ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Pretty Boy [ALLCHEN]

    ลำดับตอนที่ #25 : SF Sehun x Chen Bad Guy III

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 58



    SEHUN x CHEN

    Bad Guy III

     

                ก็อกๆๆ

                ทันทีเมื่อผมกับรุ่นพี่เพื่อนสนิทของคนที่หายตัวไปในตอนนี้มาถึงหน้าห้องห้องหนึ่งที่เป็นที่อยู่ของคนที่พวกผมกำลังตามหาผมก็ไม่รอช้าที่จะเคาะประตูไปสามครั้งแล้วรอฟังเสียงตอบรับ แต่มันก็มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมาให้ผมทั้งสามคน ความเงียบที่ได้มามันไม่ต่างจากเมื่อตอนเช้าที่ผมแวะเข้ามาหาคนที่หายตัวไป

                พี่จงแดหายไปไหน?

                มันกลายเป็นคำถามที่ทำให้ผมรู้สึกหนักใจมากในตอนนี้ ผมไม่สามารถหาคำตอบนี้ได้เลยมันยากยิ่งกว่าคำถามไหนๆ มันทั้งบีบคั้น กดดัน และหนักใจมากสำหรับการหาคำตอบของคำถามนี้ ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้วในตอนนี้ ใจมันหว้าวุ่นคิดถึงและเป็นห่วงรุ่นพี่ที่ผมแอบรักมานานเสียจนจะไม่เป็นอันทำอะไร

                ก็อกๆๆ

                ผมลองเคาะประตูดูอีกทีและรอฟังเสียงตอบกลับมาอย่างเดิม และสิ่งที่ได้รับกลับมามันก็ยังคงเหมือนเดิม ...ความเงียบ

                “เดี๋ยวฉันลองโทรเข้ามือถือจงแดดูก็แล้วกัน” รุ่นพี่ตัวสูงเสนอทางออก ผมกับรุ่นพี่แบคฮยอนพยักหน้าเห็นด้วยในการกระทำนั้นและยืนรอเงียบๆ อย่างตั้งใจฟัง จนกระทั่งรุ่นพี่ชานยอลยกโทรศัพท์ออกจากหูแล้วส่ายหน้า

              “ลองโทรอีกซักสายดิ เผื่อเมื่อกี้มันรับไม่ทันหรืออาจจะไม่ได้ยิน”

                รุ่นพี่แบคฮยอนเสนอ รุ่นพี่ตัวสูงจึงยอมลองทำตามคำแนะนำนั้น...แต่ก็เหมือนเดิม  ไม่มีการตอบรับกลับมาเลย ผมถอนหายใจแล้วหันกลับมามองหน้าประตูห้องของรุ่นพี่ตัวเล็กด้วยสายตาเศร้าสร้อย  ใจอยากจะลองเคาะประตูดูอีกทีแต่ก็กลัวว่าจะได้รับเพียงความเงียบตอบกลับมาเหมือนทุกที

                “ลองกลับไปตั้งหลักกันก่อนไหม หรือหาอะไรกินกันก่อนเผื่อจะทำให้คิดอะไรออกแล้วค่อยกลับขึ้นมาหาไอ้เป็ดมันอีกที ถึงตอนนั้นถ้ายังไร้วี่แววเราค่อยไปขอกุญแจสำรองจากเจ้าของหอมาเปิดดู”

                “แต่ว่า...” ผมกำลังจะค้านความคิดเห็นของรุ่นพี่แบคฮยอนที่เสนอให้เราออกไปก่อน ผมคิดว่าถ้าเราไปขอกุญแจกับเจ้าขอหอได้แล้วทำไมถึงไม่ไปขอตอนนี้แล้วเอามาเปิดเข้าไปดูให้แน่ชัดกันไปเลยไงหล่ะว่าคนที่เป็นเจ้าของห้องนี้อยู่ในนั้นรึเปล่า

                “ตอนนี้เจ้าขอหอไม่อยู่ไปขอกุญแจไม่ได้หรอก”

