ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC EXO Mistake {SUHO x CHEN}

    ลำดับตอนที่ #3 : Mistake 2

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 57





    Mistake

    2

     

     

    วันนี้จงแดตื่นมาทำงานแต่เช้าตามปกติ ถึงแม้หน้าตาจะยิ้มแย้มให้กับผู้คนที่เดินผ่านแต่ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นก็คือ...ตอนนี้ในใจของจงแดมันช่างว้าวุ่นเหมือนคลื่นทะเลที่ไม่ยอมสงบ

     

    ในเมื่อจุนมยอนบอกว่าจะไม่ไว้หน้าพี่อี้ชิงนั่นก็หมายถึงการตัดขาดมิตรภาพของทั้งสอง จงแดอดที่จะคิดไม่ได้ว่าที่มิตรภาพของทั้งสองต้องขาดสะบั้นลงนั้นเป็นเพราะตนคนเดียว ซึ่งความจริงแล้วมันก็คงเป็นเช่นนั้น

     

    สองขาเรียวเล็กของจงแดยังคงก้าวเดินตามถนนสายเดิมไปเหมือนทุกวัน ถึงแม้จงแดจะพักอยู่หอเดียวกับแบคฮยอน ทำงานที่ร้านพี่อี้ชิงเหมือนกันแต่จงแดก็ไม่เคยที่จะเดินไปทำงานพร้อมกับแบคฮยอนเลย เจ้าตัวมักจะหลีกเลี่ยงการเดินกับแบคฮยอยทุกครั้งที่ทำได้ ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรือปิดกั้นตัวเองออกจากเพื่อนเพียงคนเดียว แต่ทั้งหมดที่จงแดทำก็เพียงเพราะอยากจะให้แบคฮยอนปลอดภัย

     

    คิม จุนมยอนไม่เคยที่จะไม่ทำร้ายคนที่ยุ่งเกี่ยวกับจงแด

     

    ซึ่งข้อนี้จงแดเองก็รู้ดีถึงได้หลีกเลี่ยงออกจากผู้คนที่เข้ามาทำความรู้จักและหวังจะมาสร้างมิตรภาพที่ดีด้วย ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคนทั้งนั้น อี้ชิงเป็นอีกคนที่เข้ามาสร้างมิตรภาพที่ดีด้วย ครั้งแรกจงแดปฏิเสธอี้ชิงทุกอย่างทั้งเรื่องที่ทำงานหรือแม้กระทั่ง...เรื่องของจุนมยอนที่อี้ชิงเคยบอกว่าจะลองคุยให้

     

     

    แต่ถึงแม้จงแดจะปฏิเสธอี้ชิงสักกี่ครั้งอี้ชิงก็ยังคงไม่เลิกตื้อเสียที จนเป็นจงแดเองนั่นแหละที่ใจอ่อนยอมรับการช่วยเหลือจากอี้ชิง จนถึงปัจจุบันที่จงแดยังคงทำงานอยู่ร้านของอี้ชิง ซึ่งเหตุผลที่จงแดยอมรับงานนี้ก็เพราะอี้ชิงบอกว่าเจ้าตัวเป็นเพื่อนของจุนมยอนและจงแดก็คิดตื้นๆแค่ว่าจุนมยอนคงไม่ทำร้ายเพื่อนของตัวเองเป็นแน่ แต่จงแดคงลืมคิดไปถึงความจริงอีกอย่างที่ว่า...จุนมยอนเป็นคนไม่มีหัวใจ เขาทำได้ทุกอย่างขอเพียงแค่ได้สิ่งที่ต้องการ และสิ่งที่จุนมยอนต้องการก็คือ...คิมจงแด

     

     

    ไม่รู้ว่าตัวเองเหม่อลอยขนาดนี้ได้ยังไงเพราะพอรู้ตัวอีกทีจงแดก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้านของอี้ชิงเสียแล้ว เพราะว่ามันยังเช้าอยู่ร้านเลยยังเงียบเพราะพนักงานบางคนก็คงยังไม่มาถึง จงแดผลักประตูเปิดเข้าไป ภายในร้านยังคงอบอุ่นเหมือนบ้านหลังที่สองของจงแดเหมือนเดิม แต่ทำไมความรู้สึกของจงแดถึงได้บอกว่า...มันจะต้องมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม

     

     

