คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เหนือกาลเวลา : แผนลับภารกิจร้าย
- แผนลับภารกิจร้าย -
ปิดจ็อบดูแลฟาร์มม้าลงอย่างสวยงามที่สุดภายในสามวันตามระยะเวลากำหนด
ขณะนี้คาคาชิ ชุนและลูกทีมหมู่เจ็ดเข้ารายงานตัวหลังจบภารกิจ(รับค่าจ้าง) พบปะสนทนากับโฮคาเงะรุ่นที่สาม
เพียงเล็กน้อย ก่อนจะแยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย รอเรียกตัวภารกิจต่อไป
“ ชุนเท่าที่จำได้เรายังไม่ได้ซื้อเตียงนอนเลยนี่เนอะ ” คาคาชิดึงมือชุนไว้ กลับมาจากภารกิจดูแลฟาร์มม้าแล้ว
เหมือนจะมีเวลาว่าง แม้อาจจะไม่มากอย่างน้อยก็พอจะให้ทั้งสองคนได้ใช้เวลาร่วมกัน
“ อืม ” ชุนแค่พยักหน้าเท่านั้น
“ เอางี้กลับบ้านเปลี่ยนเสื้อแล้วก็ไปเดินซุปเปอร์ฯกันเถอะ ” คาคาชิเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวน
“ ก็เอาสิ ”
คาคาชิ ชุน เดินทางกลับบ้านฮาตาเกะวางกระเป๋าเสื้อผ้าสองใบไว้บนโซฟา อาบน้ำผลัดเสื้อไปเดินเที่ยวต่อ
และออกไปเดินซุปเปอร์ฯ
ในช่วงเช้าไม่ค่อยมีผู้คนมากหน้าหลายตานัก อาจจะเพราะอยู่ในช่วงต้นเดือนก็เป็นได้
ตอนนี้คาคาชิและชุนอยู่ในโซนของแต่งบ้าน ในส่วนของห้องนอน คาคาชิรู้สึกว่าระหว่างทางนั้นมีแต่ผู้คน
จ้องมองคนข้างกายเขาแทบตลอดเวลา จะให้ทำอย่างไรได้ละก็เพราะชุนหล่อ...
ชุนอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีขาวกับชุดเอี๊ยมยีนส์สีฟ้าซีดขายาวพอดีช่วงขา โดยปลดสายเอี๊ยมบนบ่าลง
เพื่อความคล่องตัว
คาคาชิพินิจแล้วว่าเรื่องแฟชั่นเสื้อผ้าของชุนก็ไม่เบาอยู่เหมือนกัน ท่าทางจะชอบแต่งตัวเสียด้วย
“ เตียงไหนดีละ ? ” คาคาชิหันไปขอความเห็นจากชุนเพื่อประกอบในการตัดสินใจ
ชุนเงียบแต่ยังเดินไปรอบๆ สำรวจพวกเตียงนอนเหล่านั้นโดยมีพนักงานขายเดินตามเป็นพรวน
“ สนใจสินค้าตัวไหนถามได้ค่ะ ” พนักงานสาวตัวน้อยหน้าหวานคนหนึ่ง
เข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างดีพร้อมรอยยิ้ม
“ อยากได้ที่นอนนุ่มแต่ไม่ยุบตอนนอนลง ถึงนอนราบหรือตะแคงก็ไม่ปวดหลัง ” คาคาชิตอบไปอย่างนั้น
“ ขอแนะนำเป็นสินค้าตัวนี้ค่ะ ” พนักงานสาวตัวน้อยเดินนำพร้อมกับผายมือ
เธอให้คำแนะนำ พรีเซนท์ แจกแผ่นพับ ใบปลิวได้อย่างราบรื่นพร้อมกับบอกว่าสามารถทดสอบสินค้าได้
“ เอ่อ ว่าแต่รุ่นนี้... ” คาคาชิเหมือนมีคำถามอยู่ในใจ
“ รับประกันความพึงพอใจถึงสามปีเต็มค่ะ” เธอตอบแบบฉะฉาน สบตากับคาคาชิเพียงเล็กน้อย
ก่อนจะหันไปสบตากับชุนด้วยอีกคน
“ อ่อ ครับ แล้วมีอะไรที่พิเศษแตกต่างจากรุ่นอื่นไหมครับ? ” คาคาชิตั้งคำถาม
เมื่อลองเทียบราคากับรุ่นอื่นๆเหมือนว่ารุ่นนี้ จะมีราคาที่แพงอยู่พอสมควร
“ ความพิเศษของรุ่นนี้คือไม่ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดรบกวนใจแน่นอนคะ เพราะฐานด้านล่างทำมาจากเหล็กอย่างดี
จึงเป็นรุ่นที่ขายดีอันดับหนึ่งมาสองปีซ้อนแล้วละค่ะ “ เธอเน้นประโยคเหมือนจงใจบอกใบ้บางอย่าง
ส่งสายตาหวานเหมือนใบหน้าส่งให้ชุน ส่วนชุนเหมือนจะรู้สึกตัวจึงเดินจากตรงนั้นไปทันที คาคาชิสืบเท้าเข้าใกล้
