ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FanFic Reborn

    ลำดับตอนที่ #8 : ฉากสุดท้าย 2784Feat.6918 (ต่อจาก"เพียงแค่รัก 2784")

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ย. 52


    ที่นี่ที่ไหนเมื่อลืมตาขี้นกลับพบสถานที่แปลกๆที่ตัวเองไม่เคยเจอ...ได้แต่หันมองไปรอบๆ

     

    มาแล้วเหรอครับพิรุณตัวน้อยเสียงนี้มัน...เสียงของผู้พิทักษ์แห่งสายหมอก โรคุโด มุคุโร่

     

    นี่มันคือความฝันหรือความจริงกันแน่...ตอนนี้เขาอยู่กับสายหมอกคนนี้จริงๆเหรอ...คนคนนี้คือสายหมอกที่ผู้เป็นนภาเฝ้าห่วงใยและรักใคร่อยู่จริงเหรอ

     

    ต้องขอโทษด้วยถ้าเข้ามาด้วยภาระการนะครับแม้จะไม่ได้เจอหันต่อหน้าแต่ความสุภาพอ่อนโยนของสายหมอกก็มิได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย

     

    เพราะเหตุใดกัน...สายหมอกที่เกลียดมาเฟียยิ่งกว่าสิ่งใด...ถึงใดยอมมาเป็นผู้พิทักษ์ให้แก่นภา...ถึงจะมาทีหลัง แต่ก็พอรู้สิ่งที่เกิดก่อหน้านี้

     

    สายหมอกผู้นี้ต้องการที่จะยึดร่างของนภา...แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวและถูกจับไป..แต่ในตอนนั้นสายหมอกก็กลับมา..ในฐานะของผู้พิทักษ์

     

    ท่านมุคุโร่ กระผมมีเรื่องจะขอร้องแม้จะไม่รู้เหตุผลที่แท้จริง...แต่เขาก็ไม่แคร์ ถ้าความคิดของเขาถูกต้อง...ความจริงแล้วสายหมอกมิได้รักใคร่ในตัวนภา แต่คนที่สายหมอกรัก...ก็คือเมฆาที่แสนเย็นชา

     

    ถ้าคุณต้องการให้เป็นแบบนั้น ผมก็ยอมช่วยคุณเต็มที่ทั้งแต่เมื่อไรที่ถูกอ่านความคิดแบบนี้...หรือเพราะสายตามันบ่งบอกถึงความต้องการ

     

    ทำไมถึงยอมช่วยกันล่ะครับ ท่านซาวาดะคือคนรักของท่านมุคุโร่ไม่ใช่เหรอไม่เคยเข้าใจในการกระทำของสายหมอกคนนี้เลยสักครั้ง...ไม่เคยรู้ว่าในใจนั้น เขาคิดอะไรอยู่...อัญมณีสองสีนั้นช่างดูลึกลับจนน่าค้นหา

     

    เพราะผมเองก็ไม่เคยรักใคร่ในตัวนภาเลยน่ะสิครับ

    .................................................................

    อือ...ความฝันนั้น...ทำไมกัน ทำไมถึงยังไม่ลืมทั้งที่มันก็นานมาแล้ว...เพราะอะไรที่ทำให้คำพูดประโยคนั้น ยังคงดังก้องอยู่ในใจ

     

    ตื่นแล้วเหรอสึนะส่งยิ้มที่สดใสให้กับคนตัวเล็กกว่า...ทั้งที่โดนไล่ให้กลับอิตาลีไปแล้วแท้ๆ แต่เราก็ยังดื้อดึงที่จะอยู่ที่นี่ต่อให้ได้

     

    ตื่นเช้าจังเลยนะขอรับนานแค่ไหนแล้วนะ ที่เราไม่ได้พูดแบบนี้...นานแค่ไหนแล้วที่ตื่นมา แล้วไม่ได้เจอหน้าของนภาผู้นี้

     

    ไม่ใช่ฉันตื่นเช้าหรอก นายตื่นสายเองนี่ทั้งที่อยู่ใกล้กันเพียงแค่นี้แต่ทำไมรู้สึกเหมือนอยู่ห่างกันออกไป

     

    ท่านซาวาดะพิรุณน้อยฉุดอีกคนลงมาอยู่ในระดับเดียวกันก่อนจะโผล่เข้ากอดอย่างหวยหา...ถึงแม้จะไม่แสดงออกแต่ก็ดีใจที่นภายังอยู่ด้วยกัน

     

