ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic: One Piece] Drop D. จูนเสียงหัวใจ อย่างไรก็ใช่ 'เธอ'

    ลำดับตอนที่ #8 : Drop D. : Famille.

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 65


     

     

     

      

    “ กิซาโอะ กิซาโอะได้ยินฉันหรือเปล่า! ” แจ็คสันพยายามเรียกชื่อ ส่งมือเขย่าร่างหนาหลายหน

    ร่างกายของหล่อนในตอนนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรหนักมาก น้ำเริ่มซึมเข้ามาในห้องเครื่อง แจ็คสันถอดหมวกกันน็อคเต็มใบ

    ครอบศีรษะออก หล่อนรีบขยับตัวเข้าไปใกล้คิด ตบแก้มเบาๆเพื่อเรียกสติอีกคนยังไม่ฟื้น ไม่แน่ใจว่าระบบไฟฟ้าของรถ

    ยังสามารถทำงานได้อยู่หรือไม่ แจ็คสันภาวนาในใจรถราคาแพงระยับซื้อบ้าน ซื้อคอนโดระดับซุปเปอร์วีวีไอพีได้ขนาดนี้

    ระบบไฟฟ้าคงไม่พังง่ายๆหรอก กดปุ่มคลายล็อคเข็มขัดเซฟตี้ข้างเอวสอบ ร่างของคิดไหลทับร่างของหล่อน

    ตามแรงโน้มถ่วง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นฉับพลันภายในไม่กี่วินาที ไหนจะเข้าตรงรูเล็กๆที่ถูกกระสุนยิงอีก แจ็คสันหายใจ

    เข้าเต็มปอด ปลดล็อคบานประตูฝั่งคนขับค่อยๆแง้มเปิด ให้กระแสน้ำค่อยๆเข้ามาเกือบเต็มห้องเครื่อง

     ไม่กี่วินาทีต่อมาแจ็คสันตัดสินใจเปิดบานประตูออกกว้าง ออกแรงดีดกระโจนตัวพาร่างของหล่อนและคิด

    พุ่งขึ้นสู่เหนือน้ำให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ แรงดันน้ำมากมหาศาลแค่ร่างของหล่อนยังพอต้านไหว พอมีร่างหนากำยำ

    เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ปัดตัวเลขขึ้นไปเกือบหนึ่งร้อยกิโลกรัม ร่างสูงโย่งสองเมตรกับอีกเศษนิดๆ ซึ่งเป็นอุปสรรค

    ต่อการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ 

     แจ็คสันต้องออกแรงต้านพาร่างของหล่อนทะยานและขึ้นสู่เหนือน้ำให้ไวที่สุด กระแสน้ำเชี่ยวกราดไม่ได้เป็นใจ

    สภาพน้ำดำปี๋มองอะไรไม่เห็น ไม่เหมือนว่ายในสระน้ำ ความรุนแรงใต้น้ำกำลังพัดพาร่างของหล่อนกับคิดให้แยกออก

    จากกัน หล่อนจับเอวสอบของคิดไว้แน่นลำตัวด้านหน้าแนบชิดกับร่างกายหนา เพื่อให้ร่างไร้สติของคิดได้พิงเป็นหลัก

    แขนอีกข้างแหวกว่ายผ่านตามกระแสน้ำเพื่อทุ่นแรงจากสะโพก เรียวขา ความเย็นของน้ำ เย็นเฉียบถึงขั้วหัวใจ

    นอกจากความเย็น แล้วยังมีเรื่องของความเชี่ยวกระแสไหลพัดรุนแรงตลอดเวลา พยายามต่อสู้ ออกแรงทั้งหมดที่มี

    พาร่างของคิดเข้าหาชายฝั่งที่ใกล้ที่สุด 

     

    “ ปู่ว ฮ่า! ” ในที่สุดหล่อนก็พาร่างของตัวเอง นักร้องหนุ่มขึ้นมาได้ถึงฝั่ง พยายามดันร่างของเขาขึ้นไปก่อน

    ส่วนตัวหล่อนนั้นรีบปีนตามขึ้นไป สอดฝ่ามือเล็กๆลอดแขนใต้รักแร้ทั้งสองข้างของคิด แล้วออกแรงดึงเพื่อให้ร่างของเขา

    ขึ้นสู่พื้นดินครบทั้งร่างกาย ประเมิณจากสายตา อย่างน้อยร่างกายของเขาก็ครบสามสิบสอง ไม่ขาด ไม่เกิน!

    ส่งมือเล็กๆจับตามจุดชีพจร ไม่ว่าจะข้อมือหนา ข้อพับ ต้นคอ ซึ่งก็ไม่สามารถจับได้ทั้งสามที่ ดังนั้นแล้วหล่อนต้องรีบ

     

    สมอง ขาดออกซิเจนได้ไม่เกินสามนาที

     

    สมอง ขาดออกซิเจนได้ไม่เกินสามนาที

     

     ใช่ สมองขาดออกซิเจนได้ไม่เกินสามนาที ต้องรีบแล้ว!

     

    ไม่แน่ใจว่าตอนขึ้นมาจากน้ำใช้เวลาไม่นานเท่าไร ทว่าตอนนี้หล่อนต้องเร่งลงมือทำอะไรสักอย่าง

     

    อย่างแรกหล่อนต้องผายปอด! 

