ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [Lovelyz] MY DESTINY

    ลำดับตอนที่ #6 : # My Destiny # = "Princess of soli"

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 58


    Ch5   Princess of soli

     

    “โอ้ย!/ เฮ้ย!

    “นี่! ชนคนอื่นก็หัดมีมารยาทบางสิ ขอโทษน่ะเป็นไหม!

    “จำเป็น?”

    “นี่!.....”

    “จะบอกอะไรให้นะ อย่างเธอน่ะ ไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้หรอก”

    “ยัยรุ่นพี่บ้าอำนาจ!

    Loading…….

    . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

    นี่ก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วกับการใช้ชีวิตในโรงเรียนมัธยมปลายโซรี ตอนนี้สมาชิกของเรายังไม่ครบ การเรียนผ่านไปได้ด้วยดี แต่ในอาทิตย์หน้าพวกเราจะมีควินซ์ ที่ฉันห่วงไม่ใช่ตัวฉันหรือ จินกับเยอินหรอก แต่เป็นปรินเซดต่างหาก ที่ไม่รู้จะมาโรงเรียนวันไหน และอีกเรื่องที่ฉันยังไม่สบายใจก็คือ ผู้คนในโรงเรียนชอบมองมาที่ฉันด้วยท่าทางแปลก ซึ่งปกติฉันเป็นคนเข้ากับคนง่ายจะตายไป เฮ้ออ...... แล้วทำไม หรือว่า ฉันทำอะไรให้พวกเขาไม่พอใจกันนะ?

     

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ในขณะที่เหล่านักเรียนชั้นปีต่างๆ กำลังตั้งหน้าตั้งตาตั้งใจเรียนตั้งใจฟัง สิ่งที่คณุครูของพวกเขาสอน ที่หน้าประตูโรงเรียนมัธยมปลายโซรี กลับมีรถยนตร์คันหรูมาจอดเทียบท่า เรียวขายาวสวยก้าวลงจากรถ ในชุดนักเรียนโรงเรียนโซรี กระเป๋านักเรียนถูกหยิบมาจากเบาะข้างการตน ก่อนจะโค้งทำความเคารพพ่อบ้านที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถเฉพาะตัวของคุณหนูของเขา

     

    “ไปก่อนนะคะ”

     ชายใกล้เข้าวัยชราผู้นั่งอยู่ที่นั่งคนขับ พยักหน้าอย่างนอบน้อมก่อนที่คุณหนูของเขาจะปิดประตูรถ เป็นสัญญาณให้ออกรถได้

     

    ขาเรียวก้าวมาตามทางเดินที่ทอดยาวไปทางห้องพักครูโรงเรียนโซรี สาวร่างโปร่งที่ดูยังไงก็บอบบางไม่ต่างจากเจ้าหญิง เดินผ่านห้องเรียนต่างๆ เพื่อหาห้องที่ตนต้องการ

     

    แต่เพราะการค้นกระเป๋าเพื่อที่จะหยิบเอกสารทำให้เธอต้องก้มหน้าเดิน โดยไม่ทันได้มองทางให้ดีนัก จึงทำให้ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะมีสิ่งกีดขวางหรือไม่

     

    ร่างสูงผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวโดยไม่ใส่สูทด้านนอกทับ กำลังถือหนังสือกองโตเดินผ่านร่างไม่รู้จักที่เดินไม่ดูทาง แต่เพราะความคิดที่ว่าจะผ่านทางนี้ไปได้โดยไม่เกิดอะไรจึงทำให้ร่างสูงไม่ทันระวังตัว

     

    “โอ้ย!/ เฮ้ย!

     

    ร่างบางที่มัวแต่สนใจแต่เอกสารในมือตนไม่มองทางเดินให้ดีนักจนไปสะดุดเข้า กับพื้นต่างระดับเข้าให้ 

     

    “เฮ้! ไม่เอานะ!” เสียงร้องอุทานเหมือนคนที่จะบ้าตายให้ได้เสียตรงนั้น ทำให้ร่างสูงที่ล้มจมกับกองหนังสือ ต้องเงยหน้าขึ้นมอง สีหน้าเรียบเฉยมองบุคคลตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย

     

    “นี่! ชนคนอื่นก็หัดมีมารยาทบางสิ ขอโทษน่ะเป็นไหม!

