ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic: KHR Reborn] Animals. อสูรร้าย นายวาเรีย

    ลำดับตอนที่ #2 : Animals : Darker. II

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 64


     

     


     

        “ เฮ้ๆ เจ้าคนสวนหน้ามาใหม่ฟังทางนี้!

                “ ครับๆ เดนเซลตะโกนตอบ และเดินเข้าไปหาหัวหน้าคนสวน หยุดยืนรวมตัวกลับกลุ่มคนงานขนาดใหญ่

                “ เอาล่ะ ฉันจะแบ่งพวกนายออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกไปซ่อมกำแพงรั้วหน้าคฤหาสน์  ส่วนที่สองห้องอาหาร

    และส่วนที่สามห้องรับแขก พวกนายต้องรีบซ่อมแซมให้เสร็จให้ไวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้! เสียงของหัวหน้าคนงาน

    ตะโกนก้อง   ทำให้เสียงของเหล่าชายฉกรรจ์คนงานร่วมเกือบสามร้อยคนต่างพากันส่งเสียงโห่ร้อง(ไม่เอา) 

    เซ็งแซ่กันยกใหญ่!

                “ แล้วทำไมเราต้องซ่อม?  หนึ่งในคนงานต้องสงสัย

                “ ใช่ๆ

                “ ไม่เอาๆ ไม่ซ่อมๆ เหล่าคนงานเริ่มประท้วง เพราะเนื่องจากซ่อมไปเท่าไร เหล่าคุณชายวาเรีย(ทั้งหลาย)

    ต่างพากันอาละวาด ทำลายคฤหาสน์โครมครามกันได้ทุกวี่ทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่วันหยุดราชการหรือนักขตฤกษ์

    เท่ากับว่าที่ซ่อมไป ก็โดนพังไป ไม่รู้ว่าจะซ่อมไปทำไมกันมากกว่า!

                “ ถ้าซ่อมตอนนี้จะได้ค่าแรงเพิ่มอีกสามเท่าจากเงินเดือน หัวหน้าคนงานหยิบเอกสารจากแฟ้มในมือขึ้นมา

    แล้วอ่านร่างสัญญากันอย่างง่ายๆ เพื่อให้คนงานต่างพากันเข้าใจแบบไม่ต้องอธิบายเยอะ

                “ อ๋อ แบบนี้นี่เอง เดนเซลถึงบางอ้อ เมื่อได้ฟังจากหัวหน้าคนสวน 

    ทำให้เดนเซลได้รู้ว่าคฤหาสน์วาเรียพังพินาศได้ทุกวัน(ย้ำว่าทุกวัน) เนื่องจากจะเป็นสมาชิกในวาเรียด้วยกันเอง

    ( จากผลสำรวจสถิติที่ทำกันมาส่วนมาก มักจะทะเลาะกันมากสุดในวันที่ไม่มีภารกิจ) พวกเขาผลาญเงินกันเก่ง 

    มักหมดเงินไปกับค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยซึ่งไม่ค่อยเป็นเรื่องมากนัก ทว่าห้าสิบเปอร์เซ็นของรายได้เข้าวองโกเล่

    ก็เป็นรายได้หลักจากการทำภารกิจ (เรียกง่ายๆว่าใช้เก่งขนาดไหน ก็ย่อมหาเก่งได้มากกว่านั้น) 

    ดังนั้นทางส่วนกลางของวองโกเล่จึงต้องทำประกันวินาศภัย จนกระทั่งทำให้บริษัทอยากคืนเงินประกัน

    แล้วพากันปิดออฟฟิศหนี!

     

                        ‘วันแรกก็โดนรับน้องแล้วเรา’

    อยากจะตะโกนคำว่า ‘ ฉิบหาย’ ออกมาให้สุดเสียง ทว่าต้องกลืนคำๆนั้นไว้ในลำคอ กว่าจะหมดวัน

    กับสภาพของจับกังน้องใหม่ เสื้อลายสก๊อตที่ออริกาโนเลือกให้เองกับมือ สำหรับใส่ไปใช้แรงงานเลอะด้วยคราบฝุ่น 

    ปูน ดินโคลน หยิบหมวกฟางสำหรับบังแดดบนศีรษะ อิเอมิสึให้ยืมออกมาตบฝุ่นออก(หัวหน้าอิเอมิสึเคยเล่าให้เดนเซล 

    ออริกาโนฟังว่า ภรรยาและลูกชายที่บ้าน เข้าใจว่าเขาทำงานขุดเจาะน้ำมันอยู่เลย แน่นอนเขาไม่สบายใจที่จะโกหก

    แบบนั้น) เดนเซลนึกถอนหายใจ ทั้งวันแทบไม่มีข่าวหรือมีความคืบหน้าอะไรเลย 

    นอกจากเวลาเข้าออกเคหะสถานของคุณชายวาเรียทั้งหลาย!

