คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เหนือกาลเวลา : Like a virgin.
- Like a virgin. -
Itachi's talking.
สำนักงานโฮคาเงะ
“ อย่างนั้นเรอะ ” เสียงของชายชรามีศักดิ์เป็นผู้นำสูดสุงของแคว้น โฮคาเงะรุ่นที่สามพูดด้วยเสียงเย็น
ขณะหยิบไปป์บนโต๊ะทำงานขึ้นมาสูบ ทำท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ภายในใจ
“ เป็นไปตามที่ผมแจ้งให้ท่านทราบครับ ” ผมกดใบหน้าลงกล่าวรายงานภารกิจ ตามติดชีวิตชุนให้ท่านโฮคาเงะฟัง
เหมือนทุกวัน รวมถึงภารกิจลับระหว่างผมกับท่านก็ด้วย
“ ถ้าเป็นอย่างนั้น... กลับบ้านไปพักผ่อนเถิด ขอบใจเจ้ามาก” ท่านโฮคาเงะรุ่นสามกล่าวด้วยเสียงทุ้มทรงอำนาจ
เขาวางไปป์ในมือลงบนที่เขี่ยบุหรี่ พ่นควันออกจากทางปากและจมูกคล้ายกับว่ากำลังแอบถอนหายใจ
“ครับ ” ผมโค้งตัวทำความเคารพท่านโฮคาเงะรุ่นที่สาม ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องทำงาน
เสียงบานประตูห้องทำงานทำจากไม้สักอย่างดีถูกปิดลงกลอน พร้อมกับร่างสูงโปร่งราวๆหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซ็นติเมตรต้นๆ
ผมได้รับสองภารกิจในเวลาเดียวกัน หนึ่งเป็นสายลับของท่านฟุกาคุ(ท่านพ่อของผม) สองคอยติดตามชุน
เพื่อรายงานท่านโฮคาเงะ ผมเฝ้ามองชุนจากมุมสูงคาดว่าเขาคงเห็นผม เพียงแต่เขาแกล้งทำเมินผมเองเท่านั้น
ผมนึกถึงช่วงเวลาที่สัมผัสบนหลังมือพร้อมกับมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น คงเป็นเสน่ห์บางอย่าง
ชวนให้หลงใหลไปพร้อมกับ ใบหน้า แววตา น้ำเสียงทรงพลัง ผมไม่รู้เลยว่าชุนคิดอะไรอยู่...
รู้เพียงแค่ว่าผมรู้สึกเขินเบาๆอย่างบอกไม่ถูก จนต้องยอมล่าถอยออกไปเอง มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา
กับภารกิจตามติดนักโทษ หากนักโทษขัดขืนหรือพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่(คาคาชิ) ผมจะเป็นคนลงมือสังหารเขา
อย่างไม่ลังเล แม้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันที่ได้พูดคุยกับชุน ผมรับรู้ว่าเขาเป็นคนที่แตกต่างจากคนอื่นทั้งในด้านความคิด
และอุดมการณ์
ผมเดินทางกลับหมู่บ้านอุจิฮะเหมือนทุกวัน ในช่วงเวลายามค่ำคืนเสมอ
ไม่ต้องกังวลว่าจะมีโจรดักจี้ปล้น ตามมุมเสาไฟฟ้า ไม่ต้องห่วงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับผม ผมเกิดที่นี่ โตที่แห่งนี้
พ่อ แม่ ซาสึเกะ ทุกคนและหมู่บ้านโคโนฮะที่ผมรัก ผมอยากใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จนถึงบั้นปลายของชีวิต
ดวงตาสีนิลกาลทั้งสองข้างมองไปรอบทางตลอดเวลาเดิน ราวกับกำลังซึมซับบรรยากาศทุกอย่าง
เอาไว้ในส่วนของความทรงจำทั้งหลาย เพราะว่ามัน... อาจจะไม่มีอีกแล้วก็ได้...
“ ช่วงนี้ลูกทำตัวแปลกๆไปนะ ” เปิดประตูเข้าบ้านยังไม่ทันได้ขึ้นห้อง เสียงของท่านพ่อเอ่ยทัก
ท่ามกลางความมืด ไม่ได้มีแค่ท่านพ่อ ท่านแม่ก็นั่งรออยู่ในห้องรับแขก ปิดไฟมืดสนิทด้วย ไม่ให้เห็นแม้แต่เงา
“ ช่วงนี้ผมมีภารกิจลับ” ผมตอบสั้นๆ
“ อิทาจิ ” ท่านแม่เรียกชื่อของผมด้วยเสียงแผ่ว
“ ภารกิจลับอย่างนั้นหรอ อย่าลืมว่าตัวเองมีหน้าที่อะไรก็แล้วกัน! ” ท่านพ่อพูดน้ำเสียงขุ่น
เต็มไปด้วยความไม่พอใจ พูดจบก็ลุกขึ้นยืนเต็มสัดส่วน จ้องหน้าผมด้วยเนตรวงแหวนคู่นั้น ราวกับเปิดเครื่องจับเท็จ
กับผู้ต้องหาทำความผิด โดยแทบไม่ละสายตา ผมปล่อยให้ท่านสำรวจได้อย่างตามใจชอบเป็นเวลาเกือบห้านาที
“ ซาสึเกะ... เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็กลับไปนอน ” ผมเอ่ยขึ้นกลางอากาศ เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่าง
แอบอยู่หลังกำแพงห้องรับแขก ท่านพ่อ ท่านแม่ ทั้งสองคนต่างชะงัก ทว่าไม่มีใครพูดอะไรออกมา
“ ฮะ ” ซาสึเกะตอบด้วยเสียงงัวเงีย เดินออกจากหลังกำแพงห้อง กลับขึ้นชั้นบนของตัวบ้าน
“ ไว้พรุ่งนี้เรามาประชุมกันใหม่ ” ท่านพ่อพูดทิ้งท้ายไว้ และเดินแยกไปอีกทางพร้อมกับท่านแม่
“ ครับ ” ผมได้แค่โค้งตัว ทำความเคารพบุพการีทั้งสองท่านในความมืด แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นก็ตาม
End Itachi's talking.
-69's talking.
ฉันพยายามหายใจแผ่วเบาช้าๆ รู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ใกล้ปลายจมูก พอหายใจเข้ามันก็ลอยเข้าทางช่องจมูก
พอหายใจออกมันก็พัดออกไปเป็นอย่างนี้ จนทำให้ฉันเริ่มเกิดความรำคาญและคัดจมูกเป็นอย่างมาก
อารมณ์อยากจาม...ทว่าไม่จามทำนองนั้น นอกจากนั้นฉันรู้สึกปวดหลังและบริเวณเหนืออก ต้นแขนข้างขวา
อย่างแรกเตียงนอนของคาคาชิกำลังหมดสภาพ ฟองน้ำกำลังคลายตัว สปิงด้านในไม่สามารถรับน้ำหนักของเราไหว
คิดว่าพรุ่งนี้เช้า ฉันคงต้องบอกเขาและนำผ้าปูที่นอน ผ้าห่มสีเขียวลายดาวกระจายสีดำ ถอดนำปลอกหมอนไปซักล้าง
แช่ด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่ม ลืมตาตื่นขึ้นมองต้นตอว่าทำไมปวดเหนืออกก็ได้คำตอบว่า
คาคาชินอนซบใบหน้าลงบนเหนืออกและต้นแขน พ่นลมหายใจอุ่นๆใส่หน้าอกแบนราบของฉัน
ใบหน้าของเขาสวมหน้ากากตลอดเวลา เสมือนกับว่าเป็นหนังหน้าของเขาจริงๆ เส้นผมสีเทาควันบุหรี่
ขยับตามลมหายใจเข้าออกของฉันตลอดเวลา ริมฝีปากฉันสัมผัสหน้าผากเขาเบาๆ ฉันรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย
จึงขยับตัวหลบช้าๆ และปิดเปลือกตาลง ในเวลาต่อมายังคงมีอาการปวด เหมือนข้างต้นและรู้สึกว่ามีบางอย่าง-
เย็นเฉียบวางแหมะลงบนต้นขาค้างนานเกินจะนับเป็นนาที
ฉันเปิดเปลือกตาขึ้นพบว่าคาคาชิขยับตัวตามมานอนท่าเดิม ใช่ ซบหน้าลงบนอกอย่างนั้น!
