ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic: Naruto] Say. รักหรือหลอก บอกกันซะยัยตัวดี!

    ลำดับตอนที่ #5 : Say : One step closer.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 781
      37
      27 ก.ย. 65

     

     


     

     

    - One step closer.


     

    “ แบบนี้ต้องฉลอง เรียวตะจัดห้องเสวยเร็วเข้า ”  เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วโอยามาดะใช้ฝ่ามือดันใบหน้าคาโอรุ

    ให้ออกห่างจน หล่อนเสียหลักล้มลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้ากับพื้น  โอยามาดะกำมือชูแขนขึ้นกลางอากาศทั้งสองข้างเหมือนเด็กๆ

    กำลังดีใจได้ของเล่นทำนองนั้น โทบิรามะได้แต่ทำหน้างงกับท่าทางของโอยามาดะ

    “ ได้ไงอ่ะ ?”  คาโอรุถามอย่างงุนงง เพราะดูจากทรงแล้วว่าโทบิรามะก็ไม่อยากแต่งงานกับหล่อนด้วย

    คิดว่าโทบิรามะจะจากไปทิ้งหล่อนไว้กลางดงระเบิด เข้ามาเยาะเย้ยตามนิสัยคนชอบแกล้งและจากไปเหมือนพวกตัวร้าย

    ในหนัง ทว่าอยู่ดีๆโทบิรามะก็ตอบตกลงแต่งานซะอย่างนั้น ไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ!

                   

    ก่อนจะตกลงปลงใจหรือพูดออกอย่างนั้น โทบิรามะตริตรองแล้วก่อนจะตัดสินใจ

    ในชีวิตจริงโทบิรามะพบปะผู้คนมามากมาย ตั้งแต่ คนงานก่อสร้าง บรรดาพ่อค้าแม่ขายติดต่อสินค้านำเข้าจากต่างแคว้น 

    จนกระทั่งไปถึงท่านเจ้าเมืองหรือท่านไดเมียว เขาสามารถมองคนออกภายในไม่กี่วินาที(ในที่นี้หมายถึงอุปนิสัย ใจคอ )

    โทบิรามะมองโอยามาดะครั้งเดียวก็รู้แล้วว่า โอยามาดะมีบางอย่างคล้ายกับฮาชิรามะเหมือนกัน 

    ดูภายนอกเป็นคนสบายๆ เหมือนจะเป็นคนไร้แก่นสานสาระหรือไม่เอาจริงเอาจังสักอย่าง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อพวกคนแนวนี้

    เป็นที่พึ่งหัวหน้าได้ดีเยี่ยมให้กับทุกคนได้ดีเชียวละ

    และคาโอรุ...แตกต่างจากผู้หญิงที่เขาพบได้ทั่วไปอย่างมาก หล่อนไม่มีสายตายั่วยวน 

    เชิญชวนในการมองเขาสักอย่างไม่มีรอยยิ้มไม่มีการทักทาย ไม่มีกระทั่งแม้แต่จะพูดจาดีๆ  ปราดตามองครั้งแรก

    ก็ดูออกแล้วว่าคาโอรุมีนิสัยใจคอเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย รักพวกพ้อง  ใส่ใจแม้กระทั่งโทบิรามะ 

    คาดว่าในส่วนลึกของจิตใจหล่อนเป็นคนดีมีจิตใจอ่อนโยน ยกตัวอย่างเช่น

    “ ก็ได้ ท่านพี่ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ข้าไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเขา เขามาที่นี่ในฐานะอะไร เขาอาจจะมีลูก เมีย

    รออยู่ที่บ้านก็ได้ ข้าไม่อยากเป็นคนไปแย่งไปทำลายครอบครัวของคนอื่น ”  เขาจำคำพูดของคาโอรุได้อย่างแม่นยำ

    ราวกับกินขนมปังช่วยของโดราเอมอนจำอย่างนั้น  โทบิรามะไม่ได้ตั้งใจแอบฟังสองพี่น้องคุยกัน

     แค่เข้าไปอยู่ในวงสนทนาด้วยเท่านั้นเอง เพียงเท่านี้ก็แสดงให้ออกแล้วว่าหล่อนเป็นคนมีนิสัยส่วนตัวแบบไหนกัน.

     

    ที่สำคัญไปกว่านั้น เขาไม่ชอบอะไรที่มันได้มาง่ายๆ 

     

    “ ข้าก็เป็นกังวลว่าคาโอรุจะเป็นโรคจิตเสียอีก ” 

    “ โรคจิต? ” 

    “ ใช่ ข้าเคยคิดว่าคาโอรุจะสวมเสื้อโค้ทตัวเดียวแล้วเข้าไปในเมือง ไปหาสาวน้อยหน้าตาน่ารักๆ 

    เปิดเสื้อให้ดูเสียอีก ”  แม้คาโอรุจำต้องทำงานร่วมกับผู้ชายมากหน้าหลายตา ดูเหมือนคาโอรุจะไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ

    โอยามาดะไม่เคยได้ยิน คาโอรุพูดถึงผู้ชายคนไหนด้วยซ้ำ กลับพอมีนางในวังหรือแม่บ้านตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเดินผ่าน

     คาโอรุมักจะมักจะมีท่าทีเขินพวกนางซะอย่างนั้น  แล้วจะให้คนเป็นพี่อดห่วงไม่ได้หรืออย่างไรกันเล่า?

    “ ฮ่า ฮ่า ”  โทบิรามะหลุดขำกับความคิดของโอยามาดะ

    “ ข้าพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า? ” 

    “ ไม่หรอกท่านโอยามาดะ เรื่องแต่งงานสำหรับผู้หญิงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ”  โทบิรามะบอก

    “ ข้าลืมไปเสียสนิทเลย ”  โอยามาดะลืมคิดไปเลยด้วยซ้ำ ถ้าโทบิรามะไม่ได้บอกก็คาดมันไม่ถึง

    ภรรยาสาวของโอยามาดะมักจะพูดถึงเรื่องเสื้อผ้าและพิธีการในงานแต่งบ่อยครั้ง เธอพยายามจับคาโอรุ

    ใส่ชุดแต่งงานด้วยสิ ซ้ำยังกำชับกับโอยามาดะอีกว่าต้องให้คาโอรุเตรียมตัวได้แล้ว ไม่ว่าจะเสื้อผ้าหน้าผม

    หรือซ้อมพิธี(ที่ไม่มีเจ้าบ่าว)ไปก่อนก็ยังดี


     