     

    ร่างบางที่รับรู้ถึงการมีตัวตนของร่างสูงเงยหน้าขึ้นอย่างเคืองๆ ก็อะไรนะหรอ โทรศัพท์เครื่องหรูต้องตกพื้นจนหน้าจอแตกก็เพราะยัยนี่ ถ้าไอ้กองหนังสือบ้าๆนั่นไม่บังหน้ายัยตัวสูงนี่ ก็คงไม่มาชนฉันหรอก!

     

    “จำเป็น? ..........แล้วอีกอย่างนะ    เธอต่างหากที่ไม่ดูตาม้าตาเรือนะ ตรงทางเดินเขามีให้เดินไม่ใช่ให้หาของ” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยออกมา อย่างตำหนิ แต่ใบหน้าตายที่ส่งออกมาเป็นสัญญาณได้ดีว่า ร่างสูงได้โกรธ ร่างบางห้นาสวยตรงหน้านี้แล้ว ร่างสูงลุกขึ้นจากกองหนังสือก่อนจะจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย

     

    ก่อนจะปรายจามองมาที่ร่างบางที่นั่งจุมปุกอยู่ พร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้ช้า ใบหน้าที่ออกไปทางสวยคมยื่นเข้าไปใกล้ ดวงตาคมที่พร้อมจะสะกดทุกคนที่เผลอสบตา จ้องลึกเข้าไปในตากลมโต ลมหายใจที่รินรดใบหน้าสวย ทำให้ร่างบางอยากจะขัดขืน แต่เพราะบางสิ่งที่เหมือนจะโดนสะกดจิต ใช่ต้องเป็นการสะกดจิตแน่ๆ เลยทำให้ร่างบางไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย

     

    “แล้วก็..... อย่างเธอน่ะไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้เท่าไหร่หรอกนะ”

     

     

    30%
     

    Jin part

    ณ ห้องบัตเตอร์ฟลาย สถานที่ ที่พวกเรามักจะใช้ในการพักผ่อน ณ ปัจจุบัน นั่นเป็นเพราะมันทั้งเงียบ สงบ แต่ปลอดคน ห้องบัตเตอร์ฟลายนี้เป็นห้องที่ค่อนข้างใหญ่  เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งต่างๆมาจากงบของผู้จัดตั้งโครงการนี้โดยเฉพาะ เช่นเดียวกับพาเลสและเซเลสเทล ในตัวห้องนี้มี 2 ห้องน้ำ และมีห้องครัวในตัวแต่เพราะในบรรดาพวกเราทำอาหารไม่เป็นเลยแม้แต่คิง

     

    ทางด้านหลังของห้องนี้ จะมีประตูเปิดออกไปจะเป็นสวนกุหลาบ  ซึ่งหน้าที่ดูแลก็ยกให้คิงไป เห็นเป็นผู้หญิงที่ดูหวาน บอบบางแต่เวลาที่ทุมเทให้อะไรบางอย่างก็ทุมจนหมดกำลัง หรือแม้แต่ถุงปุ๋ยหนักๆ จิเอยังขอยกเอง แต่กว่าจะถนัดกับงานนี้ ก็ได้ไปหลายแผลเหมือนกัน ก็ขอทำทั้งๆที่ทำเป็นแค่ลดน้ำอะนะ  

     

    ส่วนเยอินรายนั้น เก่งคอมเอามากแถมยังซ่อมของเก่งเอามากๆ  แม้กระทั่งหลอดไป ซึ่งปกติต้องเรียกช่างแต่เยอินก็ขอซ่อมเอง เรียกมาก็เปลืองเงินเปล่า ไม่รู้หวังดีหรืองก

     

    ส่วนฉันทำอะไรน่ะหรอ? ไม่มีอะ........

