ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic: One piece] Dr. Feel Good.

    ลำดับตอนที่ #34 : DR. : Bad Habits.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 155
      5
      25 เม.ย. 65

     

     

     

     

       Every time you come around, you know I can’t say no
             Every time the sun goes down, I let you take control
                 I can feel the paradise before my world implodes
                     And tonight had something wonderful

     

     

    “ เฮ้อ หัวจะปวด! ” แชงค์ขยับตัวบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ ลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งยืดขาตามขนาดความยาว 

    ใช้แขนทั้งสองข้างค้ำชันร่างกายขึ้นพอทำมุมสี่สิบห้าองศา 

    ทันทีที่ได้ฟังการรายงานความคืบหน้าของอับซาลอมจากปากมิฮอว์ค ผ่านการสื่อสารที่เรียกกันว่า ‘โทรจิต’

    ทิ้งกับต้องทิ้งตัวลงนอนกลับท่าเดิมอีกครั้งอย่างอ่อนล้า 

    ชักจะเบื่อเต็มทีแล้วสิ… จะหนีไปอยู่ดาวอังคารเลยดีไหมนะ? อย่างน้อยต้องถามคุณมากิโนะก่อนดีกว่า!

    ยกท่อนแขนข้างขวาขึ้นมาพาดดวงตาอย่างเซ็งแซ่ ไม่ว่าจะกี่ยุค กี่สมัย ก็จะมีแวมไพร์รุ่นใหม่ไฟแรงเลือดมันร้อน!

    จัดตั้งกองกำลังเป็นของตัวเอง และอุดมคตินั้นคือการเป็นเจ้าโลก เอ๊ย! ครอบครองโลก!

    เฮ้อ พวกโฮโมเซเปี้ยนหยิบหย่งเอ๊ย!

    ถ้า ชาลส์ ดาร์วิน มาเห็นคงภูมิใจน่าดู!

     

    ร่างสูงโปร่งสองเมตรบิดกายไปมา รู้สึกว่าท็อปเปอร์สำหรับปูทับลงบนเตียงนอนอีกชั้นเพื่อความสบายนั้น

    เหมือนจะไม่สบายอีกต่อไป พาลให้นึกถึงห้องนอนสี่เหลี่ยมไม่ได้กว้างหรือแคบขนาดหกเสื่อ จัดแต่งโทนสีขาวสะอาดตา

    เตียงนอนขนาดสามจุดห้าฟุตแคบๆบนพาเลทไม้จากการดีไอวาย เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นที่มองแล้วสบายตา

    ที่สำคัญคือหญิงสาวเอเชียบนที่นอนเตียงเล็กๆนั้นตังหากละ!

     

    และวันนี้เองแวมไพร์อาวุโสเพิ่งเข้าใจแล้วว่าการที่มีอีกคนนอนอยู่บนเตียงนอนนั้นเป็นอย่างไร

    ก็ใช่มากิโนะนอนอยู่บนเตียงของเขา แต่อยู่คนละห้องมีแค่กำแพงเท่านั้นที่ขวางกั้นทั้งสองไว้ เท่านั้นเอง! 

     

    ร่างสูงโปร่งสองเมตรจำใจสลัดผ้าห่มออกจากตัวพร้อมกับขยับร่างกาย ออกจากเตียงนอนคิงไซส์

    ประสาทการได้ยินของเขานั้นทำงาน เสียงบางอย่างดังมาจากห้องครัวยามวิกาล ทำให้แชงค์ต้องอาศัยทักษะความว่องไว

    เหนือมนุษย์ปราดลงไปยังชั้นล่างของตัวบ้านในเวลาเสี้ยววินาที

    แผ่นหลังเล็กๆของหญิงสาวชาวเอเชียกำลังง่วนทำบางอย่าง อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ทำอาหาร

    เธอเปิดเพลงจากโทรศัพท์มือถือเพื่อไม่ให้เงียบจนเกินไป แถมฮัมเพลงเบาๆในลำคอคลอกับเสียงเพลง

    ดวงตาของหมอแชงค์ผมแดง ยังคงลอบมองหญิงสาวจากทางด้านหลัง เธออยู่ในชุดเสื้อเชี้ตสีฟ้าอ่อนตัวโคล่ง แขนยาว

    พับแขนเสื้อขึ้นอย่างลวกๆ ชายเสื้อผ้าปิดสะโพกกลมกลึงรับกับช่วงขาเนียนเพรียวยาว ทับด้วยผ้ากันเปื้อนอีกตัว 

    ฉับพลันร่างของหญิงสาวเอเชียคล้ายรู้สึกว่าตนกำลังถูกลอบมอง จึงหันมาพร้อมกับหม้อบางอย่างในมือทั้งสองข้าง

    “ อุ๊ย! คุณแชงค์! ” มากิโนะตกใจสุดขีดเมื่อหันหลังกลับมาแล้วเห็นเจ้าของบ้านมาอย่างไร้สุ้มเสียง 

