ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FanFic Reborn

    ลำดับตอนที่ #5 : ความจริง 2784 Feat.6918

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 52


    ตัวกระผมมันก็แค่หยดพิรุณที่ต่ำต้อย คงไม่สามารถเทียบกับสายหมอกที่สูงศักดิ์อย่างเขาได้

     

    เป็นได้เพียงแค่ตัวสำรอง คนต่ำต้อยอย่างกระผมก็ดีใจแล้ว

     

    กระผมไม่ขอแทนที่สายหมอกในใจท่าน แต่กระผมขอเคียงข้างจนกว่าท่านจะไล่ไป

     

    เพียงเท่านี้ที่กระผมจะขอจากท่าน

     

         วายุที่กำลังโหมกระหน่ำอย่าบ้าคลั่ง...ได้พัดพาสายพิรุณที่เย็นเฉียบมาด้วย...อัสนีบาตที่กำลังผาดฉานลงมา...จากผืนนภาสีทมิฬ

     

    ตอนนี้คงเป็นเวลาที่เหมาะกับ...การผ่อนคลายของเหล่าผู้พิทักษ์แห่งวองโกเล่...ตอนนี้ผืนฟ้ากำลังพิโรธ...วายุกำลังกระหน่ำ พิรุณยังคงสาดซัด...อัสนีที่ผาดลงมาอย่างร้ายกาจ

     

    โย่ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวเหรอบาจิลคุงพิรุณร่างสูงส่งยิ้มขี้เล่นมาให้หยดพิรุณต่ำต้อยอย่างเขา...สมควรแล้วเหรอที่ให้คนที่เป็นถึงสายพิรุณมาดูแล

     

    ท่านยามาโมโตะอัญมณีสีฟ้าใสเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ดวงหน้าหวานเริ่มขึ้นสีหน้าเพราะพิษไข้กายบางของหยดพิรุณเอนซบกับอกของสายพิรุณอย่างเหนื่อยอ่อน

     

    เฮ้ย มาทำอะไรตรงนี้ฟร่ะเจ้ายามาโมโตะวายุคลั่งเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์...หลังจากที่กลับมาจากทำภารกิจสุดท้ายก็ดันมาเจอกับพายุพิรุณอย่างจังจนแทบกลับมาไม่ได้

     

    นายเข้าไปรายงานสึนะก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะพาบาจิลไปที่ห้องไม่พูดเปล่าสายพิรุณยังอุ้มกายบางของหยดพิรุณตัวน้อยแยกไปอีกทาง

     

    .................................................................

    ยามใดที่ไร้ซึ่งแสงอรุณ ยามนั้นสายหมอกก็จะปรากฏ

     

         หากคำพูดในตอนนั้นสามารถเป็นจริงได้...มันจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีขนาดไหนกัน...ในตอนนี้ก็ไร้ซึ่งแสงอรุณแล้ว...แต่ทำไม ทำไมสายหมอกถึงไม่ปรากฏ

     

    มุคุโร่

     

    ทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของแต่เราก็ยังรัก...ทั้งที่เจ้าของของเขาเป็นถึงเมฆาผู้แข็งแกร่ง...แต่เราก็ยังยอมรักเขา

     

    เพราะรัก..จึงต้องเจ็บ

    เพราะรัก..จึงยอมทน

    เพราะรัก..จึงรอคอย

    เพราะรัก..ถึงได้อ่อนแอ

    เพราะรัก..คนอย่างสายหมอก เราจึงต้องเสียน้ำตา

     

    คุฟุฟุ เรียกหาผมงั้นเหรอครับวองโกเล่เสียงหัวเราะที่เป็นเอกลักษณ์ของสายหมอก ทำให้เขารู้ถึงการกลับมาของคนที่รอคอย...แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่ใช่ในฐานะคนรัก...แต่เป็นฐานะของนภากับสายหมอก

     

