คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เพียงแค่รัก 2784 (ต่อจากความจริง)
การที่จะรักใครสักคนมันใช้เวลาไม่นาน แต่การจะลืมใครสักคนต่อให้นานแค่ไหนก็ไม่ลืม
สองปีต่อมา...
ณ ร้านCoffee Shop
“ขอบคุณนะบาจิลคุงที่วันนี้อยู่ช่วยป้าปิดร้าน”คุณป้าเจ้าของร้านกาแฟส่งยิ้มให้บาจิลนิดๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”ตั้งสองปีแล้วสินะที่เขาจากที่นั้นมา ป่านนี้ท่านซาวาดะจะเป็นยังไงบ้างน่ะ...นานแล้วนะที่ไม่ได้ติดต่อกัน เขาคงลืมเราไปแล้วล่ะ
อย่าลืมสิว่าเราเป็นใคร...เราเป็นแค่พิรุณที่ต่ำต้อย...อย่าคิดจะเอื้อมไปหานภาผู้ยิ่งใหญ่อีกเลย...ไม่อยากจะเจ็บไปมากกว่านี้แล้ว ไม่เอาอีกแล้ว
“งั้นป้ากลับบ้านก่อนนะ เราก็ระวังด้วยล่ะ”คุณป้าเจ้าของร้านโบกมือลาก่อนที่แยกไปอีกทางหนึ่ง
คิดถึงท่านรุ่น9จังเลย ตอนนี้จะทำอะไรอยู่น่ะ...จากมานานแล้ว กลับไปหาบ้างดีไหมนะ...ไม่สิถ้ากลับไป เดี๋ยวคุณท่านก็คงจะพาไปหาท่านซาวาดะเป็นแน่
“ไงจ๊ะน้องสาว ให้พี่ไปส่งไหม”อะไรกันคนพวกนี้...ทำไมถึงได้ชอบแซวเรากันนักนะ...เราก็ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย
“ไม่ล่ะครับ ผมขอตัว”ไม่อยากจะอยู่นานกว่านี้แล้ว...ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย...มีแต่กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ทั้งนั้น
“อะไรกัน อย่ามาเล่นตัวหน่อยเลย”มือสากลูบไล้ตามโครงหน้าสวย...รู้สึกขยะแขยงยังไงไม่รู้ ไม่ชอบสัมผัสแบบนี้
“เฮ้ย ทำอะไรน่ะ”เสียงนี้? ทำไมมันถึงได้คุ้นอะไรแบบนี้...เหมือนกับเสียงของท่านซาวาดะ
“แกมายุ่งอะไรด้วยล่ะ ยัยนี้มันเป็นของฉัน”ไอ้นักเลงขี้เมาโอบกอดบาจิลไว้แน่น กลิ่นเหล้าคลุ้งไปทั่วจนทำให้บาจิลแทบอ้วก
“ถ้าแกไม่ปล่อยตัวหมอนั้นมา ฉันจะขย้ำแกให้ตาย”ฮิบาริชักทอนฟาคู่ใจขึ้นมาพร้อมรบ
“คะ..คุณฮิบาริ เคียวยะ”ไอ้หมอนั้นรีบผลักบาจิลให้แก่ฮิบาริทันทีก่อนจะวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต
“ไม่เป็นไรใช่ไหมบาจิลคุง”สึนะรีบพยุงบาจิลขึ้นมา...นึกว่าจะหาไม่เจอซะแล้ว ไม่ห่วงแทบแย่
“ขอบคุณนะครับที่ช่วย”บาจิลผละออกจากสึนะอย่างรวดเร็ว...ทั้งที่บอกว่าเกลียดผม แต่กลับมาช่วยผมไว้เนี่ยนะ
“ฉันไปก่อนล่ะนะ”ฮิบาริที่ไม่ชอบการสุมหัวเป็นที่หนึ่งขอแยกตัวออกจาวง
“ผมขอตัวนะครับ”บาจิลเดินเลี่ยงห่างจากสึนะออกไปเพื่อกลับที่พัก แต่ยังไม่ทันก้าวขาออกไปข้างหน้าก็โดนสึนะดึงตัวไว้ก่อน
