คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เหนือกาลเวลา : สานสัมพันธ์
– สานสัมพันธ์ –
อิทาจิหยุดมองคนตรงหน้าอย่างชั่งใจและตั้งใจรอฟังคำพูดหรือความต้องการ กับการที่เขายอมลงมาจากมุมสูง
เพื่อช่วยคนหลงทางอันนี้ก็ไม่สมควร สับสนกับความรู้สึกของตัวเองมากนัก ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นถึงนักโทษไม่สามารถต่อรอง
กับเขาได้ก็ตาม หรืออาจจะเป็นกลลวงหลอกล่อให้ตายใจ เพื่อความชัวร์บวกกับความเร็วจนมองตามด้วยตาเปล่าไม่ทัน
ดังนั้นต้องพึ่งเนตรวงแหวนคู่นี้
“ นายตาแดงนะเป็นอะไรหรือเปล่า? ” ชุนทักถามด้วยความเป็นห่วง ไม่พอแถมยังแลบลิ้นใส่เขาอีกตังหาก
อิทาจิถึงกับอยากจะถอนหายใจแรงๆสักสามครั้งติด
“ นั่นไม่ใช่โรคตาแดง แต่มันเป็นเนตรวงแหวน! ” อิทาจิพยายามอธิบายให้อีกคนเข้าใจ
แม้ว่าอาชญากรตรงหน้าจะมีใบความหล่อเด่นเป็นสง่าต่างคนอื่นๆก็เถอะ ยิ่งตอนหลับตา ทำแก้มพองลมน้อย
แถมแลบลิ้นเล็กๆใส่ บอกตามตรงได้เลยว่า ว่าต่อให้เป็นผู้ชายก็ต้องหวั่นไหวบ้างเป็นธรรมดา
“ มันเหมือนตาซ้ายของคาคาชิเลย ” ชุนสังเกตทุกรายละเอียด แม้ว่าจะเพียงแค่ครั้งเดียว
ทว่าชุนก็สามารถจำมันได้ขึ้นใจจนถึงตอนนี้
“ อืม ” อิทาจิกำลังนึกหาคำพูดว่าควรจะอธิบายให้ชุนเข้าใจได้อย่างไรดี
อ่านจากรายงานของรุ่นพี่คาคาชิแล้ว พอทราบว่าผู้ต้องหามีชื่อชั่วคราวว่าชุน มีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร
เนื่องจากมาจากถิ่นที่ไม่ได้ใช้ภาษาเดียวกัน ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงเรียนรู้ หัดพูด อาจจะมีการตอบสนองต่อคำถามช้าเล็กน้อย
หรือมีสำเนียงแปล่งๆฟังยาก แม้ว่าการอธิบายเรื่องเนตรวงแหวนต้องใช้เวลาเกือบครึ่งวันก็ตาม กว่าจะอธิบายจบ
คุณคาคาชิคงกลับมาจากภารกิจของทีมเจ็ด อิทาจิไม่อยากให้คาคาชิรู้เรื่องว่าชุนกำลังถูกเขาสะกดรอยตาม
“ นายจะอธิบายระหว่างเดินกลับบ้านได้หรือเปล่า? ” ชุนพูดด้วยความสนใจ
“ ได้สิ ” อิทาจิตอบตกลงและเป็นคนเดินนำชุนออกจากซอยแคบๆ พยายามหาเส้นทางเลี่ยงจากฝูงชน
เพราะเกรงว่าชุนอาจจะอาศัยจังหวะนี้เพื่อหลบหนีการควบคุม ใช้เวลาไม่มากนักกับการพาชุนมาส่งถึงหน้าบ้านฮาตาเกะ
แม้ว่าจะเดินอ้อม ทำให้เสียเวลาในการเดินทางราวๆสิบนาที มันก็คงจะดีกว่าปล่อยให้ชุนเดินหลงทาง อิทาจิคิดอย่างนั้น
“ ขอบใจนะ ” ชุนหันมาบอกขณะเดินมาหยุดอยู่หน้าบ้าน
“ สำหรับเรื่องไหนดีละ? ” อิทาจิถึงหัวเราะในลำคอเบาๆ
อิทาจิสามารถรู้สึกและรับรู้ได้ว่า ชุนแตกต่างจากคนอื่นโดยทั่วไป นอกจากเครื่องหน้า ออร่าที่เปล่งปลั่ง
เกิดลำแสงสว่างออกจากตัว ชุนเป็นคนมีเสน่ห์มากถึงมากที่สุด เขาแทบละสายตาจากชุนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!
