ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC EXO Mistake {SUHO x CHEN}

    ลำดับตอนที่ #8 : Mistake 7

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 57




    Mistake 7

     

     

     

    ปัง!!

     

    "ออกรถได้"

     

    ร่างโปร่งของจุนมยอนเดินปึงปังขึ้นมาบนรถแล้วปิดประตูเสียงดัง ก่อนจะสั่งให้เทาที่นั่งประจำที่คนขับออกรถได้ ส่วนจงแดที่ถูกลากตัวออกมาจากห้องของอี้ชิงก่อนแล้วก็นั่งนิ่งหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างไม่ได้หันกลับมาสนใจจุนมยอนอีกแม้แต่น้อย

     

    คิดจะงอนประชดกันรึไง?

     

    รถสุดหรูเคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาลอย่างเงียบเชียบไม่มีใครเอ่ยปากแม้แต่นิด ทุกคนต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ถึงแม้ว่าความคิดของแต่ล่ะคนมันจะออกแนวคนล่ะแบบคนล่ะสไตล์สักหน่อยก็เหอะ

     

    จงแดนั้นกำลังคิดวิธีที่จะหนีไปให้พ้นจากจุนมยอน ในใจก็นึกสงสัยว่าทั้งๆที่จุนมยอนนั้นก็ทำลายครอบครัวเขาจนย่อยยับไปแล้วเจ้าตัวยังจะต้องการอะไรอีก ครอบครัวของเขาไปทำอะไรไว้ให้นักหนาถึงต้องทำกันถึงขนาดนี้ คนที่สมควรจะแค้นมันต้องเป็นเขาไม่ใช่เหรอ? จุนมยอนน่ะเป็นคนทำลายครอบครัวเขานะ ไม่ใช่เขาที่ไปทำลายครอบครัวของจุนมยอนสักหน่อย ทำไมถึงต้องคอยตามจองล้างจองผลาญกันขนาดนี้ด้วย!?!

     

     

     

    ทางด้านความคิดของจุนมยอน

     

    ในตอนนี้สมองของจุนมยอนนั้นไม่ได้มีความคิดอื่นใดนอกจากเรื่องของ...คิม จงแด

    ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องคิดถึงแต่เรื่องของเด็กนี่เหมือนกัน มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวาย ว้าวุ่นใจจนไม่เป็นอันทำอะไร สิ่งเดียวที่มันจุกอยู่ในใจของเขาตอนนี้มีแต่คำถามที่ว่า จะทำยังไงให้จงแดเป็นของเขาเพียงคนเดียว? เขาควรจะต้องทำยังไงดีล่ะ ในเมื่อหัวใจกับสมองนั้นมันสั่งงานไม่เหมือนกัน...

     

     

    แล้วจื่อเทากับไคกำลังคิดอะไรอยู่ในใจลึกๆล่ะ?

     

     

    ไค : ถ้ามันจะน่าอึดอัดขนาดนี้น่ะนะ -_-

     

    เทา : เขาว่ากันว่าพวกที่ทะเลาะกันบ่อยๆแบบนี้น่ะ...ลูกดก -..-

     

     

     

     

     

     

     

    กึก

     

     

    รถคันหรูจอดลงภายในคฤหาสน์สุดหรู ไครีบวิ่งมาเปิดประตูให้กับเจ้านายทันที คงจะเพราะทนกับความอึดอัดภายในรถมาเนิ่นนานหรือไม่ก็กลัวว่าถ้าทำอะไรชักช้าระเบิดจะมาลงที่ตนเองได้

     

     

     

    จุนมยอนก้าวลงมาจากรถเป็นคนแรกส่วนจงแดนั้นยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ ใบหน้าหวานที่คงจะยังไม่เลิกงอง้ำนั้นก็หันหน้าไปอีกทางไม่ได้มีวี่แววว่าจะหันมาสนใจจุนมยอนที่ยืนรออยู่ข้างนอกเลยสักนิด และนั่นคงจะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้จุนมยอนองค์ลง

     

     

    "คิม จงแดลงมาได้แล้ว หรือจะให้เอาพรหมแดงมาวางให้เดินเลยดีไหมล่ะ" จุนมยอนเอ่ยประชดประชัน

     

     

    "ถ้านายยังยืนอยู่ตรงนั้นฉันก็ไม่ลง" จงแดตอบทั้งที่ยังไม่หันหน้ากลับมามองอีกคน จุนมยอนหายใจฟึดฟัดเริ่มจะหมดความอดทนเข้าไปทุกที

     

     

    "คิม จงแดฉันบอกให้นายลงมา!!"

