คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : DR. : Bad Habits.
Every time you come around, you know I can’t say no
Every time the sun goes down, I let you take control
I can feel the paradise before my world implodes
And tonight had something wonderful
“ เฮ้อ หัวจะปวด! ” แชงค์ขยับตัวบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ ลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งยืดขาตามขนาดความยาว
ใช้แขนทั้งสองข้างค้ำชันร่างกายขึ้นพอทำมุมสี่สิบห้าองศา
ทันทีที่ได้ฟังการรายงานความคืบหน้าของอับซาลอมจากปากมิฮอว์ค ผ่านการสื่อสารที่เรียกกันว่า ‘โทรจิต’
ทิ้งกับต้องทิ้งตัวลงนอนกลับท่าเดิมอีกครั้งอย่างอ่อนล้า
ชักจะเบื่อเต็มทีแล้วสิ… จะหนีไปอยู่ดาวอังคารเลยดีไหมนะ? อย่างน้อยต้องถามคุณมากิโนะก่อนดีกว่า!
ยกท่อนแขนข้างขวาขึ้นมาพาดดวงตาอย่างเซ็งแซ่ ไม่ว่าจะกี่ยุค กี่สมัย ก็จะมีแวมไพร์รุ่นใหม่ไฟแรงเลือดมันร้อน!
จัดตั้งกองกำลังเป็นของตัวเอง และอุดมคตินั้นคือการเป็นเจ้าโลก เอ๊ย! ครอบครองโลก!
เฮ้อ พวกโฮโมเซเปี้ยนหยิบหย่งเอ๊ย!
ถ้า ชาลส์ ดาร์วิน มาเห็นคงภูมิใจน่าดู!
ร่างสูงโปร่งสองเมตรบิดกายไปมา รู้สึกว่าท็อปเปอร์สำหรับปูทับลงบนเตียงนอนอีกชั้นเพื่อความสบายนั้น
เหมือนจะไม่สบายอีกต่อไป พาลให้นึกถึงห้องนอนสี่เหลี่ยมไม่ได้กว้างหรือแคบขนาดหกเสื่อ จัดแต่งโทนสีขาวสะอาดตา
เตียงนอนขนาดสามจุดห้าฟุตแคบๆบนพาเลทไม้จากการดีไอวาย เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นที่มองแล้วสบายตา
ที่สำคัญคือหญิงสาวเอเชียบนที่นอนเตียงเล็กๆนั้นตังหากละ!
และวันนี้เองแวมไพร์อาวุโสเพิ่งเข้าใจแล้วว่าการที่มีอีกคนนอนอยู่บนเตียงนอนนั้นเป็นอย่างไร
ก็ใช่มากิโนะนอนอยู่บนเตียงของเขา แต่อยู่คนละห้องมีแค่กำแพงเท่านั้นที่ขวางกั้นทั้งสองไว้ เท่านั้นเอง!
ร่างสูงโปร่งสองเมตรจำใจสลัดผ้าห่มออกจากตัวพร้อมกับขยับร่างกาย ออกจากเตียงนอนคิงไซส์
ประสาทการได้ยินของเขานั้นทำงาน เสียงบางอย่างดังมาจากห้องครัวยามวิกาล ทำให้แชงค์ต้องอาศัยทักษะความว่องไว
เหนือมนุษย์ปราดลงไปยังชั้นล่างของตัวบ้านในเวลาเสี้ยววินาที
แผ่นหลังเล็กๆของหญิงสาวชาวเอเชียกำลังง่วนทำบางอย่าง อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ทำอาหาร
เธอเปิดเพลงจากโทรศัพท์มือถือเพื่อไม่ให้เงียบจนเกินไป แถมฮัมเพลงเบาๆในลำคอคลอกับเสียงเพลง
ดวงตาของหมอแชงค์ผมแดง ยังคงลอบมองหญิงสาวจากทางด้านหลัง เธออยู่ในชุดเสื้อเชี้ตสีฟ้าอ่อนตัวโคล่ง แขนยาว
พับแขนเสื้อขึ้นอย่างลวกๆ ชายเสื้อผ้าปิดสะโพกกลมกลึงรับกับช่วงขาเนียนเพรียวยาว ทับด้วยผ้ากันเปื้อนอีกตัว
ฉับพลันร่างของหญิงสาวเอเชียคล้ายรู้สึกว่าตนกำลังถูกลอบมอง จึงหันมาพร้อมกับหม้อบางอย่างในมือทั้งสองข้าง
“ อุ๊ย! คุณแชงค์! ” มากิโนะตกใจสุดขีดเมื่อหันหลังกลับมาแล้วเห็นเจ้าของบ้านมาอย่างไร้สุ้มเสียง
โถใสบรรจุแป้งขนาดพอดีมือนั้นถึงกับร่วงหล่น ราวกับมีชีวิตแถมคิดสั้นทิ้งตัวลงหมายจะหกเลอะเปรอะพื้น
วินาทีสั้นๆแชงค์ขยับปลายเท้าอีกครั้งด้วยความไวเหนือมนุษย์ ใช้ฝ่ามือซ้ายคว้าด้านล่างของตัวโถสีใสได้กลางอากาศ
แล้วส่งถึงมือของหญิงสาวอีกครั้ง
“ ตกใจหมดเลย! ” เมื่อครู่หญิงสาวเผลอปล่อยมือ โถแป้งกำลอยถอยเคว้งกลางอากาศชั่วครู่
ในเวลาถัดมาได้กลับเข้ามาอยู่ในมือทั้งสองข้างอีกครั้งในช่วงเวลาอันรวดเร็ว!
