"
สวยชะมัดเลย..นายว่ามะยุนโฮ"
อยู่ดีๆเจ้าเจ้ายูชอนเพื่อนตัวแสบก็ยิงคำถามมาที่ผม จนทำให้ผมต้องละสายตาจากรายงานที่กองอยู่ตรงหน้า...แล้วมองไปยังที่มาของคำถามนั้น
"อืม..สวย นายรู้จักเธอรึเปล่ายูชอน??"
ผมถามออกไปเพราะอยากรู้จักเธอคนนั้นมากกว่านี้...เพื่อนของผมคนนี้ อนาคตคงได้เป็นประธานสมาคมผู้สื่อข่าวเป็นแน่แท้..เรื่องของชาวบ้านทุกเรื่องขอให้ไม่ใช่เรื่องเรียน พี่แกรู้ทุกเรื่อง
"เธอ?? นายหมายความว่าไง..นั่นน่ะ คิมแจจุง เป็นผู้ชายนะเว้ย...เป็นดาวคณะนิเทศไง...อะไรกันนายนี่น่าจะเงยหน้าขึ้นมาจากกองตำราเครื่องกลพวกนั้นบ้างนะ..ชักจะเหมือนหุ่นยนต์เข้าทุกวันแล้วนายน่ะ..หุ่นยนต์หมีอ่ะรู้จักไม๊"
ผมถามไปหน่อยเดียว เจ้ายูชอนบ้า หลอกด่าผมเมาป็นชุด
"ก็เพราะชั้นมีเพื่อนอย่างนายน่ะสิ ก็เลยต้องเรียนหนักเป็น 2 เท่า ชดเชยในส่วนที่นายเอาเวลาไปสาระแนเรื่องชาวบ้านไงล่ะ....ไอ้หุ่นยนต์หมีตัวนี้น่ะ ทำการบ้านให้นายลอกทุกวันนะเฟ๊ย...ไอ้ห้อย!!"
ยูชอนทำหน้าบอกบุญไม่รับและหยุดพูดทันที คำว่า 'ไอ้ห้อย' เป้นไม้ตายของยุนโฮที่ใช้ได้ผลกับยูชอนเสมอ...เพราะไม่ว่าคำด่าอะไรก็ไม่สามารถทำให้หนังหน้าของยูชอนระคายเคืองได้เลย นอกจากคำว่า 'ไอ้ห้อย' เท่านั้น
"ชื่อคิมแจจุงเหรอ...นั่นสิสมควรจะอยู่ตรงกลางจริงๆด้วย"
ผมยังไม่ละความสนใจจากเธอคนนั้น..คนที่ยูชอนบอกว่าเป็นผู้ชาย!!~
คิมแจจุง..อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆของเค้า...ดวงตาที่กลมโต ผิวที่ขาวเนียนดังหิมะ ทั้งรอยยิ้มที่สดใส และเสียงหัวเราะที่ทำให้คนที่ได้ยินอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
ผมมองภาพตรงหน้าอย่างไม่วางตา จนเจ้ายูชอนเริ่มที่จะรู้สึกได้ ถึงอาการที่ดูสนใจจนเกินไปของผม
"นายสนใจเหรอ..ยุนโฮ อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะ "
"ทำไมวะ?" ผมถามออกไปด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะขุ่นเคือง...ผมจะคิดอะไรมันก็เรื่องของผมนี่นา
"ก็ แจจุงน่ะ เป็นแฟนกับรุ่นพีคังอินประธาน จอมโหดของคณะเรานี่..แล้วพี่คังอินก็หวงแจจุงมากด้วย นายอย่าไปแหยมเชียวนะ"
ยูชอนพูดด้วยสีหน้าหน้ากลัว...ในขณะที่ผมเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ไม่ใช่เพราะแจจุงเป็นแฟนกับพี่คังอิน แต่เพราะพี่คังอินเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเอง ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องของแจจุงมาก่อน เรื่องนี้มีคนรู้ไม่มากนัก แม้แต่ยูชอนเอง...ผมกับพี่คังอินมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เพราะพี่คังอินเป็นประธานคณะ ผมเองไม่อยากจะให้ใครมองว่าผมใช้เส้นสายจึงไม่ได้บอกใคร...เราอยู่ใกล้กันกว่าที่คิดนะ คิมแจจุง