     

     

    "......"

     

     

    "หึ ชอบให้ใช้กำลังสินะ" จุนมอนจัดการมุดตัวเข้าไปในรถอีกครั้ง มือหนาจับข้อมือบางแน่นก่อนจะดึงให้อีกคนลงมาจากรถสุดแรง

     

     

    "อ่ะ! ปล่อยนะฉันเจ็บ"

     

     

    แม้จงแดจะบอกว่าเจ็บแต่จุนมยอนก็หาได้สนใจ ร่างโปร่งยังคงลากตัวร่างบางลงมาจากรถโดยไร้ซึ่งความปราณี มืออีกข้างของจงแดพยายามแกะมือหนาของร่างโปร่งออกจากข้อมือตัวเองอย่างไม่ยอมแพ้ เล็บจิกเข้าที่มือของจุนมยอนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่จุนมยอนก็ยังคงนิ่งเฉยไม่ได้มีท่าทีว่าจะเจ็บเลยสักนิด

     

     

    ร่างของจงแดโดนอีกคนลากผ่านสายตาของแม้บ้านและบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่รายลอบ สายตาที่แสดงออกถึงความสงสารร่างบางนั้นถูกส่งมาให้ตลอดทางแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาขัดร่างโปร่งเลยสักนิด คงเพราะกลัวว่าหัวอาจจะหลุดออกจากบ่าหรือไม่ก็กลัวจะตกงาน

     

     

    "เป็นบ้าอะไรเนี่ย! ปล่อยฉันนะฉันเจ็บ ไอ้บ้าจุนมยอน!"

     

     

    "เงียบ"

     

     

    "ไม่โว้ยยย ฉันบอกให้ปล่อยยังไงล่ะไม่ได้ยินหรือไง ไอ้ป่าเถื่อน!!"

     

     

    "......"

     

     

    "เน้!!! ฉันบอกให้ปล่อยยยย!!!"

     

     

    "ฉันบอกให้หุบปากไง!!"

     

     

    สิ้นคำตะคอกของจุนมยอนจงแดก็ถึงกับหุบปากฉับ เพราะตอนที่คนตรงหน้าหันกลับมาตะคอกใส่เขานั้น จงแดรับรู้ได้ถึงสายตาที่โกรธจัดและดวงตาที่แดงก่ำด้วยไฟโทษะ

     

     

    น่ากลัวชะมัด!!

     

     

    ปัง!!

     

     

    "โอ้ยย!"

     

     

    ร่างของจงแดถูกเหวี่ยงลงกับเตียงอย่างไม่ออมแรง แม้ว่าเตียงมันจะนุ่มขนาดไหนแต่ถ้าลองโดนจับเหวี่ยงลงมาแรงขนาดนี้เป็นใครใครก็จุกอ่ะครับ

     

    "นี่นาย! ฉันก็คนนะจะทำอะไรก็เห็นใจกันบ้างสิว่ะ!"

     

    "แล้วทีนายทำอะไรน่ะเคยนึกถึงหน้าฉันบ้างไหม!!"

     

    "ฉันทำอะไร"

     

    จุนมยอนหลับตาลงอย่างต้องการระงับอารมณ์ เหอะ! คนที่ควรจะโกรธน่ะมันสมควรที่จะเป็นผมไม่ใช่เหรอ

     

    "ฉันสั่งห้ามนายไม่ให้ไปเยี่ยมไอ้อี้ชิงแล้วนายไปทำไม!!!"

     

    ดูเหมือนการที่เขาหลับตาผ่อนคลายอารมณ์เมื่อกี้มันคงจะไม่ได้ผล เพราะตอนนี้เขาดูโกรธมากกว่าตอนแรกอีก

     

    หมอนี่เวลาโกรธแล้วน่ากลัวกว่าที่คิดแหะ

     

    "......"

     

    "ฉันถามว่านายไปหาไอ้อี้ชิงทำไม!!?"