ยกฝ่ามือหนาออกแรงกดช่วงบ่าซ้ายของชุนเกือบเต็มแรง ด้วยความที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวดีนักส่งผลให้ชุนถึงกับเสียหลัก
ล้มลงไปนอนบนเตียงนอนทางด้านขวามือ
“ ง่วงก็ไม่บอก ฮ่า ฮ่า ” คาคาชิถึงกับหัวเราะร่าแล้ววิ่งหนี ส่วนชุนรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามคาคาชิทันที
ทั้งที่ในใจอยากจะหันไปจัดการกับพ่อคนตัวการจริงๆ ส่วนสาวๆพนักงานแถวนั้นต่างพากันกรี้ดกร้าดกันยกใหญ่
บ้างก็พากันตั้งวงซุบซิบพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของโจนินระดับพระกาฬอย่างฮาตาเกะ คาคาชิกับเด็กหนุ่มหน้าหล่อใส
คล้ายพระเอกในซีรี่ส์ชื่อกระฉ่อนทั่วแคว้นฮิโนะคุนิในขณะนี้
“ มันไม่ตลกเลยนะคาคาชิเล่นอะไรเป็นเด็กไปได้! ” ชุนปรามให้คนตัวโตหยุดส่งเสียงหัวเราะปนแซว
“ แหม ก็ชุนทำหน้าขรึมซะขนาดนั้นดูสิพนักงานไม่กล้าเข้ามาคุยด้วยเลยนะ ” คาคาชิปดคำโตเพื่อเอาตัวรอด
รู้อะไรไหมชุน...คุณเป็นคนที่น่าแกล้งมากที่สุดเลยนะ...
“ ... ” ชุนไม่พูดอะไรมีแต่ส่งสายตาดุดันให้คาคาชิหยุดเล่นและจริงจังกับการเลือกซื้อที่นอนเสียที!
“ โอเค ฉันยอมเลย ” คาคาชิมิอาจจะทนสายตาทรงอำนาจของชุนไหว
ชุนเสยผมขึ้นหันไปคุยกับพนักงานขายสินค้าเล็กน้อย พนักงานผู้โชคดีคนนั้นได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ เก็บเงินกับคนนั้น”
ชุนชี้นิ้วไปทางคาคาชิขณะกำลังเซ็นชื่อลงสลิป(จ่ายด้วยบัตรเครดิต)
เมื่อตกลงซื้อเตียงใหม่แล้ว จ่ายเงินเรียบร้อย เหลือเพียงแค่ทางบริษัทจัดส่งตามบ้านเท่านั้น
ซึ่งนัดแนะวลากันเรียบร้อย คาคาชิก็นึกเกมสนุกๆขึ้นมาได้อีกอย่าง...เพราะมองจากเสื้อผ้าของชุนแล้ว
ก็เป็นเสื้อผ้าตัวเก่าๆของเขา เกือบจะเป็นชุดเสื้อผ้าสมัยเด็กๆทั้งหมด ซึ่งตอนนี้หากนำมาใส่คงไม่เหมาะแน่
เช่น เสื้อเอี๊ยมเนื้อดียิ่งซีดยิ่งสวยขายาวบนตัวชุน...ด้วยรูปร่างสูงโปร่งขาแขน ยาว และหน้าตาหล่อเหลา...
บอกได้เลยว่าสวมใส่ชุดนี้แล้วรอด! นั่นสินะ...ไม้แขวนดีถึงดีมาก เสื้อผ้าดี ทำให้มองเห็นภาพโดยรวมทั้งหมด(อะไรๆ)ก็ดูดี
คาคาชิแวะเข้าร้านขายของเล่น ส่วนชุนก็ยืนรอภายในร้าน ร้านของเล่นญี่ปุ่นเล็กๆขนาดสี่เหลื่อม
มีอะไรให้เลือกสรรคเยอะแยะเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นพวกฟิกเกอร์เอย โปสเตอร์ หนังสือการ์ตูนตั่งต่าง
เรียงรายกันเต็มหน้าแผงไปหมด
คาคาชิได้ของเล่นชิ้นเล็กๆติดมือกลับออกมา
“ มาเล่นเกมกันดีกว่า อยากได้อะไรหยิบเลยไม่ต้องสนใจเรื่องราคา แต่ว่าชุนต้องอ่านราคาให้ถูกต้อง
ภายในเวลาห้าวินาทีตกลงไหม? “ คาคาชิอธิบายเรื่องกติกาให้ฟังอย่างเรียบง่าย
“ เกรงใจจัง “ ชุนไม่กล้าเล่น
“ เอาน่าๆ ไม่ต้องเกรงใจหรอก เวลาซื้อของจะได้รู้ราคา “ คาคาชิอยากให้ชุนฝึกพูด
เพราะก่อนหน้านี้ชุนฝึกพูดคำศัพท์ เรียบเรียงประโยคได้แล้ว สื่อสารกันได้อีกด้วย เหลือเพียงแค่เรื่องตัวเลข
ที่ยังคงน่าเป็นห่วง
คาคาชิเดินพาชุนตรงมายังร้านเสื้อผ้า แน่นอนละว่าเป็นเสื้อผ้าขึ้นชื่อว่าเนื้อผ้าดี ดีไซน์สวยงาม ตามยุคตามสมัย