วันเวลาผ่านไป...จนถึงวันที่พี่คังอินเรียนจบ แต่ทำงาน แต่ทั้งคู่ก็ยังคงรักกันเหมือนเดิม
ทุกวันผมได้แต่เฝ้ามองความสัมพันธ์ระหว่าง แจจุงกับพี่คังอินพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ....โดยที่ไม่เคยแสดงตัวออกไปทำความรู้จัก
แจจุงไม่รู้หรอกว่า..ถูกผมเฝ้ามองอยู่ทุกวัน คิมแจจุงคนนั้นกลายเป็นคนสำคัญของชีวิตผมโดยที่ตัวเค้าเองไม่รู้ตัวซักนิด...ทุกครั้งเวลาที่ผมได้พบกับพี่คังอิน พี่เค้าก็มักจะเล่าเรื่องของแจจุงให้ผมฟังเสมอ...และขยั้นขยอที่จะให้แนะนำแจจุงให้ผมรู้จัก แต่ผมก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา มันเจ็บเกินไป..ผมไม่อยากจะสารภาพว่าตอนนี้ผมหลงรักแจจุงเข้าเต็มเปาแล้ว...คนที่ไม่รู้แม้กระทั่งว่าผมมีตัวตนอยู่บนโลกนี้....ผมพอใจที่จะมองคนที่ผมรักทั้งคู่มีความสุขจากที่ไกลๆแบบนี้ เพราะหากเวลาที่น้ำตาของผมไหลออกมาพวกเค้าจะได้ไม่ลำบากใจ....
และแล้ววันนึง...สิ่งที่ผมเฝ้ามองมาตลอดก็พังทะลายลง...เมื่อ พี่คังอินบอกว่าจะแต่งงานกับผู้หญิง....แน่นอนว่าไม่ใช่แจจุง แล้วแจจุงล่ะจะเป็นยังไง
ผมทั้งเสียใจ..และทั้งโกรธ ...ผมไม่ได้โกรธพี่คังอิน เพราะผมรู้ดีว่าพ่อแม่ของพี่คังอินเป็นคนหัวโบราณ และก็เป็นคนจัดการเรื่องนี้ให้พี่คังอิน
แต่ผมโกรธตัวเอง ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทำไม่ได้แม้แต่แสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา...ที่จริงผมควรจะดีใจใช่ไม๊ที่ผมจะสามารถรักแจจุงได้โดยที่ไม่รู้สึกผิดต่อพี่คังอิน...แต่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย คนที่ผมรักทั้งคู่กำลังเจ็บปวด
ในวันแต่งงานพี่คังอิน..สวมชุดเจ้าบ่าวสีขาว กล่าวคำสาบานต่อหน้าพระเจ้า ว่าจะรักและซื่อสัตย์ ต่อ เจ้าสาวคนที่อยู่ตรงหน้า ทั้งในยามสุข ยามทุกข์ ยามเจ็บ ยามไข้ จวบจนชีวิตจะหาไม่ (ผมมารู้ภายหลังว่าพี่สะใภ้ของผมมีชื่อแปลกๆว่าทึ๊กกี้...) แจจุงเข้มแข็งกว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก เธอมาร่วมในงานด้วย ในฐานะเพื่อน...แจจุงนั่งอยู่ข้างหน้าผม จ้องมองไปยังแท่นพิธีที่พี่คังอินและเจ้าสาวหน้าตาจิ้มลิ้มกำลังทำพิธีอยู่....ในใจของเธอคงเจ็บปวดที่คนที่อยู่ข้างๆพี่คังอิน..คนที่จะกล่าวคำสาบานต่อจากพี่คังอินไม่ใช่เธอ...เธอไม่รู้หรอก คนที่เจ็บปวดกว่าเธอ อยู่ตรงนี้............
ตั้งแต่วันนั้แจจุงก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน....รอยยิ้มหวานๆมิได้จางหายไปจากใบหน้าที่งดงามราวผู้หญิงของแจจุง แต่ผมก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ได้มาจากใจจริง...ข้างในใจนั้นคงเรียกหาแต่พี่คังอินตลอดเวลา....
