ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic: One piece] Dr. Feel Good.

    ลำดับตอนที่ #5 : DR. : Sometimes we don’t need advice. We just need somebody to listen.

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ย. 65


     

     

     

     

    -Sometimes we don’t need advice. We just need somebody to listen.

             บางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการคำแนะนำ เราแค่ต้องการใครสักคนที่คอยรับฟัง


                

     

                 “ ไฮ มากิโนะ ว่างป่ะ ไปหาห้องเช่าเป็นเพื่อนหน่อยสิ ” ลีอากรอกเสียงใส่โทรศัพท์เคลื่อนที่

    สี่เหลี่ยมสีดำขนาดพอดีมือ พูดคุยสอบถามปลายสายเล็กน้อยค่อยวางสายลง ย้อนกลับเข้าไปในห้องคอนโดของตน

    รีบอาบน้ำผลัดเสื้อผ้าชุดใหม่ แต่งกายง่ายๆด้วยเสื้อยืดแขนสั้นคอวีสีขาวสะอาดตา กางเกงยีนส์ขายาวพับข้อเท้า

    เพื่อความเรียบร้อยสีฟ้าอ่อนขาดเข่าพองาม รองเท้าสลิปออนสีขาวแมชท์กับสีเสื้อ และเก็บผ้าของใส่กระเป๋าเดินทาง

    และสิ่งของบางอย่าง ต้องเก็บลงกล่องลังกระดาษสีกาแฟ แพ็คให้เรียบร้อยพร้อมย้ายออกทันที!

                 “ รอนานหรือเปล่า? ” เจ้าของชื่อมากิโนะโผล่เข้ามาในร้านกาแฟตามที่คนปลายสายโทรมานัดแนะ

    เธอเอ่ยถามเพื่อนรักทันทีเมื่อมาถึง

                 “ ไม่หรอก ฉันก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน ” ลีอาให้คำตอบเพื่อความกังวลของมากิโนะ

    เพื่อนสาวชาวเอเชีย(ญี่ปุ่น) เส้นผมยาวสลวลสีเดียวกับเครื่องดื่มชาเขียวเย็นบนโต๊ะ ไหวตามร่างกายบอบบางขยับตัวนั่งลง

    บนเก้าอี้บุหนังอย่างดี เธอพอจะทราบเรื่องของเพื่อนรักกับแฟนหนุ่มอยู่บ้าง แม้จะเป็นเรื่องปุปปับก็ตาม

                  ทั้งลอว์และลีอาไม่เคยมีปากเสียง แม้แต่จะทะเลาะกันรุนแรงด้วยซ้ำ!

    ไหนมาเกิดทะเลาะกันบ้าน เอ๊ย! ห้องแตกขนาดนั้นละ?  ได้ยินจากปากเพื่อนรักเธอจำต้องบึ่งมาจากร้านกาแฟ

    แล้วรีบขับรถกระบะออกมา เผื่อว่าเพื่อนรักต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

                 “ หรอ อืมๆ จะไปเลยหรือเปล่าละ? ” มากิโนะกลับเป็นฝ่ายร้อนใจมากกว่าเจ้าของเรื่อง

    กลัวว่าลีอาจะเร่งรีบ เพราะตอนนี้ก็อยู่ในช่วงสายของวัน ไหนจะต้องขับรถไปดูห้องเช่า คุยเรื่องสัญญา

    เก็บข้าวของขับรถขนย้ายของกันอีก ของลีอา ซึ่งคาดว่าคงกินเวลาเกือบหมดทั้งวัน

                “ หาอะไรเย็นๆดื่มก่อนเถอะ ” ลีอาชวนมากิโนะสั่งเครื่องดื่ม หล่อนหันไปเรียกบริกรมารับออเดอร์

    และมากิโนะสั่งพอดี บริกรหนุ่มหน้าตี๋สไตล์อปป้าพาฟินส่งยิ้มให้แล้ววับเข้าไปในบาร์กาแฟ 

    จัดการเครื่องดื่มมาสั่งให้ไปเกินห้านาที

                “ ฉันเลิกกับลอว์แล้วว่ะแก ” ลีอาเปิดประเด็นเข้าเรื่อง วางแก้วช็อคโกแลตปั่นในมือลง

                “ คิดดีแล้วหรอ? เขาแค่นอกลู่นอกทางเองนะ ” ตบซ้าย ตีขวา! น่าจะกลับเข้าลู่เข้าทางเดิมได้อยู่!

    เอ้ย หากลองได้คุยกันอย่างเข้าใจ บางทีอาจจะหาทางออกร่วมกันได้ดีกว่านี้ก็เป็นได้!

                “ ฉันไม่รู้เลยว่าเจ็ดปีที่ผ่านมา…เหมือนเสียเวลาเปล่า ” ลีอามีสีหน้ากระอักกระอ่วน “ ลอว์เขาอยากมีลูก 

    อยากสร้างครอบครัวมาตลอด แต่ฉันยังไม่พร้อม…” 

                 “ หน้าที่การงานของลอว์เขาดีนะ เป็นหมอหนิ แต่แกอยู่กับหมอแล้วเรื่องลูกไม่ต้องห่วงหรอก คุมได้! ”

    ตามจริงแล้วลีอาควรจะสบายใจด้วยซ้ำไป! ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาหน้าดำเคร่งเครียดแบบนี้!

                  “ เฮ้อ! ” ลีอาเงยหน้าขึ้นแล้วพ่นลมหายใจ

                  “ อยากบอกนะว่า…แก… ” มากิโนะเบิกตากว้างไม่คาดไม่ฝันกับสิ่งที่กำลังจะถามต่อไปนี้ “ คบหากันมา

    ตั้งเจ็ดปี คานไม่เยเลยหรอ? ” มากิโนะตัดสินใจถามไปอย่างตรงไปตรงมา

                 “ คานอาจจะไม่เย แต่ลอว์อยากเยว่ะแก แต่ฉันกลัวพลาดท้องไง! ” ตามจริงลอว์เคยขอแค่ครั้งเดียว 

    แต่ลีอาปฏิเสธไปหลังจากนั้นลอว์ก็ไม่เคยขอจากหล่อนอีกเลย “ มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอว่ะ? ” ลีอาสังเกตสีหน้ามากิโนะ 

    ก่อนถามออกมาอย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร

                “ บ้าไปแล้ว! ” มากิโนะแทบไม่เชื่อกับหูตัวเอง คนถามถึงกับมีสีหน้าเหรอหรา " แล้วเวลาเขาเคารพธงชาติละ 

    แบบว่าช่วยชักธงขึ้น-ลงบ้างหรือเปล่า?  " เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องไกลตัว มากิโนะจึงสามารถพูดคุยกันได้อย่างปกติ

                “ ไม่เคยอ่ะ ฉันผิดขนาดนั้นเลยหรอว่ะ? แต่ฉันกลัวพลาดขึ้นมา ”

               “ ลอว์เขาเป็นหมอนะแก เรื่องนี้เขามีความรู้อยู่แล้ว วันไหนอันตราย? วันไหนปลอดภัย? ”