     

    "กะ ก ก็พี่อี้ชิงเป็นผู้มีพระคุณกับฉัน แล้วต้นเหตุที่ทำให้พี่อี้ชิงต้องเข้าโรงพยาบาลมันก็คือฉัน จะไปเยี่ยมมันผิดตรงไหน..."

     

    "มันผิดตรงที่ฉันไม่อนุญาตยังไงเล่า!!"

     

    "นายไม่ได้เป็นพ่อฉันซะหน่อยมีสิทธิ์อะไรมาห้ามนู่นห้ามนี่ อ๊ะ!"

     

    ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ อยู่ดีๆไอ้บ้านี่ก็เกิดจะเลือดขึ้นหน้าตรงเข้ามาบีบไหล่ผมซะกระดูกแทบจะหัก

     

    "ฉันเป็นมากกว่าพ่อนายซะอีก คิม จงแด..."

     

    "....เจ็บ!"

     

    "ถ้านายยังดื้อไม่ยอมฟังฉันนายจะเจ็บมากกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า!"

     

    "ฉันเกลียดนาย! โอ้ย!! นี่นายจะบีบฉันแรงเกินไปแล้วนะ"

     

    ดวงตาของเขานั้นแดงก่ำจนน่ากลัว แว่บนึงผมเห็นแววตาที่วูบไหวของเขาแต่ไม่นานมันก็เปลี่ยนเป็นสายตาที่กราดเกรี้ยวเหมือนเดิม

     

    "ฉันขอเตือนนายไว้เลยนะจงแดว่าอย่าทำให้ฉันโมโหไปมากกว่านี้ เพราะคนที่เจ็บมันจะเป็นนายเอง"

     

    "แล้วฉันทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!"

     

    "ก็ตั้งแต่นายแอบหนีไปหาไอ้อี้ชิงจนถึงตอนนี้ที่นายเอาแต่เถียงฉันฉอดๆอยู่นี่ไง!"

     

    จงแดทำท่าว่าจะเถียงต่อแต่ก็ต้องหุบปากฉับแทบจะทันทีที่จุนมยอนจ้องหน้าเขาเขม็ง

     

    "......."

     

    "นายต้องแต่งงานกับฉัน!"

     

    จุนมยอนปล่อยมือออกจากไหล่ทั้งสองข้างของผมแล้วนำไปกอดอกพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบ แต่คนที่ได้ฟังอย่างผมมันคงจะเอ่ยตอบเสียงเรียบไม่ไหวเลยเผลอตะโกนออกไปเสียงดัง

     

    "ห๊ะ!?! นายว่าไงนะ!"

     

    ผมตะโกนเสียงดังดวงตาเบิกตากว้างตกใจกับประโยคที่อีกคนเอ่ยออกมาไม่หาย ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนหมอนี่บังคับแต่งงานหรอก แต่จะให้ทำใจยอมรับง่ายๆมันก็ยังไงอยู่ โดนผู้ชายด้วยกันขอแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องตลกนะ แล้วยิ่งคนที่ขอดันเป็นจอมวายร้ายแบบจุนมยอนแล้วด้วยจะต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นแน่!

     

    "ถ้านายยอมแต่งงานกับฉัน ฉันจะให้ทุกอย่างที่นายต้องการ"

     

    "ไม่มีทาง! ยังไงฉันก็จะไม่ยอมแต่งงานกับนายเด็ดขาด!" ผมยืนยันเสียงหนักแน่น

     

    "ฉันจะให้นายเรียนต่อเท่าที่นายต้องการ"

     

    "....นาย ฉัน.."

     

    ให้ตายสิ! เขาก็รู้ว่าผมอยากเรียนต่อขนาดไหน จะเอาเรื่องแบบนี้มาต่อรองมันก็ทำผมเขวสิ! ให้ตาย! จุนมยอนเป็นบุคคลที่อันตรายจริงๆ

     

    "และฉันจะปล่อยเพื่อนนายไป"

     

    เพื่อน? เท่าที่จำได้ผมแทบจะไม่มีใครคบเลยเพราะทุกคนต่างก็กลัวว่าจุนมยอนจะทำร้ายตนกับครอบครัวทั้งนั้น...แต่ก็คงจะมีอยู่แค่สองคนที่ใจกล้าบ้าบิ่นมาคบกับผม นั่นก็คือ พี่อี้ชิงและแบคฮยอน

     

    "นายหมายถึงใคร"

     

    "บยอน แบคฮยอน"

     

    ผมชะงักไปนิดหน่อยตอนเขาเอ่ยชื่อของผู้มีพระคุณกับผมอีกคน

     

    ...จนได้สินะแบคฮยอน

     

    "นายทำอะไรเขา!"