    โถใสบรรจุแป้งขนาดพอดีมือนั้นถึงกับร่วงหล่น ราวกับมีชีวิตแถมคิดสั้นทิ้งตัวลงหมายจะหกเลอะเปรอะพื้น 

    วินาทีสั้นๆแชงค์ขยับปลายเท้าอีกครั้งด้วยความไวเหนือมนุษย์ ใช้ฝ่ามือซ้ายคว้าด้านล่างของตัวโถสีใสได้กลางอากาศ

    แล้วส่งถึงมือของหญิงสาวอีกครั้ง

    “ ตกใจหมดเลย! ” เมื่อครู่หญิงสาวเผลอปล่อยมือ โถแป้งกำลอยถอยเคว้งกลางอากาศชั่วครู่

    ในเวลาถัดมาได้กลับเข้ามาอยู่ในมือทั้งสองข้างอีกครั้งในช่วงเวลาอันรวดเร็ว!

    “ มาทำอะไรในครัวดึกๆกับละครับ? ” แชงค์ถาม แม้จะเว้นช่องว่างให้หฺญิงสาวยืนเพียงช่วงแขน

    “ ฉันนอนไม่หลับค่ะ ” แถมการมาอยู่บ้านของคุณหมอนิติเวชก็ไม่ได้มีกิจกรรมอย่างอื่นใดให้ทำเลย

    มีแค่ นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านของคนอื่นเฉยๆ ไม่ได้เบิร์นพลังงานในร่างกาย แบบไม่มีอะไรให้ทำแถมมีอาหารให้ทาน

    มากกว่าสามมื้อ ซึ่งผิดกับนิสัยของมากิโนะเธอชอบทำนั่นนี่ไปเรือยเปื่อย แถมยิ่งมาอยู่ที่บ้านของคนอื่น 

    หน้าที่ที่กล่าวมานั้นก็มีคนรับผิดชอบแล้ว ไม่ว่าจะแม่บ้านคอยดูแลความสะอาดและเรียบร้อยภายในบ้านหลังโตโอ่อ่า

    หรือคนสวนคอยดูแลความเรียบร้อยนอกบ้าน

    เธอเองก็แม่ศรีเรือนเช่นกันไม่ว่าเรื่องของงานบ้าน กวาดผ้า ซักพื้น ล้างข้าว! 

    เอ๊ย! กวาดบ้าน ซักผ้า ถูพื้นหรือจะทำอาหาร! 

    “ แล้วคุณแชงค์… ” มากิโนะสงสัยที่ว่าตอนนี้ก็ราวๆตีสอง เป็นเวลาที่หมอแชงค์…ควรได้พักผ่อนสิ

    วันนี้เป็นวันหยุดของเขาทั้งที เขาควรจะไว้เวลานี้พักผ่อนให้เต็มที่… เหมือนว่ามากิโนะจะลืมไปและเผลอถาม

    หมอแชงค์ผมแดงเขาเป็นแวมไพร์ ไม่ต้องเข้านอนเหมือนมนุษย์ปกติ เวลากลางดึกของเขาคือกลางวัน

    นั่นก็เป็นเวลานอนสำหรับมนุษย์เช่น เธอ!

    “ ผมเองก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ว่าแต่คุณมากิโนะทำอะไรอยู่หรอครับ? ”  เหมือนจะนอนพักร่างกาย

    ไปเดี๋ยวเดียวเองเท่านั้น ร่างอมตะก็เกิดอาการตาสว่างเฉยเลย ซึ่งน้อยครั้งที่จะเกิดขึ้นเช่นนี้ คงมีเรื่องให้คิดเยอะละมั้ง

    ส่งสายตามองใบหน้าของหญิงสาวชาวเอเชีย มากิโนะโพกผ้าสีสดใสป้องกันเศษผมหล่นลงไปในอาหาร ใบหน้าจิ้มลิ้ม

    พวงแก้มนวลเนียนเลอะด้วยคราบแป้ง กลางใบหน้าข้างซ้ายดั้งแต่สันดั้งเกือบถึงใบหู ซึ่งคาดว่าคงเป็นตอนทำอะไรๆ

    เกี่ยวกับแป้ง ไม่ว่าจะแกะแป้ง เทแป้ง ร่อนหรือจะประสม เป็นรอยปาดเส้นตรงคาดว่าคงใช้หลังมือ

    เช็ดทำความสะอาดแน่ๆ พาลให้แชงค์นึกถึงตอนแก้มของเธอเลอะคราบน้ำมัน ตอนเปิดฝากระโปรงเช็คเครื่องยนต์

    รถกระบะ

    “ เลอะหมดแล้วครับ ” แชงค์ส่งปลายนิ้วมือ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดคราบแป้งเลอะบนใบหน้า

    พวงแก้มนวลออกสัมผัสอย่างแผ่วเบาคล้ายขนนก 

    ร่างของหญิงสาวแข็งทื่อ ดวงตาทั้งสองข้างจับจ้องมองใบหน้าหล่อคมและการกระทำของหมอแชงค์ตลอดเวลา