ทุกคืนแจจุงจะไปที่ผับ... แล้วมองหาใครซักคนนึงคนที่เค้าจะสามารถเข้ามาเติมเต็มร่องรอยของพี่คังอินในใจจองแจจุงได้
...แจจุงมักจะตอบรับคำชวนของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย แล้วออกไปพร้อมกับคนเหล่านั้น....ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคืนนั้นทุกอย่างมักจะจบลงด้วยเซ็กส์....และสิ่งนั้นก็ไม่เพียงพอที่จะรักษาบาดแผลในใจของแจจุงได้ หากแต่มันเปรียบเสมือนกับการรับมอร์ฟีนบรรเทาอาการปวดไปวันๆ จนในที่สุดก็ลุ่มหลงไปกับมอร์ฟีนจนถอนตัวไม่ขึ้น โดยที่ไม่ได้รักษาอาการเจ็บปวดที่เป็นมาแต่แรกเลย....เพราะแจจุงกลับมานั่งอยู่ตรงมุมเดิมทุกคืนในผับนั้น
ผมเฝ้ามองภาพนั้นด้วยความเจ็บปวดใจ...แน่นอนว่าหากผมก้าวออกไปแล้วถามแจจุงว่าไปกับผมไม๊ แจจุงจะต้องตอบรับอย่างแน่นอน แต่มันจะแตกต่างอะไรล่ะ...ถ้าทำแบบนั้นผมก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ชายพวกนั้นเลยน่ะสิ
คืนนี้ก็ไม่ต่างจากคืนก่อนๆ...เพียงแต่คืนนี้ผมมากับเจ้ายูชอนเพื่อนตัวแสบคนเดิมของผมนั่นแหละ...(แปลกใจล่ะสิที่ผมยังคบกับมันอยู่...นี่เป็นเพราะมันไม่ยอมเลิกคบกะผมตะหาก) แจจุงยังคงนั่งอยู่ในมุมเดิม...เสียงเพลงและแสงสี ปลุกเร้าหัวใจได้เป็นอย่างดี...เจ้ายูชอนทำท่าเหมือนไม่เคยพบเคยเห็น ร่อนแรดไปทั่วทุกโต๊ะที่มีคนหน้าตาดี...และทุกครั้งก็ถอยรูดกลับมาเมื่อคนที่เล็งไว้ แสดงตัวว่ามากับคู่ของตัวเอง
"อ๊ะ...นั่น...คนสวยคนนั้น"
ยูขอนอุทานขึ้นแล้วเดินร่อนท่าจิ๊กโก๋หลังวังไปที่โต๊ะที่แจจุงนั่งอยู่ทันที หน้าของผมร้อนผ่าวขึ้นมาทันที นอกจากอายแทนท่าเดินของมันแล้ว..ยังคิดไม่ถึงว่านอกจากเจ้านี่จะปากห้อย หัวโหนก แล้วยังสมองไก่อีกหรือเนี่ย....ยูชอนจำแจจุงไม่ได้!!
ผมมองทั้งคู่ทักทายกันอยู่พักนึง ก่อนจะพากันมาที่โต๊ะที่ผมนั่งอยู่....
"เอ่อ...นี่..ชองยุนโฮ..เพื่อนผมครับ...ส่วนผม........"
ก่อนที่ ยูชอนจะทันได้แนะนำตัวเอง แจจุงก็พูดแซงขึ้นมา...
"ผม...คิมแจจุงครับ....ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณชอง"แจจุงแนะนำตัวเองก่อนที่จะยื่นมือออกมา
"ครับ...คุณแจจุง...เรียกผมว่ายุนโฮเฉยๆก็ได้ครับ...." ผมยื่นมืออกไปสัมผัสมือกับแจจุง....นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมได้พูดและสัมผัสตัวกับแจจุงแบบนี้...
"ยุนโฮ......."
"ครับ...มีอะไรหรือครับ...แจจุง"
"เรามานอนกันมั้ย...."..ผมไม่แปลกใจกับคำชวนของแจจุงหรอก ผิดกับเจ้ายูชอนที่ตอนนี้อ้าปาก(ห้อย)..ค้างช็อคซีเนม่าไปแล้ว...
"ครับ..ก็ได้" ผมจะปฏิเสธคนที่ผมรักได้ยังไง..แจจุงฉุดมือผมออกมาจากผับนั้น ทิ้งเจ้ายูชอนยืนปากห้อยเหวออยู่คนเดียว....คนที่ไม่มีใครสนใจ..