     

    "หึ ฉันทำอะไรเขาไม่ได้หร๊อก" ตอบเสียงสูงอย่างจงใจ

     

    "คิม จุนมยอน!" จงแดเรียกชื่ออีกคนเสียงเหี้ยม

     

    "ฮ่าฮ่า! โกรธง่ายจังเลยนะครับ..."

     

    "......."

     

    ใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดีของจุนมยอนที่แตกต่างจากตอนแรกๆโดยสิ้นเชิงนั้นยิ่งทำให้จงแดหงุดหงิดมากกว่าเดิม

     

    "ฉันสั่งให้คนเฝ้าติดตามเด็กนั่นตลอดเวลา..."

     

    "......."

     

    "ถ้านายทำอะไรให้ฉันไม่พอใจฉันก็จะสั่งให้คน 'จัดการ' กับเด็กคนนั้นทันที!"

     

    "เลว!!"

     

    ผมพุ้งเข้าไปกระชากคอเสื้อของจุนมยอนอย่างแรงจนเขาที่ไม่ทันจะได้ตั้งตัวเซถลาไปด้านหลังเล็กน้อย มือของผมกำแน่นจนขึ้นข้อขาว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปเอาแรงมาจากไหน คงเพราะความโมโหมันกำลังกัดกินไปทั่วร่างกายของผมล่ะมั้ง

     

    "ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำอะไรเพื่อนฉัน!!"

     

    "ฉันก็บอกนายแล้วเหมือนกันว่าอย่าทำให้ฉันโมโหไม่งั้นคนที่จะเจ็บตัวมันก็คือนาย!!"

     

    ผลั๊ก!!!

     

    "อึก!!"

     

    ร่างของผมถูกเหวี่ยงเข้ากับกำแพงอย่างแรงจนรู้สึกจุกไปหมด แขนซ้ายของผมที่กระแทกกับผนังอย่างจังรู้สึกปวดจนชา ขาของผมแทบจะยืนไม่อยู่เลยจำต้องค่อยๆไถลตัวลงนั่งพิงกับกำแพง มือข้างขวาก็กุมแขนซ้ายไว้เพื่อหวังว่ามันจะบรรเทาอาการปวด...

     

    แต่ไม่เลย...มันยังคงปวดตุบๆเหมือนเดิม

     

    "ฮึก อึก!"

     

    น้ำตาของผมไหลรินลงมาอย่างสุดที่จะกลั้น ผมไม่รู้ว่าตอนนี้จุนมยอนทำหน้ายังไง ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ได้แต่ปล่อยให้หยดน้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้มอย่างสิ้นปัญญา

     

    "หึ! อย่ามาทำเป็นสำออยไปหน่อยเลยแค่นี้มันยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งที่ฉันต้องเจอหรอก!"

     

    "..... ฮึก..."

     

    ผมไม่ตอบอะไรเขาที่ทำได้ตอนนี้ก็แค่พยายามกลั้นเสียงสะอื้นและหยดน้ำตาให้หยุดไหล...แม้ว่ามันจะยากไปสักหน่อยก็เถอะ

     

    "คนที่คิดจะสู้กับฉันมันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ..."

     

    "......"

     

    "นายนี่มันน่าสมเพชจริงๆ"

     

    "ฮึก...."

     

    "เหมือนพ่อกับแม่นายไม่มีผิด!"

     

    "อย่ามาว่าพ่อกับแม่ฉัน!!"

     

    ผมที่เงียบฟังเขาอยู่สักพักก็เริ่มจะทนไม่ไหว เขาจะด่าจะว่าผมยังไงก็ได้แต่อย่ามายุ่งกับพ่อแม่ผม...ท่านมีค่ามากกว่าที่จะให้คนเลวๆอย่างจุนมยอนมาด่าเสียๆหายๆแบบนี้

     

    "ทำไมจะว่าไม่ได้! พ่อกับแม่นายมันไอ้พวกหมาลอบกัด!"

