คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Say : Stay.
พายุไซโคลน(สงคราม)พัดผ่านไประลอกใหญ่ๆ
บนเกาะจันทร์เสี้ยว กินเวลาปาเข้าไปเกือบสัปดาห์-
กว่าพายุร้ายนั้นจะสงบลง ได้หอบหิ้วศึกสงครามออกไป ให้เกาะจันทร์เสี้ยวกลับสู่สภาพวะปกติ
ทว่าเหตการณ์ยังไม่น่าไว้ใจอยู่ดี บางคราก็ไม่น่าไว้ใจนัก หากพายุไซโคลน(สงคราม)กลับซัดเข้าบนเกาะจันทร์เสี้ยว
-อีกระลอกจึง ก็มิอาจจะต้านทานได้ไหว (เรื่องนี้ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิดของคาโอรุ)
ร่างบอบบางพลิกกายเมื่อเริ่มรู้สึกเมื่อล้า คาดว่าการนอนตะแคงจะทำให้ ปวดต้นแขน นัยน์ตาคู่สวยค่อยๆ
เปิดเปลือกตาอย่างช้าๆ สูดกลิ่นเกลือรับไอทะเล เสียงของคลื่นซัดเข้าฝั่ง ทว่า กลับไม่ได้กลิ่นของเกลือทะเล
เสียงคลื่น กระทบเข้าชายฝั่ง เลยสักนิด คาโอรุดีดตัวเด้งขึ้นจากเตียงนอน กวาดตามองรอบห้องอย่างไม่คุ้นเคย
หล่อนไม่เคยแอบพักแรม นอนค้างที่ไหนที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง เตียงนอน ผ้าห่ม โต๊ะทำงานการจัดตกแต่งห้อง
ไม่คุ้นเอาเสียเลย ยิ่งเดินลงมาชั้นล่างของตัวบ้าน ยังพอจำได้คล้ายๆคุ้นๆ เหมือนเคยเข้าบ้านหลังนี้มาก่อน
" ตื่นแล้วหรอ
อาหารเช้าเสร็จแล้วนะ " โทบิรามะเดินมาทำท่าเหมือนจะขึ้นชั้นบน บอกหล่อน
กลับได้เห็นใบหน้าสวยกำลังขมวดคิ้วเป็นปมใหญ่
" ฉันอยู่ที่ไหน?
"
" บ้านฉันเอง
จริงๆก็..เป็นบ้านคุณเหมือนกัน "
" นายจะพาฉันมาแบบนี้ไม่ได้นะ
"
" ทำไมละ ?
"
" สงคราม...ยังไม่จบ
ฉันต้องรีบกลับไป เสื้อผ้าฉันละ? "
" บนเก้าอี้ "
โทบิรามะทำท่าจะเอื้อมมือไปคว้าแล้วส่งให้ แต่คาโอรุเร็วกว่า
หล่อนรีบคว้ากางเกงสกินนี่ยีนส์ได้สวมลงบนตัวทันที เสื้อท่อนบนมีเสื้อเชี้ตสีขาวตัวโคร่ง คาดว่าคงเป็น
ของโทบิรามะแน่ หล่อนรีบถอดเสื้อเก่าออกแล้วสวมเสื้อตัวเองทันทีโดยทั้งสองไม่ทันรู้เลยว่า-
มีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาในบ้านเรียบร้อย
ส่วนโทบิรามะรีบหันหลังให้ทันที สบตากับพี่ชายยืนอยู่ตรงหน้า
" 0.0 เฮ้..
โท... พี่ไปสำนักงานก่อนนะ "
ฮาชิรามะที่เข้ามาในตอนพีคถึงกับต้องชิ่งหนี
บอกตามตรงว่าการบุกรุกเข้าบ้านน้องชายถือเป็นเรื่องปกติ
ซึ่งเกิดขึ้นทุกวัน โทบิรามะสวดพี่ชายเป็นประจำ
กับการเปิดประตูเข้าบ้านคนอื่นอย่างถือวิสาสะ " บางทีท่านพี่คงได้รู้จักกดกริ่งเหมือนคนปกติบ้าง "
หลังจากนี้เป็นต้นไป
ฮาชิรามะคงได้กดกริ่งเข้าบ้านน้องชายเหมือนคนปกติทั่วไปเขาทำกันแล้วละ
ได้ข่าวว่าโทบิรามะกลับมาเข้าพักบ้านส่วนตัวในตอนเกือบย่ำรุ่ง คนเป็นพี่แทบจะพุ่งเข้าไปหา
-น้องรักภายในทันที ไม่รู้ว่ายังกลับมาได้ครบสามสิบสองชิ้นรึเปล่า กินอาหารครบสามมื้อหรือไม่
นอนให้อาหารยุงจนไม่สบายหรือจะตากน้ำค้าง ... ทว่าต้องหยุดไว้ เพื่อให้น้องชายสุดรักที่เพิ่งกลับมาจากภารกิจ
-สุดหินได้พักผ่อน ดังนั้นเช้านี้ก็เหมือนเช่นเคย ฮาชิรามะชอบเดินมา(แวะ)เข้าบ้านโทบิรามะ(เช่นเคย)