               “ ไม่ใช่หมอก็ต้องมีความรู้เบื้องต้นป่าวว่ะแก แต่ฉันกลัวพลาดในตอนที่ไม่พร้อม

    ต้องรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตเลยนะแก ”

                “ หรือแกคิดว่าลอว์ยังไม่ใช่ละ? ” มากิโนะเริ่มสงสัยกับความสัมพันธุ์ของทั้งคู่ คบกันมาเจ็ดปี….ถือว่านานนะ

    ลีอาถึงกับชะงักไปกับคำถามของเพื่อนรัก ราวกับถูกไม้หน้าสามหวดแสกเข้ากลางหน้าเต็มๆ

               “ ฉัน… ฉันกลัวว่าถ้ามีลูกขึ้นมา ฉันไม่แน่ใจเลยว่าจะเลี้ยงเขาได้ดีเท่ากับที่พ่อแม่เลี้ยงดูฉันได้หรือเปล่า? ”

    ลีอาแสดงสีหน้าและแววตาออกมาอย่างไม่แน่ใจกับตัวเอง “ ฉันยังไม่รู้เลยว่าถ้ามีลูกขึ้นมา ฉันจะสอนอะไรเขา? ” 

    ลีอาพูดความกังวลใจของตนออกมาอย่างไม่ปิดบัง เพราะหล่อนรู้ดีต่อให้ปิดมิดแค่ไหน แต่นี่คือมากิโนะผู้ล่วงรู้

    ในทุกๆเรื่องของหล่อน แม้จะไม่พูดอะไรแค่นั่งเงียบๆ มากิโนะก็ทราบถึงความไม่ปกติของคนใกล้ตัว

                “ ฉันก็เหมือนกัน ” มากิโนะเองก็ครองโสดมานาน ก็ถูกของลีอานะ มากิโนะไม่ขัดแถมเห็นด้วย

    ผู้ชายมาตามแจกขนมจีบเยอะแยะจนเลือกเจ้าอร่อยไม่ถูก! ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย จวบจนถึงตอนนี้ซึ่งเธอ-

    เป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ มากิโนะโตมาจากครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อแม่ของเธอประคบประหงมดูแลอย่างดี

    ไม่ขาดตกบกพร่อง แถมยังไม่เคยปล่อยให้ลูกสาวคนนี้ได้ลำบากเลยสักหน!

                แต่ถ้าหากว่ามากิโนะอยากจะมีครอบครัว… เธอก็ต้องมีความพร้อม เหมือนเช่นบิดามารดา!

     

          สองสาวต่างพากันนั่งอย่างเงียบๆ จิบเครื่องดื่มในมือของตนเอง ต่างคนต่างใช้ความคิด

    ปล่อยให้เสียงเพลงบรรเลงภายในร้านทำหน้าที่ของมัน โดยที่ไม่พูดแย่งแทรกแข่งกับเสียงเพลงดังคลอๆภายในร้าน 

                “ ดูที่ไหนไว้บ้างละ? ” มากิโนะเอ่ยถามเปลื่ยนเรื่อง จิบเครื่องดื่มในมือ

                “ ห้องนี้น่าสนใจนะ คุไรกานะนี่อ่ะ ” ลีอาส่งโทรศัพท์ในมือให้มากิโนะดู เป็นห้องพักที่ถูกยิงแอด

    โฆษณาเข้ามาในหน้าเฟศบุ๊คส่วนตัวเมื่อคืน คลิกเข้าไปเพื่อดูรูปถ่ายขนาดใหญ่ รูปถ่ายทั้งหมดทุกห้อง 

    ทุกซอกทุกมุมภายในห้องเช่าขนาดใหญ่พร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเพื่อความสวยงาม หรูหรา

    ราวกับห้องพักระดับห้าดาว และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าแถมมาให้ด้วยอย่างครบครัน

    มาเพียงตัวเปล่าก็สามารถพร้อมเข้าพักได้เลย!

                “ ราคาน่าคบอยู่นะ ” ลีอาเลื่อนสไลด์รูปบนหน้าทัชสกีนให้มากิโนะได้ดูราคาค่าเช่าต่อเดือน

                “ นี่มันแถมอะไรมาด้วยหรือเปล่า? ” เช่นพวกผีพวกสางเป็นต้น!

                “ ฉันถึงได้โทรชวนแกมาด้วยกันนี่ไง ป้านิ่ม! ” ลีอาหันมองใบหน้าอีกคนพร้อมกับตั้งความหวัง

                “ บ้า!! นี่ดูปากนะ มา กิ โนะ จ้า ฉันไม่ใช่ร่างทรงย่ะ! แค่สายมูเฉยๆ ” มากิโนะรีบแก้ตัวทันควัน! 

    แถมสะกดชื่อของตัวเองทีละคำ ใช้ปลายนิ้วมือข้างซ้ายแตะลงบนอกเบาๆคล้ายแนะนำตัวให้อีกคนรู้จักอีกครั้ง!

    ก่อนที่ลีอาจะคิดว่าเธอเป็นร่างทรงจริงๆ หยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบเล็กน้อย แก้อาการเขิน แม้ความชื่นชอบของเธอ

    ในด้านของฮวงจุ้ย หรือเรื่องของสิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติซึ่งศึกษาด้วยตนเองมาตลอดชีวิต

    จะสามารถทำประโยชน์ให้เพื่อนรักก็วันนี่ละ!

                “ งั้นไปดูกัน ” ลีอาเอ่ยชวน 

                “ เอาสิ ” มากิโนะวางแก้วกาแฟในมือลง ล้วงกระเป๋าหยิบเงินจ่ายค่ากาแฟ

    ทว่าลีอาไวกว่า หล่อนรีบลุกไปจ่ายเงินถึงหน้าเคาน์เตอร์เลยทีเดียว จนทำให้มากิโนะถึงกับหลุดขำเบาๆกับท่าทางของลีอา

    และเป็นฝ่ายพาลีอาเดินไปที่รถ อาสาเป็นสารถีขับรถพาลีอาไปดูห้องพัก 

                ในความโชคร้าย เหมือนจะมีเรื่องของความโชคดีปนอยู่ด้วย ลีอากดเบอร์โทรศัพท์ที่ทางเว็บห้องเช่า

    ใส่ไว้หน้าเว็บ และปลายสายเป็นเสียงของหญิงสาวคาดว่าอายุไม่น่าเกินยี่สิบห้าปี ก็ตอบกลับพร้อมพาหล่อนไปดูห้องเช่า

    เพื่อประกอบการตัดสินใจภายในทันที!