“อย่างทำเย็นชาใส่ฉันได้ไหมขอร้องล่ะ”แขนแกร่งโอบกอดคนตัวเล็กกว่าจากด้านหลัง...อย่ามาทำแบบนี้กับผมเลย ขอร้องล่ะ
อยากจะลืมคนคนนี้...ทุกๆวันเมื่อหลับตาลง ภาพของนภาคนนี้...ก็ยังปรากฏให้เห็นทุกคืน...ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน จนกระทั่งวันนั้น...วันที่คุณบอกว่า“คุณเกลียดผม”
“ฉันเกลียดนายที่สุด”
ยิ่งคิดถึงคุณมากเท่าไร...มันยิ่งทำให้มันลืมคุณได้ยากมากขึ้นเท่านั้น...เกลียดผมสิ เกลียดผมให้มากกว่านี้...ผมจะได้เจ็บปวดเหมือนกับที่คุณเคยเจ็บไง
“เราเคยรู้จักกันด้วยเหรอครับ”ขอโทษนะครับท่านซาวาดะ...ผมไม่อยากทำแบบนี้เลย แต่ถ้ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุด...ผมก็จำเป็นต้องทำ
“นะ..นายลืมฉันไปแล้วงั้นเหรอ”อย่ามาหลอกให้ผมหลงดีใจอีกเลย...ไม่เอาอีกแล้ว ความหวังที่คุณให้มา...มันทำให้ผมเจ็บมามากแล้ว
ทำเหมือนผมเป็นคนสำคัญ...แต่สุดท้ายมันก็เป็นผมคนเดียว...ที่คิดว่าคุณรักผม เป็นผมคนเดียว...มีรอคอยความหวังอย่างลมๆแล้งๆ...เป็นผมคนเดียวที่รักคุณ
“คุณไม่ควรจะมาเจอผมอีก จำไม่ได้เหรอครับเพราะใครที่ทำให้คุณต้องเสียน้ำตา”เพราะผมไง เพราะผมคนเดียว...เกลียดผมสิ เกลียดผมให้มากๆ...ขอร้องล่ะ
“ฉันเกลียดนายไม่ลงหรอกบาจิล”เพราะอะไรกันครับ เพราะอะไร...จะให้ความหวังอะไรกับผมอีก
“เพราะอะไรครับ”ทำไมถึงจะเกลียดผมไมได้ล่ะ...ในเมื่อผมทำให้คุณกับคุณมุคุโร่เลิกกัน...ทั้งที่รักกันมากแท้ๆ...แต่ทำไมถึงเกลียดไม่ลง
“เพราะฉันรักนาย”สึนะก้มหน้านิ่ง...ทั้งร่างกายสั่นสะท้านไปทั่วร่าง
“คุณจะมาหลอกอะไรผมอีก อย่ามาให้ความหวังผมอีกเลย”ถึงแม้จะยอมรับความเจ็บปวดที่เป็นอยู่...แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่กลัว...ไม่อยากได้ความหวังลมๆแล้งๆอีกแล้ว...สำหรับเขามันเกินพอแล้ว
ไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้ว...ไม่อยากจะเสียน้ำตาเพราะคนคนนี้อีกแล้ว...ไม่อยากจะหวังในสิ่งที่มันเป็นไม่ได้...เราควรจะเจียมตัวให้มากที่สุด...อย่าเอื้อมไปหาสิ่งที่สูงศักดิ์กว่าเรา...เพราะรู้อยู่ว่ายังไงมันก็เอื้อมไปไม่ถึง
“ฉันไม่ได้หลอกนายนะบาจิล เชื่อฉันจะได้ไหม”อยากทำให้ผมหลงผิดไปมากกว่านี้เลย...แค่นี้มันก็ผิดมากพอแล้ว
“ผมบอกแล้วไงครับว่าเรื่องมันจบลงแล้ว กลับอิตาลีไปเถอะครับ”บาจิลผละออกจากอ้อมกอดก่อนจะแยกเมื่อกลับที่พัก
.................................................................