รอน้องชายไปทำงานด้วยกัน (ก็บ้านโทบิรามะเป็นทางผ่านที่จะไปสำนักงานพอดี ดังนั้นฮาชิรามะจึงมารอ-
น้องชายออกไปทำงานพร้อมกัน)
ว่าพีคแล้ว...ยิ่งเสื้อผ้าน้อยชิ้น ที่หล่อนสวมใส่ ยิ่งหล่อนถอดเสื้อเชี้ตออก โชว์หุ่นบอบบางของวิคตอเรียแองจี้
กับบราลูกไม้สีดำตัดกับสีผิวเนียนๆน่าสัมผัส บอกเลยว่าฮาชิรามะไม่ได้เตรียมทิชชู่มาซับเลือด
ที่เกาะตรงปลายจมูก กลับใช้ชายแขนเสื้อพยายามซับโลหิตไว้ก่อนแทบไม่ทันเลยทีเดียว
หากต้องให้พูดถึงน้องสะใภ้ขึ้นมา ฮาชิรามะจะกล่าวว่า เขาถูกชะตากับหล่อนนะ หาใช่ว่าเครื่องหน้า-
ที่สละสวย หุ่นผอมบอบบางอ้อนแอ้น สมควรจะทะนุถนอมดูแลอย่างดี ยิ่งได้พูดจาเป็นการเป็นงาน
น้ำเสียงหวานๆ แต่แฝงไปด้วยความดุดันที่ทำให้คนฟัง ถึงกับไม่กล้าแหย๋ม ไม่แปลกที่ดอกกุหลาบงาม
มักจะมีหนามเสมอแม้ว่าครั้งแรกที่เจอกัน(First impression) จะโดนข่มซะหง๋อ จ๋อยไปเลยก็เถอะ
คิดเสียว่าคงเป็นพระเจ้า(ไรท์เตอร์ชิว)
ดั๊น! ส่งคู่ปรับให้มาเป็นคู่รัก บอกเลยว่า
เป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อเเน่นอน
! และฮาชิรามะต้องการติดตามตอนต่อไปอย่างพลาดไม่ได้เชียวละ
“ ฉันจะกลับ “ คาโอรุบอกพลางใส่เสื้อ
“ เสื้อที่ใส่มา...มันเป็นชุดนอน..บางๆ “ ว่าแล้วก็หยิบชุดนอนนั้นขึ้นมาส่งคืนให้หล่อน
โอเค คาโอรุยอมแพ้เรื่องเสื้อเลย หล่อนขึ้นไปหยิบเสื้อยืดของโทบิรามะมาใส่แทน
“ ยืมก่อนก็แล้วกัน “ คาโอรุบอกก่อนแค่นั้น
“ อยู่กับฉันก่อนสักสองสามวัน...ได้ไหม แล้ววันแต่งงานฉันจะไปส่ง “ โทบิรามะอยากให้คาโอรุรู้จัก-
ตัวตน เข้าใจบทบาทหน้าที่(ต้องรับผิดชอบ) ในตัวเขามากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น มันเป็นเรื่องที่ทั้งสอง
ต้องปรับจูนเข้าหากันสิ
“ ฉันคงอยู่นานกว่านั้นไม่ได้หรอกนะ บนเกาะยังมีสงคราม “ คาโอรุให้เหตุผล
“ ฟังนะคาโอรุ... “ โทบิรามะมีเรื่องอยากจะเล่าให้คาโอรุฟัง เรื่องบนเกาะกับผลงานของพี่ชายหล่อน
ที่ได้สร้างการข่มขวัญ(สยองขวัญ)แก่ศัตรูจนต่างพาขนหัวลุกแบบนั้น โทบิรามะกล้ารับประกันได้เลยว่า-
ไม่มีใครกล้าเสนอหน้าขึ้นมาบนฝั่ง แม้ว่าจะเป็นวิธีการที่ป่าเถื่อน โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมที่สุดเท่าที่เคยได้ยิน
หรือมีมาแต่โบราณ บอกเลยว่าไม่มีศัตรูหรือผู้นำคนไหนใจกล้ามุ่งหน้าหมายจะบุกตีแย่งชิงดินแดนบนเกาะ-
จันทร์เสี้ยวอีกแน่นอน
“ วันเดียว ฉันขอวันเดียวก็ได้ " โทบิรามะยอม ขอต่อรองเรื่องเวลา
" แค่วันเดียวเท่านั้น "
คาโอรุในสภาพท่อนบนเป็นเสื้อยืดบอยๆของโทบิรามะ ท่อนร่างเป็นกางเกงบ๊อกเซอร์
ลายตารางสีขาวเนื้อบาง และในสภาพนี้นี่เองที่คาโอรุต้องออกไปเดินตลาด ใช่ เดินตลาดในช่วงเช้า
(เพื่อไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่) ที่มีแม่บ้าน พ่อบ้านจูงลูกเด็กเล็กแดงวิ่งกันว่อนไปทั่วทั้งตลาดเท่านั้นเอง!