                เอาวะ กำขี้ดีกว่ากำตด!

    เดนเซลรายงานกับออริกาโน่เมื่อทราบตารางเวลาคร่าวๆ อาบน้ำแต่งตัวให้สะอาด เพื่อลักลอบเข้าไปในคฤหาสน์วาเรีย

    ช่วงหัวค่ำ ทว่าผิดคาด ช่วงหัวค่ำเหล่าวาเรียยังไม่กลับมาจากภารกิจ จึงทำให้เดนเซลได้นั่งพักผ่อนอยู่บนเตียงนอน 

    แข็งยิ่งกว่าคอนกรีตเสริมใยเหล็ก เอนหลังล้มตัวนอนหนุนหมอนพอๆกับเหล็กกล้า หล่อนปิดเปลือกตาลงยกท่อนแขนขึ้น

    มาบังแสงจากหลอดนีออน อากาศในห้องถ่ายเทไม่ค่อยสะดวกมากนัก ซ้ำร้ายมีแค่พัดลมเก่าๆหนึ่งตัว 

    ส่งเสียงก๊อกแกร่กทุกครั้งที่หมุ่นส่ายไป มา คอยให้ลมเย็นคลายความร้อน(ซึ่งเดนเซลไม่เรียกว่าลมเย็น)

                  “ คิดถึงเตียงนอนที่ห้องฉิบเป๋ง เดนเซลบ่นกับตัวเอง เริ่มคิดว่าภารกิจในครั้งเหมือนกับพาตัวเองมาลำบาก

    ต้องจากเตียงขนาดคิงไซส์ หมอนหนุนยัดไส้ขนเป็ดแท้อย่างดี ผ้านวมผืนหนานุ่มนิ่มจากผ้าซาติน เครื่องปรับอากาศ

    คอยคุมอุณภูมิห้องไม่ให้ร้อนหรือหนาวจนเกินไป   ใช่ เดนเซลเป็นกลุ่มคนใช้แรงงาน ทำงานหนักมาทั้งวัน

    ไม่ว่าจะนอก ในCEDEF ดังนั้นจึงต้องพิถีพิถันเกี่ยวกับเรื่องของเครื่องนอนเป็นธรรมดา

     เพราะหล่อนใช้เวลาอยู่ในห้องนอนไม่ต่ำกว่าหกถึงแปดชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว!


     

    เสียงเคาะประตูห้องคนงานดังทำให้เดนเซลต้องเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง แง้มบานเปิดประตูพลาสติดผุออกไป

    ก็พบกับพ่อบ้านหุ่นบอบบางอ้อนแอ้นเขาสวมชุดเครื่องแบบบัตเลอร์สีกรมเข้ม พร้อมกับนำชุดเชฟสีขาวสะอาดตา

    มาให้ใส่ บอกด้วยน้ำเสียงเจื้อแจ้วว่าเหล่าวายร้าย เอ๊ย! วาเรียกำลังกลับมาที่พัก และแน่นอนละว่า ต้องจัดสำรับอาหาร

    คาวหวานต้อนรับ ให้พร้อมเมื่อพวกเขามาถึง!  พอถามเหตุผลว่าทำไมต้องคนสวนอย่างเดนเซลจำต้องเข้าครัว 

    กลับได้คำตอบว่าเหล่าเชฟต่างพากันลาออกยกครัว แห๋งละตอนนี้เชฟที่หามาได้นั้น คงทำอาหารกันไม่ทันแน่ๆ

     อย่างน้อยได้คนช่วยเตรียมของ(ล้างผัก จัดจาน) เพิ่มอีกสักคนก็ยังดี

     

                เออ เอาเข้าไป ตอนนี้เดนเซลได้กลายเป็นเจเนเรชั่นเบ๊เรียบร้อย!


     

              ฟู่วๆ

    เดนเซลพยายามฝึกหายใจให้ปกติ หยิบยกจานสลัดอโวคาโดออกไปเสิร์ฟอย่างใจเย็น แม้นตรงหน้าจะมีนักฆ่ามือฉกาจ

    สุดของวองโกเล่นั่งเรียงรายหลายชีวิตกันอยู่ก็ตาม ขึ้นชื่อว่าวาเรียคลอริตี้ ไปไหนมีแต่คนยำเกรง 

    ต่างพากันร่ำลือในเรื่องของฝีมือของบรรดาสมาชิก(ซึ่งความสามารถของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันออกไป

    อย่างเห็นได้ชัด)  แน่นอนหากพวกวาเรียควอริตี้เดินทางไปแห่งหนใดที่นั้นล้วนเเล้วแต่จะมีสงคราม หายนะ 