    กลับมาแล้วเหรอรอยยิ้มพิมพ์ใจเหมือนครั้งแรกที่เจอกันยังไม่จางหายไปไหน...แม้เขาจะรู้ว่ารอยยิ้มนี้ไม่อาจทำให้สายหมอกกลับมาหายเขาได้อีก...แต่เขาก็ยังคงรอยยิ้มนี้ไว้ให้กับสายหมอกคนนี้คนเดียวเท่านั้น

     

    ไม่ไปดูพิรุณตัวน้อยหน่อยเหรอครับมุคุโร่นั่งตรงมุมขอบโต๊ะก่อนจะหยิบเอกสารต่างๆขึ้นมาดู...ไม่รู้เพราะความเคยชินหรือว่าอย่างไร

     

    เพราะทุกครั้งที่มา...ก็มักจะมานั่งตรงนี้เสมอ...มาคุยบ้าง อยู่เป็นเพื่อนบ้างแล้วแต่ว่าเวลานั้นมากน้อยแค่ไหน...แต่ตอนนี้เราไม่ควรจะมาอยู่ตรงนี้แล้ว...เพราะเราเป็นแค่ผู้พิทักษ์...ไม่ใช่คนรัก

     

    ไปทำไม ก็เขายังไม่กลับมานี่ไม่เอะใจเลยสักนิด...ทั้งที่คนคนนี้ไม่ค่อยจะพูดถึงแท้ๆ...แต่ทำไมถึงได้บอกให้เขาไปดู

     

    มั่นใจเหรอครับ ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ผมเห็นคุณยามาโมโตะเพิ่งแบกเข้ากลับตึกพิรุณ

     

    สิ้นเสียงของสายหมอก...ร่างกายของเราก็ขยับไปเองด้วยอัตโนมัติ...กลับมาแล้ว ทำไมถึงไม่เข้ามานะ...ไปรอรับผู้พิทักษ์ที่เหลือก็คงไม่ใช่...ไปนั่งรอยามาโมโตะงั้นเหรอขายาวนำพานภามายังตึกพิรุณ...ก่อนจะตรงไปยังห้องของพิรุณตัวน้อย

     

    .....ก๊อก....ก๊อก

     

    บาจิลคุงสึนะเข้ามาในห้องอย่าถือวิสาสะ...ก่อนจะเดินมานั่งอยู่ข้างพิรุณที่เขาตามหา ดวงหน้าหวานสีหน้าขึ้นระเรือเพราะพิษไข้

     

    อือ...อัญมณีสีฟ้าใสปรือขึ้นมานิดๆก่อนจะเบิกกว้างเมื่อเห็นผู้เป็นนภามานั่งอยู่ข้างกาย

     

    นี่เขาทำให้ท่านซาวาดะต้องเป็นห่วงอีกแล้ว...ไหนจะท่านยามาโมโตะที่ต้องแบกเรามาส่งอีก...เรานี่มันชอบทำให้คนอื่นเขาลำบากจริงๆ

     

    มาถึงแล้วทำไมถึงไม่เข้าไปหาฉันล่ะสึนะประคองกายของพิรุณน้อยขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง ร่างกายที่เย็นเฉียบเพราะหยาดพิรุณตัดกับดวงหน้าระเรื่อเพราะพิษไข้ยิ่งนัก

     

    กระผมไปรับลมที่สวนมาขอรับแต่บังเอิญว่าฝนตกลงมาเสียก่อนเลยกลับมาไม่ได้บาจิลส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจมาให้กับผู้เป็นนภา...กระผมก็แค่อยากจะทำใจให้สงบก็เท่านั้น

     

    มาที่นี้จริงๆด้วยสินะครับวองโกเล่สายหมอกปกคลุมทั่วทั้งห้องก่อนจะปรากฏร่างของผู้พิทักษ์สายหมอก โรคุโด มุคุโร่

     

    แอบตามผมมาอีกแล้วเหรอสึนะพองแก้มอย่างงอนๆ...แม้จะไม่ใช่คนรักกันอีกต่อไป...แต่เพราะความเคยชินและคุ้นเคยมากกว่า...ที่ทำให้เขากับสายหมอกยังดูเหมือนคนรักกัน

