ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic: One piece] Dr. Feel Good.

    ลำดับตอนที่ #35 : DR. : Bad Habits. II

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 115
      11
      23 พ.ค. 65

     

     

     

     

       My bad habits lead to wide eyes starin' at space.
                  And I know I'll lose control of the things that I say.
                          Yeah, I was lookin' for a way out, now I can't escape.

     

     

      “ นั่นไม่ใช่หัวใจหรอกนะ อยากให้คุณศึกษาวิชากายวิภาคศาสตร์ก่อนลงมือ! ”

     

    “ แล้วต้องแบบไหนกันละ? ที่มันตรงกลางของหัวใจ? ” ลีอาเกิดข้อสงสัยกับประโยคข้างต้น

    หล่อนเคยใช้มีดเชฟเสียบฉึกปักเข้ากลางอกมิฮอว์ค ซึ่งคิดว่าน่าจะอยู่ช่วงของหัวใจพอดิบพอดีแล้วเชียว… แต่ไม่ใช่เลย

    เขายังพูดต่อได้อย่างหน้าตาเฉย แถมดูไม่เกิดอาการเจ็บปวดดิ้นทุรนทุรายด้วย!

    นักสืบสาวจำต้องย้อนกลับมาที่คอนโดมิเนียมของตนเองอีกครั้ง 

    ตั้งแต่เกิดเรื่อง.. เก็บข้าวของย้ายออกมาก็ไม่ได้หวนคืนย้อนกลับมาอีกเลย เหมือนว่าการกลับมาในคราวนี้

    ต้องมีเหตุจำเป็น!

    หล่อนล้มตัวลงนอนลงบนเตียงกว้างพร้อมหนังสือเล่มหนาสองเล่มใหญ่ กรีดปลายนิ้วลงมุมกระดาษเล่มแรก

    เปิดหาหน้าสารบัญเพื่อต้องการศึกษาหาความรู้อย่างจริงจัง ประจวบเหมาะกับเครื่องปรับอากาศให้ความเย็นฉ่ำ

    ผิดกับอากาศด้านนอกราวกับอยู่คนละมัลติเวิร์ส ไม่ทันไรดวงตาสีฟ้าแกมเขียวค่อยๆถูกปิดลงสนิทอย่างอัตโนมัติ

     

     

    ศัลยแพทย์หนุ่มขยับตัว ถอดเสื้อกราวน์สีขาวแขนจั๊มบนตัวออกค่อยวางลงบนโต๊ะทำงานประจำตัว

    ไม่ทันไรร่างของนายแพทย์สูงโย่งทรงผมแปลกตาซึ่งมีศักดิ์เป็นรุ่นพี่แถมยังเป็นเมท เลื่อนเปิดบานประตูตามเข้ามาติดๆ

    “ เออ ลอว์ พรุ่งนี้ไม่ต้องมาแล้วนะ พักไปก่อน ” มัลโก้ลำบากใจที่จะบอกเรื่อง 

    เรื่องนี้ก็มาจากเบื้องบน ผ่านมาจากเจ๊อีวานเช่นกัน คราแรกที่มัลโก้ยินก็อดตกใจไม่ได้จริง คิดว่าโดนเซ็นใบลาออก

    เหมือนของนางพยาบาลสุดฮอต ทว่าของเมทรุ่นน้องโชคดีกว่า!

    “ ? ” คนถูกเรียกชื่อยังไม่เข้าใจ เอียงศีรษะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

    “ ทางฝ่ายผู้บริหารอยากให้นายลาพักไปก่อน เรื่องวันหยุดเขาจะใช้วันลาพักร้อนแทน ” ซึ่งจะไม่กระทบ

    ถึงลอว์ไม่ลางาน ทางโรงพยาบาลก็บังคับใช้วันลาอยู่ดี! ไม่มีผลกระทบเรื่องเงินเดือนแต่อย่างใด 

    แค่ให้ลอว์ใช้วันหยุดของตนเท่านั้น เท่าที่ได้ฟังมาจากหัวหน้าแผนกอีกทีนั้น ก็เพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น

    อีกอย่างลอว์ก็ใช้วันหยุดไปแล้วด้วย เผลอๆอาจจะหยุดงานไม่ถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำ…

    “ เรื่องนามิใช่ไหมครับ? ” ลอว์หายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วผ่อนลมหายใจ ถามเสียงนิ่งกลับ

    หากเป็นเรื่องของนามิตั้งแต่คราวก่อน ตอนที่ตบตีลงไม้ลงมือกับมากิโนะและลีอา… ซึ่งตอนนั้นเขาติดเคสอยู่

    กว่าจะทราบเรื่อง ตลาดก็วายไปแล้วด้วย  อดเป็นห่วงลีอาไม่ได้อยู่ดี ห่วงมากิโนะด้วยอีกคน

    “ อืม ไม่ต้องห่วงเรื่องแพทย์ประจำบ้านหรอกนะ พวกเราจัดเวรกันได้ นายแค่พักผ่อนให้หายเหนื่อย

    แล้วค่อยกลับมาลุยกันต่อ ” มัลโก้พยายามไม่ให้พูดถนอมและรักษาน้ำใจของลอว์นั้นให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้

    เพราะรู้ว่าเรื่องของลอว์นั้นก็หนักเอาเรื่องด้วยเหมือนกัน!  