    การนองเลือด แนะนำว่าควรห่างๆจากกลุ่มคนเหล่านี้จะดีกว่า

                “ สลัดอโวคาโดครับ เดนเซลเสิร์ฟอาหารลงตรงหน้าให้กับลูซซูเรีย 

                “ อุ๊ยๆ มาใหม่รึจ๊ะ พ่อรูปหล่อ ไม่เคยเห็นหน้าเลยนะเนี่ย ชื่ออะไรหน่ะเรา? ลูซซูเรียหันมองเดนเซล

     ราวกับว่ามีเทพพระบุตรมายืนอยู่ตรงหน้า

                “ เดนเซล หว่อง ครับ ตอบพร้อมรอยยิ้มจริงใจอย่างเป็นมิตร ลูซซูเรีย เจ๊ใหญ่แห่งวาเรีย

    จัดจ้านในเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว(ขนเฟอร์แน่นๆ)ถือคติ เพราะทุกวันคือรันเวย์ ตั้งแต่ทรงผมแมนบัน

    ผมส่วนบนไว้ยาวย้อมด้วยสีเขียวสว่าง ส่วนด้านล่างไถเกรียนด้วยปัตตาเลี่ยนเบอร์ศูนย์ สวมแว่นตากันแดดแฟชั่นชิคๆ

    เกือบตลอดเวลา ชุดเครื่องแบบวาเรียควอริตี้ ถุงมือหนัง(ตอนนี้ถอดออกเพราะทานอาหาร)

    จรดด้วยรองเท้าคัชชูสั่งตัดสุดพิเศษปลายแหลม

               “ อู้ยย น่าหม่ำๆจังเลย ถูกใจเจ๊ที่สุด!>< ”  ลูซซูเรียมองเพื่อนใหม่ลูกครึ่งจีนอังกฤษ ด้วยแววตาเป็นประกาย

    พลางตักผักสลัดขึ้นมาทานให้หายหิว

     

                “ ชิชิชิ สงสัยจะถูกใจองค์แม่แล้วละสิ ชิชิชิ เบลเฟกอลนั่งขนาบเอ่ยขึ้น บอกตามตรงได้เลยว่าเขาไม่สนใจ

    สิ่งมีชิวิตอย่างอื่นนอกจากพรรคพวกของตนเอง และภารกิจเลือดสาดเลยสักนิดเดียว เบลเฟกอล เจ้าชายนักเชือด 

    ผู้มีเส้นผมสีบรอนด์ทองปรกใบหน้า คาดว่าคงไม่มีใครได้ล่วงเห็นแววตาที่แท้จริง 

    สวมมงกุฏเอียงๆคล้ายเป็นเครื่องประดับ บ่งบอกถึงฐานันดรศักดิ์ที่แท้จริง!


     

                เคร้ง!

    เสียงของมีด ส้อมสำหรับทานสเต็ก กระแทกกับขอบจาน

                “ ไปตามคนทำสเต็กจานนี้มา! “ เสียงทุ้มทรงอำนาจเอ่ยขึ้น คายอาหารบางส่วนลงกระดาษทิชชู่ในมือ

    แล้วโยนลงบนโต๊ะ แม้นใบหน้าจะเรียบเฉย ทว่านัยน์ตาสีโกเมนกำลังแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง 

    คล้ายกับภูเขาไฟ กำลังรอเวลาประทุระเบิดขึ้นมา บัตเลอร์ที่ยืนอยู่ใกล้ตัวโคลงศีรษะ 

    จึงต้องรีบซอยฝ่าเท้าตรงเข้าครัวให้รวดเร็วที่สุด

    “ ไอ้เวรนั่นมันใช้ตีนทำรึไง? เสียงทุ้มทรงอำนาจ เอ่ยด้วยความกราดเกรี้ยว

    “ มาแล้วครับ บัตเลอร์โค้งศีรษะรายงานแล้วถอนตัวออก แค่สเต็กง่ายๆ กลับทำออกมาแล้วทานไม่ได้!

    ในเมื่อทานไม่ได้ก็ไม่ต้องมีคนได้ทาน! และแน่นอนต้องมีคนรับผิดชอบกับเมนูนี้ โดยเฉพาะเชฟผู้รังสรรค์

    “ ไหน ลองกินเข้าไปให้ดูสิ แซนซัสใช้มีดสเต็กปักส่วนเนื้อชิ้นใหญ่ขึ้นมายื่นให้

            “ ค ค คุณแซนซัส พ่อครัวสูงวัยถึงกับเข่าอ่อน เมื่อเห็นคนตรงหน้า

    แซนซัส บุตรชายหัวแก้วหัวแหวน ผู้เป็นลูกรักของวองโกเล่รุ่นที่เก้า หัวหน้านักฆ่ามือฉมัง!