    จงแดสะบัดหัวไล่ความคิดประหลาดๆออกไปจากหัว เขาควรทำตัวให้สดใสร่าเริงไม่ใช่มายืนทำหน้าเศร้าเหงาหงอยแบบนี้ถ้าพี่อี้ชิงมาเห็นคงไม่สบายใจเป็นแน่ มุมปากที่ยกสูงเหมือนลูกแมวแย้มยิ้มออกมากลบเกลื่อนความเศร้าหมองในใจ ก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุดที่หลังร้านเพื่อเตรียมทำงานเช่นทุกวัน

     

     

    ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด...เราเพียงแค่ต้องรับมือกับมันให้ได้เท่านั้น

     

     




     

    วันนี้ทั้งวันจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเที่ยงเหตุการณ์เดิมๆซ้ำๆยังคงเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะอี้ชิงฝีมือการชงกาแฟตกหรือเพราะไม่มีสมาธิกันแน่ เพราะวันนี้แทบทั้งวันลูกค้ามักจะโวยวายเรื่องรสชาติของกาแฟที่แทบจะเรียกได้ว่าห่วยแตกเข้าขั้นของอี้ชิง จงแดก็สงสัยเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ แต่อี้ชิงที่เห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะเสียลูกค้าไปมากกว่านี้จึงทำการปิดร้าน และเช็คดูส่วนผสมต่างๆที่เพิ่งทราบว่ามันปะปนกันจนมั่วไปหมด ผงนมสดผสมกับคาปูชิโน่ ลาเต้ผสมกับโกโก้ หรือแม้กระทั่งน้ำตาลที่พอลองแตะชิมดูถึงได้รู้ว่ามันมีเกลือผสมอยู่ด้วย

     

     

    อี้ชิงกับจงแดสบตากันเพียงแวบ เขาสองคนรู้ดีว่าเรื่องบ้าบอพวกนี้เป็นฝีมือของใคร

     

     

    คิม จุนมยอนนายทำการเร็วกว่าที่คิดไว้เสียอีกนะ

     

     

    กรุ๊งกริ๊ง~

     

     

    เสียงกระดิ่งที่ห้อยไว้เป็นสัญญาณแจ้งเตือนว่ามีคนเปิดประตูเข้ามาในร้าน เพราะว่าอี้ชิงสั่งให้พนักงานของร้านทุกคนเลิกงานกลับบ้านก่อนเวลาเพื่อที่อี้ชิงจะได้ตรวจสอบหาที่มาของรสชาติกาแฟอันพิสดาร แต่จงแดเลือกที่จะช่วยตรวจสอบหาข้อเท็จจริงนั้นด้วยจึงกลายเป็นว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันในร้านเพียงสองคน

     

     

    แล้วใครกันล่ะที่มาใหม่...พนักงานที่ร้านลืมของหรือ? ก็ไม่น่าใช่ เพราะว่าทุกคนไม่ได้เอาของสำคัญมาถ้าลืมจริงพรุ่งนี้ค่อยมาเอาก็น่าจะได้

    หรือจะเป็นลูกค้า? นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เพราะป้ายที่หน้าร้านถูกเปลี่ยนเป็นคำว่า close  แล้วเรียบร้อย

     

     

    แล้วใครกันที่มาเอาป่านนี้?

     

     

    "เดี๋ยวผมไปดูเองฮะ"

     

     

    จงแดเอ่ยกับอี้ชิงก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้ที่ใช้นั่งอยู่กับอี้ชิงที่หลังร้าน

     

     

    "อืม ระวังตัวด้วยนะพี่รู้สึกไม่ค่อยดีเอาเสียเลย" อี้ชิงเอ่ยอย่างเป็นห่วง

     

     

    "ครับ ผมจะระวัง"

     

     

    จงแดเดินออกมาจากหลังร้านมาที่หน้าร้าน ลุ่มชายชุดดำสามคนกำลังยืนมองมาที่เขา จงแดตกใจถอยหลังกรูดแต่ก็ต้องชะงักเพราะแผ่นหลังไปชนเข้ากับอกแกร่งของใครสักคน  จงแดค่อยๆหันหน้ากลับมามองก็เป็นอันต้องเบิกตากว้างเมื่อเจอเข้ากับคนที่ตัวเองนั้นเกลียดเสียยิ่งกว่าอะไร...คิม จุนมยอน

