ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic: Naruto] Say. รักหรือหลอก บอกกันซะยัยตัวดี!

    ลำดับตอนที่ #10 : Say : Stay.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 454
      20
      15 เม.ย. 62















    - Stay. -





             พายุไซโคลน(สงคราม)พัดผ่านไประลอกใหญ่ๆ บนเกาะจันทร์เสี้ยว 
    กินเวลาปาเข้าไปเกือบสัปดาห์-

    กว่าพายุร้ายนั้นจะสงบลง ได้หอบหิ้วศึกสงครามออกไป ให้เกาะจันทร์เสี้ยวกลับสู่สภาพวะปกติ 

    ทว่าเหตการณ์ยังไม่น่าไว้ใจอยู่ดี บางคราก็ไม่น่าไว้ใจนัก หากพายุไซโคลน(สงคราม)กลับซัดเข้าบนเกาะจันทร์เสี้ยว

    -อีกระลอกจึง ก็มิอาจจะต้านทานได้ไหว (เรื่องนี้ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิดของคาโอรุ)

    ร่างบอบบางพลิกกายเมื่อเริ่มรู้สึกเมื่อล้า คาดว่าการนอนตะแคงจะทำให้ ปวดต้นแขน นัยน์ตาคู่สวยค่อยๆ

    เปิดเปลือกตาอย่างช้าๆ สูดกลิ่นเกลือรับไอทะเล เสียงของคลื่นซัดเข้าฝั่ง ทว่า กลับไม่ได้กลิ่นของเกลือทะเล 

    เสียงคลื่น กระทบเข้าชายฝั่ง เลยสักนิด คาโอรุดีดตัวเด้งขึ้นจากเตียงนอน กวาดตามองรอบห้องอย่างไม่คุ้นเคย

    หล่อนไม่เคยแอบพักแรม นอนค้างที่ไหนที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง เตียงนอน ผ้าห่ม  โต๊ะทำงานการจัดตกแต่งห้อง

    ไม่คุ้นเอาเสียเลย ยิ่งเดินลงมาชั้นล่างของตัวบ้าน ยังพอจำได้คล้ายๆคุ้นๆ เหมือนเคยเข้าบ้านหลังนี้มาก่อน

     


                  " ตื่นแล้วหรอ อาหารเช้าเสร็จแล้วนะ " โทบิรามะเดินมาทำท่าเหมือนจะขึ้นชั้นบน บอกหล่อน

    กลับได้เห็นใบหน้าสวยกำลังขมวดคิ้วเป็นปมใหญ่

                  " ฉันอยู่ที่ไหน? " 

                  " บ้านฉันเอง จริงๆก็..เป็นบ้านคุณเหมือนกัน " 

                  " นายจะพาฉันมาแบบนี้ไม่ได้นะ " 

                  " ทำไมละ ? "

                  " สงคราม...ยังไม่จบ ฉันต้องรีบกลับไป เสื้อผ้าฉันละ? " 

                  " บนเก้าอี้ " โทบิรามะทำท่าจะเอื้อมมือไปคว้าแล้วส่งให้ แต่คาโอรุเร็วกว่า 

    หล่อนรีบคว้ากางเกงสกินนี่ยีนส์ได้สวมลงบนตัวทันที เสื้อท่อนบนมีเสื้อเชี้ตสีขาวตัวโคร่ง คาดว่าคงเป็น

    ของโทบิรามะแน่  หล่อนรีบถอดเสื้อเก่าออกแล้วสวมเสื้อตัวเองทันทีโดยทั้งสองไม่ทันรู้เลยว่า-

    มีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาในบ้านเรียบร้อย ส่วนโทบิรามะรีบหันหลังให้ทันที สบตากับพี่ชายยืนอยู่ตรงหน้า

                  " 0.0 เฮ้.. โท... พี่ไปสำนักงานก่อนนะ " ฮาชิรามะที่เข้ามาในตอนพีคถึงกับต้องชิ่งหนี

    บอกตามตรงว่าการบุกรุกเข้าบ้านน้องชายถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเกิดขึ้นทุกวัน โทบิรามะสวดพี่ชายเป็นประจำ

    กับการเปิดประตูเข้าบ้านคนอื่นอย่างถือวิสาสะ  บางทีท่านพี่คงได้รู้จักกดกริ่งเหมือนคนปกติบ้าง " 

    หลังจากนี้เป็นต้นไป ฮาชิรามะคงได้กดกริ่งเข้าบ้านน้องชายเหมือนคนปกติทั่วไปเขาทำกันแล้วละ

     

                        ได้ข่าวว่าโทบิรามะกลับมาเข้าพักบ้านส่วนตัวในตอนเกือบย่ำรุ่ง  คนเป็นพี่แทบจะพุ่งเข้าไปหา

    -น้องรักภายในทันที ไม่รู้ว่ายังกลับมาได้ครบสามสิบสองชิ้นรึเปล่า กินอาหารครบสามมื้อหรือไม่

    นอนให้อาหารยุงจนไม่สบายหรือจะตากน้ำค้าง ... ทว่าต้องหยุดไว้ เพื่อให้น้องชายสุดรักที่เพิ่งกลับมาจากภารกิจ

    -สุดหินได้พักผ่อน  ดังนั้นเช้านี้ก็เหมือนเช่นเคย ฮาชิรามะชอบเดินมา(แวะ)เข้าบ้านโทบิรามะ(เช่นเคย) 