    พ่วงอีกตำแหน่งคือหัวหน้าใหญ่สุดของวาเรียกำลังเดือดดาล ยิ่งสังเกตรอยแผลเป็นบนใบหน้าตามลำตัว 

    กลายเป็นสีเข้มตัดกับสีผิว ทำให้ผู้คนต้องสั่นเทา เพียงแค่ขยับตัวเพียงเล็กน้อย อำนาจ ความน่าเกรงขาม 

    เป็นแรงกดดันชั้นดีที่จะทำให้เข่าแทบทรุด!

                “ เมื่อคนทำยังกินไม่ได้...แล้วทำออกมาให้ใครกิน?

     

                เพล้ง!

    แซนซัสคว้าจานบนโต๊ะอาหารออกแรงปาจนเกือบสุดแรงเฉียดใบหน้าของเชฟสูงวัย เศษแก้วกระเด็นกระจาย

    ไปทั่วบริเวณ แน่นอนว่าเศษจานกระเบื้องนั้นกระเด็นเข้าใส่ใบหน้าที่มีแต่ริ้วรอยของวัย เกิดรอยแผลบาดเป็นทางยาว

    เลือดสีแดงข้นไหลซึมออกมาช้าๆ

     

                “ ไอ้บอสเวร คุณเอ็งทำอะไรลงไป เราหาเชฟมาทำกับข้าวให้กินไม่ได้แล้วนะโว้ย!” สควอโล่ตะเบ็งสุดเสียง

    สบถคำหยาบคายทิ้งท้ายอีกหน ซึ่งไม่สามารถสาธารยาออกมาได้ ด้วยความไม่ปลื้มกับความเอาแต่ใจของบอสวาเรีย

    อาหารไม่ถูกปาก รสชาติไม่ถูกใจ มีอันต้องเขวี้ยงปาจานลงพื้น หนักสุดก็คว้าปืนขึ้นมาควงแล้วยิงแสกหน้า

    (คนทำอาหาร)ทันที ส่งไปเฝ้าเมืองผีกันหลากหลายท่าน  

    ลำบากคนแบกหน้าไปติดต่อขอให้ฝ่ายส่วนกลางของวองโกเล่ ช่วยจัดหาคนงานครัวเข้ามาใหม่

                “ อีกแล้วหรือคะ? ทางหน่วยส่วนกลางถามด้วยความสงสัย

    เล่นงานซะสควอโล่ต้องจำใจตอบกลับไปว่า “ ครับ ขอด่วนๆเลย ต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีการสื่อสารที่เรียกว่า

    โทรศัพท์ จึงไม่ต้องบากหน้าไปถึงฝ่ายบุคคลด้วยตนเอง!

     

    Belle Hélène พร้อมเสิร์ฟขึ้นโต๊ะรับประทานครับ เดนเซลถือถาดออกมา และวางเสิร์ฟตรงหน้าของแซนซัส

    หากว่าแซนซัสเป็นสายเนื้อ ชอบทานสเต็กเนื้อ(เป็นชีวิตจิตใจ)แล้วละก็ คงต้องรู้จัก แบล เอเลน 

    สเต็กสไตล์ฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม  ประกอบไปด้วยมันฝรั่งก้านไม้ขีดฝอยขนาดเท่าๆกัน ทอดด้วยสีเหลืองกรอบ ขนาดเล็ก

    สำคัญคือเท่ากันทุกชิ้น โซ่เลเยอร์ซอสส่วนของซอสไวน์ขาว จะไม่เปรี้ยวเกินไป เข้มข้นและไม่แตกตัว 

    ส่วนสำคัญสุดเนื้อสันในของสเต็กอยู่ในระดับซียองค์(หรือมีเดียมแรร์)

                “ ก็ได้ ถ้าไม่ดีขึ้นมาละน่าดู! “ แซนซัสยอมละจากอาหารจานเก่า หันมาสนใจอาหารจานใหม่แทน 

    เขาใช้มีด ส้อม ช่วยในการหั่นสเต็กพอดีคำ ปลายจมูกสัมผัสกลิ่นหอมของเนย ทำให้เขาใจเย็นลง 

    หั่นออกมาดูแล้วเนื้อด้านในเป็นมีเดียมแรร์สวยงาม แซนซัสยังไม่วางใจจากรูปลักษณ์ภายนอกนัก จนกว่าจะได้ชิม

                สมาชิกวาเรียกำลังร่วมโต๊ะอาหารพร้อมลุกขึ้นและวิ่งหนีกลับขึ้นห้องพักของตัวเองได้ทันที

    หากว่าแซนซัสเกิดอาละวาดขึ้นมา (คงไม่มีใครอยากเป็นศพคากองอาหารเป็นการตายที่น่าอนาถเสียจริง)

    ดังนั้นอาหารจานตรงหน้า สามารถชี้ความเป็น ชี้ความตายกำหนดชีวิตให้ใครจะอยู่ รอด ปลอดภัย!