    จับปลายคางของคิดให้เชิดใบหน้าขึ้น กดบริเวณหน้าผากให้ต่ำลงปลายนิ้วจับริมฝีปากหยักเพื่อเปิดปาก

    แจ็คสันไม่ลังเล กระดากเขินอายนาบริมฝีปากลงแล้วเป่าปากของคิดสองหนติด เพื่อเคลีร์ยทางเดินของอากาศไม่ให้อะไร 

    เข้าไปติดค้างตรงลำคอ จากนั้นหล่อนต้องปั๊มหัวใจ ขยับกายนั่งคร่อมร่างกายหนาของเขา ถ้าอยู่ด้านข้างคงไม่ถนัด

    เพราะคิดร่างกายใหญ่เกินไป ดังนั้นหล่อนเลือกที่จะคร่อมตัว คุกเข่าในท่าที่สะดวกพร้อมให้การCPR 

    วางฝ่ามือลงตรงกลางหน้าปั๊มหัวใจ  วางสันมือข้างหนึ่งตรงครึ่งล่างกระดูกหน้าอก (ตำแหน่งตรงกลางระหว่างหน้าอก

    ระดับเดียวกับหัวนมพอดี) และวางมืออีกข้างทับประสานกันไว้ เริ่มการกดหน้าอก ด้วยความลึกอย่างน้อยห้าเซนติเมตร

    ในอัตราเร็ว หนึ่งร้อยถึงหนึ่งร้อยยี่สิบครั้งต่อนาที หากนับเป็นจำนวน กดหน้าอก สามสิบครั้ง 

    สลับมาเป่าปากช่วยหายใจสองหน

    “ แข็งใจไว้นายตัวโต ฮึดหน่อย สู้หน่อย ” ได้เพียงบอก สองมือยังปั๊มหัวใจของคิดไว้

    หนึ่ง และ สอง และ สาม….. ยี่สิบแปด ยี่สิบเก้า สามสิบ เมื่อครบตามจำนวนครั้งแล้ว จับปลายคางเชิดขึ้น

    กดหน้าผากให้ต่ำลง หล่อนต้องเป่าปากของเขาอีกสองหนอย่างไม่ลังเลแล้ว  เขายังไม่ฟื้นไม่ได้สติ

            แจ็คสันรีบหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมา โทรศัพท์ของหล่อนนั้นเปียกโชกมีน้ำไหลออกมาจากตัวเครื่อง ทั้งลำโพง

    และช่องเสียบสายชาร์ต ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโทรศัพท์ของหล่อนนั้นขิตไปแล้ว หล่อนตัดสินใจแตะมือลงบนกระเป๋ากางเกง

    เพื่อล้วงหยิบโทรศัพท์ของคิดขึ้นมา เมื่อได้โทรศัพท์ของเขามาอยู่ในมือ โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุด แม้จะตกน้ำ

    หน้าจอยังคงให้แสงสว่าง จ่อไปที่ใบหน้าของเจ้าของเพื่อทำการปลดล็อคหน้าจอเครื่อง แจ็คสันกดส่วนเบอร์โทรออก

    โทรหาผู้กองสโมคเกอร์ทันที แม้จะไม่ใช่ส่วนในพื้นที่ที่รับผิดชอบของเขา แต่การทำงานของผู้กองผมสีดอกเลามักรวดเร็ว

    ไวกว่าที่อื่นเสมอ แจ็คสันมองรอบตัวแล้วอธิบายว่าตอนนี้หล่อนกำลังอยู่ที่ไหน ต้องการความช่วยเหลือแบบใด

    ไม่ถึงสามนาทีหล่อนวางสาย แล้วกลับมาปั๊มหัวใจของคิดต่อ

    หนึ่ง และ สอง และ สาม …… นับไปเรื่อยๆ จนครบแล้วสลับกับการเป่าปากอีกสองหน จนกว่าหน่วยกู้ภัย

    หน่วยแพทย์จากรถฉุกเฉินจะมาถึง 

     

    “ น้ำแม่งเย็นฉิบ… ” มือหนาเกาะอยู่ริมฝั่ง คิดออกแรงเพื่อดึงร่างของตนขึ้นมาจากน้ำ

    หากมองจากผิวน้ำเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าไม่เหลือความน่ากลัว แต่หากลองมาอยู่ใต้น้ำลึกกว่าห้าเมตรอย่างเขา

    กระแสน้ำเคลื่อนไหว ไหลโคตรเชี่ยวตลอดเวลา ถ้าว่ายน้ำไม่แข็งจริงก็คงเอาตัวรอดได้ยาก!

    เขาไม่เคยเล่นน้ำจากลำคลองยามดึกหรือจะลงทะเล สำหรับเขามีแต่ลงสระว่ายน้ำก็ไม่พ้นงานปาร์ตี้เท่านั้น 

    คิดมองเห็นแจ็คสัน เนื้อตัวของหล่อนนั้นเปียกซ่ก เส้นผมลู่แนบกับใบหน้า เสื้อผ้าบนตัวก็เช่นกัน หล่อนคงจะขึ้นมา

    จากน้ำได้ก่อนเขา แต่สิ่งที่ผิดแปลกไปคือ คิดมองเห็นหล่อนกำลังซีพีอาร์ ปั๊มหัวใจของใครบางคนอยู่ข้างทาง 

    ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นเต็มสัดส่วนจึงเดินเข้าไปหาช้าๆ 

    หล่อนคงช่วยคนอื่น… คนที่โดนลูกหลง… ประสบอุบัติเหตุด้วย

     

    ไม่ได้รู้สึกน้อยใจด้วยซ้ำหากว่าหล่อนจะไปช่วยคนอื่นก่อน เพราะอย่างไรเขาก็เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว!

    คิดเข้าใจว่าอย่างนั้น จนกระทั่งเขาเดินเข้าไปถึงตัวของหล่อน 

     

    “ แข็งใจไว้นายตัวโต ฮึดหน่อย สู้หน่อย ” แจ็คสันพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ สูดลมหายใจเข้าปอด สองมือยังคงทำงาน

    ปั๊มหัวใจต่อเนื่อง หล่อนไม่อาจจะกลั้นน้ำตาได้ไหว ดวงตาสีเทาคู่งามนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงสักพักหยาดน้ำหยดเล็กๆ

    ไหลออกจากดวงตา หยาดน้ำตาเล็กๆไหลผ่านกรบอกตา อาบเลอะในหน้าเนียน หยดแหมะลงข้างแก้มสากของคิด

     

    “ นายยักษ์ นายต้องกลับมาสิ ฮึก กลับมาก่อนนะ  ” ปากยังว่าขอให้เขากลับมา สองมือพยายามยื้อร่างของเขาไว้

    แจ็คสันพักหายใจด้วยความเหนื่อยหอบ แค่วินาทีสั้นๆ เป็นจังหวะที่คิดมองหน้าสบดวงตากับแจ็คสัน

     

    อ้าว นั่นกูหนิ!

