน้ตตัวสุดท้ายคนตัวเล็กถึงได้ลืมตาหันหน้ามามองพี่ชายที่นั่งข้างๆ พลางมือเล็กก็ยกขึ้นมาปรบมือให้พี่ชายคนเก่ง

     

    แปะ แปะ แปะ!

     

    เพราะจัง พี่ซูโฮของเฉินเฉินเก่งมาก!” ยกนิ้มโป้งป้อมๆ ของตัวเองให้พี่ชายพลางยิ้มตาหยี

     

    แล้วไหนรางวัลสำหรับคนเก่งล่ะครับ

     

    พี่ซูโฮอยากได้อะไรล่ะฮะ

     

    ไม่รู้สิ เฉินเฉินให้อะไรพี่ก็เอาหมดแหละครับ

     

    งั้น... จุ๊บ!”

     

    คนน้องยืดตัวขึ้นไปจุ๊บเข้าที่ริมฝีปากสีแดงสดของพี่ชายเพียงแป๊บเดียวแล้วจึงผละออกมายิ้มกว้างให้ คนเป็นพี่ได้แต่ยกยิ้มกว้างเมื่อได้รับรางวัลที่แสนน่ารักจากน้องชายตัวเล็ก

     

    ไหน คนดีของพี่ซูโฮหิวข้าวรึยังเอ่ยเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่ฝาผนังบ่งบอกว่าเป็นว่าลาเที่ยงกว่าๆ แล้วซูโฮจึงถามคนน้องที่ป่านนี้คงจะหิวแย่แล้ว

     

    เฉินเฉินยังไม่หิวเลยฮะ

     

    หืม เที่ยงกว่าแล้วนะ ไม่หิวก็คงต้องกินนะครับ

     

    แต่ว่า...

     

    ถ้าเฉินเฉินยอมกินข้าวพี่จะพาไปเลี้ยงไอติมหลอกล่อน้องด้วยไอติมที่เขาเองก็รู้ดีว่าเจ้าตัวเล็กนี้โปรดปรานมากขนาดไหน

     

    เย้! พี่ซูโฮพูดจริงนะฮะ

     

    จริงสิ พี่จะโกหกเฉินเฉินทำไม เฉินเฉินเคยบอกพี่ว่าคนโกหกเป็นคนนิสัยไม่ดีไม่ใช่เหรอ

     

    ครับ! งั้นเราไปกินขข้าวกันเถอะ!”

     

    โดยไม่รอให้พี่ชายตัวขาวได้ตอบอะไร เด็กตัวเล็กก็กระโดดลงจากเก้าอี้แล้วหันมาดึงแขนพี่ชายตัวขาวให้ออกไปจากห้องซ้อมดนตรีด้วยกัน ส่วนคนพี่เองก็ไม่ได้ว่าอะไรยอมเดินตามน้องด้วยดี

     

     

     

    เฉินเฉินกินผักด้วยสิครับ

     

    เป็นอีกครั้งที่ซูโฮต้องมาปวดหัวแล้วก็คอยดุน้องเวลาไม่ยอมกินผัก แต่ถึงแม้ว่าคนน้องจะยอมฟังก็ใช่ว่าจะเชื่อฟังตลอด พอเวลาผ่านไปไม่ถึงสามนาทีเด็กตัวผอมก็เขี่ยๆ ผักที่เขาตักให้ออกแล้วกินแต่เนื้อย่างเดียวจนเขาต้องได้ดุกันอีกรอบ

     

    ก็เฉินเฉินไม่ชอบกินผัก มันขม

     

    แต่ถ้าเฉินเฉินไม่ยอมกินผักเฉินเฉินก็จะตัวเล็กแล้วก็ไม่แข็งแรงด้วยนะครับ

     

    ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงพี่ซูโฮก็ต้องปกป้องเฉินเฉินอยู่แล้ว ใช่ไหมฮะ

     

    เฮ้ออ... เฉินเฉินครับพี่น่ะก็อยากจะดูแลเฉินเฉินตลอดไปนะ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้หรอก

     

    พี่ซูโฮหมายความว่าไง...เด็กน้อยเริ่มเบะปากเหมือนจะร้องไห้เมื่อได้ฟังประโยคของพี่ชาย

     

    โอ๋ๆ ไม่เอาไม่ร้องนะครับ พี่ซูโฮไม่ได้หมายความว่าอะไรทั้งนั้นแหละ เอางี้! ถ้าคนดีของพี่ซูโฮยอมกินผักพี่ซูโฮจะยอมให้เฉินเฉินขี่หลังไปซื้อไอติม โอเคไหมครับ

     

    โอเคฮะ!”

