คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Drop D. : Terrified.
นี่มันค่ายเพลงนะ ไม่ใช่ค่ายหนัง AV!
ขืนคิดได้อยู่ร่วมหายใจในห้องของประธานบริษัทต่ออีกสิบนาที ร่างของคาริบูอาจจะกลายเป็นร่างไร้วิญญาณ
ก็เป็นได้ แถมแคลิเฟอร์เลขาแสนสวยของท่านประธานค่ายมาเอง เขาคงไม่ต้องจัดการอะไรต่อ เพราะแคลิเฟอร์เอง
ก็พอจะรู้เรื่องของคาริบูดี เผลอๆรู้มากกว่าเขาด้วยซ้ำ!
“ นี่มันอะไรกัน? ” แคลิเฟอร์มองเข้ามาภายในห้องผู้บริหารด้วยความตกใจ สภาพห้องพังเละไม่เป็นท่า
ข้าวของกระจัดกระจาย คล้ายโจรยกเค้าห้องผู้บริหารอย่างใดอย่างนั้น แฟ้มเอกสารบนโตะระเนระนาดอยู่บนพื้น
กระเบื้องเงาวับ ห่างออกไปพบผู้ชายชุดดำยืนหันหลังให้
แม้ว่าเขาจะยังไม่ทันได้หันหน้ามาก็ทราบแล้วว่าเป็นใคร นอกเสียจากนักร้องหนุ่มมาดเท่ ยังถือหุ้นส่วนใหญ่
ของบริษัท หากพูดในภาษาชาวบ้าน คือ วิคตอเรีย พั๊งค์ เป็นวงที่แบกให้บริษัทยังอยู่รอดในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้
คำนวณเป็นจำนวนเม็ดเงินรายได้ในการหาเงินเข้าบริษัท สี่ร้อยล้านเบรีต่อเดือน เพลงที่ปล่อยออกมาแม้ยังไม่มีเอ็มวี
หรือได้รับการโปรโมทอย่างเป็นทางการ สองชั่วโมงแรกก็มียอดวิวถล่มทลายในยูทูปถึงหลักร้อยล้านวิวแล้ว!
“ ไปเถอะ แจ็คสัน ”
“ อื่อ ”
หลายครั้งหลายหนที่ได้ยินเรื่องของพฤติกรรมของคาริบู โดยเฉพาะมุกให้พนักงานนำเอกสารขึ้นไปให้
ส่งตรงถึงห้องผู้บริหารชั้นยี่สิบห้า พอเรื่องแดงขึ้นมา แคลิเฟอร์ก็จัดการให้ทุกอย่างเงียบลง โดยการให้ผู้หญิงเหล่านั้น
เขียนใบลาออก เพื่อที่จะได้ไม่เสียประวัติ เลวร้ายกว่านั้นคือคาริบูมันเกิดผูกปิ่นโต หาเรื่องมาซ้ำสองสนองความต้องการ
โดยที่มันกล้าพูดว่าหยิบยื่นโอกาสที่ดีให้ ส่วนพวกสาวๆที่หวังสบายนั้นก็หลงเล่นกับไฟด้วยนั้นก็สบายจริง
แต่ความสบายที่ว่านั้น… แค่ของชั่วครู่
ถ้าหากหญิงเองก็ลำบาก….
ก็แห๋งละ มีใครอยากลำบากบ้างวะ?
บางคนเกิดท้องโตขึ้นมา เรียกร้องให้คาริบูรับผิดชอบก็มี มันก็พอจะหาเรื่องมาปฏิเสธ
ว่าไม่ใช่ความผิดของมัน โบ้ยคนนี้คนนั้นไปเรื่อย จนกระทั่งชะตากรรม จิตใจของหญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อตั้งท้องนั้นย่ำแย่
ท้องก็ว่าแย่แล้ว แถมคนที่ร่วมกันทำด้วยดั๊นไม่รับผิดชอบอีกนี่สิ!
