ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic: KHR Reborn] Animals. อสูรร้าย นายวาเรีย

    ลำดับตอนที่ #4 : Animals : Madness.

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 64



     

    - Madness.-

     

    กร่อก แกร่ก กร่อก แกร่ก เสียงพัดลมตั้งโต๊ะขนาดสิบแปดนิ้ว ส่งเสียงครวญครางอย่างไม่มีความสุข

    ตลอดเวลาที่สายหน้าไปทางขวาที ซ้ายที ลมร้อนนั้นไม่ต่างอะไรกับนั่งอยู่หลังคอมเพรสเซอร์แอร์สักนิด! 

    ไอความร้อนภายในห้องสีดำมืดสนิทประทะเข้ากับใบหน้าของแซนซัส ทันทีที่ย่างเท้าเข้าไป คงเพราะถูกฝึกมาให้ทำงาน 

    รับภารกิจส่วนมากในเวลากลางคืน จึงทำให้แซนซัสพอเห็นรางๆ ในห้องแคบหกเสื่อ มีเตียงนอนเหล็กเก่าๆ 

    ตู้เสื้อผ้าพลาสติก โต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆตั้งตรงหัวนอนแค่นั้น ไม่ได้มีห้องน้ำในตัวเหมือนของเขาเลยสักนิด 

    กระชับปืนพกในมือมั่นจนแทบจะเผลอปืนแตกเป็นเสี่ยงเดินเต็มฝ่าเท้าช้าๆ ชักปืนขึ้นมาปลดเซฟตี้ 

    หากคนตรงหน้าขยับยุกยิกละก็...เป่าสมองไหลเป็นโจ๊กแน่! 

               ร่างสูงโปร่งไซส์ฝรั่งราวๆเกือบสองเมตรเข้าประชิด เอื้อมมือหยิบสิ่งที่น่าจะเรียกว่าหมอนแข็งๆ

    วางกดลงบริเวณใบหน้าคนบนเตียง แน่นอนละว่าระยะถุยน้ำลายยังถึงขนาดนี้ไม่มีทางพลาดแน่!

               

                “ งือออ ร้อน ร่างคนบนเตียงปัดหมอนที่กดบริเวณใบหน้าทิ้งไปอีกทิศ

    ไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีภัยเข้ามาเยือน ภัยในนี้ที่เรียกว่าอันตรายต่อชีวิต

                “ เวร! แซนซัสตกใจ ไม่ได้มีเพียงแค่หมอนที่กระเด็น ปืนในมือก็กระเด็นตามไปด้วย

    ซึ่งอันตธานหายไปในความมืด ไม่รอช้า แซนซัสใช้ฝ่ามือบีบเข้ากลางลำคอ

                หมับ! เข้าให้ หมายจะใช้เพลิงพิโรธทำลายหลอดลมให้แหลกคามือ 

                “ งือออ คนบนเตียงยังเปล่งเสียงในลำคอ ใช้ท่อนแขนเรียวเล็กปัดเข้าวงใน ให้ข้อมือของแซนซันเกิดงอตัว

    คล้ายว่าตอนนี้ร่างของแซนซัสถูกดึงเข้ามาใกล้ ในระยะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ห่างไม่ถึงมิลลิเมตรดี 

                   ตึง

    น้ำหนักตัวของแซนซัสถูกทิ้งลงบนเตียงนอนเหล็กเก่าๆผุขึ้นสนิม จนกระทั่งฟูกรองรับน้ำหนักต้องยุบตัว

    สปิงสนิมเขรอะด้านใดฟูกส่งเสียงร้องเอี๊ยดอ๊าดประท้วง เมื่อมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเกือบอีกเท่า

                “ แสบนัก! แม้นจะหลับแต่ยังสามารถต่อกรกับแซนซัสได้ ไม่สิ เขาอาจจะประมาทเกินไป

    ท่าทางแบบนี้ คงเดาว่าเดนเซลต้องมีพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้แน่ๆ(แม้จะเป็นแค่พื้นฐานเถอะ) ต่อไป..คงไม่พลาด!