ฝ่ามือขวาเขาวางอยู่ต้นขาด้านในฉัน พยายามชักขาหลีกหนีแต่มือปลาหมึกนั้นก็ตามมา
ฉันอดทนนอนต่ออย่างนี้ไม่ไหว! ไม่งั้นความลับแตกแน่!
ตัดสินใจลุกออกจากเตียง ... วางฝ่ามือลงบนแนวขากรรไกรแล้วค่อยๆงัดใบหน้าคาคาชิขึ้น ขยับตัวให้เบาที่สุด
เท่าที่จะทำได้กลัวจะปลุกอีกคนให้ตื่นขึ้น ปล่อยเจ้าของเตียงนอนต่ออย่างสบาย แม้จะได้ยินเสียงงึมงำ
คล้ายคนแก่บ่นพร่ำว่าโดนหวยรับประทานในลำคอก่อนออกมา
End 69's talking.
-.Kakashi's talking
ไม่รู้ว่าเครื่องปรับอากาศในห้องนอนทำงานผิดปกติหรือกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อากาศเย็นจนผมต้องดึง
ผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกาย(ปกติเป็นคนไม่ชอบห่มผ้า) ผมรู้สึกว่ามีพลังงานบางอย่างส่งความอบอุ่น
อยู่ในช่วงแขนเดียวเท่านั้น
บ้านฮาตาเกะ บ้านญี่ปุ่นโบราณไม่มีฮีตเตอร์แม้ว่าผมอยากรีโนเวทบ้านใหม่ ผมขยับกายเข้าหาพลังงาน
ที่กล่าวมาข้างต้น มันอบอุ่นเหลือเกินลืมคิดไปเลยว่ามีชุนอยู่ด้วย สงสัยผมอาจจะอยู่คนเดียวจนชินแล้วก็ได้
ผมขยับกายเข้าหาชุนในระยะใกล้จนได้รับลมหายอุ่นรดบริเวณหน้าผาก ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับหน้าผาก
ปลายคางชิดกับสันดั้ง ปลายนิ้วไล้เบาๆสัมผัสลงข้างแก้มอย่างอ่อนโยนแล้วด้วย...
ผมรู้สึกเขินหน้าแดงคล้ายกับว่าตนเป็นสาวน้อยวัยแรกแย้ม
ไม่เคยต้องมือชายมาอย่างใดอย่างนั้น .... อาจจะเป็นเพราะชุนหล่อ...
ชุนก็เปรียบเสมือนนาฬิกาปลุกมีชีวิต เขานอนดึกและตื่นเช้าตรู่ทุกวัน ทำให้ผมต้องตื่นตามเขาด้วย
ผมต้องลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เปิดดูตู้เสื้อผ้าทุกอย่างวางเป็นระเบียบ ชุนซักเสื้อแขนยาวเสื้อกั๊กสีเขียว กางเกงยีนส์ขายาว
รวมไปถึงบ็อกเซอร์(ซักมือ)ผมรู้สึกว่าเกรงใจเขาแปลกๆชอบกล ไม่เคยมีใครทำให้มาก่อน พลางเหลือบมองที่นอนปิกนิค
พับวางเป็นระเบียบตรงมุมห้องส่งเสียงหัวเราะในใจ หึหึ ว่าแล้วก็หยิบที่นอนปิกนิคไปซ่อนซะอย่างนั้น ถ้าเผาทิ้งได้ก็ยิ่งดี!
กลิ่นหอมของกาแฟดริปกำลังกวักมือเรียกให้ผมต้องเดินตาม พบกับชุนกำลังทำคลับแซนด์วิชเป็นมื้อเช้าให้ผมทาน
แม้จะดูเป็นอาหารเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความใส่ใจ ผมมองชุนจากทางด้านหลัง หุ่นผอมเก้งก้างคล้ายกุ้งตากแห้ง...
สวมเสื้อผ้าตัวเก่าของผมทั้งนั้นแม้ว่าจะเป็นชุดที่ผมสวมไม่ได้
“ ชุน นายโตเต็มที่แล้วหรอ ? ” ผมกัดแซนด์วิชแล้วถาม
“ ? ”
“ ดูสินายไม่มีลูกกระเดือกแถมเสียงยังไม่แตก ” ผมสงสัยหรือว่าชุนยังไม่โตเต็มวัย
แม้ว่าส่วนสูงจะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่สิต้องบอกว่าเกินไปเยอะ ถ้าให้เทียบกับพวกนารูโตะ ซาสึเกะ
จะเห็นได้อย่างชัดเจน หรือชุนอาจจะรุ่นเดียวกับอิทาจิ จะว่าไปแล้วอิทาจิก็มีลูกกระเดือกและเสียงแตกหนุ่มอยู่นะ
เท่าที่พอสังเกต...
“ ร่างกายฉันมันหยุดพัฒนาแล้วละ ”
“ อืมม์ ไม่ค่อยเข้าใจ เงินนี้ไว้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ถ้าไม่พอก็รูดในบัตรไปเลย ”
ผมไม่ค่อยเข้าใจกับคำพูดของชุนมากนัก แต่ก็ล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกง หยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา
ส่งบัตรเครดิตให้เพื่อเป็นการตอบแทน สำหรับการดูแลบ้าน เจ้าของบ้านมาเป็นอย่างดี
“ คาคาชิ ” ชุนเรียก
“ ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็ซื้อมาละกัน ” ผมคิดว่าการให้บัตรเครดิตไปกดโดยไม่จำกัดวงเงิน
คงเป็นเรื่องที่ชุนชอบ ก็แบบว่า แล้วมีใครจะไม่ชอบ ‘สายเปย์’ ละจริงไหม?
“ นายได้ตามเรื่องของฉันบ้างหรือเปล่า? ” ชุนวางมีดในมือลงบนเขียงช้าๆ
“ ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ” ผมบอก เพราะตามได้แค่เรื่องศพของท่านโอโรจิมารุ
อีกอย่างช่วงนี้ต้องออกภารกิจกับพวกลูกลิงทุกวันไม่เว้นวันนักขัตฤกษ์ แทบไม่มีเวลาให้ไปสืบอะไรเพิ่มเติม
จะมีเวลาก็ต่อเมื่อเลิกงานกลับบ้านทานข้าวกับชุนเท่านั้น
“ อย่างนั้นหรอ... ” ชุนลดเสียง ฟังแล้วก็รู้ว่าผิดหวังมากขนาดไหน
“ ขอโทษนะ ” บอกตามตรงนะผมรู้สึกผิด อยากให้หนึ่งวันมีมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงชะมัด!
คล้ายคนไม่มีความรับผิดชอบ ตอนแรกก็แอบกลัวว่าชุนจะโกรธ โมโหเลือดขึ้นหน้า ใช้มีดใกล้มือปาดคอผม
โชกไปด้วยเลือดกลายเป็นหนังสยองขวัญเลยทีเดียว!
“ ไม่เป็นไร... ฉันอยากเปลี่ยนเตียงนอนใหม่ ” ชุนเสนอความคิด
“ ตามใจคุณเลย ” ผมบอกก่อนจิบกาแฟดำ เรื่องซื้อของเข้าบ้านในตอนนี้
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชุนไปเลยดีกว่า
“ อืม ส่วนนี่เบนโตะ ฉันลองหัดทำดู ข้าวอาจจะเละไปหน่อยนะ ” ชุนเกาท้ายทอยแล้วส่งกล่องข้าวมาให้
ผมเลื่อนสายตาขึ้นไปมองใบหน้าชุน นัยน์ตาสีท้องทะเลคู่นั้น...ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่ากำลังรู้สึก นึกคิดอะไรอยู่
ทำให้ผมรู้สึกว่า ชุนเองเหมือนกำลังอยากจะพูดหรือสื่อสารอะไรบางอย่างกับผม...