“ มาทำอะไรในครัวดึกๆกับละครับ? ” แชงค์ถาม แม้จะเว้นช่องว่างให้หฺญิงสาวยืนเพียงช่วงแขน
“ ฉันนอนไม่หลับค่ะ ” แถมการมาอยู่บ้านของคุณหมอนิติเวชก็ไม่ได้มีกิจกรรมอย่างอื่นใดให้ทำเลย
มีแค่ นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านของคนอื่นเฉยๆ ไม่ได้เบิร์นพลังงานในร่างกาย แบบไม่มีอะไรให้ทำแถมมีอาหารให้ทาน
มากกว่าสามมื้อ ซึ่งผิดกับนิสัยของมากิโนะเธอชอบทำนั่นนี่ไปเรือยเปื่อย แถมยิ่งมาอยู่ที่บ้านของคนอื่น
หน้าที่ที่กล่าวมานั้นก็มีคนรับผิดชอบแล้ว ไม่ว่าจะแม่บ้านคอยดูแลความสะอาดและเรียบร้อยภายในบ้านหลังโตโอ่อ่า
หรือคนสวนคอยดูแลความเรียบร้อยนอกบ้าน
เธอเองก็แม่ศรีเรือนเช่นกันไม่ว่าเรื่องของงานบ้าน กวาดผ้า ซักพื้น ล้างข้าว!
เอ๊ย! กวาดบ้าน ซักผ้า ถูพื้นหรือจะทำอาหาร!
“ แล้วคุณแชงค์… ” มากิโนะสงสัยที่ว่าตอนนี้ก็ราวๆตีสอง เป็นเวลาที่หมอแชงค์…ควรได้พักผ่อนสิ
วันนี้เป็นวันหยุดของเขาทั้งที เขาควรจะไว้เวลานี้พักผ่อนให้เต็มที่… เหมือนว่ามากิโนะจะลืมไปและเผลอถาม
หมอแชงค์ผมแดงเขาเป็นแวมไพร์ ไม่ต้องเข้านอนเหมือนมนุษย์ปกติ เวลากลางดึกของเขาคือกลางวัน
นั่นก็เป็นเวลานอนสำหรับมนุษย์เช่น เธอ!
“ ผมเองก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ว่าแต่คุณมากิโนะทำอะไรอยู่หรอครับ? ” เหมือนจะนอนพักร่างกาย
ไปเดี๋ยวเดียวเองเท่านั้น ร่างอมตะก็เกิดอาการตาสว่างเฉยเลย ซึ่งน้อยครั้งที่จะเกิดขึ้นเช่นนี้ คงมีเรื่องให้คิดเยอะละมั้ง
ส่งสายตามองใบหน้าของหญิงสาวชาวเอเชีย มากิโนะโพกผ้าสีสดใสป้องกันเศษผมหล่นลงไปในอาหาร ใบหน้าจิ้มลิ้ม
พวงแก้มนวลเนียนเลอะด้วยคราบแป้ง กลางใบหน้าข้างซ้ายดั้งแต่สันดั้งเกือบถึงใบหู ซึ่งคาดว่าคงเป็นตอนทำอะไรๆ
เกี่ยวกับแป้ง ไม่ว่าจะแกะแป้ง เทแป้ง ร่อนหรือจะประสม เป็นรอยปาดเส้นตรงคาดว่าคงใช้หลังมือ
เช็ดทำความสะอาดแน่ๆ พาลให้แชงค์นึกถึงตอนแก้มของเธอเลอะคราบน้ำมัน ตอนเปิดฝากระโปรงเช็คเครื่องยนต์
รถกระบะ
“ เลอะหมดแล้วครับ ” แชงค์ส่งปลายนิ้วมือ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดคราบแป้งเลอะบนใบหน้า
พวงแก้มนวลออกสัมผัสอย่างแผ่วเบาคล้ายขนนก
ร่างของหญิงสาวแข็งทื่อ ดวงตาทั้งสองข้างจับจ้องมองใบหน้าหล่อคมและการกระทำของหมอแชงค์ตลอดเวลา