                

                แปลก ปลายจมูกโด่งๆกลับสูดได้รับกลิ่นหอมของแป้งเด็กจางๆ 

    คล้ายเพิ่งอาบน้ำหมาดๆแล้วทาแป้งเด็กให้หอมชื่นใจ หอมมาจากไหนกันนะ? ว่าแล้วต้องขยับตัว 

    ชะโงกใบหน้าหล่อๆเข้าใกล้ ตามซอกคอทั้งสองข้างสูดดมรับกลิ่นเบาๆ

                อ่า หอมจัง

    รู้สึกชอบใจกลิ่นนี้มากกว่าน้ำหอมราคาแพงๆบนตัวแม่สาวทอร์นาโด คล้ายกดสวิตช์เปิดปุ่มปลุกประสาทบางส่วน

    ให้ทำงาน นอกจากปลายจมูกสูดรับกลิ่นหอม ริมฝีปากร้อนๆ ทาบทับลงลอยเป็นหลักฐาน 

    มาร์คให้ทราบว่าสำรวจตามพื้นที่นั้นๆแล้ว

                ฝ่ามือหนา หยาบกร้านจากการจับด้ามปืนสมัยยังเยาว์วัย ลูบไล้บนชุดนอนแขนยาว

    จนกระทั่งถึงผิวเนียนนุ่ม ต่างจากผิวหนังหยาบกร้านของชายชาตรีอย่างเขา

    โลชั่นนะหรอ? ไม่มีวันได้ทาลงบนผิวหรอก(นอกจากครีมกันแดดที่โดนลุซซูเรียจับทา) ไม่ว่าจะผิวหน้าหรือผิวกาย 

    มีผู้ชายที่ไหนจะขยันทาผิวได้ทุกวัน คงไม่มีเวลามานั่งสำอาง ส่องกระจกทั้งวันหรอกนะ  อ่อ ยกเว้นลุซซูเรียคนนึง

                “ งือ เหมือนรำคาญบางอย่างที่กำลังรุ่มร่าม

    ใช้ฝ่ามือน้อยปัดมือของแซนซัสให้พ้นทาง

                “ ก็ได้ แซนซัสยอมเล่นด้วย รวบข้อมือเล็กๆทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ ได้ด้วยเพียงมือเดียว

    ส่วนอีกมือนะหรอ? หึหึ คงไม่อยู่เฉยๆ ไล้ปลายนิ้วลงบนกลางหน้าอก สัมผัสถึงชีพจรเต้นตรงตามจังหวะ

    หน้าอกยกตัวเคลื่อนไหวตามกลไกหายใจ แซนซัสกดใบหน้าลงช้างับเข้าที่กระดุมเม็ดแรก ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลย

    หากจะปลดกระดุมเสื้อด้วยลิ้นล้วนๆอย่างใจเย็น เม็ดที่สอง เม็ดที่สาม สาบเสื้อเผยออกทำให้เห็นเสื้อในลูกไม้สีดำด้านใน

    แซนซัสถึงกับต้องถลึงตามองอีกที บอกทีสิว่าไม่เมา ไม่ ไม่  บรั่นดีไม่เคยเล่นงานให้เขาเซได้สักครั้ง!

    ใช้มืออีกข้างหนึ่งเปิดสาบเสื้อให้แยกออกจากกัน ให้เห็นชัดๆ จะๆกันไปข้าง!

                ผ ผู้หญิง... อ๋อ ที่ไอ้ฉลามเวร! เข้ามาที่ห้องนี้บ่อยๆคงเพราะแบบนี้เองสินะ

    ไอ้ลิงเอเชียคงใช้ความหล่อ เข้าไปล่อซื้อสาวๆจากที่ไหนมาสักแห่ง เพื่อให้สควอโล่ได้หลับนอนด้วย

    คงต้องแลกกับเม็ดเงินจำนวนมาก แซนซัสรู้นิสัยสควอโล่ดี รายนั้นนะหรอ สายเปย์ 

    สควอโล่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินหนักๆ ให้กับทุกสิ่งอย่างที่เขาพอใจจะได้มันมา 

    ให้คิดคำนวณคร่าวๆมากกว่าค่าทำภารกิจระดับเอสสองสามเท่าก็สามารถจ่ายไหว 

    ถ้าของสิ่งนั้นถูกตาต้องใจจริงๆ สควอโล่จ่ายได้ทันทีโดยไม่ต้องคิดเยอะ  

    ร้ายนัก! ไอ้ลิงเวร! ใช้คฤหาสน์ของเขาเป็นแหล่งมั่วสุม พาสาวๆเข้ามาบำเรอกามอย่างนั้นหรอ? 

    คิดแล้วโมโห  ถ้าเจอกันจังๆอยากจะฆ่ามันให้ตาย!