    ตั้งแต่ใบหน้าหล่อเหลา ปลายนิ้วเย็นเฉียบที่ส่งมาสัมผัสผิวข้างแก้มกลับทำให้ร่างกายของเธอนั้นร้อนผ่าว

    เลือดลมในร่างกายสูบฉีดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ใบหน้าหวานถึงกับต้องเสหน้าหนีไปอีกฝั่ง 

    มากิโนะเปิดไมโครเวฟหยิบถ้วยตวงซึ่งด้านในเป็นวิปปิ้งครีม ออกมาวางด้านนอก นำมาผสมกับดาร์กช็อคโกแลต

    ซึ่งซอยเป็นชิ้นๆในถ้วยสีใสอีกใบ ทิ้งช่วงเวลาให้ช็อคโกแลตละลายกับไปวิปปิ้งครีม จากนั้นค่อยใช้ไม้พายมาผสม

    ทั้งสองส่วนให้เข้ากัน  เติมเนยจืดลงไปเล็กน้อยตบท้ายแล้วคนต่อ

    “ คุณมากิโนะ ช่วงนี้ผมอาจจะไม่อยู่สองถึงสามวันนะครับ ไม่สิอาจจะนานกว่านั้นก็ได้ 

    ต้องไปตรวจโรงงานเสียหน่อย จริงๆทางบ้านผมมีธุระกิจเกี่ยวกับยา เภสัชเคมีภัณฑ์ฯ โรงงานผลิตและนำเข้าหลายที่

    แชงค์บอกด้วยความไม่มั่นใจเรื่องการหายตัวของเขา เผลอๆอาจจะนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ จึงอธิบายเพิ่มเติม

    เพื่อให้มากิโนะได้เข้าใจอย่างเรียบง่าย

    “ อ๋อ ค่ะ ” มากิโนะพยักหน้า เรื่องนี้ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคุณแชงค์ ซึ่งเป็นข้อมูลใหม่ล่าสุดเลยทีเดียว!

    นอกจากจะเป็นหมอนิติเวชแล้ว ยังมีโรงงานผลิตและนำยาตัวยาอีกหลายที่!

    “ ไม่ต้องกังวลนะครับ เดี๋ยวมีคนของผม มาคอยดูแลความปลอดภัยให้อีกที เผื่อว่าคุณมากิโนะจะเข้าที่ร้าน

    คนของผมก็จะคอยอยู่ห่างๆ ไม่ให้คุณมากิโนะได้อึดอัด ” แชงค์เข้าใจดีว่าการมีคนมาควบคุมหรือ 

    อยู่ในสายตาของใครบางคนตลอดเวลาน่าเบื่อ และน่าอึดอัดมากขนาดไหน

    “ ฉันเกรงว่าจะรบกวนทั้งคุณแชงค์ แล้วก็คนของคุณเปล่าๆนะสิคะ ” เพราะที่ผ่านมา เธอก็ยังไม่เคยเกิดเรื่อง

    อะไรที่ไม่คาดคิดหรือคาดฝันมาก่อน ดังนั้นแล้วคุณแชงค์อาจจะคิดมากไปก็ได้ “ ทุกอย่างปกติดีนี่คะ ”

    “ เพื่อความสบายใจของผมได้หรือเปล่า? ” แชงค์เปลี่ยนโทนเสียง น้ำเสียงโมโนโทนนุ่มสบาย 

    ชวนฟังให้เกิดความเคลิบเคลิ้ม “ นะครับ ” ขำเน้นย้ำเบาๆ ต้องให้หญิงสาวพยักหน้าแล้วตอบตกลงเท่านั้น

    “ ถ้าเพื่อความสบายใจของคุณแชงค์ ฉันก็ตามใจคุณแชงค์แล้วละคะ ” แบบนี้มากิโนะจะปฏิเสธได้อย่างไร?

    ใบหน้าคมเข้มของหมอแชงค์เอียงน้อยๆทำมุม แล้วสบสายตาต้องการคำตอบ ซึ่งทำให้หัวใจของหญิงสาวละลาย

    ไม่ได้ต่างอะไรกับดาร์กช็อกโกแลตเจอความร้อนเลยสักนิด!

    เส้นหัวใจของหญิงสาวเต้นแรง มากจนแชงค์สามารถรับรู้ได้จากประสาทการรับฟัง ดวงตามองเห็นส่วนตรงลำคอ

    เน้นๆตรงส่วนของเส้นเลือดใหญ่ ที่กำลังสูบฉีดเลือดให้ไหลเวียนภายในร่างกายทำงานหนักขึ้น ช่วงเวลาสั้นๆ

    ใบหน้าของคุณหมอนิติเวชผุดรอยยิ้มเล็กๆ 

    “ คุณแชงค์ทานฟัดจ์กานาซหน่อยไหมคะ? ” มากิโนะหายใจเเรงเพื่อสงบสติ เก็บอาการเต้นของหัวใจให้เบาลง

    หันมาถามคนข้างตัว เพื่อทิ้งช่วงเวลาการเซ็ทตัวช็อคโกแลตสำหรับราดด้านบนหน้าเค้ก

    “ ก็ดีครับ ” 