     

     

    "นะ นายมาได้ไง" จงแดเอ่ยถามเสียงสั่น

     

     

    "ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะมาจัดชุดใหญ่ให้กับเพื่อนสุดที่รัก จาง อี้ชิง"

     

     

    จุนมยอนเดินเข้ามาใกล้จงแดที่เอาแต่ถอยร่นหนีตนอย่างหวาดกลัว ดวงตาสั่นระริกนั้นกลับดูแข็งกร้าวจนน่าแปลกใจ

     

     

    "นายจะทำอะไรพี่อี้ชิง"

     

     

    "แล้วนายคิดว่าฉันควรจะทำอย่างไรกับพวกแมวขโมยดีล่ะ : ) "

     

     

    "ยะ อย่าทำอะไรพี่อี้ชิงนะ! พี่อี้ชิงเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยสักนิด"

     

     

    "หึ! มันนั่นแหละตัวดีเลย"

     

     

    จุนมยอนพูดกับจงแดเพียงเท่านั้นก่อนจะหันไปพยักหน้าเหมือนจะสั่งอะไรสักอย่างให้กับลูกน้องซึ่งจงแดก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจุนมยอนจะสั่งให้ลูกน้องพวกนั้นทำอะไร

     

     

    ผู้ชายที่จงแดเห็นในตอนแรกเดินเข้าไปที่หลังร้านซึ่งมีอี้ชิงที่ยังอยู่ในนั้น พวกมันเข้าไปกันเพียงสองคนส่วนอีกคนยังคงยืนอยู่ด้านหลังของจงแด

     

     

    "จะทำอะไรน่ะ อย่ายุ่งกับพี่อี้ชิงนะ!"

     

     

    "ห่วงมันมากนักรึไงฮะ! คิม จงแด!"

     

     

    จุนมยอนตรงเข้าไปประชิดตัวจงแด มือขาวบีบเข้าที่แก้มของจงแดแน่นจนมันแดงเถือก จงแดพยายามแกะมือของจุนมยอนออกแต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งที่ขนาดตัวก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่แต่ทำไมจงแดถึงสู้แรงของจุนมยอนไม่ได้เลย...

     

     

    "พวกแกจะทำอะไรน่ะ ห้ามยุ่งกับจงแดเด็ดขาดนะ!"

     

     

    จุนมยอนหันไปมองเสียงนุ่มทุ้มของผู้มาใหม่ แต่มือก็ยังคงอยู่ที่แก้มของจงแดเหมือนเดิม จงแดที่ไม่ต้องหันไปมองให้เสียเวลาก็เห็นทันทีว่าผู้มาใหม่เป็นใครเพราะเจ้าตัวหันหน้าไปทางนั้นพอดี ร่างของอี้ชิงที่โดนหิ้วปีกออกมา มุมปากมีเลือดออกเล็กน้อย จงแดแอบเห็นว่าที่หางคิ้วของอี้ชิงนั้นก็มีเลือดออกมาจากแผลที่ปริแตกเล็กน้อย

     

     

    จุนมยอนหัวเราะในลำคอมือขาวละจากแก้มใสของจงแดที่บัดนี้คงเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะแรงบีบของจุนมยอนมาโอบที่เอวบางก่อนจะดึงจงแดเข้าไปชิดตัว จงแดดิ้นขลุกขลักๆอยู่แบบนั้นแต่ก็ไม่มีแม้วี่แววว่าจะหลุด

     

     

    "มาแล้วเหรอครับเพื่อนรัก : ) "  จุนมยอนเอ่ยกับอี้ชิงอย่างกวนประสาท

     

     

    "แกทำขนาดนี้ยังจะกล้าเรียกฉันว่าเพื่อนอีกเหรอ หึ! ไอ้งั่งอย่างแกไม่ใช่เพื่อนฉันหรอก"

     

     

    "ปากดีนักนะครับเพื่อนรัก ไหนมาดูสิว่าถ้าสิ่งที่นายทุ่มเทให้กับมันนักหนาถ้าเกิดมันพังไปต่อหน้าต่อตานายจะยังปากดีอยู่อีกรึเปล่า"

     

     

    "แกจะทำอะไร!"