     

     


     

    ฐานทัพ(ลับ)อิตาลี

    กลางหุบเขาสงวนแห่งหนึ่งที่โอบล้อมด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มหลากหลายชนิด สัตว์ป่าตัวน้อย ใหญ่ อาศัยอยู่กันตามธรรมชาติ

    กลับมีสถานที่รกร้างและมีระบบป้องกันการบุกรุกอย่างดีซ่อนอยู่ แม้จะถูกปิดตายนานนับกว่าสิบปี 

    ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ยากจนเกินไปสำหรับยอดฝีมือของCEDEF ลักลอบเข้ามารวมตัวกันอยู่ที่นี่

    ด้านในอากาศร้อนอบอ้าว ไม่มีอากาศถ่ายเท ซ้ำคราบฝุ่นเขรอะ เกาะทั่วเกือบทุกที่ ทว่าต้องระวังตัวตลอดเวลา

    เผลอไม่ได้เพราะอาจจะมีหน่วยระบบรักษา ความปลอดภัยเข้ามาเล่นงานได้ทุกช่วงเวลา

     

    “ อ่านจากรอยที่กาเอาไว้นี่เป็นรายงานเกี่ยวกับอาวุธของกองทัพอิตาลีเก่าสินะ ” ทาเมริคพับแผนที่ในมือ

    เก็บเข้ากระเป๋าเสื้อสูทสากลอย่างลวกๆ หยิบไฟฉายขนาดพอดีมือส่องไฟรอบๆ

     “ กองทัพ? ฟาบริโอสับสนกับคำพูดกำกวม

    “ ทำไมมีของแบบนี้ คิดว่าจะเป็นแค่ข่าวลือ ที่ว่ามีมาเฟียที่แอบซื้อ ผลการค้นคว้าที่กองทัพอิตาลี-

     พยายามจะปกปิดหลังสมัยสงครามโลก คาร์ลโลชักสงสัย เขาก็พอมีข้อมูลไม่มากก็น้อย

     ต้องทำความเข้าใจพร้อมทำความเข้าใจกับคนอื่นๆเช่นกัน

    “ อะไรกัน อาวุธพวกนี้ ดูเหมือนจะใช้งานมาจนถึงเมื่อสักพักนี่เอง ” ฟาบริโอเดินนำเข้ามาสำรวจ

    ภายในห้องโถงกว้างใหญ่ส่องไฟฉายไปรอบๆห้องอย่างระวังตัวแม้ฝุ่นจะหนาเตอะ หายใจไม่คล่องคอ

    ก็ไม่สามารถหลอกสายตาว่องไวของเขาได้ สังเกตจากเครื่องไม้ เครื่องมือบางอย่างปราศจากคราบฝุ่นบางสิ่ง

    บางอย่างไร้ฝุ่นจับ... จึงต้องเป็นอันต้องสงสัยไว้ก่อน 

    “ ท่าทางไอ้เจ้าอาวุธที่ว่านั่น จะถูกส่งไปให้พวกวอริเออร์แล้วสินะ” รัลกระชับปืนพกในมือให้มั่น

     กวาดตามองไปรอบๆอย่างไม่ไว้ใจ

    “ รุ่นที่เก้าคิดอะไรอยู่ จะเอาของแบบนี้ไปใช้อะไรกัน? ” ทาเมริค ขยับตัวไม่อยู่นิ่งมองเห็นแฟ้มเอกสาร

    ต้องสงสัยใกล้ตัวจึงสืบเท้าเข้าไปใกล้ ใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้ากระดาษขนาดเอสี่ ลายมือบุคคลเขียนภาษาอิตาลีอ่านยากนัก

    แม้จะมีภาษา ใช้คำศัพท์วิชาการยากแก่การเข้าถึง บางส่วนอ่านแล้วไม่เข้าใจอยู่บ้าง ทาเมริคจึงส่งเอกสารให้ทุกคนดู

                หุ่นยนต์รบไร้เทียมทาน หุ้มหนังด้วยเหล็กกล้าหลายสิบเซนฯ ชนิดว่าปืนผาหน้าไม้ยิงไม่เข้าแน่ๆ 

    หรือเรียกอีกทีว่าไม่สะเทือน คงต้องใช้ซีโฟร์หรือไม่ก็ระเบิดลูกโตปาใส่เล่นงานทีเดียวจบ 

    แบบไม่ให้ได้ลุกขึ้นมาสวนได้อีกเลย 

    ถ้าหากเรียกกายภาพคล้ายมนุษย์ถูกฝังระบบต่อสู้อัตโนมัติในส่วนของสิ่งที่เรียกว่าสมอง 

    ระบบการมองเห็นชัดระดับหนึ่งพันแปดสิบพี ได้ในเวลากลางวัน ตาสว่างเวลากลางคืน แม้นศัตรูจะเล็กกระจิ๋ว มด

    ปลวก แมลงสาบก็สามารถจัดการทำลายให้สิ้นซาก ด้วยการยิงกระสุนทำลายล้างออกปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง!