ตั้งแต่ใบหน้าหล่อเหลา ปลายนิ้วเย็นเฉียบที่ส่งมาสัมผัสผิวข้างแก้มกลับทำให้ร่างกายของเธอนั้นร้อนผ่าว
เลือดลมในร่างกายสูบฉีดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ใบหน้าหวานถึงกับต้องเสหน้าหนีไปอีกฝั่ง
มากิโนะเปิดไมโครเวฟหยิบถ้วยตวงซึ่งด้านในเป็นวิปปิ้งครีม ออกมาวางด้านนอก นำมาผสมกับดาร์กช็อคโกแลต
ซึ่งซอยเป็นชิ้นๆในถ้วยสีใสอีกใบ ทิ้งช่วงเวลาให้ช็อคโกแลตละลายกับไปวิปปิ้งครีม จากนั้นค่อยใช้ไม้พายมาผสม
ทั้งสองส่วนให้เข้ากัน เติมเนยจืดลงไปเล็กน้อยตบท้ายแล้วคนต่อ
“ คุณมากิโนะ ช่วงนี้ผมอาจจะไม่อยู่สองถึงสามวันนะครับ ไม่สิอาจจะนานกว่านั้นก็ได้
ต้องไปตรวจโรงงานเสียหน่อย จริงๆทางบ้านผมมีธุระกิจเกี่ยวกับยา เภสัชเคมีภัณฑ์ฯ โรงงานผลิตและนำเข้าหลายที่ ”
แชงค์บอกด้วยความไม่มั่นใจเรื่องการหายตัวของเขา เผลอๆอาจจะนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ จึงอธิบายเพิ่มเติม
เพื่อให้มากิโนะได้เข้าใจอย่างเรียบง่าย
“ อ๋อ ค่ะ ” มากิโนะพยักหน้า เรื่องนี้ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคุณแชงค์ ซึ่งเป็นข้อมูลใหม่ล่าสุดเลยทีเดียว!
นอกจากจะเป็นหมอนิติเวชแล้ว ยังมีโรงงานผลิตและนำยาตัวยาอีกหลายที่!
“ ไม่ต้องกังวลนะครับ เดี๋ยวมีคนของผม มาคอยดูแลความปลอดภัยให้อีกที เผื่อว่าคุณมากิโนะจะเข้าที่ร้าน
คนของผมก็จะคอยอยู่ห่างๆ ไม่ให้คุณมากิโนะได้อึดอัด ” แชงค์เข้าใจดีว่าการมีคนมาควบคุมหรือ
อยู่ในสายตาของใครบางคนตลอดเวลาน่าเบื่อ และน่าอึดอัดมากขนาดไหน
“ ฉันเกรงว่าจะรบกวนทั้งคุณแชงค์ แล้วก็คนของคุณเปล่าๆนะสิคะ ” เพราะที่ผ่านมา เธอก็ยังไม่เคยเกิดเรื่อง
อะไรที่ไม่คาดคิดหรือคาดฝันมาก่อน ดังนั้นแล้วคุณแชงค์อาจจะคิดมากไปก็ได้ “ ทุกอย่างปกติดีนี่คะ ”
“ เพื่อความสบายใจของผมได้หรือเปล่า? ” แชงค์เปลี่ยนโทนเสียง น้ำเสียงโมโนโทนนุ่มสบาย
ชวนฟังให้เกิดความเคลิบเคลิ้ม “ นะครับ ” ขำเน้นย้ำเบาๆ ต้องให้หญิงสาวพยักหน้าแล้วตอบตกลงเท่านั้น
“ ถ้าเพื่อความสบายใจของคุณแชงค์ ฉันก็ตามใจคุณแชงค์แล้วละคะ ” แบบนี้มากิโนะจะปฏิเสธได้อย่างไร?
ใบหน้าคมเข้มของหมอแชงค์เอียงน้อยๆทำมุม แล้วสบสายตาต้องการคำตอบ ซึ่งทำให้หัวใจของหญิงสาวละลาย
ไม่ได้ต่างอะไรกับดาร์กช็อกโกแลตเจอความร้อนเลยสักนิด!