     

    พี่ชายตัวขาวเอื้อมมือไปยีผมของเด็กตัวเล็กเบาๆ แล้วก็ต้องยกยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อเห็นเด็กดีของเขายอมตักผักสีเขียวในจานมากิน แม้ว่าใบหน้าหวานนั้นจะทำท่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ก็ตามแต่เมื่อเหลือบตามาเห็นพี่ชายใจดีจ้องมองด้วยรอยยิ้มอบอุ่นอยู่เด็กน้อยก็ไม่ลังเลเลยที่จะยอมงับเอาผักสีเขียวที่อยู่ในช้อน

     

    เก่งมากครับคนดีเอ่ยชมเมื่อน้องกินผักเข้าไปเป็นคำแรก เฉินเฉินน้อยรีบเคี้ยวผักในปากเร็วๆ ก่อนจะรีบกลืนแล้วเอื้อมมือไปหยิบเอาแก้วน้ำมาดื่มไปอึกใหญ่ ใบหน้าเล็กเหยเกเพราะความขมจนซูโฮต้องหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น

     

     

     

     

    มื้อเที่ยงจบลงไปด้วยดีเวลาที่ซูโฮจะพาน้องชายตัวเล็กออกไปซื้อไอติมตามที่ตกลงไว้ก็มาถึง คนเป็นพี่หยิบเอาหมวกสีเหลืองอ่อยมาให้น้องสวมไว้กันแดด กิจกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกกิจกรรมที่พวกเขาสองคนมักจะทำด้วยกัน หลังจากทานข้าวเที่ยวเสร็จเด็กน้อยทั้งสองก็จะเดินตามถนนในซอยออกไปซื้อเค้กบ้าง ไอศกรีมบ้าง หรือพวกขนมของเล่นจุกจิกตามที่อยากได้เพียงสองคน

     

    ผ่านรั้วประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ออกมาได้แล้วคนเป็นพี่ก็นั่งลงยองๆ แล้วกวักมือเรียกให้น้องขึ้นมาขี่หลังตามที่ได้สัญญาไว้ คนน้องยิ้มกว้างแล้วกระโดดขึ้นหลังของพี่ชายแขนเล็กๆ ก็กอดรอบคอขาวของพี่ไว้เมื่อคิดว่าน้องพร้อมแล้วพี่ชายตัวขาวจึงลุกขึ้นเดินออกไปตามถนนที่เงียบสงบ

     

    เสียงแหลมเล็กร้องเพลงคลอเบาๆ ไปตามถนนเรียกให้รอยยิ้มอบอุ่นของพี่ชายตัวขาวฉายขึ้นมาบนใบหน้าหล่อ ผู้ใหญ่ที่อยู่แถวนั้นก็เป็นที่คุ้นหูคุ้นตาไปเสียแล้วเพราะเกือบจะทุกวันจะมีเสียงเล็กๆ ร้องเพลงอยู่บนหลังของคุณหนูคิมลูกชายนักธุรกิจใหญ่ผู้ร่ำรวย

     

    ถึงแล้ว! เดี๋ยวเฉินเฉินยืนรออยู่ตรงนี้นะแล้วเดี๋ยวพี่ซูโฮจะไปซื้อไอติมมาให้

     

    ครับ พี่ซูโฮรีบมานะเฉินเฉินหิ๊วหิวว่าพร้อมกับเอามือลูบท้องที่มีพุงน้อยๆ ของตัวเองให้พี่ชายตัวขาวดูให้รู้ว่าหิวจริงๆ

     

    ฮ่าฮา โอเคครับ เดี๋ยวพี่ซูโฮจะรีบมาน้า

     

    รับคำน้องเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากม้านั่งหน้าร้านที่มีต้นไม้ใหญ่ให้อาศัยเป็นร่มเงา ทุกครั้งที่มาซื้อไอติมร้านประจำเฉินเฉินมักจะนั่งรอซูโฮอยู่ตรงนี้เพราะน้องให้เหตุผลว่าที่นี่มีดอกไม้เยอะดี แล้วอีกอย่างน้องก็ขี้เกียจเข้าไปรอไอติมในร้านเพราะคนเยอะมากๆ คนพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้น้องนั่งรออยู่ข้างนอกอย่างที่เจ้าตัวต้องการ...