     

    “ ระบบตรวจสอบตำแหน่งไม่ทำงาน  มันอะไรกันนักหนา ไหนจะห้องทดลองอาวุธสงครามอีก

     ที่นี่ยังกับปราสารทจอมมารเลยแฮะ ”  ฟาบริโอส่ายหน้าเอือม อุปกรณ์สุดไฮเทคบนข้อมือซ้ายขนาดประมาณฝ่ามือ

    ค่อยๆแพลนกล้องจากทางซ้ายของห้อง ไปทางขวาสุดอย่างช้าๆ จ้องมองลงบนหน้าจอ ทว่าเจ้าเครื่องตรวจจับความร้อน

    ไม่ทำงานในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน บอกตามตรงว่าสถานที่แห่งนี้ ชวนสะอิดสะเอีอนไม่อยากอยู่ต่อแล้ว 

    “ อาวุธรูปร่างมนุษย์ที่ส่งไปให้วอริเออร์นั่นมัน..จะเป็นสำหรับอาวุธสำหรับสู้กับคนรึป่าวนะ” ออริกาโน่เริ่มสงสัย

    “ ไม่ละมั้ง คนที่ไหนจะไปสู้กับของแบบนั้นไหว อย่างแรกเลยอาวุธที่ติดตั้งมันดุเดือดเกินไป ”

    ทาเมริคคำนวณจากเอกสารที่เพิ่งอ่านจบอ่านคราวๆ คงต้องใช้รถถังหรือไม่ก็ขีปนาวุธยิงมากกว่า

          เอ่ยยังไม่ทันจบประโยคดี อาคันตุกะ ไม่สิ แขกผู้ไม่ได้รับเชิญก็โผล่เข้ามาอย่างไม่ให้ซุ่มเสียง

    อาวุธรูปร่างมนุษย์ตัวใหญ่เบิ้มกว่าห้าเมตร รูปร่างออกทางคล้ายหมีกริซรี่กระโจนทะลุเข้ากำแพงเข้ามาจากอีกฝั่ง 

    เศษชิ้นปูน คอนกรีตเล็กใหญ่กระเด็นไปขวางประตูทางเข้า ปิดโอกาศให้หลบหนี 

    ไม่ได้เปิดตัวเท่ๆเหมือนตัวร้ายในหนังเเอคชั่น เจ้าหุ่นรบพร้อมใช้ปืนที่ปลายนิ้ว สาดห่ากระสุนใส่อย่างไม่ยั้งมือ 

    หมายสังหารให้สิ้นซากภายในคราเดียว!

                ทุกคนวงแตกฮือคล้ายผึ้งแตกรัง กระโจนตัวหามุมอับหลบสายตาของหุ่นยนต์รบ บ้างได้จังหวะ 

    ใช้ปืนพกในมือยิงเข้าใส่อย่างไม่ปราณี

                    กึง กึง กึง

    เจ้าหุ่นรบเดนตายมันเดินมุ่งหน้าเป้าหมายตรงมายังออริกาโน่ แม้จะมองเห็นจากกล้องไนท์สโคป

    ตรวจจับวัตถุความร้อนใกล้สุด แม้จะเป็นกล้องเล็กๆฝังบริเวณในส่วนของใบหน้า ก็มองหาศัตรูได้โดยรอบ

    เป็นวงกว้าง ระบบสมองของมันกำลังคำนวณว่าเหยื่อตรงหน้าอ่อนแอที่สุด ใช้เวลาประมวลผลไม่เกินสิบนาทีด้วยซ้ำ

                “ มันมาแล้ว “ ออริกาโน่วิ่งเข้ามุมตึกหลบภัย

     

          ปัง ปัง ปัง

    ทุกต่างต่างพากันระดมยิงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

                “ บ้าจริง ไม่เข้าสักนัด ไม่รู้ว่านั่นเหล็กกล้าหรือแร่ไวเบรเนี่ยม    เสียดาย. … ที่ยังไม่คืนร่างเดิม.... 