    โทบิรามะกระพริบตาช้าๆ เขากลับไปคิดถึง ‘เธอ’ อีกแล้ว ภาพของหญิงสาวเส้นผมสีแดงยาวสลวยถึงเอว

    เจ้าของดวงตาสีมรกต และรอยยิ้มแสนหวาน ขึ้นมาในทันที

     

                    “ ท่านพ่อฮะ ผมจับท่านพ่อได้แล้ว ”  เด็กชายตัวน้อยโผวิ่งเข้ามากอดขาโอยามาดะแน่น

                    “ ผมก็จับได้เหมือนกัน ” 

                    “ ผมด้วยฮะๆ ” 

                    “ เอาล่ะลูกลิงพ่อมีแขกนะเบาๆกันหน่อย ”  โอยามาดะหันไปบอกบุตรชายทั้งสามคนอย่างอ่อนโยน

                    “ ท่านพ่อฮะได้เวลาอาหารแล้ว ท่านแม่บอกให้ท่านพ่อพาแขกไปด้วยฮะ ” 

                    “ ทานอาหารร่วมกันนะท่านโทบิรามะ ”  โอยามาดะหันมาชวนแล้วเดินนำโทบิรามะไปยังห้องอาหาร

    อีกฝั่งของห้องทำงาน 

          เมื่อมาถึงห้องอาหารโอยามาดะแนะนำให้โทบิรามะได้ทำความรู้จักกับ กิโกะ ภรรยาสาวคนสวยกิโกะ

    มีเส้นผมสีดำยาวสลวย รวบขึ้นอย่างเรียบร้อยแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าทันสมัยสวมชุดคลุมท้องสีสันสดใส

    แฝงไปด้วยความเรียบร้อย 

    โทบิรามะร่วมวงทานอาหารพร้อมกับโอยามาดะและครอบครัว เขาหันไปมองเก้าอี้ด้านข้างแล้วรู้สึกแปลกใจ

    คาโอรุไม่ได้มาร่วมวงทานอาหารด้วย

                    “ วิถีคนผอมของคาโอรุเขาหน่ะ ”  

                    “ ที่รัก อย่าไปแซวน้องแบบนั้นเดี๋ยวคาโอรุมาได้ยินหรอกค่ะ ”  กิโกะภรรยาคนสวยตักเตือน

                    “ มาสิให้มาได้ยินไปเลยนี่มันเวลาครอบครัวนะ แทนที่จะอยู่กินข้าวพร้อมหน้ากันให้ตายสิ 

    คาโอรุไม่ได้เรื่องเลยแย่จริงๆ ”  โอยามาดะจัดชุดใหญ่มาเต็ม

                    “ อาหารเย็นชืดแล้วคะที่รัก ”  กิโกะใช้ตะเกียบในมือคีบไข่หวานยัดใส่ปากโอยามาดะ เพื่อให้เขาหยุดพูด

    แล้วทานอาหารเสียที อีกอย่างก็เกรงใจโทบิรามะรอทานข้าวพร้อมกันด้วย

                 มื้ออาหารได้จบลง กิโกะพาลูกลิงทั้งสามไปอาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอน โอยามาดะชวนโทบิรามะไปดื่มต่อ

    ที่ห้องทำงานของเขาตั้งแต่ช่วงเย็นของวันยันเกือบสามทุ่ม

    “ ท่านโทบิรามะ ข้าหมักเบียร์เองเลยนะ ลองชิมหน่อยไหม? ”

    “ ท่านหมักเลยเรอะ ไหน ฉันต้องลองชิมหน่อยแล้วละ ”  

    โอยามาดะนำเบียร์ที่ได้หมักมาเจัดแจง รินให้เบียร์ใส่แก้ว นั่งคุยไปจิบกับโทบิรามะหลายเรื่อง พลางโขกหมากรุก

    ลงบนกระดานไม้ โทบิรามะสังเกตได้ว่าโอยามาดะดื่มเบียร์หมดไปเป็นลัง แต่สติยังครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ขาด  ไม่เกิน

    ถือว่าโอยามาดะก็คอแข็งเหมือนกัน  หมากรุกยังไม่ทันได้จบเกม โอยามาดะบอกให้โทบิรามะไปพักผ่อนเพราะว่าวันนี้ 

    เขาเจอเรื่องมาเยอะจนเหนื่อยเกินไป ยังกล่าวขอโทษโทบิรามะด้วยว่าเขารั้งตัวโทบิรามะไว้จนดึก

     

                    “ หัวหน้าเรียวตะติดธุระ กระหม่อมฮินาตะท่านสามารถเรียกใช้บริการเอ้ย 

    เรียกใช้กระหม่อมได้ตลอดเวลาฮะ” หนุ่มน้อยหน้าสวยพาโทบิรามะไปส่งที่หน้าห้องพัก ไม่ได้พามาส่งอย่างเดียว

    เขายังแบกกระเป๋าของโทบิรามะไว้บนบ่าด้วย

                    “ ขอบใจนะ ”  โทบิรามะกล่าวเมื่อมาถึงหน้าห้องพัก

                    “ ราตรีสวัสดิ์ฮะ ”  ฮินาตะส่งกระเป๋าบนบ่าคืนเจ้าของแล้วโค้งตัวกล่าวลา

                    “ เช่นกัน ”  โทบิรามะมองฮินาตะเดินจากไป ครั้งแรกที่เห็นฮินาตะเ ขาคิดว่าเป็นเด็กหญิงคนสนิท

    ของคาโอรุ พอมองอีกทีฮินาตะก็เป็นเด็กชายบอบบาง ถ้าไม่ทันสังเกตลูกกระเดือก ข้อมือ โทบิรามะก็อาจจะเข้าใจผิด

    ไปก็ได้ โทบิรามะเข้าห้องพัก เขากวาดตามองไปรอบห้องเพื่อสำรวจห้องเล็กๆขนาดแปดเสื่อ เครื่องปรับอากาศ

    ตู้เสื้อผ้า โคมไฟเล็กๆ ที่นอนปิกนิกสำหรับนอนคนเดียว โต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆ ห้องน้ำในตัวเล็กๆไม่มีประตูมีเพียงแต่ม่านใสสีขุ่น

    กั้นไว้เท่านั้น  โทบิรามะไม่เรื่องมากอยู่แล้วขอแค่มีที่นอนให้ก็พอ  เขาวางกระเป๋าในมือลงเดินเข้าไปเปิดผ้าม่านดู

    บรรยากาศภายนอก

               สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาบ้างแล้ว คาดว่าราตรีนี้ฝนยังตกลงแบบไม่ลืมหูลืมตาอีกแน่