เมื่อมาถึงที่ห้อง แจจุงก็ขอตัวไปอาบน้ำก่อน...ผมนั่งรอที่เตียง มองไปรอบๆห้อง..ห้องของแจจุงเป็นระเบียบเรียบร้อยและกว้างกว่าห้องของผมมาก
ผมยังบอกแจจุงเลยว่าห้องของผมเล็กและรกยังกะรังหนู...ที่นี่ไม่มีรูปของพี่คังอินซักใบ ข้าวของตกแต่งที่มีดูน้อยกว่าที่ควรจะเป็น มีร่องรอยของการถูกนำออกไปอยู่หลายที่...ของเหล่านั้นคงเป็นของแทนความทรงจำของพี่คังอิน ที่แจจุงเอาออกไปเพราะไม่อยากมองเห็นมันอีก...หากแต่ว่า จิตใจของเรานี่เองที่เป็นเครื่องบันทึกที่ทรงอานุภาพที่สุด... ถึงไม่มีของเหล่านั้นอยู่ที่ทุกอย่างก็แจ่มชัดในความทรงจำ
ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่
นั้น..เตียงพี่คังอินเคยนอน..แล้วหลับตาลง...วันนี้ผมจะทำได้สำเร็จไม๊นะ..ผมจะรักษาแผลใจให้แจจุงได้ไม๊
ไม่นานนัก แจจุงก็ออกมาจากห้องน้ำ...ผมลืมตามองภาพนางฟ้าตรงหน้าอย่างหลงใหล...หยดน้ำที่เกาะพราวตามเส้นผม...ตลอดจนกลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่นั้น แจจุงเปลือยท่อนบนเผยให้เห็นแผ่นหลังอันขาวเนียน ขณะกำลังใช้ผ้าผืนเล็กจัดการกับผมที่เปียกของตัวเอง
ผมรีบหลับตาลงเมื่อแจจุงหันกลับมา....ความเงียบปกคลุมห้องอยู่ครู่นึง ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป..ผมรู้สึกได้ถึงสัมผัสแผ่วเบาแต่เย็นเยือกที่ข้างแก้ม...กลิ่นสบู่อ่อนๆ..ผมลืมตาขึ้น แต่ก็เห็นแจจุง...คนที่ผมเฝ้ามองมานานนับปี ตอนนี้เธออยู่ตรงหน้า และพร้อมที่จะมอบกายให้ผม...แต่ผมไม่ได้ต้องการแค่นั้นหรอก
"อาบเสร็จแล้วหรือครับ....." ผมลืมตาขึ้นมา แล้วแกล้งงัวเงียพอเป็นพิธี เดี๋ยวแจจุงจะรู้ตัวว่าผมเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา
"ง่วงนอนเหรอครับ...." แจจุงถามเบาๆ
"นิดหน่อยครับ...แต่ตอนนี้ตื่นเต็มที่แล้วล่ะ....."ผมลูบแก้มใสเบาๆ ไล้ไปทั่วไปหน้า ก่อนหยุดลงที่ริมฝีปากบาง....ลูบไปตามรูปปากนั้นเบาๆ
"มองใกล้ๆ....แจจุงสวยจังครับ....เริ่มได้รึยังครับ..."
"อืมเอาสิ..เริ่มกันเลย" พูดเสร็จแจจุงก็จู่โจม เข้ามาด้วยจูบอันหอมหวานทันที....ลิ้นเล็กสอดแทรกเข้ามาอย่างไม่ลดละ
"อืม....ฮืออ"..ผมได้ยินแต่เสียงครางหวานของแจจุง....
ผมเองก็ตอบรับมันด้วยความโหยหา...นี่เป็นสิ่งที่ผมต้องการมานาน แจจุงเริ่มลูบไล้ต่ำลงมา...ก่อนที่มันจะไปถึงจุดที่ผมจะไม่สามารถระงับตัวเองได้
ผมคว้าข้อมือของแจจุงเอาไว้...ถ้าปล่อยเอาไว้...พรุ่งนี้แจจุงก็คงมองผมไม่ต่างจากผู้ชายพวกนั้น...