    รัล มิลจิ บ่นกระปอดกระแปดในใจขณะกลิ้งตัวหลบไปอีกทิศ เพื่อให้เจ้าหุ่นยนต์หันมาสนใจตน มากกว่าคนอื่น

    มันย่างเท้าเข้าไปใกล้ออริกาโน่ทุกที แต่คราวนี้มือยกมือซ้ายขึ้นมา คาดว่าคงใช้ปืนใหญ่พลาสม่า

     ยิงจากอุ้งมือหมายจะทำลายมุมตึกแหลกไปพร้อมออริกาโน่ด้วย

          “ แย่แล้ว ทาเมริคเห็นท่าไม่ดีต้องรีบทำอะไรสักอย่าง  ต้องใช้แผนสอง เขารีบล้วงระเบิดมือ หมายจะปาเข้าใส่

    แต่ต้องคิดใหม่อีกที ออริกาโน่อยู่ในรัศมีวงทำลายล้างของระเบิดเรียกว่าเสี่ยงต่อชีวิตของออริกาโน่ด้วยเช่นกัน

    กึง กึง กึง

    ไม่มีอะไรสามารถมาหยุดยั้งหุ่นรบพร้อมเผด็จศึกตัวนี้ได้ พร้อมฆ่าพร้อมทำลายล้างทุกสิ่งมีชีวิต

    ลับลอบเข้ามาล่วงรู้ความลับในสถานที่แห่งนี้ ทันใดนั้นเอง ร่างของมันต้องหยุดการเคลื่อนไหวลง 

    ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจอีกครั้ง

                “ ถ้าจะเล่นกับเจ้านี่ต้องแกล้งตายไม่ให้มันจับได้ แล้วอ้อมไปปิดสวิตช์ด้านหลังเอาครับ ”  

    ปรากฏร่างของบุคคลผู้คุ้นเคยที่ทุกคนต้องเอ่ยชื่อ

    “ มอเรตตี้ นักถูกฆ่า งั้นหรอ ที่ว่าคุณเป็นสปายของคุณท่านอยู่ในศูนย์บัญชาการของวองโกเล่ ”

     คาร์ลโล ผู้ไม่เคยพบกับมอเรตตี้มาก่อนเอ่ยขึ้น ชื่อเสียงชายหนุ่มตรงหน้าได้รับการยกย่องว่าสุดจริงในรุ่น 

                “ ใช่ครับ ผมเอง นึกไม่ถึงว่าจะต้องมาเจอกับอาวุธที่ส่งไปให้วอริเออร์ เจ้านี่แค่รุ่นทดลองครับ 

    ตัวที่ส่งไปให้วอริเออร์มันคนละเรื่องกับเจ้านี่เลย สวิตซ์หยุดฉุกเฉินก็ไม่มีติดไว้ ถ้าคลั่งขึ้นมาเมื่อไร

    ใครก็หยุดมันไม่ได้หรอก ” มอเร็ตตี้อธิบายเพิ่มเติมให้ทุกคนเข้าใจอย่างลึกซึ้ง 

                “ ว่าจะไป...เดนเซลไม่มาด้วยหรอครับ? ” มอเรตตี้ถามเสียงเบา กรอกตาไปทาซ้าย ไม่กล้าสบตาคนรอบตัว

    ยกมือขึ้นมาเกาศีรษะด้วยความเขินอาย

                “ ไม่มาหรอกย่ะ! ออริกาโน่เท้าสะเอวตอบทันที

                “ นึกว่าจะไม่ถามซะแล้วเชียว ”  รัลอดไม่ได้ จนต้องเอ่ยปากร่วมวงแซวบ้าง 

    เสียงผิวปาก ฮี้ววว เชียร์กันยกใหญ่ เพราะรู้กันหมดว่ามอเรตตี้สนใจในตัวเดนเซลเป็นอย่างมาก ถึงมากที่สุด

    แต่เจ้าตัวก็ไม่กล้าบอกความในใจแก่สาวที่หมายปองได้สักนิด แค่เดนเซลเดินผ่านในระยะประชิด 

    มอเรตตี้ต้องก้มหน้าหลบเสหน้ามองอีกทาง ทำไก๋ ไม่สนใจ ทั้งที่ในใจแทบจะเต้นเจน นุ่น โบว์ ก็เพราะอะไรนะหรอ?

     เพราะเดนเซลไม่เคยชายตามองเขานะสิ งานนี้มอเรตตี้ต้องซดน้ำใบบัวบกแก้ช้ำใจรัวๆ แล้วละสิ!