    โทบิรามะถอดเสื้อบนตัวออกทันที  ย่างเท้าเข้าไปในห้องน้ำมันต่างกันลิบลับข้าวของเครื่องใช้ ในห้องน้ำมีครบครัน

    ไม่ว่าจะสบู่ ยาสระผม ครีมนวดผม ไดร์เป่าผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ไหมขัดฟัน น้ำยาป้วนปาก มีดโกนหนวด 

    ครีมโกนหนวด เกลือสปาขัดผิว ครีมบำรุงผิวต่างๆ วางเรียงรายให้ โทบิรามะได้เลือกสรร

    เขาพร้อมจะทำความสะอาดร่างกายและเข้านอนในเวลาถัดมา

     

     

    คาโอรุกลับมาจากการสำรวจป่าเหมือนเช่นเคย หล่อนมุ่งหน้าตรงไปหาโอยามาดะในห้องทำงาน

    เรียวตะนั่งอยู่นอกห้องบอกว่าโอยามาดะคุยธุระกับโทบิรามะอยู่ คาโอรุไม่อยากเข้าไปขัดให้เสียเวลา 

    หล่อนบอกกับเรียวตะว่า จับพวกกองกำลังนินจาของหมู่บ้านคิริงาคุเระนับได้ทั้งสิ้นห้าร้อยนาย 

    และต้องการคำตัดสินว่าจะทำอย่างไรกับพวกนินจาพวกนั้นดี ? 

    เรียวตะเป็นคนรับเรื่องไว้และจะสานต่อให้ บังเอิญโอยามาดะเปิดประตูออกมาส่งโทบิรามะพอดี

    หลังจากฮินาตะพาโทบิรามะไปพักผ่อนแล้ว คาโอรุรีบแจ้งเรื่องให้โอยามาดะทราบในทันที

                    “ ข้าจับพวกนินจาคิริงาคุเระได้อยู่ที่ชายป่าด้านหลังเขา ” 

                    “ ดีมากคาโอรุ ” 

                    “ แล้วจะทำอะไรต่อดีล่ะ? ” 

                    “ ข้าจัดการต่อเอง เจ้าก็มาเหนื่อยๆดื่มนี่ซะก่อนสิ ”  โอยมาดะยัดแก้วเบียร์สดใส่มือคาโอรุเฉยเลย

    โอยามาดะรู้ดีว่าคาโอรุคออ่อนจะตาย หลอกกินเบียร์ชิมเหล้านิดหน่อย ก็คอพับหลับไม่รู้เรื่องแล้ว  

    ฮินาตะรับอาสาพาคาโอรุมาส่งห้องพักอย่างทุลักทุเล อาจจะเป็นเพราะความสูงของฮินาตะ

    ห่างจากคาโอรุด้วยทำให้เกิดข้อเสียเปรียบ

                    “ นี่มันไม่ใช่ทางไปห้องข้าหนิ ”  คาโอรุท้วง

                    “ หัวหน้าโชเฮย์เข้าไปฉีดปลวกที่ห้องนอน รบกวนท่านคาโอรุไปพักอีกห้องเถอะฮะ ” 

                    “ แล้วมาฉีดอะไรตอนนี้เล่า! ”  คาโอรุโวยวาย

                    “ แหะ แหะ ”  ฮินาตะหัวเราะแห้งๆ ใส่ไม่รู้จะตอบคำถามอย่างไรดี

    ฮินาตะเดินมาทางเดินกับที่มาส่งโทบิรามะ เขาพาคาโอรุไปหาห้องพัก ล้วงมือควานหากุญแจห้องในกระเป๋าได้

    รีบไขกุญแจทันใด ดันร่างของคาโอรุเข้าไปในตัวห้อง ปิดประตูแถมไขกุญแจล็อกห้องจากทางด้านนอกให้ด้วย 

    สภาพคาโอรุแทบดูไม่ได้

    นอกจากตัวจะเปียกน้ำฝนแล้วก็เมาเละเทะอีกตังหาก เมื่อเข้ามาในห้องได้  คาโอรุวางดาบยามาโตะ

    ลงข้างที่นอนปิกนิก ถอดเสื้อผ้าบนตัวออกทุกชิ้น มุดตัวเข้าไปอยู่ในผ้าห่มผืนจ้อย ความอ่อนล้าทำให้ร่างกายต้องการพัก

    ผ่อนเป็นอย่างมาก 

    ใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีคาโอรุเข้าสู่นิทราเรียบร้อย

     

    เข็มนาฬิกากำลังเดินเป็นวงกลมส่งเสียงต๊อก ต๊อก  ตามกลไกการทำงานของมัน 

    โทบิรามะรู้สึกถึงความชื้นบางอย่างบริเวณแผ่นหลัง ทำให้ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกอย่างช่วยไม่ได้

    กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจอุ่นๆมารดต้นคอตนลอยเตะเข้าจมูก มีสบถอย่างหัวเสียเล็กน้อย เอื้อมมือไปเปิดสวิตท์

    โคมโฟเล็กๆตรงหัวนอนเล็กน้อย เพื่อดูว่ามีบางอย่างนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม 

                    “ คาโอรุ ”  เขาเรียกชื่อหล่อนเบาๆ ก่อนจะนอนเขาก็อยู่ในห้องคนเดียวนี่หว่า 

    ตอนแรกก็คิดว่าผีหลอกวิญญาณหลอน ไม่รู้ว่าคาโอรุมุดเข้ามาอยู่ด้านหลังตั้งแต่ตอนไหนแต่ช่างเถิด

    นอนต่ออย่าให้เสียเวลา  มีสาวสวยนอนขนาบข้างแบบนี้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกดีกว่าฮาชิรามะมานอนเบียดข้างหลังละกัน

                    “ อย่าเอาหน้าอกมาเบียดหลังฉันน่า! ”   โทบิรามะเอียงหน้าหันไปบอก แม้ว่าคาโอรุจะไม่รู้เรื่องก็ตาม 

    หน้าอกหน้าใจมหึมา ไร้ปราการเบียดอยู่บนแผ่นหลังเรียกว่าแนบเนื้อ เล่นโทบิรามะถึงเขว(บ้าง) 

    เขาเองก็ไม่ใช่พวกหื่น ทะลึ่ง ชีกอ บ้ากาม (ไรท์ชิว:หันมามองทางนี้ทำไมเนี่ย?)