    รอน้องชายไปทำงานด้วยกัน (ก็บ้านโทบิรามะเป็นทางผ่านที่จะไปสำนักงานพอดี ดังนั้นฮาชิรามะจึงมารอ-

    น้องชายออกไปทำงานพร้อมกัน)


              กับตาลปัตน้องชาย(สุดรัก) พาสาวน้อยหน้าสวย(เจ้าของนามคาโอรุ)เข้าบ้าน(โดยไม่มีใครเห็น)

    ว่าพีคแล้ว...ยิ่งเสื้อผ้าน้อยชิ้น ที่หล่อนสวมใส่ ยิ่งหล่อนถอดเสื้อเชี้ตออก โชว์หุ่นบอบบางของวิคตอเรียแองจี้ 

    กับบราลูกไม้สีดำตัดกับสีผิวเนียนๆน่าสัมผัส บอกเลยว่าฮาชิรามะไม่ได้เตรียมทิชชู่มาซับเลือด

    ที่เกาะตรงปลายจมูก กลับใช้ชายแขนเสื้อพยายามซับโลหิตไว้ก่อนแทบไม่ทันเลยทีเดียว 


                 พีคในพีคจริงๆ 
        

                      " น้องชายจะมีเมียแล้วจ้า " ฮารามะอยากยกมือป้องปากแทบจะตะโกนลั่นซอยซะจริงๆ 
    หรือไม่ก็ขึ้นป้ายบิลบอร์ดมีรูปโทบิรามะเด่นหรา พร้อมข้อความแสดงความยินดี ป่าวประกาศให้ทั่วแคว้นไปเลย

                           น้องชายขายออกแล้วนะพี่จ๋า! 

    หากต้องให้พูดถึงน้องสะใภ้ขึ้นมา ฮาชิรามะจะกล่าวว่า เขาถูกชะตากับหล่อนนะ หาใช่ว่าเครื่องหน้า-

    ที่สละสวย หุ่นผอมบอบบางอ้อนแอ้น สมควรจะทะนุถนอมดูแลอย่างดี ยิ่งได้พูดจาเป็นการเป็นงาน  

    น้ำเสียงหวานๆ แต่แฝงไปด้วยความดุดันที่ทำให้คนฟัง ถึงกับไม่กล้าแหย๋ม ไม่แปลกที่ดอกกุหลาบงาม

    มักจะมีหนามเสมอแม้ว่าครั้งแรกที่เจอกัน(First impression) จะโดนข่มซะหง๋อ จ๋อยไปเลยก็เถอะ  

                  คิดเสียว่าคงเป็นพระเจ้า(ไรท์เตอร์ชิว) ดั๊น! ส่งคู่ปรับให้มาเป็นคู่รัก บอกเลยว่า

    เป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อเเน่นอน ! และฮาชิรามะต้องการติดตามตอนต่อไปอย่างพลาดไม่ได้เชียวละ 





                “ ฉันจะกลับ “ คาโอรุบอกพลางใส่เสื้อ

                “ เสื้อที่ใส่มา...มันเป็นชุดนอน..บางๆ “ ว่าแล้วก็หยิบชุดนอนนั้นขึ้นมาส่งคืนให้หล่อน

     โอเค คาโอรุยอมแพ้เรื่องเสื้อเลย  หล่อนขึ้นไปหยิบเสื้อยืดของโทบิรามะมาใส่แทน

                “ ยืมก่อนก็แล้วกัน “ คาโอรุบอกก่อนแค่นั้น

                “ อยู่กับฉันก่อนสักสองสามวัน...ได้ไหม แล้ววันแต่งงานฉันจะไปส่ง “ โทบิรามะอยากให้คาโอรุรู้จัก-

    ตัวตน เข้าใจบทบาทหน้าที่(ต้องรับผิดชอบ) ในตัวเขามากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น  มันเป็นเรื่องที่ทั้งสอง

    ต้องปรับจูนเข้าหากันสิ 

                “ ฉันคงอยู่นานกว่านั้นไม่ได้หรอกนะ บนเกาะยังมีสงคราม “ คาโอรุให้เหตุผล

                “ ฟังนะคาโอรุ... “ โทบิรามะมีเรื่องอยากจะเล่าให้คาโอรุฟัง เรื่องบนเกาะกับผลงานของพี่ชายหล่อน

    ที่ได้สร้างการข่มขวัญ(สยองขวัญ)แก่ศัตรูจนต่างพาขนหัวลุกแบบนั้น  โทบิรามะกล้ารับประกันได้เลยว่า-

    ไม่มีใครกล้าเสนอหน้าขึ้นมาบนฝั่ง แม้ว่าจะเป็นวิธีการที่ป่าเถื่อน โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมที่สุดเท่าที่เคยได้ยิน

    หรือมีมาแต่โบราณ  บอกเลยว่าไม่มีศัตรูหรือผู้นำคนไหนใจกล้ามุ่งหน้าหมายจะบุกตีแย่งชิงดินแดนบนเกาะ-

    จันทร์เสี้ยวอีกแน่นอน

                “ วันเดียว ฉันขอวันเดียวก็ได้ " โทบิรามะยอม ขอต่อรองเรื่องเวลา

                " แค่วันเดียวเท่านั้น " 




                

              คาโอรุในสภาพท่อนบนเป็นเสื้อยืดบอยๆของโทบิรามะ ท่อนร่างเป็นกางเกงบ๊อกเซอร์

    ลายตารางสีขาวเนื้อบาง และในสภาพนี้นี่เองที่คาโอรุต้องออกไปเดินตลาด ใช่ เดินตลาดในช่วงเช้า

    (เพื่อไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่)  ที่มีแม่บ้าน พ่อบ้านจูงลูกเด็กเล็กแดงวิ่งกันว่อนไปทั่วทั้งตลาดเท่านั้นเอง!