เส้นหัวใจของหญิงสาวเต้นแรง มากจนแชงค์สามารถรับรู้ได้จากประสาทการรับฟัง ดวงตามองเห็นส่วนตรงลำคอ
เน้นๆตรงส่วนของเส้นเลือดใหญ่ ที่กำลังสูบฉีดเลือดให้ไหลเวียนภายในร่างกายทำงานหนักขึ้น ช่วงเวลาสั้นๆ
ใบหน้าของคุณหมอนิติเวชผุดรอยยิ้มเล็กๆ
“ คุณแชงค์ทานฟัดจ์กานาซหน่อยไหมคะ? ” มากิโนะหายใจเเรงเพื่อสงบสติ เก็บอาการเต้นของหัวใจให้เบาลง
หันมาถามคนข้างตัว เพื่อทิ้งช่วงเวลาการเซ็ทตัวช็อคโกแลตสำหรับราดด้านบนหน้าเค้ก
“ ก็ดีครับ ”
“ ไม่หวานมากค่ะ ” เจ้าหญิงแห่งวงการขนมหวาน(ซึ่งตั้งขึ้นมาเอง) ที่ไม่ทานของหวานเช่นมากิโนะ
ถึงกับอมยิ้มมุมปากเล็กๆ หยิบเจ้าถ้วยสีใสซึ่งมีดาร์กช็อคโกแลต วิปปิ้งครีม เนยจืด รออยู่แล้วเทราดบนตัวเค้ก
ที่อบไว้ก่อนหน้าที่คุณแชงค์จะลงมา มากิโนะค่อยๆบรรจงเทลงบนตัวเนื้อเค้กช้าๆ แล้วใช้มาพายช่วยเกลี่ยให้ตัวกานาซ
อยู่บนด้านขนมเค้กทรงกลมอย่างทั่วๆกัน จนกระทั่งด้านบนเสร็จเรียบร้อยดี มากิโนะต้องเก็บขอบด้านข้าง
ให้เรียบร้อยเช่นกัน เสร็จเรียบร้อยแล้วกับเนื้อเค้กช็อคโกแลตฟัดจ์ หน้านิ่มราดบนตัวเค้กด้วยช็อคโกแลตกานาซ!
“ อันนี้ของคุณแชงค์ค่ะ ” มากิโนะหยิบมีดสำหรับหั่นเค้ก ทำการหั่นเป็นชิ้นสามใส่จานเล็ก
แล้วส่งให้กับเจ้าของชื่อ พร้อมช้อนเล็กๆ
“ ขอบคุณครับ แบบนี้ต้องชงกาแฟแล้วละ คุณมากิโนะอยากดื่มโกโก้ร้อนไหม? ” สำหรับแชงค์
ดริปกาแฟดื่มในตอนนี้ก็เป็นเรื่องปกติ หากว่าเป็นมนุษย์ทั่วไป นมหรือไม่ก็ชาน่าจะเบากว่าแถมนอนหลับสบายดีอีกด้วย
“ ยินดีค่ะ ” มากิโนะก็ไม่ปฏิเสธหากว่าคุณแชงค์จะชงโกโก้เผื่อ
เสียงโหวกเหวกโวยวายเสียงดังผ่านจากระเบียงคอนโดมิเนียนสุดหรู ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมือง
แยกแมรี่จัวร์ ห้องพักสูงเสียดฟ้าท่ามกลางเมืองใหญ่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง กลับมีร่างสูงโปร่งเปลือยในท่อนบน
สวมแว่นตากันแดดแม้จะอยู่ในช่วงเวลาพลบค่ำไร้แสงรบกวนสายตา บนใบหน้าปกคลุมด้วยหนวดเครา
ตกแต่งอย่างมีศิลปะ แน่นอนว่ามีอาหารมื้อล่าสุด โอมากาเสะชิ้นขนาดพอดีคำประดับอยู่ด้วย
“ ใครมันจะไปรู้ทุกเรื่องละวะ! ไอ้บ้านักวิทยาศาสตร์สติแตกนั่นมันอาจจะไปดูระบำเปลื้องผ้าที่ไหนก็ได้! ”
เวอร์โก้ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานภายในห้องพักของตนอย่างอ่อนแรง กรอกน้ำเสียงโมโหลงไปในโทรศัพท์มือถือ
เขาคอยสืบเรื่องจากภายในแล้วส่งข่าวให้อีกที แถมคอยระแวดระวังเฝ้าปกปิดความลับของ ‘โจ๊กเกอร์’
ก่อนที่ทุกอย่างจะรั่วไหลออกไป ซ้ำยังต้องทำหน้าที่การงานของตนเพื่อคอยเป็นกันชนหน้า คอยเป็นยางลบ
กลบร่องรอยที่เพื่อนรักของเขาได้ก่อไว้อีก แต่วันนี้กลับโดฟลามิงโก้มาคาดคั้นหาคำตอบกับตัวเขา
เรื่องการหายตัวไปของหัวหน้าทีมผู้ผลิตสไมล์ อย่างซีซาร์ คลาวด์
“ นายก็รู้อยู่แล้วหนิโจ๊กเกอร์ ไอ้บ้านั่นสติดีเหมือนคนปกตินักหรือไง? ” แถมอีกอย่างไม่ใช่หน้าที่ของเขา
หน้าที่คล้ายคนทำงานในเนิร์สเซอร์รี่ดูแลเอาใจใส่เด็กเล็กอย่างนั้น!
ถ้าโคราซอนยังมีชีวิตอยู่ก็คงดี น่าจะคุยได้ง่ายกว่าพี่ชาย! (น่าเสียดายที่โคราซอนนั้นได้จากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร
ด้วยเรื่อง… ที่เหมือนจะไม่เป็นเรื่องนัก) ซ้ำยังคอยแบ่งเบาบรรเทาภาระพวกนี้ลงจากบ่าทั้งสองข้างไม่มากก็น้อย!