                “ สวัสดีคุณเพโรน่า ” ลีอาจำได้ สาวน้อยผมสีชมพูพาสเทลแม้จะรวบมัดอย่างสวยงาม

    ก็ยังคงทิ้งตัวเป็นลอนยาวสลวย เธออยู่ในชุดเสื้อเชี้ตสีขาว กระโปรงสั้นเหนือเข่าอวดช่วงเพรียวขาเรียวยาว

    รองเท้าบู๊ตยาวถึงใต้เข่าคู่เก่งสีแดง สลัดคราบของพนักงานรีเซ็ปชั่นได้อย่างหมดจรด

                “ คุณลีอานี่เอง สวัสดีค่ะ ” เพโรน่ายิ้มจนตาหยี แล้วโค้งตัวเล็กน้อย

    ใช้สายตาประเมินมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยเวลาสั้นๆ ใบหน้างดงามแทบไร้การตกแต่งด้วยเครื่องสำอางค์

    แค่รองพื้นด้วยแป้งฝุ่นธรรมดา ริมฝีปากเคลือบด้วยลิปกลอสสีอ่อนเป็นธรรมชาติ เส้นผมสียาวสลวยคล้ายเกลียวคลื่น

    ถูกปล่อยให้เป็นอิสระยาวคลอเคลียกับแผ่นหลัง เสื้อยืดแขนสั้นสีขาวคอวี กางเกงยีนส์ขาดๆเซอร์ๆ

    รองเท้าผ้าใบสลิปออนสีขาวส้นเตี้ย กระเป๋าถุงผ้าดิบลวดลายไม่มากคล้องไหล่ เรียกสายตาของผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาได้ดี

    ดีกว่าตัวของเธออีกด้วยซ้ำ! ยิ่งมากับเพื่อนสาวอีกคนใบหน้างดงามไม่ต่างกัน! รูปร่างอ้อนแอ้นเส้นผมสีชาเขียว

    ถูกรวบด้วยผ้าโพกผม เธอสวมชุดคอปกแขนยาวลายจุดสีขาว ความยาวระดับเข่า รองเท้าผ้าใบดูทะมัดทะแมง

    นั่นก็ทำให้เห็นว่าเป็นจุดสนใจของคนที่เดินผ่านไป ผ่านมาได้อีกยกใหญ่! 

               “ ไปดูห้องกันเลยดีกว่าค่ะ ” เพโรน่าฝืนยิ้มอีกครั้งและเดินนำ พาลีอาและเพื่อนมนุษย์ทั้งสองคน

    ตรงไปที่หน้าลิฟต์เพื่อทำการขึ้นไปบนอาคารเกือบชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียนสุดหรูหรา พร้อมกับอธิบายข้อมูล

    เพิ่มเติมให้กับลีอา แม้จะอยู่บนรองเท้าบู๊ตแฟชั่นสูงกว่าหกนิ้ว ก็ยังทำให้เพโรน่าเกิดความไม่มั่นใจกับส่วนสูง

    ขึ้นมาอย่างกระทันหัน รู้สึกว่าส่วนสูงของตัวเธอนั้นพ้นบ่าของลีอาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น!

                “ คุณลีอาตัวสูงจัง ” เพโรน่าหันมาชวนคุยในเรื่องอื่น ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องงาน

    หน้าที่ได้รับมอบหมายจาก 'คุณท่าน' ใช่ มิฮอว์คได้วานให้เธอช่วยรับหน้าที่เป็นตัวแทนผู้ให้เช่าห้องนี้แทนเจ้าของ

    แน่นอนว่าเธอจะได้ค่าแรงงานนี้ก็คือค่ามัดจำห้องล่วงหน้าเป็นเวลาสามเดือน ซึ่งเป็นค่าทำงานล่วงเวลา!

    ซึ่งเพโรน่าก็สามารถทำออกมาอย่างได้ดีเยี่ยมเชียวละ!

                “ ขอบคุณค่ะ ” ลีอาหันมายิ้มตอบ

    เพโรน่าจึงชวนคุยเรื่องของงานต่อ เมื่อขึ้นมาถึงชั้น ห้องที่มุ่งหมายเธอจึงเดินนำ ล้วงหยิบคีย์การ์ดออกจากกระเป๋า

    โรงศพโกธิคสไตล์สีดำใบจิ๋วในมือ พาลีอาเพื่อนสาวผมสีชาเชียวเข้าไปดูบรรยากาศภายในห้องของจริง

    ประกอบการตัดสินใจ

                “ กว้างขวางดีจัง ” มากิโนะกวาดสายตามองไปรอบๆตัวห้อง

    ไม่ว่าการจัดการเฟอร์นิเจอร์ทั้งตกแต่ง หรือสิ่งของอำนวยความสะดวกนั้นถูกจัดได้เข้าที่ลงตัวกับห้องกว้างแห่งนี้มาก

    ซึ่งเป็นห้องตรงกลางของทั้งชั้นพอดี มองออกไปนอกบานหน้าต่างซึ่งเป็นกระจกใสบานใหญ่สามารถเห็นวิวได้ทั้งเมือง

    อย่างหนึ่งร้อยแปดสิบองศา หากเป็นยามค่ำคืนวิวจากตรงนี้คงสวยมากแน่ๆ

                 ตรงตามปก ที่เห็นจากรูปถ่ายจากเว็บไม่จกตา!

    ทิศทางของแสงแดดไม่ส่องกระทบเข้าตัวห้องจังๆ จนเกิดความร้อน ละแน่นอนอาคารหลังนี้ทำจากพวกอิฐ ปูน

    จะกักเก็บดูดซับความร้อนช่วงกลางวันไว้คลายตัวในเวลากลางคืน จะส่งผลให้ร่างกายรู้สึกร้อนเหนียวเหนอะ ไม่สบายตัว

    ในทิศทางของสายลม มากิโนะยืนมองนอกหน้าต่าง ซึ่งเป็นประตูเลื่อนขนาดใหญ่แล้วลองเปิดออกสายลมพัดผ่าน

    เข้ามาพอดิบพอดี พัดผ่านผ้าม่านสีขาวจนพริ้วไหว ทำให้ยิ่งมองเห็นว่าห้องนี้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นนั้นถือว่าดี

                 มองแบบโดยรวมแล้วถือว่าเป็นห้องพักมากคุณภาพราคาน่าคบ ที่ดีเลยทีเดียว!

     

               “ คุณเพโรน่า ฉันอยากทราบว่าเพื่อนข้างห้องเขาทำอาชีพอะไรกันหรือคะ? ” ลีอาสงสัย

    เมื่อขึ้นมาถึงชั้นเกือบสูงสุดของที่นี่ก็ชั้นที่ยี่สิบห้า ซึ่งราคาห้องพักระดับนี้ราคาคงไม่ธรรมดาแน่ ดังนั้นจึงอยากถามเรื่อง

    ของเพื่อนบ้านไว้ก่อน

                “ พวกเขาเป็นเจ้าของธุรกิจค่ะ ไม่ต้องกังวลคะคุณลีอา พวกเขาไม่ส่งเสียงดังรบกวนอย่างแน่นอน ”

    เพโรน่ากล้ารับประกัน ห้องพักทั้งชั้นยี่สิบห้าเป็นของ 'แดรคูล มิฮอว์ค' ทั้งหมด! แน่นอนละว่าคุณท่านไม่ยอมเปิดห้อง

    ให้ใครได้เช่าหรือเข้าพัก แม้จะเสนอราคาอย่างงามแต่ก็ถูกปฏิเสธไป…. เว้นแต่หญิงสาวตรงหน้า!