    คาโอรุกับลุคแฟชั่นเพิ่งลุกออกจากเตียง กับโทบิรามะในชุดไปทำงาน แต่งตัวเนี๊ยบเป๊ะทุกกระเบียบนิ้ว

    ใช่ หนุ่มหล่อมาดขรึมประดุจเจ้าชายน้ำแข็ง ที่สามารถทำสาวๆน้อยใหญ่ รวมไปถึงเก้งกวางละลายได้

    ภายในพริบตา บอกตามตรงเลยว่าตอนนี้คาโอรุ ไร้ซึ่งความมั่นใจหลงเหลืออยู่เลย แม้ว่าตอนนี้จะเดินตาม

    หลังโทบิรามะห่างไม่เกินสาม ห้าเมตร จ้องมองแผ่นหลังกว้างตรงหน้า ทันใดนั้นโทบิรามะชะงักฝีเท้า

    แล้วหันตัวกลับมาอย่างช้าๆ ส่งฝ่ามือหนาข้างซ้ายพร้อมกับรอยยิ้มจางๆที่มุมปาก

                “ ไปกันเถอะ ฉันพอรู้จักร้านเสื้อผ้าสวยๆถูกใจคุณอยู่นะ “ โทบิรามะแนะนำว่าอย่างนั้น

    แล้วก็พาคาโอรุไปเลือกซื้อเสื้อผ้ารองเท้าผลัดเปลี่ยน ใกล้เคียงกับที่หล่อนชอบสวมใส่

    ค่อยพาคาโอรุตรงไปยังตึกสำนักงาน หรืออีกอย่างที่เรียกว่าโลกของเขานั้นเอง 

     

              โทบิรามะมาถึงห้องทำงานของตัวเองพร้อมกับคาโอรุ จัดเตรียมเก้าอี้ให้หล่อนได้นั่งพัก

    ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มพร้อม(เสมอที่หล่อนต้องการ) เพื่อไม่ให้เป็นการทำให้โทบิรามะเสียสมาธิ

    กับแฟ้มเอกสารเป็นตั้งๆ คาโอรุขอนั่งเงียบๆบนโซฟาบุหนัง หนังสือพิมพ์ในมือ 

                เอกสารตั้งคอนเป็นชั้นคอนโดหลากหลายสีและหลายกอง บอกได้เลยว่าเอกสารพวกนี้

    โทบิรามะเคลียร์หมดทุกแฟ้มตั้งแต่ก่อนไปรับภารกิจเกาะจันทร์เสี้ยวเสียอีก ทว่าไปไม่นานนัก ก็กลับมีแฟ้มอีก-

    หลายตั้งใหญ่ๆ รอโทบิรามะเซ็นอนุมัติ โทบิรามะหายใจเข้าช้าๆ หายใจออกยาวๆสองถึงสามหน

    แล้วตั้งสติมีสมาธิกับงานให้มากขึ้นกว่าเดิม ค่อยๆจัดการทีละแฟ้มทีละตั้ง จวบจนกระทั่งพลิกแฟ้มสุดท้ายจบลง 


                   แวะพาคาโอรุไปทานอาหารกลางวัน แล้วกลับไปทำงานต่อ โทบิรามะบอกกับหล่อนสั้นๆ

    ได้ใจความว่า  “ ฉันมีประชุมตั้งแต่บ่ายจนถึงเลิกงาน นั่งรออยู่แต่ในห้องนี้นะ “ ฟังดูแล้วอาจจะน่าเบื่อจนเกินไป

    ก็จริง โทบิรามะรับรู้ได้ถึงบางสิ่งจากคาโอรุเป็นอย่างดีคือ  ร่างกายของหล่อนอยู่กับเขาก็จริง

    ทว่าใจของหล่อนนั้นคงอยู่ที่เกาะจันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน 


              โทบิรามะปิดบานประตูห้องลง คาโอรุถึงกับถอนหายใจเฮือก ลดหนังสือพิมพ์ในมือลง ค่อยพับวางลง

    บนโต๊ะรับแขกตรงหน้า หล่อนเงยหน้ามองเพดานสักพักค่อยจ้องมองรองเท้าหนังกลับหุ้มข้อสีเลือดหมู

    ใช่ โทบิรามะเป็นคนเลือกรองเท้าคู่นี้ให้ หาใช่แค่เลือกอย่างเดียวนะ เขาเป็นคนสวมรองเท้าให้คาโอรุด้วยสองมือ

    ของเขาเองด้วย ในวินาทีนั้นคาโอรุรู้สึกประหลาดใจ ก้อนเนื้อในทรวงอกเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย

    ทว่าหล่อนสามารถควบคุมมันให้กลับมาเต้นตามจังหวะเดิมได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ แม้ว่าจะมีสายตาคมกริบสีดำ

    สามารถทะลุปรุโปร่งได้ในทุกสิ่งต้องแฝงไปด้วยความอ่อนโยนบางอย่างก็ตาม


                คาโอรุพยายามฝืนใจตัวเองเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่หล่อนสามารถผิวปากเบาๆ เรียกฮาคุโอจากอีกมิติหนึ่ง 

    ควบหลังอาชารู้ใจกลับเกาะจันทร์เสี้ยวทันที หล่อนมีความรู้สึกบางอย่างหรืออาจจะเป็นเซนต์ส่วนตัว