     

                “ ก็ไม่แย่เลยนะเจ้าสวะ! โชคเข้าข้างนะ ไม่อย่างนั้นทั้งสองคนคงได้ไปเฝ้าเมืองผีแน่!

    ปลายจมูกได้กลิ่นหอมของเนยค่อนข้างชัด คาดว่าตอนลงกระทะคงใช้เนยแทนน้ำมัน  ส่วนของเนื้อนั้นไม่สุก 

    ดิบจนเกินไปนุ่ม ไม่กระด้าง ลองทานคำเล็กๆรสชาติเข้มข้น จัดว่าไม่ได้เลวร้ายนัก

                “ ถือว่าเป็นคำชมครับ เดนเซลเข้าไปประคองชายสูงวัยให้รีบลุกขึ้น พาเขากลับเข้าหลังครัว 

    คิดถูกที่ตนทำอาหารเมนคอร์สสำรองไว้อีกสามถึงสี่จาน   อย่างน้อยตอนนี้ก็สามารถช่วยได้อีกหนึ่งชีวิต 

    ต้องยกความดีความชอบนี้ให้แก่คุณแม่ของเดนเซล ซึ่งคุณแม่เปิดร้านอาหารชื่อดังติดอันดับต้นๆของประเทศไทย 

    ท่านกำชับตลอดว่า สเหน่ปลายจวักนั้นสำคัญเสมอ! (ดังนั้นเดนเซลมีความสามารถในการรังสรรค์อาหาร 

    ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก) 


     

                “ โธ่เอ๊ย! ทุกคนพร้อมอุทานออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

                “ หัวใจเจ๊แทบวาย! ลูซซูเรียยกมือทาบอก หายใจโล่งคอ  

    วินาทีต่อจากนี้ พวกเขาสามารถทานอาหารได้ราบรื่นอย่างปลอดภัยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!


     


     

    มื้อเย็นจบลงด้วยการลาออกของเชฟสูงวัย เดนเซลกอดอก พยักหน้ากับคำพูดของเขา                   

    เชฟท่านนี้อยู่มาก่อนเดนเซล(ซึ่งลองถามอายุงานประจำการที่นี่คือสามเดือน) คงจะเห็นอะไรๆมามาก

    จะบอกว่าเขาขลาดเกินกว่าจะทำงานนี้ได้ ก็เป็นคำพูดที่ทิ่มแทงหัวใจคนทำงานบริการจริงๆ 

    บางทีเขาอาจจะเข้ามาผิดบ้าน ผิดที่ ผิดทางมากกว่า ดังนั้นหากมีโอกาสที่ดีกว่าตอนนี้ 

    ก็ควรรับโอกาสใหม่และออกไปทำตามความฝัน

    “ ขอโทษด้วยครับ เชฟสูงวัยเอ่ย พลางโค้งตัวขอโทษ ขอบคุณในเวลาเดียวกัน 

    เดนเซลเข้าไปช่วยชีวิตออกมาได้อย่างทันเวลา สาบานได้เลยว่าถ้าเจอกันข้างนอก เขาจะตอบแทนบุญคุณนี้…

    อย่างสาสมเชียวละ!

                “ ผมเข้าใจดี ขอให้โชคดีนะครับ เดนเซลโค้งตัวตอบ ไม่มีการตำหนิใดๆทั้งสิ้น

    ถ้าให้เลือกระหว่างชีวิตกับงาน ส่วนมากจะตอบเป็นอย่างแรก

                “ เช่นกันครับ เชฟสูงวัยใช้กระดาษซับมัน ปาดเหงื่อบนหน้าผาก ค่อยๆซับใบหน้าใกล้บริเวณแผลติดผ้าก็อต 

    ยิ้มกว้างจนเห็นรอยย่นบนผิวหนังตามวัย ทุกคนในครัวโอบกอดไหล่ ให้กำลังใจ อย่างถ้วนหน้า

     

     

                “ รับออเดอร์ด้วยครับ นมสดอุ่นๆพร้อมดื่ม ส่งห้องคุณเบลเฟกอลครับ บัตเลอร์หนุ่มเข้ามาสั่งรายการ

    และเดินจากไป  

                “ ได้ เดี๋ยวผมไปเสิร์ฟเอง เดนเซลเสนอตัว พนักงานบาร์น้ำรับหน้าที่ตรงนี้แทน

     