     

    ร่างกายหยาบของคิดนอนนิ่งไร้สติ อยู่ใต้ร่างของหล่อน ผิวหน้า ผิวกายขาวซีดเซียวราวกับกระดาษเอสี่

    คิดส่งมือออกไปจับ คว้า อย่างไรก็ตามมือของเขานั้นทะลุกับทุกสิ่งอย่างที่เขาต้องการสัมผัส

     

    อห. ที่ไม่ใช่ โอ้โห!

     

    อะไรกันครับเนี่ย?!

     

    ถ้าตรงนั้นเป็นร่างไร้วิญญาณของเขา ส่วนตรงนี้ก็คงเป็นวิญาณสินะ

    คิดพอจะมีสติ และเข้าใจเรื่องของสถานการณ์ตอนนี้ดี มองรอบตัวก็เห็นว่ามีทั้งคนขับรถบรรทุก คนขับรถบ้าน

    ต่างพากันยืนมองเหตุการณ์อย่างไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ พวกเขาไม่มีแม้แต่ขยับตัว เป็นได้แค่ไทยมุงกันอย่างนั้น 

    ดวงตาสีบรั่นดีหันกลับมาโฟกัสหญิงสาวอีกครั้ง

    ที่จริงหล่อนจะปล่อยให้เขานอนตายอย่างนั้นก็ได้ หล่อนก็ดู… ไม่ค่อยชอบเขาด้วยเท่าไร

    เจอหน้าทีไร มักมีปากมีเสียงกันตลอดเวลา แถมเขาก็ไม่ได้ทำดีกับแจ็คสันด้วยสิ แต่ไหงตอนนี้แจ็คสันยังช่วยเขาอยู่?

    แจ็คสันเคลื่อนตัว จับปลายคางของเขาเชิดขึ้น กดหน้าผากลง ริมฝีปากเล็กๆของหล่อนนาบลงบนริมฝีปากหยัก

    ของเขาอย่างแผ่วเบา เป็นรสจูบที่นุ่มนวลเท่าที่เคยได้จูบมา หล่อนไม่ได้จูบเขาด้วยความเร่าร้อนปลุกความกระหายในตัว

    สำหรับบางคนแค่ปากแตะๆกันอาจจะไม่นับว่าเป็นจูบ 

    แต่เขานับ… เป็นการจูบที่มอบความรู้สึกบางอย่าง ไหลผ่านมาถึงตัวของเขา  

    หากเป็นนิทานก่อนนอน ‘เจ้าหญิงจะตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลชั่วนิรันดร์ ด้วยการจุมพิตจากรักแท้’

    มันคงเป็นแค่นิยายโรแมนติก สร้างความบันเทิงวาดฝันให้แก่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเท่านั้น แต่กับผู้ชายแท้ บอยๆอย่างเขา

    แทบไม่เหลือความเป็นไปได้ 

     

    แววตาคู่นั้น เป็นแววตาที่ทำให้ใครต่อใครหลงใหลเพียงแค่สบตา

           เจตนาที่พยายามจะปกป้อง สองมือที่กำลังกอบกู้ชีวิตของเขาให้กลับคืนมา 

                 ไม่มีใครหน้าไหนกล้ายื้อกระชากหรือฉุดให้คิดผุดขึ้นมาจากขุมนรกได้! 

                     หล่อนเป็นเพียงคนเดียวที่กำลังยื้อชีวิตเขาจากซาตาน ท่ามกลางความสิ้นหวัง….

     

    ดวงตาสีเทาขนนกพิราบฉายแววอ่อนโยนคู่นั้นจะทำให้ซาตานร้าย ใจอ่อนลงได้หรือเปล่านะ?  

     

    คิดนั่งยองๆ เปิดเข่าสองข้าง แล้วจ้องมองร่างของตัวเองนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหญ้า แจ็คสันยังไม่ยอมแพ้เลยด้วยซ้ำ

    หล่อนยังมีความหวังว่าเขาจะตื่นและฟื้นคืนสติขึ้นมา

     

    ส่วนเขานั้นถอดใจไปแล้ว…

     

     

               เสียงหวอของรถตำรวจเปิดไซเรนดังกระหึ่มทั่วทั้งท้องถนน เพื่อต้องการเปิดทางให้กับรถตำรวจอีกสามคัน

    รถจากโรงพยาบาลใกล้เคียงร่วมด้วย และรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจอีกราวๆสี่ถึงห้าคันประกบข้างคอยอำนวยความสะดวกให้

    สัญญาณไฟจราจรสีเขียวทุกแยกถนนสามารถผ่านได้ตลอด เมื่อประสานงานกับฝ่ายงานจราจรเพื่อขอเส้นทางเร่งด่วน

    รถพยายามแล่นมาถึงที่เกิดเหตุ เหล่าทีมแพทย์ฉุกเฉินวิ่งกรูกันเข้ามา ทั้งเปลสนามและเครื่องAED (เครื่องกระตุ้นหัวใจ)

    แจ็คสันขยับตัวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานสะดวก ยกร่างของตนออกจากร่างกายหนา ถึงอย่างนั้นแล้วหล่อนก็ยัง

    ไม่ปล่อยฝ่ามือหนาเย็นเฉียบ

    แพทย์ฉุกเฉินวางแผ่นแพดลงบนหน้าอกของคิดเพื่อต้องการใช้เครื่องกระตุ้นใจ ทำให้แจ็คสันต้องปล่อยมือของคิด

    เป็นอิสระ ระหว่างนั้นแพทย์อีกคนจับตรงจุดชีพจร เพื่อเช็คอาการก่อนจะเริ่มลงมือ 

    “ ชีพจรกลับมาแล้ว นำตัวส่งโรง'บาลเลย ” แพทย์อีกคนรีบตะโกนเสียงดัง หลังจากมือของเขาจับชีพจร

    ของคนไข้ได้แม้หัวใจจะเต้นอ่อนๆ 

    “ Yesss. ” แจ็คสันชูมือขึ้นสองข้างเหนือศีรษะ ความพยายามของหล่อนไม่ได้ศูนย์เปล่า

    “ เก่งมากเลยครับคุณ ” ต้องเอ่ยปากชื่นชม นี่เป็นวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้อง