แต่ต้องหยุดไปผมหันไปสนใจกับกล่องเบนโตะผูกด้วยผ้าสีสันสดใส ให้ผมรอลุ้นต่อในกล่องนั้นอีกที ฟังจากคำใบ้แล้ว...
น่าจะเป็นข้าวปั้นโอนิงิริอย่างแน่นอน!
“ ขอบใจนะ ” ผมบอก หยิบกล่องข้าวเบนโตะแล้วเดินละลิ่วออกจากบ้านเหมือนเช่นเคย
พร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด ยกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลา เห็นว่าออกจากบ้านด้วยความเร็วกว่าปกติครั้ง
นับรวมว่าเกือบสองชั่วโมงเห็นจะได้ ว่าแล้วก็คิดอะไรดีๆออก คาคาชิวางแผนไว้ว่าจะฝึกวิชากับลูกลิงทั้งสาม
จึงใช้เวลาสองชั่วโมงนั้นไปที่ชายป่าท้ายหมู่บ้าน เพื่อวางกับดักนินจา โดยไม่ลืมสร้างเขต ติดป้ายเพื่อแจ้งเตือน
ห้ามคนเข้าไปในพื้นที่อย่างเด็ดขาด!
ก้าวเท้าเดินด้วยความเร็วปกติ มีเป้าหมายของวันนี้คือตึกสำนักงานโฮคาเงะ (เพื่อไปรับภารกิจของวันนี้)
ก็เดินเข้าห้องรับภารกิจทันที สนทนาทักทายกับท่านโฮคาเงะเล็กน้อย
“ ถ้าไว้ใจได้ละก็ พาเขาไปเปิดหูเปิดตาหน่อยสิ ” ฮิรุเซ็นฟังรายงานจากคาคาชิทุกวัน
ผสานกับรายงานการเคลื่อนไหวของอิทาจิ(มุมมองห่างๆ) ดูเหมือนว่าสองคนนี้จะสนิทสนมกันได้ไวมากกว่าที่คิด
นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี...ฮิ รุเซ็นเข้าใจและรับรู้อาการ สภาวะจิตใจของคาคาชิมาตลอด
ฮิรุเซ็นรู้จักซาคุโมะเป็นอย่างดี เขาเป็นพ่อม่ายพราวเสน่ห์ สาวๆในหมู่บ้านต่างพากันเข้ามารุมขายขนมจีบ
ทว่าเขาไม่ได้สนใจหญิงใดนอกจากภรรยา แม้ว่าตัวเธอจะจากไปก่อนคาคาชิจะจำความได้ด้วยโรคประจำตัว
ซาคุโมะเลี้ยงดูฟูมฟักคาคาชิด้วยความรักเป็นอย่างดี เพื่อทดแทนในส่วนที่ขาดไปของภรรยา... แต่น่าเสียดาย....
ตั้งแต่ทราบข่าวเรื่องการเสียชีวิตของซาคุโมะ(ซึ่งเป็นการตรอมใจ) เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของหมู่บ้านโคโนฮะ...
คาคาชิไม่กลับบ้านอีกเลยเป็นเวลาครึ่งปี คาคาชิไม่ได้เข้าบ้านเพื่อไปเก็บข้าวของออกมาเช่าห้องอยู่
เพียงแค่เช่าห้องเล็กๆ พอสำหรับพักอาศัยเก็บแรง แล้ววันรุ่งขึ้นก็ออกไปทำภารกิจเหมือนปกติ
สงครามนินจา...ทำให้คาคาชิสูญเสียสมาชิกในทีมไปถึงสองคนได้แก่ อุจิฮะ โอบิโตะ ไม้เบื่อไม้เมาของคาคาชิ
ฮารุโนะ ริน นินจาแพทย์สาวคนเดียวในทีม และสุดท้าย...นามิคาเสะ มินาโตะ ครูผู้ดูแลและที่ปรึกษาประจำทีมนินจา
ผู้คนอันเป็นที่รัก เพื่อนฝูงรอบตัวต่างพากันจากไป โดยทิ้งคาคาชิไว้เพียงคนเดียว บอกเลยว่าฮิรุเซ็นต้องรีบส่งทีมแพทย์
เข้าไปตรวจสอบสภาวะจิตใจกันเลยทีเดียว
ฮิรุเซ็นไม่อยากโทษดินหรือโทษน้ำ เพราะไม่ใช่ความผิดของใคร
แต่เขาอยากจะให้คาคาชิลองเปิดใจยอมรับใครสักคนเข้ามาอีกสักครั้ง บางทีชุนอาจจะเป็นผู้ไขกุญแจ
เปิดใจของคาคาชิอีกครั้งก็ได้ ฮิรุเซ็นไม่อยากตั้งความคาดหวังกับชุนมากนัก ทว่าในใจลึกๆคอยลุ้นเอาใจช่วยอยู่ดี!
“ ครับ ” คาคาชิโค้งตัว ตอบรับคำพูดของฮิรุเซ็น
ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ชุนได้ชิมลองลางกับการลุยภารกิจในโลกนินจา ผมรู้ว่าท่านโฮคาเงะกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
เพราะผมก็คิดอย่างนั้น ถ้าไม่นับพวกสัตว์หาง ชุนก็ถูกจัดเป็นหนึ่งในกองกำลังหลักสำคัญของหมู่บ้าน
“ ผมอยากรับภารกิจที่มันแจ่มแมวกว่านี้! ” นารูโตะโวยวายเสียงดังพร้อมลีลาท่าทางประกอบ
ชักดิ้นชักงอเหมือนเด็กๆโดนขัดใจ
ว่าแล้วมันต้องโวย!
ผมคิดในใจเหลือบตามองบน จือปากเล็กน้อย
“ อย่าเยอะ! ” ซาสึเกะพูดดักคอ แสดงสีหน้าเอือมระอาให้นารูโตะได้เห็นด้วยตา
นารูโตะ ซาสึเกะ ทั้งสองคนหันไปจ้องหน้ากันสักพัก ทั้งคู่ก็ทำท่าสะบัดหน้าหนีใส่ซึ่งกันและกัน
เอาเป็นว่าช่วงเช้าพวกเราได้ทำการวอร์มอัพ ยืดเส้นยืดสายกันเล็กน้อย กับการฝึกทักษะการหลบหลีก เอาตัวรอด
จากการโดนโจมตี! คาคาชิยืนกรานกลับทุกคนว่า เขาจะโจมตีทั้งสามคนอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการออมฝีมืออย่างแน่นอน
เป็นเวลาสามชั่วโมงเต็ม! หาใช่แค่พวกลูกลิงน้อยทั้งสามจะต้องหลบการโจมตีจากเขาฝ่ายเดียว
ทว่าต้องหลบกับดักนินจาในป่าพวกนั้นอีกด้วย
เมื่อหมดเวลาครบสามชั่วโมงเต็มแล้วจะมีเสียงเตือนจากนาฬิกา หากใครตัวเลอะเทอะสกปกมอมแมมมากที่สุด
หรือได้รับบาดเจ็บมากที่สุด จะถูกว่าปรับเป็นฝ่ายแพ้ไปในทันที!
“ ฮ่า ฮ่า แบบนี้แหละที่ผมต้องการเลย! ” นารูโตะเปล่งเสียงดังรู้สึกใจเต้นตึกตัก
อะดีนารีนภายในร่างกายสูบฉีดแล่นพร่านไปทั่วทั้งตัว ภาพในหัวของนารูโตะคือ การที่เขาได้เห็นคู่อริอย่างซาสึเกะ
คุกเข่าอ้อนวอนร้องขอความช่วยเหลือด้วยร่างกายอันบอบช้ำ ส่วนตัวของนารูโตะเสื้อผ้าบนตัวสะอาดสะอ้าน
ยืนกอดอกยิ้มอย่างมั่นใจและพูดว่า “ ชอบให้ทำบุญทำคุณอยู่เรื่อย!” ด้วยความเหยียดหยาม
กับความอ่อนปวกเปียกของผู้ที่อ่อนแอกว่า!