    ทางโรงพยาบาลแดรคูลได้จัดและแบ่งเวรไว้อย่างเรียบร้อย บริหารคนได้อย่างดีเยี่ยม

    ไม่ต้องกังวลเรื่องจำนวนของหมอจะมีไม่เพียงพอต่อคนไข้ ผู้มาใช้บริการ เฉกเช่นโรงพยาบาลของภาครัฐบาลแต่อย่างใด!

    หรือช่วงเช้าหมอประจำบ้านจะตรวจเสร็จก็พากันกลับ ส่งต่อช่วงเย็นจวบจนเช้าของวันรุ่งจะเป็นหน้าที่ของพวกอินเทิร์น

    บอกได้เลยว่า ไม่ว่าจะเช้าหรือเย็น จรดภาคค่ำต้องมีแพทย์ประจำบ้านควบคู่กับอินเทิร์น! 

    “ ครับรุ่นพี่  ขอบคุณมากครับ ผมขอตัวก่อน ” ลอว์โค้งตัวทำความเคารพเหมือนเช่นทุกครั้ง

    พับเสื้อกราวน์พาดบนท่อนแขนแล้วคว้ากระเป๋ามาอยู่ในมือ แล้วก็กลับไปพักผ่อนตามคำสั่ง ซึ่งก็ออกเวรตอนเช้าพอดี

     

     

    “ ได้พักยาวๆแบบนี้… คงไม่ได้ไปรับเวรนอกที่ไหนหรอกนะ? ” คำพูดลอยๆผ่านอากาศ 

    แม้ไม่เอ่ยชื่อคู่สนทนาหรือถูกกล่าวถึงนั่นก็ทำให้คนได้ยินต้องหยุดชะงัก มันเป็นคำพูดที่เลวร้าย ร้ายแรง

    ที่สุดสำหรับหมอด้วยกัน ไม่ว่าจะหมอหรืออินเทิร์น ทุกคนล้วนแล้วก็อยากมีเวลาพักผ่อนเป็นของตัวเองทั้งนั้น! 

    หากแต่อยากจะใช้เวลาเหล่านั้นเพื่อไปรับงานเอกชนที่อื่น ควรจะเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่หรือ? 

     

    “ นั่นปากหรือครับ ที่พูด? ” ร่างสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรมีชะงักหนึ่งจังหวะ แล้วหันหลังกลับมาถามทันที

    จับจ้องมองอีกคนด้วยแววตานิ่งสงบ และต้องการคำตอบภายในทันที! แม้อีกฝ่ายจะเป็นผู้ชาย รุ่นเดียวกับรุ่นพี่มัลโก้

    ลอว์เองก็ไม่ได้หวั่นเกรงกลัวแต่อย่างใด 

    ลอว์เข้าใจตั้งแต่เลือกเรียนหมอแล้วว่า… ไม่มีใครได้เข้างานแปดโมงเช้าและได้เลิกงานห้าโมงเย็น

    เขาเลือกแล้ว และเลือกเรียนคณะแพทย์ด้วยตนเอง ซึ่งนั่นถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้ว หากย้อนกลับไปเลือกใหม่

    เขาก็จะยืนยันเรื่องคำตอบเดิม!

    ก่อนหน้าที่จะได้มาร่วมงานกับโรงพยาบาลแดรคูล ลอว์ก็ฝึกงานของภาครัฐบาลมาก่อน 

    เขารู้ว่าสาหัสสากรรจ์ขนาดไหนอธิบายให้เห็นภาพชัดๆเลย ตื่นนอนตอนตีห้า ขับรถไปโรงพยาบาลให้ทันราวนด์ 

    วอร์ด วันไหนเข้าเวร ก็ออกจากห้องตีห้าทำงานถึงเที่ยงคืน หากวันไหนมีเรื่องหรือมีเหตุ เช่น คนไข้เกิดช็อค

    หรือต้องช่วยชีวิต ก็ใช้เวลานานหน่อยปาเข้าไปตีสาม กลับบ้านและตื่นตีห้าเพื่อมาทำงาน เป็นแบบนี้วนลูปไปเรื่อยๆ 

    ดังนั้นแล้วพวกนักเรียนแพทย์ ใช้ทุนกันเรียบร้อยแล้ว… ต่างพากันเปิดคลีนิคเป็นของตัวกันหมด!

    ส่วนเรื่องค่าตอบแทนของอินเทิร์น แพทย์เพิ่มพูนทักษะนั้น… น้อยนิดกว่าที่พวกเขาเสียค่าเล่าเรียนไปด้วยซ้ำ

    หากพูดเรื่องเงินเดือนกับเพื่อนที่เรียนหมอมาด้วยกัน แต่แยกย้ายกันไปทำงานประจำโรงพยาบาลตั่งต่าง

    ราวกับเป็นเรื่องต้องห้าม! 

               จากหมอเวรจะกลายเป็นหมอชั่วทันที! 

    คนเรียนจบหมอมาเยอะก็จริง แต่พวกโรงพยาบาลรัฐนั้นเปิดรับเจ้าหน้าที่น้อยลงเรื่อยๆ ลดจำนวนเจ้าหน้าที่ 

    แต่เพิ่มเตียงคนไข้ (ซึ่งเป็นปัญหาของเรื่องการจัดระบบของโรงพยาบาลนั้นๆ) ยิ่งมีแพทย์หรือพยาบาลลาออก

    ก็ไม่เปิดรับคนเพิ่ม กลับต้องดึงคนจากอีกวอร์ด ไปช่วยของอีกวอร์ดขึ้นเวรแทน ทำให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่

    ไม่เป็นอันหลับอันนอนเลยทีเดียว!