ไม่ใช่แค่รูปร่างภายนอก ส่วนสูง อายุ ไล่เลี่ยกับอิทาจิ แต่หากลองฟังเรื่องทัศนะคติและความคิดแรง
จากคำพูดหรือการตอบคำถามแล้วละก็... ชุนอาจจะเป็นฝาแฝดของเขา ซึ่งถูกพลัดพราดจากท้องแม่ในห้องคลอด!
“ ทุกอย่าง ” ชุนหันไปสบตาของอิทาจิอีกครั้ง คราวนี้คงไม่ใช่เนตรวงแหวนอย่างที่เห็นในซอยแคบ
มันเป็นดวงตาสีรัตติกาลกำลังบอกเล่าถ่ายทอดบางอย่าง ยากนักที่จะมีใครเข้าใจมันได้ดี
“ นั่นสินะ ” อิทาจิเผลอหลุดยิ้ม กลับมาลองคิดอีกที ก็หลายเรื่องที่เขาเข้ามาช่วยเหลือชุน
ชุนทำหน้านิ่งโคลงศีรษะเป็นเชิงว่าขอตัวต้องไปแล้ว ไขเปิดประตูรั้วบ้านเข้าไปยืนด้านในและล็อกประตู
“ บาย ” อิทาจิยกมือโบกลา รู้สึกตัวว่าต้องยอมถอยเพราะหมดหน้าที่
“ บาย ” ชุนตอบกลับและมองดูอิทาจิหายตัวไป จากนั้นชุนค่อยหมุนตัวเข้าไปในตัวบ้านเดินตรงดิ่ง
หยุดปลายตรงหน้าตู้เย็น สลับกับมองนาฬิกาข้างฝาบ้านกำลังทำงานของมันอย่างไม่มีเกียจคร้าน
แถมส่งเสียงต๊อก แต๊ก สลับกันไปมาไอเย็นจากตู้เย็นกระทบหลังเท้าของชุนทำให้เจ้าตัวต้องรีบหันมาสนใจกับตู้เย็นอีกครั้ง
ใกล้จะห้าโมงเย็นคาดว่าคาคาชิคงเลิกงาน ใกล้ถึงบ้าน ชุนก็ควรจะทำอาหารเย็นให้เขาเสียหน่อย
หลังจากนั้นก็เตรียมน้ำอุ่นให้อาบเพื่อความผ่อนคลาย เดาว่าภารกิจทีมเจ็ดลูกลิงน้อยทั้งสามคงทำให้เขาปวดหัว
ปวดเมื่อยตามตัว ความว่างเปล่าของตู้เย็นเป็นโจทย์สุดหิน ยิ่งกว่ามีวัตถุดิบปริศนาในกล่องสีดำ
จากรายการเชฟกระทะเหล็กเป็นโจทย์ในการทำอาหาร
“ เฮ้อ ” ชุนถึงกับต้องถอนหายใจ ตามจริงแล้วชุนไม่ชอบทำอาหารทานเอง
หล่อนใช้เวลาในแต่ละวันจะหมดกับภารกิจลอบสังหาร เดินทางไปแล้วทั่วทุกมุมโลก สั่งรูมเซอร์วิสจากโรงแรมที่พัก
เพื่อความสะดวก สบาย คาดไม่ถึงเลยว่ามันถึงวันที่ต้องลงมือปรุงอาหารทานเอง
อย่างแรกต้องตัดเมนูทอดทิ้ง เพราะอิทาจิกำชับหนักหนากับชุนไว้ว่า
“ คุณคาคาชิไม่ทานของทอดทุกชนิด! “
ดังนั้นเมนูทอดทุกชนิดจึงต้องตัดออกไป ก็คงเหลือ ผัด ต้ม นึ่งและย่าง ในตู้เย็นพอมีปลาไม่ทราบชื่อหนึ่งตัว
ผักอีกไม่กี่อย่าง ไม่ทราบเหมือนชื่อปลา ชุนตัดสินใจหยิบมันออกมาจากวางลงบนโต๊ะทานข้าว ทำท่ากอดอกยกแน่น
มือเกาคางใช้ความคิด ไม่กี่วินาทีในการรังสรรค์อาหารอย่างชาญฉลาด
“ หวังว่าคาคาชิคงจะทานคลีน ” ชุนภาวนาในใจอย่างนั้นและลงมือทำอาหารเย็นภายในทันที
คาคาชิเดินทางกลับบ้านด้วยความเร็วติดขีปนาวุธไว้ที่ฝ่าเท้าทังสอง เรียกว่ามีความเร็วเท่าไหร่ใส่ไม่ยั้ง
กุญแจบ้านอยู่กับชุน ไม่รู้ว่าชุนจะถึงบ้านจริงๆหรือเปล่า แล้วถ้าชุนหายตัวไปมันจะเกิดอะไรขึ้น?