“กลับมาแล้วครับ”สึนะมองบรรยากาศรอบตัว...เหมือนเมื่อก่อนเลย เมื่อสิบปีที่แล้ว
“เป็นยังไงบ้างสึนะ”ยามาโมโตะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง...ทั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่มีข่าวติดต่อมาจากบาจิลเลย
ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาที่นี้...ทั้งที่รู้อยู่ว่ายังเขาก็ไม่มีทางให้อภัย แต่ก็ยังพยายาม...พยายามจะลบล้างความผิดที่เคยทำไว้ให้ได้
“บาจิลบอกให้ฉันกลับอิตาลีไปซะ”สึนะพูดเสียงเรียบและแผ่เบา ทั้งกายสั่นสะท้านน้ำตาไหลอาบแก้มนวล...เกลียดกันแล้วสินะบาจิล
“แล้วนายจะทำยังไง”ไม่ใช่ว่าไม่สงสาร...ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ...แต่เขาไม่อยากให้จิตใจของเพื่อนคนนี้เจ็บช้ำไปมากกว่านี้อีกแล้ว...ในเมื่อว่ารู้ค่าของคนสำคัญในภายหลังมันก็อาจจะช้าไป
“ไม่รู้”เขาไม่รู้จริงๆว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง...เรื่องของคนอื่นทำไมเราถึงแก้ปัญญาได้...แต่พอเรื่องของตัวเองเรากลับแก้ปัญญาไม่ได้
“รุ่นที่สิบกลับมาแล้วเหรอครับ”วายุคลั่งกระโดดกอดผู้เป็นนภาอย่างคิดถึง...ไม่ได้เจอตั้งหลายชั่วโมง คิดถึงที่สุดเลย
“ฉันฝากโกคุเทระด้วยนะ”สึนะดันอกวายุเข้าสู่อ้อมกอดของพิรุณก่อนจะผละออกไป...เจ้ารีบอร์นมันให้มาพักผ่อนรึเปล่าเนี่ย
ขายาวของสองนำพากายของนภากลับมาถึงห้องอย่างรวดเร็ว...ก่อนจะทิ้งกายลงกับเตียงนุ่มอย่างจัง
“บาจิล”มือเรียวกายหน้าผากอย่างกังวล...ถึงแม้จะเก่งกาจแค่ไหนแต่มาอยู่ในที่แบบนี้คนเดียว มันก็น่าเป็นห่วง...เพราะที่นี้คือญี่ปุ่นไม่ใช่อิตาลี
“ถ้าเป็นห่วงก็ไปดูแลสิครับวองโกเล่”สายหมอกปกคลุมไปทั่วห้องก่อนจะปรากฏร่างของผู้พิทักษ์แห่งสายหมอก
“แม้แต่หน้าเขายังไม่อยากจะมองเลย”สึนะซุกหน้าลงกับหมอน...นัยน์ตาคู่งามปิดลงอย่างอ่อนล้า
“แก้ได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเอง”เรือนผมสีดำสนิทโผล่ออกมาตรงข้างหน้าต่างเล็กน้อย...เมฆาที่แสนเย็นชา ยอมทนต่อการสุมหัวเพื่อช่วยเหลือนภาอย่างเขา
“แหม จะมาก็ไม่บอกผม”รอยยิ้มยียวนของสายหมอกสร้างความรำคาญให้แก่เมฆาอย่างแรง
“น่ารำคาญ”ทอนฟาสีเงินกระทบกับสามง่ามยาวอย่างจัง มุคุโร่ไม่ได้ขยับตัวหรือหยิบสามง่ามขึ้นมาแม้แต่น้อย...แล้วสามง่ามนั้นเป็นของใคร?