“ มันคงไปมุดหัวอยู่ที่ไหนสักที่นึงนั่นแหล่ะ! หะ อะไร? ห้องทำงานหน่วยสเปซนั่นก็อยู่ที่ชั้นห้าสิบสาม
ฝั่งทิศตะวันออกพอดี ถามทำไม? เออ เออ งั้นแค่นี้นะ! ”
เวอร์โก้กดปุ่มทัชสกีนเต็มแรงด้วยอารมณ์ขุ่นมัว คล้ายต้องการระบายอารมณ์เมื่อโดนปลายสายใส่อารมณ์!
ทุกคำพูด ทุกประโยคเหมือนกำลังถูกตำหนิทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องรับผิดชอบเลยด้วยซ้ำไป!
เมื่อหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกช้าๆแล้วใจเหมือนจะเย็นลง เวอร์โก้กดปุ่มปลอดล็อคหน้าจออีกครั้ง
กดโทรสั่งงานกับผู้ใต้บังคับบัญชา ออกคำสั่งตามหานักวิทยาศาตร์ตัวต้นเรื่องของทุกอย่าง! ให้ทุกหน่วยที่เขาควบคุม
นั้นออกตามหา ‘ซีซาร์ คลาวด์’ ภายในทันที!
“ ห้องทำงานหน่วยสเปซนั่นก็อยู่ที่ชั้นห้าสิบสาม ฝั่งทิศตะวันออก ”
ได้ยินเรื่องของเป้าหมายนั้นทำให้ร่างของเทพเจ้ากรีกนั้นขยับกาย เอนตัวพิงพนักเก้าอี้แล้วยกท่อนขาทั้งสองข้าง
ไขว้ขาแล้วพาดลงบนโต๊ะไม้เนื้อหนาสั่งทำพิเศษจากทวีปเอเชีย ด้วยท่าทางประจำตัว ลดโทรศัพท์ลงมาอยู่ในระดับสายตา
นิ้วมือหนากดปุ่มโทรออก เพื่อต่อสายไปยังฝ่ายสนับสนุน
“ ซินญอร์ ช่วยรบกวนไปที่ตึกสำนักงานตำรวจหน่อยนะ แวะทักทายพอหอมปากหอมคอที ”
ฝากความคิดถึงเล็กๆน้อยๆ ดอนโดฟลามิงโก้ได้มอบหมายงานให้กับคนในแฟมมิลี่ ซึ่งนั่นก็คงไม่พ้นซินญอร์ พิงค์
นัดแนะเรื่องของเวลาเป้าหมายของงานที่กำหนด โดยต้องเน้นกำชับเรื่องสถานที่เวลา ทิศทางให้อีกครั้ง
“ พวกนี้มันต้องใช้ยาแรง! ” เตือนดีๆแล้วไม่ฟัง! ปลายนิ้วมือกดปุ่มตัดสาย
โยนโทรศัพท์ส่วนตัวลงบนโต๊ะทำงานตรงหน้า ยกมือขึ้นมาเพื่อจับของแว่นกันตารูปทรงแปลกตาออก
ใช้มือขึ้นข้าวเพื่อทำการคลึงส่วนบริเวณหัวตาเพื่อลดอาการเมื่อยล้า ใช้สายตาเยอะ ใบหูทั้งสองข้างของเขาขยับ
โสตประสาทการรับฟังดีเหนือมนุษย์ ทำให้โดฟลามิงโก้ทราบว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่คนเดียวภายในห้องทำงานกว้าง
“ ดอฟฟี่ ” ร่างอวบอัดของอดีตพยาบาลสาวค่อยๆขยับปลายเท้าเข้ามาใกล้เจ้าของชื่อ
ใบหน้างามของเธอนั้นเคลือบด้วยรอยยิ้มสดใส ค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงบนตักแข็ง
“ เมื่อกี้ เธอได้ยินที่ฉันพูดหมดเลยหรือเปล่า? ” โดฟลามิงโกสวมแว่นตากันแดดทับลงบนใบหน้าอีกครั้ง
ขยับตาปลายเพื่อเคลื่อนขาแว่นเข้าที่ เสมือนว่าเขากำลังปกปิดดวงตาที่แท้จริง ดอฟฟี่ขยับตัวนั่นก็ทำให้นามิเอง
ต้องลุกออกจากตัก เพื่อลุกขึ้นยืน
“ ฉันถาม ได้ยินไหม? ” อย่าให้ต้องถามประโยคเดิมซ้ำสองหนเด็ดขาด!