เสื้อผ้าให้เลือกหลากหลายสไตล์เหมาะสำหรับลุยได้ทุกสถานการณ์ตั้งแต่ เดินจ่ายตลาด งานบวช งานแต่ง เข้าป่า-
หรือออกงานสังคมตอนกลางคืน
“ ตัวนี้คาคาชิ ” ชุนหยิบเสื้อสเวตเตอร์คอวีสีดำชูให้คาคาชิดู
“ เอาละพร้อมนะ ” คาคาชิพร้อมนับ และถือของเล่นขึ้นมา ของเล่นที่ว่าเป็นแท่งไฟสีขาวมีสองด้าน
ด้านหนึ่งเป็นสัญลักษณ์วงกลมสีฟ้า อีกด้านเป็นเครื่องหมายกากบาทสีแดง
“ หนึ่ง สอง ” คาคาชินับเลขทันที แล้วชูของเล่นขึ้นมาในระดับอก
“ ราคาเอ่อ ห้าร้อย ..สี่สิบ..เอ่อ ....” ชุนกำลังตั้งใจเพ่งดูราคาจากป้ายเสื้อ
“ สาม สี่ ” คาคาชินับต่อทันที
“ ห้า หมดเวลาๆ ” ตื้ดดดด คาคาชินับถึงห้าแล้วกดปุ่มด้านสัญลักษณ์กากบาท
เพื่อเป็นการเตือนชุนว่าไม่ผ่าน และอดได้ชุดที่กำลังอยู่ในมือ
“ ทำไมนับไวจัง? “ ให้ตายละ แค่ภาษาว่ายากแล้ว ยังมีเรื่องของตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีก
“ ฮ่า ฮ่า “ คาคาชิหัวเราะด้วยความสุข แม้ชุนจะประท้วงก็ตาม เขาปล่อยให้ชุนเลือกเสื้อผ้าเงียบๆอย่างนั้น
และคอยยืนดูอย่างห่างๆ แต่ไม่พ้นสายตา เมื่อชุนพร้อมหรือพยักหน้าให้เข้าไป คาคาชิก็จะเข้าไปทันที
ชุนเริ่มเข้าใจและสามารถตอบได้คล่องแคล่วขึ้น หรือเรียกง่ายๆว่าจับหลักถูกจะดีกว่า อ่านถูกบ้าง ไม่ถูกบ้าง
ก็ผสมปนกันไป ในส่วนที่ตอบไม่ได้ส่วนมากจะเป็นตัวเลขหลักพันขึ้น ถือว่าคาคาชิประสบความสำเร็จเลยละ
คิดว่าถ้ามีกิจกรรมนี้อีก ครั้งหน้าชุนจะไม่มีทางพลาดแน่ๆ คาคาชิหัวเราะร่ามีความสุข เงยหน้ามองเพดาน
รู้สึกได้ว่าเห็นนกกระจิบตัวเล็กบิน เข้ามาในซุปเปอร์ผ่านหน้าไปอย่างช้าๆ
คาคาชิสบถภายในใจเล็กน้อย ทั้งที่เพิ่งกลับมาจากภารกิจทั้งที
แทนที่จะได้หยุดอยู่บ้านได้พักเสียบ้าง กลับโดนท่านโฮคาเงะเรียกพบตัวในตอนนี้พอดี
“ ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ ” คาคาชิกระซิบบอกชุน ไม่นานนักคาคาชิเดินกลับมาพร้อมกับลูบท้องป้อยๆ
บอกกับชุนว่าถ่าย ท้องนานไปหน่อยและขอโทษขอโพยตามนิสัย ชุนได้แต่เสยผมพยักหน้าและเดินนำคาคาชิกลับบ้าน
ชุนหยุดฝีเท้าเพื่อมองหน่วยลับในเครื่องแบบสามคนผ่านหน้าไปอย่างช้าๆ แล้วก้มหน้าลงมองพื้นเล็กน้อย
ค่อยเงยหน้าขึ้นมาและออกเดินเหมือนปกติ
“ อะไรหรอชุน? ” คาคาชิถามเมื่อเห็นชุนหยุดยืนนิ่ง ดูเหมือนจะพูดอะไรกับตัวเองเล็กน้อย
“ เปล่าไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่คิดถึงบาเร็ตต้าเอ็มเก้าเอหนึ่งสีดำเท่านั้น ” ชุนส่ายหน้าเพื่อกลบพิรุธ
ทั้งที่ภายในใจของหล่อนนั้นกำลังคิดถึงใครบางคนอยู่....ถึงกับต้องอ้างเรื่องปืนบังหน้าซะอย่างนั้น
“ อ่า ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ” คาคาชิเกาคางทำท่าเหมือนใช้ความคิดอย่างมากโดยเฉพาะบาเร็ตต้าเอ็มเก้าเอหนึ่ง
ชุนลอบสังเกตขณะที่คาคาชิเป็นฝ่ายเดินนำหน้า
“ สงสัยฉันคงคิดไปเอง ” ชุนเริ่มเล็งเห็นพฤติกรรมของคนร่วมชายคาที่เปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย
Kakashi’s talking.