                เหมือนพี่ชานยอลจะรู้ถึงความคิดของผมถึงได้เอ่ยดักทางไว้ก่อน เพราะคงไม่อยากจะต่อประโยคให้มันยืดยาว ผมเลยจำต้องพยักหน้าตกลงยอมที่จะออกไปที่อื่นก่อนตามที่พี่แบคฮยอนได้เสนอไว้

                แอ๊ด

                ไม่ทันที่ผมกับรุ่นพี่อีกสองคนจะทันได้เดินออกห่างไปจากบริเวณหน้าประตูห้องของพี่จงแด เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นขัดเสียก่อนพร้อมกับที่ผมและรุ่นพี่อีกสองคนหันกลับไปมองยังที่มาของเสียง ร่างเล็กที่ยืนหลบอยู่หลังบานประตูนั้นพวกผมจำได้ดีว่าเป็นใคร

                ผมไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปหาอย่างดีใจ จงแดฮยองส่งยิ้มมาให้ผมเล็กน้อยก่อนที่จะแง้มบานประตูให้กว้างกว่าเดิม รุ่นพี่ชานยอลเป็นคนแรกที่ปรี่เข้าไปหาจงแดฮยอง มือใหญ่ตามขนาดตัวของรุ่นพี่ตัวสูงจับเข้าที่ไหล่บอบบางของจงแดฮยองพลางสำรวจมองตามร่างกาย

                “นายหายไปไหนมาคิม จงแด”

                “เอ่อ...ก็ไม่ได้หายไปไหนมานิ”

                “โกหก! / โกหก!” รุ่นพี่สูงต่ำพูดเสียงดังจนแทบจะเป็นตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน

                “ไม่ได้โกหกซะหน่อย”

                “เอ๊ะ! นั่นแขนไปโดนอะไรมาน่ะจงแด!” รุ่นพี่ชานยอลคนเดิมที่ถามเสียงดัง เราทั้งสามคนมองไปที่แขนของจงแดฮยองโดยอัตโนมัติ มันจริงที่ว่าแขนของจงแดฮยองมีรอยถลอกเป็นแผลแดงเถือก แต่จงแดฮยองก็ไม่เปิดโอกาสให้เราทั้งสามคนได้ทำอะไรมือเล็กอีกข้างดึงเอาเสื้อแขนยาวปกที่แผลไว้

                “ไม่มีอะไรหรอก”

                “ไม่มีอะไรได้ยังไงเป็นแผลซะขนาดนี้” รุ่นพี่ชานยอลทำท่าจะเข้าไปกระชากแขนเสื้อของจงแดฮยองขึ้นดูแผล แต่ทั้งสีหน้าที่เหมือนทั้งตกใจทั้งจะร้องไห้แบบนั้นมันทำให้ผมนึกสงสาร ก็ถ้าจงแดฮยองไม่อยากจะบอกทั้งผมและรุ่นพี่อีกสองคนก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเซ้าซี้

                “แล้วฮยองทำไมถึงไม่ยอมออกมาเปิดประตูให้ผมเมื่อตอนเช้าล่ะครับ โทรหาก็ไม่ยอมรับสาย” ผมพยายามพาเปลี่ยนประเด็นก่อนที่รุ่นพี่ชานยอลจะเลิกแขนเสื้อนั้นได้ ซึ่งมันก็ช่วยให้ทั้งสองคนที่ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่นั้นยอมนิ่งลง

                “นั่นสิ ทำไมจงแด” 

                เป็นรุ่นพี่แบคฮยอนที่สนับสนุนในคำถามของผมพร้อมกับหันไปคาดคั้นเอาคำตอบจากจงแดฮยองที่ตอนนี้หน้าตาซีดเซียวดูไม่มีแรงเอาเสียเลย ผมแอบส่งสายตาขอบคุณไปให้รุ่นพี่แบคฮยอนที่คงจะเห็นด้วยกับผมว่าเราไม่ควรที่จะไปคาดคั้นอะไรจากจงแดฮยองจนมากเกินไป

                รุ่นพี่แบคฮยอนเองก็ตอบรับสายตาผมแล้วหันไปใช้สายตาเป็นเชิงตักเตือนรุ่นพี่ชานยอลที่มีท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นอาการที่แทบจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของจงแดฮยองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจยอมแพ้ไปและทำเป็นเหมือนไม่ได้เห็นแผลที่แขนเล็กนั่น

                “พอดีว่า...เอ่อ...ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายเลยหลับยาวไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ พึ่งจะมาตื่นก็ตอนที่พวกนายมาเคาะประตูห้องเสียงดังนี่แหละ”

              โกหก...