    แค่ได้ยินว่าคิดปลอดภัยแถมอยู่ในมือของหมอและผู้เชี่ยวชาญ แจ็คสันก็ล้มตัวลงบนราบบนพื้นอย่างหมดแรง 

    มือของหล่อนยังกุมมือของเขาไว้แน่นจนกระทั่ง แพทย์ได้มายกร่างของคิดขึ้นเปลสนามแล้วหายวับเข้าไปภายในรถฉุกเฉิน  

    “ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่เหนื่อย ” แพทย์อีกคนวิ่งมาประกบแจ็คสัน หล่อนจึงบอกให้เขานั้นเข้าใจ

    ที่ล้มลงไปไม่ได้รับบาดเจ็บส่วนใด แต่หมดเรี่ยวแรงแล้วจริงๆ

    ไม่ใช่แค่คิดที่ต้องนำส่งตัวไปโรงพยาบาล แจ็คสันเองก็เช่นกัน แต่ก่อนจะไปนั้นผู้กองสโมคเกอร์ก็เข้ามา

    ถามด้วยความห่วงใยอีกเช่นเคย

    “ รถจมน้ำค่ะผู้กอง หมวกกันน็อคของฉันมีกล้องโกโปรบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ น่าจะอยู่ในรถ ” 

    หล่อนพูดอะไรมากไม่ได้ ที่เหลือต้องฝากผู้กองสโมคเกอร์ช่วยสานต่อ

    “ อืม เข้าใจแล้ว  ” สโมคเกอร์พยักหน้ารับ แล้วหันไปคุยกับทีมแพทย์เพื่อให้พวกเขารีบพาหล่อนไปตรวจร่างกาย

    ส่วนที่เหลือต่อจากตรงนี้ เขาจะรับหน้าแล้วจัดการต่อเอง 

     

    รถฉุกเฉินจากโรงพยาบาลแดรคูลแล่นกลับเข้ามาสู่ทางเข้าด้านหน้า เหล่าทีมแพทย์ฉุกเฉินที่ยังอยู่ในวอร์ดนั้น

    รีบวิ่งตามมาด้วยความเร็ว โดยไม่ลืมที่จะมีรถเข็นสแตนเลสสำหรับผู้ป่วยถึงสองคัน ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง 

    ตามที่เจ้าหน้าที่ ทางรถฉุกเฉินได้วอร์มาแจ้งรายงานก่อนจะกลับเข้าไปถึงโรงพยาบาล 

    ทางผู้ชายอาการหนัก ส่วนผู้หญิงต้องรอดูผลตรวจร่างกาย

     

    ทั้งหมอและพยาบาลต่างพากันวิ่งวุ่น ไม่ใช่แค่ให้คิด ต้องการห้องพักต้องการความส่วนตัว เพราะความเป็นเซเลป

    มีเครื่องปรับอากาศอบอุ่น พยาบาล แพทย์ดูแลไม่ห่าง แต่ต้องเป็นการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนของเขาด้วย

    เจาะตรวจเลือดเพื่อวัดระดับแก๊สในเลือด ตรวจหาความเข้มข้นของเกลือแร่อาการของคิดยังไม่ทรงตัว 

    ทางหมอเจ้าของไข้ต้องให้ออกซิเจนเพราะปอดของเขา ยังไม่สามารถทำงานเองได้ 

    แจ็คสันมองร่างของคิดผ่านบานประตูกระจกใสกั้นไว้(ห้องปลอดเชื้อ) สำหรับแพทย์ พยาบาลผ่านเข้าไปได้เท่านั้น!

     

    “ แสดงว่าที่สอนไปก็ทำประโยชน์ได้งั้นสิ ” ร่างสูงโปร่งเหยียบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร 

    ปรากฏข้างกายของหญิงสาว หล่อนเอียงใบหน้ามองผู้มาใหม่แล้วคลี่ยิ้ม แพทย์หนุ่มสวมเสื้อกาวน์แขนจั๊ม

    สีขาวสั้นเหนือศอก ชายเสื้อยาวคลุมเข่า ทับเสื้อเชี้ตสีน้ำเงินเข้มด้านใน กางเกงสแล็คสีดำรองเท้าผ้าใบลำลองสีดำ

    กระดุมเสื้อที่ปลดออกหนึ่งเม็ดพอให้เห็นรอยสักช่วงโค้งคล้ายภูเขา หากลองมองดีๆแล้วเป็นส่วนหนึ่งของรูปหัวใจ

    ใช่แค่หน้าอกกว้าง ตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยสักเกือบทุกส่วน สันนิ้วมือสิบนิ้วทั้งสองข้าง ท่อนแขน

    หัวไหล่ แผ่นหลังกว้างบางส่วนก็เลือกสักใต้ร่มผ้า บางส่วนก็นอกร่มผ้า ซึ่งลอว์ก็หาได้แคร์สายตาของผู้คนไม่

    เป็นหมอที่ทั้งเจาะหูทั้งสองข้าง ไหนจะรอยสักกร้าวใจนั่นอีก ก็ไม่ได้ลดความน่าเชื่อถือของวิชาชีพหมอลงได้สักนิด

    ฝีมือเรื่องของการผ่าตัดของเขาเป็นที่ยอมรับเป็นวงกว้าง นอกจากในแผนกศัลยกรรมแล้ว หรือจะนอกแผนก 

    รวมไปถึงโรงพยาบาลข้างเคียง

    เป็นหมอที่ผ่าเหล่าผ่ากอมาก นอกจากหน้าตาที่หล่อคมเข้มดวงตาสีอำพัน ท่าทางเย็นชาพูดด้วยน้ำเสียงโทนเย็น

    กึ่งเย็นชาคล้ายคนไร้ความรู้สึก หากประเมินด้วยสายตาจากภายนอกร่างกายผ่ายออกไปทางผอมของเขานั้น

    เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อล้วนๆ 

     

    เป็นหมอผ่าตัด ยืนนานๆ ร่างกายก็ต้องแข็งแรง! 