    ยิ่งอยู่แผนกศัลยกรรม ยิ่งแล้วใหญ่! มาราวนด์คนไข้ก่อนจะเข้าห้องผ่าตัด อย่างของลอว์ ราวนด์ที ตอนเวลาตีห้า 

    ผ่าตัดตอนหกโมงเช้า กว่าจะได้เลิกงาน คงไม่ใช่เวลาห้าโมงเย็นอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แล้วขึ้นอยู่กับว่ากิจกรรมของวันนั้นๆ

    จะเสร็จกี่โมงถึงจะได้กลับบ้าน บางทีก็ไม่ได้กลับบ้านถึงไม่ได้เข้าเวรก็ต้องเคลียร์งานตีหนึ่งตีสอง 

    หรือบางครั้ง แพทย์คนเดียวแม้จะเป็นอินเทิร์นเพียงคนเดียว ต้องวิิ่งงานถึงสามสี่วอร์ด ซึ่งแตกต่างจากพยาบาล 

    คือพยาบาลหนึ่งคนจะดูแลแค่วอร์ดเดียว 

    การทำงานของเขานั้นเกินยี่สิบสี่ชั่วโมง จากเช้าของอีกวัน เลิกงานอีกทีก็เย็นของอีกวันถือว่าเป็นเรื่องปกติ! 

    ไม่ได้แบ่งกะเหมือนที่ทุกคนเข้าใจ!  

    การทำงานของพวกหมอ บุคคลากรทางการแพทย์ ทำเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดด้วยซ้ำ!

     

    ลอว์เข้าใจและผ่านจุดนั้นมาแล้ว ตอนนี้เขาได้ย้ายมาประจำโรงพยาบาลแดรคูล ซึ่งเป็นของภาคเอกชน

    โรงพยาบาลอันดับหนึ่ง ขึ้นชื่อว่าหมอ แพทย์ พยาบาล คนเก่งๆจะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่! 

        ไม่สิ! ต้องพูดว่า เป็นโรงพยาบาลอันดับหนึ่งซึ่งคัดเฉพาะคนเก่งระดับหัวกระทิ มาเข้าทำงานร่วมกัน 

    กับบุคคลากรที่เก่งระดับแนวหน้าของประเทศถึงจะถูก!

    ลอว์สามารถกลับบ้านพักผ่อนได้อย่างสบายใจ โดยไร้กังวลเพราะการจัดระบบของที่นี่นั้นดีกว่าของภาครัฐเยอะ

    มีทั้งแพทย์ประจำบ้านและอินเทิร์นอยู่ประจำตลอดเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง แถมไม่ต้องทำงานเกินกว่ากฏหมายกำหนด

    ได้ทานอาหารอร่อยระดับมิชลีนสตาร์มาทำให้ ได้รับสารอาหารครบห้าหมู่ แถมมีเวลาพักทานอาหารอย่างสบายใจ

    ถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม!(หากไม่ติดเคสหรือมีเคสต่อเนื่อง) ของหวานตบท้ายเบรกเบาๆ หรือจะเครื่องดื่มให้เลือกสรร

    ก่อนกลับเข้าทำงาน 

    ที่สำคัญคือหากมีแพทย์ พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ต่างทำงานล่วงเวลาแล้วละก็… ทางผู้บริหารโรงพยาบาล

    ก็จ่ายให้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยคุ้มค่าที่พวกเขาเสียเวลาส่วนตัวนั้นไป ซึ่งได้ยินมาว่าผู้บริหารใหญ่ก็หมอแดรคูล 

    และหมอแชงค์(รองผู้บริหาร) นั้นลดเงินเดือนของตัวเองลงเกือบครึ่ง และไปเพิ่มให้กับเจ้าหน้าที่บุคคลากรคนอื่นๆ

     

    โห… อย่างซึ้ง!

    ปาดน้ำตาด้วยความดีใจ และลุกขึ้นมายืน ปรบมือให้สุดแรง ส่งเสียงกรี้ดกร้าดกันเกรียวเลยทีเดียว!

     

    หากคนนอกอาจจะมองเป็นเรื่องเล็กน้อย สำหรับพวกเขา… ถือเป็นเรื่องที่ทางผู้บริหารสามารถ ‘ซื้อใจ’

    ให้พวกเขาทำงานให้อย่างทุ่มเทสุดชีวิต(แทบจะถวายหัวให้เลย) โดยปราศจากปริปากบ่นสักแอ๊ะให้รำคาญใจ 

    หรือเรียกได้ว่าแทบจะขายวิญญาณให้เลยก็ว่าได้!

     

    “ …  ” คู่กรณีของลอว์ถึงกับปิดปากเงียบ หมอหนุ่มท่าทางไม่สบอารมณ์ แผ่จิตคุมคามออกจากตัว

    แถมไม่เป็นมิตรออกมา ทุกคนในส่วนบริเวรนั้นสามารถรับรู้ ต่างพากันเงียบได้อย่างพร้อมเพรียง!

    “ คราวหน้า… ก่อนจะพูดอะไร ก็ใช้สมองคิดก่อนนะครับ หรือว่าไม่มี? ” เขาตอบน้ำเสียงโทนต่ำ

    จับจ้องมองใบหน้าอีกคนโดนกดสายตามองต่ำ ไม่ใช่การเหยียดแต่อย่างใด เพียงเพราะศัลยแพทย์หนุ่มนั้นตัวสูงตังหาก!