     


     

                “ วันนี้ฉันไปที่ฐานทัพลับมา ฉันเจอหุ่นรบท่าทางน่ากลัวมากๆเลยละ  ออริกาโน่เล่าให้เดนเซลฟัง

    พร้อมกลับหยิบแฟ้มเอกสาร(ฉบับคัดลอก)ออกมาให้เดนเซลได้รับข้อมูลด้วย แน่นอนละว่าไม่ลืมเล่าเรื่อง-

    ที่ได้รบกับเจ้าหุ่นยนต์สังหารนั่นด้วย อีกอย่างมอเรตตี้ก็ถามหาเดนเซลด้วยเหมือนกัน

                “ ฮ่า ฮ่า ฝุ่นตลบเลยรึเปล่า ? ” คนปลายสายถึงกับหัวเราะ

     ออริกาโน่มักเล่าเรื่องราวออกมาได้สมจริง เสมือนว่าคนฟังได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆด้วยเสมอ

                “ ฉันก็ไม่แน่ใจนักหรอกนะ ว่าทางวอริเออร์จะมีหุ่นน่ากลัวๆแบบนี้ไปทำไมกัน?  ออริกาโน่ไม่เข้าใจ

    ทั้งๆที่หน่วยวอริเออร์แต่ละคนก็พกความน่ากลัวกันมาอยู่แล้ว ยิ่งมีเจ้าหุ่นยนต์พร้อยลุยศึกเสริมความแข็งแกร่ง

    ขึ้นไปอีกชั้นอย่างน้อยๆ ออริกาโน่เริ่มเอะใจขึ้นมาบ้าง

                “ สงครามงั้นสิ ” เดนเซลล้มตัวลงนอนบนเตียง

                “ กับใครล่ะ? ออริกาโน่สงสัย

                “ จะใครล่ะ? บอสเป็นไงบ้าง ?  เดนเซลขอไม่เอ่ยชื่อเพราะพูดไปทุกคนก็รู้ๆกันอยู่

     แม้นจะไม่ได้ออกนอกอาณาเขตคฤหาสน์วาเรีย อย่างน้อยให้เดนเซลได้อัพเดทข้อมูลของหัวหน้าก็ยังดี

                “ อาการตอนนี้ก็ใกล้ออกจากโรง’บาลแล้วล่ะ แต่คุณท่านก็หนีออกมาตามสเต็ป ” ออริกาโน่สรุปสั้นๆ

     อิเอมิสึ บอสของเดนเซล คุณท่านของทุกคนได้หลบหนีออกมา โดยให้เหตุผลว่าจะกลับญี่ปุ่น

     อยากกลับไปเจอภรรยาและลูกชาย

    “ ทั้งปี! ” เดนเซลถอนหายใจเบาๆ อย่างน้อยอิเอมิสึก็ปลอดภัย การกลับบ้านที่ญี่ปุ่นก็ถือซะว่า-

    เป็นการพักฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจที่ดี แต่ก็อย่างว่า...บุคคลที่อิเอมิสึเสนอให้เป็นหัวหน้าวองโกเล่คนถัดก็คือ- 

    ซาวาดะ ซึนะโยชิ บุตรชายเพียงคนเดียวของเขา หลายคนคงสงสัยว่าทำไมบอสถึงได้เสนอชื่อลูกชายตน

    จะว่าไปแล้วอิเอมิสึเอง ก็มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับทิมอเทโอกับเขาเหมือนกัน เหมือนว่าจะเป็นทวดของทวด

    ละมั้งถ้าจำไม่ผิด ทั้งที่จริงคนที่เหมาะสมในตอนนี้มากที่สุด คือลูกชายทั้งสามคนของทิมอเทโอ

    ทว่าบุตรชายทั้งสามกลับถูกปลิดชีพอย่างปริศนา ส่วนมากมักจะเกิดอุบัติเหตุ เช่น ทางรถยนต์ เรือ เครื่องบิน  

    ซึ่งถือว่าหมดสิทธิ์จะสืบทอดตำแหน่ง

    ดังนั้นหากจะเป็นบอส(อิเอมิสึ)ที่จะมารับช่วงต่อ ทุกคนก็ไม่ขัด เพียงแต่ว่า...อิเอมิสึไม่ใช่คนมักใหญ่ใฝ่สูง

    เขาเป็นคนสมถะ ติดดิน (ยิ่งกว่ากินกลางดิน นอนกลางทรายก็ทำมาแล้ว) รักพวกพ้องและรักเหล่าแฟมมิลี่ยิ่งกว่าอะไรดี!