    ว่าต้องมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับเกาะจันทร์เสี้ยวโดยที่หล่อนไม่อยู่อย่างแน่นอน แล้วยิ่งโทบิรามะดึงเวลา ไม่สิ

    เขาเป็นคนยื้อเวลาของหล่อนไว้ คาโอรุพยายามท่องไว้ในใจแค่ แค่วันเดียว คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น

    หล่อนก็กลับแล้ว คาโอรุพยายามใช้ประโยคเหล่านี้เพื่อปลอบใจตัวเอง 


    โทบิรามะแอบหลบออกจากห้องประชุมเพื่อแวะมาดูคาโอรุที่อยู่ในห้องทำงาน

    คาโอรุเอนหลังนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาตัวยาว เครื่องปรับอากาศในห้องกำลังส่งเสียงครึกๆ เขาไม่รอช้า

    หยิบเสื้อโค้ทตัวใหญ่มาคลุมร่างคาโอรุไว้ เผื่อหล่อนจะหนาว  โทบิรามะถอนหายใจ เขาต้องกลับเข้าประชุมอีกแล้วสิ

    กลับมาอีกหนคงตอนเลิกงาน

     

    โทบิรามะพาคาโอรุมาที่บ้านตระกูลเซ็นจู คาโอรุมองด้วยสายตาพร้อมประเมิน พบว่าเป็นตัวบ้าน-

    ทำมาจากไม้สักหลังใหญ่ คาดว่าสถาปนิกนั้นออกแบบมาได้อย่างดีเยี่ยมตัวบ้านหลังใหญ่แต่ไม่อึดอัด

    จัดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์เข้ากันได้อย่างลงตัว มีช่องทางไม่สิ ต้องเรียกว่าอากาศสามารถถ่ายเทได้อย่างสะดวก 

    โดยไม่ต้องมีพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ รอบๆบ้านมีต้นไม้เล็กใหญ่สลับกันไป เพื่อความร่มรื่น 

    ความธรรมชาติทั้งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สระว่ายน้ำใส ชวนมองแล้วสบายตา สบายใจ 

    โทบิรามะแนะนำให้หล่อนได้รู้จักกับฮาชิรามะซึ่งเป็นพี่ชายและมิโตะ ภรรยาอย่างเรียบง่าย

    ฮาชิรามะกลับหน้าแดงซ่านอาจจะเป็นเพราะนึกถึงเรื่องราวของเมื่อเช้าก็ได้ คาโอรุทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบลง จนถึงขั้นเรียกว่าอึดอัด หรืออาจจะเป็นเพราะมิโตะส่งกระแสพลังงาน

    บางอย่างออกมา ซึ่งทำให้คาโอรุรับรู้ได้พียงคนเดียว คาโอรุมองอาหารในจานนึกไม่อยากทาน

    หรืออีกอย่างคือทานไม่ลง 


      

                “ ทานเยอะๆนะคาโอรุจัง วันนี้มิโตะเข้าครัวเองเลยนะ “ ฮาชิรามะบอกพร้อมรอยยิ้ม

    ภรรยาของเขาเก่งในหลากหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการทำอาหาร

                “ โทบิรามะเองก็ด้วย เดี๋ยวนี้น้องจะผอมลงนะต้องขุนให้ตัวหนาๆแล้วละ “ กำชับกับน้องรักด้วยความเอ็นดู

     

                “ ทานเยอะๆสิ เดี๋ยวคืนนี้ไม่แรงหรอก “ โทบิรามะเลียนแบบคำพูดของคนแถวนี้

    แล้วค่อยตักอาหารใส่จานให้หล่อน ในชนิดที่เรียกว่าตักให้แทบจะล้นจาน กลัวว่าคาโอรุจไม่มีแรง

    ในการเดินทางกลับเกาะจันทร์เสี้ยว

                “ พอก่อน ฉันทานไม่ทันหรอกนะ “ คาโอรุรีบออกตัวห้าม โทบิรามะคงไม่หยุดแค่นี้แน่ 

    อาหารตั้งเรียงรายไม่ซ้ำกันเลยบนโต๊ะแม้นั่งทานกันสี่คน บอกตามตรงว่าเยอะเกินกว่าที่ทั้งสี่คนจะทานกันไหว 

    แค่ชิมจานละคำ คงจะอิ่มไปถึงพรุ่งนี้เช้าแน่ !

     

                “ ท่านพี่...เราสองคนกำลังจะแต่งงานกันอีกสองวันข้างหน้า “ โทบิรามะเป็นฝ่ายพูดขึ้น

    อย่างไม่มีปรี่มีขลุ่ย ฮาชิรามะที่กำลังตักข้าวใส่ปากถึงกับเงยหน้าขึ้น

                “ จริงดิ “ นี่คือคำพูดหลุดปากของพี่ชาย



                  เคล้ง!

    มิโตะถึงกับทำช้อนหลุดมือ

                “ ขออภัย “ มิโตะบอก แล้วนั่งเงียบๆรอฟังโทบิรามะพูดต่อ


               มันไม่ไวไปหน่อยหรอว่ะ? 