    “ ไม่หวานมากค่ะ ” เจ้าหญิงแห่งวงการขนมหวาน(ซึ่งตั้งขึ้นมาเอง) ที่ไม่ทานของหวานเช่นมากิโนะ

    ถึงกับอมยิ้มมุมปากเล็กๆ หยิบเจ้าถ้วยสีใสซึ่งมีดาร์กช็อคโกแลต วิปปิ้งครีม เนยจืด รออยู่แล้วเทราดบนตัวเค้ก

    ที่อบไว้ก่อนหน้าที่คุณแชงค์จะลงมา มากิโนะค่อยๆบรรจงเทลงบนตัวเนื้อเค้กช้าๆ แล้วใช้มาพายช่วยเกลี่ยให้ตัวกานาซ

    อยู่บนด้านขนมเค้กทรงกลมอย่างทั่วๆกัน จนกระทั่งด้านบนเสร็จเรียบร้อยดี มากิโนะต้องเก็บขอบด้านข้าง

    ให้เรียบร้อยเช่นกัน เสร็จเรียบร้อยแล้วกับเนื้อเค้กช็อคโกแลตฟัดจ์ หน้านิ่มราดบนตัวเค้กด้วยช็อคโกแลตกานาซ!

     “ อันนี้ของคุณแชงค์ค่ะ ” มากิโนะหยิบมีดสำหรับหั่นเค้ก ทำการหั่นเป็นชิ้นสามใส่จานเล็ก

    แล้วส่งให้กับเจ้าของชื่อ พร้อมช้อนเล็กๆ

    “ ขอบคุณครับ แบบนี้ต้องชงกาแฟแล้วละ คุณมากิโนะอยากดื่มโกโก้ร้อนไหม? ” สำหรับแชงค์

    ดริปกาแฟดื่มในตอนนี้ก็เป็นเรื่องปกติ หากว่าเป็นมนุษย์ทั่วไป นมหรือไม่ก็ชาน่าจะเบากว่าแถมนอนหลับสบายดีอีกด้วย

    “ ยินดีค่ะ ” มากิโนะก็ไม่ปฏิเสธหากว่าคุณแชงค์จะชงโกโก้เผื่อ 

     

     

     

    เสียงโหวกเหวกโวยวายเสียงดังผ่านจากระเบียงคอนโดมิเนียนสุดหรู ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมือง

    แยกแมรี่จัวร์ ห้องพักสูงเสียดฟ้าท่ามกลางเมืองใหญ่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง กลับมีร่างสูงโปร่งเปลือยในท่อนบน

    สวมแว่นตากันแดดแม้จะอยู่ในช่วงเวลาพลบค่ำไร้แสงรบกวนสายตา บนใบหน้าปกคลุมด้วยหนวดเครา

    ตกแต่งอย่างมีศิลปะ แน่นอนว่ามีอาหารมื้อล่าสุด โอมากาเสะชิ้นขนาดพอดีคำประดับอยู่ด้วย

    “ ใครมันจะไปรู้ทุกเรื่องละวะ! ไอ้บ้านักวิทยาศาสตร์สติแตกนั่นมันอาจจะไปดูระบำเปลื้องผ้าที่ไหนก็ได้! ”

    เวอร์โก้ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานภายในห้องพักของตนอย่างอ่อนแรง กรอกน้ำเสียงโมโหลงไปในโทรศัพท์มือถือ

    เขาคอยสืบเรื่องจากภายในแล้วส่งข่าวให้อีกที  แถมคอยระแวดระวังเฝ้าปกปิดความลับของ ‘โจ๊กเกอร์’

    ก่อนที่ทุกอย่างจะรั่วไหลออกไป ซ้ำยังต้องทำหน้าที่การงานของตนเพื่อคอยเป็นกันชนหน้า คอยเป็นยางลบ

    กลบร่องรอยที่เพื่อนรักของเขาได้ก่อไว้อีก แต่วันนี้กลับโดฟลามิงโก้มาคาดคั้นหาคำตอบกับตัวเขา 

    เรื่องการหายตัวไปของหัวหน้าทีมผู้ผลิตสไมล์ อย่างซีซาร์ คลาวด์ 

    “ นายก็รู้อยู่แล้วหนิโจ๊กเกอร์ ไอ้บ้านั่นสติดีเหมือนคนปกตินักหรือไง? ” แถมอีกอย่างไม่ใช่หน้าที่ของเขา

    หน้าที่คล้ายคนทำงานในเนิร์สเซอร์รี่ดูแลเอาใจใส่เด็กเล็กอย่างนั้น! 

    ถ้าโคราซอนยังมีชีวิตอยู่ก็คงดี น่าจะคุยได้ง่ายกว่าพี่ชาย! (น่าเสียดายที่โคราซอนนั้นได้จากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร

    ด้วยเรื่อง… ที่เหมือนจะไม่เป็นเรื่องนัก) ซ้ำยังคอยแบ่งเบาบรรเทาภาระพวกนี้ลงจากบ่าทั้งสองข้างไม่มากก็น้อย!