    ฉันอยู่นี่แล้วนะบาจิล ฉันจะอยู่กับนายไม่ต้องมีคำพูดใดๆ..ก็สามารถรับรู้ได้พิรุณตัวน้อยคิดอะไรอยู่...แม้พิรุณจะไม่เคยพูดแต่นภาก็รับรู้ได้จากสายตา

     

    ขอบคุณนะขอรับทำไมถึงร้องไห้กันล่ะ...ทำไมถึงได้ขอบคุณเขากันล่ะ...เราไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้เลย...ทำไมถึงได้รักในตัวนภามากมายขนาดนี้ล่ะ

     

    วันนี้ไม่ได้ทำงานสินะ พาฉันไปเที่ยวนามิโมริหน่อยสิเหมือนกับจงใจจะแกล้ง...แม้เราจะอยู่ที่นี่มาสองปี แต่ก็ใช่ว่าจะรู้สถานที่ท่องเที่ยวซะเมื่อไร

     

    ท่านซาวาดะเกิดและโตที่นี่ กระผมคงไม่สามารถจะนำพาท่านไปได้

     

    ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วัน..กี่เดือน..กี่ปี ก็ได้พิรุณก็ยังคงเป็นพิรุณ ยังเป็นพิรุณที่ใสซื่อ ไร้เดียงสาและซื่อตรงกับเขาไม่เปลี่ยนแปลง

     

    ฮ่าฮ่า ไม่เปลี่ยนไปเลยนะบาจิล

     

    หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะขอรับท่านซาวาดะบาจิลเอ่ยบอกห้ามแกมขอร้องให้คนตรงหน้าหยุดหัวเราะเสียที

     

    เพราะความไร้เดียงสานี้ไงที่ทำให้ฉันหลงในตัวนายมือเล็กเอื้อมไปสัมผัสเส้นผมสีกาแฟอย่างเบามือ...แม้จะรู้ตัวเมื่อสายไป แต่ขอให้ได้ให้เวลานี้ทดแทน

     

    อย่านะครับท่านซาวาดะ

     

    เพราะสิ่งที่พร่ำบอกกับตัวเองในทุกวันมันฝังลึกลงไปในจิตใจ...จึงไม่อยากเข้าใกล้ไปมากกว่านี้ เพราะกลัวจะไม่สามารถถอนตัวขึ้นมาจากวังวนความรักได้อีก

     

    อืมแม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ได้รังเกียจแต่ก็รู้สึกน้อยใจที่เขาไม่สามารถจะแตะต้องตัวของอีกคนได้เลยแม้แต่น้อย...แต่ปลายเส้นผมเขายังเป็นขนาดนี้ แล้วถ้ามากกว่านี้

     

    ขอโทษนะขอรับอัญมณีสีฟ้าสดสลดลงนิดๆเมื่อได้สติ...จะเป็นแบบนี้ไม่ถึงเมื่อไรนะ ไม่อยากเสียน้ำตาอีกแล้ว

     

    ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจล้มเลิกความคิดแล้วกลับอิตาลีมันคงยังไม่สายสินะ...เรื่องราวระหว่างเขาสองคนมันคงสายไปแล้วจริงๆ

     

    เพราะเขายังคงไม่แน่ใจว่าหัวใจของตนเองนั้นรักใคร คนหนึ่งก็คือ...สายหมอก คนที่เขาคอยห่วงหาและเฝ้ามองมาตลอดหลายปี ส่วนอีกคนก็คือ...พิรุณที่เฝ้ามองและดูแลเขามาตลอด ไม่ว่าจะเมื่อไรพิรุณก็มักจะอยู่เคียงข้างกายเขาเสมอ

     

    ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าตอนนี้เขากับสายหมอก..มิใช่คนรักกันเหมือนอย่างเคย แต่เขาใช่ว่าจะหมดรักสายหมอก...ถึงจะรู้ว่าคนรักใหม่ก็คือเมฆา แต่เขาก็ตัดใจจากสายหมอกมิได้สักคราว

     

    ไม่กลัวผู้พิทักษ์คนอื่นจะเป็นห่วงเหรอครับเสียงหวานของอีกคนดึงให้สึนะหลุดจากภวังค์ความคิด...เป็นห่วงเราสินะ ยังรักฉันอยู่ใช่ไหมบาจิล

     

    ฉันบอกพวกเขาแล้ว ไม่ต้องห่วง

     