    ฮาชิรามะคิดในใจ แม้ว่าเขาจะชอบใจแม่หนูคาโอรุตรงหน้าก็นะ เรื่องของคู่ชีวิตต้องดูกันยาวๆสิ

    คนเป็นพี่ไม่อยากให้น้องเดินตามรอย ท่านพ่อเป็นฝ่ายจัดการเรื่องงานแต่งขึ้นโดยทั้งหมด ปราศจากการ

    ขอความเห็นกับเจ้าบ่าวด้วย ใช่ เขาแต่งงานกับอุซึมากิ มิโตะ โดยที่ทั้งสองไม่ได้รู้จักกัน รักกันเลยด้วยซ้ำ

    หรือเรียกกันในภาษาชาวบ้านว่า 'คลุมถุงชน' 


                “ แต่งจริงสิท่านพี่ “ คนนี้เขาจริงจัง โทบิรามะวาดวงแขนออกไปโอบไหล่คาโอรุ หันมองว่าที่ภรรยาเล็กน้อย

    ปลายนิ้วแข็งแรงออกแรงบีบไหล่นวดให้ภรรยาผ่อนคลายหายเกร็ง แล้วค่อยยิ้มให้พี่ชาย คลายกังวล



                     โคตรพีค!

         นอกจากจะพาสาวเข้าบ้านโดยไม่บอกใครหรือมีคนเห็นแล้ว โทบิรามะบอกยังบอกเรื่องข่าวดี

    ว่าจะมีงานวิวาห์เกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า บอกตามตรงเลยว่าฮาชิรามะตั้งหลักแทบไม่ทัน 

    หรือบางทีฮาชิรามะเอง ก็ไม่ได้รู้จักน้องชายของตนดีพอเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่จำความได้ ฮาชิรามะไม่เคยห่าง

    จากน้องเลยด้วยซ้ำ ตัวแทบจะติดกันตลอดเวลา โทบิรามะไม่เคยพูดถึงเรื่องแต่งงาน หรือการมีคู่ชีวิตครองรัก

    กันจนหมดลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ฮาชิรามะคิดว่าน้องชายคงได้เกาะคานทองอย่างเหนียวแน่นอย่างแน่นอน

    โดยส่วนหลักมีเพียงแต่เรื่องงานที่ต้องรับผิดชอบ ประคับประคองให้หมู่บ้านต้องเคลื่อนตัวไปข้างหน้า 

    เช่น เรื่องการประชุมวันนี้ มีเพียงแค่ระดับผู้บริหารไม่กี่ท่าน เช่น โฮคาเงะ(ฮาชิรามะ)

    ที่ปรึกษาโฮคาเงะอีกสามท่าน รวมถึงตัวโทบิรามะด้วย  ฮาชิรามะเห็นสีหน้าแววตา ท่าทางเอาจริงกับเรื่อง

    การปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าไม่ว่าจะเป็นหรือตาย (เช่นนำกระดูกของเสือไปดองเหล้า

    นำส่วนของเนื้อไปประกอบอาหาร รวมถึงการแปรรูปเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้าน ) บอกไว้เลยหากฮาชิรามะตายไป

    คนที่จะกุมบังเหียนสืบทอดตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นที่สองคงไม่พ้นน้องชายของเขา 

     

                “ ยินดีด้วยนะ อ๊าว คาโอรุจัง ต้องทานอาหารเยอะๆแล้วนะ เพราะโทบิรามะ... “ ฮาชิรามะแสดงความยินดี

    ออกมาทั้งสีหน้าและแววตา หากให้คาดการณ์ว่าคืนนี้คาโอรุคงต้องอยู่บ้านเซ็นจูกันอีกยาวแน่ 


                    บางทีบ้านตระกูลเซ็นจู อาจจะขาดเรื่องงานเลี้ยงรังสรรค์ครื้นเครงก็ได้  ถึงได้ดูเงียบเหงา

    อย่างน้อยงานแต่ง งานมงคล...อาจจะทำให้บ้านเซ็นจูกลับมามีสีสันหรือชีวิตชีวามากกว่าเดิมก็เป็นได้






                คาโอรุลุกหนีออกจากโต๊ะอาหาร ที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นโต๊ะเหล้า เครื่องดื่มมึนเมาเริ่ม

    ทยอยเข้ามาแทน


                “ เรื่องงานแต่งยินดีด้วยนะ “ มิโตะตามมาเข้าห้องน้ำอย่างไม่ให้ซุ้มเสียง

                “ ขอบคุณ “ คาโอรุตอบตามมารยาทขณะล้างมือ หล่อนรู้สึกว่าการมาในครั้งนี้ของสะใภ้ใหญ่

    ไม่ใช่มาการดีแน่ๆ  คาโอรุจึงต้องรีบเดินหนีในขณะที่มีจังหวะ

                “ แต่โทบิรามะหน่ะ...” มิโตะตั้งใจเกริ่นบางอย่าง เธอหรี่เสียงลงเอียงคอให้เส้นผมสีแดง

    พลิ้วตามในอากาศ ใบหน้าสวยอย่างไร้ที่ติหันมาจับจ้องคู่สนทนา

                “ เสียดายหรอ? “ คาโอรุจงใจปั่นประสาทมิโตะเต็มๆ

    เท่าที่สังเกต หล่อนเห็นแววตาของมิโตะตอนที่โทบิรามะพูดเรื่องแต่งงานขึ้นมา ท่าทางและน้ำเสียง 

    ทำของหล่นความซุ่มซ่ามของมิโตะเปลี่ยนไป สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมคล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                “ นี่!