ผมขอตัวละจากชุนมาเข้าห้องน้ำทันทีเมื่อเห็นว่ามีเรื่องด่วนจากท่านโฮคาเงะ เราจะมีรหัสลับในการเรียกตัวคือ
ส่งนกกระจิบตัวเล็กโผล่มาบินให้เห็นและโผบินจากไป ผมอยากมีความไวเท่าชุนเสียจริง แว่บเดียว
ก็คงไปโผล่ที่ตึกสำนักงาน อีกแว่บหนึ่งก็กลับมาหาชุนที่ซุปเปอร์ฯ
“ รุ่นพี่คาคาชิ “ ยามาโตะรุ่นน้องจากหน่วยลับโบกมือทักทาย
ไอเดีย ความคิดบรรเจิดของคาคาชิเเล่นคล้ายมีเสียง ต่อก ต่อก ปิ้ง! เหมือนอิกคิวซังเวลาใช้สมองนั่งสมาธิชอบกล
“ มีเรื่องอยากวานให้ช่วยหน่อย “ พูดจบผมกระซิบข้างหูยามาโตะทันที
“ จะดีเหรอครับ? “ ยามาโตะเกาท้ายทอยดูเหมือนว่าจะไม่ยอมให้ความร่วมมือด้วย
“ ดีสิ อีกอย่างนะในฐานะรุ่นพี่ รุ่นน้องที่ฉันยอมรับมีแต่นายคนเดียวเท่านั้นแหละ! “
“ เป็นแผนที่ยอดเยี่ยมมากเลยครับรุ่นพี่คาคาชิ “
ได้ยินยามาโตะพูดแบบนี้แล้วแสดงว่าคารมของผมยังใช้งานได้อยู่ แผนการของผมมีไม่เยอะ
ก็แค่ให้ยามาโตะใช้คาถาแปลงกายเป็นตัวผมไปอยู่กับชุนเสียก่อนนะสิ ที่สำคัญพยายามอย่าให้ชุนจับได้เด็ดขาด!
ผมกระซิบบอกยามาโตะเรื่องเกี่ยวกับชุนและตัวผมพอสังเขป เพื่อเพิ่มความเนียนมากยิ่งขึ้นอีก อย่างชุนจะได้ไม่ต้องสงสัย
เมื่อยามาโตะตอบตกลงผมก็ไม่รอช้ารีบมุ่งหน้าตรงไปยังตึกสำนักงานโฮคาเงะทันที มุ่งหน้าเข้าห้องทำงานของโฮคาเงะ
พบกับสมาชิกหมู่เจ็ดมากันพร้อมหน้า
“ ภารกิจต่อไปของทีมเจ็ดคือช่วยเลี้ยงลูกให้ท่านผู้เฒ่า ไปทำธุระที่เมืองใกล้ๆแทน แล้วก็ขุดมัน ”
โฮคาเงะเอ่ยขณะคาบไปป์บนริมฝีปาก ในมือถือแผ่นใบภารกิจ เขาอ่านภารกิจต่อไปอย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงโทนปกติ
“ ผมไม่ใช่เด็กอมมือเอาแต่ซนไปวันๆ อย่างที่คุณตาคิดตลอดไปหรอกนะ! ” นารูโตะยกมือขึ้นมาไขว้
เป็นสัญลักษณ์กากบาทคล้ายกับไม่ยอมรับภารกิจในครั้งนี้
“ เข้าใจแล้ว ถ้าเธอพูดถึงขนาดนั้น จะลองภารกิจระดับCดู ภารกิจองครักษ์ให้กับคนๆหนึ่ง ”
โฮคาเงะรุ่นสามจำใจวางใบภารกิจสีเทาในมือลงบนขอบโต๊ะ เอื้อมมือหยิบแผ่นกระดาษขนาดเอสี่ ภารกิจอีกหนึ่งใบ
ขึ้นมาอ่านรายละเอียดคร่าวๆ
“ ใครหรอ ใครเหรอ ไดเมียวหรือว่าเจ้าหญิง ? ” นารูโตะหูผึ่งตาโตยิ่งกว่าไข่ไทรเซอราท็อปส์
เมื่อรู้ว่าท่านโฮคาเงะรุ่นที่สามยอมเปลี่ยนภารกิจให้แทนจะกล่าวขอบคุณเสียบ้าง ให้มันดูน่ารักขึ้นมาหน่อยก็ยังดี
“ อย่าใจร้อนน่ากำลังจะแนะนำตัวอยู่นี่ไง เข้ามาข้างในหน่อยครับ ” ฮิรุเซ็นปรามให้นารูโตะเลิกถามเซ้าซี้
“ มีแต่พวกเด็กเมื่อวานซืนทั้งนั้นเลยนี่ โดยเฉพาะไอ้เปี๊ยกที่หน้าตาบื้อกว่าเพื่อนน่ะ แกเป็นนินจาจริงๆเหรอ? ”
บานประตูห้องถูกเปิดกว้างออกพบกับอาคันตุกะชายสูงวัย ผู้จ้างวานมองเหล่านินจาตรงหน้า ปราดตามอง
เหล่าสมาชิกทีมเจ็ด พร้อมกับความคิดภายในใจ ท่าทางดูไม่ค่อยจะพึ่งได้สักเท่าไร
โดยเฉพาะเจ้าเด็กโวยวายเสียงดัง!