คาโอรุกับลุคแฟชั่นเพิ่งลุกออกจากเตียง กับโทบิรามะในชุดไปทำงาน แต่งตัวเนี๊ยบเป๊ะทุกกระเบียบนิ้ว
ใช่ หนุ่มหล่อมาดขรึมประดุจเจ้าชายน้ำแข็ง ที่สามารถทำสาวๆน้อยใหญ่ รวมไปถึงเก้งกวางละลายได้
ภายในพริบตา บอกตามตรงเลยว่าตอนนี้คาโอรุ ไร้ซึ่งความมั่นใจหลงเหลืออยู่เลย แม้ว่าตอนนี้จะเดินตาม
หลังโทบิรามะห่างไม่เกินสาม ห้าเมตร จ้องมองแผ่นหลังกว้างตรงหน้า ทันใดนั้นโทบิรามะชะงักฝีเท้า
แล้วหันตัวกลับมาอย่างช้าๆ ส่งฝ่ามือหนาข้างซ้ายพร้อมกับรอยยิ้มจางๆที่มุมปาก
“ ไปกันเถอะ
ฉันพอรู้จักร้านเสื้อผ้าสวยๆถูกใจคุณอยู่นะ “ โทบิรามะแนะนำว่าอย่างนั้น
แล้วก็พาคาโอรุไปเลือกซื้อเสื้อผ้ารองเท้าผลัดเปลี่ยน ใกล้เคียงกับที่หล่อนชอบสวมใส่
ค่อยพาคาโอรุตรงไปยังตึกสำนักงาน หรืออีกอย่างที่เรียกว่าโลกของเขานั้นเอง
โทบิรามะมาถึงห้องทำงานของตัวเองพร้อมกับคาโอรุ
จัดเตรียมเก้าอี้ให้หล่อนได้นั่งพัก
ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มพร้อม(เสมอที่หล่อนต้องการ) เพื่อไม่ให้เป็นการทำให้โทบิรามะเสียสมาธิ
กับแฟ้มเอกสารเป็นตั้งๆ คาโอรุขอนั่งเงียบๆบนโซฟาบุหนัง หนังสือพิมพ์ในมือ
เอกสารตั้งคอนเป็นชั้นคอนโดหลากหลายสีและหลายกอง
บอกได้เลยว่าเอกสารพวกนี้
โทบิรามะเคลียร์หมดทุกแฟ้มตั้งแต่ก่อนไปรับภารกิจเกาะจันทร์เสี้ยวเสียอีก ทว่าไปไม่นานนัก ก็กลับมีแฟ้มอีก-
หลายตั้งใหญ่ๆ รอโทบิรามะเซ็นอนุมัติ โทบิรามะหายใจเข้าช้าๆ หายใจออกยาวๆสองถึงสามหน
แล้วตั้งสติมีสมาธิกับงานให้มากขึ้นกว่าเดิม ค่อยๆจัดการทีละแฟ้มทีละตั้ง จวบจนกระทั่งพลิกแฟ้มสุดท้ายจบลง
แวะพาคาโอรุไปทานอาหารกลางวัน แล้วกลับไปทำงานต่อ โทบิรามะบอกกับหล่อนสั้นๆ
ได้ใจความว่า “ ฉันมีประชุมตั้งแต่บ่ายจนถึงเลิกงาน นั่งรออยู่แต่ในห้องนี้นะ “ ฟังดูแล้วอาจจะน่าเบื่อจนเกินไป
ก็จริง โทบิรามะรับรู้ได้ถึงบางสิ่งจากคาโอรุเป็นอย่างดีคือ ร่างกายของหล่อนอยู่กับเขาก็จริง
ทว่าใจของหล่อนนั้นคงอยู่ที่เกาะจันทร์เสี้ยวอย่างแน่นอน
โทบิรามะปิดบานประตูห้องลง คาโอรุถึงกับถอนหายใจเฮือก ลดหนังสือพิมพ์ในมือลง ค่อยพับวางลง
บนโต๊ะรับแขกตรงหน้า หล่อนเงยหน้ามองเพดานสักพักค่อยจ้องมองรองเท้าหนังกลับหุ้มข้อสีเลือดหมู
ใช่ โทบิรามะเป็นคนเลือกรองเท้าคู่นี้ให้ หาใช่แค่เลือกอย่างเดียวนะ เขาเป็นคนสวมรองเท้าให้คาโอรุด้วยสองมือ
ของเขาเองด้วย ในวินาทีนั้นคาโอรุรู้สึกประหลาดใจ ก้อนเนื้อในทรวงอกเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย
ทว่าหล่อนสามารถควบคุมมันให้กลับมาเต้นตามจังหวะเดิมได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ แม้ว่าจะมีสายตาคมกริบสีดำ
สามารถทะลุปรุโปร่งได้ในทุกสิ่งต้องแฝงไปด้วยความอ่อนโยนบางอย่างก็ตาม
คาโอรุพยายามฝืนใจตัวเองเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่หล่อนสามารถผิวปากเบาๆ เรียกฮาคุโอจากอีกมิติหนึ่ง
ควบหลังอาชารู้ใจกลับเกาะจันทร์เสี้ยวทันที หล่อนมีความรู้สึกบางอย่างหรืออาจจะเป็นเซนต์ส่วนตัว
ว่าต้องมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับเกาะจันทร์เสี้ยวโดยที่หล่อนไม่อยู่อย่างแน่นอน แล้วยิ่งโทบิรามะดึงเวลา ไม่สิ
เขาเป็นคนยื้อเวลาของหล่อนไว้ คาโอรุพยายามท่องไว้ในใจแค่ แค่วันเดียว คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น