“มาอยู่นี่เองเหรอค่ะท่านมุคุโร่”สายหมอกสาวกดทอนฟาของเมฆาลงแนบตัวก่อนจะกระโจนเข้ามาในห้องของนภา
“ช่วยออกไปทะเลาะกันข้างนอกได้ไหมครับ”สึนะเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะตะโกนสุดเสียง...แค่เรื่องบาจิลก็เครียดพอแล้ว นี่ยังมาก่อกวนเขาอีก
“ถ้าวองโกเล่ต้องการ”มุคุโร่สร้างหมอกขึ้นปกคลุมก็จะหายไปพร้อมกับฮิบาริและโคลม
“สงบขึ้นเยอะ”ในยามที่บรรยากาศรอบกายเงียบสงบลง...ความเหงาภายในใจของนภาก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาทีละนิด
“ถ้าท่านซาวาดะไม่สบายใจก็ไปหากระผมได้เสมอนะขอรับ”
ประโยคนี้เขามักจะได้ยินพิรุณน้อยบอกเสมอเมื่อเขาทะเลาะกับสายหมอกอย่างมุคุโร่ คนคนนั้นมักจะเป็นห่วงเขาเสมอ
“มีอะไรไม่สบายใจ ระบายให้กระผมฟังก็ได้นะขอรับ”
ไม่เคยแคร์ว่าตัวเองจะต้องเจ็บปวดแค่ไหน...ไม่ว่าจะเมื่อไรพิรุณน้อยก็มักจะมีรอยยิ้มให้เขาเสมอ
“กระผมเป็นคนบอกให้ท่านมุคุโร่เลิกกับท่านซาวาดะเองล่ะขอรับ”
ในวันที่พิรุณน้อยมาบอกว่าตัวเองคือต้นเหตุทั้งหมด...ความรู้สึกในตอนนั้นมันเกินที่จะบรรยาย ความไว้ใจที่มีต่อกันมันพังทลายลง
“ฉันเกลียดนายที่สุด”
เพราะไม่เคยรับรู้ความในใจของพิรุณน้อยจึงได้พูดออกไปแบบนั้น...ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของพิรุณเลย
“เพราะฉันรักนาย”
ทั้งที่เคยบอกว่าเกลียดเขา...แต่ตอนนี้ในใจกลับเรียกร้อง...เรียกร้องให้เขากลับมาเคียงข้างกันอย่างเคย...แต่มันก็สายไปแล้ว เรามันเห็นแก่ตัวที่สุด
“ขอโทษจริงๆนะบาจิล”ใบหน้าติดหวานเต็มไปด้วยคราบน้ำตา...นัยน์ตาสีเปลือกไม้ปิดลงอย่างช้าๆ
.................................................................
ผมไม่ได้เมินเฉย..ไม่ได้เย็นชาแต่ที่ทำแบบนั้น เพราะไม่อยากรับฟัง..ไม่อยากเจ็บปวด
ไม่ได้ลืมนภาอย่างคุณ...แค่ไม่อยากจะมองเพราะกลัว
กลัวว่าน้ำตามันจะไหลลงมา...กลัวว่าคุณจะเกลียดผมไปมากกว่าเดิม
เพราะตอนนี้ที่เป็นอยู่...มันก็เจ็บปวดเกินจะทนแล้ว
ไม่อยากได้ความสงสาร..ความเห็นใจ จากใครอีกแล้ว..ไม่อยากสมเพศตัวเองมากไปกว่านี้
“อือ...”อัญมณีสีฟ้าใสปรือขึ้น มือเรียวปาดน้ำตาออกอย่างช้าๆ...ไม่ว่าจะตื่นหรือหลับ เราก็เห็นแต่หน้าคนคนนั้น
ไม่อยากจะหลงคิดว่าตัวเรานั้นมีความหมายกับนภา...ไม่อยากจะหวังอะไรที่เป็นไปไม่ได้...ไม่กล้าที่จะเอื้อมไปหานภาที่สูงศักดิ์...เพราะตัวเรานั้นเป็นเพียงแค่พิรุณที่ต่ำต้อย...ควรจะเจียมตัว สำหรับเขาเรามันไม่มีค่าหรอก
“สำหรับนภาแล้ว คนอย่างเราไม่มีค่าพอหรอก”ได้แค่ยิ้มรับอย่างสมเพศ...ทั้งที่รู้ แต่ก็ไม่เคยตัดใจ...ไม่เคยจะลืมคนอย่างนภา...ตัวเราที่มันช่างน่าสมเพศยิ่งนัก
.....ก๊อก....ก๊อก
“ใครครับ”บาจิลลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ...มีธุระอะไรตั้งแต่เช้าล่ะเนี่ย