“ ใครฟะตัวเปี๊ยกกว่าเพื่อนน่ะ! ” นารูโตะร้องโวยวายเสียงดัง หัวฟัดหัวหวี่ยงกับคู่กรณี
สมาชิกทีมเจ็ดอีกสองคน ซาสึเกะ ซากุระได้แต่ส่งสายตามองไปยังนารูโตะ แม้จะไร้คำพูดใดๆของเพื่อนทั้งสอง
การกระทำก็ฟ้องว่าสิ่งที่ชายสูงวัยตรงหน้าพูดนั้นหมายถึงใครโดยไม่เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ
“ ฉันจะฆ่าแก! ” นารูโตะทำท่าจะพุ่งกระโจนเข้าหาชายสูงวัยปากจัด เหน็บแนมไม่เลิก
เพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมันดูถูกเหยียดหยามนินจามากเกินไปแล้ว! ส่วนสูงมันเกี่ยวอะไรด้วยฟ่ะ!
“ เราจะเป็นองครักษ์ให้เขาแล้วจะไปฆ่าเขาได้ไงเจ้าเซ่อ! ” คาคาชิห้ามโดยดึงคอเสื้อนารูโตะจากทางด้านหลังไว้
“ ฉันเป็นนักสร้างสะพานนามกระเดื่องชื่อดาซึนะ ระหว่างที่ฉันเดินทางกลับบ้านเพื่อสร้างสะพานให้เสร็จ
พวกนายต้องอุทิศชีวิตปกป้องฉันให้เต็มที่ ” ดาซึนะกล่าวถึงจุดมุ่งหมายกำชับกับทุกคนคาดมั่นว่ากับสมาชิกทีมคาคาชิ
ว่าต้องได้รับการดูเป็นอย่างดี ความหวังเพียงหนึ่งเดียวของเขานั้น ขึ้นอยู่กับนินจาสี่นายตรงหน้าอยู่ดีๆ
งานก็เข้ามาชนกระแทกอกเต็มแรงซะอย่างนั้น ภารกิจต้องเดินทางภายในวันนี้ด้วยสิ
ผมและลูกทีมต่างพากันแยกย้ายไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อไปทำภารกิจ
ผมหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเองแอบมองเข้าไปในบ้าน
ดูสิ! อะไรมันจะรันทดขนาดนั้นบ้านตัวเองยังเข้าไม่ได้เลย โธ่ ชีวิต!
พนักงานขนย้ายเฟอร์นิเจอร์พากันทยอยกลับไปเรียบร้อย เหลือแค่ยามาโตะเดินเล่นบริเวณสวนหลังบ้าน
ท่าทางจะสนอกสนใจกับการจัดแต่งสวนของชุน ชุนกำลังดูทีวีเกี่ยวกับรายการอาหาร นอกจากดูอย่างตั้งใจแล้ว
ชุนยังพยายามพูดและออกเสียงตาม แถมมือยังจด เขียนพวกสูตรอาหารลงบนแผ่นกระดาษอีกด้วย
โอเค พอเห็นว่ามีช่องทางสะดวกสำหรับการย่องเบาขึ้นไปจัดกระเป๋าเสื้อผ้า
เมื่อเก็บเสร็จเรียบร้อยดีแล้วผมจึงรีบออกเดินทางทันที
End Kakashi's talking.
- 69's talking.