    ดังนั้นตำแหน่งนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ลูกชายวัยละอ่อนชั้นมัธยมตอนต้น

                “ เด็กคนนั้นจะไหวหรอ? ” เดนเซลปิดเปลือกตาลง ไม่ใช่ว่าดูถูก...จำได้คลับคล้ายคลับคราว่าอิเอมิสึ-

    ห่วงเรื่องการเรียนของซึนะเป็นอย่างมาก เกรดเฉลี่ยนั้นได้ดีรั้งท้ายเกือบทุกวิชา ไหนจะเรื่องกิจกรรมอีก(ชุมนุมด้วย)

    คงเป็นเพราะภรรยารับหน้าที่หัวหน้าครอบครัวแทนตน จึงอาจจะดูแลลูกชายไม่ได้มากนัก  ซ้ำอีกอย่าง

    ลูกชายก็เริ่มจะเป็นหนุ่มเข้าแล้ว คงต้องมีระยะห่างกับผู้ปกครองเป็นธรรมดา

                “ แซนซัสคงไม่ยอมรามือแน่ๆ ” เดนเซลให้เหตุผล หรือจะพูดทั้งหมดได้เลยว่า

    เบื้องหลังการเสียชีวิตทั้งหมดของบุตรชายทั้งสามของทิมอเทโอ ต้องมีแซนซัสเป็นส่วนรู้ส่วนเห็นด้วยแน่นอน  

    อย่าลืมว่าก็มีอีกหนึ่งผู้สืบทอดกระหายบัลลังก์ เช่นกัน แม้ว่าจะแลกด้วยเลือดก็ตาม

                “ มีคุณรีบอร์นอยู่ด้วย ออริกาโน่รีบบอก

                “ คุณรีบอร์นอย่างนั้นหรอ? แบบนี้ก็สบายใจได้ ” เดนเซลลุกขึ้นมานั่ง เมื่อได้ยินชื่อของรีบอร์น

    แม้จะอยู่ในร่างของเด็กทารกเหมือนรัล มิลจิ แต่ฝีมือไม่ได้ถูกลดทอนลงเหมือนขนาดตัว ซ้ำยังร้ายกาจกว่าเดิมอีกแน่

    หากเป็นไปได้ เดนเซลก็อยากไปเจอ(ประมือ)กับรีบอร์นเหมือนกัน 

                “ เดี๋ยวนะ มีบางอย่างกำลังมุ่งตรงเข้ามาทางนี้ มัน..ไวมากๆ  ออริกาโน่กดสลับกล้อง

    ให้เดนเซลมองบางอย่างกำลังเข้าใกล้ในระบะเวลาสั้นๆ

                “ บ้าเอ๊ย ออริกาโน่หนีไป! ” พูดยังไม่ทันจบประโยค เงาสะท้อนจากแว่นตาของออริกาโน่ ฉายให้เห็นว่า

    กำลังมีจรวดมิสไซล์อันบะเริ่มพุ่งตรงเข้ามาทางด้านหน้าออริกาโน่ ด้วยความเร็วเหนือเสียง

                ตู้ม!

    เสียงระเบิดโครมใหญ่ และภาพจากหน้าจอของอีกฝั่งก็หายวับกลายเป็นหน้าจอสีดำสนิท

                “ ออริกาโน่! เดนเซลเผลอตะโกนลั่น จนต้องยกมือขึ้นมาปิดปากตนเอง

    ไม่ได้การแล้ว ว่าแล้วเดนเซลจิ้มหน้าจอทัชสกีนกดโทรศัพท์โทรออกทันที

                รัล มิลจิ...

                ทาเมริค...

                ฟาบริโอ

                คาร์ลโล

                มอเรตตี้

                “ โธ่โว้ย! ให้มันได้แบบนี้สิวะ  ไม่มีใครรับสายของเดนเซลเลยสักคน 

    ไม่ว่าจะโทรตามเป็นรายบุคคลหรือจะโทรเข้าสำนักงานCEDEF โดยตรง 

                กระทั่งคนสุดท้าย...

                “ ฮัลโล ว่าไงรูปหล่อ ” อิเอมิสึโบกมือทักทายเดนเซลด้วยสีหน้าสดใส ซ่อนอาการบาดเจ็บ

    แม้ว่าร่างกายจะยังมีอาการบาดเจ็บจากการถูกยิงหลงเหลืออยู่ เดนเซลหูไวจมูกไวไม่เปลี่ยน 

    คงต้องได้ข่าวจากออริกาโน่ชัวร์ๆ งานนี้อิเอมิสึคงโดนบ่นยับแน่ อย่างแรกเดนเซลต้องพูดว่า 

    เดินยังไม่คล่องยังซ่าหนีเที่ยวอีก หรือไม่ก็ให้หายดีก่อนแล้วค่อยซ่าไม่ได้รึไง?

    เชื่อเถอะว่าคำพูดเหล่านี้... เป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจของเดนเซลเขาล่ะ

                “ ขอบคุณพระเจ้า...แย่แล้วบอส ฉันติดต่อหาใครไม่ได้เลย...ออริกาโน่....