“ กับดักพวกนั้นจะไม่อันตรายสำหรับพวกหนูใช่ไหมคะ? ” ซากุระเป็นกังวลเกี่ยวกับกักดับที่ถูกติดตั้งไว้ในชายป่า
ซึ่งไม่มีทางรู้ได้เลยว่าครูคาคาชิมีลูกเล่นอะไรไว้บ้าง
“ นอกจากหลบแล้ว พวกเราสามารถโจมตีกลับได้ด้วยหรือเปล่าครับ? ” ซาสึเกะถามด้วยความสงสัย
เพราะเขาไม่ยอมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพียงฝ่ายเดียวแน่ๆ
“ โจมตีกลับก็ได้นะ แต่ต้องมั่นใจพอว่าจะสามารถเล่นงานฉันให้ถึงตาย ” ผมตอบอย่างไม่คิดมาก
“ ถึงตายกันเลยหรอคะ? ” ซากุระผู้ทนเห็นคนใช้ความรุนแรงไม่ไหว ต้องรีบหันถามไปถามครูโจนินประจำทีม
“ ก็นะ...ถ้าหากพวกเธอมีฝีมือมากพอ ” ผมปลอบประโลมใจซากุระ ส่งฝ่ามืออกไปลูบบนเส้นผมสีชมพูอ่อน
ให้คลายกังวล แน่นอนว่าจงใจใช้คำพูดปั่นประสาทให้ทุกคน เกิดแรงฮึดสู้ขึ้นมาเท่านั้น!
ถ้าหากตีความเป็นอย่างอื่น....ก็แล้วแต่จะคิด
เสียงนาฬิการ้องดังเพื่อให้สัญญาณว่าถึงเวลาเริ่มเกม ผมดึงดาวกระจายออกมาจากซองเก็บบริเวณต้นขาขวา
ย่อตัวลงทันทีแล้วทำการขว้างออกไปด้วยความเร็วและแรง พวกลูงลิงทั้งสามต่างพากันหลบหนี กระเจิงเข้าป่า
กันไปคนละทิศความปั่นป่วนจึงเกิดขึ้น!
“ หน๋อย เล่นงานทีเผลอกันแบบนี้เลยหรอครูคาคาชี้! “ นารูโตะแทบหลบดาวกระจายไม่พ้น
บ่นกระปอดกระแปด พลัดหลงกับซากุระจังจนได้ น่าเจ็บใจนัก!
นารูโตะจะใช้เวลานี้ สวีทวี้ดวิ้วเพิ่มความหวานกับซากุระซะหน่อย!
ภาพในมโนผุดขึ้นมาในสมองอีกครั้ง เขาสามารถปกป้องซากุระได้อย่างไร้ร่องรอยการขีดข่วนเนื้อตัวขาวสะอาด
ส่วนคนแพ้ก็คือซาสึเกะ เสื้อผ้ามอมแมมคล้ายตกบ่อส้วม! เอ้ยบ่อโคลน!
ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเด็กชอบเล่นแผลงๆอย่างนารูโตะ
แม้ครูคาคาชิไม่ได้กำชับเรื่องการเตรียมพวกอุปกรณ์มาในครั้งนี้ จำได้คลับคล้ายคลับคราว่ายังมีบางอย่าง
ถูกเก็บไว้อย่างดีก้นกระเป๋าใส่อุปกรณ์(ด้านหลังเอว)
“ หึหึ ” นารูโตะหัวเราะกับตัวเองพร้อมนึกสนุก เห็นทีคราวนี้เขาจะเอาคืนครูคาคาชิอย่างสาสม!
ว่าแล้วก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ สังเกตก่อนว่ามีกับดักของครูคาคาชิอยู่ก่อนแล้วหรือไม่
เมื่อไม่พบ...จึงรีบเร่งมือวางกับดักลวงทันที
เพราะกลัวครูคาคาชิจะเข้ามาเห็นเสียก่อน ในจังหวะที่นารูโตะนั่งยองๆด้วยปลายเท้า หันหลังเข้าต้นไม้ใหญ่
เอื้อมมือสุดแขนขึงลวดมัดกับด้ามจับคุไนเสร็จแล้ว ก็ใช้ก้อนหินแข็งๆทำการตอกคุไนยึดกับรากต้นไม้ไว้พอประมาณ
ต๊อก ต๊อก
ในขณะที่กำลังนั่งตอกด้ามคุไนฝังให้แน่น ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างหล่นลงมาจากด้านบนเหนือศีรษะของนารูโตะ
ฟุ่บ
กิ่งไม้เล็กๆหล่นลงมาจากด้านบนพร้อมกับอสรพิษตัวร้าย
ฟ่อ ฟ่อ
มันส่งเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวคล้ายกำลังกล่าวทักทายผู้มาเยือน
“ แว้ก! ”
นารูโตะคิดว่าตนเองเอื้อมมือรับกิ่งไม้แห้งๆหล่นจากด้านบนได้อย่างทันเวลาพอดี นอกจากกิ่งไม้แล้วยังมีเจ้างูเขียว
ลำตัวขนาดเท่าท่อนของเขา แล่บลิ้นสองแฉกโผล่มาด้วยด้วยอารามตกใจ นารูโตะโยนงูทิ้งไปทางซ้ายมือ
แล้วกระโดดหนีไปทางขวา หวังจะคว้ากิ่งไม้ใกล้ตัว รีบดึงร่างปีนหนีไปยังต้นไม้อีกต้นใกล้ๆกัน
“ เฮ้อ ค่อยยังชั่ว ดะ ดะ เดี๋ยวก่อนนะ “ นารูโตะถอนหายใจได้ไม่นาน
รู้สึกแปลกๆจังหวะวางฝ่ามือลงบนกิ่งไม้ ควรจะเป็นกิ่งไม้แข็งๆ หนากระด้างและสามารถรับน้ำหนักตัวของนารูโตะ
ได้ทั้งหมดสิ แต่ทำไมกิ่งไม้นี้ถึงได้...นุ่มๆ ลื่นๆ กว่ากิ่งไม้ทั่วปกติทั่วไปนัก! เงยหน้ามองอีกครั้งด้วยความสงสัย
กิ่งไม้สีน้ำตาลเข้ม ท่อนใหญ่ มันวาววับ หนาและดูแข็งแรงไม่น่าจะหักง่ายๆ
ทว่าความลื่นจากการสัมผัสด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง มัน...แตกต่างออกไป
“ จ๊ากก ” นารูโตะตะโกนร้องลั่นป่า สิ่งที่จับต้องอยู่ชั่วครู่ไม่ใช่กิ่งไม้ แต่เป็นงูอีกแล้วนะสิ!
คราวนี้ถึงกับต้องรีบปล่อยมือทั้งสองข้าง เขาจะไม่ยอมจับต้องอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว!
ปล่อยให้ตนตกต้นไม้นอนแอ้งแม้งกลางพื้นไปเลย!
ตึง!
นารูโตะทิ้งตามแรงโน้มถ่วงโลก เอนตัวล้มนอนบนพื้นหญ้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก แต่อย่าลืมนะนี่แค่เพิ่งจะเริ่มต้น!