                จงแดฮยองกำลังโกหกทำไมผมจะดูไม่ออก และผมเองก็คิดว่ารุ่นพี่ทั้งสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกับจงแดฮยองเองก็ดูออก พวกเราแค่ไม่อยากจะคาดคั้นก็ในเมื่อเขาไม่อยากจะบอกเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปซักไซ้

                “เข้ามาข้างในกันก่อนไหม”

                “ไม่ดีกว่า ท่าทางนายดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ไปพักผ่อนเถอะพวกฉันไม่อยากกวน แต่ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาก็ให้รีบโทรหาพวกฉันแล้วกัน เข้าใจไหม”

                แม้คำตอบของรุ่นพี่แบคฮยอนจะทำให้ผมขัดใจอยู่หน่อยๆ ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ดูแลจงแดฮยอง แต่จะให้ขัดผมเองก็ทำไม่ได้ อีกอย่างที่รุ่นพี่พูดมาก็ถูกผมกลัวว่ามันจะไปเป็นการรบกวนเวลาพักผ่อนของรุ่นพี่ตัวเล็กเสียมากกว่า

                “อืม ขอบใจทุกคนมากนะที่เป็นห่วง”

                “ยินดี...”

                “ไม่เป็นไร เข้าไปพักผ่อนเถอะ”

    ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยจบเสียงที่ดังแทรกขึ้นมาของรุ่นพี่หูกางก็ทำผมแทบหลุดสบถ มันไม่ใช่ความบังเอิญที่เราจะพูดขึ้นมาพร้อมกันข้อนั้นผมรู้ดี แต่เป็นเพราะรุ่นพี่คนนี้ตั้งใจจะดักคอผมตั้งแต่แรก!

    เหอะ! ไอ้กระดูกขวางคอ จระเข้ขวางคลอง!

    “ขอบใจจงอินด้วยนะที่อุตส่าห์เป็นห่วงฮยอง”

    แต่รุ่นพี่หูกางคนนี้คงจะลืมไปว่า...จงแดฮยองนั้นเป็นคนดีขนาดไหน เรื่องที่รุ่นพี่ชานยอลตั้งใจจะขวางคอผมนั้นผมรู้ว่าจงแดฮยองเองก็ดูออกถึงได้ตั้งใจเอ่ยขอบคุณผมแบบเจาะจงเจาะลึก ผมแอบยักคิ้วให้รุ่นพี่หูกางที่ดุจะฮึดฮัดขัดใจอยู่ไม่น้อยไปทีหนึ่งแล้วจึงแสร้งทำตีหน้าซื่อไปหาจงแดฮยอง

    “ไม่ต้องขอบใจหรอกครับฮยอง เพราะทุกอย่างที่ผมมอบให้ฮยองนั้นมันออกมาจากใจของผมล้วนๆ เลยครับ”

    หยอดไปอีกหนึ่งยก....และไม่ลืมหันไปยักคิ้วให้รุ่นพี่หูกางที่ตอนนี้รู้สึกว่าจะคิ้วกระตุกไปเสียแล้ว J

    “เอาล่ะๆ แยกย้ายกันกลับได้แล้วจงแดจะได้พักผ่อน ” และคนที่ห้ามทัพก็เป็นรุ่นพี่หางตาตก ก่อนจะหันไปย้ำกับจงแดฮยองอีกครั้ง “ถ้าพรุ่งนี้ไปเรียนไม่ไหวก็โทรบอกด้วยแล้วกัน ”

    “อือ”

     

    - B A D G U Y –

     

    ทุกคนกลับไปหมดแล้วพร้อมกับความรู้สึกโล่งใจของผม นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนที่ผมจะกลับมาอยู่ที่ห้องก็ทำเอาใจสั่นขวัญผวา

    อย่า!!!!!!!!!

    ฉับ!