                “ ว่าไงคุณมิโตะ? “

                “ ฉันบอกอะไรให้เอาบุญนะ โทบิรามะเขาไม่สนใจหล่อนหรอก ถ้าหล่อนมีประโยชน์

    เขาก็เข้าหาเป็นเรื่องปกติ หากวันใดหมดประโยชน์ขึ้นมา... เขาก็เขี่ยหล่อนทิ้งไม่ต่างจากขยะหรอกนะ “  

                “ และที่สำคัญคนทั่วไปจะเรียกฉันว่าคุณอุซึมากิ แต่ถ้าเป็นคนสนิทจะเรียกคุณมิโตะ

    เพราะว่าฉันถือ! “  

    “  ตายจริง ขออภัยด้วยค่ะ คุณอุซึมากิ  ไม่บอกก็ไม่รู้มาก่อนเลยนะ “  คาโอรุแกล้งทำหน้า-

    เป็นสาวน้อยไร้เดียงสาหล่อนยกมือทาบอกเบาๆ   “ ฉันก็เพิ่งเข้าใจนะ รักพี่เสียดายน้อง ก็วันนี้แหละ จะว่าไป...ฉัน

    คิดว่าคนมีความคิดรู้จักผิดชอบชั่วดีเขาไม่ทำกันนะ หรือพูดกันง่ายๆว่ามิโตะควรจะหยุดหวงก้างหรือแสดงท่าที

    แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเสียที ทั้งๆที่ตนเองได้แต่งงานออกเรือนกับฮาชิรามะไปแล้ว!

    คนฟังรู้สึกหน้าชาเหมือนโดนหลอกด่าแบบผู้ดี ใช่ และผู้ดีอย่างอุซึมากิ มิโตะ ไม่ยอมให้ใครมาพูดจา

    หรือแสดงท่าทีข่มเหงรังแกได้แบบฟรีๆเสียด้วย บางครั้งต้องมีข่มขวัญ ให้อีกฝ่ายหวาดกลัว และหลาบจำไว้

    ประดับสมองว่าอย่าริอาจมาลูบคมเธอเล่นๆ

                “ ขอตัวก่อน “ คาโอรุไม่อยู่สนทนาต่อเพราะหมดเรื่องคุยแล้ว

    เห็นทีหล่อนต้องไปเร่งให้โทบิรามะพาหล่อนกลับเสียที 

    มิโตะปิดเปลือกตาลง ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ พอจะมีเวลาเพียงชั่วครู่ให้คนอวดดีตรงหน้า

    เธอจงใจใช้คาถาลวงตาใส่คาโอรุ สร้างภาพให้คาโอรุยืนอยู่ในกลางห้องมืดสีดำสนิท มองไม่เห็นแม้แต่เงา 

    และในทันใดนั้นเองก็ปรากฏร่างของสัตว์หางตัวใหญ่ยักษ์ คาโอรุมองอย่างพินิจอีกครั้งและพยายาม-

    นับจำนวนหางของมัน หนึ่ง สอง สาม... เจ็ด แปด เก้า  โอเค จิ้งจอกเก้าหาง อ้าปาก ขู่คำรามเสียงดัง

    พร้อมกระโจมเข้ามาจะงาบหล่อนหวังเป็นเหยื่ออันโอชะเป็นใส่ปาก

                “ เหอะ “ คาโอรุถึงกับพ่นลมหาย

    แค่นี้คิดว่าคนอย่างหล่อนจะกลัวอย่างงั้นหรอ? บอกเลยว่าคิดผิด

     

    มิโตะเบะปากบอกมองคาโอรุชะงักไปชั่วครู่ คาดว่าคาถาลวงตาของเธอนั้นคงได้ผล

    แห๋งละ จะว่าเก่งขนาดไหน พอเจอกับจิ้งจอกเก้าหางในร่างของเธอเข้าไป ต่างพากันเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อโกย

    วัดหน้าตั้งกันทั้งนั้น

               

         ทันใดนั้นมิโตะยืนอยู่ท่ามกลางป่าเขาดงดิบที่ไม่คุ้นตา ไม่สิหล่อนไม่ชอบเข้าป่าเขาลำเนาไพร

    ได้ยินเสียงของเหล่าสารพัดระงมไปทั่วป่า เธอหมุนตัวเป็นวงกลม เหมือนพยายามหาทางออก

                กรร!

    เสียงขู่ของสัตว์ป่าเช่นเสือ ดังขึ้นมา มิดตะแทบไม่ทันระวังตัวเธอเผลอหลุดร้องหวีดเสียดัง ล้มตัวลงบนพื้น

    ราชสีห์ตัวยักษ์กระโดดเข้ามาพร้อมกงเล็บกำลังจะตะปบเธอให้จมดินกระนั้นแล้วมิโตะถึงกับหายใจหอบถี่ 

    คล้ายวิ่งฟูลมาราธอน ยกฝ่ามือขึ้นมาแนบลำคอ เหงื่อกาฬแตกไหลผลั่กๆอาบไปทั่วลำตัว เธอส่ายหน้าละอา

    กับตัวเอง โชคดีว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น คู่กรณีก็เช่นกัน มิโตะถึงกับทุบมือลงพื้นเพื่อระบายความคับแค้นใจ

    อย่างหัวเสีย

     

     “ ของจริงมันต้องแบบนี้ “ คาโอรุหันไปส่งยิ้มหวานให้มิโตะ

    คาถาลวงตา เป็นคาถาที่คาโอรุถนัดมากที่สุดและยิ่งใส่ความสมจริงเข้าไปอีกนิดบอกเลยว่ากรี๊ดลั่นแน่นอน

    ขนาดเดินออกจากห้องน้ำตรงมายังสระว่ายน้ำกลางตัวบ้านยังได้ยินเสียงดังลั่น นับว่าคาโอรุประสบความสำเร็จ