หากเธอตอบเขาว่าไม่ทันได้ยิน หรือว่าเพิ่งจะเข้ามาตอนวางสายมันก็จบเรื่องแล้ว
แต่นี่ไม่ใช่อย่างที่เขาต้องการ นามิเม้มปากแน่นเป้นเส้นตรง ถอยตัวไปยืนอยุ่มุมของห้องส่งแววตาหวาดกลัวมาที่เขา
“ ฉ ฉัน ม ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ” นามิพูดเสียงสั่น พยายามเก็บอาการล่กของตนให้มิด
“ งั้นหรอ? ไม่ได้ยินอะไรเลยแน่นะ ” โดฟลามิงโก้ย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ อ อืม ฉ ฉันไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ” นามิยืนยันคำตอบเดิม พยักหน้าแรงๆเป็นการยืนยันด้วยภาษากายอีกครั้ง
ร่างสูงราวกับเทพเจ้ากรีกโบราณย่างกายเข้ามาใกล้ เงาสีดำจากอีกฝ่ายนั้นค่อยๆเคลื่อนมาทาบทับร่างของหญิงสาว
ใบหน้าจิ้มลิ้มของอดีตนางพยาบาลสาวนั้นเริ่มออกอาการสั่นเทาด้วยความกลัว เม้ม เลียริมฝีปากเบาๆจับจ้องสายตา
มองคนตรงหน้าอย่างหวั่นเกรง
“ รู้อะไรนามิ ชีวิตฉันเจอคนโกหกมาเยอะ… เธอ… โกหกไม่เนียนเลยนะ ” ไปเรียนมาใหม่เถอะ!
เรื่องราวที่เขาพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับเวอร์โก้ เป็นเรื่องส่วนตัวที่ควรจะรู้กันเพียงแค่สองคนเท่านั้น!
หากเรื่องนี้ได้แพร่งพรายออกไป ช่วงเวลาสิบห้าปีของดอนโดฟลามิงโก้เป็นอันต้องเสียเปล่าแน่!
ดังนั้นแผนของเขาจะไม่ล่ม!
และเรื่องข่าวสารของเขาจะไม่รั่วไหลออกไปอย่างเด็ดขาด… เว้นเสียแต่ว่า….
“ ม ม ไม่นะ ดอฟฟี่ ” นามิก้าวขาถอยหลัง ราวกับว่าเทพเจ้ากรีกตรงหน้ากำลังจะลงทัณฑ์เธอให้ถึงแก่ความตาย
ร่างอวบอัดของหญิงสาวอดีตพยาบาลถูกยกลอยละลิ่ว ด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียว ลำคอเล็กๆนั้นกำลังจะขาดกระจุย
กระดูกส่วนลำคอนั้นกำลังแหลกสลายทีละชิ้น ทีละชิ้น และกลายเป็นฝุ่นผง เริ่มเกิดอาการขาดอากาศหายใจ
สองมือเล็กของเธอนั้นกำลังพยายามแงะนิ้วมือของดอนโดฟลามิ้งโก้ออก แต่เหมือนจะไร้ประโยชน์
ฝ่ามือหนาหยาบกร้านของเขานั้นคล้ายคีมเหล็ก เพียงแค่ออกแรงแค่ปลายนิ้วเท่านั้น ส่วนเธอต้องรวบรวม
เรี่ยวแรงทั้งหมด เพื่อขัดขืนการกระทำของเขา
โดฟลามิงโก้ใช้เวลาไม่กี่นาที ออกแรงจากปลายนิ้วมือเพียงเท่านั้น ร่างของหญิงสาวนั้นสลบเหมือดกลางอากาศ
ฝ่าเท้าลอยอยู่เหนือลมจากส่ายไปมาเริ่มสงบลง กับท่าทีแน่นิ่งสนิทยืนยันได้เลยว่าหฺญิงสาวนั้นสลบไปเรียบร้อยแล้ว
“ พาเธอออกไปรอที่ห้องเชือดซะ! ” โดฟลามิงโก้หยิบยกหูโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานขึ้น.
กดเบอร์ติดต่อเลขานอกห้อง เพื่อขอให้ลูกน้องด้านนอกรับตามคำบัญชา
พาร่างของหญิงสาวไปให้พ้นหน้าของเขาภายในเวลานี้ทันที!