    เสียงมีดคนกริบตัดผ่านเฉียดฉิวไปที่แขนทั้งสองข้างของผมก่อนที่ร่างทั้งร่างของผมจะทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น หัวใจเต้นระส่ำอย่างตื่นกลัว ทีแรกเขาคิดว่าเซฮุนจะใช้มีดแหลมคมนั้นกรีดเข้าที่ใบหน้าของเขาเสียอีก

    อะดรีนาลินสูบฉีดจนต้องพยายามควบคุมให้ได้ก่อนที่หัวใจที่เต้นรัวเร็วจนจับจังหวะแทบไม่ได้นี้จะทำให้เขาหัวใจวายตายไปเสียก่อน เหงื่อไหลซึมตามใบหน้า มือ และร่างกาย ผมตกใจจนแทบสิ้นสติเหมือนตอนนี้วิญญาณล่องลอยออกจากร่างไปไหนต่อไหนแล้วไม่รู้

    หึหึ กลัวขนาดนั้นเลยหรือครับ...จงแดฮยองของผม ^^’

    โรคจิต!

    คำเดียวที่ผมจะสามารถมอบให้กับโอ เซฮุนได้ในตอนนี้มีเพียงคำว่าโรคจิตเท่านั้น เขาเหมือนคนที่สิ้นสติไปแล้วเหมือนกับผมที่ตอนนี้ก็คล้ายว่าจะสิ้นสติไปแล้ว นี่เขากะจะให้ผมกลัวจนเป็นบ้าไปเลยใช่ไหม!

    นายมัน...โรค...โรคจิต แฮ่ก

    ด่าเขาทั้งๆ ที่หัวใจยังไม่กลับมาเต้นปกติเสียด้วยซ้ำ เสียงหอบแฮ่กๆ ของผมช่างฟังดูน่าสมเพชเสียนี่กะไร

    ก็ฮยองบอกให้ปล่อย...ผมก็ปล่อยแล้วนี่ไง

    นายจะปล่อยฮยองไปจริงๆ ใช่ไหม

    ผมถามด้วยความดีใจที่มันเก็บไว้ไม่มิด ร่างสูงย่อตัวลงมานั่งอยู่ตรงหน้าผมมือที่ผมเคยคิดว่ามันสามารถมอบความอบอุ่นให้ผมเสมอนั้นบัดนี้กลับมีแต่ความเยือกเย็นที่ส่งมาให้ มือนั้นจับเข้าที่ข้างแก้มของผมแล้วบีบแน่นจนรู้สึกเจ็บ

    ดีใจจนตัวสั่นเลยสินะที่จะได้กลับไปหาชู้น่ะ!’  และประโยคร้ายกาจของเขาก็ถูกสาดเข้าใส่ผมไม่ยั้ง

    ....

    อีกคนก็ชั่วส่วนอีกคนหนึ่งก็สารเลว...แหม! ช่างเหมาะสมกันเสียจริงนะครับ

    ผมยังคงปล่อยให้เขาพ่นวาจาเสียสีใส่ไม่ได้คิดที่จะห้ามหรือตอบโตเพราะกลัวว่าหากตอบโต้กลับไปแล้วเซฮุนอาจจะอารมณ์เสียอีกแล้วไม่ยอมปล่อยตัวผมไป อะไรที่สามารถทนได้ตอนนี้ก็คงจะต้องยอมทนไปก่อน

    หึ! ไม่ปฏิเสธ...ถ้าอย่างนั้นมันก็เป็นความจริงที่ว่าฮยองกับไอ้จงอินร่วมมือกันสวมเขาให้ผมใช่ไหม!’

    อึก!’ น้ำตาผมแทบจะไหลพรากเมื่อมือที่จับอยู่ที่หน้าผมนั้นบีบแน่นกว่าเดิมจนมันเจ็บไปหมด

    เห็นผมโง่เป็นควายกันรึยังไง!!!!’

    ....

    ทำไมไม่ตอบ!!!’