    ในเรื่องการสร้างภาพลวงตาได้เป็นอย่างดี และเก่งขึ้นไปอีกขั้น

     

                คาโอรุพับขากางเกงขึ้นเล็กน้อยเพราะหล่อนอยากแช่น้ำในสระ แช่เพียงแค่ขาก็พอ

    เพื่อให้ความเย็นของสายน้ำ ดับเพลิงความร้อนลุ่นในใจหล่อนให้หมดไป

                “ ก็ว่าหายไปไหน “ เสียงหนึ่งดังขั้น คาโอรุถึงกับสะดุ้ง

    หล่อนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาเลยสักนิดเดียว หรือาจจะเป็นเพราะหล่อนคิดถึงบ้าน

    คิดถึงเกาะจันทร์เสี้ยวจนลืมสังเกต

                “ ฉันแค่ออกมารับลมเล่นเท่านั้น “ แถไปอย่างนั้น

    ทั้งที่จริงแล้วคาโอรุไม่อยากกลับเข้าไป กลับไปเจอบรรยากาศอึดอัดแบบเมื่อครู่

                “ ก็ไม่ได้ว่าอะไร...สระว่ายน้ำเชื่อมกับทะเลสาบท้ายหมู่บ้าน ...ฉันแค่มาบอกว่าระวังจระเข้ด้วยนะ “ 

    โทบิรามะพูดสั้นๆ แล้วหันหลังเดินไป คาโอรุตาเหลือกรีบยกขาขึ้นจากน้ำทันที 

    ฝ่ามือเล็กคว้าชายกางเกงโทบิรามะแน่น

                “ ช่วยด้วย ลุกไม่ขึ้นตะคริวกิน “ คงเพราะแช่น้ำเย็นๆเป็นเวลานาน

    โทบิรามะหลุดยิ้มในความมืด เขาเดินเข้าไปช้อนร่างคาโอรุขึ้นลอยลิ่ว กระชับอ้อมแขน

                “ แค่ประคองก็พอ “ อย่าถึงขั้นอุ้มเลย

    คาโอรุเกรงใจ

                “ ก็ได้ “ โทบิรามะเปลี่ยนเป็นท่าประคอง ออกแรงต้นแขนเล็กน้อยก็ดึงให้ร่างของคาโอรุ

    เข้ามาแนบชิดพร้อมก้าวเดินทีละก้าวช้าๆ เป้าหมายคือเก้าอี้ชายหาดตรงหน้า ห่างออกไปแค่สองเมตร

    คาโอรุใกล้กับโทบิรามะมากจนกระทั่งปลายจมูกสามารถ ได้กลิ่นวิสกี้จากลมหายใจ กลิ่นบุหรี่อ่อนๆตรงคอเสื้อ

    กลิ่นน้ำหอมประจำตัว หล่อนอยากจามจริงๆ เมื่อสูดดมกลิ่นเหล่านี้เข้าไป สองมือเริ่มพยายามจะผละให้ออกห่าง

    ทว่าร่างกายกลับสวนทาง ฝ่ามือสองข้างกลับดึงชายเสื้อไว้แน่น คล้ายหล่อนกำลังโดนมอมเมา

    ด้วยกลิ่นยั่วยวนของบุรุษเพศ

                “ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว เรากลับกันเลยได้หรือเปล่า? “

                “ ได้สิ “ โทบิรามะเห็นด้วยคาโอรุควรกลับทันที เขาได้ยินเรื่องของสองสาวสนทนากันอย่างลับๆในห้องน้ำ

    แม้จะได้ยินไม่ชัดนักแต่พอเดาได้ว่าทั้งสอง เหมือนจะมีสงครามย่อมๆเกิดขึ้น(ซึ่งต้นเรื่องก็เป็นโทบิรามะเสียด้วย)

    ดังนั้น เมื่อคาโอรุอยู่ต่อก็คงหมดสนุก งั้นพาหล่อนกลับบ้านเลยละกัน

     

                โทบิรามะใช้เทพสายฟ้าเหิน พาคาโอรุกลับมายังห้องทำงานของโอยามาดะ

    เหมือนว่าตอนนี้ผู้คนในวัง ต่างพากันวิ่งวุ่นวายกันไปทั่ว

                “ หายไปไหนมาคาโอรุ เกิดไฟไหม้ป่าแล้วนะ “ โอยามาดะวิ่งกลับเข้าห้องทำงานของตน

    พบกับน้องสาวฝาแฝดและว่าที่น้องเขยยืนอยู่

                “ ไฟไหม้อย่างนั้นหรอ? “ คาโอรุมีสีหน้าแตกตื่น ผละออกจากโทบิรามะ

     รีบวิ่งออกจากห้องทำงานของโอยามาดะ กวาดตามองไปรอบๆ พบเห็นกลุ่มควันสีดำลอยโขมง

    ลอยเหนือบริเวณชายป่าทางตอนใต้ของเกาะ และเปลวไฟดวงใหญ่กำลังลุกไหม้  หล่อนไม่รอช้า ไม่สิ 

    เรียกว่ารอไม่ได้ ผิวปากสองสามครั้ง ก็มีอาชาคู่ใจโผล่ออกมาจากอีกมิติ คาโอรุกระโดดขึ้นนั่ง