พื้นดินสีเขียวเกิดอ่อนยวบตัวลงเมื่อไม่สามารถรับน้ำหนักไม่ไหว
พาให้ร่างของนารูโตะดิ่งสู่แรงโน้มถ่วงของโลกอีกครั้ง นารูโตะเผลอร้องอีกหนด้วยความตกใจ ดวงตาฟ้าอันแสนสดใส
เบิกกว้าง อ้าปากค้างไร้เสียงร้อง ดูเหมือนว่าคราวนี้พื้นจะไม่ยวบอีกแล้วสินะ นารูโตะรีบเด้งลุกขึ้นอย่างว่องไว
ล้วงหยิบคุไนออกมา พร้อมตั้งรับการโจมตี ตอนนี้เขาอยู่ในหลุมลึกมีความสูงจากพื้นดินด้านบนราวๆ สามถึงสี่เมตร
เขาต้องรีบปีนขึ้นไป!
นารูโตะคิดแค่นั้น เพราะตอนนี้ตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบอย่างสุดๆ
หากด้านบน... เอ่อ ครูคาคาชิแกล้งอะไรอีกขึ้นมาละก็ หมดหนทางหนีแน่ๆ
ว่าแต่.. .ใบไม้พวกนี้...
นารูโตะเห็นใบไม้กำลังหล่นลงมาช้าๆ หล่นใส่หน้าผาก หนึ่งใบ สองใบ ยังไม่น่ากลัว และมดแดงตัวน้อยนิดติด
ติดมากับใบไม้พวกนั้น.... เกาะบนบริเวณใบหน้าส่วนของข้างแก้ม
“ แค่ตัวสองตัวแค่เนี๊ยะ ทำอะไรผมไม่ได้หรอกนะครูคาคาชิ๊! ” นารูโตะยักไหล่นึกขันกับมุกตลก
กับดักอัตโนมัติของครูช่างจิ๊บจ๊อย ไม่ได้น่ากลัวเลย! เดี๋ยวงูเดี๋ยวมดตัวเล็กๆ
ไม่ได้แอ้มผมหรอกน่า! แบร่ๆ
ไม่ทันขาดคำ...คราวนี้เหล่าใบไม้ได้หล่นลงมาเป็นกลุ่มก้อนกลมๆ ขนาดเท่าลูกฟุตบอลนับสิบลูก
กว่านารูโตะจะรู้ตัวว่าก้อนใบไม้ ไม่ใช่แค่ใบไม้เปล่าๆ แต่เป็นรังมดแดง โหดร้ายกว่านั้นไม่ได้มาแค่รังเดียว!
ขอบอกว่ามาเป็นสิบ ถูกปล่อยให้หล่นลงมาจากด้านบนหลุม
“ จ๊ากกกกก!” นารูโตะแผดเสียงร้องลั่นสนั่นป่า เมื่อลำตัวสัมผัสกับรังมดแดงก้อนแรก
ไม่ได้หล่นใส่แขน หรือขา เฉพาะใดส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่โดนตามเสื้อผ้าและมดแดงพวกนั้นแตกรังวิ่งกรู
เข้าไปตามร่มเสื้อเนื้อผ้า โดยเฉพาะส่วนของกางเกงนี่สิ อันตรายถึงที่สุด!
แฮ่ก แฮ่ก
นารูโตะหอบแฮ่กหลังตะเกียกตะกายปีนขึ้นมาจากก้นหลุมได้อย่างทุลักทุเล ถึงกับอยู่ในท่าคุกเข่าทั้งสองข้างลง
ใช้ท่อนแขนค้ำร่างของตัวเองไว้ ใบหน้าชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อไหลอาบจากหน้าผาก ข้างขมับจรดลงตรงปลายคาง
หยดลงพื้นติ๋งๆ ฝ่ามือทั้งสองข้างจิกลงบนพื้นหญ้าระบายอารมณ์
ครูคาคาชินะ ครูคาคาชิ! นารูโตะกัดฟัดกรอด ไม่รู้สึกตัวหรอกว่าปลายนิ้วได้ไปสะกิดโดนเส้นลวดสีใส
ขึงให้ดึงบนพื้นสีเขียว หมุดที่ปักดินไว้ชิ้นเล็กๆได้คลายตัวออก ลูกโป่งน้ำขนาดใหญ่ลอยละลิ่วจากด้านบนด้วยความเร็ว
ตึ้ม! ไม่ใช่แค่ลูกโป่งน้ำเล่นสงกรานต์ธรรมดา แต่เป็นน้ำผสมกับผงสี!
สีที่คาคาชิเลือกใช้เป็นสีจากออแกนิค เกิดจากธรรมชาติเช่นสีเขียวจากหญ้าโยโมกิ สีชมพูจากโคซินัล
สีแดงจากชิโสะแดงในขิงดอง เลอะง่ายติดตามตัว แต่ก็ล้างออกง่ายเช่นเดียวกัน นารูโตะยกฝ่ามือขึ้นมาลูบทั่วหน้า
ด้วยความเจ็บใจ พยายามเช็ดสีเหล่านั้นออกด้วยแขนเสื้อ แต่ยิ่งเช็ดยิ่งเลอะกว่าเดิม
นี่ขนาดครูคาคาชิยังไม่ได้ใช้กับดักอาวุธนินจาร้ายแรง... ยังเล่นงานเขาอ่วมขนาดนี้เชียวรึ?
คนเจ้าคิดเจ้าแค้นนั้นถึงกับเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง!
“ ทุกคน...หายไปไหนกันหมด? ” ซากุระค่อยๆ หมุนตัวเป็นวงกลม สามร้อยหกสิบองศา
มองรอบตัวเพื่อหาสองหนุ่มสมาชิกทีมเจ็ด เสียงร้องตะโกนโหวกเหวกลั่นป่าของนารูโตะดังอย่างต่อเนื่อง
ไม่ได้เรียกความตกใจจากซากุระได้เลยสักนิด (แค่นี้ก็พอรู้แล้วว่าใครสำคัญกว่า!)
ต้นไม้เขียวขจีต้นใหญ่ขนาดเท่าห้าคนโอบเรียงรายสลับไขว้เป็นแถวสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศรอบตัว
วังเวงชอบกล ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงสัตว์ป่าน้อยใหญ่ส่งเสียงหรือออกหากินให้เห็นผ่านตาสักตัว!
สายลมพัดผ่านร่างไปวูบใหญ่รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกสะท้านไปบนผิวกาย ซากุระต้องยกมือขึ้นมาลูบต้นแขนป้อยๆ
เป็นห่วงซาสึเกะคุงจัง
ซากุระรู้แล้วว่าตัวเองต้องทำอย่างไรต่อ หากเธอยังอยู่คนเดียวในเวลานี้อาจจะไม่ปลอดภัย
ดังนั้นควรจะออกตามหาสมาชิกคนอื่นๆ อย่างแรกเธอต้องตามซาสึเกะก่อน! ว่าแล้วก็ออกวิ่งทันที
เพื่อตามหาเป้าหมายในครั้งนี้ทันที!
ซ่อกแซ่ก ซ่อกแซ่ก
เธอได้ยินเสียงบางอย่างขยับตัวยุกยิกจากพุ่มไม้ขนาดใหญ่ซากุระต้องชะงักฝีเท้าลง จนกระทั่งหยุดยืนนิ่งกับที่
เธอกำลังตริตรองต่อรองในใจอยู่ว่าควรจะวิ่งไปต่อหรือจะเข้าไปเปิดพุ่มไม้นั้นดู?
เอาไงดีนะ... งั้นลองเสียง เรียกชื่อก่อนดีกว่า
“ ซาสึเกะคุง ” ซากุระป้องปากเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่ว แล้วสังเกตปฏิกิริยาของพุ่มไม้ต้องสงสัยอีกครั้ง
“ ซาสึเกะคุง ใช่รึป่าวนะ” ซากุระเองก็ไม่แน่ใจ เอ่ยลองปากเรียกอีกหน
เธอกลัวว่าจะเป็นกับดักของครูคาคาชิอีก เนื่องจากการฝึกแย่งชิงกระดิ่งกันเมื่อวาน บอกได้เลยว่า...คาถาลวงตา
ของครูคาคาชิน่ากลัวและสมจริงมาก! จนเธอช็อคน้ำลายฟูมปากเลยทีเดียว แล้วบ่นว่าครูคาคาชิใจร้าย!