เสียงใบพัดขนาดใหญ่กำลังแหวกตัดกลางอากาศ ในความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เป้าหมายของเฮลิคอปเตอร์สีดำสนิทไร้สัญลักษณ์ เครื่องหมายใดๆ ติดอาวุธหนัก มาด้วยนั้นกำลังมุ่งหน้า
ตรงไปยังตึกสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ นักบินทั้งสองคนรับคำสั่งจากหัวหน้าชุดภารกิจในครั้งนี้
ซึ่งนั่นก็คือ ซินญอร์ พิงค์ ผู้ชายชุดสูทสากลเส้นผมถูกหวีปัดเป๋เรียบแปร้ เขากำลังขยับตัว
เปลี่ยนเป็นยืนอยู่ในห้องโดยสารด้านหลัง
“ ชั้นห้าสิบสาม ฝั่งทิศตะวันออก ”
กัปตันซึ่งนั่งทางด้านขวาของตัวเครื่องยืนยันเป้าหมาย โดยพูดใส่ไมโครโฟนติดข้างกับหูฟัง
“ ดีมาก ” ซินญอร์ พิงค์ กว่าชมนักบินทั้งคู่ เขาขยับตัวยืนอยู่ด้านหลังปืนกลหนักM60 พร้อมขาทราย
ยึดติดกับพื้นห้องเครื่องห้องผู้โดยสาร เฮลิคอปเตอร์กำลังลอยลำและแล่นเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายที่ตั้งใจไว้แต่แรก
ประจวบเหมาะกับมูลี่บังแดดขนาดใหญ่ถูกดึงเปิดเลื่อนเกือบสุดขึ้นเพดานด้านบน ปรากฏร่างของหญิงสาว
เส้นผมสีชมพูพาสเทลทิ้งตัวลงยาว ใบหน้างดงามของเธอนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนล้าโดยเฉพาะดวงตากลมโต
“ ไอ้เวร! ” ฮินะกัดปกเสื้อเพื่อระงับอารมณ์
ยิ่งกว่าเห็นมัจจุราช พยายมขึ้นมารับวิญญาณของตนต่อหน้าต่อตา เฮลิคอปเตอร์สีดำเคลื่อนตัวโดยเบี่ยงส่วนด้านข้าง
ให้ผู้กองสาวได้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้มาเปล่า… ยังมีปืนM60 พร้อมกับกระสุนไม่จำกัด และขาทรายสองขา
ยึดเครื่องปืนกลหนักไว้ให้นิ่งโดยเฉพาะเวลาสาดกระสุนใส่คล้ายห่าฝน ติดมือมาด้วย!
เพียงแค่ซินญอร์ พิงค์ สอดนิ้วเข้าแตะไกปืน แล้วกดปลายนิ้วลง เสียงของกระสุนดังขึ้นต่อเนื่องโดยไม่มีหยุดพัก
ร่างของผู้กองสาวรีบวิ่งกระโจนตัว คว้าปืนพกประจำตัวเข้ามาอยู่ในมือได้ หามุมหลบเพื่อเอาชีวิตรอด
เสียงของห่ากระสุนสาดเข้าใส่กำแพงไล่เรียงไปอย่างมั่วซั่ว คล้ายว่าต้องการปลิดทุกสิ่งมีชีวิตทั้งชั้นทำงาน
ร่างอมตะของโคราซอน แม้จะถูกจับพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาหมดหนทางหนีรอด แถมยังถูกกระสุนสาดเข้าใส่ร่างกาย
ที่ไม่อาจจะสมานบาดแผลเองได้
โคราซอนอ้าปากกว้างไร้เสียงใดๆออกจากริมฝีปากสีแดง ผิดกับบริเวณห้องข้างเคียง หญิงสาวชุมเมดฝรั่งเศส
แผดเสียงกรี้ดร้องลั่นดังสนั่น คราแรกเป็นเพราะการถูกทรมาณทางร่างกายและจิตใจโดยผู้ชายผมบรอนด์เป็นลอนๆ
ตัวสูงๆนั่น คราต่อมาคืนเสียงกระสุนไม่ทราบที่มาลอยล่องเฉียดใบหน้าของเธอไป จนเกิดแผลเป็นเส้นตรงข้างแก้ม
“ อะไรกัน? ” ซาโบ้ที่นอนไม่หลับ หรือไม่อาจจะหลับพักสายตาลงได้อย่างสบายใจ
แม้ว่าจะกลับบ้านไปพักผ่อนใช้เวลาส่วนตัว กับแฟนสาวแล้ว เขายังมีเรื่องอีกมากมายที่ยังติดใจกับการให้ปากคำ
ของเบบี้ไฟฟ์ ซึ่งทั้งคำพูดหรือการสนทนาของเธอนั้นยังพบแต่พิรุธทั้งนั้น!
แน่นอนละว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ตึกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้นที่ห้าสิบสาม เข้างานก่อนเวลากำหนด
และอยู่ท่ามกลางดงกระสุนด้วยเช่นเดียวกัน!