                เดนเซลเดินขึ้นส่วนชั้นบนของคฤหาสน์กลางดึก เสิร์ฟนมสดให้เจ้าชายแล้วจึงเดินออกมาอย่างเงียบๆ

    ผ่านทางเดินทอดยาว เห็นแฟ้มเอกสารบางอย่างหล่นอยู่จึงก้มตัวหยิบขึ้นมา เมื่อตอนขาขึ้นมายังไม่เห็น 

    คาดว่ามีคนทำตกหล่นไว้แน่ๆ

                “ ไอ้บอสเวรตะไล! เอกสารเซ็นอนุมัติแล้วหรือยัง? สควอโล่ร้องเสียงดังลั่น

    จนเดนเซลรู้พิกัดและกำลังมุ่งหน้าตรงไปหา เพื่อคืนแฟ้มเอกสาร

                “ หุบปากหน่ะไอ้สวะ! แซนซัสพูดด้วยน้ำเสียงเจือหงุดหงิด 

    บอกตามตรงว่าตอนนี้เขาพร้อมอาละวาดกับทุกสิ่งอย่างที่ขวางหูขวางตาในตอนนี้!

       “ พูดดีๆเคยฟังไหมว่ะ? สควอโล่ยังพูดใส่อารมณ์ เพราะต้องการเอกสารอย่างเร่งด่วน 

    เขาต้องตามงานทุกแฟ้มทุกคดี รับผิดชอบทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว

          “ แกไม่มีสิทธิ์มาขึ้นเสียงใส่ฉัน ไอ้สวะ! แซนซัสปาแก้วบรั่นดีพอมือ เป้าหมายคือกลางกบาลของคนปากดีใกล้ตัว

                        เพล้ง!

                “ มันไม่ใช่เวลาปาข้าวของนะเฟ้ย! สควอโล่ยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดคราบบรั่นดีออกจากใบหน้า

                “ บอกให้หยุดเห่าไง! แซนซัสเข้าประชิดสควอโล่ พุ่งมือขวาหมายบีบคอให้ตาย

    กระดูกต้นคอแหลกคามือกันไปเลย!

        “ ไอ้บอส... สควอโล่พยายามแงะมือแซนซัสออกด้วยมือเดียว แน่นอนละว่าเขากำลังตกเป็นต่อ

    ฝ่ามือหยาบกร้านหาความนุ่มนิ่มได้ไม่ของบอสนั้นแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า

                “ คุณไม่ควรทำอย่างนั้น เดนเซลเข้ามาอย่างเงียบๆ ใช้มือซ้ายจับข้อมือขวาของแซนซัส

    ออกแรงบีบแน่นคืนกลับ ส่งผลให้แซนซัสยอมปล่อยสควอโล่เป็นอิสระ

                “ ไอ้ลิงเอเชีย! แซนซัสเริ่มอารมณ์เสียหนักกว่าเดิม ทุกครั้งที่มีเรื่อง มีปัญญามักมีตัวชอบสอด(เดนเซล)

    เข้ามาเป็นมะริงกิงกองเกือบทุกครั้ง

                “ ผมแค่มาเสิร์ฟนมให้คุณเบลเฟกอล พอดีเก็บเอกสารตรงทานเดินได้น่าจะเป็นของคุณสควอโล่

    ทำหล่นจึงนำมาคืน ” แค่นั้นเอง

                “ เออ ไอ้สวะ กองไว้ตรงนั้น! แซนซัสพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ฆ่าคนตายคาห้องนอน

                “ ไปกันเถอะครับ คุณสควอโล่ ว่าเปล่าเดนเซลปล่อยแฟ้มเอกสารในมือลงบนพื้นพรมสุดหรู 

    หมุนปลายเท้า ไปทางสควอโล่ จูงมือเขาออกจากห้องทันที และไม่หันกลับมามองแซนซัส ผู้เป็นเจ้าของห้องอีกเลย

               ทั้งสองเดินยังไม่ถึงสามช่วงเท้าดี แซนซัสแทบจะพุ่งตัวเข้าไปกระชากเส้นขน(เส้นผม)ของเดนเซล

    แล้วหวดฝ่ามือหนาอัดลงใบหน้างามๆ นั่นสักสามสี่ทีด้วยความโกรธา แปลกกว่านั้น… ไอ้ลิงเวรนั่นมันเข้ามาตอนไหน

    ทำไมถึงไม่ได้ยินเสียง ว่าจะตั้งแต่หมุนลูกบิด เปิดประตู จนมายืนระยะประชิด 

     บอกตรงๆเลยว่าชักจะไม่ถูกชะตาด้วยแล้วนี่สิ!


