คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Animals : Madness. II
คฤหาสน์วาเรีย
“ พวก CEDEF ตามกลิ่นมาจนเจอแล้วนะ ” สควอลโล่วางแฟ้มเอกสาร
ลงบนโต๊ะทำงานของแซนซัส พร้อมรายงานความคืบหน้า เจ้าพวกนี้เป็นอีกหนึ่งหน่วยที่หู ตาว่องไวที่สุด
ของหลายๆหน่วย เช่นเคย ตามกลิ่นจนกระทั่งสามารถลักลอบเข้าไปถึงฐานทัพลับ
“ อืม แล้วยังไง? ” แซนซัสถามขณะเปิดกองแฟ้มเอกสารมาใหม่ตรงหน้าขึ้นมาอ่าน
เขาสามารถอ่านเอกสารระหว่างตอบโต้กับคู่สนทนาได้ดี
“ ก็แค่ส่งกลับบ้านเกิด ” หรือเรียกง่ายๆร่างกายที่ไม่เคลื่อนไหว นอนนิ่ง ไม่หายใจ ตัวเย็น
หรือเรียกอีกอย่างด้วยภาษาชาวบ้านเรียกว่า ศพ
“ ระวังศพไม่เงียบละไอ้สวะ! ” แซนซัสรู้ดีพวกCEDEF แต่ละตัว ความสามารถหลากหลายเฉพาะทางทั้งนั้น
เด่นๆก็คง มอเรตตี้ นักถูกฆ่ากับความสามารถ การหยุดเต้นของหัวใจตัวเอง ไม่ว่าทาง CEDEF จะมีนักฆ่าหน้าใหม่
หน้าเก่า สควอลโล่ไม่ควรย่ามใจอยู่ดี ดังนั้น สควอลโล่ควรทำการบ้าน ศึกษาเจ้าพวกนักฆ่าทั้งหมดให้มากกว่านี้!
“ มันสาวมาไม่ถึงพวกเราแน่ไอ้บอสเวร! ” สควอลโล่ต้องการให้แซนซัสมั่นใจ
เหยี่ยวข่าวกรองของเขา รายงานว่าฐานทัพ(ลับ)ถูกบุกรุก โดยพวกCEDEFพร้อมทั้งให้ข้อมูล จากกล้องวงจรปิด
ในสถานที่เกิดเหตุ และแน่นอนเขากำจัดพวกเห็บหมัดที่เป็นเสี้ยนหนามด้วยมิสไซล์ จัดส่งตามที่อยู่บ้านพัก
(จากข้อมูลที่ได้มาจากส่วนกลาง)
อย่างน้อยพวกเบอร์ต้นๆก็โดนซิวไปหมดแล้ว หากเป็นพวกเบอร์ล่างๆคิดอยากจะเห่าหอน
บอกได้เลยว่าพวกนั้นไม่กล้าแหย๋มกับเหล่าวาเรียแน่ การปฏิวัติครั้งนี้ใกล้บรรลุเป้าหมายขึ้นทุกที
และทุกอย่างกำลังดำเนินตามแผนที่กำหนดไว้
ภายในสัปดาห์ พวกเขาจะบุกไปญี่ปุ่น เพื่อท้าประลองกับเจ้าพวกเด็กมัธยมต้น เล่นตามกฎกติกา
ตามประเพณีการสืบทอดของทางสายเลือดและผู้พิทักษ์แหวนวองโกเล่ เหยี่ยวข่าวก็สามารถสืบได้อีกว่า
ก่อนที่พวกเขาจะลักพาตัวรุ่นที่เก้าๆนั้น ได้ส่ง รีบอร์น นักฆ่าเบอร์มือฉมัง ไปสอนพิเศษให้เจ้าพวกเด็กนั่น
ใครๆก็ทราบดีรีบอร์นเป็นคนมีสังคมกว้างขวาง คอนเน็คชั่นดีเยี่ยม จึงสามารถดึงนักฆ่ายอดฝีมือ
มาช่วยกันเทรนพวกเด็กๆเหล่านั้นให้พร้อมรับมือกับพวกเขา
จะได้เชือดคนทั้งที ต้องขออวยพรให้เจอคู่ต่อสู้มีฝีมือสูสีกันหน่อย ต้องแบบนี้สิ...ถึงจะสนุก!
