ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic: Naruto] เหนือกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #4 : เหนือกาลเวลา : สานสัมพันธ์

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 64


     

     


     

     

      –   สานสัมพันธ์ –


     

    อิทาจิหยุดมองคนตรงหน้าอย่างชั่งใจและตั้งใจรอฟังคำพูดหรือความต้องการ กับการที่เขายอมลงมาจากมุมสูง

    เพื่อช่วยคนหลงทางอันนี้ก็ไม่สมควร สับสนกับความรู้สึกของตัวเองมากนัก ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นถึงนักโทษไม่สามารถต่อรอง

    กับเขาได้ก็ตาม หรืออาจจะเป็นกลลวงหลอกล่อให้ตายใจ เพื่อความชัวร์บวกกับความเร็วจนมองตามด้วยตาเปล่าไม่ทัน

    ดังนั้นต้องพึ่งเนตรวงแหวนคู่นี้

          “ นายตาแดงนะเป็นอะไรหรือเปล่า? ” ชุนทักถามด้วยความเป็นห่วง ไม่พอแถมยังแลบลิ้นใส่เขาอีกตังหาก

    อิทาจิถึงกับอยากจะถอนหายใจแรงๆสักสามครั้งติด

          “ นั่นไม่ใช่โรคตาแดง แต่มันเป็นเนตรวงแหวน!  ” อิทาจิพยายามอธิบายให้อีกคนเข้าใจ

    แม้ว่าอาชญากรตรงหน้าจะมีใบความหล่อเด่นเป็นสง่าต่างคนอื่นๆก็เถอะ ยิ่งตอนหลับตา ทำแก้มพองลมน้อย 

    แถมแลบลิ้นเล็กๆใส่ บอกตามตรงได้เลยว่า ว่าต่อให้เป็นผู้ชายก็ต้องหวั่นไหวบ้างเป็นธรรมดา

          “ มันเหมือนตาซ้ายของคาคาชิเลย ” ชุนสังเกตทุกรายละเอียด แม้ว่าจะเพียงแค่ครั้งเดียว

    ทว่าชุนก็สามารถจำมันได้ขึ้นใจจนถึงตอนนี้

          “ อืม ” อิทาจิกำลังนึกหาคำพูดว่าควรจะอธิบายให้ชุนเข้าใจได้อย่างไรดี

    อ่านจากรายงานของรุ่นพี่คาคาชิแล้ว พอทราบว่าผู้ต้องหามีชื่อชั่วคราวว่าชุน มีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร

    เนื่องจากมาจากถิ่นที่ไม่ได้ใช้ภาษาเดียวกัน ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงเรียนรู้ หัดพูด อาจจะมีการตอบสนองต่อคำถามช้าเล็กน้อย

    หรือมีสำเนียงแปล่งๆฟังยาก แม้ว่าการอธิบายเรื่องเนตรวงแหวนต้องใช้เวลาเกือบครึ่งวันก็ตาม  กว่าจะอธิบายจบ

    คุณคาคาชิคงกลับมาจากภารกิจของทีมเจ็ด อิทาจิไม่อยากให้คาคาชิรู้เรื่องว่าชุนกำลังถูกเขาสะกดรอยตาม

         “ นายจะอธิบายระหว่างเดินกลับบ้านได้หรือเปล่า? ” ชุนพูดด้วยความสนใจ

         “ ได้สิ ” อิทาจิตอบตกลงและเป็นคนเดินนำชุนออกจากซอยแคบๆ พยายามหาเส้นทางเลี่ยงจากฝูงชน

    เพราะเกรงว่าชุนอาจจะอาศัยจังหวะนี้เพื่อหลบหนีการควบคุม ใช้เวลาไม่มากนักกับการพาชุนมาส่งถึงหน้าบ้านฮาตาเกะ