"ทำไมล่ะ...."คิ้วสวยขมวดกันจนยุ่ง ริมฝีปากแดงสดเผยอหอบเร่า ลมหายใจยังคงกระชั้นอยู่
"แจจุงบอกว่าจะนอนไม่ใช่หรอ....มานอนกันเถอะครับ" ผมจับจับแจจุงนอนลงอย่างว่าง่าย คงเพราะกำลังงงจนคิดอะไรไม่ออก จึงยอมทำตามอย่างว่าง่าย แล้วผมก็ดึงผ้าห่มที่ปลายเท้าขึ้นมาคลุมร่างเราทั้งคู่เอาไว้ แล้วเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง
"ราตรีสวัสดิ์ครับ....แจจุง"ผมกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น...ผมไม่อยากจะปล่อยให้คนๆนี้ออกจากอ้อมแขนของผมไปอยู่ในอ้อมแขนใครอีกแล้ว....ผมจะให้ความอบอุ่นกับคนคนนี้ จนกว่ามันจะซึมลึกเข้าไปถึงภายในใจที่เหน็บหนาวนั้น ....แล้วผมก็กอดแจจุงไว้ในอ้อมแขนอย่างนั้นทั้งคืน
ผมรู้สึกตัวก่อนที่แจจุงจะตื่น....แจจุงนอนหลับไหลเป็นเจ้าหญิงนิทรา...ผมจูบเบาๆที่หน้าผากของแจจุง...ร่างบางขยับตัวนิดนึงก่อนที่จะครางเบาๆ
"คังอิน......." เมื่อไรที่ผมลบพี่คังอินออกไปจากใจคุณได้....เมื่อนั้นเราคงจะได้เริ่มต้นความรักของเราบ้าง...
"อรุณสวัสดิ์ครับ....แจจุง...."
"อืม..." เสียงหวานยังคงตอบอยู่ในลำคอ เพราะเพิ่งจะลืมตาขึ้นมา อาการงัวเงียยังคงมีอยู่
"ผมทำอาหารเช้าไว้...อยู่ที่โต๊ะอาหารน่ะครับ...ผมต้องรีบไปทำงาน เดี๋ยวสายน่ะครับ...อ้อ!..นี่เบอร์ผมน่ะครับ...คืนนี้เอายังไงก็บอกแล้วกัน...ผมไปล่ะ...แล้วเจอกันครับ..."
แล้วผมก็ออกจากที่นั่นมา...คังอิน..ชื่อที่แจจุงละเมอถึงเหมือนเหมือนมีดที่คอยกรีดแทงหัวใจของผม
หลังจากเลิกงานผมได้แต่นั่งลุ้นว่าแจจุงจะติดต่อกลับมารึเปล่า...ผมพลาดอะไรไปรึเปล่าที่ไม่ได้มีอะไรกับแจจุง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมรีบรับทันที
แต่สิ่งที่ผมได้รับคือ...
"ไอ้หุ่นยนต์หมี แกทิ้งชั้นไว้แบบนั้นได้ไงวะ....#8&@H58*/?=_%0@฿...." และอีกนับไม่ท้วนที่เจ้ายูชอนมันขุดขึ้นมาด่าผม..หลังจากที่วางสายจากเจ้ายูชอน และซับขี้หูที่ไหลเยิ้มออกมาแล้ว ผมก็กลับมามาอยู่ในอารมณ์ลุ้นระทึกอีกครั้ง....และแล้วเย็นวันนั้นแจจุงก็โทรกลับมา...
ผมดีใจกระโดโลดเต้นจนเพื่อนในที่ทำงานพากันแปลกใจ...
"ฮัลโล...ยุนโฮเหรอ..คืนนี้ว่างมั้ย..."ผมได้ยินเสียงหวานออดอ้อนที่ปลายสาย
"ว่างครับ...มีอะไรเหรอครับ"ผมตอบกลับไปอย่างไว้เชิง ที่จริงผมเองก็คิดถึงแจจุงจะแย่
"ฉันเหงาน่ะ...มาเที่ยวด้วยกันหน่อยได้มั้ย"
"ได้ครับ...ที่ไหนล่ะครับ..."
"ที่เดิมน่ะ........"
"ได้ครับ...รอผมสักพักน่ะครับ....จะรีบไป....แล้วเจอกันครับ..." ผมฟังออกนะว่าแจจุงตั้งใจจะยั่วผม
คืนนั้นเราเที่ยวด้วยกันจนสุดเหวี่ยง แจจุงดูจะผ่อนคลายมากขึ้นเมื่ออยู่กับผม... แล้วผมก็ตกลงใจว่าจะไปค้างกับแจจุงที่ห้องอีกคืนหนึ่ง...