     

    และทุกครั้งที่มาซื้อไอติมแล้วปล่อยให้น้องนั่งรอที่หน้าร้านพอกลับออกมาซูโฮก็จะเห็นเด็กดีของเขานั่งรออยู่ที่เดิมพร้อมรอยยิ้มเสมอ แต่วันนี้... น้องกลับหายไป!

     

    น้องจะหายไปไหน หายไปได้ยังไงในเมื่อน้องเองไม่ได้คุ้นเคยกับแถวนี้นักหนา หรือมีใครมาเอาตัวน้องไป!?

     

    ขอโทษนะครับเห็นเด็กตัวเล็กๆ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ไหมครับซูโฮไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปถามชายชราที่อยู่แถวนั้นพอดี

     

    เห็นวิ่งออกไปทางนู้นน่ะ

     

    ขอบคุณครับ!”

     

    เมื่อรู้ทิศทางที่น้องไปแล้วตามที่ชายชราบอกซูโฮก็ไม่รอช้ารีบออกวิ่งไปตามทางนั้นทันที หัวใจของคนเป็นพี่เต้นแรงด้วยกลัวว่าน้องจะเป็นอะไรไป และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเขาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเลย!

     

    ปล่อยนะ! นั่นหมวกพี่ซูโฮให้เฉินเฉินนะเอาคืนมา!”

     

    ปล่อยนะ! นั่นหมวกพี่ซูโฮให้เฉินเฉินนะเอาคืนมา! เหอะ! เด็กตุ๊ดเอ้ย

     

    เฉินเฉินไม่ได้เป็นตุ๊ดนะ!”

     

    พระเจ้า! ขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้เขาตามหาน้องเจอ ร่างเล็กที่ล้มอยู่บนพื้นถนนกำลังเถียงอยู่กับเด็กผู้ชายตัวสูงที่ไม่ได้สูงกว่าเด็กดีของเขาเสียเท่าไหร่ เขาเพ่งมองหน้าของเด็กที่ชูหมวกสีเหลืองอ่อยที่เขาให้น้องไว้เหนือหัวให้ชัดๆ เพราะรู้สึกคุ้นตากับเด็กคนนี้เหลือเกิน

     

    แบคฮัน! แบคฮันใช่ไหม

     

    พี่ซูโฮ!”

     

    ทันทีที่เขาตะโกนเรียกชื่อเด็กที่ยืนชูหมวกนั้นไว้เด็กน้อยทั้งสองก็หันมามองเขาเป็นตาเดียว ก่อนที่เจ้าของชื่อที่ซูโฮเรียกไปจะตะโกนชื่อของคนตัวขาวเสียงดังแล้ววิ่งเข้ามากอดซะแน่น ด้วยไม่ทันจะได้ตั้งตัวถุงไอติมที่เขาถือติดมือมาด้วยเลยร่วงลงพื้นเละเทะซะจนสภาพไม่น่าจะกินได้

     

    คิดถึงพี่ซูโฮจัง

     

    อืม แล้วนี่มาได้ไงล่ะซูโฮผละออกจากอีกคนแล้วจึงถาม

     

    คุณพ่อจะกลับมาทำงานที่เกาหลีฮะเลยพาแบคฮันมาเยี่ยมคุณอา

     

    อ้อ...เฉินเฉินมาหาพี่มาเมื่อถามไถ่กับผู้มาใหม่เรียบร้อยแล้วจึงหันไปเรียกเด็กดีของเขาที่นั่งนิ่งอยู่ที่เดิม แม้จะรอเท่าไหร่คนตัวเล็กก็ไม่ยอมเดินมาหาตามที่เขาบอกสักทีเขาเลยต้องเดินเข้าไปหาเจ้าตัวเสียเอง

     

    เฉินเฉิน...เป็นอะไรไปครับ

     

    ฮึก!”

     

    เฉินเฉินเป็นอะไรครับร้องไห้ทำไมบอกพี่ซูโฮมาสิครับเด็กดีน้ำเสียงของคนเป็นพี่ร้อนรนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงน้องสะอื้นเฉินเฉิน...

     

    ฮึก พี่ซูโฮใจร้าย พี่ซูโฮทิ้งไอติมของเฉินเฉิน!”