     

    ก็อกๆๆๆ

     

    ร่างโปร่งหยิบหนังสือออกจะใบหน้าหลังจากวางมันไว้เพื่อพักสายตา แต่ก็พักได้เพียงชั่วครู เสียงจากประตูก็ดังเข้ามาในโสตประสาท เรียกให้ร่างโปร่งต้องลุกไปเพื่อเปิดประตู

     

    “หวัดดี ฉันรยูซูจอง” เมื่อร่างโปร่งได้ทำการเปิดประตู เสียงใสๆก็เอ่ยทักทายคนข้างใน ร่างสูงระหงผู้มีกระเป๋าเป้ใบหรูสะพายหลัง ที่สูทมีเข็มกลัดบอกตำแหน่งอย่างชัดเจน ร่างโปร่งไม่พูดอะไร ได้แต่เปิดทางให้ร่างสูงบอบบางตรงหน้าได้เดินเข้ามาในห้อง

     

    “หวัดดี ยินดีที่ได้รู้จักนะซูจอง ฉันจิน เป็นควีนน่ะ เธอคงเป็นปริ้นเซดใช่ไหม” ร่างโปร่งเอ่ยปากแนะนำตัวหลังจากที่พวกเขาเข้ามาในห้องเรียบร้อยแล้วตอนนี้จิเอยังไม่มาโรงเรียน ส่วนเยอินอยู่ที่ห้องเรียนแล้ว

     

    “อืมใช่ แล้วคนอื่นๆล่ะ” ซูจองนั่งลงที่โซฟาตัวยาว ร่างโปร่งนั่งลงตามก่อนจะเปิดทีวีดู

     

    “เยอินเรียนอยู่ ส่วนจิเอยังไม่มา อ่อ... จิเอเป็นคิงนะ เยอินเธอคงรู้อยู่แล้วใช่ไหม?”

     

    “อืมใช่ ว่าแต่พวกเราไม่ได้เรียนห้องเดียวกันหมดหรอ?”

     

    “ ฉันกับจิเอเราเรียนห้องเดียวกัน เยอินอยู่ห้อง 3  แล้วเธออยู่ห้องไหน?”

     

    “ฉันอยู่ห้อง 2 อ่า ทำไมไม่มีใครอยู่ห้องเดียวกับฉันเลยล่ะ!” ใบหน้าหวานเบ้ลงเมื่อรู้ว่าเธอไม่มีเพื่อนอยู่ห้องเดียวกันเลย แม้แต่เยอินที่อยู่ห้องเดียวกับเธอมาตั้งแต่อนุบาล

    Finish Jin part

     

    แกร๊ก!

    เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจจากทั้งสองคนที่อารมณ์ต่างกันเหลือเกินในตอนนี้ หนึ่งที่นั่งเงียบไร้ความรู้สึกไม่ได้เฉยชา แต่ความรู้สึกของคนอื่นไม่สามารถส่งผ่านถึงได้ กับอีกคนที่หงุดหงิดง่ายและอ่อนไหวง่ายเสียเหลือเกิน พวกเขาจะเข้ากันได้จริงๆน่ะหรอ?

     

    ร่างบางที่เดินเข้ามาจนถึงโซนห้องนั่งเล่นก่อนจะหยุดมองคนแปลกหน้าที่นั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟา กับอีกคนที่นั่งดูทีวีเงียบด้วยใบหน้าไร้อารมณ์สิ้นดี

     

    “เอ่อ... สวัสดีทุกคน” ร่างเล็กยิ้มทักทายอย่างร่าเริงทุกวันแต่เพราะวันนี้มีบุคคลแปลกหน้าอยู่ในห้องด้วย เธอชั่งสวยมาก ดวงตาเรียวโค้ง ริมฝีปากจิ้มลิ้ม ดวงหน้ากลมที่ดูยังไงก็ทั้งสวยและน่ารักไปพร้อมๆกัน การทักทายของจิเอเลยได้บอกแค่สวัสดีพร้อมยิ้มที่ยังอึ้งกับใบหน้าของคนตรงหน้า ยิ่งดูใกล้ๆ ยิ่งสวย แถมส่วนสูงนั่นอีกสูงกว่าจินอีกมั้ง