     

    "หยุดนะ!!"

     

    "มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น..."

     

    "ฉันบอกให้หยุด!!!"

     

    คราวนี้ผมตะโกนเสียงดังลั่น ยังแอบตกใจว่าตัวเองไปเอาเสียงมาจากไหนถึงได้ตะโกนออกไปดังถึงขนาดนั้น

     

    "นายไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน!!"

     

    "นายก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าพ่อกับแม่ฉัน!!!"

     

    "...!!!!"

     

    "พวกท่านน่ะมีค่าเกินกว่าที่นายจะมากล่าวพาดพิงว่าร้าย..."

     

    "...หึ! ตอแหลสิไม่ว่า..."

     

    "คนอย่างนายมันไม่มีหัวใจ!! ทั้งที่นายเป็นคนทำลายครอบครัวฉันแท้ๆฉันยังไม่คิดที่จะแก้แค้นด้วยซ้ำ! แต่นาย..."

     

    ผมหยุดแล้วใช้หลังมือข้างขวาปาดน้ำตาที่กำลังไหลรินออก ผมจ้องหน้าเขาเขม็งและเขาเองก็มองหน้าผมนิ่งๆ

     

    "...นายทำลายครอบครัวของฉันแล้วยังจะมาทำร้ายฉันอีก! นายมันไม่ใช่คน!!"

     

    "........!"

     

    "นายมันเศษสวะ! ก็แค่พวกเหลือเดนอยากได้ความรักแต่ก็ไม่เคยได้จนต้องมาทำตัวเป็นพวกอันธพาลทำร้ายคนอื่นไปทั่ว!...อึก.."

     

    มือของจุนมยอนกำเข้าที่ลำคอของผมอย่างแรงจนต้องยืนขึ้นตามที่เขาบังคับ มือทั้งสองข้างของผมทั้งจิกทั้งข่วนไปที่มือของเขาที่บีบคอผมแน่น แต่เขากลับทำเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด

     

    ขาของผมเริ่มจะไม่ติดพื้นจนต้องเขย่งขึ้น ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ ลำคอตีบตันจนพูดอะไรไม่ออกอยากจะไอออกมาดังๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

     

    ดวงตาของจุนมยอนมองผมอย่างกราดเกรี้ยว แววตาของเขามันดูเหี้ยมโหดเหมือนพวกฆ่าตกรในหนังไม่มีผิด

     

    "อย่ามาทำเป็นปากเก่งถ้ายังไม่รู้จักอะไรดีพอ!"

     

    "อึก...อื้อ..."

     

    "และอย่าคิดว่าตัวเองจะสู้อะไรฉันได้ เพราะเพียงแค่ฉันตวัดมือนายก็จะหมดลมหายใจลงในทันที!!"

     

    ปึก!!!!

     

    "อั๊ค!!"

     

    เป็นอีกครั้งที่ร่างของผมกระแทกเข้ากับผนัง คราวนี้ความรู้สึกเจ็บปวดมันมีมากกว่าในคราวแรกจนผมได้แต่นอนนิ่งอยู่กับพื้น น้ำตาไหลรินลงสู่พื้นหยดแล้วหยดเล่า หูของผมอื้ออึงจนแทบจะไม่สามารถได้ยินเสียงอะไร ดวงตาพร่าเลือนจนแทบจะมองอะไรไม่เห็น

     

    ....ทรมานชะมัด

     

    "จำไว้นะคิม จงแด ว่าชีวิตของนายมันอยู่ในกำมือของฉัน"

     

    "......."

     

    "ถ้าฉันบีบนายก็ตาย...แต่ถ้าฉันคลายนายก็รอด"

     

    "......ฮึก"

     

    ผมมองเห็นร่างของจุนมยอนที่ก้าวเข้ามาใกล้ แล้วนั่งยองๆอยู่ตรงหน้าผม

     

    "อึก!"

     

    มือข้างขวาของเขาบีบเข้าที่สองข้างแก้มของผมอย่างแรงจนเจ็บแสบไปหมด จะขืนตัวหนีก็ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับเลยจำต้องนอนนิ่งปล่อยให้เขาทำอะไรตามใจชอบต่อไป

     

    "และตอนนี้ฉันเป็นเจ้าชีวิตของนาย...ไม่ว่าฉันจะสั่งอะไรนายก็ต้องทำตาม"

     

    "......."