ซาโบ้ย่อตัวลงแนบลำตัวด้านหน้าลงบนพื้นแล้วค่อยเคลื่อนไหวช้าๆ เพื่อหลบวิถีกระสุน หยิบปืนพกประจำตัวได้
ปลดเซฟตี้ทันทีและค่อยๆออกไปสำรวจห้องด้านอื่นๆ ซึ่งขามาทำงานซาโบ้ทราบว่า ผู้บัญชาการชั่วคราวนั้น
อยู่ทำงานจนถึงใกล้รุ่งของอีกวัน ยังไม่ได้กลับบ้านเหมือนคนอื่นๆ
ปืนพกคงต่อสู้ไม่ไหว
กระสุนขนาดจากปืนเอ็มหกสิบ เจ็ดจุดหกสองมิลลิเมตร ทั้งใหญ่ ยาว หัวแหลม เจาะเกราะได้สบายๆ
ฝังตัวเข้ากับคอนกรีต ไม่ว่าจะด้านซ้าย ขวา ตรงกลางคล้ายกับรังผึ้งขนาดใหญ่ แถมระยะในการยิงที่อีกฝ่ายลั่นไกมา
แทบไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย ไม่ว่าจะหาบังเกอร์ก็ดี แล้วจะยิงสวนกลับ คงไม่ไหว ร่างของเขาคงพรุนไม่ต่างกำแพง
“ น่าเบื่อชะมัด ” ซินญอร์ พิงค์ ลดมือลงจากปืนกลหนัก หันไปสนใจกับของหวาน
ซึ่งก็ไม่แน่ใจนักว่าจะมากหรือน้อยนัก พาดวางด้ามปืนอาร์พีจีบนบ่ากว้าง โดยหมายเล็งเข้าไปเพื่อทำลายด้านใน
ห้องทำงานของหน่วยสเปซ ซึ่งเวลานี้.. คาดว่าสมาชิกทุกคนน่าจะเดินทางมาถึงที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว!
ยืนให้มั่นด้วยสองข้างกางขนานกับช่วงไหล่ พร้อมแล้วจึงลั่นไกยิงทันที!
“ ซินญอร์ อย่ายิงนะ ” เพียงแค่เสียงกระซิบแผ่วนั้นทำให้เจ้าสวมชุดสูทต้องชะงัก
ดวงตามองผ่านแว่นกันแดดเห็นหญิงสาวสวมชุดเมดฝรั่งเศสอันคุ้นตา ร้องเรียกจนต้องมองหาต้นตอของเสียง
“ ไม่ทันแล้วยัยหนู! ”
ปลายนิ้วกดลงบนไกปืนกระสุนขนาดใหญ่อาจจะมากกว่ากำปั้น ลอยล่องไต่บนอากาศมุ่งตรงไปทางด้านหน้า
ตามที่ผู้ควบคุมกำหนดทิศทาง
“ เสียใจด้วยเบบี้ไฟฟ์ ”
เขาทำตามคำสั่งของดอนโดฟลามิงโก้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง!
#แล้วแบบนี้หน่วยสเปซจะรอดไหมละเนี่ย?
โปรดติดตามตอนต่อไป…
23 เมษายน 2565.
เรื่องราวชักจะเริ่มเข้มข้นขึ้นทุกที!
บอกก่อนว่าชิวไม่ค่อยเก่งเรื่องการตั้งชื่อตอนมากนัก เพราะกลัวว่าจะเผลอสปอยด์เนื้อหา
ดังนั้นชื่อตอนจะเป็นคำศัพท์ง่ายๆ หรือไม่ก็ชื่อเพลงไปเลย(ง่ายดี) ประจวบเหมาะกับว่าเพลง Bad Habits.
กำลังมา (ตอนนั้นออกมาแค่เป็นทีเซอร์เล็กๆ) ชิวรู้สึกว้าวมากเลยครับ เอ็ดเซอรไพร์ครับ
เป็นซาว์ดเพลงที่แหวกแนว ส่วนเรื่องน้ำเสียง… เสียงเอ็ดนั้นก็เพราะอยู่แล้ว บอกเลยว่าเพลงติดหูมากเลยครับ
ยิ่งได้คอลแลปกับเสี่ยโอ… ลิเวอร์ จาก BMTH คือดีย์มากครับ (สู่ขิตไปเลยยย)
Ed Sheeran – Bad Habits (feat. Bring Me The Horizon) [Live at the BRIT Awards 2022] - YouTube
แค่ชิวคนเดียวก็น่าจะหมื่น ไม่ก็ล้านวิวละครับ
ส่วนเนื้อหาของเพลง ก็เข้ากับเนื้อเรื่องของตอนนี้ดี เท่าที่ชิวตีความ(คิดเอง เออเองนะ)
ก็เป็นผู้ชายออกแนวเสเพลเบาๆ ท่องไปในยามราตรีแล้วดันไปเจอคนที่ชอบ
แถมยังอยากได้มาคนที่ชอบนั้นมาเป็นแฟนอีก…
อืม ส่วนในฟิคของชิว… พาร์ทนี้.. ก็เลยเป็นที่มาของคนไม่ว่าจะชายหรือหญิงการทำตัวไม่ดีๆ แล้วไปเจอคนที่ชอบ
แล้วก็อยากได้เขามาเป็นแฟนเช่นกันละครับ ไม่มีอะไรมากหรือให้คิดเยอะเลย…
ส่วนเรื่องคอมเมนต์ Wild-Bunny นั่นก็เป็นเพื่อนของชิวเองครับ ซึ่งการตอบเมนต์ของชิวก็หยาบคายนิดนึง
(เฉพาะแค่เพื่อนที่ตั้งใจมาปั่นชิวนะครับ) หากเป็นคนอื่นก็ตอบอย่างชิวสุภาพแน่นอนครับ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะครับ
นายชิว
ความคิดเห็น