ประชุมยามดึกหลังจากกลับจากภารกิจสุดหฤโหดกับแซนซัส และเคลียร์เอกสาร(ที่คั่งค้าง)
ทั้งกองเสร็จหมดทุกแฟ้ม สควอลโล่ยกมือขึ้นมาดูนาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือ บอกว่าวันนี้เลยเวลาเข้านอนดึก
เกินไปแล้ว(ตอนนี้ราวๆตีหนึ่งกว่า)และที่สำคัญ รู้สึกว่าอาหารมื้อเย็นที่เพิ่งทานมาจะย่อมหมดกระเพาะแล้ว
คงเพราะใช้สมอง(พลังงาน)เยอะ จึงทำให้สควอลโล่ยอมเดินจากห้องพัก ลงมาที่ครัว ใจจริงสามารถยกหูโทรศัพท์
เรียกบัตเลอร์ จัดส่งขึ้นมาเสิร์ฟให้ถึงห้องทันที โดยที่ไม่ต้องลงไปด้วยตนเอง เปิดตู้เย็นหาเนยถั่ว กับขนมปัง
ทำแซนวิชเนยถั่วกับนมอุ่นๆอีกหนึ่งแก้ว ง่ายๆแค่นี้ก็อิ่มแล้ว
หลังจากรองท้องแล้ว สควอลโล่จึงเดินกลับขึ้นชั้นบน ทว่าสายตาคมกริบของสควอลโล่เห็นบางอย่าง
ยุกยิกบนโซฟาหลุยส์ในห้องรับแขก ดึกแล้ว...ใครมานอนตรงนี้กัน? ด้วยความใคร่อยากรู้จึงสืบเท้าเข้าไปใกล้
อย่างแรกคือได้กลิ่นของเหล้าเหม็นคลุ้ง จนต้องยกมือขึ้นมาโบกไล่กลิ่นบนหน้า ชะโชกหน้ามองชัดๆอีกที
ร่างสูงโปร่งนอนเหยียดขาบนโซฟาตัวยาว ยังไม่พอนอนกอดขวดเหล้าอีกด้วย
จะว่าไป...มองในความมืดนี้แล้วก็พอเห็นเป็นลางๆ รู้ว่าเป็นใคร
“ เดนเซล ” สควอลโล่ขมวดคิ้ว
เดนเซลไม่ใช่คนขี้เหล้าเหมือนบอสเวร! หน้าตาใสซื้อ แม้จะตามไปที่ห้องพักคนงาน
ก็ไม่เห็นมีพวกเครื่องดื่มมึนเมาสักขวดตั้งให้เห็น
“ เดนเซล ” สควอลโล่เรียก ส่งมือออกไปเขย่าปลุกเรียกให้ตื่น
“ ฮือ ” เหมือนจะรู้เรื่อง เจ้าของร่างตอบเหมือนละเมอ คล้ายจะลืมตา
แต่ยังนอนอยู่ท่าเดิม
“ เดนเซลโว้ย! ” สควอลโล่ขึ้นเสียงไฮโน้ต
บอกได้ว่าต้องตื่นหากยังไม่ตื่นขึ้นมาจริงๆ เดนเซลอาจจะไม่มีโอกาสตื่นขึ้นมาอีกเลยก็ได้!