“ฉันสึนะ ขอเข้าไปได้ไหม”คุณจะเอาอะไรกับผมอีก...แค่นี้มันก็เต็มกลืนแล้วนะ...หรือว่ามันยังไม่สะใจ
“เชิญครับ”ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยแขกไม่ได้รับเชิญ...ใบหน้าติดหวานของสึนะสำรวจไปรอบๆห้องก่อนที่จะนั่งลงข้างบาจิล
“ขอโทษนะที่มารบกวนแต่เช้า”สึนะจ้องพิจารณาใบหน้าของอีกฝ่ายเล็กน้อย
“มีอะไรก็พูดมาสิครับ”เสียงหวานเอ่ยถามอย่างเย็นชา...ไม่ใช่ว่าผมเกลียดคุณหรอก แต่ไม่อยากจะรับฟังในสิ่งที่คุยจะพูด
“ขอโทษ ขอโทษจริงๆ”สึนะดึงคนตัวเล็กกว่าเข้าสู่อ้อมกอด...ใบหน้าของสึนะซบลงกับไหล่ของอีกฝ่าย
ไม่อยากเห็นการกระทำที่เย็นชาอีกต่อไป...จะด่าจะว่าหรือจะทำอะไรก็เชิญ แต่ขอร้องอย่าทำแบบนี้ได้ไหม
“ปล่อยเถอะครับ อย่าทำให้ผมสมเพศตัวเองไปมากกว่านี้เลย”นภาถึงกับชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของพิรุณ...เพราะรู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรจึงได้แต่ทำใจยอมรับความเป็นจริง...คนคนนี้เข้มแข็งเหลือกเกิน
“ที่ฉันทำไม่ใช่เพราะสงสาร แต่ที่ทำเพราะฉันรักนาย”ยิ่งพูดเหมือนยิ่งตอกย้ำ...คำพูดของนภา ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของพิรุณ...นภาที่สูงศักดิ์กับพิรุณที่ต่ำต้อย มันไม่ใช่สิ่งที่คู่ควร
“ถ้ารักผมจริง ได้โปรด..ลืมคนต่ำต้อยอย่างผมแล้วรักคนที่เขาเทียบเท่ากับคุณ”เพียงแค่ได้รักก็พอใจ...ไม่หวังอะไรอีกแล้ว...ไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว
“สำหรับนายแล้วฉันไม่สำคัญเลยสินะ”คำคำนั้น...มันควรจะเป็นของผมมากกว่า...แต่เพราะเป็นคุณผมจึงไม่ถาม...เพราะรู้ว่ามันไม่เหมาะสม
“เพราะคุณคือคนสำคัญผมถึงยอมปล่อยคุณไป เพราะอยากให้เจอกับคนที่ดีกว่าผมถึงยอมเจ็บ”
ไม่ใช่เพราะว่านภาไม่สำคัญ..แต่เพราะนภาสำคัญยิ่งว่าสิ่งใด...จึงต้องยอมปล่อยนภาไป...ต้องยอมเจ็บปวดเพื่อให้นภาได้เจอคนที่ดีกว่า...พิรุณต่ำต้อยอย่างเขา
“ก็ได้ ฉันจะลืมนาย”สึนะคลายอ้อมกอดพร้อมปล่อยบาจิลให้เป็นอิสระ...โลกที่ไม่มีนาย มันคงจะเหงาน่าดู
“ขอคุณนะครับ คุณซาวาดะ”บาจิลยิ้มรับทั้งน้ำตา...ขอให้โชคดีนะครับ นภาผู้ยิ่งใหญ่
.................................................................
แม้จะไม่สูงศักดิ์เหมือนกับสายหมอก แต่ความรักที่พิรุณมี
ก็ไม่แพ้คนอื่น ที่รักในตัวนภา
เพราะนภาคือคนสำคัญ...พิรุณจึงยอมทุกอย่าง
เพื่อให้นภามีความสุขกับคนที่รัก
แต่คนคนนั้น...จะต้องไม่ใช่พิรุณต่ำต้อย
เพราะรักจึงยอมปล่อยให้นภา...ไปรักคนที่เขาสูงศักดิ์เท่ากัน
แม้พิรุณจะต้องเจ็บ..แต่เพื่อนภา
ความเจ็บปวดแค่นี้...มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
TBC...
ความคิดเห็น