เมื่อถึงยังห้องนอน มือบางรีบโอบรอบคอผมไว้อย่างรวดเร็ว ผมสบตากับแจจุง ผมรู้สึกได้ถึงลมหายร้อนด้วยแรงปรารถนารดอยู่ที่ปลายจมูก ริมฝีปากบางค่อยๆเลื่อนใกล้เข้ามา จนเกือบจะทาบลงบนปากของผม แต่ผมต้องหยุดมันก่อนที่จะเลยเถิดไปกว่านี้...ก่อนที่ผมจะแพ้ใจตัวเอง
"แจจุง....เราไปอาบกันก่อนดีมั้ย...ผมทำงานมาทั้งวัน...เหม็นน่าดู..." ผมตัดบทก่อนที่แจจุงจะทำอะไรต่อไป...ร่างบางในอ้อมแขนทำเสียงจิ๊กจั๊กในลำคอ
"เรา...ไปอาบด้วยกันดีมั้ย..." แจจุงส่งสายตาทะเล้นให้ผมก่อนที่จะวิ่งหายไปในห้องน้ำ ผมอดที่จะนึกขำไม่ได้...บางทีก็ทำตัวเหมือนเด็ก น่าเอ็นดูจริงๆ
ไม่นานนักแจจุงก็โผล่ออกมาจากในห้องน้ำ
"ยุนโฮ....ฉันเตรียมน้ำแล้ว...มาอาบกันเร็ว..." แจจุงโผล่ออกมาแต่ส่วนหัวแล้วร้องเรียกผม..แล้วโปรยยิ้มให้อย่างจงใจ
ผมยิ้มตอบไปก่อนจะดินไปยังห้องน้ำ
ความร้อนของน้ำ ทำให้เกิดไอน้ำจาง ขึ้นทั่วห้องน้ำ แจจุงยืนอยู่ตรงหน้าผม..ไอน้ำทำให้ผมมองเห็นอะไรไม่ชัดนัก มือน้อยค่อยๆบรรจงปลดเสื้อผ้าของผม แล้วเหวี่ยงไปยังมุมห้องน้ำ
ผมประคองใบหน้าหวานไว้ ก่อนจะประทับจูบอ่อนหวานลงบนริมฝีปากของอีกฝ่าย คลอเคลียเบาๆ แล้วจึงผละออก ดึงรั้งร่างบางลงในอ่างน้ำด้วยกันน้ำล้นออกจากอ่างเป็นสายเมื่อผมและแจจุงทิ้งน้ำหนักลงๆปในอ่างใบย่อมนั้น
ผมจัดการอาบน้ำให้แจจุง ลูบไล้ฟองสบู่ไปตามเรือนร่างที่เปียกน้ำของแจจุงอย่างอ่อนโยน รวมไปถึงส่วนนั้น ผมลูบไล้ เคล้าคลึง ทำความสะอาด ส่วนนั้นให้ อย่างอ่อนโยน... ริมฝีปากก็ประโคมจูบไปทั่วร่างเช่นกัน ใบหน้าหวานยู๋หน้าด้วยความเสียวซ่านเบื้อง ปากบางกัดจนแดงฮ้อ ความร้อนค่อยๆทวีขึ้น จนเกือบจะประทุออก
"อา......ยะ..ยุน" เสียงครางของแจจุงก้องไปทั้งห้องน้ำ เมื่อผมระดมจูบไล่ไปตามต้นคอขาวเนียนนั้น..