     

    ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุมือเล็กๆของคาโอรุวางพาดบนต้นคอ คลายดึงต้นคอหนาๆให้หันมา

    โทบิรามะสูดลมหายใจทางจมูกเต็มแรง เพื่อระงับสติของตัวเอง " ได้ คาโอรุ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ! " 

    ว่าแล้วโทบิรามะก็ตัดสินใจ พลิกตัวกลับมาหาคาโอรุ จ้องมองใบหน้าหวาน ตาคู่สวยแม้จะปิดอยู่ 

    จมูกโด่งเป็นสันปลายจมูกเชิดรั้นๆขึ้นเหมือนนิสัยดื้อรั้น ริมฝีปากกระบางน่ากดจูบแรงๆ พยายามหักห้ามสายตา

    ไม่ให้เบนสายตามองต่ำลงไป ทว่ามันก็ยากที่จะทำ ดังนั้น

     โทบิรามะจะไม่ฝืนตัวเองอีกต่อไป ฝ่ามือหนาไม่อยู่เฉย จับต้องบนผิวกายน่าทะนุถนอม 

    บอกตามตรงว่าเลยโทบิรามะชอบคาโอรุ

    ตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรก แม้ว่า Love At First Sight ของทั้งคู่อาจจะไม่สู้ดีนัก โทบิรามะกระชับอ้อมแขนแกร่ง

    ให้คาโอรุขยับเข้ามาใกล้ชิดกายมากขึ้น สูดกลิ่นหอมเย้ายวนใจใคร่อยากรู้ว่าหล่อนใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรกัน

    ทำให้เขาอยากรับกลิ่นนั้นอยู่ตลอดเวลา กว่าจะรู้สึกตัวว่าแอบลักขโมยจูบ ตักตวงความหวานนั้นหลายครา

     โทบิรามะก็หาเหตุหล เพื่อที่จะหาเศษหาเลยกับคนที่กำลังหลับ  อย่าไรก็ตาม…

    เขาและคาโอรุต้องต้องแต่งงานกัน ต้นสายปลายทางก็ต้องลงเอยกันอยู่ดังนั้นเเล้ว

        เขาไร้ความผิดที่จะจูบหรือทำอะไรๆ มากไปกว่านี้กับว่าที่ภรรยา 


     


     

    “ อะ อืม ”  คาโอรุส่งเสียงครางในลำคอเบาๆ เปิดเปลือกตามองภายในห้องช้าๆ

    เพื่อรับแสงสว่างส่องเข้ามาทางหน้าต่างห้อง หล่อนดึงตัวลุกมาอยู่ในท่านั่งยืดขาตามความยาว บิดขี้เกียจไป มาอย่างนั้น

     ได้ยินเสียงกระดูกลั่นเบาๆ กว่าจะรู้สึกตัวว่าโป๊ร่างกายเปลือยเปล่าไม่ได้สวมอะไรไว้สักชิ้น!

    ต้องรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอก โทบิรามะเดินออกจากห้องน้ำพอดีเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ากระจกของตู้เสื้อผ้า

    เขามีแค่ผ้าขนหนูสีน้ำเงินพันรอบเอวลวกๆปิดความเป็นชายแค่ผืนเดียว คาโอรุฉวยโอกาสสำรวจโทบิรามะเสียเลย

    เส้นผมสีเทาควันบุหรี่ยาวกำลังพอดียังเปียกชื้นสีคิ้วสีเดียวกับสีผม ดวงตากลมโตสีแดงสดคมกริบคล้ายกับเหยี่ยว

    จมูกโด่งเป็นสันคมรับกับโครงหน้าของเขาอย่างดี ริมฝีปากหยักอวบอิ่มสีแดงอ่อน  มองดูจากส่วนสูงแล้วไม่น่าเกิน

    หนึ่งร้อยแปดสิบสอง หยาดน้ำหยาดเล็กเกาะบนผิวกายขาวเนียนสะอาดทั่วทั้งตัว 

    ร่างกายของโทบิรามะอัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็นช่วงไหล่ แผ่นหลัง ด้านหน้า แผงอกและกล้ามเนื้อส่วน

    ท้องเป็นมัดได้รูปไร้ไขมันแทรกขัดต่อสายต่อ แถมไรขนอ่อนใต้กล้ามหน้าท้อง หายวับซ่อนใต้ผ้าขนหนูผืนนั้นชวนให้ลุ้นต่อ

           รวมๆแล้วว่าที่สามีของหล่อนก็หล่อ...  ไม่ได้หล่อแบบธรรมดา  ต้องเรียกว่าอย่างหล่อไม่ได้มีแค่หล่ออย่างเดียว

    โทบิรามะก็มี ‘สเน่ห์’ อีกด้วย คาโอรุถึงกับกับริมฝีปากล่างแน่น หัวใจเต้นแรงผิดคีย์ 

    ทั้งๆที่หล่อนทำงานร่วมกับพลทหารนับพันนาย หล่อนไม่มีท่าทางเขินอายเมื่อพวกเขาเหล่านั้นถอดเสื้อโชว์กล้าม

    เลยแม้แต่น้อย 

     

                    หล่อหรอ ? แล้วอย่างไร ? กินไม่ได้ซะหน่อย ! คาโอรุประท้วงกับความคิดตัวเองในใจ

     

     โทบิรามะยักคิ้วซ้ายใส่กระจกตรงหน้า ก็ต่อเมื่อเห็นว่ามีคนแอบมองเขาสะท้อนในกระจกอย่างนั้น

    สภาพเส้นผมสีแดงชีฟูอย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าสวยงัวเงียเล็กน้อย คงเพราะเพิ่งตื่นนอน โดยมีแสงแดดอ่อนๆ

    กระทบลงผิวหน้าผิวกาย ชวนให้น่าหลงไหล แม้ว่าจะเป็นสภาพตื่นนอน สาวๆหลายคนมักไม่อยากให้ผู้ชายเห็นก็ตาม 

    โทบิรามะหมุนตัวเดินเข้ามาใกล้ คาโอรุ มากขึ้น มากขึ้นจนกระทั่งมาถึงตรงหน้า  โทบิรามะคลี่ยิ้มให้อีกครั้งแล้วค่อย

    ยกมือขึ้นมาสัมผัสข้างริมฝีปากล่างของคาโอรุ อย่างเบามือแล้วบอกกับหล่อนว่า

    “ น้ำลายหกแล้ว ”  โทบิรามะส่งยิ้มให้อีกที เขาหันตัวแล้วเดินไปหน้ากระจกอีกครั้ง ตั้งใจถอดผ้าขนหนู