    แม้ว่าจะเดินอ้อม ทำให้เสียเวลาในการเดินทางราวๆสิบนาที มันก็คงจะดีกว่าปล่อยให้ชุนเดินหลงทาง อิทาจิคิดอย่างนั้น

    “ ขอบใจนะ ” ชุนหันมาบอกขณะเดินมาหยุดอยู่หน้าบ้าน

                “ สำหรับเรื่องไหนดีละ? ” อิทาจิถึงหัวเราะในลำคอเบาๆ

    อิทาจิสามารถรู้สึกและรับรู้ได้ว่า ชุนแตกต่างจากคนอื่นโดยทั่วไป นอกจากเครื่องหน้า ออร่าที่เปล่งปลั่ง

    เกิดลำแสงสว่างออกจากตัว ชุนเป็นคนมีเสน่ห์มากถึงมากที่สุด เขาแทบละสายตาจากชุนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!

    ไม่ใช่แค่รูปร่างภายนอก ส่วนสูง อายุ ไล่เลี่ยกับอิทาจิ แต่หากลองฟังเรื่องทัศนะคติและความคิดแรง 

    จากคำพูดหรือการตอบคำถามแล้วละก็... ชุนอาจจะเป็นฝาแฝดของเขา ซึ่งถูกพลัดพราดจากท้องแม่ในห้องคลอด! 

                “ ทุกอย่าง ” ชุนหันไปสบตาของอิทาจิอีกครั้ง คราวนี้คงไม่ใช่เนตรวงแหวนอย่างที่เห็นในซอยแคบ

    มันเป็นดวงตาสีรัตติกาลกำลังบอกเล่าถ่ายทอดบางอย่าง ยากนักที่จะมีใครเข้าใจมันได้ดี

                “ นั่นสินะ ” อิทาจิเผลอหลุดยิ้ม กลับมาลองคิดอีกที ก็หลายเรื่องที่เขาเข้ามาช่วยเหลือชุน

    ชุนทำหน้านิ่งโคลงศีรษะเป็นเชิงว่าขอตัวต้องไปแล้ว ไขเปิดประตูรั้วบ้านเข้าไปยืนด้านในและล็อกประตู

                “ บาย ” อิทาจิยกมือโบกลา รู้สึกตัวว่าต้องยอมถอยเพราะหมดหน้าที่

                “ บาย ” ชุนตอบกลับและมองดูอิทาจิหายตัวไป จากนั้นชุนค่อยหมุนตัวเข้าไปในตัวบ้านเดินตรงดิ่ง

    หยุดปลายตรงหน้าตู้เย็น  สลับกับมองนาฬิกาข้างฝาบ้านกำลังทำงานของมันอย่างไม่มีเกียจคร้าน 

    แถมส่งเสียงต๊อก แต๊ก สลับกันไปมาไอเย็นจากตู้เย็นกระทบหลังเท้าของชุนทำให้เจ้าตัวต้องรีบหันมาสนใจกับตู้เย็นอีกครั้ง

           ใกล้จะห้าโมงเย็นคาดว่าคาคาชิคงเลิกงาน ใกล้ถึงบ้าน  ชุนก็ควรจะทำอาหารเย็นให้เขาเสียหน่อย 

    หลังจากนั้นก็เตรียมน้ำอุ่นให้อาบเพื่อความผ่อนคลาย เดาว่าภารกิจทีมเจ็ดลูกลิงน้อยทั้งสามคงทำให้เขาปวดหัว 

    ปวดเมื่อยตามตัว ความว่างเปล่าของตู้เย็นเป็นโจทย์สุดหิน ยิ่งกว่ามีวัตถุดิบปริศนาในกล่องสีดำ 

    จากรายการเชฟกระทะเหล็กเป็นโจทย์ในการทำอาหาร

                “ เฮ้อ ” ชุนถึงกับต้องถอนหายใจ ตามจริงแล้วชุนไม่ชอบทำอาหารทานเอง

    หล่อนใช้เวลาในแต่ละวันจะหมดกับภารกิจลอบสังหาร เดินทางไปแล้วทั่วทุกมุมโลก สั่งรูมเซอร์วิสจากโรงแรมที่พัก