“ เออๆ รู้แล้วน่า ” เดนเซลงัวเงีย พยายามชันร่างขึ้นมาในท่านั่งด้วยความทุลักทุเล
และกว่าจะลุกขึ้นมาในท่านั่งได้ สควอลโล่เท้าสะเอวเรียบร้อย
“ เป็นอะไร มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า? ” สควอลโล่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
ถามด้วยความเป็นห่วง
“ ฉันนะหรอ ฮึก มีเรื่องไม่สบายใจ? ” ทวนคำถามปนสะอึก
“ บอกฉันได้นะ ” สควอลโล่วางฝ่ามือหนาๆลงบนแก้มนุ่มของเดนเซล
เขาเริ่มมีความสงสัยบางอย่างในตัวเดนเซล...บางทีอาจจะเป็นเรื่องครอบครัวก็ได้
สังเกตจากเปลือกตาทั้งสองข้างบวมตุ่ยเชียว คล้ายผ่านการร้องไห้หนักๆมายกใหญ่ เดนเซลคงเป็นสายฮีลตัวจริง
แม้ว่าสควอลโล่จะหัวเสียฟาดงวงฟาดงากับคนอื่นมา เดนเซลจะทำให้เขารู้สึกสบายใจมากขึ้นทุกทีที่อยู่ใกล้ๆ
ให้เปรียบเทียบคงเป็นพลังงานบวกก้อนใหญ่ๆ ที่สควอลโล่ถวิลหาอยากวิ่งเข้าไปกอดไว้แน่นๆ ถึงคราวเดนเซลทุกข์ใจ
สควอลโล่เองก็อยากจะเป็นสายฮีลลิ่งช่วยเหลือด้านความรู้สึกได้ก็คงดีไม่ใช่น้อย
“ คุณ ฮึก ช่วยผมไม่ได้หรอกครับ แต่ก็ขอบคุณนะ ” เดนเซลวางฝ่ามือตัวเอง
ทับมือสควอลโล่ สัมผัสจากมือหนาทำให้รู้สึกอบอุ่นประหลาดจนมาถึงใจ
“ ตามใจ ” ชิส์! ไม่อยากรู้ก็ได้ว่ะ!
สคอลโล่อยากจะลุกขึ้นแล้วปล่อยให้นอนอยู่ตรงนั้น คิดว่าให้เดนเซลสร่างเมาแล้วกลัวห้องพักคนงานเอง
แต่คิดอีกที หากแซนซัสลงมาด้วยตอนนี้ และมาเจอเดนเซลสภาพนี้ มีหลังเละแน่ๆ
สองคนนี้ยิ่งถูกกันอยู่หรอก!
ดังนั้นสควอลโล่ควรลากเดนเซลไปเก็บที่ไหนสักแห่งใกล้ที่สุดตอนนี้ ห้องครัวไม่ดีแน่ ห้องเก็บของไม่เวิร์ค มองซ้ายแลขวา
ก็มีแต่ลากขึ้นห้องพักของตนนี่แหละที่เรียกว่าเหมาะสมสุดแล้ว ผู้ชายสองคน นอนห้องเดียวกันคงไม่มีอะไรมากหรอก
และคงไม่มีใครคิดอะไรมากด้วย สควอลโล่ประคองร่างเดนเซลขึ้นมา ร่างกายบอบบางเบาหวิวจนน่าตกใจ
บอกได้ว่าเขาสามารถยกร่างเดนเซลด้วยแขนซ้ายทั้งแขนด้วยซ้ำ สงสัยหมอนี่คงกินข้าวไม่ครบสามมื้อ
ถึงผอมกะหร่องแบบนี้เดินไปได้ครึ่งทางกำลังจะถึงหน้าห้อง เดนเซลเหมือนรู้สึกตัว ส่งงัวเงียประหลาด
ทว่ายังให้ความคุ้นๆอยู่ดี
“ อ่อค อ่อค แหวะ ” แค่เสียงไม่พอยังหันหน้ามาอ้วกใส่สควอลโล่อีกด้วย
“ ไอ้ลิงเวร! ” ไอ้ฉิบหาย! ขอยืมคำด่าของแซนซัสมาใช้หน่อยเถอะ
สควอลโล่ไหวตัวเกือบไม่ทัน ไม่อย่างนั้นคงได้เลอะคราบของเก่า ขย้อนออกมาจากกะเพาของเดนเซลแน่ๆ
สควอลโล่ผลักร่างเดนเซลกระเด็นออกไปให้ห่าง ล้มลงก้นจ้ำเบ้า นอนหลับสนิทคาที่เหมือนไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น
โปรดสัตว์ได้บาปแท้ๆ
สควอลโล่ส่ายหน้าหน่าย ยกขายาวๆเพื่อเดินข้ามร่างของเดนเซล ที่ทำท่าเหมือนกำลังจะสำรอกอ้วกออกมาอีกหน
แห๋งละว่ามืออีกข้างกอดขวดวิสกี้แน่น แม้จะล้มตัวลงนอนวัดขนาดพื้น ขวดวิสกี้ก็ไม่หก ตกแตกเสียด้วย
มาขนาดนี้แล้ว จะทิ้งมันนอนตรงนี้หรือไง?