     

     

                 “ มานี่เดะไอ้หน้าใหม่! สควอโล่กลายเป็นฝ่ายดึงเดนเซลเข้าไปในห้องของตน

                “ เดี๋ยวสระผมให้ เดนเซลบอกแค่นั้น

    สควอโล่กลายเป็นฝ่ายถูกดึงเข้าไปที่ห้องน้ำ ถูกจัดแจงให้เข้าไปนั่งในอ่าง วางศีรษะลงบนส่วนของขอบอ่าง

    เดนเซลเลือกใช้น้ำอุ่นล้างลงบนเส้นผมสีเทายาวสลวยอย่างนุ่มนวล เมื่อชุ่มน้ำดีแล้วลงแชมพูสระ เขาทำแบบนี้สองรอบ

    ล้างน้ำเปล่า ชโลมด้วยครีมนวดผม ล้างน้ำเปล่า น้ำสุดท้ายออก

           “ นายเป็นใครว่ะ? ได้จังหวะฉลามหนุ่มเริ่มตั้งคำถาม ความรู้สึกเมื่อถูกสัมผัสบนข้อมือ

    ไอ้ลิงเอเชียที่บอสเวรเรียก ทำให้รู้สึกประหลาดใจชอบกล น้อยคนนักจะกล้าเข้าใกล้ในระยะถุยน้ำลายยังถึงขนาดนี้

    ส่วนความรู้สึกของตัวสควอโล่ก็...ไอ้ลิงนี่ ไม่ได้ดูร้าย มีพิษสง หรือแผ่รังสีออร่าพร้อมจะเข้ามาเด็ดคอเขาสักนิด

    กลับกลายถูกมองว่าสควอโล่เป็นคนใจง่าย ถูกจับจูงไปไหนมาไหนโดยที่ไม่ได้เอ่ยปากห้ามและขัดขืน

                “ เดนเซล หว่อง เป็นเอ่อ...กรรมกร พ่อครัว บ๋อย แล้วก็... เดนเซลพยายามระลึกว่า

     ทั้งวันตนได้ทำงานอะไรบ้าง

                “ เออ อยากเป็นอะไรก็เป็นไปเถอะว่ะ สควอโล่ตอบอย่างไม่สบอารมณ์

                “ คุณดูไม่จืดเลยนะครับ

                “ ฉันยอมไอ้บอสเวรนั่นแค่คนเดียว!

                “ คุณดู...ไม่มีค่าเลยนะ อะไรที่ทำให้คุณยอมละครับ? เดนเซลถามด้วยความฉงน

    ไม่ว่าจะโขลกจะสับ อาการผีเข้า ผีออก ของนายเหนือวาเรีย สควอโล่ต้องรับ ปรับได้ทุกอารมณ์

                “ คงเป็นเพราะ...ตั้งแต่เห็นไอ้บอสครั้งแรกละมั้ง แววตาที่เต็มไปด้วยความโทสะ 

    มันบอกให้ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง  ทั้งอุดมการณ์ ความคิด ความทะเยอทะยาน จวบจนไปถึงการขึ้นตำแหน่ง

    เป็นวองโกเล่รุ่นที่สิบ สควอโล่มักอยู่ในทุกการสนับสนุนในทุกๆเรื่อง หรือถ้าเรียกเป็นภาษาเชิงพาณิชย์คงเป็นสปอนเซอร์

    รายใหญ่ ฉลามหนุ่มเริ่มใจเย็นลงมาบ้าง เริ่มยอมกลายเป็นคนเปิดปากเล่าเรื่องให้ฟังหลากหลายอย่าง 

    จนต้องชะงักตัว กว่าจะรู้สึกว่าตัวเองพูดเยอะซึ่งมันไม่ใช่นิสัย สควอโล่คิดว่าบางทีเดนเซลอาจจะรู้เรื่องของเขามากเกินไป

    แล้ว ดังนั้น ควรหยุดพูดเรื่องระหว่างเขากับแซนซัสดีกว่า!

     

                “ อาจจะเรียกว่า...ความรักรึเปล่า?

                “ รักบ้ารักบออะไรวะ ใครจะไปรักไอ้บอสผีบ้านั่นลง! สควอโล่ขึ้นเสียงไฮโน๊ตใส่

    เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่าง และการโมโหกลบเกลื่อนของเขา มักจะแก้สถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม

                “ ไปเป่าผมกัน  เดนเซลไม่ได้(สนใจ)ฟัง เขาใช้ผ้าขนหนูซับเส้นผมสีเทาชุ่มน้ำ จูงมือสควอโล่ไปเป่าผม

     สควอโล่ถูกจับให้นั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้ามีกระจกใบใหญ่อย่างเงียบๆ มีเพียงแค่เสียงไดร์ส่งเสียงกลบความเงียบ

     ไม่นานนักเดนเซลปิด วางไดร์เป่าผมลง

     

                “ เรียบร้อยแล้วครับ พักผ่อนให้หายเหนื่อยครับ “ เขาอวยพรให้สั้นๆและเดินจากไป 

    โดยไม่สนคำพูดสบถตามหลังตน สควอโล่ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจก ปิด เปิดเปลือกตาลงช้าๆ 

    ใช่ ทุกวันนี้เขามีแต่เหนื่อยมาก เหนื่อยฉิบหาย เหนื่อยเฮียๆ

    การดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าที่เปรียบเสมือนกับเป็นหัวหน้าเอง ไม่ใช่เรื่องง่าย... ไม่เคยมีอะไรง่ายเลย!