หล่อนก็กลับแล้ว คาโอรุพยายามใช้ประโยคเหล่านี้เพื่อปลอบใจตัวเอง
โทบิรามะแอบหลบออกจากห้องประชุมเพื่อแวะมาดูคาโอรุที่อยู่ในห้องทำงาน
คาโอรุเอนหลังนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาตัวยาว เครื่องปรับอากาศในห้องกำลังส่งเสียงครึกๆ เขาไม่รอช้า
หยิบเสื้อโค้ทตัวใหญ่มาคลุมร่างคาโอรุไว้ เผื่อหล่อนจะหนาว โทบิรามะถอนหายใจ เขาต้องกลับเข้าประชุมอีกแล้วสิ
กลับมาอีกหนคงตอนเลิกงาน
โทบิรามะพาคาโอรุมาที่บ้านตระกูลเซ็นจู คาโอรุมองด้วยสายตาพร้อมประเมิน พบว่าเป็นตัวบ้าน-
ทำมาจากไม้สักหลังใหญ่ คาดว่าสถาปนิกนั้นออกแบบมาได้อย่างดีเยี่ยมตัวบ้านหลังใหญ่แต่ไม่อึดอัด
จัดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์เข้ากันได้อย่างลงตัว มีช่องทางไม่สิ ต้องเรียกว่าอากาศสามารถถ่ายเทได้อย่างสะดวก
โดยไม่ต้องมีพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ รอบๆบ้านมีต้นไม้เล็กใหญ่สลับกันไป เพื่อความร่มรื่น
ความธรรมชาติทั้งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สระว่ายน้ำใส ชวนมองแล้วสบายตา สบายใจ
โทบิรามะแนะนำให้หล่อนได้รู้จักกับฮาชิรามะซึ่งเป็นพี่ชายและมิโตะ ภรรยาอย่างเรียบง่าย
ฮาชิรามะกลับหน้าแดงซ่านอาจจะเป็นเพราะนึกถึงเรื่องราวของเมื่อเช้าก็ได้ คาโอรุทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบลง จนถึงขั้นเรียกว่าอึดอัด หรืออาจจะเป็นเพราะมิโตะส่งกระแสพลังงาน
บางอย่างออกมา ซึ่งทำให้คาโอรุรับรู้ได้พียงคนเดียว คาโอรุมองอาหารในจานนึกไม่อยากทาน
หรืออีกอย่างคือทานไม่ลง
“ ทานเยอะๆนะคาโอรุจัง
วันนี้มิโตะเข้าครัวเองเลยนะ “ ฮาชิรามะบอกพร้อมรอยยิ้ม
ภรรยาของเขาเก่งในหลากหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการทำอาหาร
“
โทบิรามะเองก็ด้วย เดี๋ยวนี้น้องจะผอมลงนะต้องขุนให้ตัวหนาๆแล้วละ “ กำชับกับน้องรักด้วยความเอ็นดู
แล้วค่อยตักอาหารใส่จานให้หล่อน ในชนิดที่เรียกว่าตักให้แทบจะล้นจาน กลัวว่าคาโอรุจไม่มีแรง
ในการเดินทางกลับเกาะจันทร์เสี้ยว
“ พอก่อน ฉันทานไม่ทันหรอกนะ “ คาโอรุรีบออกตัวห้าม โทบิรามะคงไม่หยุดแค่นี้แน่
อาหารตั้งเรียงรายไม่ซ้ำกันเลยบนโต๊ะแม้นั่งทานกันสี่คน บอกตามตรงว่าเยอะเกินกว่าที่ทั้งสี่คนจะทานกันไหว
แค่ชิมจานละคำ คงจะอิ่มไปถึงพรุ่งนี้เช้าแน่ !
“
ท่านพี่...เราสองคนกำลังจะแต่งงานกันอีกสองวันข้างหน้า “ โทบิรามะเป็นฝ่ายพูดขึ้น
อย่างไม่มีปรี่มีขลุ่ย ฮาชิรามะที่กำลังตักข้าวใส่ปากถึงกับเงยหน้าขึ้น
“ จริงดิ “
นี่คือคำพูดหลุดปากของพี่ชาย
เคล้ง!
มิโตะถึงกับทำช้อนหลุดมือ
“ ขออภัย “ มิโตะบอก แล้วนั่งเงียบๆรอฟังโทบิรามะพูดต่อ
มันไม่ไวไปหน่อยหรอว่ะ?
ฮาชิรามะคิดในใจ แม้ว่าเขาจะชอบใจแม่หนูคาโอรุตรงหน้าก็นะ เรื่องของคู่ชีวิตต้องดูกันยาวๆสิ
คนเป็นพี่ไม่อยากให้น้องเดินตามรอย ท่านพ่อเป็นฝ่ายจัดการเรื่องงานแต่งขึ้นโดยทั้งหมด ปราศจากการ
ขอความเห็นกับเจ้าบ่าวด้วย ใช่ เขาแต่งงานกับอุซึมากิ มิโตะ โดยที่ทั้งสองไม่ได้รู้จักกัน รักกันเลยด้วยซ้ำ
หรือเรียกกันในภาษาชาวบ้านว่า 'คลุมถุงชน'
“ แต่งจริงสิท่านพี่ “ คนนี้เขาจริงจัง โทบิรามะวาดวงแขนออกไปโอบไหล่คาโอรุ หันมองว่าที่ภรรยาเล็กน้อย
ปลายนิ้วแข็งแรงออกแรงบีบไหล่นวดให้ภรรยาผ่อนคลายหายเกร็ง แล้วค่อยยิ้มให้พี่ชาย คลายกังวล
โคตรพีค!