     

    ผมก็แค่มาดูพิรุณน้อยก็เท่านั้นเอง คุฟุฟุภาพที่นภากับสายหมอกหยอกเย้ากันนะ ยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บมากกว่าเดิม

    รัก...ทั้งที่เขาไม่สนใจ

    รัก...ทั้งที่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร

    รัก...ทั้งที่ต้องยอมเป็นแค่ตัวสำรอง

    ได้แต่รัก...เขาอยู่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น

    ได้แต่มอง...เขาอยู่ห่างๆ

    ได้แค่ทำใจ...เมื่อยามที่เขาไม่เหลียวแล

    ได้แต่รักเขาฝ่ายเดียว....ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่รักเรา

     

    ขอโทษนะขอรับ กระผมอยากนอนออกไปได้ไหมขอรับคำขอร้องแบบแรงๆคงไม่ใช่แนวที่เขาถนัดนักเพราะฉะนั้นขอร้องแบบสุภาพนี้ล่ะง่ายสุดแล้ว...ถ้าท่านทั้งสองยังอยู่ตรงนี้ กระผมคงต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ

     

    ได้สิ เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะมาอยู่ด้วยแล้วกันนะสึนะยอมออกไปแต่ด้วยดีส่วนผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกนั้นก็กลับเป็นนกฮูกแล้วบินออกไปเช่นกัน

     

    เพราะท่านชอบทำเหมือนกระผมเป็นคนสำคัญ มีหลายครั้งที่กระผมมักคิดว่าท่านเองก็มีใจให้กระผมแต่ความหวังนั้นมันจะผังทลายลงด้วยฝีมือของท่านเอง

     

    เพราะอะไรกันที่ทำให้กระผมตัดใจจากท่านไม่ได้...หรือเพราะว่ากระผมถลำลึกลงมามากจนไม่สามารถถอนหัวขึ้นมาได้

    บาจิลคุงอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนได้ไหม

    ทุกครั้งที่ท่านทะเลาะกับท่านมุคุโร่ ท่านมักจะมาหากระผมระบายทุกสิ่งทุกอย่างให้กระผมฟัง

    อาหารฝีมือบาจิลคุงอร่อยมากเลยนะ

    ทุกเช้าหลังจากที่ท่านทานอาหารเสร็จ ท่านมักจะชมกระผมแบบนี้เสมอ

    ฉันเลิกกับมุคุโร่แล้วนะบาจิล

    ครั้งสุดท้ายที่ท่านมาหากระผมก็เพื่อมาระบายความในใจ ความเศร้าและความทุกข์ทั้งหลายให้กระผมฟัง

     

    และทุกครั้งกระผมก็รับฟังท่านเสมอมา...ด้วยที่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของตัวเอง...ทุกครั้งที่ท่านพูดถึงท่านมุคุโร่ ใบหน้าของท่ามักจะมีแต่รอยยิ้ม...ไม่เหมือนตอนที่อยู่กับกระผม

     

    ...นึกถึงที่ไรมักจะพบกับความเจ็บปวด

     

    เพราะเจ็บปวดจึงมีน้ำตา....

     

    ...เพราะน้ำตานั้นเกิดขึ้นมาเพราะคนคนเดียว

     

    คนที่ไมได้รับรู้ถึงความรู้สึกของพิรุณอย่างเขาเลยสักนิด...

     

    .....ก๊อก....ก๊อก

     

    บาจิลเป็นยังงะ..หืม นายร้องไห้สายพิรุณจ้องมองอย่างแปลกใจเมื่อเห็นพิรุณตัวน้อยที่แสนจะเข้มแข็งได้นั่งร้องไห้อยู่คนเดียวในห้อง..โดยไร้ซึ่งนภาผู้ปลอบโยน

     

    ขอบคุณนะครับท่านยามาโมโตะที่แบกกระผมมาส่งบาจิลส่งยิ้มพิมพ์ใจมายังแก่สายพิรุณก่อนจะเช็ดคราบน้ำตาอย่างลวกๆ

     