    สวมใส่กางเกงยีนส์สีดำขาเดฟเข้ารูป

    “ ข้าเป็นผู้หญิงนะ มาถอดผ้าแบบนั้นได้ไง! ”  คาโอรุหลับตาปี๋ หล่อนหยิบหมอนหนุนยัดไส้ขนเป็ดอย่างดี

    ปาใส่แผ่นหลังโทบิรามะให้ เสียใจด้วยคาโอรุ โทบิรามะคว้ามันได้กลางอากาศ เขาปาใส่หน้าคาโอรุคืนดังปุ้ง

    คนเริ่มสงครามปาหมอนถึงกับหน้าหงายเงิบ 

    “ อืม ก็น่าจะเป็นผู้หญิง ...ฟองน้ำเยอะจัง ”  โทบิรามะหันไปเห็นบราเซียร์ลูกไม้สีดำอยู่ใกล้ตัวเขาหยิบขึ้นมาดู

    ในระดับสายตา เขามีเหล่มองคาโอรุเล็กน้อย คาโอรุกระชับผ้าห่มห่อตัวแน่นไม่รู้ว่าโทบิรามะคิดจะทำอะไร 

    เขาหยิบเสื้อยืดสีขาวคอวีออกจากกระเป๋าเสร็จ ค่อยส่งบราเซียร์ในมือซ้ายคืนเจ้าของทำนอง ‘ เอ้าใส่เร็วเข้า’

    “ นายถั่วงอก! ”  คาโอรุก่นด่าเบาๆ หลังจากรับมาได้ในมือ หล่อนรีบสวมมันแล้วความหาชิ้นส่วนอื่น

    ที่กระจัดกระจายในห้องอย่างรวดเร็ว โทบิรามะยืนใส่เสื้อเสร็จพอดีกับเจอโอยามาดะหน้าห้องพัก

    “ เมื่อคืนหลับสบายหรือเปล่า? ”  โอยามาดะถามเขาแต่เช้า

    “ อุ่นดี ” 

    “ อุ่นดีอย่างนั้นหรอ? ข้าจะพาท่านไปจิบกาแฟนะ ”   โอยามาดะรีบพาโทบิรามะออกจากหน้าห้องพัก

    เขาเริ่มได้ยินเสียงคาโอรุโวยวายและพังข้าวของ กลัวว่าออกมาเจอกับเขาจะยิ่งไปกันใหญ่ 

    เอาเป็นว่าไม่มีใครอยากเห็นใบหน้าบูดบึ้งคล้ายกับยักษ์กินคนของคาโอรุแต่เช้า เดี๋ยวพาลหลอนนอนไม่หลับในยามดึก

     

     

    โอยามาดะพาโทบิรามะออกเดินสำรวจตลาดในยามเช้า พ่อค้าแม่ขายต่างพากันตั้งร้านทั้งสองฝั่งอย่างคึกคัก

     พวกเขาเล่านั้นยังส่งเสียงเรียกลูกค้าด้วยความเป็นกันเอง บรรยากาศที่นี่ก็ไม่ได้ต่างกับหมู่บ้านโคโนฮะมากนัก

    “ ถึงแล้วละ”  โอยามาดะหันมาบอกแล้วเดินนำเข้าไปในร้านกาแฟเล็กๆ  กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟคั่วบด

    ลอยฟุ้งในทุกอณูอากาศเหมาะสำหรับคอกาแฟเป็นอย่างมาก โทบิรามะมองสำรวจไปรอบร้าน ตัวร้านเป็นอิฐเปลือย

    ตกแต่งให้ดูทันสมัยเล็กน้อยไม่ว่าจะมีชั้นหนังสือตั้งเป็นมุม ตู้จดหมาย จักรยานโบราณหรือต้นไม้ต้นเล็กๆภายในร้าน

    โอยามาดะพาโทบิรามะออกมานั่งตรงระเบียงด้านนอก จัดทำเป็นเคาน์เตอร์และเก้าอี้ทรงสูง อีกสี่ห้าตัว 

    ตั้งไว้สำหรับชมวิว

    “ คาโอรุชอบมาที่นี่ ”  โอยามาดะบอกแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ทรงสูง

    โทบิรามะนั่งลงข้างๆโอยามาดะ เขามองวิวภูเขาตรงหน้า ใช่ ภูเขาทับซ้อนกันอยู่หลายลูกเป็นแนวทอดยาวออกไป

    พระอาทิตย์กำลังทอแสงสีเหลืองทองอร่ามตัดกับทะเลหมอกในยามเช้า (เกิดเนื่องจากฝนตกหนักเมื่อคืน)

    ทำให้อากาศเย็นเล็กน้อย มีหมอกควันลอยเหนือทิวเขา 

    สำหรับโทบิรามะแล้วทิวทัศน์ตรงหน้าเขาไม่เคยได้เห็นจากที่ไหนมาก่อน เสียดายไม่ได้หยิบกล้องถ่ายรูป

    ติดมือมาทำภารกิจด้วย

    โอยามาดะส่งแผ่นรายการอาหารให้โทบิรามะ ส่วนตัวเขานั้นเขียนชื่อรายการอาหารที่ต้องการลงของตน 

    รอเขียนของโทบิรามะลงใน แผ่นสั่งอาหาร ที่ร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้ไม่ได้มีแค่กาแฟอย่างเดียว ยังมีชุดขนมปัง 

    คลับแซนด์วิช ยันข้าวต้มหรือโจ๊กแต่รายการอาหารพวกนี่น่าจะใช้เวลารอนานหน่อย 

    “ รับรายการหน่อย ”  โอยามาดะเรียกให้เด็กหนุ่มอายุไม่เกินสิบห้าเข้ามารับรายการอาหาร

    เด็กหนุ่มบริกรเดินเข้ามารับพร้อมรอยยิ้มแต่ต้องหุบลงเมื่อเขาเห็นชายตรงหน้า

    “ ไม่ต้องคุกเข่า รีบไปทำรายการอาหารมาซะ ”  โอยามาดะดักทางถูก  เขารู้ว่าเด็กหนุ่มตัวเกร็งไปหมด

    จึงพยายามลดความถือตัวลง เพิ่มความเป็นกันเองมากขึ้น  เด็กหนุ่มพยักหน้ารัวๆรีบวิ่งแจ้นเข้าหลังร้าน

    โดยไม่ทวนรายการอีกรอบ

     