"ไปที่เตียงกัน...จะทนไม่ไหวแล้ว"
ใบหน้าของแจจุงแดงเรื่อไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำร้อน หรือ อารมณ์ที่พลุงพล่าน บางครั้งผมก็นึกสงสารแจจุงอยู่เหมือนกัน..ที่ไม่สะสางอะไรให้มันเสร็จๆไปซะที เล่นหลอกให้อยากแล้วจากไปตลอด... อดทนอีกหน่อยนะแจจุง รอให้ถึงวันที่คุณมอบให้ผมทั้งกายและใจ ถึงวันนั้นผมก็จะมอบให้คุณทั้งกายและใจเหมือนกัน
ผมอุ้มแจจุงออกมาจากห้องน้ำ...วางแจจุงไว้บนเตียง แล้วตามด้วยจูบอ่อนหวาน ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปลิ้มรสความหวานจากร่างบางจนได้แต่ครางอือ ในลำคอ
"อะ...อือ..." เสียงรางบางครางสะดุด ด้วยความเสียวซ่าน จากลิ้นอุ่นที่คอยปรนเปรอให้อย่างไม่บกพร่อง.....ผมควานลงต่ำไปสัมผัสแข็งขืนผ้าให้ชุดคลุมบางๆนั้น สัมผัสแผ่วเบา ก่อนกระชับกำรวบขึ้น แล้วขยับขึ้น-ลง เป็นจังหวะ
"อือ....อืม....อ้า....." เสียงหวานยังคงครางไม่หยุด รู้สึกดีจนแทบละลายเป็นพื้นเดียวกับเตียงนอน
ผมขยับมือเป็นจังหวะ ขึ้น-ลง กระชั้นขึ้น ส่วนปากหนาก็ยังประโคมจูบหนักหน่วง ไม่แพ้กัน ร่างบางได้แต่ร้องครางอย่างสุขสม ทั้งร่างบิดเร่าด้วยความสียวซ่าน
ไม่นาน ความร้อนก็ถูกปลดปล่อยออกมา ราวกับลาวาเดือดที่ประทุออกมาจากภูเขาไฟ ริมฝีปากหนายังคงสาละวน ปรนเปรอจูบหนักไม่หยุดหย่อน จนร่างบางต้องส่งเสียงในลำคอเป็นการประท้วงว่ากำลังขาดอากาศหายใจ ผมกดจูบหนักๆ ทิ้งท้ายก่อนผละออก แล้วก้มต่ำลง โลมเลียคราบใคร่ที่เปรอะเปื้อน ออกมาทั้งหมด จนสะอาด
ตอนนี้ที่ผมจะทำให้แจจุงได้ก็มีเพียงเท่านี้....ถึงแม้ใจของแจจุจุงจะยังไม่เปิดรับผม แต่ผมก็มอบความสุขให้แจจุงได้ในแบบของผม ผมจะช่วยให้แจจุงมีความสุข ไม่ใช่ตักตวงหาความสุขจากแจจุง...จนกว่าจะถึงวันที่เราทั้งสองจะมีความสุขด้วยกันทั้งคู่
ผมดึงผ้าห่ม ที่ถูกเขี่ยหล่นจากเตียงไปอยู่ที่พื้น ขึ้นมาคลุมร่าง ของเรา แล้วสอดมือโอบรอบตัวร่างบางแล้วกดจูบหนักๆที่ขมับ เอื้อมมือปิดไฟที่หัวเตียง
"ราตรีสวัสดิ์ครับ......แจจุง"
คืนแล้วคืนเล่าที่ผมได้มีแจจุงอยู่ในอ้อมแขนแต่เราก็ไม่ได้มีอะไรกัน...แจจุงเองก็ทำทุกวิถีทางที่จะมีเซ็กส์กับผม...แต่คิมแจจุง..คุณดูถูกชองยุนโฮคนนี้เกินไป
ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าผมต่างจากคนที่คุณเคยเจอมา....
แจจุงไม่ได้ไปที่ผับนั่นอีกแล้ว...เพราะแจจุงอยู่กับผมแทบทุกคืน...และแจจุงก็ดูมีชีวิตชีวากว่าแต่ก่อนมาก....ผมรู้สึกดีที่อย่างน้อยก็หยุดวงจรอุบาทว์นั่นไปได้ แม้จะแค่ซักระยะก็ยังดี..และก็ได้แต่หวังว่าแจจุงจะไม่กลับไปสู่วังวนกาเมนั่นอีก ชองยุนโฮคนนี้แหละจะฉุดรั้งอย่าสุดกำลัง
ผมเพิ่งกลับมาจากคังนึงเมื่อเช้านี้เอง... เมื่อ 3 วันก่อนผมเดินทางไปที่นั่นเพราะเรื่องงาน ผมร้อนใจแทบทนไม่ไหว ไม่รู้ว่าพอผมไม่อยู่แจจุงจะกลับไปที่ผับนั่นอีกรึเปล่า...ผมส่งข้อความไปบอกแจจุงว่าผมกลับมาถึงโซลแล้ว...ชั่วไม่กี่อึดใจแจจุงก็โทรกลับมา
คิดถึงผมสินะ...คุณเริ่มรักผมแล้วสินะ...นี่ผมคิดเข้าข้างตัวเองไปรึเปล่า
ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แล้วรับสายนั้น พยายามปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุด
"ครับ..แล้วเจอกัน" ผมวางสายแล้วตรงไปยังห้องพักของแจจุง
...คืนนี้ก็เหมือนกับทุกคืนที่ผ่านมา ผมช่วยให้แจจุงมีความสุข และกำลังจะเข้านอน แต่ระหว่างนั้น
"ยุนโฮ.....ทำไมยุนโฮถึงไม่ทำ.....กับแจจุงล่ะ" แจจุงช้อนตาถามผม "ผมรอ....."