คงโดนท่านโฮคาเงะเทศนามหาชาติชุดใหญ่แน่!
“ กลับมาแล้ว! ” คาคาชิเปิดประตูบ้านพร้อมส่งเสียงดัง ปลายจมูกได้กลิ่นบางอย่างชวนให้น้ำย่อยเริ่มทำงาน
ทิ้งกระเป๋าเป้บนบ่าลงบนโซฟา สาวเท้ามุ่งหน้าเข้าห้องอย่างเงียบๆ คาคาชิกำลังมองดูชุนทำอาหารจากทางด้านหลัง
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่มีคนใช้งานห้องครัวปรุงอาหาร.... ตั้งแต่บิดาเสียชีวิต คาคาชิเองก็แทบจะไม่ย่างกราย
เข้ามาอีกเลย ง่ายๆก็ดริปกาแฟกินเองในตอนเช้า ส่วนมื้ออาหารกลางวัน เย็น ทานจากข้างนอกบ้าน เข้ามาเรียบร้อย
หุ่นผอมแห้งมีแต่ก้าง ไม่น่าสันทัดเรื่องงานครัว แต่กลับทำมันออกมาได้อย่างคล่องแคล่วและว่องไว
ไม่ทันไรคนถูกจ้องเอียงหน้าหันมา ทำให้คาคาชิถึงกับสะดุ้ง
“ กลับมาตอนไหน ? ” ชุนไม่รู้สึกตัวถึงการมาของคาคาชิเลยสักนิด
“ ห้านาทีที่แล้ว ” จริงๆมากอาจจะมากกว่านั้น คาคาชิไม่ได้นับ
“ จะทานข้าวหรืออาบน้ำก่อนดีละ ?” ชุนถามขณะเสยผมปรกใบหน้าขึ้น
“ อาบน้ำก่อนดีกว่า ” คาคาชิเลือกอย่างหลังเพราะดูท่าอาหารเย็นยังไม่เสร็จ
คาดว่าอาบน้ำเสร็จคงทันเวลาอาหารเย็นพอดี
“ ฉันยังไม่ได้ทำน้ำอุ่นเลย รอก่อนนะ ” ชุนละออกจากเคาท์เตอร์ทำอาหาร เพื่อไปห้องน้ำ
“ ไม่เป็นไร ทำอาหารเย็นต่อเถอะหิวจนไส้จะขาดแล้ว ” คาคาชิยิ้มอ่อน ทำท่าลูบท้องป้อยๆ
ชุนพยักหน้ารับหันไปสนใจกับการทำอาหารต่อ คาคาชิพ่นลมหายใจคลายกังวล จากนั้นเขาคงต้องรีบอาบน้ำ
ชำระร่างกาย ความอุ่นของสายน้ำพอจะทำให้เขาสบายตัวขึ้น มาได้ในระดับหนึ่งทว่าไม่สบายใจมากนัก
เขายังคงไม่สามารถไว้ใจในตัวชุนอยู่ดี
คาคาชิปิดเปลือกตาลงปล่อยให้สายน้ำจากเรนโชเวอร์ไหลผ่านตามร่างกายอย่างช้าๆ
มันเป็นเรื่องยากกับการที่เขาจะยอมเปิดใจรับใครอีกหลายคนเข้ามาพร้อมกันในเวลาเดียว ไม่ว่าจะลูกลิงทีมเจ็ดสามตัว
หรือจะชุน มันเป็นสัจจะธรรมของโลกมีพบก็ต้องมีจาก คนที่เขารักมักจะจากไปอยู่เสมอ ดังนั้นคาคาชิจึงตัดสินใจ
เลือกที่จะไม่รู้จักใครเลยดีกว่า.....
สำหรับคาคาชิแล้ว....ความผูกพันธุ์...น่ากลัวกว่าความรักเสียอีก!