นอกจากจะพาสาวเข้าบ้านโดยไม่บอกใครหรือมีคนเห็นแล้ว โทบิรามะบอกยังบอกเรื่องข่าวดี
ว่าจะมีงานวิวาห์เกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า บอกตามตรงเลยว่าฮาชิรามะตั้งหลักแทบไม่ทัน
หรือบางทีฮาชิรามะเอง ก็ไม่ได้รู้จักน้องชายของตนดีพอเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่จำความได้ ฮาชิรามะไม่เคยห่าง
จากน้องเลยด้วยซ้ำ ตัวแทบจะติดกันตลอดเวลา โทบิรามะไม่เคยพูดถึงเรื่องแต่งงาน หรือการมีคู่ชีวิตครองรัก
กันจนหมดลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ฮาชิรามะคิดว่าน้องชายคงได้เกาะคานทองอย่างเหนียวแน่นอย่างแน่นอน
โดยส่วนหลักมีเพียงแต่เรื่องงานที่ต้องรับผิดชอบ ประคับประคองให้หมู่บ้านต้องเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
เช่น เรื่องการประชุมวันนี้ มีเพียงแค่ระดับผู้บริหารไม่กี่ท่าน เช่น โฮคาเงะ(ฮาชิรามะ)
ที่ปรึกษาโฮคาเงะอีกสามท่าน รวมถึงตัวโทบิรามะด้วย ฮาชิรามะเห็นสีหน้าแววตา ท่าทางเอาจริงกับเรื่อง
การปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าไม่ว่าจะเป็นหรือตาย (เช่นนำกระดูกของเสือไปดองเหล้า
นำส่วนของเนื้อไปประกอบอาหาร รวมถึงการแปรรูปเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้าน ) บอกไว้เลยหากฮาชิรามะตายไป
คนที่จะกุมบังเหียนสืบทอดตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นที่สองคงไม่พ้นน้องชายของเขา
“ ยินดีด้วยนะ อ๊าว คาโอรุจัง ต้องทานอาหารเยอะๆแล้วนะ เพราะโทบิรามะ... “ ฮาชิรามะแสดงความยินดี
ออกมาทั้งสีหน้าและแววตา หากให้คาดการณ์ว่าคืนนี้คาโอรุคงต้องอยู่บ้านเซ็นจูกันอีกยาวแน่
บางทีบ้านตระกูลเซ็นจู อาจจะขาดเรื่องงานเลี้ยงรังสรรค์ครื้นเครงก็ได้ ถึงได้ดูเงียบเหงา
อย่างน้อยงานแต่ง งานมงคล...อาจจะทำให้บ้านเซ็นจูกลับมามีสีสันหรือชีวิตชีวามากกว่าเดิมก็เป็นได้
คาโอรุลุกหนีออกจากโต๊ะอาหาร
ที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นโต๊ะเหล้า เครื่องดื่มมึนเมาเริ่ม
ทยอยเข้ามาแทน
“ เรื่องงานแต่งยินดีด้วยนะ
“ มิโตะตามมาเข้าห้องน้ำอย่างไม่ให้ซุ้มเสียง
“ ขอบคุณ “
คาโอรุตอบตามมารยาทขณะล้างมือ หล่อนรู้สึกว่าการมาในครั้งนี้ของสะใภ้ใหญ่
ไม่ใช่มาการดีแน่ๆ คาโอรุจึงต้องรีบเดินหนีในขณะที่มีจังหวะ
“ แต่โทบิรามะหน่ะ...”
มิโตะตั้งใจเกริ่นบางอย่าง เธอหรี่เสียงลงเอียงคอให้เส้นผมสีแดง
พลิ้วตามในอากาศ ใบหน้าสวยอย่างไร้ที่ติหันมาจับจ้องคู่สนทนา
“ เสียดายหรอ? “
คาโอรุจงใจปั่นประสาทมิโตะเต็มๆ
เท่าที่สังเกต หล่อนเห็นแววตาของมิโตะตอนที่โทบิรามะพูดเรื่องแต่งงานขึ้นมา ท่าทางและน้ำเสียง
ทำของหล่นความซุ่มซ่ามของมิโตะเปลี่ยนไป สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมคล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ นี่! “
“ ว่าไงคุณมิโตะ? “
“
ฉันบอกอะไรให้เอาบุญนะ โทบิรามะเขาไม่สนใจหล่อนหรอก ถ้าหล่อนมีประโยชน์
เขาก็เข้าหาเป็นเรื่องปกติ หากวันใดหมดประโยชน์ขึ้นมา... เขาก็เขี่ยหล่อนทิ้งไม่ต่างจากขยะหรอกนะ “
“
และที่สำคัญคนทั่วไปจะเรียกฉันว่าคุณอุซึมากิ แต่ถ้าเป็นคนสนิทจะเรียกคุณมิโตะ
เพราะว่าฉันถือ! “
“ ตายจริง ขออภัยด้วยค่ะ คุณอุซึมากิ ไม่บอกก็ไม่รู้มาก่อนเลยนะ “ คาโอรุแกล้งทำหน้า-
เป็นสาวน้อยไร้เดียงสาหล่อนยกมือทาบอกเบาๆ “ ฉันก็เพิ่งเข้าใจนะ รักพี่เสียดายน้อง ก็วันนี้แหละ จะว่าไป...ฉัน
คิดว่าคนมีความคิดรู้จักผิดชอบชั่วดีเขาไม่ทำกันนะ “ หรือพูดกันง่ายๆว่ามิโตะควรจะหยุดหวงก้างหรือแสดงท่าที
แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเสียที
ทั้งๆที่ตนเองได้แต่งงานออกเรือนกับฮาชิรามะไปแล้ว!