ก็เป็นการประจานตัวเองออกมาในพื้นที่สาธารณะ เป็นวงกว้างได้รับการอับอายชนิดที่ว่าแทบไม่อยากให้ใครเห็นหน้า
ดังนั้นเหยื่อสาวผู้เคราะห์ร้ายจึงเลือกปลิดชีวิตของตนเองด้วยการกระโดดสะพาน แต่ส่วนผู้ชายอย่างคาริบูมันยังลอยหน้า
ลอยตามีชีวิตอยู่ต่อโดยไม่ได้รู้สึกผิดแต่อย่างใด
แคลิเฟอร์เป็นเพียงแค่เลขา ทำตามที่ท่านประธาน ไอซ์เบิร์ก สั่งเท่านั้น ตามจริงจะไปโกรธเลขาก็ไม่ใช่
ก็คงต้องไปโทษไอซ์เบิร์กในเรื่องของการอบรมสั่งสอนลูกหลาน เรื่องมารยาทที่ดี ความเป็นสุภาพบุรุษ
ก่อนจะออกจากบ้านสิถึงจะถูก!
เธอได้แต่โทรศัพท์ตามรถฉุกเฉินแล้วก็ ขึ้นรถตามไปโรงพยาบาลแดรคูล
คิดพาแจ็คสันกลับมาที่หน้าลิฟท์ กดปุ่มแล้วรอเวลา ไม่นานเสียงเตือนว่าลิฟท์กำลังมาก็ดัง
บานประตูเปิดออกกว้างเพื่อต้อนรับทั้งสองคน ห้องสี่เหลี่ยมแคบไปถนัดตาเมื่อร่างสูงสองเมตรของคิดเข้าไปยืนอยู่ในนั้น
แจ็คสันยืนทิ้งระยะ เริ่มสวมเสื้อฮู้ดดี้สีดำที่ได้รับมานั้นให้เรียบร้อย สองแขนทั้งสองข้างเข้าไปในเสื้อแขนยาว
รูดซิบเสื้อขึ้นพอประมาณ จัดแจงเส้นผมให้เรียบร้อย หล่อนส่องกระจกตรงหน้าเพื่อหาความผิดปกติ เสื้อผ้า หน้าผม
เรียบร้อย กดใบหน้ามองต่ำลงก็พบว่าเชือกรองเท้าที่สวมเริ่มคลายตัว ปมเชือกตรงกลางเริ่มจะหลุดออกจากกัน
ดังนั้นหล่อนย่อตัวลงในท่าชันเข่าเพื่อทำการมัดเชือกรองเท้า
ริมฝีปากสีเข้มอ้าปากค้างแทบจะยัดจานดาวเทียมสีดำขนาดใหญ่ ทรงกระทะเข้าไปได้ทั้งจาน
แตงโมจินตราลูกโตๆ หวานๆ สองลูกกำลังจะล้นออกจากขอบเสื้อในลูกไม้สีดำตัดกับสีผิว ดูเหมือนจะล้นออกมา
ยิ่งค้างอยู่ในท่าก้มตัวมัดเชือกรองเท้า หมิ่นเหม่เหลือเกินว่าจะหลุด จะโผล่ออกมาทั้งลูกหรือไม่ แต่คนจิตอกุศล
พึมพำเบาๆด้วยริมฝีปากหยัก ภาวนาขอให้ หลุดออกมาเถอะ หลุดออกมาเลย ทั้งยวงเลยก็ได้!