    “ มันคงไปมุดหัวอยู่ที่ไหนสักที่นึงนั่นแหล่ะ! หะ อะไร? ห้องทำงานหน่วยสเปซนั่นก็อยู่ที่ชั้นห้าสิบสาม 

    ฝั่งทิศตะวันออกพอดี ถามทำไม? เออ เออ งั้นแค่นี้นะ! ”  

    เวอร์โก้กดปุ่มทัชสกีนเต็มแรงด้วยอารมณ์ขุ่นมัว คล้ายต้องการระบายอารมณ์เมื่อโดนปลายสายใส่อารมณ์!

    ทุกคำพูด ทุกประโยคเหมือนกำลังถูกตำหนิทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องรับผิดชอบเลยด้วยซ้ำไป!

    เมื่อหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกช้าๆแล้วใจเหมือนจะเย็นลง เวอร์โก้กดปุ่มปลอดล็อคหน้าจออีกครั้ง 

    กดโทรสั่งงานกับผู้ใต้บังคับบัญชา ออกคำสั่งตามหานักวิทยาศาตร์ตัวต้นเรื่องของทุกอย่าง! ให้ทุกหน่วยที่เขาควบคุม

    นั้นออกตามหา ‘ซีซาร์ คลาวด์’ ภายในทันที!

     

     

     

    “ ห้องทำงานหน่วยสเปซนั่นก็อยู่ที่ชั้นห้าสิบสาม ฝั่งทิศตะวันออก ”

    ได้ยินเรื่องของเป้าหมายนั้นทำให้ร่างของเทพเจ้ากรีกนั้นขยับกาย เอนตัวพิงพนักเก้าอี้แล้วยกท่อนขาทั้งสองข้าง

    ไขว้ขาแล้วพาดลงบนโต๊ะไม้เนื้อหนาสั่งทำพิเศษจากทวีปเอเชีย ด้วยท่าทางประจำตัว ลดโทรศัพท์ลงมาอยู่ในระดับสายตา

    นิ้วมือหนากดปุ่มโทรออก เพื่อต่อสายไปยังฝ่ายสนับสนุน

    “  ซินญอร์ ช่วยรบกวนไปที่ตึกสำนักงานตำรวจหน่อยนะ แวะทักทายพอหอมปากหอมคอที ” 

    ฝากความคิดถึงเล็กๆน้อยๆ ดอนโดฟลามิงโก้ได้มอบหมายงานให้กับคนในแฟมมิลี่ ซึ่งนั่นก็คงไม่พ้นซินญอร์ พิงค์ 

    นัดแนะเรื่องของเวลาเป้าหมายของงานที่กำหนด โดยต้องเน้นกำชับเรื่องสถานที่เวลา ทิศทางให้อีกครั้ง 

     

    “ พวกนี้มันต้องใช้ยาแรง! ” เตือนดีๆแล้วไม่ฟัง! ปลายนิ้วมือกดปุ่มตัดสาย

    โยนโทรศัพท์ส่วนตัวลงบนโต๊ะทำงานตรงหน้า ยกมือขึ้นมาเพื่อจับของแว่นกันตารูปทรงแปลกตาออก

    ใช้มือขึ้นข้าวเพื่อทำการคลึงส่วนบริเวณหัวตาเพื่อลดอาการเมื่อยล้า ใช้สายตาเยอะ ใบหูทั้งสองข้างของเขาขยับ

    โสตประสาทการรับฟังดีเหนือมนุษย์ ทำให้โดฟลามิงโก้ทราบว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่คนเดียวภายในห้องทำงานกว้าง

    “ ดอฟฟี่ ” ร่างอวบอัดของอดีตพยาบาลสาวค่อยๆขยับปลายเท้าเข้ามาใกล้เจ้าของชื่อ

    ใบหน้างามของเธอนั้นเคลือบด้วยรอยยิ้มสดใส ค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงบนตักแข็ง

    “ เมื่อกี้ เธอได้ยินที่ฉันพูดหมดเลยหรือเปล่า? ” โดฟลามิงโกสวมแว่นตากันแดดทับลงบนใบหน้าอีกครั้ง

    ขยับตาปลายเพื่อเคลื่อนขาแว่นเข้าที่ เสมือนว่าเขากำลังปกปิดดวงตาที่แท้จริง ดอฟฟี่ขยับตัวนั่นก็ทำให้นามิเอง

    ต้องลุกออกจากตัก เพื่อลุกขึ้นยืน 

    “ ฉันถาม ได้ยินไหม? ” อย่าให้ต้องถามประโยคเดิมซ้ำสองหนเด็ดขาด!