    กลัว ฮึก พอแล้วเซฮุน...ฮยองกลัว

    แววตาแบบนั้น...อย่าใช้มันมองฮยองได้ไหมเซฮุน แววตาที่เต็มไปด้วยควมเกลียดชังแบบนั้นขอทีเถอะได้โปรดอย่าใช้มันมองฮยองอีกเลย

    อาการตัวสั่นด้วยความกลัวของจงแดนั้นอยู่ในสายตาของเซฮุนเสมอ เขาไม่ได้จะใจอ่อนเพราะท่าทางนั้นหรอก แต่ประโยคเมื่อสักครู่ที่ออกมาจากปากบางมันทำให้เขาชะงัก ไหนจะแววตาที่เคยมีแต่ความสดใสนั้นมองมาที่เขาด้วยความหวาดกลัว มันสั่นไหวเสียจนใจเซฮุนเองยังกระตุก มือเล็กๆ ที่จับแขนข้างที่เขาบีบแก้มนุ่นแน่นนั้นสั่นจนดูน่าสงสาร

    เซฮุนไม่ได้อยากให้จงแดฮยองกลัวเขา...

    รีบออกไปซะ วิ่งหนีออกไปให้ไกลก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจจับฮยองขังไว้ในห้องอีก

    ซะ เซฮุน...

    บอกให้ไป!!’

    มือที่ยังไม่ปล่อยออกจากใบหน้าน่ารักนั้นถูกเลื่อนลงมาก่อนจะผลักเข้าที่ไหล่บอบบางจนคนตัวเล็กล้มลงไปกองกับพื้น ร่างสูงไม่แม้แต่จะชายตาหันมามองร่างเล็กเลยสักนิด ใบหน้าหล่อเหลาเสมองไปทางอื่นไม่มีแม้วี่แววว่าจะหันมา

    ร่างเล็กอันสั่นเทาค่อยๆ ลุกขึ้นก่อนจะออกตัววิ่งหนีไปอย่างที่อีกคนไล่ เพราะกลัวว่าจะโดนคนอารมณ์แปรปรวนจับมัดไว้อีก ....

    เฮ้อ...
                พอคิดมาถึงตรงนี้ก็เป็นอันต้องถอนหายใจกันอีกเฮือก จงแดไม่รู้ว่าเรื่องบ้าบอนี่มันเกิดขึ้นกับเขาได้ยังไง ทุกอย่างทำไมถึงได้ดูยุ่งเหยิงขนาดนี้ คนที่ทิ้งกันไปก่อนเป็นเซฮุนเองแท้ๆ แต่เจ้าตัวกลับใส่ร้ายว่าเขาเป็นคนสวมเขาให้

    จงแดไม่ได้สวมเขาให้เซฮุนซะหน่อย ก็ในเมื่อเซฮุนเองก็ทิ้งเขาหนีไปหมั้นกับคนอื่นโดยไม่ได้บอกกล่าวเขาเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทนรอนี่ ทำไมเขาจะต้องเป็นฝ่ายมานั่งร้องไห้เสียใจอยู่คนเดียวในเมื่อตอนที่เขาร้องไห้เสียใจเป็นบ้าเป็นหลั่งแต่ต้นเหตุของความเสียใจทั้งหมดกลับกำลังมีความสุข เขาจะเปิดใจรับใครนั่นมันก็ไม่ถือว่าผิด

    แต่...หรือบางทีอาจจะมีคนที่อยู่เบื้อหลังเรื่องบ้าๆ นี้กันแน่!

     

    - B A D G U Y –

     

    วันต่อมาจงแดก็มาเรียนตามปกติ ร่างกายของเขาไม่ได้เป็นอะไรมากเพียงแค่รู้สึกเมื่อยล้าไปบ้างแต่เมื่อวานเขาก็พักผ่อนเอาแรงไว้สำหรับการเริ่มต้นวันใหม่แล้ว วันนี้จงอินไม่ได้มารับเขาเพราะเห็นว่าเมื่อคืนโดนเพื่อนลากให้ไปทำรายงานเสียจนดึกดื่นแทบไม่ได้นอน ตอนนี้ก็คงจะหลับพักเอาแรงอยู่ในห้องนั่นแหละมั้ง

    “อ้าว วันนี้มาเรียนได้แล้วเหรอไอ้เป็ด”