คนฟังรู้สึกหน้าชาเหมือนโดนหลอกด่าแบบผู้ดี ใช่ และผู้ดีอย่างอุซึมากิ มิโตะ ไม่ยอมให้ใครมาพูดจา
หรือแสดงท่าทีข่มเหงรังแกได้แบบฟรีๆเสียด้วย บางครั้งต้องมีข่มขวัญ ให้อีกฝ่ายหวาดกลัว และหลาบจำไว้
ประดับสมองว่าอย่าริอาจมาลูบคมเธอเล่นๆ
“ ขอตัวก่อน “ คาโอรุไม่อยู่สนทนาต่อเพราะหมดเรื่องคุยแล้ว
เห็นทีหล่อนต้องไปเร่งให้โทบิรามะพาหล่อนกลับเสียที
มิโตะปิดเปลือกตาลง ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ พอจะมีเวลาเพียงชั่วครู่ให้คนอวดดีตรงหน้า
เธอจงใจใช้คาถาลวงตาใส่คาโอรุ สร้างภาพให้คาโอรุยืนอยู่ในกลางห้องมืดสีดำสนิท มองไม่เห็นแม้แต่เงา
และในทันใดนั้นเองก็ปรากฏร่างของสัตว์หางตัวใหญ่ยักษ์ คาโอรุมองอย่างพินิจอีกครั้งและพยายาม-
นับจำนวนหางของมัน หนึ่ง สอง สาม... เจ็ด แปด เก้า โอเค จิ้งจอกเก้าหาง อ้าปาก ขู่คำรามเสียงดัง
พร้อมกระโจมเข้ามาจะงาบหล่อนหวังเป็นเหยื่ออันโอชะเป็นใส่ปาก
“
เหอะ “ คาโอรุถึงกับพ่นลมหาย
แค่นี้คิดว่าคนอย่างหล่อนจะกลัวอย่างงั้นหรอ?
บอกเลยว่าคิดผิด
มิโตะเบะปากบอกมองคาโอรุชะงักไปชั่วครู่
คาดว่าคาถาลวงตาของเธอนั้นคงได้ผล
แห๋งละ จะว่าเก่งขนาดไหน พอเจอกับจิ้งจอกเก้าหางในร่างของเธอเข้าไป ต่างพากันเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อโกย
วัดหน้าตั้งกันทั้งนั้น
ทันใดนั้นมิโตะยืนอยู่ท่ามกลางป่าเขาดงดิบที่ไม่คุ้นตา
ไม่สิหล่อนไม่ชอบเข้าป่าเขาลำเนาไพร
ได้ยินเสียงของเหล่าสารพัดระงมไปทั่วป่า
เธอหมุนตัวเป็นวงกลม เหมือนพยายามหาทางออก
กรร!
เสียงขู่ของสัตว์ป่าเช่นเสือ ดังขึ้นมา มิดตะแทบไม่ทันระวังตัวเธอเผลอหลุดร้องหวีดเสียดัง ล้มตัวลงบนพื้น
ราชสีห์ตัวยักษ์กระโดดเข้ามาพร้อมกงเล็บกำลังจะตะปบเธอให้จมดินกระนั้นแล้วมิโตะถึงกับหายใจหอบถี่
คล้ายวิ่งฟูลมาราธอน ยกฝ่ามือขึ้นมาแนบลำคอ เหงื่อกาฬแตกไหลผลั่กๆอาบไปทั่วลำตัว เธอส่ายหน้าละอา
กับตัวเอง โชคดีว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น คู่กรณีก็เช่นกัน มิโตะถึงกับทุบมือลงพื้นเพื่อระบายความคับแค้นใจ
อย่างหัวเสีย
“ ของจริงมันต้องแบบนี้ “ คาโอรุหันไปส่งยิ้มหวานให้มิโตะ
คาถาลวงตา เป็นคาถาที่คาโอรุถนัดมากที่สุดและยิ่งใส่ความสมจริงเข้าไปอีกนิดบอกเลยว่ากรี๊ดลั่นแน่นอน
ขนาดเดินออกจากห้องน้ำตรงมายังสระว่ายน้ำกลางตัวบ้านยังได้ยินเสียงดังลั่น นับว่าคาโอรุประสบความสำเร็จ
ในเรื่องการสร้างภาพลวงตาได้เป็นอย่างดี
และเก่งขึ้นไปอีกขั้น
คาโอรุพับขากางเกงขึ้นเล็กน้อยเพราะหล่อนอยากแช่น้ำในสระ
แช่เพียงแค่ขาก็พอ
เพื่อให้ความเย็นของสายน้ำ ดับเพลิงความร้อนลุ่นในใจหล่อนให้หมดไป
“
ก็ว่าหายไปไหน “ เสียงหนึ่งดังขั้น คาโอรุถึงกับสะดุ้ง
หล่อนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาเลยสักนิดเดียว
หรือาจจะเป็นเพราะหล่อนคิดถึงบ้าน
คิดถึงเกาะจันทร์เสี้ยวจนลืมสังเกต
“ ฉันแค่ออกมารับลมเล่นเท่านั้น “ แถไปอย่างนั้น
ทั้งที่จริงแล้วคาโอรุไม่อยากกลับเข้าไป
กลับไปเจอบรรยากาศอึดอัดแบบเมื่อครู่
“ ก็ไม่ได้ว่าอะไร...สระว่ายน้ำเชื่อมกับทะเลสาบท้ายหมู่บ้าน ...ฉันแค่มาบอกว่าระวังจระเข้ด้วยนะ “
โทบิรามะพูดสั้นๆ แล้วหันหลังเดินไป คาโอรุตาเหลือกรีบยกขาขึ้นจากน้ำทันที
ฝ่ามือเล็กคว้าชายกางเกงโทบิรามะแน่น
“
ช่วยด้วย ลุกไม่ขึ้นตะคริวกิน “ คงเพราะแช่น้ำเย็นๆเป็นเวลานาน
โทบิรามะหลุดยิ้มในความมืด เขาเดินเข้าไปช้อนร่างคาโอรุขึ้นลอยลิ่ว
กระชับอ้อมแขน
“
แค่ประคองก็พอ “ อย่าถึงขั้นอุ้มเลย
คาโอรุเกรงใจ
“
ก็ได้ “ โทบิรามะเปลี่ยนเป็นท่าประคอง ออกแรงต้นแขนเล็กน้อยก็ดึงให้ร่างของคาโอรุ
เข้ามาแนบชิดพร้อมก้าวเดินทีละก้าวช้าๆ เป้าหมายคือเก้าอี้ชายหาดตรงหน้า ห่างออกไปแค่สองเมตร
คาโอรุใกล้กับโทบิรามะมากจนกระทั่งปลายจมูกสามารถ ได้กลิ่นวิสกี้จากลมหายใจ กลิ่นบุหรี่อ่อนๆตรงคอเสื้อ
กลิ่นน้ำหอมประจำตัว หล่อนอยากจามจริงๆ เมื่อสูดดมกลิ่นเหล่านี้เข้าไป สองมือเริ่มพยายามจะผละให้ออกห่าง
ทว่าร่างกายกลับสวนทาง ฝ่ามือสองข้างกลับดึงชายเสื้อไว้แน่น คล้ายหล่อนกำลังโดนมอมเมา
ด้วยกลิ่นยั่วยวนของบุรุษเพศ
“ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว เรากลับกันเลยได้หรือเปล่า? “
“ ได้สิ “ โทบิรามะเห็นด้วยคาโอรุควรกลับทันที เขาได้ยินเรื่องของสองสาวสนทนากันอย่างลับๆในห้องน้ำ
แม้จะได้ยินไม่ชัดนักแต่พอเดาได้ว่าทั้งสอง เหมือนจะมีสงครามย่อมๆเกิดขึ้น(ซึ่งต้นเรื่องก็เป็นโทบิรามะเสียด้วย)
ดังนั้น เมื่อคาโอรุอยู่ต่อก็คงหมดสนุก งั้นพาหล่อนกลับบ้านเลยละกัน
โทบิรามะใช้เทพสายฟ้าเหิน
พาคาโอรุกลับมายังห้องทำงานของโอยามาดะ
เหมือนว่าตอนนี้ผู้คนในวัง
ต่างพากันวิ่งวุ่นวายกันไปทั่ว
“
หายไปไหนมาคาโอรุ เกิดไฟไหม้ป่าแล้วนะ “ โอยามาดะวิ่งกลับเข้าห้องทำงานของตน
พบกับน้องสาวฝาแฝดและว่าที่น้องเขยยืนอยู่
“
ไฟไหม้อย่างนั้นหรอ? “ คาโอรุมีสีหน้าแตกตื่น ผละออกจากโทบิรามะ
รีบวิ่งออกจากห้องทำงานของโอยามาดะ
กวาดตามองไปรอบๆ พบเห็นกลุ่มควันสีดำลอยโขมง
ลอยเหนือบริเวณชายป่าทางตอนใต้ของเกาะ และเปลวไฟดวงใหญ่กำลังลุกไหม้ หล่อนไม่รอช้า ไม่สิ
เรียกว่ารอไม่ได้ ผิวปากสองสามครั้ง ก็มีอาชาคู่ใจโผล่ออกมาจากอีกมิติ คาโอรุกระโดดขึ้นนั่ง
และควบฮาคุโอออกไปจุดเกิดเหตุภายในทันที
“
ส่งสัญญาณเตือนและอพยพพาชาวบ้านบริเวณนั้นออกนอกพื้นที่ “
โอยามาดะสั่งกำชับกับเรียวตะ
" ขอรับ " เรียวตะรับคำและรีบออกไปสั่งการ
“
โชคไม่ดีเลยท่านโทบิรามะ ท่านมาในเวลานี้พอดี “ โอยามาดะกล่าวสั้นๆ
แม้ว่าเขาอยากจะบอกว่าให้โทบิรามะรีบกลับไปโคโนฮะทันที
“