    กระผมว่าท่านกลับอิตาลีไปเถอะครับยิ่งนภาอยู่ด้วยกันนานเท่าไร มันยิ่งทำให้บาดแผลในใจของพิรุณลึกลงไปมากเท่านั้น

     

    ถ้าใจของท่านยังคงเลือกไม่ได้..ขอร้อง อย่ากลับมาหาผมเพราะต่อจากนี้ผมจะไม่ยอมเป็นตัวสำรองของใครอีกแล้ว

     

    ฉันกลับแน่ แต่ก่อนกลับขอให้ฉันได้อยู่กับนายก่อนได้ไหมบาจิล

     

    ขอรับทำไมถึงไม่ปฏิเสธไปล่ะ...เพราะทำตามที่หัวใจเราเรียกร้องรึไง เรียกร้องที่จะอยู่ข้างนภาอย่างท่าน

     

    คุฟุฟุ ปฏิเสธคนอื่นไม่เป็นเหมือนเดิมเลยนะครับเสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์ของสายหมอกดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัว

     

    มุคุโร่สึนะก้มหน้านิ่งก่อนจะเอ่ยชื่อของสายหมอกออกมาเบาๆ...เพราะการกระทำของสายหมอก นภาอย่างเขาจึงไม่สามารถเลือกได้มาจะอยู่เคียงข้างใครระหว่างสายหมอกกับพิรุณ

     

    วองโกเล่อยู่ที่นี้เองเหรอครับยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งทำให้พิรุณอย่างเขารู้ว่าไม่ควรจะแทรกระหว่างนภากับสายหมอกเพราะยังไงมันก็ไม่มีที่สำหรับมาตั้งแต่แรก

     

    กระผมขอตัวนะขอรับอย่าจะเดินออกไปให้ไกลจากตรงนี้..ไม่อยากจะรับรู้อะไรที่แล้ว เริ่มจะถลำลงไปลึกอีกแล้วนะบาจิล..อย่าลืมสินายมันก็แค่ผู้ดูแลไม่มีสิทธ์อะไรทั้งนั้น

     

    มันไม่มีที่สำหรับพิรุณอย่างนายมาตั้งแต่แรก...นายมันไม่มีค่าพอที่จะให้นภาอย่างเขาอย่าสนใจหรอก...นายไม่มีสิทธ์ก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอ

     

    เดี๋ยวสิบาจิลมือหนาของสึนะคว้าข้อมือของอีกคนทันใด...ไม่อยากทิ้งให้พิรุณต้องเสียน้ำตาเพียงเดียวดายอีกแล้ว ไม่อยากปล่อยให้พิรุณหนีไปอีก

     

    เขาไม่อยากอยู่ก็ปล่อยเขาไปสิครับ วองโกเล่คำพูดที่เรียบง่ายของสายหมอกเหมือนกับเข็มที่ทิ่มแทงหัวใจของพิรุณให้เจ็บปวด

     

    ปล่อยนะขอรับ ปล่อยกระผมเถอะเพียงแค่กำลังอันน้อยนิดจะไปสู้อะไรกับกำลังของผู้เป็นนภาอย่างท่านได้

     

    ฉันสั่งว่าไม่ไป นายก็ต้องไม่ไปสึนะยื่นคำขาด มือหนากระชากอีกคนให้เข้ามาสู่อ้อมกอดของตน...ขอโทษจริงๆที่ต้องทำแบบนี้กับนาย แต่มันจำเป็น

     

    ขออภัยถ้ากระผมจะขอขัดคำสั่ง กระผมเป็นคนมิใช่เครื่องจักรหยดน้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาคู่งาม...กลั้นมันต่อไปไม่ไหวแล้ว ทำไมถึงต้องทำแบบนี้จะให้เขาขาดใจตายตรงหน้าเลยรึไงกัน

     

    พิรุณอย่างเขาเป็นคนไม่ใช่เครื่องจักรถึงจะไม่สบสะท้านอะไรเลย...นี้เหรอที่นภาบอกว่ารักกัน มันคงจะเป็นแค่คำพูดที่หลอกหลวงกันเสียมากกว่า

     

    ถ้าอยากไปนักก็ไปเลย ไปสิสึนะผลักคนตัวเล็กกว่าสุดแรงก่อนจะเดินหนีไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้พิรุณนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น

     

    ผมขอตัวไปดูวองโกเล่ก่อนนะครับสายหมอกปกคลุมบริเวณห้องนี้อีกครั้งก่อนจะจางหายไป

     