     

     

    ให้รับเวรนอกของเอกชน เหอะ! แค่นี้ก็แทบไม่เหลือแรงเก็บไว้ทำอย่างอื่นต่อแล้ว!

            คนพูดนี่มันก็ไม่ได้คิดเลยนะ! หรือบางทีอีกฝ่ายอาจจะไม่มี ‘สมอง’ อย่างที่เขาถามก็เป็นได้!

     

    ลอว์ไม่ใช่คนคิดเยอะ จ้องมองหน้าอีกคนอย่างเอาเรื่อง ข่มขวัญให้อีกคนหวาดกลัว เสียขวัญเพียงเล็กน้อย 

    เขาหันหลังแล้วเดินออกมาทันที ส่งมือล้วงหยิบกุญแจรถ BMW Z4   ขับรถกลับบ้านเหมือนทุกวัน

    ระยะห่างจากคอนโดที่พักกับโรงพยาบาลก็ไม่ได้ไกลมาก กดปลายเท้าเพื่อเหยียบเบรกเพียงเบาๆ

    ส่งสายตามองออกไปด้านนอกเวลาว่าง เพื่อรอสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว 

    แน่นอนว่าดวงตาของหมอหนุ่มนั้นมองเห็น ป้ายโฆษณาบิลบอร์ดขนาดใหญ่ ภาพของนางแบบชุดชั้นในเด่นหรา 

    ผิวกายเนียนละเอียดคล้ายเนยชั้นดี ทรวงทรงองค์เอว ส่วนเว้าส่วนโค้งมองเห็นได้ชัดแม้จะทับบนตัว

    ด้วยเสื้อเชี้ตสีขาวตัวโคล่ง ลอว์นั้นถึงกับมองค้าง ดวงตาของเขาแทบไม่กระพริบราวกับต้องมนต์

     

    ปรี้นๆ

    เสียงแตรสองหนซ้อนจากคันหลังเรียกให้ลอว์หันกลับมาสนใจกับถนนตรงใหญ่ตรงหน้า แม้จะแอบหันไปมองอย่างจำใจ

    เพื่อจดจำใบหน้าของนางแบบสาวคนนั้นไว้ในสมองบันทึกลงในส่วนของความทรงจำ… 

     

    BMW Z4 สีขาวแล่นเข้าสู่ลานจอดรถของทางคอนโดมิเนียม สับเปลี่ยนเข้าเกียร์ถอยหลังเข้าจอดอย่างเรียบง่าย

    เปลี่ยนเข้าเกียร์ P ไว้และดับเครื่องยนต์ เมื่อก้าวขาลงรถ เพียงแค่เหยียบลงพื้นคอนกรีตเพียงแค่ข้างเดียว 

    เขาจะลืมเรื่องของงานทันทีกลับขึ้นห้องพักเหมือนปกติ เสียบคีย์การ์ดเปิดไฟห้องรับแขกเพื่อให้เกิดความสว่างไสว 

    เดินตรงไปห้องนอนส่วนตัว สิ่งแรกที่ปลายนิ้วเท้าทั้งสิบสัมผัสได้คือความเย็นยะเยือกจากเครื่องปรับอากาศ

    “ ตายห่… ” นี่ลืมปิดเครื่องปรับอากาศอย่างนั้นหรอ?

    ลอว์ยกหลังมือซ้ายซึ่งมีเสื้อกราวน์สีขาวพาดขึ้นมาขยี้ดวงตา นี่เขารีบมากแถมยังสะเพร่าขนาดนี้เลยหรอ?

    หมอหนุ่มรีบเปิดผลักบานประตูเข้าไปอย่างว่องไว อย่างแรกคือต้องรีบไปหารีโมทเครื่องปรับอากาศก่อน

    ดวงตาของเขาจับโฟกัสไปที่เตียงนอนกลางห้อง… ร่างของใครบางคนกำลังหลับสนิท

     

    นางแบบชุดชั้นในบนป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่เขาได้แต่มองตาปริบๆ กำลังนอนอยู่บนเตียงของเขา

    เส้นผมยาวสลวยคล้ายเกลียวคลื่นยามทิวากระจายบนปลอกหมอน ใบหน้างดงามไร้ที่ติซุกบนหมอนยัดไส้ขนเป็นอย่างดี

    แม้จะสวมเสื้อยืดสีขาวตัวโคล่ง หากลองมองดีๆแล้วนั่นก็เป็นเสื้อยืดของเขาอีกนั่นแหละ! 

    เสื้อคอกลมตัวใหญ่ๆ ปิดได้แค่ช่วงบน ชายเสื้อไม่อาจจะปกปิดเรียวยาวสลักเสลาไร้ร่องรอยมลทิน

    รับกับสะโพกกลมกลึง มือซ้ายยังมือหนังสือตำราแพทย์ของเขา ยิ่งการสอดนิ้วเข้าไปกับหน้าคั่นหนังสือ

    เห็นแค่ส่วนของหน้าปกก็จำได้ดี หนังสือกายวิภาคศาสตร์และสรีละวิทยา หนังสือแผนที่ร่างกายมนุษย์

    อีกเล่มที่วางตรงหน้ายังไม่ถูกเปิดอ่าน

     

    “ ลีอา ” เขาเรียกชื่อของหล่อนราวกับตกอยู่ในสภาวะต้องมนต์

    นี่เขาทำงานหนักจนเกิดอาการหลอนว่าลีอากลับมาหาเขา กลับเข้ามาสู่อ้อมอกของเขาอีกครั้งอย่างนั้นหรอ?

    หรือว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ในภวังค์กันแน่?