    เพื่อความสะดวก สบาย คาดไม่ถึงเลยว่ามันถึงวันที่ต้องลงมือปรุงอาหารทานเอง

                อย่างแรกต้องตัดเมนูทอดทิ้ง เพราะอิทาจิกำชับหนักหนากับชุนไว้ว่า

                “ คุณคาคาชิไม่ทานของทอดทุกชนิด! “

    ดังนั้นเมนูทอดทุกชนิดจึงต้องตัดออกไป ก็คงเหลือ ผัด ต้ม นึ่งและย่าง ในตู้เย็นพอมีปลาไม่ทราบชื่อหนึ่งตัว 

    ผักอีกไม่กี่อย่าง  ไม่ทราบเหมือนชื่อปลา ชุนตัดสินใจหยิบมันออกมาจากวางลงบนโต๊ะทานข้าว ทำท่ากอดอกยกแน่น

    มือเกาคางใช้ความคิด ไม่กี่วินาทีในการรังสรรค์อาหารอย่างชาญฉลาด

                “ หวังว่าคาคาชิคงจะทานคลีน ” ชุนภาวนาในใจอย่างนั้นและลงมือทำอาหารเย็นภายในทันที

               

    คาคาชิเดินทางกลับบ้านด้วยความเร็วติดขีปนาวุธไว้ที่ฝ่าเท้าทังสอง เรียกว่ามีความเร็วเท่าไหร่ใส่ไม่ยั้ง 

    กุญแจบ้านอยู่กับชุน ไม่รู้ว่าชุนจะถึงบ้านจริงๆหรือเปล่า แล้วถ้าชุนหายตัวไปมันจะเกิดอะไรขึ้น? 

    คงโดนท่านโฮคาเงะเทศนามหาชาติชุดใหญ่แน่!

                “ กลับมาแล้ว! ” คาคาชิเปิดประตูบ้านพร้อมส่งเสียงดัง ปลายจมูกได้กลิ่นบางอย่างชวนให้น้ำย่อยเริ่มทำงาน   

    ทิ้งกระเป๋าเป้บนบ่าลงบนโซฟา สาวเท้ามุ่งหน้าเข้าห้องอย่างเงียบๆ คาคาชิกำลังมองดูชุนทำอาหารจากทางด้านหลัง

               นานแค่ไหนแล้วที่ไม่มีคนใช้งานห้องครัวปรุงอาหาร.... ตั้งแต่บิดาเสียชีวิต คาคาชิเองก็แทบจะไม่ย่างกราย

    เข้ามาอีกเลย ง่ายๆก็ดริปกาแฟกินเองในตอนเช้า ส่วนมื้ออาหารกลางวัน เย็น ทานจากข้างนอกบ้าน เข้ามาเรียบร้อย 

    หุ่นผอมแห้งมีแต่ก้าง ไม่น่าสันทัดเรื่องงานครัว แต่กลับทำมันออกมาได้อย่างคล่องแคล่วและว่องไว 

    ไม่ทันไรคนถูกจ้องเอียงหน้าหันมา ทำให้คาคาชิถึงกับสะดุ้ง

                “ กลับมาตอนไหน ? ” ชุนไม่รู้สึกตัวถึงการมาของคาคาชิเลยสักนิด

                “ ห้านาทีที่แล้ว ” จริงๆมากอาจจะมากกว่านั้น คาคาชิไม่ได้นับ 

                “ จะทานข้าวหรืออาบน้ำก่อนดีละ ?” ชุนถามขณะเสยผมปรกใบหน้าขึ้น

                “ อาบน้ำก่อนดีกว่า ” คาคาชิเลือกอย่างหลังเพราะดูท่าอาหารเย็นยังไม่เสร็จ

    คาดว่าอาบน้ำเสร็จคงทันเวลาอาหารเย็นพอดี 

                “ ฉันยังไม่ได้ทำน้ำอุ่นเลย รอก่อนนะ ” ชุนละออกจากเคาท์เตอร์ทำอาหาร เพื่อไปห้องน้ำ