    แม้จะเจอเดนเซลไม่นาน ไม่สามารถนับได้ถึงวัน เดนเซลเป็นคนมีสเน่ห์มากล้น ไม่ว่าจะเส้นผม หน้าตา เรียวปากเล็ก 

    จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตาสีเทอควอยซ์ ชวนฝัน คล้ายกับการรวมศิลปะชั้นสูงระหว่างเอเชียและยุโรป

    ได้อย่างลงตัว รูปร่างผอมสูงพอๆกันเขา ยืนข้างกันต่างกันไม่มากนัก  สเน่ห์หาเย้ายวนเกินต้านทาน 

    หากเป็นสาวน้อยวัยขบเผอะบอกเลยว่าคงหลงเจ้าเดนเซลแน่ๆ 

    ความน่าประทับใจในตัวของเดนเซลก็คือ เขาสามารถทำให้คนอย่างสควอโล่ กลับมาเห็นคุณค่าของตัวเองอีกครั้ง

    จากคนไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง...ไม่ว่าจะทะเลาะกับแซนซัส ชอบปาข้าวของเมื่อไม่ได้ดั่งใจ พิกัดลงกระหม่อม 

    กลางกบาล หรือทำร้ายร่างกายเล็กๆน้อยๆ(แค่หัวแตก ปากฉีกเท่านั้น) โดยแทบไม่สวนกลับ 

    เช่น ทะเลาะกันเรื่องฝาชักโครก แซนซัสไม่ยอมยกลงหลังใช้เสร็จ เสื้อผ้าใส่เสร็จแล้ว ไม่เคยถูกจัดลงตะกร้าดีๆหรอก 

    นู้นน กองอยู่รอบๆตะกร้าผ้า หนักสุดก็เกลื่อนไปทั่วห้อง  (ตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆยันเรื่องราวใหญ่โต)  

    ทั้งที่จริงแล้ว เบื้องหลังของวาเรียควอริตี้ที่ทุกคนชื่นชมล้วนแล้วมาจากรองหัวหน้าเสมอ  

    สควอโล่สามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด เฉียบคม  เช่นเรื่องภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

    หากไม่มีเปอร์เซ็นในการชนะ(คำนวณคร่าวๆมักเกินเก้าสิบเปอร์เซ็นขึ้นไป) ก็จะไม่รับโดยเด็ดขาด!

    คำนวณถึงความสามารถของลูกน้อง วางกลยุทธในทีม ให้เสร็จสรรพและพร้อมลงมือ 

    อย่างน้อยต้องขอบใจเดนเซล... วันนี้ก็ยังมีเรื่องราวดีๆอยู่บ้าง


     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป...

    14-07-2563

     

             ชิวกลับมาแล้วครับทุกท่าน (เฮ)  ขอเกริ่นๆเบาๆก่อนว่าฟิคชั่นเรื่องนี้ไม่ได้เป็นไปตามเนื้อเรื่อง

    เพราะจำเนื้อเรื่องไม่ได้(แฮ่)  และเนื้องาน+สไตล์ที่ชิวเขียน(เรื่องราวจริงจังมาก)...

    คิดว่าก็ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านทั่วไปเช่นกัน (เพราะคนปกติเขาไม่ทำกัน) 

                  และเนื้อหาในบางตอนก็ไม่ค่อยเชื่อมต่อกันมากนักเพราะมีเนื้อหาไม่เหมาะสมสำหรับเว็บเด็กดี

    ดังนั้นชิวจึงทำการย้ายเว็บลงครับ แต่เด็กดียังอัพให้ตามได้อยู่แต่จะเป็นเวอร์ชั่นสะอาดๆ คลีนๆ 

    ตัดฉากออกไปเยอะเช่นกัน หากนักอ่านท่านใดสนใจติดตามเวอร์ชั่นเต็มๆ...แต่สามารถอ่านกันได้ที่นี่ครับ

                 อย่างไรก็ตาม ชิวขอบคุณทุกท่านมากๆที่ยังสนับสนุน และขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านครับ
     

                                                                 รักนะเด็กๆ

                                                                นายชิว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×