     

     

    "เดี๋ยวก็รู้  : ) "

     

     

    จุนมยอนหันไปพยักหน้าให้กับลูกน้องอีกคนที่ยังคงยืนอยู่ข้างหลัง ชายร่างยักษ์ก้มหน้าน้อมรับคำสั่งก่อนจะเดินไปยังโต๊ะนั่งดื่มกาแฟที่อยู่ใกล้ที่สุด

     

     

    พลัก!

     

    เพล้ง!!

     

    เสียงแตกของกระจกดังขึ้นจนจงแดตกใจ ภาพของชายร่างยักษ์กำลังพังโต๊ะนั่งและของตกแต่งภายในร้านกาแฟเล็กๆของอี้ชิงยิ่งตอกย้ำความผิดที่มันเกาะกินในใจของจงแดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จงแดนายมันเป็นตัวซวย! นอกจากจะเป็นต้นเหตุทำให้คนที่มีพระคุณต้องเจ็บตัวแล้วยังจะเป็นต้นเหตุทำให้ร้านที่เป็นเหมือนดั่งทั้งชีวิตของอี้ชิงพังทะลายลงในพริบตาอีก

     

     

    "หยุดนะ! สั่งให้ลูกน้องของนายหยุดเดี๋ยวนี้นะจุนมยอน!" จงแดหันไปสั่งจุนมยอนแต่หมอนั่นกลับไม่สนใจเลยสักนิด

     

     

    "เอาเลยสิจุนมยอน แกอยากจะทำอะไรก็ทำเลย แต่ฉันขอแค่ให้แกปล่อยจงแดไป"

     

     

    อี้ชิงที่ยังคงโดนล็อคตัวไว้ตะโกนแข็งกับเสียงของที่ตกแตกไม่หยุด จงแดยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีกเมื่อเห็นว่าในดวงตาของอี้ชิงนั้นมันมีแต่ความเจ็บปวดที่เห็นร้านที่เป็นเหมือนทุกอย่างของชีวิตพังไปต่อหน้าต่อตา แต่ถึงอย่างนั้นอี้ชิงก็ยังคงจะเป็นห่วงเขา เป็นห่วงตัวต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตของอี้ชิงเจอแต่เรื่องเลวร้าย

     

     

    "เป็นห่วงกันเสียจริงนะครับ ได้ฉันจะทำให้แกเห็นว่าคนที่บังอาจมายุ่งกับจงแดของฉันมันต้องเจอกับอะไร"

     

     

    จุนมยอนพยักหน้าไปทางชายร่างยักษ์อีกคนที่ยังคงล็อคตัวอี้ชิงไว้อย่างแน่นหนา ชายคนนั้นพยักหน้ารับแล้วจึงเหวี่ยงตัวของอี้ชิงไปชนกับผนัง

     

    ตุบ!!

     

     

    "ไม่นะ! อย่าทำอะไรพี่อี้ชิงนะ"

     

    จงแดพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของจุนมยอน แต่มันก็ยากยิ่งนักเพราะจุนมยอนนั้นแรงเยอะกว่าจงแดอยู่มากโข

     

     

    ตุบ!!

     

    อั๊ค!!!

     

     

    "ไม่นะ! พอแล้ว หยุดได้แล้ว! ฮึก ผมยอมแล้ว ยอมทุกอย่างอย่าทำอะไรพี่อี้ชิงเลย"

     

     

    จงแดร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง เขาไม่คิดว่าจุนมยอนจะยอมหยุดทุกอย่างง่ายๆหากเขายังไม่ยอมทำตามที่เจ้าตัวต้องการ

     

     

    "หึ พอก่อน!"

     

     

    จุนมยอนเอ่ยเพียงสั้นๆลูกน้องทั้งสามคนก็หยุดการกระทำทุกอย่างลง ทั้งคนที่กำลังจะลงเท้าใส่อี้ชิงอีกครั้งก็ชะงักค้าง ส่วนพวกที่พังร้านจนเละเทะก็ชะงักเช่นกัน ทั้งสามคนละจากสิ่งที่ทำค้างอยู่แล้ววิ่งมาต่อแถวหน้ากระดานตรงหน้าจุนมยอน จงแดไม่รอช้ารีบสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของจุนมยอนทันที ซึ่งคราวนี้มันก็หลุดออกมาอย่างง่ายดาย

     

     