                “ ไม่เป็นไร ทำอาหารเย็นต่อเถอะหิวจนไส้จะขาดแล้ว ” คาคาชิยิ้มอ่อน ทำท่าลูบท้องป้อยๆ

    ชุนพยักหน้ารับหันไปสนใจกับการทำอาหารต่อ คาคาชิพ่นลมหายใจคลายกังวล จากนั้นเขาคงต้องรีบอาบน้ำ

    ชำระร่างกาย ความอุ่นของสายน้ำพอจะทำให้เขาสบายตัวขึ้น มาได้ในระดับหนึ่งทว่าไม่สบายใจมากนัก  

    เขายังคงไม่สามารถไว้ใจในตัวชุนอยู่ดี 

                   คาคาชิปิดเปลือกตาลงปล่อยให้สายน้ำจากเรนโชเวอร์ไหลผ่านตามร่างกายอย่างช้าๆ

    มันเป็นเรื่องยากกับการที่เขาจะยอมเปิดใจรับใครอีกหลายคนเข้ามาพร้อมกันในเวลาเดียว ไม่ว่าจะลูกลิงทีมเจ็ดสามตัว

    หรือจะชุน มันเป็นสัจจะธรรมของโลกมีพบก็ต้องมีจาก คนที่เขารักมักจะจากไปอยู่เสมอ ดังนั้นคาคาชิจึงตัดสินใจ

    เลือกที่จะไม่รู้จักใครเลยดีกว่า..... 

                     สำหรับคาคาชิแล้ว....ความผูกพันธุ์...น่ากลัวกว่าความรักเสียอีก!

    ไม่รู้ว่าโลกจะเหวี่ยงสมาชิกทีมเจ็ดหรือชุนเข้ามา มันก็คงต้องมีตอนที่พวกเขาทั้งหลายเดินจากไปอย่างแน่นอน

    บอกตามตรงเลยว่าคาคาชิก็ไม่ชอบการจากลาหรือตอนจบแบดเอ็นด์ของเรื่องมากนัก คาคาชิเปิดเปลือกตาขึ้น 

    ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างลูบใบหน้าสองสามครั้ง ปิดวาล์วน้ำ  ใช้ผ้าขนหนูซับหยดน้ำบนตัวออกและสวมเสื้อกล้าม 

    กางเกงวอร์มขายาวสีดำกรอมข้อเท้า เขาพร้อมทานอาหารเย็นกับชุนแล้วละ คาคาชิก็ลงไปชั้นล่างของตัวบ้าน 

    มองเห็นชุนกำลังนั่งรอตรงโต๊ะทานอาหาร เมนูวันนี้คือปลานิ่งมะนาวกับแกงจืดผักรวม ข้าวสวยร้อนๆ

    คาคาชิใช้เวลาพิจารณาไปชั่วครู่ จะว่าไปแล้วเขาก็ไม่ได้ซื้อของเข้าบ้านเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะอุปโภคหรือบริโภค 

    ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ!

                “ นายไม่ชอบหรอ?” ชุนถาม เมื่อเห็นคาคาชิยืนนิ่งไปชั่วครู่ หลังจากมองเห็นสำรับอาหารบนโต๊ะ

    หรือว่ามีเครื่องปรุงบางชนิดที่คาคาชิทานไม่ได้?