     

    "และฉันก็สั่งให้นายแต่งงานกับฉันซะ! ไม่เช่นนั้นไอ้เพื่อนรักกับพี่ชายแสนดีของนายจะต้อง 'ตาย' อย่างทรมานเป็นแน่ หึ!"

     

    "โอ้ย!!"

     

    เขาบีบแก้มผมแรงๆทีหนึ่งแล้วจึงสะบัดออกทำให้หัวของผมชนเข้ากับผนังอย่างแรงจนรู้สึกได้ถึงของเหลวที่ไหลออกมา...เลือด...

     

    "แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาเอาคำตอบจากนาย"

     

    ตึก! ตึก! ตึก!

     

    เสียงเขาหายไปพร้อมกับเสียงฝ่าเท้าที่กระทบกับพื้นเสียงดังและค่อยๆผ่อนเสียงลงตามระยะห่างที่เพิ่มมากขึ้น...และสติของผมก็ดับวูบลงจนทุกอย่างมืดสนิท

     

     

     

     

     

    ใครบอกว่าจุนมยอนเป็นคนใจร้าย....

     

    ก็ใช่บางทีเขาก็อาจจะทำร้ายคนตัวเล็กไปบ้าง แต่คิดว่าเขาอยากจะทำมันนักรึไงกัน ถ้าเด็กนั่นฟังเขาสักนิดและเลิกดื้อรั้นลงสักหน่อยเรื่องเมื่อกี้คงไม่เกิดขึ้น

     

    ตัวเขาเองก็ใช่ว่าจะมีความสุขที่เห็นอีกคนเจ็บ...ไม่รู้สิ แต่ก่อนแค่คิดว่าถ้าทำให้เด็กนั่นเจ็บอย่างที่เขาเจ็บได้มันก็คงจะมีความสุขไม่น้อย

     

    แต่ตอนนี้ไม่เลย...เขาไม่มีความสุขเลยสักนิด ยิ่งตอนที่พลั้งลงไม้ลงมือกับอีกคนเขาแทบอยากจะถลาเข้าไปดู แต่ก็ได้แต่ยืนมองนิ่งๆเพราะสมองนั้นสั่งการให้เขาหยุดการเคลื่อนไหวในชั่วครู่

     

    น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยเหมือนเป็นน้ำกรดที่กัดกร่อนหัวใจของเขาจนมันเป็นแผลเหวอะหวะ เขาเพิ่งจะมั่นใจก็ในวันนี้ว่าคิม จงแดนั้นมีค่าและสำคัญกับเขามากแค่ไหน

     

    แต่ความแค้นที่ยังฝังใจก็เป็นเหมือนกำแพงกีดกันให้เขาออกห่างจากความรู้สึกนั้น ทุกครั้งที่เห็นเด็กคนนั้นยิ้มภาพที่พ่อและแม่ของเขาโดนยิงมักจะลอยเข้ามาในหัว ทำไมกันนะ...

     

    ทำไมคนที่ทำลายครอบครัวฉันต้องเป็นพ่อกับแม่นายด้วย...จงแด

     

    ปัง!

     

    ผมปิดประตูห้องที่ผมยกให้จงแดเสียงดัง ร่างสูงของลูกน้องคู่ใจยืนเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าประตูคาดว่าคงจะได้ยินเสียงผมกับจงแดทะเลาะกันเลยจะขึ้นมาดู

     

    "...เอ่อ...นายท่าน..."

     

    "พาหมอมินซอกมาหานายหญิงด้วย"

     

    "ครับนายท่าน"

     

    ลูกน้องทั้งสองคนรับคำสั่งแล้วจึงโค้งให้ผม ผมเลยเดินออกมาจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุดก่อนจะเผลอแสดงความอ่อนแอให้ลูกน้องเห็น...

     

    พี่ขอโทษนะจงแดของพี่...

     

    พี่ขอโทษจริงๆที่ผิดสัญญากับนาย...

     

    แมวน้อยของพี่...




     

     

     

     

     

    อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเม้นนะค่ะ







     

     

    เหมียว หง่าว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×