     กษัตริย์ปกครองแผ่นดินนั่งอยู่ตรงหน้าใครจะไปกล้ายืนค้ำหัวอยู่แบบนั้น ถ้ามีผู้ติดตามมาด้วย

    เด็กหนุ่มบริกรอาจจะโดนลงโทษหรืออาจจะไม่มีเงาหัวก็เป็นได้ ในระหว่างรออาหารโอยามาดะและโทบิรามะได้รับกาแฟ

    กันคนละแก้ว พวกเขาทั้งสองได้ยิน ผู้สูงอายุจับกลุ่มนั่งคุยกันอย่างถนัดหู

     “ ได้ข่าวมาว่าท่านโอยามาดะเสร็จมาแถวนี้ ” 

    “ เบาๆกันหน่อยนะ ” 

    “ พวกทหารในวังกำลังซ้อมรบกับคิริงาคุเระอีกแล้ว ” 

    “ ข้าเสียทั้งตาซ้ายแล้วก็ลูกชายไปในสงครามครั้งก่อนไม่รู้ว่าครั้งนี้จะต้องเสียอะไรไปอีก ” 

    “ มีสงครามทุกปีแบบนี้พวกทหารก็คงไม่ไหวจะต้องสูญเสียไปอีกนานแค่ไหนกัน? ” 

             “ ท่านโอยามาดะน่าจะทำสัญญาพันธมิตรซะจะได้จบๆเรื่อง มีสงครามมาไม่หยุดไม่หย่อนแบบนี้

    พวกทหารก็รับมือไม่ไหวหรอก ” 

    “ ไม่รู้ว่าท่านโอยามาดะคิดอะไรอยู่เหมือนกันนะ ” 

    “ เมื่อไหร่สงครามจะยุติเสียที  ” 

     

    “ เราย้ายร้านดีไหม? ”  โทบิรามะเลี่ยงที่จะเรียกชื่อ อยากเปลี่ยนที่คุยเสียแล้วสิ 

    บอกตามตรงว่าไม่ได้ตั้งใจจะฟังบทสนทนาของคนอื่นมากนัก ทว่าภายในร้านมีเพียงแค่กลุ่มคนสูงอายุมานั่งจิบกาแฟ

    จับเข่าคุยพูดคุยกันเรื่องสงครามในร้านนี้ กับแค่โทบิรามะ โอยามาดะสองคนเท่านั้น 

    ทำให้ได้ยินทุกคำพูดดังมาจากอีกโต๊ะเท่านั้น โทบิรามะเข้าใจดีว่าโอยามาดะรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหน 

    โอยามาดะมักจะแสดงออกทางแววตามากกว่าสีหน้าให้คนอื่นเห็นมากกว่า

    “ ข้าก็ไม่ได้อยากทำสงครามนักหรอก ”  โอยามาดะพูดเบาๆ ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดพวกนั้น

    เขาสูญเสียทหารเอก แกร่งกล้าวิชาฝีมือดีเยี่ยม เสียเพื่อน เสียคนรักไปในสงครามทั้งหมดเพื่อปกป้องเกาะจันทร์เสี้ยว 

    ดินแดนที่ได้รับเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่น ไม่มีใครเคยล่วงรู้เลยว่าเขาเองก็เสียใจ เจ็บได้และ ร้องไห้เป็น

    มีความรู้สึกเหมือนกับชาวบ้านที่กำลังพูดคุยถึงตัวเขาเช่นกัน 

     


     

    “ นี่มันอะไรกัน ? ”  คาโอรุเบิกตากว้างม่านตาขยายตัวออกด้วยอาการตกใจสุดขีด 

    เหตุเกิดเมื่อคืนว่าหล่อนจับพวกทหารกองกำลังของคิริงาคุเระได้ แล้วนำไปบอกโอยามาดะ

    “ ข้าจัดการต่อเอง เจ้าก็มาเหนื่อยๆดื่มนี่ซะก่อนสิ ”   โอยามาดะยัดแก้วเบียร์ใส่มือคาโอรุแถมยัง

    มอมหล่อนเมาปลิ้นอีกตังหาก คาโอรุส่ายหน้าไม่ยอมรับกับภาพที่เกิดขึ้น กลิ่นคาวเลือดคุ้งไปทั่วยังติดอยู่ปลายจมูกอยู่เลย

    ขาเรียวเล็กรีบถอยหลังกลับตัววิ่งหนีด้วยความไวหล่อนรับไม่ได้กับภาพตรงหน้า โอยามาดะไม่สังหารนินจาพวกนั้น

    แค่เล่นงานบาดเจ็บ จับพวกนั้นเสียบกับไม้แหลมยาวปักประจารไว้บนพื้นโดยเสียบจากแผ่นหลังทะลุทรวงอก 

    เป็นการทรมานคนตายอย่างช้าๆเสียงร้องโหยหวน โอดครวญยังดังไปทั่ว เหล่านกแสก อีกาต่างพากันลงมาโฉบจิก

    กินเนื้อเหล่านินจาคล้ายกับบุฟเฟ่ต์ไม่กำหนดเวลา

     

    โทบิรามะนั่งคุยกับโอยามาดะทนแทบจะหมดเรื่องคุยอยู่แล้ว พวกเขานั่งกันเงียบๆมองดูวิว

    ก้อนเมฆกำลังเปลี่ยนรูปร่างไปตามกระแสลม ทันใดนั้นโทบิรามะได้ยินเสียงฝีเท้าตรงดิ่งมาหาเขาด้วยความเร็วจน

    ต้องหันกลับไปมองผู้มาใหม่

    “ ท่านพี่อยู่ไหน? ”  คาโอรุถามปนหอบ

    โทบิรามะหันไปมองข้างตัวอีกที โอยามาดะหายไปอย่างว่องไวไม่มีเหลือแม้แต่ถ้วยกาแฟ

    “ ฮึ่ย! ”  คาโอรุกัดฟันกรอด หล่อนเปลี่ยนใจต้องคุยกับโอยามาดะจากห้องทำงานเสียแล้ว

    ทั้งๆที่ในใจอยากจะเข้าไปกัดคอโอยามาดะให้หลุดออกมา  โทบิรามะเดินไปจากเงินหน้าเคาน์เตอร์

    พนักงานของร้านบอกว่า โทบิรามะจ่ายเงินเรียบร้อย พอเขาลองถามหาโอยามาดะ พนักงานกลับตอบว่าท่านโอยามาดะ

    ไม่ได้เสร็จมาตั้งแต่ห้าวันที่แล้ว

    สร้างความแปลกใจให้โทบิรามะอย่างมาก  

    โทบิรามะจึงตั้งข้อสงสัยว่าอาการแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับเหล่านินจาที่แอบลับลอบ