ช่วงสองถึงสามวันมานี้ฉันรู้สึกว่าสำนวนการพูดแจแปนนีสไม่ค่อยเข้าท่านัก การเดินทางมักพบปะผู้คนใหม่ๆอยู่เสมอ
รวมไปถึงเรื่องการพูดซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน ฉันกำลังรู้สึกว่าตัวเองพูดด้วยสำเนียงภาษาไทย
จึงทำให้หลายๆคนทำหน้าสงสัย ทุกครั้งที่ฉันพูดหรือธิบายบางอย่าง ข้อดีของการเดินทางในครั้งนี้ คาคาชิพาให้ฉัน
ได้รู้จักกับโลกของนินจา ภารกิจของเขาและมิตรภาพของพวกพ้อง บอกได้เลยว่าอย่างหลังฉันไม่เคยได้รับสิ่งนั้นเลย
กลุ่มของนักลอบสังหารหัสดินก็มีสังคมเหมือนเช่นกัน...เพียงแต่ว่าฉันไม่เคยเข้าร่วมหรือสุงสิงกับพวกคนเหล่านั้นนัก
อาจจะเป็นเพราะอินดี้เกินไปก็ได้
" นิสัยของฉันคงเหมือนนายแน่ๆ..หัสดิน " ฉันเผลอคิดถึงเขาเข้ามาอีกแล้ว ฉันถอนหายใจเบากับตัวเอง
นี่มันก็จะปาย่างเข้าสู่เดือนที่สองแล้วนะ ยังติดอยู่ในโลกของนินจาไร้ซึ่งหนทางกลับบ้าน คาคาชิไม่ได้ส่งข่าว
อะไรเหมือนเช่นเคย บอกตรงนี้เลยว่าฉันอดใจรอคาคาชิตามเรื่องไม่ไหวแล้วนะสิ
สงสัยงานนี้ฉันคงพึงตัวเองแอบสืบเรื่องลับๆ
" คุณจัดสวนสวยดีนะ น่าจะลงปลาสวยงามในบ่อด้วย " คาคาชิเดินเข้ามาทิ้งตัวลงข้างโซฟาหาเรื่องชวนคุย
" ขอบคุณ " ฉันกล่าวสั้นๆขณะดูโทรทัศน์ พิธีกรร่างท้วมในจอแก้วกำลังพูดถึงส่วนผสมในการปรุงอาหาร
ฉันมองข้างตัวเพื่อหาแผ่นกระดาษสำหรับจดรายการวัตถุดิบเหล่านั่น คาคาชินั่งมองตาปริบๆ ไม่กล้าพูดอะไรเยอะ
รอจนกว่าฉันจะจดทุกอย่างเสร็จ
" ฉันชักจะคิดถึงขนมไทยแล้วสิ " ปกติส่วนตัวแล้วฉันไม่แตะต้องของหวานเลยสักนิด
บอกได้ว่าเรื่องนี้จะไม่ยุ่งเลยดีกว่า อาจจะเป็นเพราะใช้สมองหรือร่างกายใช้แรงเยอะ
จนกระทั่งร่างกายต้องการความหวานมาทดแทน
" ขนมไทยหรอ? " คาคาชิหันมาถาม
" ใช่ ขนมไทย ไม่หวานหรอกนะนายทานได้แน่ๆ"
" อืม "
รายการอาหารจบลง พิธีกรบอกลาคุณผู้ชมทางบ้าน ฉันลุกออกจากห้องรับแขกเปลี่ยนเส้นทางเดินเข้าห้องครัว
สมองของฉันคิดออกแล้วว่าขนมไทยของหวนที่คิดถึงมันคืออะไร ว่าแล้วก็เปิดตู้เก็บอาหารแห้งออกหาผงแป้งมัน
สำปะหลัง แป้งข้าวเหนียว พระเอกของงานยังพอมีเหลืออยู่ ไม่ต้องถามหาถึงใบเตยเพราะคงไม่มี
เช่นเดียวกับเครื่องต้มยำ แต่อย่างน้อยฉันก็นำมาพลิกผันเป็นอย่างอื่นเเทนเสียเลย
ฉันรู้สึกว่าอยากให้คาคาชิได้ทานต้มยำกุ้งแบบจริงๆ ถ้าพาคาคาชิกลับไปด้วยได้
ละก็ฉันก็คงยัดเขาใส่กระเป๋าเดินทางกลับ
" เมนูวันนี้คืออะไรหรือพ่อครัวตัวน้อย? " คาคาชิโผล่มายืนหน้าเคาน์เตอร์ไม่เข้าไปรบกวนด้านใน
ฉันสะดุดกับคำว่า'-ตัวน้อย'อีกครั้งรู้สึกไม่ชอบใจกับคำๆนี้เท่าไหร่ บอกก่อนเลยว่าส่วนสูงของฉัน ประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบ
ห้าเซนติเมตรกับอีกจุดห้า มันก็มากพอเกินกว่าจะพูดคำว่าตัวน้อยจริงๆ และในเวลายืนใกล้เคียงบ่าไหล่คาคาชิเองนั้น
ฉันต้องเงยหน้า เพื่อคุยกับเขาด้วยนี่สิแต่เดี๋ยวก่อนนะ...รู้สึกว่ามีอะไรแปลกไป
ทำไมวันนี้คาคาชิตัวหดลดลงส่วนสูงเท่าฉันเลยละหรือว่าฉันรู้สึกไปเอง?