แม้จะเห็นเรือนร่างอันสวยงามของผู้หญิงที่เขาควงด้วยบ่อยๆจนชิน และสาวๆทั้งคม ทั้งหมวยเหล่านั้น
ก็สวยเซ็กซี่ขยี้ใจ แต่คนที่ไม่ค่อยเปิดเผยเนื้อหนังมังสาแบบแจ็คสัน นี่ก็หนสองที่เขาได้เห็นของสวยๆงามๆ
และสิ่งที่เห็นก็เต็มๆสองตา ยิ่งกระตุ้นให้เขาตอบสนองต่อสิ่งเร้ามากกว่าเดิมถึงสองเท่า
แจ็คสันยืนทรงตัวเต็มส่วนสูงปกติ ไม่ได้ทันสังเกตุหรอกว่าคิดแอบกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกใหญ่
เสียงจากลำโพงเหนือศีรษะเตือนว่ากำลังเคลื่อนไปยังอีกชั้น และบานประตูกำลังจะเปิดออกกว้าง
เพื่อรองรับผู้คนจากด้านนอก ขึ้นสู่ชั้นบนของตัวอาคาร เหล่าพนักงานไม่มีใครทันสังเกตุหรอกว่าด้านในจะมีคนยืนอยู่
พวกเขาเดินเข้ามาแล้วก็พากันยืนหันหน้าออกไปทางหน้าลิฟท์ แล้วก็ไม่มีใครสนใจใคร ยกเว้นเสียแต่แจ็คสัน
ร่างของหล่อนถูกคนด้านนอกเบียดให้เข้าไปยืนชิด แผ่นหลังเล็กๆของหล่อนนั้นแนบกับลำตัวด้านหน้าของคิด
ลมหายใจอุ่นๆของเขาเป่ารดทั้งเส้นผมสีบรอนด์ ต้นคอแทบตลอดเวลา
คนยืนซ้อนอยู่ด้านหลังอีกนิดหัวของเขาก็จะโหม่งเพดานรอมร่อ แม้จะเงยใบหน้าขึ้นมองฝ้าเพดาน
ปลายจมูกโด่งของเขายังได้กลิ่นหอม เส้นผมสีบรอนด์ยาวสลวยก็ดี หรือจะจากซอกคอหอมกรุ่นนั่นก็ใช่
กลิ่นหอมหวานละมุนอ่อนๆกำลังเล่นงานเขาอย่างจัง ไม่ใช่กลิ่นที่มันแย่จนต้องกลั้นหายใจยกมือขึ้นมาบังจมูก
เป็นกลิ่นที่ดี จนเขาไม่อาจจะหักห้ามใจได้ไหว กดใบหน้าลงเพื่อสูดรับกลิ่นหอมหวานจากเนื้อตัวของหญิงสาวตรงหน้า
มันช่วยให้เขาผ่อนคลายลดความตึงเครียดในร่างกายลง
แจ็คสันยืนแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้กลายเป็นก้อนหิน หล่อนเป็นคนรักษาระยะห่างมาตลอด ไม่ว่าจะเพศหญิง
หรือจะเพศชาย ยิ่งท่าทางไม่น่าไว้ใจของนายยักษ์ที่ยืนอยู่ข้างหลังนั่นก็ด้วย ใต้อกข้างซ้ายหัวใจของหล่อนเต้นส่ำระรัว
หวังว่าไม่ใช่เรื่องของความกลัว หล่อนไม่ควรกลัวเขาด้วยซ้ำสิ! ใบหน้าสวยถึงกับเห่อร้อนอุณภูมิข้างแก้มเริ่มเปลี่ยนสี
อย่างฉับพลัน ช่วงวินาทีน่าอึดอัดใจนั้นได้จบเมื่อเสียงของลิฟท์ดังขึ้น เหล่าพนักงานต่างพากันเดินออกจากลิฟท์
“ ไปกันเถอะ ” คิดเดินเข้ามาแค่แตะข้อศอกของแจ็คสัน เอ่ยเตือนให้หล่อนตามเขามา
แจ็คสันตอบด้วยน้ำเสียงในลำคอ หลุบสายตาลงต่ำแล้วมองมือของเขา ฝ่ามือใหญ่ๆคู่นั้นยังมีเลือดหยดติ๋งๆระหว่างทาง
คิดหยุดยืนอยู่หน้าตู้กดเครื่องดื่มแบบหยอดเหรียญ เขากดเครื่องดื่มมาสองอย่าง ส่งน้ำส้มให้หญิงสาว ส่วนของเขา