    ส่งมือออกไปเพื่อจะสัมผัสลงบนต้นเเขนเรียวเล็ก ว่าภาพที่อยู่ตรงหน้านั้นจะเป็น ‘ของจริง’ หรือไม่

    ผิวกายเนียนนุ่มทุกครั้งที่สัมผัส รวมกระทั่งถึงครั้งนี้ด้วย เนื้อตัวหล่อนยังมีความอบอุ่นที่เขาต้องการเสมอ

    ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยปอยผมปรกใบหน้าทัดหลังใบหู เพื่อขอมองใบหน้าของลีอาอย่างชัดๆ

    ใบหน้างดงามไม่อาจจะสรรหาสิ่งใดมาเปรียบ และเหมือนรู้สึกว่า… นอกจากใบหน้าแล้วก็มีรูปร่าง

    ที่ทำให้เขาแทบไม่สามารถละสายตามองอย่างอื่นได้เลย ราวกับว่าดวงตาของเขามีไว้เพื่อมองลีอาเพียงคนเดียว

    แค่ให้เขาได้นั่งมองลีอาหลับอย่างนั้นทั้งวันก็ย่อมได้

    ขยับตัวเข้าไปใกล้ตรงด้านหน้าแล้วล้มตัวลงนอน หยิบหนังสือจากมือใช้คั่นหนังสือเกี่ยวด้วยปลายนิ้วเรียวออก 

    โดยวางไว้ด้านหลัง จับจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวอย่างไม่วางตา เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ ปลายจมูกสูดลมหายใจเข้า

    เพื่อรับกลิ่นกายหอมหวานได้อย่างชุ่มปอด วาดวงแขนกว้างออกไปเพื่อโอบกอดร่างของลีอาให้แนบชิดกับร่างกาย

    โดยเฉพาะด้านหน้าเหมือนทุกครั้งที่เขากอดหล่อน กดปลายจมูกลงบนเส้นผมสีดำดุจเส้นไหมข้างขมับด้วยความรักใคร่

    ไม่ทันร่างของหล่อนนั้นขยับ รับรู้การมาถึงของอีกคน

    “ อย่า มิฮอว์ค! ” ชื่อที่หญิงสาวเอ่ยออกไปยามสะลึมสะลือทำให้แพทย์หนุ่มถึงกับชะงัก

    สองมือน้อยๆของหล่อน ขยับขึ้นมาดันช่วงแผงอกออกและขยับตัวถอยหลังปฏิเสธ ดวงตาล้อมดวงแพขน

    ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

    “ ลอว์หรอ? ” หล่อนเรียกชื่อเขา พยายามปรับสายตาโฟกัสกับคนตรงหน้า

    “ อืม  ” ลอว์พยักหน้า แม้ว่าชื่อของคนก่อนหน้านั้นจะทำให้เขาชะงักชั่วครู่

    “ พอเถอะ อย่าพยายามเลย ” ลีอาขยับตัวถอยหลัง ปัดป้องสองมือของลอว์ออกจากตัว

    ร่างบางลุกออกจากเตียงนอนทันที แม้จะแทบไม่มีหันหลังกลับมา ทำให้ร่างของแพทย์หนุ่มนั้นต้องรีบลุกขึ้นยืน

    แม้จะยังไม่ทันลงน้ำหนักลงไปที่ฝ่าเท้าทั้งสองข้างดี

    “ ทำไม ลีอา เดี๋ยวก่อน ” ลอว์ใช้ประโยชน์จากช่วงแขนยาว ฝ่ามือหนาคว้าข้อมือของหญิงสาวไว้แน่น

    “ ในบรรดาของสะสม… ฉันคงเป็นของเล่นที่นายทิ้งง่ายที่สุด ” ลีอาตอบเสียงนิ่ง

    “ ม ไม่  ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นของเล่นเลยนะ ” เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นหัวใจของเขาแทบสลาย

    ลอว์มีงานอดิเรกคือสะสมของเล่น กันดั้ม กันพลา หุ่นยนต์ตั่งต่าง เป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งเรื่องนี้ลีอารู้ดีและคอยสนับสนุน

    เขาตลอดเรื่อยมา แต่เหมือนว่าตอนนี้ตัวหล่อนเองก็กลายเป็นของเล่น ของสะสมของเขาไปอีกชิ้น 

    ยิ่งเป็นของเล่นในตู้โชว์เต็มไปด้วยคราบฝุ่นจับหยักใย่เกาะ ไม่ว่าจะเขาลืม หรือไม่ก็หมดรักแล้วด้วย…

     

    “ ดีจังที่ได้ยินแบบนั้น ” ใบหน้าราวกับเทพธิดาของลีอาเคลือบด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง

     รอยยิ้มนั้นที่ทำให้ลอว์ถึงกับเผลอยิ้มตาม 

    “ ได้ไหมลีอา เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ ได้ไหม? ” ลอว์ได้แต่วิงวอนขอให้หล่อนอภัย

    และยอมยกโทษให้กับสิ่งที่เขาทำลงไป เขารู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นแย่ ไม่สิ มันเลวมาก! คงเป็นเพราะส่วนตัว

    ชอบความตื่นเต้นและความท้าทาย

    เขายอมแลกกับทฤษฎี 90/10 ซึ่งหมายความว่า เขาชอบอะไรที่มันตื่นเต้น แม้จะเพียงแค่สิบเปอร์เซนต์ก็ตาม

    จนลืมไปว่าอีกเก้าสิบเปอร์เซนต์ที่เขาเคยมีนั้นย่อมดีกว่า แต่อาจจะไม่ได้ตื่นเต้นเท่านั้น!  หลงไปของชั่วครู่ชั่วคราว!  