     

     

    “เอ่อ สวัสดี ฉันรยู ซูจอง เป็นปริ้นเซดนะ” เปรียน... อารมณ์..... ไว..... เหลือเกิน......  ร่างบอบบางที่นั่งอยู่ข้างจินเงยหน้าขึ้นเพื่อแนะนำตัว

     

    “สวัสดี เราจิเอนะ เอ่อ....เราเป็นคิงน่ะ....” ร่างเล็กพูดแนะนำตัวออกไปอย่างไม่มั่นใจ ก่อนจะส่งยิ้มเฝื่อนๆไปให้

     

    “ฮ่า.... จริงหรอ? ทำไมคิงปีนี้น่ารักกว่าควีนซะอีกล่ะ” ร่างสูงลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปกอดจิเออย่างได้เพื่อนใหม่อีกคน แต่ก็พูดพาดพิงถึงคนไม่น่ารักที่นั่งหน้านิ่งอยู่บนโซฟา

     

    “ไม่หรอก ฮ่าๆ”

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    “ย๊า!.... เหนื่อยเป็นบ้าเลยยยยย” เสียงเยอินที่เข้ามาในห้องกับกองหนังสือมากมายในอ้อมแขน คงเรียนหนักสินะ  เห็นเยอินเรียนหนักขนาดนี้สงสัยละสิว่าทำไมห้องหนึ่งอย่างฉันกับจินทำไมไม่ได้เข้าห้องเรียนตั้งแต่เช้า ก็เพราะวันนี้ห้องหนึ่งรวมตัวกันหยุดเพื่อที่จะได้สอบควิซใหญ่ในวันพรุ่งนี้ และเป็นการสอบก่อนห้องอื่นๆ อีกด้วย แต่เพราะจินกับฉันไม่รู้จะไปที่ไหนดีและมาอ่านหนังสือที่ห้องชมรมสะเลย

     

    “อ้าวมาแล้วหรอ?” เมื่อเยอินเข้ามาในห้องเป็นที่เรียบร้อยก็มาเจอซูจองที่นั่งทำหน้าเบื่ออยู่ที่หน้าทีวีโดยที่อีกสองคนนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะกินข้าว

     

    “อืมม...” และได้เสียงยานคางนั่นตอบกลับมา

     

    “นี่! ทำไมทำหน้าตาเบื่อแบบนั้นล่ะ นี่เที่ยงแล้วนะทำกับข้าวให้กินหน่อยนะๆๆ” และเสียงอ้อนวอนร้องขอนั้น ทำให้จินและจิเอเงยหน้าขึ้นจากหนังสือทันที

     

    “คุณซูจอง ทำกับข้าวเป็นด้วยหรอ?” สีหน้าละน้ำเสียงตื่นเต้นของร่างเล็กเรียกให้จินต้องหันหน้าไปมองจิเอสะเดี๋ยวนั้น  แต่ก่อนจะได้มองนานกว่านี้เสียงหวานของอีกคนในห้องก็เอ่ยขึ้นมา

     

    “อืมมม... แต่มีของให้ทำรึไง?” เสียงตอบยังคงดูเบื่อหน่ายแม้จะกำลังจะได้ทำในสิ่งที่ตนชอบก็เถอะ

     

    “ในตู้เย็นอะ ฉันซื้อมาไว้ เมื่อวาน” เมื่อวานเป็นวันอาทิตย์ และกลุ่มพวกเขาได้รับสิทธิพิเศษในการเข้ามาในโรงเรียนในวันหยุด จินและเยอินเลยนัดกันไปซื้อของเข้ามาไว้ในห้อง

     

    “อ่อออ เดี๋ยวจะไปทำเดี๋ยวนี้แหละ.....” ซูจองลุกขึ้นจากโซฟาและรวบผมให้เรียบร้อยก่อนจะเดินไปล้างมือ

     