รู้สึกว่าตั้งแต่หลังกลับจากซุปเปอร์ฯคาคาชิทำตัวเรียบร้อยแบบแปลกๆ ไม่มาหาเรื่องกวนใจตอแยฉันเลยสักนิด
สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างเคยได้ยินเรื่องนินจาใช้คาถาปลอมตัวแปลงกายอะไรนั่นมาก่อน
แต่เราก็ไม่รู้หรอกว่าต้องทำอย่างไรถึงจะรู้ว่าเป็นการใช้คาถานินจา
ถ้ามีเนตรวงแหวนมันก็คงจะเป็นประโยชน์อย่างมากพูดแล้วคิดถึงอิทาจิเลยด้วยสิ
ไม่รู้ว่าเขาจะสิงสถิตอยู่ที่ไหนถึงได้ไม่ออกมาให้ได้เห็นเลย
" ฉันรู้สึกว่าพระเอกนิยายเล่มส้มนั่นนะ..." ฉันเกริ่นแล้วรอจับพิรุธของคาคาชิ
" อืม ทำไมหรอ? " เขาทำหน้านิ่งแล้วมองรอว่าฉันจะถามอะไรต่อจากนี้
" จริงๆแล้วตัวเอกของเรื่องนะ " ฉันให้โอกาสคาคาชิอีกครั้งเผื่อว่าจะเป็นเขาจริงๆ
" อืม " คาคาชิมองฉันถามให้จบประโยค เปล่าเลยฉันเสยผม คว้าช้อนกลางใกล้มือได้
ขว้างปาใส่คาคาชิด้วยความเร็ว คาคาชิโยกตัวหลบทันฉันใช้ความไวสูงสุดของร่างกาย
เข้าหวดอัปเปอร์คัตคางคาคาชิเต็มแรง ร่างของคาคาชิล้มลงดังตึง ฉันกระโจนเข้าไปใกล้ใช้ความเร็วอีกครั้ง
บีบลำคอหนาของเขาไว้แล้วดึงขึ้นกลางอากาศ
" แกไม่ใช่คาคาชิ " ฉันจ้องหน้าอีกฝ่ายที่ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่นิทราเต็มที บอกได้เลยว่าลางสังหรณ์
หรือที่เรียกว่าเซนส์ของฉันมันแรงและถูกต้องเสมอ เพราะอะไรทำไมฉันถึงทราบได้นะหรือ
หึหึ ไม่ใช่เรื่องยากก็เพราะเวลาพูดถึงนิยายปกส้ม
เล่มโปรดของคาคาชินะสิ(เจ้าตัวมักถือไม่ยอมวางลงเลยทีเดียว) คาคาชิมักมีอาการให้เห็น...ไม่ว่าจะแก้มแดงเบาๆ
ปิดปากหัวเราะด้วยท่าทางเหนียมอาย
" แค่ก แค่ก "
" คลายคาถาแล้วไสหัวออกจากบ้านไปซะ! " ฉันสั่ง
เขาคลายคาถาแปลงกายตามคำสั่งและสลบไปในที่สุด ฉันค่อยๆปล่อยร่างของเขาลงนอนราบบนพื้น
มองหาสิ่งที่เรียกว่าเชือกนำมาพันธนาการไว้ เกรงว่าถ้าฟื้นขึ้นมาแล้วคงมีมวยกันอีกแน่ จับร่างเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้
แยกมัดมือ ขา ขาทั้งสองข้างไว้เพื่อไม่ให้ประสานอินหรือหยิบจับอาวุธซ่อนบนร่างกาย
เผื่อเขาจะใช้คาถานินจาแก้เชือกอะไรนั่นอีก เล่นตุกติกขึ้นมาละก็จะยุ่งแน่ๆ
สามชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก เขาตื่นขึ้นแม้จะมีอาการเจ็บปลายคางก็ตาม ฉันหยิบผ้าขนหนูและน้ำแข็งออกมา
ใช้ผ้าขนหนูห่อด้วยน้ำแข็งประคบส่วนที่ยังคงเจ็บเพื่อบรรเทาอาการปวด
" นายชื่ออะไร แล้วมาทำอะไรที่นี่ คาคาชิไปไหน? " ฉันถามเว้นวรรคเพื่อให้เขาตอบ
" ฉันชื่อ ยามาโตะ รุ่นน้องของรุ่นพี่คาคาชิ เป็นหน่วยลับขึ้นตรงกับท่านโฮคาเงะ รุ่นพี่คาคาชิติดภารกิจด่วน
วานให้ฉันมาช่วยดูแลคุณ " ยามาโตะได้บทพูด เขารีบสาธารยาทุกอย่างออกมา คล้ายกับว่ากำลังสารภาพบาป
กับบาทหลวงโทษทัณฑ์ควรได้รับการอภัยครึ่งหนึ่ง ฉันหยุดคิดไปชั่วครู่ การที่คาคาชิวานให้คนอื่นมารับช่วง
สานต่อเรื่องงานของฉันนั้น ไม่ใช่ในเรื่องดีแน่ แสดงว่าเขายังมีเรื่องบางอย่างปกปิดฉันไว้อยู่ เช่น เรื่องภารกิจ
ที่ได้รับมอบหมาย ถ้าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนคงเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ทว่าคาคาชิควรจะบอกไว้ไม่ใช่หรอ
ว่าออกทำภารกิจใหม่ถึงจะงานหลวงมาก่อนก็ตามแต่ หรือว่าคาคาชิยังคงไม่ไว้เนื้อเชื่อใจตัวฉันมากนัก
จึงให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทนเพื่อคอยจับผิด แผนลับภารกิจร้ายเสียจริงนะพ่อคุณ!