    ขึ้นไปยังเกาะจันทร์เสี้ยวไม่มีผิดไม่มีใครรับรู้ข่าวสารเลยว่า ดินแดนแห่งนั้นเป็นอย่างไร ให้การไม่รู้ความ 

    หาประโยชน์จากนินจาไม่ได้เลย คิดเล่นๆว่าคงเป็นคาถานินจาบางอย่างที่สามารถลบความทรงจำ 

    ในช่วงสั้นๆออกจากสมองได้

    “ มีอะไรเร่งด่วนหรือเปล่าคาโอรุ? ”  โทบิรามะเดินกึ่งวิ่งตามคาโอรุ

    “ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย ”  หล่อนตอบอย่างเร่งรีบ ขาทั้งสองข้างจ้ำอ้าวไปด้วย

    “ งั้นฉันก็ไม่บอกละกันว่าท่านพี่ของคุณหายไปไหน ”  โทบิรามะงัดไม้นี้ออกมาใช้ ได้ผลคาโอรุยอมหยุดหัน

    มายืนประจันหน้ากับเขา

    “ นายถั่วงอกนี่มันเรื่องคอขาดบาดตาย ฉันไม่มีเวลามาเล่นหรอกนะ ”  คาโอรุว่าให้

    “ จ้างให้ก็ไม่บอกหรอก ” 

    “ ก็ได้ จำไว้เลยนะนายถั่วงอก ไม่ต้องตามฉันมาเลยนะ ”  คาโอรุเดินหนีโทบิรามะ

     “ ก็อยากไปด้วยหนิ ”  โทบิรามะตอบแบบกวนๆ

    “ พอแล้ว กลับไปซะออกไปจากเกาะนี้! ” 

    “ ทำไม ? ” 

            “ ก็ได้ฉันไม่รู้จักนาย ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แล้วจะแต่งไปทำไม รักก็ไม่ได้รัก เลิกเอาใจท่านพี่ฉันเถอะ

    บอกเลยว่ามันไม่คุ้ม! ” 

    “ แล้วเราจะไม่ศึกษาซึ่งกันและกันเลยหรือไง? ”  โทบิรามะถาม

    “ ฉันไม่ต้องการความรักจากใครทั้งนั้น! ” 

     “ งั้นหรอแล้วถ้าฉันอยากแต่งเองล่ะ? ”  ที่จริงก็ไม่ได้มีใครมาบังคับโทบิรามะหรอก

     เพียงแต่เขาคิดว่าแต่งไปก็ไม่เสียหายอะไร

    “ นายไม่ใช่แบบที่ฉันชอบสักอย่าง หน้าตา รูปร่าง  สีผมสี . . . ”  คาโอรุมีหยุดพูดเว้นวรรคทิ้งช่วง

    “ ไวท์ ”  โทบิรามะตอบให้

    “ ใช่ สีไวท์รู้ไหมฉันเห็นนายแล้วคุณละอดคิดถึงท่านพ่อไม่ได้เลย! ”  คาโอรุกวนประสาทกลับเต็มๆ

    “ ไว้(ท์)หน้ากันบ้างสิ !”  โทบิรามะเริ่มโมโห เขาเองก็ไม่ชอบเด็กพูดจาไม่น่ารักแบบคาโอรุแล้วสิ

    อย่างนี้ต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก ให้รู้จักผู้ใหญ่ รู้จักกาลเทศะด้วย

    “ ไม่ขำไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้เลยนะนายถั่วงอก ! ”  คาโอรุยิ่งอารมณ์ไม่ดีหล่อน

    ยังต้องมาเจอกับโทบิรามะในเวลานี้อีก

    พระเจ้าช่างเล่นตลกกับคนสวยเสมอ  สงครามประสาทจึงเกิดขึ้นย่อมๆกันอย่างต่อเนื่อง

    แบบไม่มีใครยอมใคร ก็ต้องดูกันอีกต่อไปว่าใครจะเป็นเดอะวินเนอร์ในครั้งนี้!

    “ ท่าทางไม่ได้รับการอมรบเรื่องมารยาทมาสินะ ดีฉันจะอบรมให้ ”  โทบิรามะคว้าตัวคาโอรุได้

    เขาจับหล่อนพาดบ่าแล้วฟาดก้นแรงๆดังป้าบ เข้าให้

    “ อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ปล่อยไง ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ! ”  คาโอรุดิ้นพล่าน

    ต้องหลุดออกจากการจับกุมของโทบิรามะให้ได้

     

    “ มารยาทแย่ ”   เพี๊ยะ!

     

    “ พูดจาไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ”  เพี๊ยะ!

     

    “ ได้ฉันจะเป็นพ่อแทนให้ละกัน ”  เพี๊ยะ พูดอีกโทบิรามะก็หวดมือฟาดให้อีก

     

    “ ฉันไม่มีพ่อแบบนาย ! ”  ในที่สุดคาโอรุก็หลุดมาได้ เพราะโทบิรามะโยนหล่อนลงจากบ่า

    ขาสองข้างยังทรงตัวไม่ดีทำให้ล้มพับไปนอนนิ่งกับพื้นชั่วครู่  คาโอรุลุกขึ้นมายืนเต็มสัดส่วนได้หล่อนชี้นิ้วใส่หน้าเขา

    พร้อมกับตั้งท่าจะก่นด่าโทบิรามะก้าวขาเข้าไปหา คาโอรุถอยหลังแล้ววิ่งหนีเขาไปอย่างกะทันหัน

    แถมยังออกตัววิ่งด้วยความไวขนาดนั้น โทบิรามะไม่อยากวิ่งตามเขามองเสื้อแจ็คเก็ตของหล่อน 

    ใช่มันยังเป็นตัวเมื่อวานอยู่เลย โทบิรามะทำท่าวิ่งตามไปอย่างนั้น

    เขาดูจากเส้นทางแล้วว่ามันไม่ใช่ทางกลับไปยังที่พักแต่มันผ่านหมู่บ้านออกไป ผ่านป่าเป็นทางลาดลงเขา

     โทบิรามะพยายามชะลอฝีเท้า เขาเริ่มเห็นท่าเรือตั้งอยู่ไม่ไกล คาโอรุวิ่งลงท่าเรือใช้ขาเรียวยาวของตัวกระโดดข้าม

    ลงบนสปีดโบ๊ท พลางล้วงกุญแจออกจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง หล่อนหยิบลูกกุญแจออกมาแล้วไขกุญแจสตาร์ท