เป็นน้ำเปล่า
“ คุณ ที่มือ… ไปหาหมอหน่อยไหม? ” หญิงสาวผงกหน้ารับเป็นการขอบคุณที่เขากดน้ำส้มมาให้
“ ไม่ใช่เลือดฉัน ” คิดตอบแบบตรงๆ อีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องคะยั้นคะยอขอให้เขาไปโรงพยาบาลใกล้เคียง
คิดหมุนบิดฝาเกลียวเปิดน้ำดื่มออก เดินไปตรงต้นไม้ใกล้ๆแล้วราดน้ำเปล่าเย็นๆลงบนหลังมือ ซ้ายที ขวาที
ใช้ปลายนิ้วมือลูบๆเพื่อล้างคราบเลือดสีแดงเริ่มแห้งกรังบนสันนิ้วออก เขาสลัดมือเพื่อไล่หยดน้ำเบาๆ ไม่ให้หยดกระเด็น
ลำบากแม่บ้านต้องตามเช็ดด้วยผ้าแห้ง เขย่าขวดน้ำในมือยกขึ้นมาดื่มจนพร่องหมด โยนลงถังขยะสำหรับนำไปรีไซเคิล
แจ็คสันหย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ตัว ซึ่งจัดทางบริษัทได้จัดเป็นมุมสำหรับนั่งพัก สำหรับดื่มเครื่องดื่มเล็กๆ
วางขวดน้ำส้มที่ได้มาลงบนโต๊ะ ส่งฝ่ามือเล็กๆของหล่อนจับปลายนิ้วมือของคิด ออกแรงดึงเบาๆเพื่อให้เขามานั่งใกล้ตัว
คิดนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ไม่ได้ชักหรือดึงมือกลับ ปล่อยให้หล่อนจับอยู่แบบนั้น เอนแผ่นหลังกว้างพิงพนัก
นั่งลงในท่าสบายๆ
หญิงสาวฝ่ายตรงข้ามหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาแล้ว แกะเปิดออกแล้วก็หยิบพลาสเตอร์ปิดแผลออกมา
คิดกระตุกยิ้มมุมปาก หากเป็นผู้ชายคงเป็นซองสี่เหลี่ยมสูญญากาศแล้วก็มีวงกลมเด่นนูนขึ้นมา ซึ่งก็ไม่แนะนำ
ให้เก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าสตางค์ หญิงสาวแกะพลาสติกออกแล้วค่อยๆแปะตัวพลาสเตอร์ปิดส่วนปากแผล
จากค่ายซานโตรินี่ แบดแบดซ์มารุ สีแดง สีเหลือง สีเทา
“ โชคดีไม่ต้องให้หมอเย็บแผล ” หล่อนบอกแล้วแกะพลาสเตอร์สีเหลือง แปะติดตรงสันมือ
ยังพอให้เห็นรอยจากคราวก่อน สันนิ้วของเขานั้นเกิดรอยเส้นตรงราวๆหนึ่งเซ็นติเมตรสลับไปมาซึ่งก็เป็นรอยใหม่มาเพิ่ม
สันมือของเขาเป็นรอยขีดข่วนสลับไปมา คาดว่าคงครูดและบาดกับฟันของคาริบู มือขวาข้างถนัดของเขามีรอยเยอะกว่า
ดังนั้นต้องติดเพิ่มสองชิ้นส่วนข้างซ้ายก็ติดแผ่นเดียวพอ
“ ห้ามมีเรื่องอีกนะ ” ไม่งั้นไม่ติดพลาสเตอร์ปิดแผลให้แล้วนะ เลือดที่เลอะเปราะบนมือก็ไม่ใช่เลือดของเขา
อย่างที่หล่อนเข้าใจตั้งแต่ทีแรก ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย
“ … ” คิดนั่งมองมือของตัวเองอยู่อย่างนั้น เขาเองก็ไม่อยากพูดอะไรที่มันทำร้ายจิตใจหล่อนมากนัก
แล้วใครกันละที่ทำให้เขาต้องมีเรื่องเนี่ย? ก็คงไม่พ้นหญิงสาวตรงหน้าอยู่ดี!