    จงแดวิ่งเข้าไปหาร่างของอี้ชิงที่นอนอยู่บนพื้น ยิ่งได้เห็นสภาพของอี้ชิงใกล้ๆจงแดก็ยิ่งนึกอยากจะฆ่าตัวเองให้ตายไปเสีย เลือดที่เลอะไปทั่วตัวของอี้ชิงมันเต็มไปหมดจนจงแดแทบดูไม่ออกว่ามันไหลออกมาจากที่ไหนบ้าง มือบางช้อนเอาศีรษะของอี้ชิงขึ้นมาวางไว้ที่ตักอย่าแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะทำให้อี้ชิงเจ็บยิ่งกว่าเดิม แต่ถึงจะเบาแรงแค่ไหนจงแดก็ยังคงได้ยินเสียงครางต่ำเบาๆที่บ่งบอกถึงความเจ็บของอี้ชิงได้อย่างชัดเจน

     

     

    "ฮึก พี่ชิงผมขอโทษเพราะผมแท้ๆพี่ถึงต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ ฮึก ผมขอโทษ"

     

     

    จงแดร่ำไห้ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่คิดที่จะเช็ดออกไปแม้แต่น้อย มือบางที่สั่นเทาลูบเบาๆบนใบหน้าของอี้ชิงอย่างกลัวว่าอีกคนจะเจ็บ อี้ชิงฝืนยิ้มให้จงแดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่ฟังแล้วเสียงมันช่างแผ่วเบาผิดไปจากเดิมยิ่งนัก

     

     

    "อย่าโทษตัวเองเลย...เด็กดี พะ พี่ไม่เป็นไรมากหรอก"

     

     

    "ฮึก พี่ชิง..."

     

     

    "สั่งลากันพอรึยัง ไปได้แล้วจงแด"

     

     

    เป็นจุนมยอนที่ทนดูภาพของทั้งสองคนไม่ไหวจนต้องเอ่ยขัด จงแดที่ได้ยินอย่างนั้นถึงแม้จะไม่พอใจแค่ไหนแต่ก็ต้องวางอี้ชิงลงเพราะกลัวว่าจุนมยอนจะให้คนมาทำร้ายอี้ชิงซ้ำอีกหากตนทำอะไรให้เจ้าตัวไม่พอใจแม้เพียงน้อยนิด

     

     

    "ไม่ ไม่จงแดอย่าไป อึก กับมันนะ"

     

     

    อี้ชิงพยายามยกมือขึ้นมาจับมือของจงแดไว้ แต่จงแดก็ยืนขึ้นแล้วค่อยๆเดินไปหาจุนมยอนที่ยืนทำหน้าทมึงทึงรออยู่

     

     

    "จงแด...อย่าไปกับ...มัน"

     

     

    "ฮึก ผมขออะไรคุณอีกสักอย่างได้ไหม?"

     

     

    จงแดที่เดินมาหาจุนมยอนแล้วก็โดนคนใจร้ายดึงเข้าไปสู่อ้อมแขนแกร่ง จงแดเอ่ยออกมาเสียงเบาขอร้องให้อีกคนช่วยทำตามสิ่งที่ตนต้องการอีกสักอย่าง

     

     

    "ได้สิ ถ้ามันเป็นความต้องการของนาย"  จุนมยอนเอ่ยปากตกลงอย่างอารมณ์ที่เริ่มจะดีขึ้นกว่าเมื่อกี้เล็กน้อย

     

     

    "ช่วยพาพี่อี้ชิงส่งโรงพยาบาลด้วยนะครับ"

     

     

    จุนมยอนทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักพักจนจงแดต้องเอ่ยข้อเสนอให้อีกคน

     

     

    "แล้วผมจะทำทุกอย่างตามที่คุณต้องการ"

     

     

    จุนมยอนยิ้มร่าก่อนจะพยักหน้าตกลง สีหน้าที่บ่งบอกถึงความสุขอันเปี่ยมล้นบนความทุกข์ของคนอื่นมันยิ่งทำให้จงแดรังเกียจจุนมยอนมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น

     

     

    "พวกแกพามันไปหาหมอด้วย ห้ามให้มันตายเด็ดขาด ถ้ามันตายพวกแกก็ต้องตายด้วย เข้าใจไหม?!"