    หากเธอตอบเขาว่าไม่ทันได้ยิน หรือว่าเพิ่งจะเข้ามาตอนวางสายมันก็จบเรื่องแล้ว

    แต่นี่ไม่ใช่อย่างที่เขาต้องการ นามิเม้มปากแน่นเป้นเส้นตรง ถอยตัวไปยืนอยุ่มุมของห้องส่งแววตาหวาดกลัวมาที่เขา

     

    “ ฉ ฉัน ม ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ” นามิพูดเสียงสั่น พยายามเก็บอาการล่กของตนให้มิด

    “ งั้นหรอ? ไม่ได้ยินอะไรเลยแน่นะ ” โดฟลามิงโก้ย้ำเพื่อความแน่ใจ

    “ อ อืม ฉ ฉันไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ” นามิยืนยันคำตอบเดิม พยักหน้าแรงๆเป็นการยืนยันด้วยภาษากายอีกครั้ง

    ร่างสูงราวกับเทพเจ้ากรีกโบราณย่างกายเข้ามาใกล้ เงาสีดำจากอีกฝ่ายนั้นค่อยๆเคลื่อนมาทาบทับร่างของหญิงสาว

    ใบหน้าจิ้มลิ้มของอดีตนางพยาบาลสาวนั้นเริ่มออกอาการสั่นเทาด้วยความกลัว เม้ม เลียริมฝีปากเบาๆจับจ้องสายตา

    มองคนตรงหน้าอย่างหวั่นเกรง

    “ รู้อะไรนามิ ชีวิตฉันเจอคนโกหกมาเยอะ… เธอ… โกหกไม่เนียนเลยนะ ” ไปเรียนมาใหม่เถอะ!

    เรื่องราวที่เขาพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับเวอร์โก้ เป็นเรื่องส่วนตัวที่ควรจะรู้กันเพียงแค่สองคนเท่านั้น! 

    หากเรื่องนี้ได้แพร่งพรายออกไป ช่วงเวลาสิบห้าปีของดอนโดฟลามิงโก้เป็นอันต้องเสียเปล่าแน่! 

    ดังนั้นแผนของเขาจะไม่ล่ม!

    และเรื่องข่าวสารของเขาจะไม่รั่วไหลออกไปอย่างเด็ดขาด… เว้นเสียแต่ว่า….

    “ ม ม ไม่นะ ดอฟฟี่ ” นามิก้าวขาถอยหลัง ราวกับว่าเทพเจ้ากรีกตรงหน้ากำลังจะลงทัณฑ์เธอให้ถึงแก่ความตาย

    ร่างอวบอัดของหญิงสาวอดีตพยาบาลถูกยกลอยละลิ่ว ด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียว ลำคอเล็กๆนั้นกำลังจะขาดกระจุย

    กระดูกส่วนลำคอนั้นกำลังแหลกสลายทีละชิ้น ทีละชิ้น และกลายเป็นฝุ่นผง เริ่มเกิดอาการขาดอากาศหายใจ

    สองมือเล็กของเธอนั้นกำลังพยายามแงะนิ้วมือของดอนโดฟลามิ้งโก้ออก แต่เหมือนจะไร้ประโยชน์

    ฝ่ามือหนาหยาบกร้านของเขานั้นคล้ายคีมเหล็ก เพียงแค่ออกแรงแค่ปลายนิ้วเท่านั้น ส่วนเธอต้องรวบรวม

    เรี่ยวแรงทั้งหมด เพื่อขัดขืนการกระทำของเขา

    โดฟลามิงโก้ใช้เวลาไม่กี่นาที ออกแรงจากปลายนิ้วมือเพียงเท่านั้น ร่างของหญิงสาวนั้นสลบเหมือดกลางอากาศ

    ฝ่าเท้าลอยอยู่เหนือลมจากส่ายไปมาเริ่มสงบลง กับท่าทีแน่นิ่งสนิทยืนยันได้เลยว่าหฺญิงสาวนั้นสลบไปเรียบร้อยแล้ว

    “ พาเธอออกไปรอที่ห้องเชือดซะ! ” โดฟลามิงโก้หยิบยกหูโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานขึ้น.

    กดเบอร์ติดต่อเลขานอกห้อง เพื่อขอให้ลูกน้องด้านนอกรับตามคำบัญชา 

    พาร่างของหญิงสาวไปให้พ้นหน้าของเขาภายในเวลานี้ทันที!

     

     

    เสียงใบพัดขนาดใหญ่กำลังแหวกตัดกลางอากาศ ในความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

    เป้าหมายของเฮลิคอปเตอร์สีดำสนิทไร้สัญลักษณ์ เครื่องหมายใดๆ ติดอาวุธหนัก มาด้วยนั้นกำลังมุ่งหน้า

    ตรงไปยังตึกสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ นักบินทั้งสองคนรับคำสั่งจากหัวหน้าชุดภารกิจในครั้งนี้

    ซึ่งนั่นก็คือ ซินญอร์ พิงค์ ผู้ชายชุดสูทสากลเส้นผมถูกหวีปัดเป๋เรียบแปร้ เขากำลังขยับตัว 

    เปลี่ยนเป็นยืนอยู่ในห้องโดยสารด้านหลัง 

    “ ชั้นห้าสิบสาม ฝั่งทิศตะวันออก ”

    กัปตันซึ่งนั่งทางด้านขวาของตัวเครื่องยืนยันเป้าหมาย โดยพูดใส่ไมโครโฟนติดข้างกับหูฟัง