    เสียงทักทายที่ดังมาก่อนที่จะได้เห็นตัวคนทักด้วยซ้ำเรียกให้ผมหันไปมอง คู่หูสูงเตี้ยเดินเข้ามานั่งลงที่ม้านั่งประจำซึ่งผมกำลังนั่งอยู่ ในมือถือขนมถุงใหญ่มากันคนละถุงคงเพราะวันนี้มีเรียนเช้าสองคนนี้ยิ่งชอบตื่นสายอยู่ด้วยสงสัยคงจะตื่นไม่ทันกินข้าวเช้ากันอีกตามเคย

    “อือ แล้วนี่ตื่นไม่ทันกินข้าวเช้ากันอีกแล้วหรอ”

    “ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ”

    ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านแลคเชอร์ที่คยองซูเอาไปถ่ายเอกสารมาให้เพราะไม่เห็นเขาเข้าเรียนเมื่อวาน ยังดีที่มีคยองซูคอยช่วยเหลือไม่อย่างนั้นมีหวังวันนี้เขาคงจะเรียนตามเพื่อนไม่ทันเป็นแน่ หากจะหวังพึ่งเจ้าเพื่อนสองคนนี้ก็ไม่ได้เพราะได้ข่าวมาว่ามันสองคนแอบหลับในห้องเรียนกันอีกตามเคย

    “จริงสิ ฉันได้ข่าวมาว่าเซฮุนกลับมาแล้วนิ นายได้เจอเขาบ้างรึยัง”

    คำถามที่ไม่ทันได้คิดอะไรของแบคฮยอนทำให้จงแดชะงัก ดวงตากลมวูบไหวเล็กน้อยก่อนที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แค่คิดถึงตอนที่อีกคนใช้มีดตัดเชือกผ่านเฉียดฉิวหัวตัวเองไปนิดเดียงแค่นั้นมือเขาก็เหงื่ออกแถมยังสั่นจนแทบจะควบคุมไม่อยู่ด้วยซ้ำ

    “ถามบ้าอะไรวะแบคฮยอน”

    ชานยอลที่จับสังเกตได้ถึงอาการหน้าซีดตัวสั่นของเพื่อนจึงกล่าวเตือนแบคฮยอนว่าไม่สมควรที่จะพูดถึงเด็กคนนั้น ส่วนคนปากเสียก็ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ไปให้

    “เอ่อ คือ แหะๆ จงแดอ่า....ฉันไม่ได้ตั้งใจอ่ะ”

    “อือ”

    “ฉันขอโทษ”

    “ไม่เป็นไร ดะ ได้เวลาเข้าเรียนแล้วไปกันเถอะ”

    ไม่รอให้ใครได้พูดอะไรอีกจงแดก็รีบเก็บของอย่างลนลาน เพราะอาการมือสั่นที่ชานยอลสังเกตเห็น และร่างบางก็ไม่ได้รีรออะไรรีบสาวเท้าเดินตรงไปยังห้องเรียนทันที เห็นแบบนั้นชานยอลเลยอดที่จะตำหนิคนที่ปากเสียไม่ได้

    “เห็นไหมล่ะ โดนโกรธรึเปล่าวะนั่น ...ถามบ้าอะไรไม่คิด”

    “ก็...ขอโทษ”

    “เฮ้อ...ช่างเหอะไปเรียนได้แล้ว”

     

    - B A D G U Y –

     

    จงอินที่ตอนนี้มีเรียนบ่ายแต่ก็เป็นอันต้องมาเรียนเยเที่ยวเมื่ออาจารย์ซีวอนดันติดธุระจนต้องยกเลิกคลาสไปกะทันหัน เมื่อได้มาแล้วจงอินจะทนอยู่ต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน เพราะเห็นว่าวันนี้จงแดฮยองเองก็มีกิจกรรมอยู่บอกว่าคงจะเลิกช่วงเย็นๆ จงอินเลยถือโอกาสรอกลับพร้อมกันเสียเลย

    แต่เพราะว่างจัดเพื่อนก็กลับไปกันหมดแล้ว จะให้เขาไปหาจงแดฮยองก็ไม่ได้เพราะห้ามคนนอกเข้า ที่เดียวที่เขานึกออกที่จะมาเลยก็คือ...ห้องสมุด

    มันเงียบสงบเหมาะแก่การงีบหลับของเขาเสียจริง ร่างสูงเดินไปเรื่อยๆ กะว่าจะหาที่ที่ไม่มีคนอยู่เสียหน่อย แต่ขณะที่กำลังเดินผ่านชั้นวางหนังสือนั้นตาก็ดันเหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่ง...