                “ แล้วก็ห้องด้านบนเป็นห้องวีไอพีของที่นี่ค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าพวกเขาจะส่งเสียงดังหรือมีปาร์ตี้ทุกคืนนะคะ ”

    ซึ่งชั้นที่ยี่สิบหกก็เป็นห้องพักของคุณท่านทั้งหมดแต่เพียงคนเดียวด้วยเช่นกัน! 

                “ ขอบคุณนะ ”   ลีอากล่าวขอบคุณกับเพโรน่า “ ฉันเนี่ยโชคดีจังเลยแก ” ลีอาหันไปคุยกับมากิโนะ

                “ สงสัยคงถูกหวยแน่ๆ ว่าแต่เลขห้องเบอร์อะไรนะ ” มากิโนะพูดปนเสียงหัวเราะคิกคัก ถามหาตัวเลขเสี่ยงโชค

                “ ใครจะเป็นเศรษฐี? ” ลีอาชงมุขให้

                 “ ฉันนะสิ ฉันนะสิ ฮ่าฮ่า ” มากิโนะรับมุขอย่างรู้ทัน หัวเราะออกมาอย่างสดใส “ เตรียมตัวเรียกฉันว่า

     'เศรษฐีนีมากิโนะ' ได้เลยจ้า!  ฮ่า ฮ่า คนจะรวยช่วยไม่ได้น้าา ฮ่า ฮ่า” มากิโนะพูดต่อด้วยความตลกขบขัน 

                  “ งี้แหละ แข่งเรือแข่งพาย แข่งอะไรได้ก็แข่งไป… แต่บุญวาสนาแข่งไม่ได้นะแก คิกคิก ” ลีอาถึงกับหลุด

    หัวเราะกับมุขของมากิโนะโดยมีเพโรน่าหัวเราะร่วมวงด้วยเบาๆ ไม่ทันไรเพโรน่าถึงกับเบะปาก เอียงหน้าไปอีกทาง

    กรอกตากลมโตคล้ายคุกกี้มองบนอย่างไม่พอใจ “ อ้อ เหรอ.. จ้า จ้า แม่วาสนาดี! คุณท่านเอ็นดูหน่อยทำขิงนะยะ! ” 

    เพโรน่าถึงกับพ่นภายในความคิดของตน แถมแลบลิ้นอีกหนึ่งทีลับหลังลีอา ก็สวยนะ ดูเป็นธรรมชาติดีอยู่หรอก….

    แต่ก็…นะ…อืมม์!

                    เบื่อเต็มทีต้องมาปั้นหน้ายิ้มให้กับยัยโคนมนี่!

    เธออยากจะกลับไปห้องพักส่วนตัว ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มๆ จิบชาคาโมมายล์อุ่นๆช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น

    แถมยังบำรุงผิว ลดรอยสิวรอยคล้ำอีกด้วย! พร้อมกับล้มตัวลงบนเอกเขนกกอดตุ๊กตาคุมาชี่จนหลับไปสักที! 

    ไม่ต้องมาคอยปรนนิบัติรับใช้หญิงสาวกับเพื่อนมนุษย์ตรงหน้านี้อีกแล้ว!

                  แต่เอ๊ะ! โอกาสทองได้มาถึงมือเธอแล้วสิ!

    เพโรน่าฉุกคิดอีกหน แล้วกระตุกมุมปากข้างซ้ายลับหลังสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า'มนุษย์'ทั้งสองคน

                  ดี! ฉันจะหลอกผีให้จับไข้หัวโกร๋นจนอยู่ไม่ได้เลยยัยโคมนม!  โฮโระ โฮโระ โฮโระ!

    บอกได้เลยว่าเรื่องนี้ไม่มีแค้นส่วนตัว ทว่าเป็นความสะใจส่วนบุคคลล้วนๆ

     

                “ คุณเพโรน่า ฉันตัดสินใจเช่าที่นี่คะ ” ราวกับว่ายัยโคนมรู้ว่าเธอกำลังรู้สึกเบื่อโลกเต็มที! 

    อยากกลับเข้าโลกของเธอแล้ว!  ลีอาหันมาบอก พร้อมดำเนินเรื่องจ่ายค่ามัดจำล่วงหน้าทันที ที่น่าแปลกใจคือ

    เป็นการเซ็นต์สัญญาเช่าที่เรียบง่ายใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที เพโรน่าไม่ได้ขอดูเรื่องสเตทเม้นท์ย้อนหลังหกเดือน

    หรือมากกว่านั้น และควรมีขั้นตอนที่มากกว่าเพียงแค่ตวัดลายมือเซ็นต์ชื่อลงบนเเผ่นกระดาษ!

              

                  “ เอ่อ ฉันยังไม่ทราบเลยว่าคุณลีอาทำอาชีพอะไรหรือคะ?” เพโรน่าถามด้วยความสงสัย

    ซึ่งคำถามนี้ไม่ได้อยู่ในเนื้องานที่ได้รับมอบหมายจากมิฮอว์ค ลีอายิ้มก่อนแล้วตอบว่า “ ฉันเป็นนักแข่งรถค่ะ ” 

    หล่อนตอบสั้นๆ เพโรน่าได้แต่ยิ้มแห้งๆแล้วผงกศีรษะ “ อ้อ หรอค่ะ ดีนะคะเนี่ย ”  ไม่ใช่ว่ารังเกียจ! 

    จัดลีอาเป็นพวกเด็กแว้น เด็กแซ้บป่วนกวนเมือง แต่เพราะเธอไม่รู้จักเรื่องของเครื่องยนต์พวกนี้มากนัก!

               ยามรถยนต์ส่วนตัวของเธอดับหรือพังส่วนมากส่งเข้าศูนย์ ส่งซ่อมทุกครั้งที่มีปัญหาหรือไม่ก็โทรตามหาโรโรโนอา

    เพื่อให้เขามาช่วย ก็ถือว่าเป็นเรื่องชวนพูดคุยพอให้เธอได้ต่อบทสนทนากับคนที่สนใจ(รองลงมาจากนายท่าน!)

     

               “ แกไม่บอกเขาไปละว่าเป็นตำรวจสายสืบ ” มากิโนะท้วงถามเพื่อนคนสนิท

    พร้อมกับล้วงของบางอย่างจากกระเป๋าผ้าดิบลดโลกร้อนคล้องเรียวแขนเล็กๆของตน

               “ ไม่ละ บอกแบบนั้นละดีแล้ว ” ตามจริงเรื่องนักแข่งรถก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องหลอกลวง

               “ อย่างน้อยเพื่อนบ้านจะได้สบายใจ เกิดเหตุด่วนเหตุร้ายขึ้นมาจะได้มีที่พึ่งนะ! ” มากิโนะพยายามบอกข้อดี

    ของการพูดความจริงตั้งแต่แรก ไม่ใช่ว่าเพื่อนรักเป็นเด็กเลี้ยงแกะชอบโกหกมุสาไปเรื่อย!