"รออะไรหรอ....."ร่างบางยังคงสงสัยใคร่รู้
"รอวันที่แจจุงจะรักผมหมดใจน่ะสิ...."
ร่างบางลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ตกใจกับคำตอบที่ยุนโฮพูดออกมา
"รออะไร....หน่ะ...." ใบหน้าขาวระบายสีแดงระเรื่อทั่วหน้า
"รอ...ให้แจจุงพร้อม" ผมสบตาแจจุง วันนี้ผมคงต้องบอกความในใจกับแจจุงแล้ว
"ชั้นเสนอตัว อ่อยเหยื่อ ให้ท่านายขนาดนี้ นายยังว่าชั้นไม่พร้อมอีกเหรอ" แจจุงเริ่มเสียงดังขึ้น
ผมเอื้อมมือไปทาบกับหน้าอกของแจจุง
"ผมรู้ว่าคุณ.............มีอดีตที่เจ็บปวด.......... ยังลืมไม่ได้....จนทุกวันนี้" หน้าหวานยิ่งระบายสีจัด เมื่อผมขยายความ
" ผมจะทำแจจุง.....ลืมเค้าไปให้หมด....."
"............."
"ผมจะรอถึงวัน...ที่แจจุงยอมมอบหัวใจให้ผม จนหมดทั้งดวง......"
"............"
"แล้ววันนั้น...ผมถึงจะครอบครองคุณได้ทั้งตัว....แล้วก็หัวใจ...."
"..........."
"เพราะผม....รักคุณ....ผมรักแจจุงตั้งแต่แรกเห็น...."
"ยะ....ยุน....."
"ผมเฝ้าดูคุณมานาน....ได้ยินเรื่องคุณมาต่างๆนานา....ผมรอจนกว่าจะถึงเวลาขอผมบ้าง....."
".........."
"แล้วคุณก็ให้โอกาสผม......"
"ยุนโฮ......ถ้าฉันจะบอกนายว่า.....นายทำสำเร็จแล้วล่ะ....นายจะว่ายังไง" ผมไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองกับสิ่งที่ได้ยิน
"อะไรน่ะ.....ผมทำอะไรสำเร็จ....."
"คนโง่.....ให้ฉันรอนายอยู่ได้ตั้งนาน...." เวลาที่แจจุงงอนเนี่ยน่ารักจริงๆเลย
".........."
"ฉันรักนาย....ได้ยินมั้ย....แจจุงรักยุนโฮ....แล้วที่นี่จะทำยังไงต่อล่ะ..."แจจุงส่งสายตาแบบนั้นมาให้ผมอีกแล้ว
" อืม.....ทำยังไงดีล่ะครับ.....อย่างนี้แล้วกัน.... "
บทรักที่สมหวังของทั้งสองคน กำลังเริ่มขึ้น....อย่างร้อนแรงภายใต้ค่ำคืนที่แสนหนาวเหน็บ
ตั้งแต่คืนนี้ไปเราทั้งคู่จะเป็นของกันและกันทั้งกายและใจจริงๆ......
'เค้า' รอคอยมานานแสนนาน กับรักใหม่ ที่แสนปรารถนา รักที่ทั้งอบอุ่น อ่อนหวาน และร้อนแรง อยู่ในคนๆเดียว
'เค้า' รอคอยมานานแสนนาน กับรักที่จะได้ครอบครองทั้งตัวและหัวใจ แม้จะนานแค่ไหนก็จะรอต่อไป
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น