    ไม่อยากให้ใครเห็นภาพเขาอ่อนแอแบบนี้...ไม่ว่าจะเป็นพิรุณคนนี้หรือว่าสายหมอกอย่างท่านมุคุโร่...ด้วยเฉพาะผู้เป็นนภาอย่างท่านซาวาดะ

     

    ไม่เป็นไรหรอกมือหนาของสายพิรุณลูบตัวเขาอย่างเบามือ...แม้จะเพียงแค่คนรู้จัก ไม่ชาญาติหรือคนในครอบครัวแต่พิรุณคนนี้ก็เปรียบเสมือนพี่ชายคนหนึ่ง

     

    กระผมจะกลับไปอยู่กับรุ่น9ได้ไหมขอรับท่านยามาโมโตะพิรุณถึงกับชะงักเมื่อเจอคำถามของเขา ทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วแต่ทำไมถึงได้ถามออกไปนะ

     

    ทะเลาะกับสึนะเหรอ ตอนเจอที่หน้าปราสาทนายก็นั่งร้องไห้ไหนจะเมื่อกี้อีกทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าพิรุณตัวน้อยที่คิดยังไงกับหัวหน้าของเขา แต่เขาก็แค่อยากได้ความจริงที่ชัดเจน...อยากให้พิรุณตัวน้อยพูดอกมาเอง

     

    เปล่าหรอกขอรับ กระผมแค่อยากจะพักก็เท่านั้นบาจิลก้มน้านิ่ง อัญมณีสีฟ้าใสเริ่มพร่าเพราะมีม่านน้ำตามาบดบัง

     

    งั้นหรอกเหรอ ฉันนึกว่านายทะเลาะกันซะอีกปากแข็งเหมือนกันนี่เด็กคนนี้ ไม่ยอมพูดจนกว่าจะทนไม่ไหวสินะ...เข้มแข็งและอ่อนแอได้ในเวลาเดียวกัน

     

    อย่าไปบอกท่านซาวาดะนะครับ กระผมขอร้องบาจิลเอนตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า การรักใครสักคนทำไมมันถึงได้เหนื่อยขนาดนี้นะ

    ...หรือเพราะรักคนที่เขาสูงศักดิ์มากกว่าเรา...

    ฉันไม่กวนนายแล้วนะ พักผ่อนด้วยล่ะยามาโมโตะยิ้มอย่างอ่อนล้าก่อนจะออกไปจากห้องของพิรุณตัวน้อย

    .................................................................

    หากเมฆานั้นเปล่าเปลี่ยว สายหมอกก็จะเคียงข้างอยู่ไม่ห่าง

     

    แม้จะไม่มีคำหวานใดๆที่พร่ำเพ้อถึงกัน แต่การกระทำนั้นพิสูจน์ได้กว่าคำพูด

     

    อะไรกันยังไม่ตื่นอีกเหรอครับเนี่ยมุคุโร่ย้ายศีรษะของอีกคนมาไว้บนตักก่อนจะลูบคลำตามใจชอบ

     

    คงมีแต่ผู้พิทักษ์สายหมอกคนเดียวล่ะมั้ง...ที่สามารถเข้าใกล้ผู้พิทักษ์เมฆาได้ แม้แต่บอสใหญ่แห่งวองโกเล่ก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ถึงเพียงนี้

     

    เสียมารยาทประโยคสั้นๆที่ออกมาจากปากของเมฆาเย็นชา นัยน์ตาสีขี้เถาปรือขึ้นนิดๆก่อนจะลืมอย่างเต็มตา

     

    ก็เห็นลูกน้องบอกว่าคุณยังไม่ตื่น ผมก็เลยอาสามาปลุกให้รอยยิ้มยียวนกวนประสาทของสายหมอกสร้างความรำคาญให้แก่เมฆายิ่งนัก...แค่ด้วยปลุกให้ตื่นก็บูดพอแล้ว นี่ยังมากวนประสาทเขาอีก

     

    จะไปไหนก็ไปสีหน้าไร้อารมณ์ของเมฆาอีกทำให้สายหมอกอยากจะแกล้งมากกว่าเดิม

     