               หลังจากนั้นทั้งสองจึงพากันไปขนของย้ายจากห้องพักของลีอา เพื่อมาที่ห้องใหม่ซึ่งข้าวของลีอามีไม่มากนัก

    แค่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบ กล่องลังกระดาษอีกห้าถึงหกกล่องและถ้วยรางวัลจากการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์

    นับว่าโชคดีไป บางอย่างก็เก็บไว้ในห้องส่วนตัวซึ่งล็อคประตูไว้ หากเปิดต้องมีกุญแจเฉพาะเท่านั้น!

               “ เอ้า! นี่ไม้กางเขน! ” มากิโนะยัดเครื่องรางสามารถประดับตกแต่งบ้านได้ใส่มือของลีอาไว้

               “ ตั้งไม้กางเขนไว้นะ อย่าวางนอนเด็ดขาด! ความทรงพลังขับไล่สิ่งชั่วร้าย มันไม่เท่าตั้งวางแนวตรงแบบนี้!  ” 

    มากิโนะสาธิตและอธิบายวิธีการทำงานของไม้กางเขนให้เพื่อนรักฟัง แล้วก็ตามด้วยข้าวของเครื่องรางของขลัง

    ขับไล่สิ่งชั่วร้าย ตั้งแต่พวกผ้ายันต์สีแดง สายสิญจน์สีขาว บลา บลา 

                “ ยินดีด้วยนะ กับการเริ่มต้นใหม่ ” มากิโนะมอบช่อดอกไม้ให้กับลีอา โดยเธอจัดแจงใส่ลงบนแจกันดอกไม้

    เพื่อเรียกความสดชื่น ไม่ให้ห้องพักของลีอานั้นดูโล่งโจ้งจนเกินไป อย่างน้อยมีความสวยงามจากเจ้าของห้องแล้ว

    ควรมีดอกกุหลาบสีแดงแต่งแต้มสีสันขึ้นมาบ้างก็ยังดี  ไม่ใช่แค่ดอกกุหลาบช่อเดียวตั้งตรงโต๊ะรับแขก 

    มากิโนะจัดวางตกแต่งตามห้องตั่งต่าง พูดคุยกับลีอาต่อและดื่มกันเพียงเล็กน้อยเพื่อเฉลิมฉลองให้กับความโสดอีกหน

         มากิโนะรู้จักกับลีอาตอนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แถมเรียนคณะบริหารเช่นเดียวกันอีก ความงดงามอันเลื่องลือ

    ลือนามไปทั่ว จึงทำให้หล่อนกลายเป็นที่รู้จักของผู้คนภายในยูฯเพียงแค่วันเดียว และความป็อปของลีอาก็สามารถ

    ทำให้หนุ่มเมืองข้างๆต่างพากันขับรถแห่แหนกันมา นั่งดักรอเรียงแถวหน้ากระดานกันถึงใต้ตึกภาคเชียวล่ะ! 

    เธอเชื่อว่าสวยๆอย่างลีอาครองโสดได้ไม่นาน เดี๋ยวก็มีหนุ่มหล่อมาคอยมอบความรักดามหัวใจให้อยู่ดี!

    ยามเมื่อเธอต้องการที่พึ่ง มากิโนะก็จะเป็นให้ ยามที่ต้องการใครสักคนรับฟัง มากิโนะก็จะคอยอยู่ข้างๆ

                 ไม่ต้องกังวลมากิโนะเบื่อหรือไม่อยากทานข้าวดีๆไม่ชอบ! อยากเปลี่ยนไปทานอาหารเม็ดแถมหอนบรู้ววว!

    พร้อมให้คำแนะนำห่างๆอย่างห่วงๆ โดยไม่ได้นินทา ด่าทอ ว่าร้ายให้กับอดีตคนรักของเพื่อน เพียงแค่รับฟังปัญหา

    เสนอแนะทางแก้ก็แค่นั้น… หากว่าลอว์มาขอคืนดี… และลีอายอมยกโทษและกลับไปหาคนรักเก่า เธอก็ไม่ว่า

    เพราะถือว่าเป็นการตัดสินใจของลีอาแล้ว

               แต่ดูทรงแล้ว…ท่าจะยาก หากลีอาจะยอมกลับไป….

     

                “ ไปแล้วแก ” มากิโนะโบกมือกดปุ่มบนตัวกุญแจปลดล็อคประตูรถออก แล้วเข้าไปให้นั่งบนเบาะคนขับ

                “ ขอบใจมากนะ ขับรถปลอดภัย ถึงแล้วโทรหาด้วยนะ! ” ลีอารอส่งมากิโนะ

    เมื่อรถกระบะของมากิโนะเคลื่อนที่จนลับสายตาไปแล้ว จึงค่อยหันหลังกลับ แต่ก่อนจะขึ้นถึงห้องพัก

    ลีอานึกได้ว่าอยากซื้อเบียร์เพิ่มติดไม้ติดมือขึ้นไปดื่มอีกลัง ไม่ได้ดื่มให้เมาเพื่อย้อมใจทีเดียวรวด! แต่เก็บไว้เผื่อวันอื่นด้วย!

     

                สายฝนโปรยปรายลงจากฟากฟ้าเป็นละลองหยาดน้ำเล็กๆ ราวกับว่ากำลังแจ้งเตือนให้ทุกสรรพสิ่งมีชีวิต

    เร่งให้รีบหาที่หลบ หรือรีบกลับเข้าพัก ยกเว้นแต่ลีอาที่กำลังเดินข้ามถนนเพื่อไปร้านสะดวกซื้อใกล้ๆคอนโดฯคุไรกานะ

                “ วี้ดวิ้ว ไงจ๊ะน้องสาวเจอกันอีกแล้วนะ ” เสียงผิวปากทำให้คนกำลังจะข้ามถนนตรงชะงักฝ่าเท้า

                “ ใครอยากเจอวะ? ” ด้วยความปากไว ลีอาเผลอหลุดปากพูดออกไปอย่างฉับไว

                “ พี่แฟรงกี้ไงจ๊ะ ” แฟรงกี้กับเส้นผมสีฟ้าน้ำทะเล สวมแว่นตาดำ ชุดเเจ็กเก็ตหนังสีดำ ทับเสื้อยืดสีดำด้านใน

    กางเกงยีนส์สีสนิมขายาวจรดข้อเท้า รองเท้าสนีกเกอร์สบายๆ เขายืนกอดอกแน่นเอนตัวหย่อนสะโพก

    นั่งลงบนมอเตอร์ไซค์เล็กน้อย กอดอกหลวมๆแล้วมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่วางตา

                “ รถสวยดีหนี่ ” ลีอาถึงกับต้องเอ่ยปากชม 

                “ อยากซ้อนไหมละ? ” แฟรงกี้เอ่ยชวนแถมภายมือให้ เพื่อเชื้อเชิญหล่อน

                “ ถนัดขี่มากกว่า ” ลีอาให้คำตอบนิ่งๆ

                “ ลองดูไหมละ? ” แฟรงกี้เสนอ แถมขยับตัวออกจากมอเตอร์ไซค์คันโปรดเพื่อให้หญิงสาวได้เข้ามาใกล้

    แน่อนอนละว่าเธอเดินกำลังจะถึงต้นแขนเรียวเล็กถูกคว้าไว้ “ ไปเอาความมั่นใจผิดๆมาจากไหนกัน? ”

    ชายร่างยักษ์ไม่เห็นด้วยกับลูกพี่ใหญ่ เขาเข้ามาคว้าต้นแขนของอีกคนเพื่อห้ามปรามก่อนที่จะเลยเถิดมากไปกว่านี้! 