สควอลโล่ตัดใจทิ้งเดนเซลไม่ลง เดินย้อนกลับไปจับข้อมือเล็กๆออกแรงไม่มาก ลากเดนเซล
กลับเข้าห้องของตัวเองได้อย่างไม่มีอะไรติดขัด ด้วยความมืดของตัวคฤหาสน์ที่ปิดไฟในช่วงกลางคืน
ทำให้สควอลโล่ไม่ได้ทันสังเกตหรอกว่ามีใครบางคนอาศัยมุมมืดซ่อนตัวอยู่ แซนซัสเองก็ลงมาจากชั้นบน
ด้วยความหิวไม่ต่างอะไรกับสควอลโล่ แต่เขาโดนความหิวโจมตีอย่างหนักไม่ใช่อาหาร แต่เป็นเหล้า
หาบรั่นดีสักขวดแล้วค่อยขึ้นห้อง แต่ได้เห็นภาพ บางอย่างจึงต้องสงสัยแอบสะกดรอยโดยที่สองคนไม่ทันรู้สึกตัว
“ อ่อค อ่อค แหวะ ” เดนเซลหันหน้ามาอ้วกใส่สควอลโล่
“ ไอ้ลิงเวร! ” สควอลโล่ผลักร่างเดนเซลกระเด็นชนกำแพง
ปล่อยให้เดนเซลสไลส์ตัวลงไปนอนกับพื้น บอกตามตรงเลยนะว่าแซนซัสกลั้นขำแทบตาย
คล้ายหนังซิทคอมที่เคยดูจากในโทรทัศน์ จนแล้วจนรอดสควอลโล่ก็ลากเจ้าลิงเวรนั่นเข้าห้องไปได้ด้วยดี
“ ไอ้เวรนี่หาเรื่องจริงๆ ” สควอลโล่บ่นอุ่บ อุ้มร่างของเดนเซลขึ้นมาโยนลงบนเตียง
เดินไปหยิบโทรศัพท์กดเบอร์บัตเลอร์ที่ยังตื่นอยู่ ให้เรียกคนมาจัดการกองอ้วกตรงทางเดิน วางสายเมื่อสนทนาจบ
มองหาผ้าขนหนูขนาดเหมาะมือกะละมังอีกใบ ใส่น้ำมาพอเหมาะ เช็ดคราบอ้วกเลอะๆนั่นออกไป ซับใบหน้า
แก้มนุ่มแดงระเรื่อสองข้าง ริมฝีปาก คางที่เลอะๆให้สะอาด อย่างน้อยก็ลดกลิ่นลงไปได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์
หยิบขวดน้ำขนาดพอดีมือ ประคองร่างเดนเซลขึ้นมาในอ้อมอก ตบแก้มเรียกให้มีมีสติและบังคับให้ดื่มน้ำเยอะๆ
แน่นอนละว่าเดนเซลดื่มจนหมดขวดแล้วหลับต่อ
พอมองลองพิจารณาใบหน้าไร้เดียงสา แก้มแดงระเรื่อจากพิษแอลกอฮอล์
ปากนิด จมูกหน่อย ทำให้สควอลโล่นึกถึงใครบางคน..