     

    “ ได้โปรด อย่าทิ้งฉันไว้ลำพั… ” ยังพูดไม่ทันครบจบประโยคด้วยซ้ำ

    ร่างของศัลยแพทย์หนุ่มถึงกับล้มตัวลง รู้สึกถึงการปวดแปร๊บชั่วครู่โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอยเต็มแรง

    ดวงตาทั้งสองข้างกำลังจะปิดตัวลง เขายังคงจับจ้องมองใบหน้าของหญิงสาว จับจ้องมองใบหน้าของอดีตคนรัก 

    ดวงตาสีฟ้าอมเขียวคู่นั้นไม่อาจจะสั่นไหวเหมือนทุกครั้งที่หล่อนมองมาที่เขา ส่งฝ่ามือหนาเพื่อขอให้หล่อนรับ

    หรือจับมือของเขาไว้

     

    “ ไหนบอกว่าจะใช้ยาสลบไง? ” แบบนี้เกินไปไหม? เอสทำเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ทีแรก

    ลีอาหันไปถามสายสืบหนุ่มที่ตอนแรกแอบซ่อนตัวอยู่หลังบานประตู ตอนนี้เขาขยับตัวเข้าใกล้ ย่อตัวนั่งลงด้วยปลายเท้า

    ใช้ปลายกระบอกปืนเขี่ยใบหน้าของลอว์ โดยจิ้มๆลงไปที่หนวดเพื่อเช็คความชัวร์อีกครั้ง

    คราแรกลีอาก็เชื่อใจ สายสืบหนุ่มตรงหน้าอย่างไร้ข้อกังขา กลับกลายเป็นว่าตอนนี้เขาทำเกินกว่าเหตุ 

    เกินกว่าที่ตกลงกันไว้

    “ มันมีที่ไหนละ ลีอา ยาสลบพวกนั้นมีแต่ในละครเท่านั้นละ! ” แต่ของเขานี่สิ สลบของจริง!

    หากต้องดมยาสลบคงต้องไปพบแพทย์วิสัญญี(หมอดมยาสลบ) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นับเพียงแค่ หนึ่ง สอง สามก็สลบแล้ว

    ส่วนของเอสนะหรอ? 

    หึ ไม่ต้องนับหรอก! อยากหลับก็เข้ามา เดี๋ยวหวดให้หลับเอง!

     

    “ เชื่อเขาเลย! ” ลีอาถึงกับต้องนวดขมับ 

    การพาตัวของทราฟัลการ์ ดี. วอเตอร์ ลอว์ กลับสำนักงานตำรวจก็เป็นแผนของผู้กองฮินะเช่นกัน

    คราแรกหล่อนต้องการมาคุยและพาลอว์ไปให้ปากคำที่สำนักงานตำรวจ แต่เอสซึ่งรับหน้าที่บัดดี้ในครั้งนี้

    กลับบอกหล่อนว่า…

    ‘ เราควรจะหิ้วเขาออกมาดีกว่านะ ’ เพราะดูจากทรงแล้ว…  

    ลอว์คงไม่ยอมให้ความร่วมมือง่ายๆอย่างที่ลีอาคิดไว้แน่ 

    “ เสียเวลา มัวแต่พูดมากอยู่ได้! ” แล้วมันก็เป็นอย่างที่เอสคาดการณ์ไว้อย่างไม่มีผิด!

    ท่าทางแฟนเก่าของเพื่อนร่วมงานนั้นตื้อไม่เลิก พูดแต่อยากจะขอแต่โอกาสๆอย่างเดียว ก่อนที่เอสจะเผลอหลุดปากด่า

    ออกไปด้วยความโมโห

    ตอนมีโอกาส… ทำไมไม่รักษาไว้ดีๆละวะ!

    เอสหายใจแรง พยายามระงับสงบสติลงให้ใจเย็นกว่าทุกครั้งที่เคยเป็น

    ทั้งที่ในใจอยากจะทำมากกว่าแค่ทุบด้วยด้ามปืนในมือ! แต่ก็หวดไปเต็มแรงด้วยความโมโหเท่านั้นเอง!

    “  รีบไปเปลี่ยนเสื้อเถอะ ฉันจะลงไปข้างล่างก่อน ” เอสพูดโดยไม่หันมองลีอา หยิบหมวกแก๊บขึ้นมาสวม

    หยิบยกร่างของลอว์พาไปยังออกห้อง เพื่อทำการอำพราง(ไม่ใช่ฆาตกรรมอำพรางนะ อย่าเพิ่งรีบเข้าใจผิด!)