     ออริกาโน่โดนมิตไซน์ยิง ” บ้านบึ้มตามๆไปกันหมดแล้ว

                “ ใจเย็นๆนะเดนเซล ค่อยๆพูด ” บอกตามตรงอิเอมิสึไม่เข้าใจที่เดนเซลพูดสักนิด

    เขาเข้าใจว่าสัญญาณของแอปพลิเคชั่นไลน์ การวีดีโอคอลจากต่างแดนมันอาจจะล่าช้าเป็นเรื่องปกติ

                “ ทุกคนตายหมดแล้วบอส ฮึก เดนเซลแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว

                “ จะมาอำอะไรกันอีกละ? ” อิเอมิสึมีงง

                “ คนนะไม่ใช่ผีจะมาอำอะไรกันเล่า! เดนเซลตวาดให้

                “ อ้าว ” ก็นึกว่าใช่...อิเอมิสึ ดีใจลึกๆที่เดนเซลยังหายใจอยู่ คิดว่าเข้าไปคฤหาสน์วาเรีย..จะเข้าเมืองผีไปซะแล้ว

                “ บอส...หนีไป ข้างหลังบอสนั่นมัน.... เดนเซลรีบบอก บางอย่างที่กำลังมุ่งตรงเข้ามา

    เหมือนที่โจมตีใส่ออริกาโน่แบบเดียวกันเป๊ะ และตอนนี้มันกำลังจะสังหารอิเอมิสึด้วย

                “ ฮ เฮ้ จะว่าไป...ฉันภูมิใจตัวเธอนะเดนเซล ถ้าพ่อเธออยู่...คงพูดแบบฉันแน่ ” อิเอมิสึหันไปมองทางด้านหลัง 

    จรวดมิสไซล์กำลังลอยมาทางเขา  คล้ายกับว่าล็อคเป้าหมายโจมตีไว้อย่างชัดเจน 

    เปอร์เซ็นต์ในการรอดนั้นถึงจะมีน้อยก็เถอะ...อย่างน้อย... เขาได้บอกความในใจกับเดนเซลเรียบร้อยละ 

    แม้ว่ามันจะสั้นไปหน่อยก็ตาม

                ตู้ม!

    มีเพียงดังระเบิดดังสนั่นและภาพหน้าจอถูกตัดไปกลายเป็นสีดำสนิท
     

                   “ บอส! เดนเซลตะโกนลั่นสุดเสียง ยิ่งดังมากเท่าไรก็เท่ากับความเจ็บปวดที่ได้รับมากเท่านั้น

     ทุกคนในชีวิตต่างพากันถูกสังหารทั้งหมดทั้งสิ้น โดยไม่มีการร่ำลาใดๆสักคำ! เดนเซลเกลียด ไม่สิต้องพูดว่า โคตรเกลียด

    แม้จะเข้าใจดีเมื่อมีพบก็ต้องมีจาก จะจากเป็นก็ดี จากตายก็ดี เพียงแต่...คำพูดสุดท้าย(สั่งเสีย) ควรจะบอกอะไรบางอย่าง

    ให้นึกวาระก่อนสุดท้าย เก็บบันทึกไว้เป็นความทรงจำให้ระลึกถึงก็ยังดี... แต่นี่...ไม่มีเลย ไม่มีสักคำ...

         หากใครบางคนเคาะประตูห้องปึงปัง บุกเข้ามาเจอเดนเซลในสภาพเดือดดาลในตอนนี้แล้วละก็.... 

    บางครั้งเงาหัว... อาจจะไม่มีอีกต่อไป
     

                   “ ฉันจะล้างแค้นให้เอง! เดนเซลสาบานกับตัวเอง ด้วยสัจจะวาจา กับชีวิตที่เหลือต่อจากนี้...

    หล่อนจะลากทุกชีวิตที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของทุกคน ให้มันได้ตายตกมอดไหม้ ไปตามๆกันแน่!


     

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป...

    13-4-2563


     

                    โดนแบนรึยังนะ? คิดว่าคงไม่? หรือว่าโดนแบนจริงๆแล้ว?

    โปรดส่งข้อความทักทาย หรือให้กำลังใจกันด้วยนะครับ สองสามคอมเมนต์ก็ยังดี ชิวจะได้มีแรงอัพตอนต่อไปไวขึ้น

    อีกอย่างชิวจะได้รู้ว่าไม่ได้อัพสำหรับอ่านอยู่คนเดียว 

            ขอบคุณที่ติดตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก 

                         ขอบคุณมากครับ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×