    เจ้าของร่างถึงสลัดการเกาะกุมแถมจัดการเหวี่ยงอีกคน กระแทกพื้นดังโครมใหญ่!

                “ ฉันไม่ชอบให้คนมาจับตัว! ” ลีอามองหน้าคนบนพื้นอย่างเอาเรื่อง

                “ ฮ่า ฮ่า เจอของจริงแล้ววะ ซัมไบ ” แฟรงกี้หัวเราะชอบใจ ไม่เคยเห็นซัมไบล้มเสียหลักได้เช่นนี้ 

    เหมือนว่าไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งความต้องการของลีอาได้ หล่อนเดินเข้ามาแถมขึ้นไปนั่งคร่อมบนรถของแฟรงกี้

    ทำท่าวางมือราวกับว่ากำลังจะทะยานมันออกไปบนท้องถนน

                “ เอาไหมละ ฉันมีแข่งกับพวกนักซิ่งเดรสโรซ่าท่าเรือฝั่งนู้นพอดี ” แฟรงกี้มอบข้อเสนอ

                “ ก็เอาสิ ” ลีอาตอบตกลง

                “ แต่ถ้าเธอแพ้ แน่นอนว่าเธอจะตกเป็นของฉันทั้งร่างกายและหัวใจนะ ” แฟรงกี้ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

    ดวงตาหลังแว่นกรอบดำกำลังสั่นระริก เมื่อได้ขยับตัวใกล้หญิงสาวเพื่อได้เห็นใบหน้าของหล่อนอย่างชัดเจน

                  หน้าตางดงามราวกับนางฟ้านางอัปสรเช่นนี้ เขาไม่อยากให้กลายเป็นของคนอื่นเลยด้วยซ้ำ! 

    เพียงแค่เห็นตั้งแต่ครั้งแรก หล่อนก็ขโมยใจของเขาไปหมดทั้งสี่ห้องเรียบร้อย!

                “ รถล้มขึ้นมาจะยกไหวหรือเปล่าเนี่ย? ” เสียงดูแคลนของชายตัวโตดังขึ้นขัดจังหวะ

    เห็นต้นเเขนเล็กๆของหล่อนแล้วถึงกับส่ายหน้า

                “ ถ้าชนะละ? ” ลีอาจ้องหน้าใกล้อย่างไร้ซึ่งความหวาดกลัว ไม่ได้สนใจกับคำพูดก่อนหน้า

                “ ได้ไงลูกพี่เดี๋ยวแพ้ขึ้นมาเสียรถหรอก! ” ซัมไบรีบห้ามลูกพี่ของตน

                “ เงียบน่าซัมไบ! ” แฟรงกี้หันไปดุอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงตะคอก

    คนถูกตะคอกถึงกับหุบปากเงียบสนิท 

                “ ก็ได้เงินรางวัลเช่นนี้ ไปขอให้โชคดี ” แฟรงกี้ให้คำตอบ แถมอวยพรให้ " เอาละ เส้นสตาร์ทเริ่ม

    จากไฟแดงหน้า ใครขี่ไปถึงท่าเรืออาซาเซียได้ก่อน และเข้าใกล้เส้นชัย เบรกรถจอดเทียบท่าเรือได้มากที่สุด

    จะถือว่าเป็นผู้ชนะไป " แฟรงกี้พูดต่อ พร้อมอธิบายกฏกติกาการแข่งขันให้ลีอาฟังอย่างเข้าใจง่ายๆ

                “ สถิติล่าสุดละ? ” หล่อนถาม 

                “ สถิติล่าสุดคือยี่สิบเจ็ดเซนติมเตร! เอ้าได้เวลาแล้ว ไปที่ไฟแดงได้เลย! ”

    แฟรงกี้รีบบอกให้หล่อนเคลื่อนรถไปจอดรอ ถอดเสื้อหนังบนตัวให้หล่อนสวมใส่ หมวกกันน็อคและถุงมือทั้งสองข้าง

                “ ดีล อืม ตอนนี้นายมีเงินเท่าไรแฟรงกี้ ? …เล่นข้างฉันให้หมดเลย! ” วินาทีนั้น

    ภาพในหัวของลีอาผุดผังเมืองขึ้นมา ราวกับใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เริ่มสตาร์ทจากไฟแดงแยกหน้า

    ขี่ตรงไปอย่างเดียวถึงสามแยกไฟแดงแยกที่สามแล้วเข้าโค้งตามเส้นทาง ตรงไปก็จะเข้าสู่ท่าเรืออาซาเซียพอดี 

    น่าเสียดายที่หล่อนไม่เคยเข้าไปในส่วนของท่าเรือ จึงไม่ทราบถึงจุดของเส้นชัยที่ว่า

                 ลีอาเคลื่อนรถไปจอดรอจังหวะสัญญาณไฟแดงพร้อมกับมอเตอร์ไซค์ของอีกฝ่าย

    สมาธิของหล่อนนั้นจดจ่อกับไฟเหลืองนับสัญญาณถอยหลัง สาม สอง และ หนึ่ง

     

                 ปรืน ปรืน!

    ลีอาบิดคันเร่ง เร่งเครื่องบิดออกทะยานออกไปอย่างไม่สนใจเรื่องของสภาพอากาศ แม้จะมีฝนตกปรอยๆ

    ลงบนพื้นถนนก็ไม่ได้หวั่น แต่คนที่หวั่นก็เป็นพวกของแฟรงกี้ “ โซดอม โกเมอร่าตามไปเร็ว! ” แฟรงกี้ตะโกน

    เรียกพรรคพวกให้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ รีบตามไปอย่างติดๆอีกสามสิบคัน มองเห็นชุดของอีกฝ่ายเป็นชุดของนักแข่ง

    ป้องกันอุบัติเหตุหรือกระแทกรุนแรงอย่างดี! รถคว่ำมามีแค่ฟกช้ำดำเขียวกันเท่านั้น!

                แต่มองหญิงสาวทีมของเขาแล้วมีแค่เสื้อหนังสีดำ กางเกงยีนส์ขาดเข่าเซอร์ๆ หมวกกันน็อค ถุงมือกันลื่น

    ไม่ได้มีอุปกรณ์เซฟตี้เหมือนทีมแข่งอีกฝั่งด้วยซ้ำ! กลัวถนนหนทางนั้นจะลื่น! ยิ่งตอนออกตัวบิดสุดปลอกขนาดนั้น!

    เหมือนว่าหล่อนจะออกตัวช้ากว่าอีกฝ่ายจึงทำให้เห็นไฟท้ายรถอย่างชัดเจน อยู่ในสายตาของแฟรงกี้ตลอดเวลา

    แข่งไม่ชนะไม่เป็นไร! ไม่ต้องตกมาเป็นของเขาทั้งตัวหรือหัวใจก็ได้!