“ ขอบคุณนะ ” แจ็คสันเอ่ยขอบคุณที่เขาเข้าไปช่วยออกมาจากห้องนั่น… ถ้าไม่ได้เขาหล่อนคงแย่
“ อืม มันเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว ” คิดเบือนหน้าหลบไปอีกฝั่ง เขาพูดโดยที่แทบไม่มองหน้าหญิงสาว
ราวกับว่าตอนนี้เขากำลังพูดคุยกับสายลม ทักทายกับดอกไม้บาน
ดวงตาสีบรั่นดีกลับมาจ้องมองหญิงสาวอีกครั้ง ต่อให้เกลียด ไม่พอใจแจ็คสันมากแค่ไหน… ตอนอยู่ในห้องนั่น…
หญิงสาวก็ไม่ควรได้รับ ไม่ควรพบเจออะไรเช่นนี้แน่
“ หาหมอเถอะ แจ็คสัน จิตใจเธอสำคัญกว่า ” คนที่ควรจะไปหาหมอควรเป็นหล่อนมากกว่าเขา
มือของเขานั้นไม่เป็นไร สองถึงสามสัปดาห์ก็คงหายสนิท เผลอๆอาจจะแห้งไวกว่านั้น ตามจริงเขาก็ไม่ทันได้สังเกตุ
กับร่างกายของตัวเองมากนัก มีแผลเล็กๆน้อยๆ รู้สึกตัวอีกทีแผลก็หายซะแล้ว…
“ ไม่เป็นไรหรอก ฉันชินแล้ว ” รอยยิ้มเล็กๆประดับบนใบหน้างาม ซ่อนความรู้สึกทุกอย่างไว้ใต้รอยยิ้ม
“ ชิน? ” หมายความว่าไง?
มันไม่ใช่เรื่องปกติที่ต้องเจอ แต่อีกคนพูดด้วยความเคยชิน ว่าชินแล้วอย่างนั้นหรอ?
แจ็คสัน ตลอดชีวิตของหล่อนเจอแต่เรื่องแบบนี้มาโดยตลอดอย่างนั้นหรอ?
ต้องเจอ ต้องผ่านมาอะไรมาบ้าง? กว่าจะหล่อหลอมให้หล่อนเป็นคนแกร่งแบบนี้?
เกิดคำถามที่ไม่อยากรู้คำตอบขึ้นมาในหัวของนักร้องหนุ่ม อยากรู้ ก็ใช่ เพราะกลัวคำตอบ เขากลัวว่าตัวเองจะรับไม่ไหว
หรือบางทีมันอาจจะเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจของหล่อน ราวกับว่าเขาได้ไปเปิดแผลเก่า ที่ใกล้หายดี
ของหล่อนขึ้นมาอีก ซึ่งก็เหมือนว่าบาดแผลของหล่อนนั้นยังไม่หายสนิทสักที
เกิดมาทั้งทีชีวิตเจอแต่พวกอยากสบาย ตามจริงก็ไม่มีใครอยากลำบากหรอก ดูอย่างหญิงสิ!
เปลืองตัว เปลืองร่างกายนิดๆหน่อยๆ ก็คุ้ม… เพื่อแลกมันมา เขาเห็นได้เยอะ เห็นได้บ่อยไป ตรงกันข้ามกับแจ็คสัน
บางทีเขาเองก็รู้สึกตกใจ หล่อนไม่ได้ใช้เรื่องของใบหน้า ความงาม รูปร่างอรชรของตนให้เกิดประโยชน์สักนิด
หรือจะเป็นทางลัดสู่ความสำเร็จใดๆก็ตาม
เรื่องนี้เขาขอชื่นชม
แต่อย่างว่า คนอย่างยูสทัส ไม่ได้ไว้ใจใคร หรืออยากจะไว้เนื้อเชื่อใจใครได้ง่ายๆ
ต่อหน้าของเขาหล่อนอาจจะปฏิเสธความความหวังดีของใครต่อหลายคน เพื่อยอมรับข้อเสนอของใครบางคน
เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ก็ย่อมมีความเป็นไปได้
อย่าให้ภาพความงดงาม ก็แค่เทพธิดาแห่งรักลอยลงมา ความน่ารัก ความสดใส มาลวงหลอกตา มาหลอกได้สิ!