“ นายเป็นใครว่ะ? ”
คำถามที่ยังติดอยู่ในใจของสควอลโล่อยู่หลายวัน ตั้งแต่วันแรกที่พบจวบจนถึงทุกวันนี้
“ เดนเซล หว่อง เป็นเอ่อ...กรรมกร พ่อครัว บ๋อย แล้วก็... ” เดนเซลแนะนำตัวง่ายๆ
โดยที่ไม่ได้รู้สี่รู้แปดเลยว่า ชื่อของเขาทำให้สควอลโล่นึกถึงใครบางคน...
เดนเซล หว่อง ดอกไม้งามท่ามกลางเหล่าดง(โรงเรียน)มาเฟีย เดนเซล ถือเป็นมาดอนน่าของหนุ่มๆในโรงเรียน
รูปร่างสูงสมส่วน หุ่นทรงนาฬิกาทราย เส้นผมสีน้ำตาลเข้มทรงผมม้วนลอนปลาย ขับผิวขาวเนียนให้ดูเด่น
เรื่องของเครื่องหน้าไม่ต้องพูดถึง คิ้วโก่ง หน้ากลม ต้องตา โอโหยยย สาวบางโพยังร้องบอกโก้จริงๆ
ใบหน้างดงามราวกับพระเจ้าปั้นเองกับมือ! ไม่ว่าจะขยับตัว ทานอาหาร เดินเปลี่ยนห้องเรียน
นั่งเล่นอ่านหนังสือกับพรรคพวกที่สวนหย่อมของโรงเรียนก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้ตลอด
แม้ว่าจะมีนักเรียนตีกันอยู่ก็ตาม แค่เดนเซลเดินผ่าน(โดยไม่แยแส)ทั้งสองฝ่ายต้องหยุดมือกันทันที!
ชื่อ นามสกุลอาจจะซ้ำกันเยอะแยะ อีกอย่างนะ...คงไม่ใช่..คนๆนั้นแน่
“ เออ อยากเป็นอะไรก็เป็นไปเถอะ! ” สควอลโล่ตัดบทอย่างไม่สนใจ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว
เขาพยายามหาโอกาสมาเพื่อเข้าหาเดนเซลทุกครั้ง ข้อสันนิษฐานของเขาอยู่ระหว่างห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทั้งจะใช่และไม่ใช่
“ ยัยผู้หญิงใจร้ายคนนั้นนะหรอ?? ไม่มีทาง! ” สควอลโล่ไม่เชื่อ
แค่อาจจะคนหน้าคล้าย..ก็ได้
ก้มลงมองใบหน้าของเดนเซลอีกครั้ง แล้วพิจารณาอีกหน เดนเซลแนะนำตัวเอง บอกชื่อ นามสกุลให้เขารู้
โดยที่ไม่มีอะไรปกปิดหรือความลับ คล้ายกำลังจะประกาศตัวให้สควอลโล่รับรู้ หรือต้องประกาศตนอย่างโจ่งแจ้ง
“ น้ำ หิว น้ำ ” เดนเซลขยับตัว เปิดขวดวิสกี้ในมือออกมา
ยกขวดขึ้นกระดกแบบออนเดอะร็อค โดยไม่ต้องผสมมิกเซอร์
“ แอร้ ” เหมือนชื่นใจ ปิดฝาขวดแล้วหลับต่อเฉย
พอมองในขวดสังเกตได้ว่าของเหลวสีอำพันพร่องเกินครึ่งขวด สควอลโล่ส่ายหน้า สมควรที่เมาเหมือนหมาแล้วละ
ซบหน้าลงบนอกของสควอลโล่ เข้าสู่นิทรา
“ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นเธอจริง? หืม เดนเซล? ” สควอลโล่ถามหาวิธีจากคนหลับ
ใช่หลับสนิทยิ่งกว่าโดนไม้หน้าสามตีท้ายทอยให้สลบเหมือด ลมหายใจอุ่นๆ มีกลิ่นแอลกอฮอล์
ผสมปนอยู่ด้วย รดใส่ใบหน้าของคนใกล้ชิด นัยน์ตาคมจดจ้องไปที่ริมฝีปากกระจับ พร้อมกับความคิดอกุศล
น่ากดจูบแรงๆ หลังจากจ้องมองอยู่นาน สควอลโล่เลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ งับเข้าให้กับริมฝีปากล่างด้วยความหมั่นเขี้ยว
ดึงให้ยืดเหมือนชีสในโฆษณาพิซซ่าแล้วปล่อยให้เด้งกลับเข้าที่
ประกบจูบแรงๆเหมือนฉลามผู้หิวโหยพุ่งเข้าโจมตีเหยื่ออันโอชะ
แทรกลิ้นเข้าโพลงปากกวาดลิ้นไปทั่ว ตอนนี้เขาสามารถรับรู้รสได้เพียงของวิสกี้เต็มๆ
แอลกอฮอล์งั้นหรอ? ไม่ได้ดื่มมานานแล้วเหมือนกัน
รสชาติหวานละมุนติดปลายลิ้น ที่ไม่ยากจะละออกมา จูบไม่ยั้ง ไม่ลดละ แม้มือเล็กจะทุบเข้ากลางอกแรงๆ
แผงอกกำยำไม่สะเทือนสักนิด เหมือนใช้สันมือทุบลงบนหินแกรนิตให้เจ็บมือเล่นๆ
“ แฮ่ก แฮ่ก คุณสควอลโล่ จูบฉันทำไม? ” เดนเซลหอบแฮ่กๆ เหมือนจะขาดใจตาย
เนื่องจากหายใจไม่ทัน ซ้ำร้ายยังโดนขโมยจูบเฉยเลย
“ เดนเซล ” สควอลโล่เรียกชื่อเหมือนต้องมนต์ จ้องมองลึกเข้าไปที่ดวงตาสีฟ้าอันเย้ายวน
เลื่อนฝ่ามือหน้าล็อคท้ายทอยไว้ไม่ให้หนี และดึงมืออีกข้างที่คิดว่าจะสร้างความรำคาญใจออกไปอีกทาง
“ คุณสค.... ” เสียงเรียกชื่อนั้นถูกดูดกลืนหายเข้าไปในลำคอ
โอกาสหนที่สองในการเอาตัวรอดจากฉลามเจ้าแห่งท้องทะเล เป็นศูนย์หมดทางหนี เดนเซลรู้ตัวอีกทีแผ่นหลังเล็กๆ
นอนลงบนเตียงนุ่มขนาดคิงไซส์ เรียบร้อย ถูกทาบทับด้วยจากน้ำหนักตัวของสควอลโล่ เกือบทั้งหมด
ขาเรียวทั้งสองข้างถูกเข่าของสควอลโล่แทรกกายเข้ามา สควอลโล่หยิบขวดวิสกี้ที่เดนเซลปล่อยไว้ข้างตัวขึ้นมา
เปิดฝาซดแบบออนเดอะร็อค สองสามอึก แต่อึกสุดท้ายยังไม่ทันกลืน ปาขวดในมือทิ้งไปทางมุมห้อง
เสียงแตกกระจายตามมากดริมฝีปากจูบเดนเซลที่กำลังหอบแฮ่ก จากการขาดอากาศรอนๆ
ของเหลวสีอำพันถูกป้อนจากริมฝีปากสควอลโล่ ให้เดนเซลได้กลืนลงคอไปทั้งหมด สควอลโล่ถอนจูบ
เงยหน้ามองดูผลงาน วิสกี้หกเลอะเปรอะเปื้อนตามริมฝีปาก ลำคอไหลจนไปถึงหน้าอก หายวับเข้าไปในเสื้อเชฟ