     

    “ ด็อกเตอร์ลอว์สอนมาดี ” หล่อนต้องชื่นชมคนที่สอนการปฐมพยายามเบื้องต้นนี้ตังหาก

    ต้องยกความดีความชอบให้กับ ทราฟัลการ์ ดี. วอลเตอร์ ลอว์ ศัลยแพทย์รูปหล่อสุตฮอตที่มอบความรู้มาให้

    เขาไม่ได้อยู่ในส่วนของแผนกฉุกเฉิน แต่พอได้ยินเรื่องชืื่อของคนไข้ แถมชื่อของหล่อนก็ชื่อคุ้นๆ จำต้องปลีกตัวออกมา

    ลอว์เป็นแพทย์ประจำบ้านของแผนกศัลยกรรม พอมีเวลาว่างเขาก็แวะมาหาหล่อนที่ส่วนของห้องพักฟื้นคนไข้

     

    “ กลับไปพักผ่อนเถอะ ถ้าได้เรื่องอย่างไรแล้วจะแจ้งให้ทราบก่อนเป็นคนแรกเลย ” ลอว์บอกกับหญิงสาว

    เขาวางฝ่ามือลงบนบ่าเล็กๆ เพื่อเตือนให้หล่อนกลับเข้าสู่ห้องพักของตนเอง แจ็คสันควรได้พัก ได้ข่าว่าหล่อน

    พาเขาขึ้นมาจากน้ำแล้วปั๊มหัวใจด้วยตนเอง จนกว่าทีมแพทย์ กู้ภัยไปถึง ตามที่เขาได้สอนและให้ความรู้ไว้นั่นเอง

    “ ไม่เกินสิบนาทีพ่อฉันคงมา แม่ด้วย ” แจ็คสันตีหน้าเซ็ง เดินห่อไหล่กลับเข้าห้องพักฟื้นของตน ซึ่งก็ไม่พ้น

    ห้องเดี่ยวระดับวีวีไอพี หล่อนหันไปมองหน้าของคุณหมอรูปหล่อ ราวกับต้องการความช่วยเหลือ

    “ มุกแกล้งหลับคงไม่ซ้ำหรอกมั้ง ” แจ็คสันหันไปถาม ร่างกายของหล่อนนั้นแข็งแรงดีแทบไม่เคยป่วยถึงขั้นหาม

    ขึ้นรถ ส่งถึงโรงพยาบาลเช่นนี้  

    “ แล้วก็หาข้อแก้ตัวดีๆด้วยก็แล้วกัน ” ลอว์บอก ในระหว่างทางที่เขาจะพาหล่อนไปส่งถึงเตียงนอน

    หวังว่าแจ็คสันก็คงคิดหา ข้อแก้ตัวได้แล้วละนะ

     

    ก่อนที่จะมาเจอกับนักร้องหนุ่มซุปเปอร์สตาร์ แจ็คสันก็ได้รับการตรวจร่างกายอย่างถี่ถ้วน หล่อนยังมีสติ

    สามารถพูดคุยสื่อสารได้อย่างปกติ อันนี้ไม่น่าห่วง แต่ทางโรงพยาบบาลจึงของตรวจร่างกายของหล่อนเพิ่มเติม

    ทั้งมุดอุโมงค์ ซีทีสแกนหรือเอ็มอาร์ไอ! ซึ่งแจ็คสันก็ยอมให้ทางโรงพยาบาลได้ตรวจเช็คทั้งหมดอย่างที่กล่่าวมา

    โดยมีร่างโปร่งแสงของนักร้องซุปเปอร์สตาร์คอยเดินตามหล่อนอยู่ตลอดเวลา และทุกฝีเก้าไม่ห่าง

    แม้จะไม่มีความรู้ทางด้านการแพทย์ คิดเองก็ชะโงกหน้ามอหน้าจอผลการตรวจสอบร่างกายของแจ็คสัน ทุกการตรวจ

    มองสลับกับพวกหมอ แพทย์ พยาบาลในห้องเริ่มพูดคุยหาความผิดปกติ

     

    ไม่มีส่วนใดได้รับบาดเจ็บ กะโหลกศีรษะไม่มีร่องรอยหรือถูกกระแทกรุนแรง แต่ตามร่างกายมีการกระแทก

     บอบช้ำเล็กๆ น้อยๆ เพียงเท่านั้น ทางแพทย์ พยาบาลผู้ดูแล ได้เข็นวิลแชร์พาแจ็คสันกลับขึ้นห้องพักส่วนตัว 

    ส่วนเรื่องผลการตรวจ นั้นคงต้องรอฟังผลภายในวันพรุ่งนี้ 

    บานประตูห้องผู้ป่วยระดับวีวีไอพีถูกปิดลง ทีมแพทย์ พยาบาลต่างพากันออกไปเรียบร้อย เหลือแค่แจ็คสัน

    นอนอยู่บนเตียงเงยหน้ามองเพดานห้องเงียบๆ สิทธิการรักษาพยาบาลของหล่อนนั้นมากกว่าผู้ป่วยคนอื่นก็ใช่ 

    แต่เนื่องมาจากการบริจากเงินเพื่อช่วยเหลือ และคอยสมทบทุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลแดรคูลในทุกๆปี 

    เงินที่แจ็คสันนำมามอบให้ก็เป็นเงินส่วนตัวของหล่อน เช่น จากงานคอนเสิร์ต หรือพรีเซนต์เตอร์เครื่องดนตรีที่ใช้

    ที่ไม่ใช่การขอทาน หรืออีกชื่อ นักบุญทุนคนอื่น ทำกุศลในครั้งนี้!    