( คิด : ยูสทัสนายต้องมีสติ! )
เสียงโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของคิดดังสนั่นท่ามกลางความเงียบ คิดใช้มือข้างที่ว่างเพื่อล้วงหยิบ
ออกจากกระเป๋ากางเกง เปรยตามองหน้าจอทัชสกีนก็เห็นว่าปลายสายเป็นแคลิเฟอร์ กดปุ่มรับสายแล้วพูดห้วนๆ
ตามนิสัยกึ่งหงุดหงิด
[ คาริบูถึงมือหมอแล้วนะ หมอถามว่ามันตกตึกสิบชั้นมาหรือไง? ] ปลายสายรายงานให้ฟังความคืบหน้า
“ ถ้าจะโทรมาบอกเรื่องไอ้เวรนั้นก็ไม่ต้อง! ” เขาไม่อยากฟัง! คิดเล่นงานคาริบูกระดูกกรามหัก ซี่โครงหักสี่ซีก
กระดูกต้นแขนขวาหัก แขนซ้ายตั้งแต่ศอกลงไปถงปลายนิ้วมือร้าวใช้การไม่ได้ชั่วคราว ต้นขาข้างขวาร้าวจนต้องเข้าเฝือก
อ่อน คาดว่ายากเกินกว่าจะฟื้นตัวคงใช้เวลาร่วมหกเดือน ยังไม่รวมกายภาพกว่าจะกลับมาเดินได้ตามปกติ
เหอะ สิบชั้นคงจะน้อยไปด้วยซ้ำ!
[ วันนี้คงต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน ฝากบอกอาพูด้วย ] แคลิเฟอร์ส่งน้ำเสียงเซ็งแซ่
ผ่านปลายสายอย่างไม่ปิดบัง เธอเองก็เซ็งเหมือนกัน หลังจากวางสายกับนักร้องหนุ่มก็ต้องโทร.ไปรายงานท่านประธาน
บริษัทอีก ซึ่งไม่หูแฉะก็หูชา กันไปข้างหนึ่ง
( แคลิเฟอร์ : แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม? )
“ นายการบูรอะไรนั่นจะเป็นอย่างไรต่อหรอ? ” แจ็คสันถามเสียงแผ่ว ไม่แน่ใจว่ากระบวนการทำงาน
ของบริษัทที่นี่จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร
คิดยกโทรศัพท์ในมือให้ออกห่างจากแจ็คสัน เพราะเกรงว่าฝ่ายปลายสายของเขาจะได้ยินถ้อยคำของหล่อน
ตามจริงแล้วหล่อนสมควรมีสิทธิ์เอ่ยปาก ถามคำถามเหล่านี้สิ!