     

     

    "เข้าใจแล้วครับนายท่าน"

     

    "หึ ดีมาก : ) "

     

     





     

    จงแดถูกพาตัวมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่คงไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นของจุนมยอน หลังจากที่รถจอดสนิทดีแล้วก็มีคนมาเปิดประตูรถให้จุนมยอนไม่รอช้าที่จะลากจงแดที่นั่งอยู่ใกล้ๆให้ลงมาด้วย จงแดเลิกที่จะขัดขืนแล้วยอมทำตามทุกอย่างที่จุนมยอนต้องการ ถ้าหากยังดื้อรั้นและขัดขืนจงแดก็ไม่รู้ว่าจะต้องมีอีกสักกี่คนที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะเขาเพียงคนเดียว เพราะฉะนั้นแค่ยอมๆไปก่อนก็น่าจะโอเคกว่า

     

     

    "ไปจัดการหาเสื้อผ้ามาให้คุณจงแดซะ ต่อไปนี้คุณจงแดจะเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะ..."  จุนมยอนเว้นไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะหันมายกยิ้มมุมปากให้เขา

     

     

    "ไปกันเถอะจงแด พี่จะพาขึ้นไปดูห้อง ของเรา"  จุนมยอนเอ่ยเน้นในคำว่า ของเรา ให้จงแดได้กระจ่างแจ้งทันทีว่าตนนั้นต้องได้นอนห้องเดียวกับจุนมยอนอย่างไม่ต้องสงสัย  จงแดที่ไม่อยากนอนร่วมห้องกับจุนมยอนขืนแรงไว้เล็กน้อยจนจุนมยอนต้องหันมามองด้วยความไม่พอใจ

     

     

    "เอ่อ ผมขอนอนคนเดียวได้ไหม ที่ห้องคนใช้หรือห้องเก็บของก็ได้"  จงแดเอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆ บัดนี้จงแดสิ้นฤทธิ์แล้วราบคาบ

     

     

    "นี่นายรังเกียจพี่ขนาดนั้นเลยเหรอจงแด"

     

     

    "เอ่อ เปล่าผมแค่...เกรงใจ"   จงแดพูดปดไปแล้วสิ แต่จะให้บอกได้ไงว่าตนน่ะรังเกียจที่จะนอนห้องเดียวกับจุนมยอนแค่ไหน

     

     

    "นายไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้นเพราะนี่คือคำสั่งของพี่ และนาย...ต้องทำตาม"

     

     

    มารู้แน่ชัดกับตัวก็วันนี้ว่าจุนมยอนนั้นเอาแต่ใจและเผด็จการขนาดไหน!  เพราะพอหลังจากที่เอ่ยประโยคนั้นจบจุนมยอนก็จัดการลากเขาให้ขึ้นบันไดตามตนไปอย่างไม่ถามความเต็มใจเลยสักนิด









    ห้องนอนของจุนมยอนนั้นใหญ่โตเสียจนให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในพระราชวังแห่งใดแห่งหนึ่ง เฟอนิเจอร์ทุกอย่างก็ดูจะหรูหราเสียจนจงแดไม่กล้าที่จะแตะต้อง

     

     

    "ไปอาบน้ำซะเดี๋ยวพี่จะให้คนเอาเสื้อผ้ามาให้ แล้วจะได้ลงไปทานข้าวกัน"  แม้ประโยคที่เอ่ยออกมาจะค่อนไปทางบังคับแต่จงแดกลับรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนในน้ำเสียงนั้นอย่างน่าประหลาด

     

     

    "ขาดเหลืออะไรก็บอกกับคนใช้แล้วกันนะครับ พี่ขอไปเครียร์งานเสียหน่อย"  จุนมยอนพูดแล้วเอามือมาลูบหัวจงแดเบาๆ ฝ่ามืออบอุ่นนั้นเรียกให้หัวใจของจงแดกระตุกอย่างน่าตกใจ ไหนจะรอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนนั้นอีก...ตกลงจุนมยอนเป็นคนแบบไหนกันแน่ จะดีหรือจะร้าย

     

     

     

     

       

        @
    ห้องทำงานของจุนมยอน

     

     

    ร่างโปร่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ ถึงเขาจะไม่ได้ยิ้มให้ผู้อยู่ตรงหน้าในตอนนี้แบบที่ยิ้มให้จงแดแต่ท่าทางอารมณ์ดีเกินเหตุของจุนมยอนก็ทำให้ลูกน้องผู้จงรักภัคดีรู้สึกดีไปด้วย...นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เห็นจุนมยอนเป็นแบบนี้  คงตั้งแต่ตอนอายุ 13 ที่เจ้าตัวต้องเสียพ่อและแม่ไปต่อหน้าต่อตา ด้วยน้ำมือของพ่อ...จงแด สินะ