                “ ชอบสิ ฉันแค่คิดว่ายังไม่ได้ซื้อของตุนไว้เลย พวกข้าวสาร อาหารแห้ง” คาคาชิรีบอธิบายกลัวชุนเข้าใจผิด

    หย่อนตัวนั่งลงตรงข้ามชุน  หยิบช้อนส้อมขึ้นมาทำท่า พร้อมชิมอาหารฝีมือชุนเสียที

                “ ก็ว่าอยู่ ” ชุนเห็นด้วย

                “ ไว้พรุ่งนี้เราไปซุปเปอร์ฯกันนะ ” คาคาชิเงยหน้าขึ้นมาชวนอีกคน

                “ อืม ” ชุนพยักหน้ารับ

    ความเงียบเข้าปกคลุมโต๊ะอาหาร ทั้งสองต่างนั่งทานอาหารกันอย่างเงียบๆ ชุนเองก็ไม่กล้าจะเงยหน้าคิดมา

    เพราะรู้ว่าคาคาชิมักจะสวมหน้ากาก ผ้าบลัฟปิดปัดบังใบหน้าแทบจะตลอดเวลาและตัวหล่อนเองก็ให้เกียรติ์ ไม่แอบมอง

    หรืออาศัยจังหวะเผลอของคาคาชิด้วย  แต่จะไป...อาหารที่ปรุงให้คาคาชิทานนั้นก็เป็นอาหารไทยบ้านๆ 

    สามารถหากินได้ตามข้างทาง ร้านอาหารตามสั่งหรือพวกร้านข้าวต้มมื้อดึกสำหรับนักดื่ม ผีเสื้อกลางคืน 

    ชุนไม่ได้อธิบายและไม่กล้าเงยหน้าอธิบายคอนเซปเมนูหรือจะชวนคาคาชิคุย  ได้แต่ก้มหน้า ก้มตาคดข้าวในจาน

    ของตัวเองต่อไปจนกระทั่ง...

                “ ตักข้าวเพิ่มให้หน่อยสิ ” คาคาชิรวบช้อน ส่งจานเปล่าในมือให้คนใกล้หม้อหุงข้าว

                “ อืม ” ชุน เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มตาหยี(ไม่มองหน้าคาคาชิ) ส่งมือรับจานตักข้าวเปล่าแล้วส่งคืน 

    อย่างน้อยคาคาชิก็คงพอชอบใจในระดับหนึ่ง ทานมันลงไปโดยไม่ปริปากบ่น อย่าเพิ่งถามเรื่องรสชาติของอาหารเลยดีกว่า

    เผื่อมันไม่อร่อยขึ้นมาชุนเองอาจจะเสียใจ และไม่มีแรงบันดาลในการปรุงอาหารในมื้อต่อไป 

                “ ฉันล้างเอง ” คาคาชิเสนอตัวในการเก็บล้างครั้งนี้ เพื่อที่ชุนจะได้ไปอาบน้ำและพักผ่อนตามลำดับ

    อาหารเย็นจบลงคาคาชิแยกตัวขึ้นห้องนอน มือหนารีบเปิดหนังสือสีส้มเล่มโปรด อารมณ์ยังค้างจากตอนที่แล้ว

    ล่าสุดมันถึงจุดพีคของเรื่องแล้วด้วย คาคาชิไม่อาจรอไหวเขารีบเปิดหน้าล่าสุดและอ่านมันทันที

    เวลาได้ล่วงเลยข้ามคืนเข้าสู่วันใหม่ มองนาฬิกาดิจิทอลข้างหัวเตียงกำลังบอกว่าตอนนี้ตีสองกับอีกสามสิบนาที

    คาคาชิยังไม่ได้จัดเตรียมเสื้อผ้าสำหรับใส่พรุ่งนี้ด้วยสิ ปิดหนังสือในมือแล้วลุกออกจากเตียง เดินตรงไปยังห้องแต่งตัว

    เปิดประตูแง้มไว้เพื่อให้แสงสว่างจากหลอดนีออนตรงทางเดินส่องเข้ามาแทนการเปิดไฟห้อง คาคาชิเกรงใจ