ไม่รู้ว่าโลกจะเหวี่ยงสมาชิกทีมเจ็ดหรือชุนเข้ามา มันก็คงต้องมีตอนที่พวกเขาทั้งหลายเดินจากไปอย่างแน่นอน
บอกตามตรงเลยว่าคาคาชิก็ไม่ชอบการจากลาหรือตอนจบแบดเอ็นด์ของเรื่องมากนัก คาคาชิเปิดเปลือกตาขึ้น
ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างลูบใบหน้าสองสามครั้ง ปิดวาล์วน้ำ ใช้ผ้าขนหนูซับหยดน้ำบนตัวออกและสวมเสื้อกล้าม
กางเกงวอร์มขายาวสีดำกรอมข้อเท้า เขาพร้อมทานอาหารเย็นกับชุนแล้วละ คาคาชิก็ลงไปชั้นล่างของตัวบ้าน
มองเห็นชุนกำลังนั่งรอตรงโต๊ะทานอาหาร เมนูวันนี้คือปลานิ่งมะนาวกับแกงจืดผักรวม ข้าวสวยร้อนๆ
คาคาชิใช้เวลาพิจารณาไปชั่วครู่ จะว่าไปแล้วเขาก็ไม่ได้ซื้อของเข้าบ้านเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะอุปโภคหรือบริโภค
ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ!
“ นายไม่ชอบหรอ?” ชุนถาม เมื่อเห็นคาคาชิยืนนิ่งไปชั่วครู่ หลังจากมองเห็นสำรับอาหารบนโต๊ะ
หรือว่ามีเครื่องปรุงบางชนิดที่คาคาชิทานไม่ได้?
“ ชอบสิ ฉันแค่คิดว่ายังไม่ได้ซื้อของตุนไว้เลย พวกข้าวสาร อาหารแห้ง” คาคาชิรีบอธิบายกลัวชุนเข้าใจผิด
หย่อนตัวนั่งลงตรงข้ามชุน หยิบช้อนส้อมขึ้นมาทำท่า พร้อมชิมอาหารฝีมือชุนเสียที
“ ก็ว่าอยู่ ” ชุนเห็นด้วย
“ ไว้พรุ่งนี้เราไปซุปเปอร์ฯกันนะ ” คาคาชิเงยหน้าขึ้นมาชวนอีกคน
“ อืม ” ชุนพยักหน้ารับ
ความเงียบเข้าปกคลุมโต๊ะอาหาร ทั้งสองต่างนั่งทานอาหารกันอย่างเงียบๆ ชุนเองก็ไม่กล้าจะเงยหน้าคิดมา
เพราะรู้ว่าคาคาชิมักจะสวมหน้ากาก ผ้าบลัฟปิดปัดบังใบหน้าแทบจะตลอดเวลาและตัวหล่อนเองก็ให้เกียรติ์ ไม่แอบมอง
หรืออาศัยจังหวะเผลอของคาคาชิด้วย แต่จะไป...อาหารที่ปรุงให้คาคาชิทานนั้นก็เป็นอาหารไทยบ้านๆ
สามารถหากินได้ตามข้างทาง ร้านอาหารตามสั่งหรือพวกร้านข้าวต้มมื้อดึกสำหรับนักดื่ม ผีเสื้อกลางคืน
ชุนไม่ได้อธิบายและไม่กล้าเงยหน้าอธิบายคอนเซปเมนูหรือจะชวนคาคาชิคุย ได้แต่ก้มหน้า ก้มตาคดข้าวในจาน
ของตัวเองต่อไปจนกระทั่ง...
“ ตักข้าวเพิ่มให้หน่อยสิ ” คาคาชิรวบช้อน ส่งจานเปล่าในมือให้คนใกล้หม้อหุงข้าว
“ อืม ” ชุน เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มตาหยี(ไม่มองหน้าคาคาชิ) ส่งมือรับจานตักข้าวเปล่าแล้วส่งคืน
อย่างน้อยคาคาชิก็คงพอชอบใจในระดับหนึ่ง ทานมันลงไปโดยไม่ปริปากบ่น อย่าเพิ่งถามเรื่องรสชาติของอาหารเลยดีกว่า
เผื่อมันไม่อร่อยขึ้นมาชุนเองอาจจะเสียใจ และไม่มีแรงบันดาลในการปรุงอาหารในมื้อต่อไป
“ ฉันล้างเอง ” คาคาชิเสนอตัวในการเก็บล้างครั้งนี้ เพื่อที่ชุนจะได้ไปอาบน้ำและพักผ่อนตามลำดับ
อาหารเย็นจบลงคาคาชิแยกตัวขึ้นห้องนอน มือหนารีบเปิดหนังสือสีส้มเล่มโปรด อารมณ์ยังค้างจากตอนที่แล้ว