     

     

    "วันนี้ดูนายท่านอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะครับ"  ลูกน้องแสนจะใจกล้าถามเจ้านายหนุ่มอย่างยิ้มแย้ม

     

     

    "ก็แน่สิ ในเมื่อฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการแล้วนิ"   สิ่งที่เจ้าตัวต้องการก็คงจะเป็นอะไรอื่นไม่ได้นอกเสียจาก คิม จงแด

     

     

    "นายท่านจะทำแบบนี้จริงๆหรือครับ คุณจงแดไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้แม้แต่น้อยเลยนะครับ "  เป็นลูกน้องคนเดิมที่เอ่ยถาม

     

     

    "นั่นมันก็เรื่องของเขา ฉันหน่ะมีหน้าที่แค่แก้แค้นเท่านั้นแหละ แล้วอี้ชิงน่ะมันตายรึยัง"

     

     

    "ฉันยังไม่ตายง่ายๆหรอกน่า แต่ลูกน้องแกเล่นหนักเป็นบ้านี่ถ้าฉันตายจริงๆขึ้นมาจะทำไง"

     

     

    ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในห้องทำงานของจุนมยอนอีกคน ชายคนนั้นที่จงแดไว้ใจที่สุด...จาง อี้ชิง

     

     

    น่าแปลกที่ตามตัวของอี้ชิงไม่ได้มีแผลเยอะพอที่ควรจะเป็น...แล้วจะให้มันเยอะแยะอะไรนักหนาล่ะในเมื่อมันเป็นแค่การแสดง : )

     

     

    "หึ ตายยากจังนะไอ้เพื่อนรัก : )"

     

     

    "ถ้าฉันตายเร็วแล้วใครจะช่วยแกแก้แค้นกันล่ะ"

     

     

    "นั่นสินะ : ) "

     

     

    ทั้งสองคนยิ้มให้กันอย่างคนที่ได้รับชัยชนะ อีกไม่นานหรอกจงแด อีกไม่นานทุกอย่างก็จะจบ นายก็อย่าดื้อจนต้องเสียแผนแล้วกัน ไม่งั้นนายนั่นแหละจะยิ่งเจ็บปวดกว่าเดิม  : )

     

     

    "แล้วเรื่องไอ้แบคฮยอนจัดการไปถึงไหนแล้ว"

     

     

    จุนมยอนเอ่ยถามกับลูกน้องที่ตนได้มอบหมายงานให้ตั้งแต่เมื่อวาน

     

     

    "ตอนนี้พวกเรากำลังจับตาดูอยู่ครับ ถ้านายท่านต้องการตัวเมื่อไหร่พวกเราก็พร้อมเข้าจัดการทันทีครับ"

     

     

    "นี่แกยังจะไปยุ่งกับแบคฮยอนอีกเหรอ หมอนั่นไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยนะ"  อี้ชิงถามอย่างข้องใจ ก็ในเมื่อแบคฮยอนไม่ได้มีตัวตนในเกมนี้แล้วทำไมยังต้องให้คนคอยติดตามตัวไว้

     

     

    "ก็เพราะว่าหมอนั่นมายุ่งกับคนของฉันมากเกินไปน่ะสิ : ) "  จุนมยอนตอบอย่างไม่ยี่หระ

     

     

     

    "นายคงไม่ได้หมายถึง..."

     

     

    "ใช่ ฉันหมายถึงจงแด หมอนั่นเป็นคนของฉันใครหน้าไหนก็ห้ามยุ่ง เด็ดขาด!"

     

     

     

    ทั้งที่เข้าหาเพราะเพียงอยากจะแก้แค้นให้ครอบครัว...แต่ก็ไม่รู้ทำไมต้องไม่พอใจเวลาใครมายุ่งกับจงแด...จุนมยอนเองก็หาคำตอบให้กับคำถามนี้ไม่ได้เช่นกัน

     

     

     

     

                                                       

     

     

    TBC

     

     

     

     

     

    อ่านจบแล้วอย่าลืมเม้นนะค่ะ

    เหมียว หง่าว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×