    “ ดีมาก ” ซินญอร์ พิงค์  กว่าชมนักบินทั้งคู่ เขาขยับตัวยืนอยู่ด้านหลังปืนกลหนักM60 พร้อมขาทราย

    ยึดติดกับพื้นห้องเครื่องห้องผู้โดยสาร เฮลิคอปเตอร์กำลังลอยลำและแล่นเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายที่ตั้งใจไว้แต่แรก

     

    ประจวบเหมาะกับมูลี่บังแดดขนาดใหญ่ถูกดึงเปิดเลื่อนเกือบสุดขึ้นเพดานด้านบน ปรากฏร่างของหญิงสาว

    เส้นผมสีชมพูพาสเทลทิ้งตัวลงยาว ใบหน้างดงามของเธอนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนล้าโดยเฉพาะดวงตากลมโต

    “ ไอ้เวร! ” ฮินะกัดปกเสื้อเพื่อระงับอารมณ์

    ยิ่งกว่าเห็นมัจจุราช พยายมขึ้นมารับวิญญาณของตนต่อหน้าต่อตา เฮลิคอปเตอร์สีดำเคลื่อนตัวโดยเบี่ยงส่วนด้านข้าง

    ให้ผู้กองสาวได้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้มาเปล่า… ยังมีปืนM60 พร้อมกับกระสุนไม่จำกัด และขาทรายสองขา

    ยึดเครื่องปืนกลหนักไว้ให้นิ่งโดยเฉพาะเวลาสาดกระสุนใส่คล้ายห่าฝน ติดมือมาด้วย!

    เพียงแค่ซินญอร์ พิงค์ สอดนิ้วเข้าแตะไกปืน แล้วกดปลายนิ้วลง เสียงของกระสุนดังขึ้นต่อเนื่องโดยไม่มีหยุดพัก 

    ร่างของผู้กองสาวรีบวิ่งกระโจนตัว คว้าปืนพกประจำตัวเข้ามาอยู่ในมือได้ หามุมหลบเพื่อเอาชีวิตรอด

     

    เสียงของห่ากระสุนสาดเข้าใส่กำแพงไล่เรียงไปอย่างมั่วซั่ว คล้ายว่าต้องการปลิดทุกสิ่งมีชีวิตทั้งชั้นทำงาน

    ร่างอมตะของโคราซอน แม้จะถูกจับพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาหมดหนทางหนีรอด แถมยังถูกกระสุนสาดเข้าใส่ร่างกาย

    ที่ไม่อาจจะสมานบาดแผลเองได้

    โคราซอนอ้าปากกว้างไร้เสียงใดๆออกจากริมฝีปากสีแดง ผิดกับบริเวณห้องข้างเคียง หญิงสาวชุมเมดฝรั่งเศส

    แผดเสียงกรี้ดร้องลั่นดังสนั่น คราแรกเป็นเพราะการถูกทรมาณทางร่างกายและจิตใจโดยผู้ชายผมบรอนด์เป็นลอนๆ

    ตัวสูงๆนั่น คราต่อมาคืนเสียงกระสุนไม่ทราบที่มาลอยล่องเฉียดใบหน้าของเธอไป จนเกิดแผลเป็นเส้นตรงข้างแก้ม

    “ อะไรกัน? ” ซาโบ้ที่นอนไม่หลับ หรือไม่อาจจะหลับพักสายตาลงได้อย่างสบายใจ

    แม้ว่าจะกลับบ้านไปพักผ่อนใช้เวลาส่วนตัว กับแฟนสาวแล้ว เขายังมีเรื่องอีกมากมายที่ยังติดใจกับการให้ปากคำ

    ของเบบี้ไฟฟ์  ซึ่งทั้งคำพูดหรือการสนทนาของเธอนั้นยังพบแต่พิรุธทั้งนั้น!

    แน่นอนละว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ตึกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้นที่ห้าสิบสาม เข้างานก่อนเวลากำหนด

    และอยู่ท่ามกลางดงกระสุนด้วยเช่นเดียวกัน!

    ซาโบ้ย่อตัวลงแนบลำตัวด้านหน้าลงบนพื้นแล้วค่อยเคลื่อนไหวช้าๆ เพื่อหลบวิถีกระสุน หยิบปืนพกประจำตัวได้

    ปลดเซฟตี้ทันทีและค่อยๆออกไปสำรวจห้องด้านอื่นๆ ซึ่งขามาทำงานซาโบ้ทราบว่า ผู้บัญชาการชั่วคราวนั้น

    อยู่ทำงานจนถึงใกล้รุ่งของอีกวัน ยังไม่ได้กลับบ้านเหมือนคนอื่นๆ

    ปืนพกคงต่อสู้ไม่ไหว

    กระสุนขนาดจากปืนเอ็มหกสิบ เจ็ดจุดหกสองมิลลิเมตร ทั้งใหญ่ ยาว หัวแหลม เจาะเกราะได้สบายๆ 