พร้อมน้ำตา ซากุระชักคุไนออกจากซองต้นขา ถือในท่วงท่าที่พร้อมทั้งโจมตีและรับมือป้องกันได้ในคราเดียว
ค่อยๆย่องเดินหน้าตรงไปยังพุ่มไม้อย่างช้าๆ
ซากุระส่งมือออกไปค่อยๆแหวกพุ่มไม้ด้วยความใจจดใจจ่อ
ประมาทไม่ได้แม้จะเสี้ยววินาทีเด็ดขาด เธออาจจะโดนครูคาคาชิเล่นงานเอาก็ได้!
งั้นแหวกพุ่มไม้ทีเดียวเลยละกัน!
ไม่รอช้าให้เสียเวลา เพราะจะต้องรีบไปหาซาสึเกะคุงคนเดียวเท่านั้น!
พรึ่บ!
ซากุระแทบไม่กระพริบตา มองกับสิ่งต้องสงสัยในพุ่มไม้นั่นก็คือ...กระรอกป่าตัวน้อยๆ
แหม! กระรอกเนี่ยนะ?
ปั๊ดโธ่ ว้อย!
เธอร้องก้องภายในใจ จากสีหน้าที่ลุ้นตัวเกร็งจนหัวใจเต้นแรงโครมคราม แทบจะกระเด็นออกมาจากหน้าอก
“ ม ไม่ใช่ ” เธอสะดุ้ง มือทั้งสองข้างยังคงอุ้มกระรอกน้อยขึ้นมาอยู่บนฝ่ามือ ปิดเปลือกตาลง
รวบรวมสติให้มากขึ้น แล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ยังไม่ทันได้ประสานอินเพื่อคลายคาถาลวงตา
จากกระรอกน้อยน่ารักนุ่มนิ่มบนฝ่ามือ กลายร่างเป็นลูกโป่งบรรจุแป้ง รูปทรงและน้ำหนักเบาพอๆกระนอกตัวจริง
พลิกดูด้านหลังพบกันยันต์ระเบิดเริ่มทำงานอัตโนมัติเกินกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็น...และแล้ว...ไม่ทันโยนทิ้งให้ไกลตัว
บึ้ม!
ผงสีจากธรรมชาติหลากหลายสีสันเน้นความฉูดฉาด อัดแน่นภายในลูกโป่งใบเดียว ระเบิดตูมเข้าให้!
ซากุระหลับตาปี๋และกลั้นหายใจได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นหากสูดดม รับเข้าร่างกายอาจจะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้
แค่ระเบิดสี... เลอะเปรอะตามเนื้อตัวและเสื้อผ้าหากโดนน้ำ อาบน้ำ ซักผ้าก็สามารถล้างออกแล้ว
อย่างน้อยเธอก็นึกขอบคุณ ที่ครูคาคาชิไม่เล่นแรงเหมือนครั้งก่อน!
“ เจ้าพวกเซ่อเอ๊ย! ” ซาสึเกะตั้งใจฟังเสียงอยู่นาน
นารูโตะเหมือนจะเป็นคนแรก ซากุระเป็นรายที่สอง และตอนนี้คงเป็นตาของเขาแล้ว
“ ผมคงไม่อ่อนขนาดนั้นหรอก ” ซาสึเกะพูดขึ้นเสียงดังฟังชัด รับรู้ถึงการมาถึงของครูคาคาชิจากทางด้านหลัง
อุจิฮะ ซาสึเกะ ไม่ได้มีดีแค่ตระกูลดัง... แม้จะเป็นเด็กวัยรุ่นอายุสิบสามถึงสิบสี่ปี ก็ไม่สมควรประมาทด้วยเป็นอันขาด
เนื่องจากเมื่อครั้งศึกแย่งกระดิ่ง ซาสึเกะเป็นคนที่โชว์ฟอร์มออกมาได้ดีที่สุด เกือบจะแย่งกระดิ่งจากผมไปได้แล้วเชียว!
ซาสึเกะหันหลังกลับมาด้วยความว่องไว ขว้างดาวกระจายในมือเข้าใส่ผม
แต่เห็นกันโต้งๆแบบนี้คงไม่ได้ผล... ไม่ต้องใช้เนตรวงแหวนผมก็สามารถโยกตัวหลบได้อย่างสบายๆ
กระโดดถอยหลังหลบไปอีกทาง รอยยิ้มร้ายๆผุดขึ้นมาบนใบหน้าของซาสึเกะ ทำให้ผมต้องคิดใหม่
เขาคงวางกับดักไว้แน่ และก็เป็นอย่างนั้น!
ซาสึเกะไม่ได้หมายขว้างปาดาวกระจายใส่ผมตั้งแต่ทีแรก เพียงแค่ต้อนให้ผมเข้าไปในทิศที่เขากำหนดไว้
ทันใดนั้นฝูงมีดสั้นห่าใหญ่ลอยเข้ามาหวังจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
ผมกระโดดหลบอีกครั้ง เสียใจนะซาสึเกะ แค่นี้ยังไม่พอจะเล่นงานผมได้ ผมยังคงถอยหลังหลบได้อย่างชิลๆ
อีกตามเคย แต่ครั้งนี้ไม่น่าจะชิลนะ...ซาสึเกะอาศัยจะหวะนี้ปรี่เข้ามาจากด้านหลัง หวดท่อนขาเตะแบล็คคิกสุดแรงเกิด
ผมยกท่อนแขนขึ้นมาตั้งการ์ดรับไว้และสามารถคว้าข้อเท้าระงับลูกเตะอันตรายๆของซาสึเกะไว้ได้
ไม่พอซาสึเกะหวดหมัดซ้ายหมายจะชกให้ลอดการ์ดของผมที่ตั้งไว้ตั้งแต่ทีแรก และผมก็คว้ารับการโจมตีได้อีกครั้ง
ซาสึเกะยังไม่ยอมแพ้คราวนี้ออกแรงจากสะโพกเพื่อหวดขาข้างที่เป็นอิสระ หมายจะซ้ำเข้าตรงการ์ดอีกหน
หมายจะให้ผมการ์ดแตกนั่นเอง
ร้ายจริงๆ ไม่เปิดช่องว่างให้ได้อ่านอะจึ๊ยสวรรค์รำไรเลยแฮะ!
ทั้งผมและซาสึเกะตามถอยกันไปตั้งหลักคนละก้าว
ปุ้ง
ร่างแยกเงาของซาสึเกะหายไปแล้ว เมื่อร่างแยกเงาคลายร่าง ซาสึเกะในร่างจริงใช้มีดคุไนตัดเชือกข้างตัวทันที
เพื่อเริ่มใช้กับดักขั้นต่อไป เขารู้ถึงความห่างของฝีมือระหว่างตัวเขาและครูคาคาชิเป็นอย่างดี
ว่าตัวเขานั้นไม่สามารถเอาชนะครูโจนินประจำทีมได้อยู่แล้ว แต่อย่างน้อยเขาควรจะต่อกรหรือสู้กลับบ้าง-
ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย!
ผมชะงักเมื่อเห็นร่างแยกเงาคลายคาถา และได้ยินเสียงบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา หันมองก็พบว่า....
ท่อนไม้ขนาดใหญ่ถูกมัดหัวท้ายอย่างแน่นหนา ด้วยลำต้นขนาดห้าคนโอบกำลังหมายมุ่งหน้าเข้ามาหมาย
ซัดผมในระยะประชิดให้เละ!
ไม่เบานะซาสึเกะ!
ผมกระโดดกลบได้อย่างเฉียดฉิว
เสียงร้องของนาฬิกาปลุกร้องดังเตือนให้ทุกคนทราบ ครบเวลาตามที่กำหนดไว้
ทุกคนมายืนรวมตัวกันที่จุดนัดพบ(ตรงเจ้านาฬิกาดังนี่ละ) เรียงจากนารูโตะ ซากุระและซาสึเกะตามลำดับ
ทุกคนได้เห็นสภาพของสมาชิกแต่ละคน ใช่ คนที่อ่วมที่สุดในทีมคงไม่พ้นนารูโตะเจ้าเก่าอีกตามเคย!