    เสื้อโคล่งสีขาวตัวใหญ่ทรงบอย บนร่างกายบอบบางชายเสื้อยาวพอแค่ปิดสะโพกได้เท่านั้น ไม่พ้นต้นขาเรียว

    ยิ่งการสวมเสื้อผ้าที่น้อยชิ้น เข้าใจว่าลีอาต้องการความธรรมชาติ แต่เหมือนจะทรมานร่างกายและจิตใจของเอส

    อย่างเป็นอย่างมาก

    ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ ลีอารีบตามลงมาสมทบกับเอส

    ซึ่งตอนนี้เขาลงมายังลานจอดรถ พาร่างของลอว์ขึ้นรถตู้สีทึบรับจัดตกแต่งสวน โดยจัดลอว์มัดด้วยเชือก

    หลายชั้น ปิดปากด้วยเทปกาว คลุมหัวทับอีกชั้นเพื่อป้องกันการมองเห็น(แถมมัดปลายถุงไว้เพื่อไม่ให้สลัดออกได้)

    ลีอาเปิดวิทยุเพื่อรับฟังข่าวสารเหมือนทุกวัน 

     

    “ เกิดเหตุไม่คาดคิดในช่วงเวลาเช้าตรู่ คนร้ายบุกใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

    เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงของกระสุนปืนดังสนั่นหวั่นไหว

    จนกระทั่งสงบลง เจ้าหน้าที่ต่างพากันออกมายังที่เกิดเหตุ ตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้วว่าพบเจ้าหน้าที่พนักงาน

    ได้รับบาดเจ็บบาหัสหลายราย โดยสังเกตุจากร่องรอยของการใช้อาวุธปืนแล้ว ทราบว่าผู้ร้ายมีความเชี่ยวชาญ

    ด้านของอาวุธเป็นอย่างมาก สาเหตุซึ่งยังเป็นการคาดการณ์ว่าเป็นการตอบโต้การทำงานของเจ้าหน้าที่ทำการสังหาร

    แกนนำของผู้ก่อความไม่สงบถูกวิสามัญเสียชีวิตขณะเข้าประทะกับเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าคนร้ายหลบหนีไปอย่างชำนาญ

    เส้นทาง ” 

     

    “ บัดซบเอ๊ย! ” ได้ยินดังนั้นแล้วเอสส่งเสียงรอดไรฟัน เผลอกำฝ่ามือสองข้างรอบพวงมาลัยพาวเวอร์แน่น

    เกือบจะบีบแตกเป็นเสี่ยง แถมยังเป็นผู้ซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับ ตบเกียร์ได้กดฝ่าเท้าเหยียบคันเร่งทันที

     โดยมีจุดมุ่งหมายไปที่โรงพยาบาลแดรคูลภายในทันที

     

    รถตู้สีทึบรับจัดตกแต่งสวนแล่นเข้าจอดในลานจอดรถของโรงพยาบาลแดรคูล 

    ช่วงเวลาไม่กี่อึดใจต่อมานักสืบสาว สายสืบหนุ่มอยู่ที่หน้าห้องไอซียู เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ สายระโยงระยาง

    ซ้ายขวาของทั้งสองคนเกลื่อนเต็มเกือบทุกพื้นที่ ภาพตรงหน้าทั้งผู้กองฮินะและซาโบ้ต่างพากันได้รับบาดเจ็บสาหัส 

    นอนสลบไม่ได้สติบนเตียงคนป่วย ไม่ทันไรพยาบาลสาวสองคน เดินเข้ามาที่ข้างเตียงคนไข้ แล้วใช้ผ้าสีขาวอีกผืน

    ยกจากหน้าอกปิดปกคลุมบริเวณใบหน้า สร้างความงุนงงให้กับผู้มาใหม่ทั้งสองคน

    “ อะไรกัน? ” ลีอาพูดอะไรไม่ออกสักนิด กระบอกตาทั้งสองข้างเริ่มร้อนผ่าว

    “ … ” ไร้คำพูดใดๆออกจากปากของเอส เขาทำได้แค่วางฝ่ามือลงขอบหน้าต่างด้านนอก

    เอนตัวไปด้านหน้าเพื่อถ่ายเทน้ำหนัก จ้องมองใบหน้าของเพื่อนรักที่มีผ้าสีขาวปกคลุม ส่วนอีกคนก็ผู้กองฮินะ

    แม้จะเข้ามาบัญชาการทีมแทนผู้กองสโมคเกอร์ เอสก็ให้ความนับถือ ความร่วมมือปฏิบัติงานด้วยเช่นกัน

    ไม่นานนักหมอเจ้าของเคสก็ออกมาแนะนำตัวและพูดคุยเรื่องของการรักษา ที่เหมือนว่าจะเกินเยียวยา

    ทั้งสองคนสูญเสียเลือดมากเกินไป ความดันเลือดตกจนกระทั่งช็อคและหมดสติไปก่อนจะนำตัวส่งถึงโรงพยาบาล

    เมื่อแจ้งทางญาติเสร็จ แพทย์กล่าวแสดงความเสียใจแล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้ทั้งสองคนอยู่เงียบๆตามลำพัง

     

    เสียงฝ่าเท้าดังสลับกันตั้งแต่ปลายทางเดินของผู้มาใหม่ ทำให้ทั้งสองคนเงยหน้ามองเป็นตาเดียวกัน 

    แล้วพากันยิ้มออกมา

    “ ปลอดภัยกันดีหรือเปล่า? ” โคบี้เอ่ยถามทั้งสองคน เมื่อเดินมาถึง รีบเดินวนรอบตัวของเอส

    ตามไปสำรวจลีอาต่อ

    “ ปลอดภัยดี ” เอสตอบเสียงนิ่ง แล้วมองหน้าโคบี้อีกครั้ง 

    ดูเหมือนว่าโคบี้จะไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก เท่าที่เห็นคือส่วนของหน้าผากมีผ้าพันแผลสีขาวพันรอบศีรษะ เลือดสีแดง

    พอไหลซึมออกมาเล็กน้อย เสื้อวอร์มแขนยาวยังพอมีเลอะคราบฝุ่น ตามกางเกงและรองเท้าผ้าใบ