" รุ่นพี่คาคาชิคงจะเป็นห่วงคุณนั่นแหละ ถึงได้ให้คนอื่นมาดูแล ตามจริงแล้วคนที่อยู่ใต้การดูแลควรสวม
กุญแจมือควบคุมพฤติกรรมด้วยซ้ำ รุ่นพี่คาคาชิใจดีไม่เปลี่ยนเลย! " ยามาโตะพูดในแง่ดี
เขาไม่เคยเห็นรุ่นพี่ที่เคารพรัก จะกำชับหรือจำรายละเอียดเรื่องของชุนไว้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ของที่ชอบ
อาหารที่ใช่ ลักษณะนิสัย และอื่นๆ
" นั่นสินะ " ฉันถอนหายใจ ก่อนปลดเชือกปล่อยให้ยามาโตะเป็นอิสระ
ฉันให้เขาออกจากบ้านไปแล้วไม่ต้องกลับมา แปลงกายเป็นคาคาชิคราแรกยามาโตะไม่ยอม ทำให้รับรู้ได้ว่าเขามีนิสัย
รับผิดชอบต่อหน้าที่จริงๆ ไม่รู้วาคาคาชิเอาอะไรมาป้อนให้ยามาโตะทานถึงได้เชื่องนัก
พอบอกยามาโตะไปว่ามีหน่วยลับหนึ่งนาย คอยจับตามองตลอดเวลาอยู่ห่างถัดออกไป ห้าเมตร
ทิศสิบสองนาฬิกาเท่านั้นแหละ ยามาโตะใช้ร่างแยกออกวิ่งไปหาหน่วยลับคนนั้น ไม่นานร่างแยกของยามาโตะก็กลับมา
ยามาโตะกล่าวขอโทษสั้นๆและยอมถอนตัวจากภารกิจของคาคาชิออกไปอย่างง่ายดาย
ความห่างไกลมันทำให้ฉันคิดถึงวิทยาการสมัยใหม่ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถทำให้เราติดต่อสื่อสาร
รับข่าวความเคลื่อนไหวของอีกคนได้ในเวลาอันรวดเร็ว คล้ายกับว่าอยู่ห่างกันแค่เอื้อมมือหรือหนึ่งช่วงแขน
ทว่าในโลกของนินจาคงมีแต่นกเหยี่ยวไม่ก็นกพิราบ ผูกจดหมายไว้ที่ช่วงขาโยนขึ้นฟ้าคอยส่งข่าวกัน
จะให้ฉันทำอย่างไรได้ละ ก็คงตั้งหน้าตั้งตารอเขากลับบ้าน
อย่างใจจดใจจ่อนี่สิ
" กลับมาเมื่อไหร่ละก็น่าดู! "
ไม่ก้านมะยมก็คงเป็นไม้แขวนเสื้อที่ชุนเตรียมไว้ต้อนรับคาคาชิยามกลับถึงบ้าน!
End 69's talking.
โปรดติดตามตอนต่อไป...
10มีค2559
ชิวไม่อยากบอกข่าวร้ายให้ทุกคนทราบเลย มันคงถึงจุดอิ่มตัวกับการเป็นนักอยากเขียน
อยากให้เด็กๆทุกท่านทำใจกับเหนือกาลเวลา เพราะด้วยเนื้อเรื่องสืบสวน หักมุมแบบไม่คาดฝัน
เคยเกริ่นๆไปกับครั้งก่อนว่าจะลบเรื่องแต่ตอนนี้ยังไม่ลบ เพราะกำลังอยู่ในช่วงแก้ไข Between us
ซึ่งดำเนินมาใกล้ถึงจุดจบของเรื่องเต็มที หลายคนคงพูดว่าทำไมชิวไม่เข้มแข็งให้มากกว่านี้หรือมีไฟในการเขียนต่อไป
ถ้าโดนน้องก๊อปขโมยนิยายสี่เรื่องแค่นี้เลิกเขียนก็สมควรแล้วไม่มีความอดทนบ้างเลย
ถ้าเจออะไรๆที่มันร้ายแรงกว่านี้คงไม่ผูกคอใต้ต้นผักชีเลยหรอ?
ครับ ขอบคุณทุกความเห็น ทุกกำลังใจ ขอบคุณมากๆครับ
ชิวเรียนจบมีหน้าที่การงานต้องรับผิดชอบ ไม่มีเวลานั่งปั่นนิยายหามรุ่ง ค่ำเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
และผลงานที่ผ่านมานั้นชิวรับรู้ได้เลยว่าไม่ค่อยโอเคมากนัก แต่ก็พอเขียนกระท่อนกระแท่นจนจบ
รู้สึกว่าตั้งแต่ลงตอนใหม่มามีแต่ยอดวิวถล่มถลายอีกตามเคย ไม่ค่อยจะมีคอมเมนต์อะไรหวือหวามากนัก
(คงไม่เท่ากับตอนประกาศว่าจะลบเรื่องแต่ยังมีความคิดลบเรื่องเหมือนเดิม) ชิวเขียนเรื่องไม่สนุก
หรือว่าอย่างไรเกิดอะไรขึ้น ที่คนไม่เมนต์กัน สำนวนยังดีไม่พอ เนื้อหาตัวเอกไม่ใช่ฝาแฝด มาจากตระกูลเมพๆ
หรือว่าอะไร? วิจารณ์ได้เต็มที่ด่าได้แต่อย่าแรง! เท่านั้นเป็นพอ ถ้าอ่านแล้วไม่สนุก ไม่อยากอ่าน
โปรดคลิกกากบาทมุมขวาแล้วก็ปิดไปเถิด ไม่ต้องกลับเข้ามาเพื่อปั่นยอดวิว
รักนะเด็กๆ
ChewWii
ความคิดเห็น