     

    เสียงเคาะจากด้านหลังบานประตูห้องดังขึ้นสามหน ก่อนที่บานประตูจะถูกเปิดออกจากด้านนอก

    แจ็คสันไม่ได้ตอบกลับตามมารยาท หล่อนแกล้งปิดเปลือกตาลงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงก่อนที่อาคันตุกะจะเข้ามาเห็น

    ซึ่งการเยี่ยมเยียนคนไข้ในยามวิกาลครั้งนี้ก็พ้นบิดาและมารดาของหล่อน

    เส้นผมของเขาถูกเปลี่ยนเป็นสีเทาตามธรรมชาติ เคราตรงปลายคางก็เช่นกัน ใบหน้าของเขาสวมแว่นสายตา

    ทรงกลม ผิวหน้าและตามร่างกายเหี่ยวย่น ไปตามกาลเวลา แต่กาลเวลาก็ไม่ได้ทำร้ายให้เขาได้ดูเหมือนคนแก่

    อายุเกือบๆหกสิบปีทั่วๆไป ใบหน้าของผู้เป็นบิดายิ้มแย้มตลอดเวลา แถมยังออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงตลอดเวลา

    แม้จะอยู่ในชุดสูทสากลก็สามารถมองเห้นได้ชัดว่าภายใต้ชุดสีสุภาพเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อล้วนๆ

     

    ร่างโปร่งแสงของคิดยืนกอดอกมั่น พิงใกล้กับขอบบานหน้าต่างห้องแล้วมองอาคันตุกะ อย่างสงสัย

    ดวงตาสีบรั่นดีปราดมองแล้วนึกชื่อของชายตรงหน้า

    ซิลเวอร์ เรย์ลี่ เรียกกันอย่างเป็นกันเองคือ เรย์ลี่ ในชุดสูทสากล ควงคู่มากับภริยาแช็คกี้คนสวย 

    ทางโรงพยาบาลกล่าวต้อนรับทั้งสองคนเป็นอย่างดี ตั้งแต่พวกเขาเหยียบย่ำฝ่าเท้าลงบนธรณีทางเข้าโรงพยาบาล 

    สาวจากทางแผนกต้อนรับรีบกึ่งเดิน กึ่งวิ่งเพื่อต้อนรับทั้งสองคน พร้อมกับผายมือประกอบคำพูด 

    “ คุณแจ็คสันอยู่ที่ห้องวีวีไอพีเรียบร้อยแล้วค่ะ ” เธอรายงาน เดินนำทั้งสองไปที่ห้องระดับวีไอพีที่ว่า

     

     

    ซิลเวอร์ เรย์ลี่ เดอลาไวน์

    แจ็คสันคงใช้นามสกุลฝ่ายบิดา ใช้นามสกุลในวงการเพลงสั้นๆ หล่อนตัดคำว่า ซิลเวอร์ ออก 

    เหลือเพียงแค่ เดอลาไวน์ สินะ

     

    ซิลเวอร์ เรย์ลี่ มาเฟียทางธุรกิจหรือมาเฟียในชีวิตจริงไม่มีใครกล้ายุ่ง กระตุกหนวดเสือทั้งนั้น

    เรย์ลี่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากการเป็นนักเลงคุมถิ่นข้างถนน รวบรวมสมาชิกเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆไม่ค่อยเป็นที่จับตามองมากนัก

    กว่าจะมารู้สึกอีกทีก็กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งเมือง เรื่องราวที่ถูกล่ำลือพูดกันปากต่อปากคงเป็นพวก

     ตำรวจไม่อาจจะเอาเรื่องทั้งที่มีแฟ้มคดีเกี่ยวกับเรย์ลี่ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม(พวกลูกน้องไปมีเรื่อง)

    นับแฟ้มไม่ถ้วน ว่ากันว่าเรย์ลี่สามารถใช้อำนาจเงินซื้อตำรวจได้ทั้งองค์กร ผู้พิพากษาทั้งคณะและลูกขุน 

    ความน่ากลัวของเรย์ลี่ยังไม่จบเพียงเท่านี้!

    โดยเฉพาะขึ้นชื่อว่าพวกพ้อง หากใครมาทำร้ายคนในแฟมมิลี่หรือครอบครัวบอกได้เลยว่า ศพ ไม่สวยทุกราย!

    และถ้าหากว่าเป็นลูกสาวหัวแก้ว หัวแหวนเพียงคนเดียวอย่าง แจ็คสัน เดอลาไวน์ ด้วยแล้วละก็… 

    มีแต่ตายกับตายเท่านั้น!

     

     

    “ โธ่ คนดีของม๊า  ” มารดาทรุดตัวลงบนเก้าอี้ด้านข้างเตียงคนไข้ ซึ่งถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า 

    ก่อนที่ทั้งสองคนจะมาถึง แม้จะเป็นเวลายามวิกาลเกือบเที่ยงคืนทั้งสองคนก็ไม่อาจจะรอ ให้ถึงวันรุ่ง

    เพื่อมาเยี่ยมไข้ลูกสาว ทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่าแจ็คสันปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายร้ายแรงมากนัก หล่อนยังมีสติ

    สามารถเดินเหินได้ ทว่าก็ต้องรอผลตรวจร่างกาย ระหว่างนั้นหล่อนเองก็ควรจะนอนพักเพื่อรอดูอาการจากอุบัติเหตุ

    รถคว่ำตกริมคลองน้ำ

    “ ป๊ารู้นะว่าหนูไม่ได้หลับ ” เรย์ลี่พูดขึ้นอย่างรู้ทัน ลูกสาวของเขาไม่มีวันจะหลอกสายตาของเขาได้

    “ โธ่ ป๊า ” หล่อนทำเสียงเซ็ง แล้วเอียงใบหน้าไปทางมารดาเพื่อขอความช่วยเหลือ “ม๊าช่วยพูดกับป๊าหน่อยสิคะ” 

     

    “ หนูมีแฟนทำไมไม่บอกป๊า? ” เรย์ลี่นึกตำหนิ ลูกสาวไม่เคยพูดเรื่องของแฟนหนุ่มให้ฟัง

    แจ็คสันเป็นคนขี้ระแวง หล่อนไม่ไปไหนมาไหนกับผู้ชายในที่ลับตาคนเด็ดขาด ยิ่งโดยเฉพาะยามวิกาล

    นอกจากเสียว่า… 

    แต่การไปไหนมาไหนกับผู้ชายยามวิกาลซึ่งก็ไม่ใช่นิสัยของแจ็คสัน นอกจากว่าผู้ชายคนนี้จะพิเศษกว่าคนอื่นๆที่ผ่านมา

    แถมเรื่องเมื่อวาน หล่อนถูกทำร้ายก็ได้ผู้ชายคนนี่ช่วยไว้ อย่าถามนะว่าทำไมเขาถึงรู้ ก็เพราะผู้กองสโมคเกอร์รายงาน

    การเคลื่อนไหวของแจ็คสันให้เขาฟังตลอดเวลา นึกแล้วต้องขอบใจสโมคเกอร์หลายต่อหลายครั้งที่คอยช่วยเหลือลูกสาว

    ของเขาตลอดมา 

    “ ป๊า เขาไม่ใช่แฟนหนู! ” แจ็คสันปฏิเสธเสียงแข็ง ตลบผ้าขึ้นมาแล้วทำมือไขว้กันเป็นสัญลักษณ์กากบาท

    “ อ้าว แบบนี้พ่อหมอลอว์ของม๊าก็ยังมีสิทธ์อยู่นะสิ ” หมอลอว์ของแม่ยังมีความหวังอยู่ใช่ไหม? 