    ใจร้ายจริงเลยนะครับมุคุโร่พองลมไว้ที่แก้มก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง...แม้จะใจแข็งแค่ไหน เจอแบบนี้เข้าก่อนต้อง

     

    กลับไปหาเจ้าสึนะโยชิซะไปฮิบาริตะโกนอย่างอารมณ์เสียก่อนจะลุกออกจากตักของมุคุโร่ทันที

     

    หึงงั้นเหรอครับรอยยิ้มกวนฉีกกว่างยิ่งกว่าเดิมเมื่อรู้สาเหตุที่เมฆาอารมณ์เสียได้ถึงเพียงนี้ไม่รู้หรอกนะว่าไปได้ยินอะไรมา แต่ที่รู้ก็คือเมฆาผู้นี้เป็นคนเดียวที่เขารัก

     

    ถ้าแกเข้ามาเพียงก้าวเดียว แกตายแน่ทอนฟาคู่ใจถูกหยิบขึ้นมาประดับไว้ข้างตัว...ไอ้รอยยิ้มแบบนี้ เกลียดที่สุดเลย

     

    สายหมอกยังไงก็ยังเป็นสายหมอก...ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้เช่นเดียวกับเมฆา...แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปไม่ใช่ร่างกาย...แต่เป็นหัวใจ หัวใจของเมฆา...ที่มอบให้กับสายหมอกเพียงผู้เดียว...ไม่อย่างจากสายหมอก ที่มอบหัวใจให้เมฆาผู้เดียว

     

    ผมดีใจนะครับ คุณหึงน่ะฮิบาริความน่ากลัวของเมฆาที่คนอื่นมักสยบใช้ไม่ได้ผลกับสายหมอกคนนี้

     

    อยากตายนักรึไงฮิบาริลดทอนฟาลงก่อนจะปล่อยให้มันยกสู่พื้น

     

    .....ก๊อก....ก๊อก

     

    ขอโทษนะครับมันช่างเป็นภาพที่ไม่น่ามองเลยสำหรับนภาอย่างเขา ภาพของสายหมอกกับเมฆากำลังกอดกัน

     

    มีอะไรเหรอครับวองโกเล่มุคุโร่หันมาถามด้วยรอยยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    เอ่อ เดี๋ยวผมจะมาใหม่ก็แล้วกันนะครับต้องรีบไปจากที่นี้ให้ไวที่สุด...ก่อนที่น้ำตาจะไหลริน

     

    อะไรของมันนะฮิบาริมองแผ่นหลังของสึนะจนหลับตา...ยิ่งนานวัน ยิ่งแปลกไปจากเดิม

    .................................................................

    ยามใดที่นภาโศกเศร้า พิรุณก็จะโศกเศร้าเช่นกัน

     

    หากยามใดที่นภามีน้ำตา ยามนั้นพิรุณจะอ่อนแอ

     

    แล้วหากยามใดที่พิรุณไม่มีใคร นภาจะยังคงเคียงข้างกันหรือเปล่า

     

    บาจิลคุงกายบางของผู้เป็นนภาเดินมานั่งข้างพิรุณตัวน้อย...เหนื่อยเหลือเกิน อยากจะหลับไปตลอดกาลเหลือเกิน

     

    เป็นอะไรขอรับท่านซาวาดะยังคงเป็นพิรุณตัวน้อยที่แสนซื่อเหมือนเดิม...แม้ว่าใจจะต้องเจ็บปวดแต่ก็ขอให้ได้ใกล้ก็เพียงพอ

     

    ....ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าเพราะเหตุใดนภาถึงมาที่นี้

     

    เพราะรู้ถึงไม่อยากเอ่ย ไม่อยากทำให้นภาต้องร้องไห้....

     

    ....เพราะนภาเป็นคนที่เขารัก เขาจึงไม่อยากให้เจ็บปวด

     

    เพราะถ้าจะเจ็บ ขอให้เป็นเขาคนเดียวที่เจ็บ....