พาฉันไปที พาไปตรงที่ไฟไหม้ตรงนั้น “ โทบิรามะขอให้โอยามาดะพาไป
ยังสถานที่เกิดเหตุ อย่างน้อยโทบิรามะก็สามารถดับไฟป่าได้ด้วยคาถาน้ำของเขา
“
ข้าเกรงว่าท่านต้องเข้าที่หลบภั.. อั๊ก! “ โอยามาดะยังพูดไม่จบดี
ใบหน้าข้างซ้ายกลับมีรอยแผลเป็นเส้นตรงยาว
ตั้งแต่เหนือริมฝีปาก เกือบถึงใบหู
“
ท่านโอยามาดะ “ โทบิรามะตกใจ รีบขยับตัวเข้าใกล้
“
ค คาโอรุได้รับบาดเจ็บ “ โอยามาดะยกมือขึ้นมาจับแผลของตัวเอง
แม้ว่าตอนนี้จะเริ่มรู้สึกแสบๆบริเวณปากแผล
“
ห๊ะ? “ โทบิรามะไม่เข้าใจ ทั้งๆที่ยืนอยู่ตรงหน้า ต่อหน้าโอยามาดะ
เขาไม่เห็นว่าจะมีใครมาเล่นงานโอยามาดะด้วยซ้ำและแผลที่เกิดขึ้นมา มันเกิดจากอะไรกันแน่?
“ ข้าก็อธิบายไม่ถูกร่างกายของเราสองคนมีความสัมพันธ์กันบางอย่าง หากคาโอรุได้รับบาดเจ็บ
ข้าเองก็จะเจ็บด้วยเหมือนกัน คงเป็นเพราะท่านแม่ ...ท่านเป็นตระกูลอุซึมากิ คงได้ร่ายคาถาไว้ก่อนจะเสียชีวิต “
ก็เพราะว่าท่านพ่อไม่ชอบลูกสาวหรือลูกผู้หญิง ท่านแม่จึงต้องทำแบบนี้เพื่อรักษาชีวิตของคาโอรุไว้
โอยามาดะไม่ขอพูดที่เหลือต่อ
เสือโคร่งตัวเขื่องขนสีทองลุกขึ้นยืน มันตื่นตัวจนโอยามาดะ โทบิรามะสงสัย
ทันใดนั้นมันได้ส่งเสียร้องขู่คำรามกึกก้องกัมปนาท
แล้วค่อยทะยาน ดีดตัววิ่งออกไปไหนสักแห่ง
“
ข้าต้องไปช่วยคาโอรุ อั๊ก! “
โอยามาดะถึงกับถอดเสื้อบนตัวออก
คราวนี้ร่างกายของโอยามาดะเกิดแผลขึ้นอีกครั้ง บนกลางหน้าอกเป็นร่องรอยของของมีคม ตั้งแต่อกซ้าย
ถึงช่วงเอวข้างขวา เสื้อฮากามะสีขาวถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดงชุ่มด้วยเลือดสดๆสาบเสื้อเผยออก
ให้เห็นว่าช่วงอกหนาของโอยามาดะผ่านการใช้กล้ามเนื้อมาอย่างหนักหน่วง จนเห็นขึ้นเป็นลูก
ตั้งแต่กล้ามอกจนถึงกล้ามหน้าท้องเรียงตัวนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“
ฉันจะไปช่วยคาโอรุเอง ท่านโอยามาดะอยู่ที่นี่เถอะ “ คนพี่ก็ห่วง
คนน้องก็ต้องรีบไปช่วย
โทบิรามะคงต้องใช้คาถาแยกเงาเสียแล้ว
“
ข้ารอถึงตอนนั้นไม่ได้ ข้าขอโทษนะ “ ว่าแล้วโอยามาดะก็ฝืนร่างกาย
ออกวิ่งสุดกำลังด้วยเท้าเปล่าเปลือย
หายเข้าไปในพงหญ้า คาดว่ายากที่จะตามตัวจนเจอ
หรือไม่อยากให้ใครออกตามหามากกว่า
โทบิรามะรู้สึกแย่ ความผิดอัดแน่นจุกบริเวณหน้าอก หากว่าเขายอมเชื่อคาโอรุตั้งแต่ทีแรก
พาหล่อนส่งบ้านตั้งแต่เช้า เรื่องนี้คงไม่เกิด เขาสามารถไปยังจุดเกิดเหตุและใช้คาถาน้ำเพื่อดับไฟป่าทันที
แม้ว่าตรงนั้นอาจจะไม่ได้มีแหล่งน้ำใกล้เคียงก็ตาม
โทบิรามะหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ มีสติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขากำลังใช้สมองลำดับเหตุการณ์
ว่าควรจัดการอันไหนก่อน หลัง ได้ภายในแค่สี่วินาทีเท่านั้น และเมื่อวางแผนเสร็จ โทบิรามะไม่รอช้า
รีบรุจทำตามแผนที่วางไว้ทันที
ความคิดเห็น