ชวนให้อยากจะช่วยหาต่อ..ว่าไหลไปถึงไหน
สควอลโล่แตะปลายลิ้นเลียเบาๆ ขบจูบทำความสะอาดตามรอยวิสกี้ที่เลอะช้าๆ สูดกลิ่นหอมประหลาด
ทั้งคราบเหงื่อจากการทำอาหาร น้ำหอมจางๆ ผสมรวมกับกลิ่นวิสกี้เข้มๆเข้าไปด้วย
ปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนในกายมากขึ้น เดนเซลใช้ลิ้นแตะริมฝีปากคล้ายลิ้มรสคาวเลือด
กลับถูกสควอลโล่ดูดปลายลิ้น เข้าไปเกี่ยวพัลวัน ลิ้มรสเลือด บางทีเขาอาจจะรุนแรงและบ้าคลั่งจนทำให้อีกคนกลัว
ทำเดนเซลปากแตก รู้สึกผิดลึกๆในใจ ต่อจากนี้ไปจะพยายามเบามือลง ตอนนี้ร่างกายรุ่มร้อนไปทั่ว
แม้จะเปิดเครื่องปรับอากาศให้อุณภูมิเหมาะสมแล้วก็ตาม เหงื่อตามผิวกาย ข้างขมับขับออกมาเท่าลูกสาคูเล็กๆ
จนต้องถอดเสื้อผ้าชุดเครื่องแบบวาเรียทิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่ติดเรื่องราคา
หากสายตาดีคงเห็นว่าเป็นชุดสั่งตัดจากอาร์มานี่เลยทีเดียว
เผยให้เห็นผิวหายขาวเนียนคล้ายไม่เคยต้องแสงแดดจัดๆ มัดกล้ามตามลำตัวเหมาะสมกับส่วนสูง ไม่ปูหรือแห้งเกิน
โดยเฉพาะแผงอกกำยำ กล้ามท้องหน้าท้องไร้ไขมันเห็นเป็นซิกแพคขึ้นเป็นลอนชัดๆ
ผลลัพท์จากฝึกฝีมือการต่อสู้ ร่างกายทุกวัน ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียนมาเฟียด้วยซ้ำ
สควอลโล่เห็นว่าเดนเซลแอบลองมองก่อนหลับตาปี๋ ก็ดีใจเล็กๆที่เดนเซลไม่ได้รังเกียจตัวเขามากนัก
แม้เดนเซลจะทำงานร่วมกับผู้ชายบ่อยก็จริง แต่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดแนบเนื้อกันขนาดนี้โดยเฉพาะความเป็นบุรุษเพศ
เกินมาตรฐานชิดบริเวณต้นขาจนเดนเซลต้องเบือนหน้าหนี...
ยากที่สควอลโล่จะหยุดหรือปล่อยเหยื่ออันโอชะไป เป็นครั้งที่สอง
สควอลโล่ไม่สนใจหรอกว่าเดนเซลจะเคยเป็นหญิงสาวที่เคยหักอกกันมาก่อน หรือจะเป็นเพศชาย
มาดแมนเหมือนตัวเขา ตอนนี้สควอลโล่ไม่มีเวลามาสนใจอะไรทั้งนั้น!
ขอวันนี้เขามีความสุขมาเติมเต็ม ต่อให้โลกจะแตกก็ช่างแม่งละกัน!
สควอลโล่เอ๊ย!..... เบาได้เบา!..... แล้วแบบนี้เดนเซลจะรอดไหมเนี่ย???
โปรดติดตามตอนต่อไป....
18-4-2563
ความคิดเห็น