     

    ฉันเหนื่อยเหลือเกินใบหน้าคมของสึนะซบลงที่ไหล่มนของคนตัวเล็กกว่า...ภาพของเมฆาและสายหมอกยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่จางหาย

     

    ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล...ความเจ็บปวดไม่เคยจางหายไปจากใจของนภาคนนี้เลยสักนิด...ยิ่งได้เห็นยิ่งรู้สึกเจ็บ...เจ็บจนเกินจะรับรู้อะไรแล้ว

     

    ท่านซาวาดะไม่อยากเห็นน้ำตาของคนคนนี้อีกแล้ว...ไม่เอาอีกแล้ว ไม่อยากให้คนคนนี้ต้องเจ็บไปมากกว่านี้แล้ว...เรื่องราวนี้มันควรจะจบลงได้สักที

     

    ถ้าปล่อยให้มันยึดยาวกว่านี้...ท่านซาวาดะจะยิ่งเจ็บปวด...แล้วถ้าไม่ใช่เพราะเขา ท่านซาวาดะในตอนนี้คงไม่เป็นแบบนี้...ไม่ต้องเจ็บปวด ไม่ต้องเสียน้ำตา

     

    ฉันไม่ดีตรงไหนเหรอบาจิล ทำไมมุคุโร่ถึงต้องทิ้งฉันไป

     

    ไม่ใช่เพราะท่านไม่ดีแต่เป็นเพราะกระผมต่างหาก...ถ้าในวันนั้นเพราะผมไม่พูดออกไป มันก็คงไม่เป็นแบบนี้...กระผมมันไม่ดีเอง

     

    อย่าร้องไห้สิขอรับท่านซาวาดะยิ่งท่านร้องไห้มากเท่าไร...กระผมก็ยิ่งรู้สึกผิด ขอร้องล่ะท่านซาวาดะ...อย่าร้องไห้อีกเลย

     

    ยิ่งเห็นน้ำตาของท่าน...มันยิ่งตอกย้ำในการกระทำของตัวกระผม...ถ้ารู้ว่าผลมันจะเป็นแบบนี้...กระผมคงไม่ทำ...ถ้ารู้ว่ามันจะทำให้ท่านซาวาดะเสียน้ำตา...กระผมคงไม่ไปขอร้องท่านมุคุโร่

     

    ฮึก ถ้าฉันไม่รู้จักกับมุคุโร่ ฮึก ฉันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอกสึนะยิ้มให้ตัวเองอย่างสมเพศ....สมเพศ..ในความโง่ของตัวเอง

     

    กระผมขอโทษนะขอรับท่านซาวาดะไม่ไหวแล้ว กระผมทนไม่ไหวแล้ว...ยิ่งเห็นท่านเป็นแบบนี้...กระผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองนั้น...ได้ทำร้ายจิตใจของท่านมากพอแล้ว

     

    ขอโทษเรื่องอะไร?สึนะมองบาจิลด้วยความงุนงง...ทั้งที่พิรุณตัวน้อยไมได้ทำอะไรผิดแต่ทำไมถึงต้องมาขอโทษเขา

     

    กระผมเป็นคนบอกให้ท่านมุคุโร่เลิกกับท่านซาวาดะเองล่ะขอรับเมื่อความจริงปรากฏ...ความสัมพันธ์ของเรากับท่านซาวาดะจะเป็นยังไง...เราไม่มีทางรู้ได้ แม้จะโดนเกลียด...เราก็คงทำอะไรไม่ได้ เพราะเราเป็นคนทำให้พวกเขาเลิกกัน

     

    นะ...นายเป็นคนทำงั้นเหรอสึนะเบิกตากว้างเมื่อรู้ความจริง...คนที่เขาไว้ใจที่สุดกลับเป็นคนทำให้เขาต้องเสียน้ำตา

     

    เพราะพิรุณเป็นคนที่นภาวางใจ...แต่เมื่อนภารับรู้ความจริง...ความสัมพันธ์ทั้งหมดก็ต้องขาดสบัน...ไม่เคยคิดว่าคนคนนี้จะเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด

     

    ขอโทษนะขอรับอัญมณีสีฟ้าสดเต็มไปด้วยน้ำตา...ไม่แปลกเลยที่นภาจะเกลียดเขา

     

    ไม่เคยคิดเลยว่านายจะทำแบบนี้ ฉันเกลียดนายที่สุดสึนะวิ่งออกไปทั้งน้ำตา ทิ้งพิรุณให้ร้องไห้อยู่เพียงคนเดียว

     

    ได้เวลาต้องไปแล้วสินะไม่เคยคิดว่าจะต้องไปจากที่นี้เลย...แต่ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว...ก็คงต้องไป...ไม่เจียมตัวอีกแล้วนะเรา ทั้งที่รู้ว่าตัวเองต่ำต้อย...แต่ก็ยังพยายามจะเอื้อมมือไปหานภาผู้เป็นที่รัก

     

    ความพยายามที่ไร้ค่า...ตัวตนที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของนภา...ไม่มีค่าพอที่ให้เรามาสนใจ...เราก็แค่พิรุณที่แสนต่ำต้อย...ไม่ใช่สายหมอกที่สูงศักดิ์อย่างคนคนนั้น...ทั้งที่รู้ว่าไม่มีสิทธ์ แต่ก็อยากจะรัก...และสุดท้ายคนที่ต้องไปก็คือตัวเรา

    .................................................................

    เฮ้ย บาจิลนายจะไปไหนวายุแห่งวองโกเล่มองพิรุณน้อยอย่างงงๆ

     

    กระผมจะกลับไปอยู่กับท่านรุ่น9ขอรับใบหน้าที่ยิ้มแย้มนั้นแฝงไปด้วยความเสียใจมากมาย...แต่จะทำยังไงได้ล่ะ เราทำตัวเราเอง

     

    จะกลับไปจริงเหรอบาจิลเด็กคนนี้คิดจะไปเพื่อให้สึนะสบายใจสินะ...เพราะพิรุณย่อยเข้าใจความรู้สึกของพิรุณ

     

    ขอรับท่านยามาโมโตะบาจิลโบกมือลาพิรุณและวายุก่อนจะขึ้นรถของโอริกาโนไป

     

    นั้นรถใครเหรอยามาโมโตะสึนะถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียแบบสุดๆ นัยน์ตาสีเปลือกไม้หรือขึ้นมานิดๆ

     

    รถของคุณโอริกาโนน่ะ เขามารับบาจิลกลับเมื่อเอ่ยถึงพิรุณตัวน้อย นัยน์ตาทั้งสองถึงกับเบิกกว้างทันที

    กระผมเป็นคนบอกให้ท่านมุคุโร่เลิกกับท่านซาวาดะเองล่ะขอรับ

    คนที่ไว้ใจมากที่สุด...กลับเป็นคนที่หักหลังได้มากที่สุด...ทำไมถึงได้ทำแบบนี้น่ะบาจิล...ทำไมถึงต้องทำร้ายกันด้วย

    วองโกเล่ครับ เราเลิกกันเถอะ

    นั้นเป็นเพียงแค่คำขอร้องที่เอาแต่ใจของเขา...แต่นายก็ยังทำตามเพียงเพราะสงสารเขางั้นเหรอ...หรือว่าที่จริงแล้วนายให้ฉันเป็นสะพาน...ข้ามไปหาคุณฮิบาริเท่านั้น

     

    ขอโทษนะค่ะบอส มีจดหมายของคุณบาจิลค่ะสายหมอกสาวยื่นจดหมายที่จ่ายหน้าถึงนภาให้แก่เจ้าผู้เป็นนภา

     

    ขอบคุณนะโคลมสึนะรับจดหมายมาก่อนจะเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว

     