    “เอ่อ.. จินโทรเรียกพี่มิจูมากินด้วยกันดิ เห็นว่าพวกเคย์กับพี่โซลไม่อยู่ ส่วนไอ้พี่ซิลกิมันอยู่กับแฟนอะ เห็นพี่แกอยู่คนเดียวแล้วสงสารวะ 5555555

     

    “เอ่อ เดี๋ยวค่อยโทร ตอนนี้พี่แกคงยังไม่เสร็จอะ” เสียงบทสนทนาของเยอินและจินยังคงต่อไปก่อนที่จินจะโทรศัพท์ไปหารุ่นพี่  พวกเราเพิ่งจะเข้ามาเรียนได้สัปดาห์กว่าๆ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นของพวกเราก้าวหน้ามาก สนิทชนิดที่เยอินเรียกรุ่นพี่เคย์ว่าเคย์เลยทีเดียว และไม่ต้องสงสัยว่าพวกเราไปรู้จักพวกพี่เขาได้ยังไง พวกพี่เขาเป็นแบบพวกเรา นั่นก็คือพวกมีตำแหน่ง

     

    “พี่มิจูบอกว่าอีกแปบเดียวเดี๋ยวมางานยังไม่เสร็จดี”เสียงของจินเอ่ยบอกพวกเรา

     

    ตอนนี้คุณซูจองทำอาหารใกล้เสร็จแล้ว แต่เสียงโวยวายของเธอยังคงดังมาเป็นระยะๆ อาจเป็นเพราะเยอินเข้าไปช่วย อาจจะไม่เรียกว่าเข้าไปช่วยอะนะ เรียกว่าเข้าไปกวนก็ยังจะดีกว่า

     

    “ตัวสูงเลิกกวนคุณซุจองเดี๋ยวนี้นะ! ไม่งั้นเขางอน” จิเอตะโกนเข้าไปในครัว เพราะเสียงเริ่มดังขึ้นมาอีกรอบ

     

    “ตัวเล็กอ่า.... เขาไม่ได้กวนนะเขาเข้าไปช่วยต่างหาก” เยอินแสร้งเดินคอตกออกมาจากครัวเมื่อได้ยินคำประกาศิตของจิเอ

     

    .
    .
    .
    .
    .
    โต๊ะอาหารเตรียมพร้อมแล้วเรียบร้อยจะเหลือก็แต่คนกิน  สิ่งมีชีวิตทั้ง
    4 ที่นั้งรอคอยรุ่นพี่ที่บอกจะมาเป็นเวลาสองนาทีแล้ว แต่การรอคอยก็ไม่สิ้นสุดเสียที เป็นจินที่เดินออกไปโทรเรียก ก่อนจะกลับเข้ามา และนั่งลงตามเดิม

     

    “ว่า?” เยอินเอ่ยถาม

     

    “มิจูขอกกำลังจะถึง ขอโทษด้วยที่ช้าเพราะโดนอาจารย์เรียกไปน่ะ”

     

    “อ่อ เป็นคิงก็งี้ ขึ้นปีสองแล้วงานเยอะเป็นบ้า”

     

     

    แกร็ก!
     

    100%



    Talk :[12/03/2015] เย้ๆๆๆๆๆ ครรบร้อยแล้วววเน้อออออออ โฮ้ยยยยยยยย มาอ่านกัน

    เยอะๆน้าาาาา  มาคุยกับไรทือีกหน่อยไรท์เหงาาาาาา ที่ask.fm น้าาาาาาาาาา ขอบคุณค่ะ><


     

    เหยดดดด เค้าามาต่อแล้ววววววว อร๊ายยยยยยย ฟินเลยยยยยย ใครหน่อใครรรรรร                  
    ใครมาอีกหน่อออออออ อร๊ายยยยยยยยย  เดี๋ยวววมาต่ออออีกน้าาาาาาาาาาาา 


    น่อววววววว     ท่วงฟิคได้ที่นี่นะแจ๊ะ  ask.fm @kimmeezin  จ้าาาาาาา ถ่มอะไรเค้าก็ได้~~ ไปเล่นกะเค้าหน่อยยยย><~~~~~~ 



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×