ล่าสุดมันถึงจุดพีคของเรื่องแล้วด้วย คาคาชิไม่อาจรอไหวเขารีบเปิดหน้าล่าสุดและอ่านมันทันที
เวลาได้ล่วงเลยข้ามคืนเข้าสู่วันใหม่ มองนาฬิกาดิจิทอลข้างหัวเตียงกำลังบอกว่าตอนนี้ตีสองกับอีกสามสิบนาที
คาคาชิยังไม่ได้จัดเตรียมเสื้อผ้าสำหรับใส่พรุ่งนี้ด้วยสิ ปิดหนังสือในมือแล้วลุกออกจากเตียง เดินตรงไปยังห้องแต่งตัว
เปิดประตูแง้มไว้เพื่อให้แสงสว่างจากหลอดนีออนตรงทางเดินส่องเข้ามาแทนการเปิดไฟห้อง คาคาชิเกรงใจ
ว่าตนจะปลุกชุนตื่นขึ้นกลางดึก ตาคมสีดำกวาดมอง รอบห้องมีเพียงแค่ที่นอนปิกนิควางเป็นระเบียบ
ว่างเปล่าไร้ร่างของชุน
คาคาชิรีบปิดบานประตูห้องทันที รีบวิ่งลงชั้นล่างของบ้าน ในใจลึกๆแล้วคาคาชิมีความรู้สึกว่าชุนต้องอยู่ในบ้าน
ทว่าอยู่ในส่วนไหนของตัวบ้านนั่นสิ เดินหาครบทุกห้องยกเว้นห้องรับแขก คาคาชิพยายามเดินยกส้นเท้า
ไว้เพื่อป้องกันเสียงดัง กวาดสายตามองไปทั่วห้องจนมาหยุดตรงโซฟารับแขก มีเพียงแค่โคมไฟเล็กๆเปิดไว้เท่านั้น
ดวงไฟหลักๆปิดมืดสนิท คาคาชิเห็นชุนนั่งหลับหลังตรงอาจจะเอนหลังพิงโซฟาเล็กน้อย แอบลองมองชุนจากด้านข้าง
ไม่ว่าจะโครงหน้า คิ้ว ตา จมูก ปาก ทุกอย่างผสมกันอย่างลงตัว
สำหรับผู้ชายอย่างคาคาชิ....มองว่าชุนหน้าตาจัดว่าหล่อเลยทีเดียว!
“ มีอะไรหรอ?” ชุนเปิดเปลือกตาขึ้น รับรู้ได้ว่ามีใครอีกคนยืนมองอยู่
“ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจปลุก....แค่ลงมาหาน้ำดื่มเฉยๆ ” คาคาชิปดคำโต
“ อืม ” ชุนส่งเสียงในคอเท่านั้นแล้วปิดเปลือกตาทำท่าจะนอนต่อ
“ เอ่อ ...เตียงนอนฉันมันพอสำหรับสองคน ” คาคาชิพูดขึ้น
“ ขอบใจ ”
“ ฝันดีนะ ”
“ ฝันดี ”
ร่ำลากันเรียบร้อยคาคาชิเปิดประตูเข้าห้องแต่งตัวจัดแจงเสื้อผ้าสำหรับวันพรุ่งนี้เสร็จ เขาเดินกลับห้องนอน
ถึงเวลาสำหรับพักผ่อนเสียที คาคาชิเอนหลังนอนลงอย่างนุ่มนวลปิดเปลือกตาลงช้าๆ ลืมตาขึ้นมองเพดานห้อง
ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองมากนัก ทำไมถึงได้คิดว่าชุนจะพยายามหาทางหนีจากตัวเขาตลอดเวลา ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ว่าทำไมเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ ทั้งที่เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ชุนมอบความเชื่อใจให้เขาเต็มร้อย
ส่วนตัวเขากลับระแวง ไม่ยอมรับหรือตาบอดมองไม่เห็นสิ่งนั้นด้วยซ้ำ
อย่างเมื่อครู่นี้ก็เหมือนกัน... อยู่ร่วมชายคากับชุนไม่กี่วัน...
เขารับรู้ว่าชุนแคร์ตัวเขามาก กลับกลายเป็นว่าคาคาชิไม่ได้แคร์หรือสนใจ กับความรู้สึกของชุนบ้างเลย
“ ความเชื่อใจถ้าอยากได้....ก็ต้องให้ก่อน “ คาคาชิพูดกับตัวเอง เอื้อมมือปิดโคมไฟเล็กๆบนหัวเตียง
เห็นทีเขาคงได้ไว้ใจชุนมากกว่านี้สิ
โปรดติดตามตอนต่อไป...
29ต.ค.63
ความคิดเห็น