                 แฟรงกี้ได้แต่ภาวนาในใจขอแค่อย่าให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันก็พอ!

    ผ่านพ้นสามแยกไฟแดงไปแล้ว เหมือนว่าหล่อนยังไม่สามารถหาจังหวะขึ้นแซงได้ แต่ใครจะไปรู้ละ…

    ช่วงตอนเข้าโค้งสุดท้าย หล่อนกับบิดคันเร่งกดปลายเท้าเข้าเกียร์เพิ่มสปีดขึ้นไปอีกเท่าตัว และจังหวะปาดแซงวงใน

    ของหล่อนนั้นเป็นภาพติดตาของทุกคนที่ตามหลังมา! 

                  หล่อนโยกมอเตอร์ไซค์แนบจะลงไปนอนกับพื้นเข้าโค้งลากยาว ราวๆสี่สิบห้าองศาขนานกับพื้น

    ราวกับอยู่ในสนามแข่งทางเรียบโมโตจีพี! ลำตัวด้านหน้าแนบไปกับส่วนถังน้ำมันบนรถ เอนตัวเล็กน้อยเพื่อสร้างมุม

    และองศาขนานกับตัวรถ มองจากสายตาหัวเข่าเล็กๆของหล่อนนั้นเกือบจะติดพื้นโดยห่างไม่ถึงสามเซนติเตร!

                “ นี่มันมืออาชีพชัดๆ ” แฟรงกี้ถึงกับหน้าเหวอ พูดขึ้นคล้ายคนสติเลอะเลือน

    หากสังเกตตั้งแต่ตอนออกรถควรจะทราบได้ชัด ท่านั่งบนเบาะก้มตัวลงอย่างถูกต้องเอย การเข้าโค้ง สำคัญที่สุดคือ

    ควบคุมรถได้ราวกับว่าเป็นอวัยวะที่สามสิบสามของร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม! ต้องใช้คำว่ายอดเยี่ยม! ถึงจะเหมาะสม!

                  หล่อนแซงจากโค้งเบียดวงในอย่างเฉียบขาด แถมยังบังไลน์ไม่ให้อีกฝั่งขึ้นมาแซงได้! 

    และกำลังบิดเร่งเครื่องเข้าไปในส่วนของท่าเรืออาซาเซียซึ่งเป็นเส้นตรงยาว แต่ความซ่าของหล่อนนั้นยังไม่จบ! 

    แม่คุณเล่นยกล้อหน้าขึ้นสูงราวกับว่ากำลังจะเข้าสู่เส้นชัยข้างหน้า! และค่อยปล่อยลงในไม่ช้า

             หากดูให้ดีเส้นชัยของพวกเขา คือริมขอบท่าเรือ  ใครเข้าไปจอดได้ใกล้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะในค่ำคืนนี้!   

     

                 เอี๊ยด!

    เสียงของล้อรถขนาดใหญ่สำหรับการแข่งขันนั้นบดลงพื้นถนนอย่างฉับพลัน จนเกิดเสียงดังสนั่น

    อีกฝ่ายตามมาติดๆในทางตรงลดเกียร์ลง ชิงกดก้านเบรกไปก่อนเรียบร้อย! 

                “ เบรกได้แล้ว! ” แฟรงกี้และคนอื่นๆในทีมต่างพากันส่งเสียงร้อง บอกให้หล่อนรีบกำก้านเบรกรถซะ!

              ไม่อย่างนั้นไถลลงท่าเรือ ได้ลงไปว่ายน้ำป่อมแป๋มทั้งรถทั้งคนแน่!

    แต่เหมือนจะไม่ได้ยิน เสียงของเครื่องยนต์หกสูบเก้าร้อยซีซีของแฟรงกี้เสียงดังเกินกว่าจะได้ยินเสียงรอบกาย!

    ร่างอ้อนแอ้นบนมอเตอร์ไซค์สำหรับแข่งได้จังหวะ กำก้านเบรกมือแน่นแล้วสะบัดท้ายดริฟท์ปาดล้อหลังเป็นครึ่งวงกลม

    ให้เข้าสู่เส้นชัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้คนพบเห็นดังอีกระลอก!

                “ จะบ้าตายรายวัน! ” แฟรงกี้ใจหายใจคว่ำ เมื่อเห็นว่ารถจอดสนิทเรียบร้อยดี ไม่มีใครได้รับอุบัติเหตุ!

                “ เอาตลับเมตรมาวัดสิ! ” เสียงดังจากอีกฝั่ง พร้อมกับพรรคพวกพากันรวมกลุ่มก้อนเข้ามา

     พร้อมกับคนถือตลับเมตร กลุ่มของแฟรงกี้รีบตามเข้าไปดูเพื่อเป็นสักขีพยานในการแข่งขัน

                “ สิบแปดเซนติเมตร! ” เมื่อวัดความห่างจากท่าเรือถึงล้อรถของอีกฝ่าย

    เสียงโห่ร้องเฮดังสนั่นราวกับได้รับชัยชนะต้องเงียบลงเมื่อประกาศต่อ “ สองเซนติเมตร! ” กรรมการถือตลับเมตร

    พูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก ทั้งที่จริงแล้วสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็สามารถรู้ได้เลยว่าของใคร

    ที่ใกล้เส้นชัยมากกว่ากัน แต่ก็ต้องเก็บความไม่พอใจนั้นพร้อมกับสายของตลับเมตรเข้าตัวกล่องเล็กๆในมือ

                “ โธ่เว้ย! ” อีกฝ่ายถึงกับขว้างปาหมวกกันน็อคในมือลงพื้นอย่างอารมณ์เสีย ระบายอารมณ์โมโห

    ตามแรงบันดาลโทสะ

                “ พีก้าอย่าปาของสิวะ! ” เสียงหนึ่งเอ็ดขึ้น

                “ เจอกันครั้งหน้าแฟรงกี้ ” พรรคพวกอีกฝ่ายโยนบางอย่างในมือให้กับแฟรงกี้ นัดแนะการแข่งขันครั้งต่อไป

                “ แม่งเอ๊ย กำลังจะชนะอยู่แล้วเชียว! ” พีก้าจ้องมองหน้านักแข่งของอีกฝ่ายอย่าด้วยสายตาอาฆาต

    เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมถอยหมวดออกมา “ ร้อนเป็นบ้า! ” หญิงสาวใต้ชุดหนังบ่น กำลังจะถอดหมวกกันน็อคเต็มใบออก

    มือของแฟรงกี้ไวกว่ากดด้านบนของหมวกไว้!  ทำให้พีก้าและคนอื่นๆต่างพากันขับรถกลับออกจากท่าเรือ

    ก่อนตำรวจจะเข้ามารวบใส่กุญแจมือในข้อหาบุกรุกเคหะสถาน พออีกฝ่ายได้พ้นออกไปจนหมดแล้ว

    จึงค่อยปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระ ถอดหมวกกันน็อคเต็มใบออกมาเพื่อสูดอากาศได้อย่างเต็มปอด! 