    เครื่องนำเรือแล่นออกสู่ทะเลทันที 

    เรือแล่นออกจากท่าเป็นจังหวะเดียวกับโทบิรามะกระโดดลงเรือพอดี 

     “ หวังว่าคงว่ายน้ำเป็น ”  คาโอรุพูดกับตัวเองพลางขับเคลื่อนเรือออกจากท่าด้วยความเร็วสูง

    โดยไม่ทันมองว่าโทบิรามะเหินมาอยู่ด้านหลังเรียบร้อยแล้ว

     “ จะไปไหน? ” 

    “ ไปไหนก็ได้โตแล้ว ! ”  คาโอรุตอบอย่างกวนประสาท ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าโทบิรามะอยู่ด้านหลัง

    โทบิรามะเข้าไปใกล้จะหวดก้นให้อีกรอบ คาโอรุกระโดดถอยหนีไปอยู่ด้านข้างคนขับ ซึ่งปล่อยให้เรือแล่นออกไปเอง

    “ อ้าว เฮ้ย! ”  โทบิรามะรีบเข้าไปคว้าพวงมาลัยไว้ทันที คาโอรุไม่ได้ขับดูทางเลยว่าอีกสองเมตรข้างหน้า

    เรือกำลังจะชนกับทุ่นลอยน้ำ เขาหักพวงมาลัยไปทางซ้ายสุดดริฟท์หลบทุ่นลอยน้ำได้อย่างฉิวเฉียด คืนรอบพวงมาลัย

    ให้เรือแล่นเป็นเส้นตรงไปได้สักพัก

    “ เป็นไงเงียบปากได้ซะที ”  คาโอรุเงียบกริบไม่มีเสียงก่นด่าเล็ดลอดออกจากปาก เกลียดนักพวกต่อปากต่อคำ

    เถียงคำไม่ตกฟากแบบคาโอรุ หันมองข้างตัวอีกทีกลับไร้ร่างของคาโอรุ โทบิรามะรีบกวาดตามองไปทั่วเรือ

     “ นายถั่วงอก! ”  คาโอรุตะโกนลั่น หล่อนลอยตัวอยู่กลางน้ำ ไม่คิดเลยว่าเขาจะแกล้งขับปาดแบบนั้นทำให้หล่อน

    เสียจังหวะหงายหลังตกลงมาว่ายน้ำป๋อมแป๋มอย่างนี้

    “ จับทุ่นไว้ก่อน ”  โทบิรามะบอก เขาหักพวงมาลัยกลับมาช่วยคาโอรุทันที คาโอรุว่ายน้ำไปเกาะทุ่นลอยน้ำ

    พลางตีขาพยุงตัวไว้ไม่ให้จมน้ำ โชคดีไม่ได้พกดาบยามาโตะ มีแต่คันธนูและลูกธนูอยู่บนแผ่นหลัง 

    โทบิรามะดึงตัวคาโอรุขึ้นมา หล่อนนั่งนิ่งอยู่บริเวณท้ายเรือยกมือขึ้นมากอดอกแน่นโทบิรามะรีบวิ่ง

    เปิดตู้เก็บของใต้พวงลัยออกมาดู อย่างน้อยน่าจะมีอะไรสักอย่างใช้ห่มไว้กันหนาว ในที่สุดก็เจอผ้าห่มผืนหนา

    ขนาดไม่เล็กมาก โทบิรามะไม่รอช้ารีบคลุมผ้าห่มกันหนาวให้คาโอรุทันที

    “ อย่ามาโดนตัวฉันนะ ! ”  หล่อนมิวายตีมือเขาดังเผี๊ยะ หลังจากได้ผ้ามาห่มมาคลุมกาย

    “ มือคุณเย็นไปหมดแล้วนะ ”  โทบิรามะไม่สนจับมือทั้งสองข้างของคาโอรุไว้ ด้วยฝ่ามือหนาทั้งสองข้าง

    เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ฝ่ามือเล็กเป่าลมหายใจเบาๆ ใส่ฝ่ามือเล็กสลับกับถูฝ่ามือทั้งสองข้างให้เกิดความร้อน

    โทบิรามะทำแบบนี้นานกว่าสิบนาทีไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าคาโอรุนิ่งเงียบไปแล้ว 

    หล่อนมองโทบิรามะตาไม่กระพริบรู้สึกเพียงแค่ว่า ใบหน้าสวยนั้นร้อนผ่าวไปหมดรามจนถึงเครื่องใน ตับ ไต

     ไส้ พุง ปั่นป่วน  ตามหลักความเป็นจริงคาโอรุไม่ได้รู้สึกหนาวการจากแช่น้ำเมื่อครู่ อุณหภูมิแค่นั้น

    ไม่สามารถทำความหนาวเย็นใส่ร่างกายหล่อนได้เลยแม้แต่น้อย

    “ ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจขับเรือแบบนั้น ”  โทบิรามะขอโทษจากสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อ

    ถ้าจะพูดว่าทั้งหมดเป็นความผิดของคาโอรุที่ผละออกจากพวงมาลัยอย่างนั้น แล้วเขาต้องหักเรือหลบทุ่นลอยน้ำ

    โดยไม่บอกคาโอรุทราบก่อนล่วงหน้า มันจะกลายเป็นทะเลาะเหมือนก่อนลงเรือ และอีกอย่างอากาศเย็นน้ำก็น่าจะหนาว

    ไม่รู้ว่าคาโอรุลงไปว่ายเล่นไม่สิต้องเรียกว่าแช่แข็งเลยดีกว่า

    คาโอรุเงียบอิ่มจุดไปทันทีไม่มีเสียงตอบกลับ สมองกำลังประมวลคำพูดขอโทษจากโทบิรามะหล่อนรู้ว่าน้ำเสียง 

    การกระทำของเขาออกมาจากใจไม่ใช่การสร้างภาพให้ตัวเองดูดี แม้ว่าเมื่อครู่จะทะเลาะตีกันแทบตาย 

    มันไม่ใช่หน้าที่ต้องรับผิดชอบ แต่เป็นการกระทำบางอย่างซึ่งออกมาจากใจล้วนๆโดยเฉพาะแววตาอ่อนโยน 

    ที่หล่อนไม่เคยได้เห็นจากเขามาก่อนเลย

     


     


     

    โปรดติดตามตอนต่อไป..   

    1/7/2558

    2 ก.ย. 2563

    27 ก.ย. 2565

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×