    “ ไปกันใหญ่แล้ว ทั้งป๊าทั้งม๊าเลยอ่ะ ลอว์เขามีแฟนอยู่แล้ว แฟนเป็นนักแข่งมอเตอร์ไซค์ ชื่อ ลีอา

    ถ้าตะกี้ป๊า ม๊า ผ่านมาทางแยกแมรี่จัวส์ หน้าลีอากับหุ่นสับของเธอเด่นหราอยู่กลางแยกนั่นเลย ” หมอลอว์ของหมะม๊า

    มีเจ้าของหัวใจไปแล้วจย้าาา 

    เนี่ยๆ ป๊า ม๊าก็ชอบจับคู่ให้อยู่เรื่อยเลย!

    บิดาและมารดาก็ยังชอบจับคู่ให้ลูกสาวคนนี้อยู่เรื่อยตลอดมา และเหมือนจะตลอดไป

    เว้นเสียแต่ว่าแจ็คสันจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา! 

     

     

    “ เรื่องมันก็เป็นอย่างที่หนูเล่าให้ฟังนี่ละคะ ” เริ่มเรื่องจากหล่อนโดนดักทำร้ายที่ลานจอดรถ 

    ทางตำรวจกำลังตามติดและขยายผล สืบหาต้นตอว่าพวกชายชุดดำได้รับการจ้างวานมาจากใครอีกที แจ็คสันไม่ได้เล่า

    เรื่องที่หล่อนโดนลวนลามจากคนที่ชื่อคาริบู แล้วคราวนี้กิซาโอะก็มาช่วยหล่อนไว่ได้เหมือนเคย เล่าต่อแค่ว่า

    กำลังกลับออกมาจากออฟฟิศแล้วเขาเห็นว่าดึกแล้วก็เลยพามาส่ง แต่ระหว่างทางกลับบ้าน หล่อนเห็นมีชายชุดดำ

    ขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียนจงใจขี่เข้ามาเบียด ก่อให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง หลายที กิซาโอะที่มีสติ

    ประคองรถไว้ได้พยายามขับหลบหนีแต่แล้วแล้วก็เกิดเรื่องขึ้นมา เขาได้รับบาดเจ็บ… และยังไม่ฟื้น 

     

    เรย์ลี่กอดอกแน่น ลูกสาวของเขาไปขัดแข้งขัดขากับใครที่ไหนอีกละเนี่ย?

     

    ถึงตามจ้องเวร จองกรรม จองล้าง จองผลาญ หวังฆ่ากันให้ตายขนาดนี้! 

     

     

    “ ถ้าป๊าไม่เชื่อ… งั้นก็รอกิซาโอะ เขาฟื้นขึ้นมาแล้วก็ถามเขาเอาละกัน ”

    “ กิซาโอะ? ” มารดาทำหน้างง ลูกสาวของเธอกำลังพูดถึงใครอยู่อย่างนั้นหรอ?

    “ ก็ ‘ยูสทัส คิด’ ไง ม๊า ” แจ็คสันอธิบายให้มารดาเข้าใจ

    “ ถ้าไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมต้องตั้งชื่อเรียกให้กันและกันด้วยละ? ม๊างงนะ ” แช็คกี้สงสัยความสัมพันธ์

    ถ้าลูกสาวของเธอจะมีแฟน เธอก็ไม่ว่า แค่อยากให้ลูกสาวพามาแนะนำตัว เห็นหน้าค่าตาที่บ้านหน่อยก็ยังดี

    อย่างน้อยคนเป็นแม่ก็จะได้รู้จัก รู้เรื่องจากปากของลูกสาว ยังดีกว่าปากของเพื่อน คนสนิท คนรู้จัก หรือโดยเฉพาะ

    ปากของพวกนักข่าว แช็คกี้ยิ่งรับไม่ได้เข้าไปใหญ่! 

    “ โธ่ ม๊า! ” แม่ของหล่อนยังไม่เชื่อ ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่กันจริงๆ หากว่าบิดา มารดายังไม่จบ

    หล่อนจะบอกแล้วนะว่าเขาเป็นแฟน! แถมตอนนี้กำลังซุ่มคบหาดูใจกันอยู่ด้วย

    “ ยังไม่ใช่แฟนก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ” เรย์ลี่ไม่อยากคาดคั้น เขาทำการตรวจสอบประวัติของ ยูสทัส คิด มาดี

    นักร้องหนุ่มมาดเท่กับน้ำเสียงจอมพลัง นักร้องนำวง วิคตอเรีย พั๊งค์ มีแต่ข่าวคราวเรื่องของผู้หญิงโดยเฉพาะนางแบบ

    ทุกวี่วันแถมยังไม่ซ้ำหน้า ซ้ำยังมีเรื่องตีรันฟันแทง ต่อยตีกับเขาไปทั่ว!

     

    นอกจากจะเจ้าชู้ ไม่มีความจริงจัง จริงใจ ยังเป็นอันธพาลอีกตังหาก!

     

    ไม่ผ่าน! เรย์ลี่บอกได้คำเดียวเลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่คู่ควรหรือมีส่วนไหนเหมาะสมกับแจ็คสันเลยสักประการ!