“ ชอบให้ทำบุญทำคุณอยู่เรื่อย! ” ซาสึเกะเดินล้วงกระเป๋าพูดขึ้นลอยๆ
เพื่อต้องแขวะนารูโตะอย่างจงใจ
“ หน๋อยยย ซาสึเกะ! ” นารูโตะขึ้นเสียงไฮโน้ต กับประโยคนั้น...มันควรเป็นคำพูดของเขาสิ ไม่ใช่ซาสึเกะ!
ทำท่าจะถลาเข้าหาอีกคนทั้งที่ แทบจะไม่มีแรงเดินไหวต้องให้ซากุระช่วยหาม
“ พอเลยเจ้าบ้า! ” เจ้าตัวป่วนหัวทองก็นะ...ชอบหาเรื่องชาวบ้านเขาไปทั่ว! ซากุระโขกหัวนารูโตะให้หนึ่งที
แค่แบกนารูโตะออกจากป่าได้ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว แถมยังต้องคอยมาห้ามไม่ให้นารูโตะไปกัดซาสึเกะอีก
พอกันที! อย่าหาว่าเธอใจร้ายหน่อยเลย ซากุระพานารูโตะไปนั่งลงบนม้านั่งใกล้ๆ แล้วเปิดกระเป๋าใบเล็กๆเพื่อหา
ตลับยาฝาเขียวเพื่อทาแผลถูกมดกัด
ในนามของครูโจนินผู้ดูแลทีมเจ็ด ขอสรุปผลของภารกิจในครั้งนี้เป็นรายบุคคลสั้นๆ
เริ่มจากอุจิฮะ ซาสึเกะ น้องชายอิทาจิ หน้าตาหล่อเหลาไม่แพ้ผู้เป็นพี่ นักเรียนดีเด่นเก่งทุกทางโปรไฟล์เยี่ยม
พ่วงด้วยดีกรีตระกูลอุจิฮะใครเห็นเป็นต้องเกรง สกิลในการต่อสู้ระยะประชิดถือว่าทำได้ดี วางแผนกลยุทธจัดว่าใช้ได้
เสียตรงไม่ค่อยมีความเป็นทีมเวิร์คเท่าที่ควร อุซึมากิ นารูโตะ นักเรียนบ๊วยของชั้นปี ไม่แน่ใจว่าครูอิรุกะ
ปล่อยให้ผ่านมาได้อย่างไร เรื่องซี้ซั้วมั่วนิ่มต้องยกให้เป็นอันดับหนึ่ง! และคนสุดท้าย ฮารุโนะ ซากุระ
นินจาหญิงคนเดียวในทีมเชี่ยวชาญเรื่องจักระ เป็นเด็กขยันขันแข็งไม่เกี่ยงภารกิจ
กรี้ดกราดกระตู้วู้ตามตื้อซาสึเกะเป็นว่าเล่น!
“ เอาละๆ ภารกิจต่อไปของทีมเจ็ดมาแล้วนะ” ผมเกริ่นนำทุกคนเงียบตั้งใจฟังอย่างพร้อมเพรียง
“ เอี๊อก ! ” นารูโตะส่งเสียงในลำคอ รอลุ้นประโยคต่อไป
“ ไม่เอารุนแรงนะคะครู ” ซากุระส่งเสียงออดอ้อน ส่งสายตาขอร้อง ขอความเมตตาจากครูโจนิน
“ ภารกิจต่อไปก็คือ คือ คือ ....... ” ผมสวมวิญญาณพิธีการรายการโทรทัศน์ที่ชอบเปิดดูพร้อมกับชุน
เขามักพูดเว้นช่องว่าง ไม่นานมากเพื่อให้พวกดาราในรายการมีอารมณ์ตื่นเต้นพร้อมลุ้นกับคำพูดต่อไปของเขา
“ ก็คือออออ” ผมแกล้งลากเสียงยาวขึ้นกว่าเดิม รอดูปฏิกิริยาของลูกทีมทั้งสามคน
“ ไม่แก๋วไม่เอานะ ” นารูโตะเบ้ปากรีบพูดดักคอขึ้นมา
“ ดูแลฟาร์มม้าแทนเจ้าของ ฮ่าฮ่า” ผมสรุปให้ฟังพูดเสียงดังอย่างชัดเจน
ไม่ใช่ภารกิจยากเสี่ยงตายอย่างแน่นอน
“ โห่ ไม่เอาเลย บู้ววๆ ” นารูโตะเบ้ปาก หันหน้าหนีไปอีกทิศ
ภารกิจดูแลม้าแทนเจ้าของฟาร์ม แค่ชื่อก็โค-ตะระ-น่าเบื่อแล้ว!
“ จะโวยวายทำไมละนารูโตะ แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว! ” ซากุระเห็นดีเห็นงามด้วย
เพราะเป็นภารกิจที่ไม่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย งานสบาย แถมยังได้เงินค่าจ้างอีกตังหาก!
“ ....” ไร้คำตอบหรือเสียงจากปากของซาสึเกะ
นี่เป็นเรื่องปกติของสมาชิกทีมคาคาชิหมู่เจ็ด ภารกิจไม่ถูกใจมักจะร้องโวยวายกันตามสเต็ป
ผมอดส่ายหน้าเบาๆไม่ได้ ทั้งสามคนเพิ่งเป็นเกะนินมาได้หมาดๆภารกิจระดับดีคือเป็นเรื่องปกติ นินจาใหม่(เกะนิน)
ก็ต้องเริ่มจากภารกิจง่าย ตั้งแต่ระดับดี ->ซี -> บี->เอ ->เอส เมื่อฝีมือถึงค่อยไต่ระดับตามความยากของกฏนินจา
“ เจอกันตอนบ่ายโมง อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์นินจามาให้พร้อมด้วยละ” ผมบอกทุกคนก่อนจะใช้คาถาหายตัว
End Kakashi’s talking.
“ แปลกช่วงนี้ครูคาคาชิดูรีบๆ...มีพิรุจจัง ” ซากุระเริ่มสงสัยกับท่าทางของครูคาคาชิ
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังอยากเจอ ‘ผู้’ ที่ครูคาคาชิพามาด้วยในวันรับภารกิจศึกชิงกระดิ่ง ความหล่อระดับซุปฯ
ตาเปล่งประกายออร่าแสงจ้าจนแสบตาขนาดนั้น โดยเฉพาะท่าเสยผมเฉพาะตัวยังตราตรึงอยู่ในใจของซากุระ
จะเป็นพระคุณมาก...ถ้าหากครูคาคาชิพาเขามาอีกครั้ง!
“ ฉันก็คิดเหมือนกันซากุระจัง ภายใต้หน้ากากของคาคาชิทีชเชอร์นั่น! ” นารูโตะตาวาวทำเสียงสั่น
เหมือนหนังสยองขวัญ ตั้งแต่รู้จักกับครูคาคาชิมาไม่เคยเห็นเขาถอดหน้ากากออกมาให้เห็นสักครั้งเดียว
ปริศนาที่ใครๆก็พากันอยากรู้!
“ ตาบ้าคนละเรื่องเลย! ” ซากุระจัดการแจกมะเหงกเขกกระหม่อมนารูโตะเต็มแรง
รู้สึกเหมือนว่านารูโตะจะไม่ได้สนใจฟังที่เธอพูดสักคำ!
“ เจี๊ยก! ” นารูโตะร้องลั่น ยกมือกุมตรงที่ซากุระเขกให้
“ ซาสึเกะ อันนี้ฉันให้นะ ” ซากุระส่งกระปุกยาเล็กให้ ซาสึเกะด้วยความเป็นห่วง
เห็นซาสึเกะกลับมาตรงจุดนัดพบ ร่างกายสะอาดสะอ้านต่างจากเธอแล้วนารูโตะ...