                 “ ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าแข่งแพ้ผู้หญิงคงเสียหน้าแย่! ” แฟรงกี้อธิบายว่าทำไมถึงไม่ยอมให้หล่อนถอดหมวกทันที

    เส้นผมยาวสลวยดุจเกลียวคลื่นของท้องทะเลยามค่ำคืนทิ้งตัวลง เมื่อเจ้าของใบหน้างามสะบัดเส้นผมเบาๆ 

    แล้วส่งหมวกกันน็อคคืนเจ้าของ “ ฉันเข้าใจ ” หล่อนตอบแล้วค่อยๆเปิดปากเพียงเล็กน้อยกัดตรงปลายถุงมือ

    เพื่อแกะส่วนตีนตุ๊กแกบริเวณส่วนข้อมือเริ่มจากทางด้านซ้าย ถอดข้างที่เหลือด้วยมือเปล่าตามด้วยด้านขวา

                 ทั้งใบหน้างดงามราวเทพธิดาแห่งความรักลอยลงมา เส้นผมสลวยทิ้งตัวลงกลางแผ่นหลัง 

    ต้นแขนเรียวเล็ก เอวบางๆ อ้อนแอ้น มิอาจคาดได้ว่าจะสามารถควบมอเตอร์ไซค์สุดรักเก้าร้อยซีซีได้อย่างเซียน!

    รถมอเตอร์ไซค์ที่ตัวเจ้าของแทบจะเอาไม่อยู่!   ชวนให้แฟรงกี้ไม่สามารถละสายตาได้เลย

                “ น้ำลายยืดหมดแล้ว ” หล่อนคลี่ยิ้ม แถมใช้ส่วนปลายถุงมือ

    ปาดปลายคางของแฟรงกี้ราวกับกำลังเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำลาย ซึ่งกำลังไหลเลอะรอบขอบปากให้

     

              เรื่องอะไรหล่อนจะแพ้กันล้า? 

                   หากแพ้ขึ้นมาคงถูกริบถ้วยรางวัลกลับคืนไปหมดแน่!

     

                “ เธอชื่ออะไรหรอ? ” จนแล้วจนรอดแฟรงกี้ต้องเอ่ยถามชื่อจากอีกคน

                “ ลีอา ” ลีอาบอกสั้นๆ แล้วส่งคืนถุงมือและรถมอเตอร์ไซค์คืนสู่เข้าของ

                “ ลีอา… อยากให้ฉันไปส่งไหม? ” แฟรงกี้รวบรวมความกล้าทั้งหมดพูดถามขึ้น

                “ บอกแล้วไง… ฉันถนัดขี่เองมากกว่า ” ลีอาส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้อีกหน “ ฉันกลับเองได้ ”

    เล่นเอาชายผมสีฟ้าตรงหน้าถึงกับไปต่อไม่ถูก หล่อนได้แต่หวังว่าเขาจะเข้าใจที่หล่อนพูดตั้งแต่ครั้งแรก!

    แฟรงกี้แบ่งเงินรางวัลให้ ไม่สิ! มอบเงินที่ได้มาจากอีกฝ่ายยัดใส่มือของลีอา  “ พวกฉันแฟรงกี้ แฟรงกี้เฮ้าส์

    มีเรื่องอะไรให้ช่วยโทรเบอร์นี้ได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจนะ ” นอกจากยัดธนบัตรมัดด้วยหนังยางหลายทบเป็นก้อน

    แล้วก็มีนามบัตรพร้อมเบอร์โทรแถมมาให้ สมาชิกแฟรงกี้เฮ้าส์ค่อยๆ ทยอยขี่รถของตนอันตธานหายไปในความมืด

     

              ไม่มีใครได้ล่วงรู้หรอกว่านอกจากกลุ่มนักซิ่งบนถนนหลวงทั้งสองกลุ่มใหญ่ ออกแข่งซิ่งในยามค่ำยืนแล้ว

    ยังมีอาคันตุกะไม่ได้รับเชิญกำลังนั่งมองดูพวกเขากันอย่างเงียบๆ บนมุมสูงซึ่งไม่อาจจะสามารถถูกจับได้

                “ Well well เป็นตัวหมากชั้นยอดเหมือนกันแฮะ ” แชงค์ปรบมือทั้งสองข้างจนเกิดเสียง แปะ แปะ

    เอ่ยปากชมเพื่อนรักกับความตาถึง ไม่ว่าจะคัดเลือกจากใบหน้าของแม่สาวบริกรจากงานเลี้ยงบนดาดฟ้า

    ไม่ได้มีแต่ใบหน้าตางดงาม เรือนร่างชวนให้หลงใหล แต่เหมือนว่าจะมีความสามารถเฉพาะตัวซึ่งยากจะเลียนแบบได้!

                “ ฟุฟุ ก็ต้องดีสิ เลือกเองกับมือ ” มิฮอว์คนั่งกอดอก ไขว้ขาด้วยท่าทางถนัดประจำกาย

    ผุดรอยยิ้มมุมปากจางๆ ดวงตาสีอำพันคู่นั้นฉายแววชื่นชมหญิงสาวของเขาออกมาได้อย่างเด่นชัด!

                “ อย่าลืมนะ เมื่อจบเรื่องต้องเคลียร์กระดาน ” แชงค์พูดให้อีกคนเข้าใจ

    คนนอก โดยเฉพาะ ‘มนุษย์’ จะแพร่งพรายเรื่องการมีอยู่ของสายพันธุ์อมตะออกไปสู่สาธารณะไม่ได้!

                “ เรื่องนั้นฉันจำขึ้นใจเลยล่ะ ” ไม่ต้องให้พูดย้ำเตือนกันบ่อยๆราวกับเด็กเล็ก มิฮอว์คก็ทราบ

    และท่องจำได้อย่างขึ้นใจพวกเขาต้องกำจัดทุกคนที่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นลูกเล็กเด็กแดง 

    ต่อให้เป็นคนรักอย่างสนิทใจ รวมกระทั่งเรื่องของความรู้สึก! 

                  เรื่องราวทุกอย่างจะถูกลบออกราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นจริง!

     

     

     

    ยาวหน่อยนะตอนนี้ คิดว่าคงหายไปสักพัก… ถ้าไหวแล้วจะกลับมาอีกที

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป…

    8/7/2021

            เล่นทวิตเตอร์แล้วเจออันนี้มา ก็จริงนะ…. ตรงกับความรู้สึกในตอนนี้เลย 

                โดนเงาซึ่งเหมือนว่าเขามาตามอ่าน ไม่ได้กดเฟบหรือคอมเมนต์มาก็อปก็เเล้ว… บั่นทอนจิตใจมากๆ

                       อย่าก็อปเลย   อย่าเงาเลยทุกท่านเพราะถ้าเงา… เราก็เงาเช่นกัน… 

                                     หรือบางทีเขาอยากให้เรากลายเป็นเงา ค่อยๆหายไปในที่สุด….

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×