    หนังสือเล่มนี้มันเป็นหนังสือที่เซฮุนชอบอ่านมาก เมื่อมาห้องสมุดทีไรเจ้าตัวก็จะตรงดิ่งมาที่ตรงนี้และหยิบเอาหนังสือเล่มนี้ติดมือไปอ่านด้วยทุกครั้ง แม้จะอ่านมันจบไปแล้วหลายรอบแต่หมอนั่นก็ไม่เคยเบื่อที่จะอ่านมันซ้ำๆ จงอินรู้ดีเพราะเขา เคยเป็นเพื่อนกับหมอนั่นยังไงล่ะ หึ!

    ก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกันว่าหนังสือเล่มนี้มันมีดีอะไรนักหนาหมอนั่นถึงได้ติดงอมแงม เคยขออ่านต่อแต่หมอนั่นก็ไม่เคยจะเปิดโอกาสให้เขาได้อ่านมันสักครั้ง

    มือหนาเอื้อมไปหวังที่จะหยิบเอาหนังสือเล่มนั้นออกมาจากชั้นวาง แต่แล้วก็มีมือใครสักคนมาหยิบเอาหนังสอเล่มเดียวกันกับที่เขาหมายตาไว้ไปเสียก่อน เพียงแค่นิดเดียวเขาก็จะหยิบหนังสือเล่มนั้นได้แล้วเชียว!

    !!!

    เพราะชั้นที่หนังสือเล่มนั้นวางอยู่มันไม่ได้สูงมากนัก มันอยู่ในระดับสายตาของเขาพอดีนั่นจึงทำให้จงอินเห็นว่าใครคือคนที่ฉวยหยิบเอาหนังสือเล่มนั้นไปก่อนเขา คนที่ยืนอยู่ฝั่งนั้นเองก็ไม่ได้คิดที่จะหลบสายตาที่จ้องมอง ใบหน้าหล่อเหลานั้นยกยิ้มมุมปากส่งมาให้จงอินอย่างกวนประสาท

    โอ เซฮุน!!!

    “หนังสือเล่มนี้มันเป็นของฉัน” เซฮุนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเอ่ยขึ้น

    “....”

    “ก็เหมือนกับจงแดฮยองที่เป็น ของฉัน”  ตั้งใจเน้นย้ำกับคำว่า ของฉัน ให้ชัดเจนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ จงอินไม่ได้ตอบโต้อะไรเขาเพียงแค่ยืนนิ่งไม่ได้แสดงสีหน้าใดออกไป แต่มือทั้งสองข้างที่ทิ้งลงข้างตัวในตอนนี้กำลังกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน

    “อะไรที่มันเป็นของฉันมันก็ต้องเป็นของฉันอยู่วันยังค่ำ”

    “....”

    “ไม่ว่าใครจะมาแย่งมันไป...ฉันก็จะแย่งมันคืนกลับมา!!

     

    2BC

                 

    ................................................................................

    กลับมาล๊าวววว

    คิดถึงกันบ้างไหมเอ่ย?  จงอินของเราแลดูร้ายเนาะ 

    เซฮุนจะกลับมาทวงจงแดฮยองคืนแล้วทีนี้จงอินของเรา (?) จะทำยังไงล่ะ

    อย่าลืมเอาใจช่วยจงอินกันด้วยนะคะ เดี๋ยวๆๆ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕

    ต้องเอาใจช่วยเซฮุนสิ 

    กติกายังตามเดิมค่ะ ใครทายถูกว่าคนที่ทำให้ทั้งสองคนแตกคอคือใคร

    สามารถขอคู่ที่อยากอ่านได้ หึหึ! รอดูเฉลยกัน!! 

     

    เหมียวเฮดเหมียวหง่าว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×