    เข้าใจแล้วสินะ ว่าเราน่ะมันไร้ค่าสำหรับเขาแค่ไหน คิดจะรักก็รัก..คิดจะทิ้งก็ทิ้ง...ท่านเห็นกระผมเป็นอะไรกันแน่

     

    ฉันไม่ได้หลอกนายนะบาจิล เชื่อฉันจะได้ไหม

    นี้เหรอขอรับ...ที่ท่านบอกว่าท่านไม่ได้หลอกกระผม ท่านทำเพียงว่ากระผมเป็นแค่ของเล่น...พอเหงาท่านก็มา..เมื่อเบื่อท่านก็ทิ้ง สะใจแล้วสินะขอรับ

    เพราะความไร้เดียงสานี้ไงที่ทำให้ฉันหลงในตัวนาย

    เพราะกระผมมันโง่ต่างหาก เพราะกระผมนั้นรักท่านซาวาดะมากจนท่านเห็นว่าหัวใจของกระผมนั้นเป็นของเล่นสำหรับท่าน...ท่านจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ใจอะไรมากมาย

     

    กระผมมันโง่เองที่ยอมให้ท่านหลอก

     

    คุฟุฟุ น่าสงสารจริงๆเลยนะครับพิรุณน้อยกายของสายหมอกและนภาปรากฏขึ้นตรงหน้าของพิรุณอีกครั้ง...เกมส์นี้ ขอผมชนะก็แล้วกันนะครับ

     

    น่าสมเพศที่สุดนัยน์ตาสีเปลือกไม้ของนภาทอดมองมายังพิรุณอย่างเย็นชา

     

    นั้นสินะขอรับ กระผมมันน่าสมเพศแขนเรียวพยุงตัวขึ้นจากพื้นก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างเชื่องช้า

     

    การกลับมาของสายหมอก คือความเจ็บปวดของพิรุณ...แม้จะรู้อยู่แล้วว่านภาไม่มีทางแลมองแต่ก็ยังพยายามทำทุกอย่างเพื่อเขา

    .................................................................

         แสงอรุณที่จางหาย...ถูกแทนด้วยสายลมที่เย็นเฉียบ...เมฆาเริ่มก่อตัว...ก่อนจะโปรดหยดพิรุณลงมาจากนภาสีมืด

     

    ฮึก กระผมมันโง่มากเลยสินะขอรับแค่คำพูดคำเดียวก็ทำให้เขารู้ได้ว่าคนต่ำต้อยอย่างเขา...ไม่มีทางเข้าไปแทนสายหมอกในใจของนภาได้

     

    ถ้าไม่ต้องการก็แค่บอก...ไม่จำเป็นเลยที่ต้องมาทำร้ายจิตใจเขา...หรือว่าในสายตาของนภา พิรุณนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องมีจิตใจ...นั้นสินะ พิรุณอย่างเขาก็แค่ของเล่น...ไม่จำเป็นต้องมาดูแลเอาใจใส่อะไรมากมาย

     

    บาจิลคุงนัยน์ตาสีเปลือกไม้ฉายแววกังวลเล็กน้อยก่อนจะคลายลง...ในที่สุดก็เจอ นึกว่าหลงทางซะอีก

     

    ท่านซาวาดะต้องการอะไรจากกระผมอีกเหรอขอรับอัญมณีสีสวยทอดมองอีกคนอย่างตัดเพ้อ...ยังไม่พอใจอีกเหรอ ยังต้องการอะไรจากเขาอีก

     

    กลับไปอยู่ที่อิตาลีกับฉันเถอะนะบาจิล

     

    ทำไมล่ะ...นัยน์ตาคู่นั้นเปลี่ยนไป เมื่อกี้ช่างดูเย็นชาแต่ตอนนี้กลับอบอุ่น...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

     

    กระผมไม่ใช่ของเล่นนะขอรับ ที่จะทิ้งหรือจะเล่นก็ได้น่ะในเมื่อพิรุณคนนี้มันไร้ค่า..แล้วทำไมถึงได้ให้ความหวังอีก...เลิกรักเขาสักที ใจเราเองก็รู้ว่าเขาไม่มีที่สำหรับเรา...เลิกโง่ได้แล้ว

     

    ฉันรักนายจริงๆนะ เชื่อใจฉันสิ

     

    จะให้กระผมเชื่ออะไรในตัวท่าซาวาดะอีก...ในเมื่อความเชื่อใจที่กระผมมีให้ท่าน มันพังลงไปต่อหน้าต่อตาของผม...เหมือนกับหัวใจที่มันแตกสลายด้วยน้ำมือของท่าน