    “ ผมไปทำงานเหมือนปกติ… แต่โชคไม่ดีเลย… ไปตอนหลังเกิดเรื่อง แต่ก็พอเห็นว่าอีกฝ่ายมันมีฮอฯสีดำ

    ไม่มีสัญลักษณ์ให้สังเกตุและอาวุธปืนกราดยิงเข้ามาทางหน้าต่าง ห้องทำงานของผู้กองสโมคเกอร์ กว่าจะขึ้นไปถึง

    ฮอฯก็ไปแล้ว ผมจึงเรียกรถพยาบาลมารับทั้งสองคน ส่วนนี่ก็เป็นตอนที่วิ่งเข้าไปหาทั่งสองคนแบบไม่ดูทิศ ดูทาง

    ก่อน เลยโดนเหล็กข่วนหน้าให้  ” โคบี้อธิบายเรื่องราวที่พอจะเกิดให้ทั้งสองคนอย่างคร่าวๆ 

    ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังเดินทาง มาทำงานพอดิบพอดี “ ถ้าหากว่าผมมาไวกว่านี้… คงช่วยทั้งสองคนได้ทัน ” 

    โคบี้กดใบหน้ามองพื้นแทบไม่กล้าสู้หน้าใคร โคบี้ทราบว่าทั้งเอสและลีอาต่างได้รับภาระกิจอื่น ซึ่งผู้กองฮินะ-

    ได้มอบหมายไว้  แยกจากทีมสามของเขา ชี้นิ้วให้ทั้งสองคนดูแผลเกิดด้วยความประมาทปนตกใจประกอบคำอธิบาย

    “ ไม่เป็นไร โคบี้ ” เอสพยักหน้าเข้าใจ ส่งมือแตะบ่าของโคบี้เบาๆ นิสัยโทษตัวเองควรจะเป็นของทาชิงิมากกว่า

    “ ตามจริงแล้วฉันรู้จักผู้กองฮินะมาก่อนหน้านี้… ตามงานสังคมชั้นสูงที่ป๊าชอบพาไปออกงานบ่อยๆ ทักทาย

    พูดคุยกันแค่ไม่กี่คำ… ไม่คิดเลยว่าจะได้มาร่วมงานกัน… ผู้กองเป็นคนเก่ง เก่งมากเลยทีเดียว ซาโบ้เองก็เหมือนกัน ” 

    ผู้กองฮินะเองก็รับรู้เรื่องการทำงานเป็นนับสืบของลีอาเช่นกัน ส่วนซาโบ้ หล่อนพอเห็นหน้าค่าตา แต่ไม่เคยทำความรู้จัก

    ในแบบส่วนตัวกันมาก่อน แน่นอนหล่อนมารู้จักกันอีกทีก็ตอนอยู่โรงเรียนตำรวจ และที่น่าตกใจกว่านั้น

    คือทำงานอยู่ในหน่วยสังกัดสเปซเช่นกัน!

    “ มานี่ มา ” เอสส่งฝ่ามือหนาลงบนบ่าเล็กของลีอา เอ่ยเรียกเบาๆแล้วดึงร่างของลีอามากอดไว้

    ตบบ่าเบาๆเพื่อปลอบใจ มันอาจจะดูเหมือนอาศัยจังหวะที่ลีอาอ่อนแอ แล้วตีเนียนเข้าไปกอด

    เหมือนพวกชอบฉวยโอกาส แต่เปล่าเลยเขาสุภาพบุรุษมากกว่านั้น!

    แต่วินาทีนี้พวกเขาเสียศูนย์  การเสียชีวิตของทั้งสองไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว 

    แถมทั้งสองยังเป็นระดับผู้บัญชาการและหัวหน้าทีม ซึ่งเป็นเสาหลักใหญ่ของหน่วยสเปซ 

    “ กอดฉันไว้ก่อนนะเอส แกล้งทำเป็นว่าปลอบใจฉัน พาฉันออกไปจากตรงนี้แล้วเรารีบไปที่สำนักงานกัน

    ผู้กองฮินะต้องรู้เรื่องอะไรแน่ๆ ” อย่าให้การเสียชีวิตของทั้งสองคนนั้นต้องเสียเปล่า! ลีอาขอให้เอสทำงานที่ต้องการ

    กลับกลายเป็นว่าหล่อนเป็นคนวางแผนขั้นต่อไป

    “ อืม ” เอสเงี่ยใบหูตั้งใจฟังที่ลีอาขอ และแน่นอนว่าเขาค่อยๆประคองลีอาออกไปจากหน้าห้องไอซียูช้าๆ

    “ รีบไปกันเถอะครับ ก่อนออกมาตรงนั้นผมปิดพื้นที่ไว้กันคนเข้าไป ผมจะลองติดต่อทาชิงินะครับ ” 

    โคบี้ยังรอบคอบเสมอ ก่อนออกมาจากที่เกิดเหตุเขายังต้องรีบปิดคาดผ้าเทปสีดำสลับเหลือง ปิดกั้นสถานที่ไว้

    พอจะให้ตำรวจที่รู้จักคอยดูต้นทางให้ คอยกันคนอื่นนอกเหนือจากทีมสเปซเข้าไปกลบเกลื่อนร่องรอยของคนร้าย

     

     

     

     

    สารภาพก่อนนะครับว่าชิวไม่ได้มาจากจักรวาลDC แต่อย่างใด

        อย่าเพิ่งหนีน้าาา อยู่ด้วยกันก่อนนน

     

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป…

    1  พฤษภาคม 2565 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×