แค่นี้เธอก็ดีใจแล้วที่ซาสึเกะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย
“ เฮอะ ไร้สาระน่า ...ฉันไม่สนใจหรอกนะ ” ซาสึเกะส่ายหัวไม่สนใจด้วย
เขาหันไปส่ายหน้าเพื่อปฏิเสธตลับยาจากซากุระ แต่บอกกับเธอว่าตรงบริเวณข้อศอก เหมือนจะกระแทกมานิดหน่อย
คงเป็นตอนสู้ระยะประชิดกับครูคาคาชิ ให้เธอทายาบางๆให้ก็เพียงพอแล้ว เมื่อซากุระทายาให้เสร็จเรียบร้อย
เขาก็ก้มหน้าลงทำท่าล้วงกระเป๋าและเดินจากสมาชิกคนอื่นๆ ซาสึเกะมักใช้เวลาที่เหลือหลังจากรับภารกิจ
ไปฝึกฝีมือไม่ว่าจะชูริเค็น ปาดาวกระจาย หรือจะวิชานินจาต่างๆเพื่อความก้าวหน้าของตนเอง
“ หรืออาจจะปากห้อย...หรือเปล่านะ.... ” นารูโตะยกมือขึ้นมาป้องปากพูดเสียงเบา
แต่จงใจให้ซาสึเกะได้ยิน โดยไม่รู้หรอกว่าเพื่อนร่วมทีมนั้นมีจินตนาการเป็นเลิศ!
ครูคาคาชิหันหน้ามาและปลดผ้าปิดปากลง เพื่อให้ได้เห็นใบหน้าในส่วนที่ยังคงเป็นปริศนา
คาคาชิปลดผ้าลงมาได้.. .ก็เห็นริมฝีปากล่างอันใหญ่หนากว่าริมฝีปากบนอย่างชัดเจนโดยเฉพาะสีแดงสดนั้น....
และเอ่ยทักทายว่า “ เป็นไงละ? ”
กึก!
ซาสึเกะจำต้องชะงักฝีเท้าไว้ค้างท่าเดินนั้นไว้ ภาพในมโนจิตชวนสยองของซาสึเกะน่ากลัวกว่าที่คิด
นารูโตะคนชง เห็นท่าทางการแสดงออกอย่างชัดเจนของซาสึเกะ โดยเฉพาะท่าขนลุกเกลียวไปทั่วทั้งตัว
ยิ่งย้ำให้เขาคิดว่ามาถูกทางละ!
เขาเองมีความสามารถในการปั่นประสาทซาสึเกะได้เหมือนกัน!
นารูโตะถึงกับหัวเราะคิกคักชอบใจเข้าไปใหญ่ แสดงว่าซาสึเกะเองก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนกับนารูโตะนั่นแล
เพียงแต่ไม่แสดงออกมาเท่านั้น!
“ หรือฟันเหยิน.....กันนะ ?” นารูโตะพูดด้วยเสียงกระซิบอีกเช่นเคย แล้วรอดูปฏิกิริยาของอีกคน
ครูคาคาชิหันหน้ามาและปลดผ้าปิดปากลง เพื่อให้ได้เห็นใบหน้าในส่วนที่ยังคงเป็นปริศนา
คาคาชิปลดผ้าลงมาได้...ก็ส่งรอยยิ้มและฟันกระต่ายสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ยาวเกินปลายคาง ไม่สามารถหุบปากได้สนิท
ไม่พอครูคาคาชิยังมีความพยายามเอ่ยทักทาย “ ว่าไงทุกคน?”
กึก!
ได้ยินดังนั้นแล้วซาสึเกะถึงตัวสั่นเท้าคล้ายร่างทรงเข้าประทับ ไม่มีใครล่วงรู้หรอกว่า ซาสึเกะจินตนาการ
ไปตามคำพูดของนารูโตะทุกคำไม่ขาดหรือเกิน ขนาดไหนไม่ว่าจะปากห้อยหรือฟันเหยินยิ่งกว่ากระต่าย(ขูดมะพร้าว)
บางครั้งไม่อยากโทษโรเบิร์ต ไอน์สไตน์ เจ้าของวิวาทะหรือวลีเด็ดที่ว่า 'จินตนาการสำคัญความรู้'
น้อยคนจะรู้ว่าซาสึเกะก็มีจินตนาการที่ล้ำกว่าใครเพื่อน!
“ อิอิ ” นารูโตะหัวเราะด้วยน้ำเสียงชั่วร้ายคล้ายตัวโกง เขาสามารถปลุกความสนใจของซาสึเกะได้สำเร็จ!
เพียงเท่านี้สมาชิกทีมเจ็ดก็พร้อมใจกันและดำเนินแผนการพิสูจน์โฉมหน้าครูคาคาชิอย่างลับๆ
โดยไม่ให้ครูคาคาชิรู้ตัวเป็นอันขาด! ด้วยจะใช้แผนดูแลภารกิจดูแลฟาร์มม้าเป็นการบังหน้า
* Like A Virgin – Madonna
โปรดติดตามตอนต่อไป...
3เม.ย.2559
โปรดอย่าได้ถามว่าจะมีเฟสบุ๊คสำหรับตามจิกทวงฟิคจากคนแต่งหรือไม่ บอกตรงนี้เลยว่า ไม่มี !
ชิวไม่เคยมีความคิดจะทำเฟสบุ๊คให้ตามขนาดเฟสส่วนตัวยังไม่ค่อยได้เข้า ส่วนที่บอกว่าค้นในกูเกิ้ล
นั้นไม่ใช่ชิวซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้แค่ชื่อเหมือนกันเฉยๆ ตามจริงแล้วอยากเปลี่ยนนามปากกา
แต่อีกใจก็ใช้ชื่อนี้มานานแถมผูกพันธ์ด้วย ดังนั้นเรื่องเปลี่ยนนามปากกาต้องยุติลง ในส่วนของ NC 18+ , 20+
สโลแกนชิวยังคงคอนเซ็ปท์เดิม หื่น ทะลึ่ง ชีกอ บ้ากาม เอ็นซีมีแน่นอนไม่ต้องห่วงแต่คงไม่ลงแบบเต็มๆ
ไว้ให้ไปลุ้นกันต่อเอง อาจจะมีวับๆแวมๆตามประสา
กลับเข้าเรื่องสำคัญของเราดีกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้จับดินสอวาดรูปมานานเกือบสองปี
อยากวาดรูปมาอวดใจจะขาด ทว่ายิ่งวาดลายเส้นยิ่งเพี้ยนแถมไม่ค่อยคงที่ ไม่ค่อยโอเคนักจึงต้องหานายแบบมาใช้
แก้ขัด (ถ้าลายเส้นคงที่จะนำมาอวดอีกที)
ถ้าเป็นแบบการ์ตูนก็คงแนวนี้
ส่วนประวัติพอสังเขป
ชื่อ : 69 คาคาชิเรียกว่า ชุน
สังกัด : หัสดิน อาชีพ : นักลอบสังหาร
อายุ : 18 ปี
ส่วนสูง: 175.5 CM น้ำหนัก: 53.4 KG
ความสามารถเฉพาะตัว : เคลื่อนไหวร่างกายประดุจสายฟ้าแลบ
ความถนัด : ปืน อาวุธทุกชนิด และ Martial art.
ประมาณนี้แหละเพิ่มเติมค่อยอธิบายต่อในเนื้อเรื่องหลักก็แล้วกัน เดี๋ยวนะอธิบาย Martial art ก่อน
เดี๋ยวไม่เข้าใจ Mixed martial art หรือ MMA คือศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสมผสาน เช่น มวยไทย มวยสากล
กังฟู ซูโม ฯลฯ กระบวนท่าเตะ ต่อย หรือการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้
ขอบคุณที่ติดตาม ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการอ่าน
รักนะเด็กๆ ChewWii
ความคิดเห็น