    ว่าตนจะปลุกชุนตื่นขึ้นกลางดึก  ตาคมสีดำกวาดมอง รอบห้องมีเพียงแค่ที่นอนปิกนิควางเป็นระเบียบ

    ว่างเปล่าไร้ร่างของชุน

              คาคาชิรีบปิดบานประตูห้องทันที รีบวิ่งลงชั้นล่างของบ้าน ในใจลึกๆแล้วคาคาชิมีความรู้สึกว่าชุนต้องอยู่ในบ้าน

    ทว่าอยู่ในส่วนไหนของตัวบ้านนั่นสิ เดินหาครบทุกห้องยกเว้นห้องรับแขก คาคาชิพยายามเดินยกส้นเท้า

    ไว้เพื่อป้องกันเสียงดัง กวาดสายตามองไปทั่วห้องจนมาหยุดตรงโซฟารับแขก มีเพียงแค่โคมไฟเล็กๆเปิดไว้เท่านั้น 

    ดวงไฟหลักๆปิดมืดสนิท คาคาชิเห็นชุนนั่งหลับหลังตรงอาจจะเอนหลังพิงโซฟาเล็กน้อย แอบลองมองชุนจากด้านข้าง 

    ไม่ว่าจะโครงหน้า คิ้ว ตา จมูก ปาก ทุกอย่างผสมกันอย่างลงตัว  

    สำหรับผู้ชายอย่างคาคาชิ....มองว่าชุนหน้าตาจัดว่าหล่อเลยทีเดียว!

                “ มีอะไรหรอ?” ชุนเปิดเปลือกตาขึ้น รับรู้ได้ว่ามีใครอีกคนยืนมองอยู่

                “ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจปลุก....แค่ลงมาหาน้ำดื่มเฉยๆ ” คาคาชิปดคำโต

                “ อืม ” ชุนส่งเสียงในคอเท่านั้นแล้วปิดเปลือกตาทำท่าจะนอนต่อ

                “ เอ่อ ...เตียงนอนฉันมันพอสำหรับสองคน ” คาคาชิพูดขึ้น

                “ ขอบใจ ”

                “ ฝันดีนะ ”

                “ ฝันดี ”

    ร่ำลากันเรียบร้อยคาคาชิเปิดประตูเข้าห้องแต่งตัวจัดแจงเสื้อผ้าสำหรับวันพรุ่งนี้เสร็จ เขาเดินกลับห้องนอน

    ถึงเวลาสำหรับพักผ่อนเสียที  คาคาชิเอนหลังนอนลงอย่างนุ่มนวลปิดเปลือกตาลงช้าๆ ลืมตาขึ้นมองเพดานห้อง 

    ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองมากนัก ทำไมถึงได้คิดว่าชุนจะพยายามหาทางหนีจากตัวเขาตลอดเวลา ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

    ว่าทำไมเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ ทั้งที่เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ชุนมอบความเชื่อใจให้เขาเต็มร้อย

    ส่วนตัวเขากลับระแวง ไม่ยอมรับหรือตาบอดมองไม่เห็นสิ่งนั้นด้วยซ้ำ

    อย่างเมื่อครู่นี้ก็เหมือนกัน... อยู่ร่วมชายคากับชุนไม่กี่วัน...

    เขารับรู้ว่าชุนแคร์ตัวเขามาก กลับกลายเป็นว่าคาคาชิไม่ได้แคร์หรือสนใจ กับความรู้สึกของชุนบ้างเลย

                “ ความเชื่อใจถ้าอยากได้....ก็ต้องให้ก่อน “ คาคาชิพูดกับตัวเอง เอื้อมมือปิดโคมไฟเล็กๆบนหัวเตียง

    เห็นทีเขาคงได้ไว้ใจชุนมากกว่านี้สิ

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป...

     29ต.ค.63

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×