    ฝังตัวเข้ากับคอนกรีต ไม่ว่าจะด้านซ้าย ขวา ตรงกลางคล้ายกับรังผึ้งขนาดใหญ่ แถมระยะในการยิงที่อีกฝ่ายลั่นไกมา

    แทบไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย ไม่ว่าจะหาบังเกอร์ก็ดี แล้วจะยิงสวนกลับ คงไม่ไหว ร่างของเขาคงพรุนไม่ต่างกำแพง

     

    “ น่าเบื่อชะมัด ” ซินญอร์ พิงค์ ลดมือลงจากปืนกลหนัก หันไปสนใจกับของหวาน

    ซึ่งก็ไม่แน่ใจนักว่าจะมากหรือน้อยนัก พาดวางด้ามปืนอาร์พีจีบนบ่ากว้าง โดยหมายเล็งเข้าไปเพื่อทำลายด้านใน

    ห้องทำงานของหน่วยสเปซ ซึ่งเวลานี้.. คาดว่าสมาชิกทุกคนน่าจะเดินทางมาถึงที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว!

    ยืนให้มั่นด้วยสองข้างกางขนานกับช่วงไหล่ พร้อมแล้วจึงลั่นไกยิงทันที!

     

    “ ซินญอร์ อย่ายิงนะ ” เพียงแค่เสียงกระซิบแผ่วนั้นทำให้เจ้าสวมชุดสูทต้องชะงัก

    ดวงตามองผ่านแว่นกันแดดเห็นหญิงสาวสวมชุดเมดฝรั่งเศสอันคุ้นตา ร้องเรียกจนต้องมองหาต้นตอของเสียง

    “ ไม่ทันแล้วยัยหนู! ”

    ปลายนิ้วกดลงบนไกปืนกระสุนขนาดใหญ่อาจจะมากกว่ากำปั้น ลอยล่องไต่บนอากาศมุ่งตรงไปทางด้านหน้า

    ตามที่ผู้ควบคุมกำหนดทิศทาง

     

    “ เสียใจด้วยเบบี้ไฟฟ์ ”

    เขาทำตามคำสั่งของดอนโดฟลามิงโก้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง! 

     

     

    #แล้วแบบนี้หน่วยสเปซจะรอดไหมละเนี่ย?

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป…

    23 เมษายน 2565.

     

      เรื่องราวชักจะเริ่มเข้มข้นขึ้นทุกที! 

          บอกก่อนว่าชิวไม่ค่อยเก่งเรื่องการตั้งชื่อตอนมากนัก เพราะกลัวว่าจะเผลอสปอยด์เนื้อหา

    ดังนั้นชื่อตอนจะเป็นคำศัพท์ง่ายๆ หรือไม่ก็ชื่อเพลงไปเลย(ง่ายดี) ประจวบเหมาะกับว่าเพลง Bad Habits.

    กำลังมา (ตอนนั้นออกมาแค่เป็นทีเซอร์เล็กๆ) ชิวรู้สึกว้าวมากเลยครับ เอ็ดเซอรไพร์ครับ 

    เป็นซาว์ดเพลงที่แหวกแนว ส่วนเรื่องน้ำเสียง… เสียงเอ็ดนั้นก็เพราะอยู่แล้ว บอกเลยว่าเพลงติดหูมากเลยครับ 

    ยิ่งได้คอลแลปกับเสี่ยโอ…  ลิเวอร์ จาก BMTH คือดีย์มากครับ  (สู่ขิตไปเลยยย) 

    Ed Sheeran – Bad Habits (feat. Bring Me The Horizon) [Live at the BRIT Awards 2022] - YouTube

    แค่ชิวคนเดียวก็น่าจะหมื่น ไม่ก็ล้านวิวละครับ 

                     ส่วนเนื้อหาของเพลง ก็เข้ากับเนื้อเรื่องของตอนนี้ดี เท่าที่ชิวตีความ(คิดเอง เออเองนะ)

    ก็เป็นผู้ชายออกแนวเสเพลเบาๆ ท่องไปในยามราตรีแล้วดันไปเจอคนที่ชอบ 

         แถมยังอยากได้มาคนที่ชอบนั้นมาเป็นแฟนอีก… 

    อืม ส่วนในฟิคของชิว… พาร์ทนี้.. ก็เลยเป็นที่มาของคนไม่ว่าจะชายหรือหญิงการทำตัวไม่ดีๆ แล้วไปเจอคนที่ชอบ

    แล้วก็อยากได้เขามาเป็นแฟนเช่นกันละครับ ไม่มีอะไรมากหรือให้คิดเยอะเลย…

     

      ส่วนเรื่องคอมเมนต์ Wild-Bunny นั่นก็เป็นเพื่อนของชิวเองครับ ซึ่งการตอบเมนต์ของชิวก็หยาบคายนิดนึง

    (เฉพาะแค่เพื่อนที่ตั้งใจมาปั่นชิวนะครับ) หากเป็นคนอื่นก็ตอบอย่างชิวสุภาพแน่นอนครับ

    ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะครับ

        นายชิว

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×