    คนเป็นพ่อซึ่งก็เป็นผู้ชาย ผ่านโลกมาเยอะ เขากลัวว่าลูกสาวจะเสียใจ… หากบุตรสาวได้มอบความรัก

    ให้กับผู้ชายเสเพลคนนี้ 

    ไม่ได้อยากปรามาศแต่เรย์ลี่ก็เป็นผู้ชาย มองแว่บด้วยเขาก็รู้อยู่แล้ว ว่านิสัยเป็นอย่างไร… ยูสทัส คิด ไม่เหมาะสม

    ไม่มีคุณสมบัติส่วนใดเหมาะสมกับลูกสาวของเขาสักข้อ! 

    โชคดีที่แจ็คสัน ลูกสาวของเขาคิดได้ ถือว่าเป็นบุญใหญ่ของคนเป็นพ่อ 

    แต่ก็ไม่ใช่แค่สืบเสาะหาประวัติของ ยูสทัส คิด เพียงอย่างเดียว เรย์ลี่ตามสืบไปถึงวงศ์ตระกูลของเขาเลยทีเดียว

    และความบังเอิญ โลกกลม เขารู้จักกับบิดาของเจ้าเด็กยูสทัสคนนั้นด้วยนี่สิ! 

    ดังนั้นการจะได้พูดคุยหาทางออกร่วมกันระหว่างเรื่องของลูกชายเพื่อน ลูกสาวของเขาก็คงไม่ใช่เรื่องยาก

     

     

    คิดกอดอกแน่น แจ็คสันไม่ได้เล่าเรื่องที่ถูกไอ้ทุเรศคาริบูมันหวังจะปล้ำ แต่เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ทั้งบิดา มารดา

    ฟังทั้งคู่ เรื่องที่เล่าก็พูดถึงตัวเขาไปในทิศทางที่ดี ไม่ได้ด่าทอหรือนินทาลับหลังให้เสียหาย เสียความรู้สึกด้วยซ้ำ

    หล่อนเล่าแค่ว่าไปยื่นเดโม่เพลงกับทางค่าย แล้วก็กำลังจะทำเพลงกับ ‘วิคตอเรีย พั๊งค์’ ตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่กระบวน

    การอัดเสียง แล้วก็มีกิจกรรมร่วมกับทางค่ายเล็กๆน้อย ก็เพิ่งได้งานเป็นพิธีกรรับเชิญกับทางรายการของค่าย

    ซึ่งก็เป็นอีพีแรก ยังอยู่ในขั้นตอนตัดต่อ หากตำต่อเสร็จแล้วก็จะอัพลงสู่ยูทูปเปิดเป็นสาธารณะ 

       มอเตอร์ไซค์เกิดสตาร์ทไม่ติด บังเอิญเจอยูสทัสมาพอดี เขาอาสาไปส่งหล่อนที่คอนโดฯ แต่ดันเกิดเรื่องเสียก่อน

     

    “ ป๊า แต่กิซาโอะเขาเป็นคนดีนะคะ ” แจ็คสันยืนยัน  หล่อนยังเอ่ยปากเล่าว่าตอนเกิดเรื่อง

    หล่อนไม่ได้คาดเซฟตี้เบล์ท ร่างกายลอยกระแทกนู่นนั่นนี่ สวมเพียงแค่หมวกกันน็อคเต็มใบครอบศีรษะ แต่วินาทีชีวิต 

    ยูสทัส คิด หักพวงมาลัยดึงเบรคมือเพื่อให้รถฝั่งเขาได้รับความเสียหายเพียงฝั่งเดียว แถมเขายังขยับเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้

    เขาใช้ร่างกายของเขาบังร่างของหล่อนไว้ เพื่อรับแรงกระแทกทั้งหมดอีกตังหาก  

    โคตรจะแมนขนาดนี้! หวังว่าป๊าคงจะชอบหน้าของกิซาโอะขึ้นมาบ้าง ไม่มากก็น้อย

    “ ป๊าจะไม่ทำอะไรเขาใช่ไหมคะ? ” แจ็คสันมองหน้าของบิดา น้ำเสียงของหล่อนแผ่วลง

     ส่งมือเล็กแตะลงบนหลังมือเหี่ยวยนตามกาลเวลา

    “ แล้วป๊าจะกล้าทำอะไรเขาไหมละ? ลูกสาวป๊าบอกว่าเขาเป็นดี ” เรย์ลี่ขยับตัวเข้ามาใกล้ เขานั่งลงบนเตียง

    เอื้อมมือไปส่งท่อนแขนโอบกอดลำคอของลูกสาวสุดที่รักไว้แน่น กดใบหน้าลงเพื่อหอมหัว จรดปลายจมูกลงบนเส้นผม

    สีบรอนด์ทองด้วยความรัก

     

     

     ดวงตาสีบรั่นดีมองครอบครัวเดอลาไวน์เงียบๆ จากอีกมุมหนึ่ง การพูดคุยของพ่อ แม่ ลูก ส่วนใหญ่จะเป็น พ่อ ลูก

    น้ำเสียงของแจ็คสันออดอ้อนแผ่วลง สมกับเป็นบุตรสาวตัวเล็กตัวน้อยของบิดาเสมอ ผิดกับการพูดคุยกับเขาอย่างลิบลับ

    เชือดเฉือนแทบทุกประโยค ฆ่ากันตายด้วยคำพูด! 

    “ ครอบครัวอย่างนั้นหรอ? เหอะ ” ครอบครัวสุขสันต์ของหล่อนนั้นก็น่าอิจฉาสำหรับใครหลายคน

    แต่คงต้องขอยกเว้นเขาเพียงคนหนึ่งแล้วละ 

    น้ำเสียงเจื้อแจ้วของแจ็คสันพูดกับบิดา มารดาที่รักต่ออีกสักสองสามประโยค น้ำเสียงออดอ้อนสมเป็นบุตรี

    ช่างขี้อ้อน คนฟังถึงกับต้องก้มหน้าลง แล้วเสใบหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองดูทิวทัศน์เมืองยามราตรีด้านนอก

    น้ำเสียงน่ารัก ท่าทางก็น่ารักของหล่อนไม่แพ้กัน 

    หากว่าหล่อนหันมาพูดกับเขาทั้งน้ำเสียง ท่าทาง หน้าตาแบบนั้นแล้วละก็… หล่อนคงทำให้เขาใจอ่อน 

    ตายแล้วตายอีก เป็นแน่!

     

     

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป…

    15 ต.ค. 2565

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×