     

    เฉินเฉินครับ พี่ขอโทษเดี๋ยวพี่พาไปซื้อใหม่นะครับ

     

    ไม่เอา! เฉินเฉินเกลียดพี่ซูโฮแล้ว!”

     

    เฉินเฉิน!”

     

    คนตัวขาวได้แต่ตะโกนเรียกเด็กชายตัวเล็กที่วิ่งหนีกลับไปทางเดิมที่เขาพามาแล้วเรียบร้อย ร่างสูงกำลังจะวิ่งตามไปแต่ก็เป็นอันต้องได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาแล้วหันกลับไปมองตามเสียงเรียกของเด็กอีกคน

     

    โอ้ย! พี่ซูโฮช่วยแบคฮันด้วยครับ

     

    ซูโฮถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินกลับไปช่วยพยุงคนตัวเล็กอีกคนที่ล้มไม่เป็นท่าอยู่ตรงถนน ก่อนสายตาจะได้แต่มองตามหลังของเด็กน้อยของเขาที่วิ่งออกไปไกลแล้ว...

     

     

     

     

     

    ตั้งแต่วันนั้นมาเฉินเฉินของเขาก็ไม่มาหาอีกเลย ไปหาก็ไม่ยอมออกมาเจอจนเขาแทบจะเฉาตายอยู่แล้ว แม้ว่าแบคฮันจะมาหาเกือบทุกวันแต่มันก็ไม่ได้รู้สึกดีเหมือนเวลาคนตัวเล็กเสียงแหลมๆ นั้นมาหาเลยสักนิด เขาอยากจะได้ยินเสียงแหลมนั้นใจจะขาด อยากกินข้าวกับน้องเหมือนทุกวัน อยากพาน้องไปซื้อขนม อยากเห็นรอยยิ้มของเด็กดีของเขาใจจะขาด เมื่อไหร่เด็กน้อยของเขาจะหายงอนเสียทีนะ

     

    พี่ซูโฮครับเจ้าเด็กตัวเตี้ยนั้นไม่มาหาพี่อีกเลยเหรอฮะซูโฮหันไปมองแบคฮันที่นั่งกินขนมอยู่ข้างๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

     

    อืม

     

    ทำไมล่ะครับ เพราะแบคฮันรึเปล่า

     

    ...เปล่าหรอก

     

    พี่ซูโฮเหมือนไม่อยากคุยกับแบคฮันเลย...

     

    พี่เปล่า

     

    แบคฮันกลับบ้านกันเถอะลูกพรุ่งนี้ค่อยมาหาพี่ซูโอใหม่นะลูกนะไม่ทันได้ให้เด็กน้อยเถียงอะไรซูโฮอีก เสียงทุ้มใหญ่ของคุณลุงแบคกยองก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน

     

    ยังไม่กลับไม่ได้เหรอครับคุณพ่อ

     

    ไม่ได้ครับ ต้องกลับเดี๋ยวนี้

     

    คร้าบบเมื่อคนเป็นพ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังแบคฮันจึงยอมแต่โดยดี เด็กตัวเล็กเดินคอตกกลับไปหาพ่อของตนเองทันที

     

    อากลับล่ะนะซูโฮ

     

    ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับคุณอา

     

    ซูโฮและคุณคิมเจ้าของคฤหาสน์เดินออกมาส่งแขกเมื่อเห็นทั้งสองนั่งรถออกไปแล้วคุณคิมจึงหันกลับมามองที่ลูกชายของตน ซึ่งพักหลังมานี่เหมือนจะซึมๆ ไปไม่เหมือนแต่ก่อน ซึ่งสาเหตุก็คงจะมีอยู่อย่างเดียวคือ... คิดถึงเฉินเฉินน้อยของตัวเองนั่นแหละ

     

    อยากไปหาน้องไหม

     

    ครับ?