     

    ปล่อยกระผมไปเถอะ ฮึก อย่าให้ความหวัง ฮึก อะไรอีกเลยน้ำตาที่เพิ่งแห้งไปไม่นานกลับหลั่งไหลลงมาอีกครั้ง...ยิ่งรักก็ยิ่งเจ็บ แม้จะเจ็บแต่ก็ยังรัก

     

    ถ้าเกลียดกันแล้วก็บอกสิ ฉันจะไม่ต้อง..รักนายเป็นถึงนภาแต่ทำตัวอ่อนแอ ไม่สมกับตำแหน่งเลยสักนิด

     

    ก่อนไปช่วยคืนอะไรบางอย่างให้กระผมด้วยได้ไหมขอรับแค่สิ่งเดียวที่อยากได้คืนเท่านั้น...แค่สิ่งนั้นสิ่งเดียวที่ต้องการ...หัวใจของกระผม ขอคืนได้ไหมขอรับ

     

    อะไร

     

    หัวใจของกระผม หัวใจที่มันแตกสลายไป คืนให้กระผมได้ไหมขอรับจบกันจริงๆแล้วสินะ...ความรักของเราน่ะมันไม่เหลือ...หรือไม่เคยมีมาตั้งแต่แรก

     

    หัวใจของพิรุณที่มอบให้นภาไปนั้น มันไม่สามารถแทรกเข้าไปในหัวใจของนภาได้เลยสักครั้ง...ที่ไม่ได้เพราะนภาไม่เปิดใจรับมัน..หรือมันไม่มีมาตั้งแต่ต้น

     

    น่าสมเพศจังเลยนะเสียงหวานของนภาเปล่งออกมาอย่างสั้นคลอ...ไม่เหลือน้ำตาจะให้ร้องไห้อีกแล้ว

     

    ไม่ต้องย้ำหรอกขอรับ กระผมรู้ตัวดีแม้จะยอกย้ำตัวตัวเองขนาดไหน..แต่ใจก็ไม่เคยที่จะจำ ไม่เคยเข็ด...ทั้งที่รู้ว่านภานั้นสูงศักดิ์เท่าใด แต่เราก็ยังจะรัก

     

    ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ฉันก็รักนายนะบาจิลสึนะดึงบาจิลเข้ามากอดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยให้คนตัวเล็กเป็นอิสระ...คงทำได้แค่นี้สินะ

     

    ท่านซาวาดะไม่อาจจะห้ามหัวใจตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว...กระผมขาดท่านซาวาดะไม่ได้

     

    หยดน้ำตาของพิรุณนั้นทำให้นภาเจ็บปวด...และการกระทำของนภาก็ทำให้พิรุณเจ็บปวดเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างก็เจ็บปวดเหมือนกัน

     

    กระผมรักท่านซาวาดะนะขอรับบาจิลดึงตัวสึนะเข้าไปกอดอย่างแนบแน่น ใบหน้าหวานซบลงที่อกแกร่งของอีกคน

     

    กลับอิตาลีกับฉันน่ะนึกว่าจะจบลงแบบไม่สวยแล้วซะอีก...ฉันคิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกนายมาอยู่เคียงข้างบาจิล

     

    ใบหน้ายามมีความสุขของนภา..ก็พลอยทำให้พิรุณมีรอยยิ้มที่สดใสด้วยเช่นกัน....และต่อจากนี้คงไม่มีครั้งใดที่นภาจะปล่อยให้พิรุณต้องโดดเดียว

     

    คุฟุฟุ ยินดีกับความรักอันหอมหวานนะครับวองโกเล่สายหมอกหนุ่มปรากฏกายขึ้นพร้อมกับกลุ่มหมอก

     

    รุ่นที่10ครับ ผมมารับแล้วเสียงของวายุดังมาแต่ไกลก่อนจะปรากฏร่างของผู้พูด

     

    เหล่าผู้พิทักษ์ทั้งหลายค่อยๆปรากฏตัวขึ้นทีละคนจนครบ...การมาของผู้พิทักษ์นี้เหมือนกับการแสดงความยินดีให้แก่ความรักของนภาและพิรุณ

     

    มาแล้วเหรอครับคุณฮิบาริสายหมอกหนุ่มอาศัยความเนียนโอบเอวบางของเมฆาไว้ก่อนจะดึงเข้ามาสู่อ้อมกอดอย่างคิดถึง

     

    ปล่อย ถ้าแกยังไม่อยากตายทอนฟาสีเงินเชิดหน้าของอีกคนขึ้นนิดๆก่อนจะขู่ด้วยน้ำเสียงอันเรียบเฉยที่แฝงไปด้วยความเย็นชา

     

    ครับๆ ปล่อยแล้วครับท้ายสุดสายหมอกก็ต้องยอมยกธงขาวแต่ด้วยดี...ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะฮิบาริ เคียวยะ

    .................................................................