    และควบฮาคุโอออกไปจุดเกิดเหตุภายในทันที

                “ ส่งสัญญาณเตือนและอพยพพาชาวบ้านบริเวณนั้นออกนอกพื้นที่ “

    โอยามาดะสั่งกำชับกับเรียวตะ

                " ขอรับ " เรียวตะรับคำและรีบออกไปสั่งการ


                “ โชคไม่ดีเลยท่านโทบิรามะ ท่านมาในเวลานี้พอดี “ โอยามาดะกล่าวสั้นๆ

    แม้ว่าเขาอยากจะบอกว่าให้โทบิรามะรีบกลับไปโคโนฮะทันที

                “ พาฉันไปที พาไปตรงที่ไฟไหม้ตรงนั้น “ โทบิรามะขอให้โอยามาดะพาไป

    ยังสถานที่เกิดเหตุ  อย่างน้อยโทบิรามะก็สามารถดับไฟป่าได้ด้วยคาถาน้ำของเขา

                “ ข้าเกรงว่าท่านต้องเข้าที่หลบภั.. อั๊ก! “ โอยามาดะยังพูดไม่จบดี

    ใบหน้าข้างซ้ายกลับมีรอยแผลเป็นเส้นตรงยาว ตั้งแต่เหนือริมฝีปาก เกือบถึงใบหู

                “ ท่านโอยามาดะ “ โทบิรามะตกใจ รีบขยับตัวเข้าใกล้

                “ ค คาโอรุได้รับบาดเจ็บ “ โอยามาดะยกมือขึ้นมาจับแผลของตัวเอง

    แม้ว่าตอนนี้จะเริ่มรู้สึกแสบๆบริเวณปากแผล

                “ ห๊ะ? “ โทบิรามะไม่เข้าใจ ทั้งๆที่ยืนอยู่ตรงหน้า ต่อหน้าโอยามาดะ

     เขาไม่เห็นว่าจะมีใครมาเล่นงานโอยามาดะด้วยซ้ำและแผลที่เกิดขึ้นมา  มันเกิดจากอะไรกันแน่?

                “ ข้าก็อธิบายไม่ถูกร่างกายของเราสองคนมีความสัมพันธ์กันบางอย่าง หากคาโอรุได้รับบาดเจ็บ

    ข้าเองก็จะเจ็บด้วยเหมือนกัน คงเป็นเพราะท่านแม่ ...ท่านเป็นตระกูลอุซึมากิ คงได้ร่ายคาถาไว้ก่อนจะเสียชีวิต “ 

    ก็เพราะว่าท่านพ่อไม่ชอบลูกสาวหรือลูกผู้หญิง ท่านแม่จึงต้องทำแบบนี้เพื่อรักษาชีวิตของคาโอรุไว้ 

    โอยามาดะไม่ขอพูดที่เหลือต่อ

     

                เสือโคร่งตัวเขื่องขนสีทองลุกขึ้นยืน มันตื่นตัวจนโอยามาดะ โทบิรามะสงสัย

    ทันใดนั้นมันได้ส่งเสียร้องขู่คำรามกึกก้องกัมปนาท แล้วค่อยทะยาน ดีดตัววิ่งออกไปไหนสักแห่ง

    “ ข้าต้องไปช่วยคาโอรุ อั๊ก! “ โอยามาดะถึงกับถอดเสื้อบนตัวออก

    คราวนี้ร่างกายของโอยามาดะเกิดแผลขึ้นอีกครั้ง บนกลางหน้าอกเป็นร่องรอยของของมีคม ตั้งแต่อกซ้าย

    ถึงช่วงเอวข้างขวา เสื้อฮากามะสีขาวถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดงชุ่มด้วยเลือดสดๆสาบเสื้อเผยออก

    ให้เห็นว่าช่วงอกหนาของโอยามาดะผ่านการใช้กล้ามเนื้อมาอย่างหนักหน่วง จนเห็นขึ้นเป็นลูก 

    ตั้งแต่กล้ามอกจนถึงกล้ามหน้าท้องเรียงตัวนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

                “ ฉันจะไปช่วยคาโอรุเอง ท่านโอยามาดะอยู่ที่นี่เถอะ “ คนพี่ก็ห่วง

    คนน้องก็ต้องรีบไปช่วย โทบิรามะคงต้องใช้คาถาแยกเงาเสียแล้ว

                “ ข้ารอถึงตอนนั้นไม่ได้ ข้าขอโทษนะ “ ว่าแล้วโอยามาดะก็ฝืนร่างกาย

    ออกวิ่งสุดกำลังด้วยเท้าเปล่าเปลือย หายเข้าไปในพงหญ้า คาดว่ายากที่จะตามตัวจนเจอ

    หรือไม่อยากให้ใครออกตามหามากกว่า

    โทบิรามะรู้สึกแย่ ความผิดอัดแน่นจุกบริเวณหน้าอก หากว่าเขายอมเชื่อคาโอรุตั้งแต่ทีแรก

     พาหล่อนส่งบ้านตั้งแต่เช้า เรื่องนี้คงไม่เกิด เขาสามารถไปยังจุดเกิดเหตุและใช้คาถาน้ำเพื่อดับไฟป่าทันที

     แม้ว่าตรงนั้นอาจจะไม่ได้มีแหล่งน้ำใกล้เคียงก็ตาม

    โทบิรามะหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ มีสติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขากำลังใช้สมองลำดับเหตุการณ์

    ว่าควรจัดการอันไหนก่อน หลัง ได้ภายในแค่สี่วินาทีเท่านั้น และเมื่อวางแผนเสร็จ โทบิรามะไม่รอช้า

     รีบรุจทำตามแผนที่วางไว้ทันที  














    โปรดติดตามตอนต่อไป...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×