     

    คิดถึงน้องไม่ใช่เหรอ คิดถึงแล้วทำไมไม่ไปหาล่ะ

     

    ถึงผมไปน้องก็ไม่ออกมาหาผมอยู่ดีนั่นแหละครับตอบด้วยน้ำเสียงหงอยๆ จนคนเป็นพ่อต้องยกมือขึ้นมาลูบผมนุ่นของลูกชายคนเดียวเบาๆ

     

    งั้นไปกับพ่อสิ เดี๋ยวพ่อพาไป

     

    จะดีเหรอครับ

     

    ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วล่ะ

     

     

     

    อ้าว! มาหาจงแดเหรอลูก

     

    ทันนทีที่ก้าวขาเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่คุณนายคิมแม่ของจงแดก็เอ่ยทักทายกันตามปกติ ซูโฮพยักหน้าบอกว่าตนเองนั้นมาหาน้องที่เฝ้าคิดถึงมานานเกือบอาทิตย์ คุณนายคิมสุดใจดีเมื่อสบตากับพ่อของซูโฮก็เหมือนจะเข้าใจ ร่างโปร่งของคุณนายคิมเลยพาเด็กหนุ่มที่ทำหน้าซึมๆ ขึ้นมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนของเจ้าลูกชายตัวดี

     

    จงแดเปิดประตูให้แม่หน่อยครับ

     

    ครับ

     

    เมื่อได้ยินเสียงจากข้างในตอบรับมาแล้วไม่นานบานประตูไม้ก็ถูกเปิดออกมา ซูโฮค่อยๆ ก้าวออกมาจากทางด้านหลังของคุณนายคิมและเมื่อเจ้าของห้องเห็นหน้าของพี่ชายใจร้ายก็แทบจะปิดประตูลงทันที หากไม่ติดว่าคนเป็นแม่นั้นดึงประตูไว้ก่อน

     

    พี่เขาอุตส่าห์มาหาอย่าเสียมารยาทสิลูกดุลูกชายไปทีหนึ่งแล้วจึงหันกลับมาหาเด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนก้มหน้าอยู่ เข้าไปคุยกับน้องข้างในไปลูก

     

    ครับ ขอบคุณนะครับ

     

    จ๊ะ

     

    คุณนายคิมหันมาทำสายตาดุๆ ใส่ลูกชายตัวเล็กไปทีหนึ่งแล้วจึงหันหลังกลับเดินออกไปจากบริเวณนั้น ทันทีที่ลับหลังจากผู้เป็นแม่แล้วคนตัวเล็กก็เตรียมจะปิดประตูใส่หน้าพี่ชายอีกหนแต่คนเป็นพี่ก็ดึงประตูไว้แล้วรีบแทรงตัวเข้าไปในห้องของน้องทันที

     

    เฉินเฉินพี่ขอโทษ

     

    ไม่! เฉินเฉินเกลียดพี่ซูโฮ!”

     

    เด็กดีอย่าเกลียดพี่เลยนะ รู้ไหมว่าตอนที่เฉินเฉินไม่ไปหาพี่พอพี่มาหาก็เอาแต่หลบหน้าพี่แบบนั้นพี่คิดถึงเราแทบใจจะขาด...ร่างสูงค่อยๆ ก้าวเข้ามาใกล้คนตัวเล็กที่เม้มปากแน่น ค่อยๆ ดึงเอาน้องเข้ามากอดอย่างรักใครและคิดถึง อภัยให้พี่เถอะนะครับเด็กดี

     

    พี่ซูโฮจะทิ้งเฉินเฉินไปหาแบคฮันคนนั้น... เฉินเฉินไม่อยากให้พี่ซูโฮทิ้งเฉินเฉิน

     

    พี่จะไม่ทิ้งเฉินเฉินไปไหน พี่สัญญา

     

    พี่ซูโฮจะไม่ทิ้งเฉินเฉินจริงๆ ใช่ไหมฮะ

     

    จริงสิ พี่รักเฉินเฉินจะตายพี่ไม่มีทางทิ้งเฉินเฉินหรอก

     

    เฉินเฉินก็รักพี่ซูโฮ เฉินเฉินจะไม่ทิ้งพี่ซูโฮสัญญา...

     

    อืม พี่ก็สัญญา...

     

    ทั้งสองผละออกจากกันต่างคนต่างก็ยิ้มให้กัน นิ้วก้อยน้อยๆ ของเฉินเฉินถูกยกขึ้นมาไว้ข้างหน้ายื่นไปหาคนตัวโตกว่าคนเป็นพี่เองก็ยกกว้างแล้วยกนิ้วก้อยของตัวเองมาเกี่ยวไว้กับอีกคน

     

     

     

    ต่อไปนี้สัญญา...จะไม่ทิ้งกัน...

     

     

     
     

     แบคฮันเป็นใครเอ่ย?
    ฮ่าา ในที่สุดก็ได้อัพสักที
    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์
    และขอบคุณที่ตามอ่านกันนะค่ะ

    เหมียว หง่าว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×