          ยามที่แสงจากดวงอาทิตย์ส่อง...เมฆาผู้เย็นชาลุกขึ้นอย่างเชื่องช้าก่อนจะมองหาใครบางคนที่เคยอยู่ในห้องนี้ยามรัตติกาล

     

    ชิ น่าเบื่อชะมัด

     

    นัยน์ตาขี้สีขี้เถาฉายแววอารมณ์เสียของเห็นได้ชัดเมื่อไม่เห็นสายหมอก...กายบางของเมฆาก้าวไปยังไม่พ้นเตียงก็ถูกดึงด้วยมือของใครบางคน

     

    จะไปไหนล่ะครับ

     

    แขนแกร่งของสายหมอกโอบรัดผู้พิทักษ์แห่งเมฆาไว้แน่น...ใบหน้าคมของอีกฝ่ายเริ่มซุกไซร้ซอกคอเนียนของคนในอ้อมกอดอย่างสนุก

     

    จะไปไหนก็ไปซะ ก่อนที่ฉันจะขย้ำแก

     

    คำขู่ของเมฆาไม่ส่งผลอะไรต่อสายหมอกเลยแม้แต่น้อย...และดูเหมือนว่าคำขู่นั้นจะร้างความสนุกให้แก่สายหมอกยิ่งขึ้น

     

    ไม่เห็นต้องเขินเลยนี้ครับฮิบาริ

     

    มือหนาค่อยๆล้วงไปใต้เนื้อผ้าชั้นดี...ดวงหน้าหวานของอีกฝ่ายเริ่มแดงระเรื่อเพราะการกระทำของสายหมอก นัยน์ตาสีขี้เถาทอดมองคนรักอย่างเย้ายั่ว

     

    อะ..อย่านะมุคุโร่

     

    เสียงหวานได้แต่เอ่ยห้ามอย่างแผ่วเบา...ก่อนจะรวบรวมสติงัดทอนฟาคู่ใจขึ้นมาเชยหน้าสายหมอกจอมหื่น

     

    เจ็บนะครับ

     

    ของเหลวสีแดงสดไหลออกมาจากมุมปากได้รูปของสายหมอก...มือหนาเช็ดโลหิตสีสดอย่างลวกๆก่อนจะหันมายิ้มเย็นให้กับคนรัก

     

    ฉันไม่ขอโทษแกหรอกนะ

     

    เย็นชาสมกับที่เป็นเมฆาจริงๆเลยนะครับ

     

    เพราะความเย็นชาที่คุณมี..มันทำให้ผมหลงรักจนไม่อาจจะถอนหัวได้ นัยน์ตาสีขี้เถาคู่นั้นเวลาที่ผมจ้องมองมัน..มันช่างมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก

     

    ช่างฉันสิ

     

    เมฆาที่ว่าเย็นชา..บ้าการต่อสู้..และไร้ความรู้สึกกลับแสดงอาการเขินอายเมื่ออยู่ต่อหน้าสายหมอกอย่างเขา...สิ่งที่เรียกว่าความรักมันเป็นอย่างนี้สินะ

     

    ยังโกรษเรื่องที่ผมไปหาวองโกเล่อยู่อีกเหรอครับ

     

    แม้จะรู้คำตอบของคำถามนี้ดีกว่าใคร..แต่ลึกๆในใจก็หวังให้เมฆาคนนี้ตอบว่าใช่...ไม่จำเป็นต้องแสดงความรักต่อกันมากมาย...เพียงแค่คำคำเดียวก็สื่อใจถึงกันได้

     

    ถ้าฉันบอกว่า...ใช่

     

    รอยยิ้มถูกประดับไว้บนใบหน้าหวานของเมฆา...พวงแก้มขาวแดงระเรื่อด้วยความอายก่อนจะค่อยๆประทับริมฝีปากไว้ที่ข้างแก้มของสายหมอก

     

    ระวังจะลุกไม่ได้นะครับ เมฆาที่รัก

     

    ...The End...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×