    ถึง...ท่านซาวาดะ

         เมื่อท่านซาวาดะได้รับจดหมายแล้วนั้นก็หมายถึงกระผมได้ออกไปจากปราสาทวองโกเล่แล้ว กระผมต้องขอโทษท่านจริงๆนะขอรับแต่ที่กระผมทำไปทั้งหมดนั้น กระผมเพียงแค่อยากให้ท่านซาวาดะหันมามองกระผมบ้างก็เท่านั้น กระผมมันไม่เจียมตัวเองที่ฝันอยากจะเคียงข้างกายนภาอย่างท่านซาวาดะตอนนี้กระผมรู้แล้วว่าตัวกระผมนั้นเป็นใครและท่านซาวาดะเป็นใคร ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้กระผมก็จะขอเป็นคนที่จากไปเองขอรับความเจ็บปวดทั้งหลายกระผมขอรับไว้เพียงผู้เดียว ตอนจากที่ไปกระผมอยากให้ท่านซาวาดะมีแต่รอยยิ้ม...เพราะนภาอย่างท่านเหมาะสมกับรอยยิ้มมากกว่าน้ำตานะขอรับ กระผมไม่อยากจะเห็นน้ำตาของท่านซาวาดะอีกแล้วเพราะน้ำตาของท่านมันทำให้กระผมเจ็บ...กระผมอยากจะให้ท่านรู้ว่า

    ...ในยามที่ท่านเจ็บ กระผมจะเป็นที่ระบายให้ท่าน

     

    ในยามที่ท่านสุข กระผมจะยิ้มไปพร้อมกับท่าน...

     

    ...และในยามที่ท่านไม่มีใคร กระผมจะอยู่กับท่าน

     

    กระผมไม่ขอไปแทนสายหมอกในใจของท่านแต่กระผมจะขออยู่ห่างๆเฝ้ามองท่านอย่างนี้ต่อไปจะได้ไหมขอรับ คนอย่างกระผมน่ะได้เป็นแค่ตัวสำรองก็พอใจแล้วกระผมไม่หวังจะเป็นคนที่ท่านรัก ไม่หวังจะเป็นคนที่ท่านห่วงใย ไม่หวังให้ท่านให้ความสำคัญเพราะทุกสิ่งทุกอย่างนั้นกระผมจะเป็นคนให้ท่านเอง

    ...กระผมรักท่านซาวาดะนะขอรับ...

     

    บาจิล

    .................................................................

    เมื่อยามที่นภาเสียใจ พิรุณจะเป็นผู้ปลอบโยน

     

    แต่เมื่อพิรุณเสียใจ นภาไม่เคยเหลียวแล

     

    ยามที่นภาทุกข์ใจ พิรุณมักจะคอยเป็นกำลังใจ

     

    แต่ยามที่พิรุณทุกข์ พิรุณกลับต้องร้องไห้แต่เพียงผู้เดียว

     

    ความรักของนภาพิรุณไม่เคยต้องการ เพียงแค่ได้ใกล้ชิดพิรุณก็เป็นสุข

     

    พิรุณไม่หวังในนภามารัก ไม่หวังให้เหลียวแล

     

    เพราะทุกอย่างที่ทำไปเป็นเพียงแค่ความต้องการของพิรุณฝ่ายเดียว

     

    ...เพราะเป็นเพียงแค่พิรุณที่ต่ำต้อย ไม่อาจจะเทียบกับสายหมอกได้แม้แต่น้อย

     

    พิรุณจึงได้แต่เฝ้ามองนภาอยู่ห่างๆ คอยปลอบโยนเมื่อทุกข์...

     

    ...เพราะนภานั้นสูงศักดิ์ พิรุณอย่างเขาไม่อาจเอื้อมถึง

     

    แต่ด้วยความไม่เจียมตัว จึงต้องทำให้นภาเสียน้ำตา...

     

    ...และเมื่อนภาได้รู้ความจริง ความสัมพันธ์ก็ต้องหยุดลง

     

    พิรุณขอเป็นฝ่ายจากไป เพื่อให้นภาสบายใจ...

     

    ...ด้วยไม่แคร์ว่าตัวเองจะเจ็บปวดเพียงใด ขอแค่ความสบายใจของนภาเท่านั้นพอ

     

    TBC...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×