[ ตำแหน่งของฉันเป็นแค่เลขาของท่านประธาน ทำอะไรมากไม่ได้ อย่างมากสุด ฉันก็รายงานเรื่องพฤติกรรม
ของเขาแก่เพื่อนร่วมงาน แล้วก็ขึ้นบัญชีแบล็คลิสซ์ไว้ ] นี่คือสิ่งที่เลขาอย่างแคลิเฟอร์จะทำให้ได้ [ ก็รู้สันดารของคาริบู
มันนะ มันต้องโพนทนาเรื่องของพวกเธอไปเรื่อย บางทีอาจจะไปใส่ไข่ตีสีเรื่องเพื่อความสะใจมากขึ้นเพื่อขายให้นักข่าว ]
และพวกนักข่าวก็จะแห่แหนกันมาทั่วทุกสารทิศ ไม่ว่าจะตึกที่ทำงาน บ้านช่องของนักร้องหนุ่มหน้าหยกมาดเท่
หรือจะนักร้องสาวสวยต่างค่าย
“ ใส่สีตีไข่ ” คิดแก้ให้ เพราะรู้สึกว่าแคลิเฟอร์ลิ้นเริ่มจะพันกันแล้ว
[ เออ นั่นแหละ เหมือนๆกัน แหละน่า แค่นี้ก่อนนะฉันต้องโทรหาท่านประธานอีก ] แค่ลิเฟอร์ต้องจำใจ
ตัดสายลง หากมีอะไรคืบหน้าเธอจะรีบโทรบอกเขาก่อนทันที แต่ตอนนี้เธอต้องรายงานเรื่องของวันนี้ให้ไอซเบิร์กรับรู้
เสียก่อน
ห้องพักระดับวีีวีไอพีของโรงพยาบาลแดรคูล โรงพยาบาลเอกชนขึ้นชื่ออันดับหนึ่งของเมือง
ให้การดูแลผู้ป่วยมาใช้บริการอย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะส่วนของห้องพัก ห้องเดี่ยวเพื่อความเป็นส่วนตัว แพทย์ พยาบาล
สแตนด์บายตลอดเวลาให้ญาติของคนไข้หายห่วง
“ สารรูปดูไม่จืดเลยวะ พี่ชาย ” ร่างท้วมอ้วนคล้ายไข่ไก่ ทรงกลม ผิวกายสีชมพู ดวงตาโหดเหี้ยมสีดำ
รอบดวงตาเห็นเส้นขอบสีดำชัดเบ้าตาลึก ริมฝีปากถูกเขียนด้วยลิปติกสีดำ หากสังเกตุเส้นผมของเขาดีๆไม่สิ
ด้านบนของศีรษะของเขามีกิ้งก่าสีเขียวสะท้อนแสงเกาะอยู่ คล้ายกับว่าเป็นทั้งทรงผมและสีผมเสมือนของจริง
รูปร่างของเขานั้นผิดจากพี่ชายแท้ๆที่กำลังนอนป่วยเป็นผักอยู่บนเตียง สายระโยงระยางเต็มไปทั่ว พร้อมเครื่องมือ
อุปกรณ์ทางการแพทย์ไหนจะแขนที่เข้าเฝือกต้องยกสูงไว้อีก สภาพพี่ชายยับเยินใบหน้าบวมฉึ่ง ผ้าก๊อซสีขาวพันแผล
นำมาพันใบหน้าไว้แน่น เว้นไว้เพียงแค่ดวงตา จมูกหายใจ แล้วก็ากที่พอจะหยอดน้ำข้าวต้มให้ทาน หรือไม่ก็อาหาร
จากสายยาง สภาพดูไม่จืดไม่ถูกผึ้งต่อยก็ต่อต่อยมาแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมให้เห็น!
มัมมี่รีเทิร์นชัดๆ
“ ไอ้เวรตัวไหนที่มันทำพี่ชายฉันละเนี่ย? หืมม์ ” โคริบูเอ่ยถามท่ามกลางความเงียบงัน
ในห้องพักมีเพียงแค่เขากับพี่ชายที่ยังนอนสลบไม่ฟื้นคืนสติ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับการตามหาคนทำร้ายพี่ชาย
คนอย่างน้อยชายคนนี้สามารถทำเพื่อพี่ชายของเขาได้เสมอ
“ เดี๋ยวก็รู้ ” โคริบูพูดสั้นๆ ใช้เวลาตามสืบไม่ยาก
เขามีพวกลูกน้องมากมาย พร้อมที่จะเล่นงานล้างแค้นคนที่มาทำร้ายพี่ชายของเขาได้อย่างสาสม กับที่มันได้ทำ
กับพี่ชายของเขาไว้!
“ อยู่ด้วยกันก่อนไหม? ถ้าวันนี้ไม่ได้ไปไหน ” คิดตัดสินใจเอ่ยปากชวน เอาจริงๆเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดเอ่ยปาก
ชักชวนหล่อนให้อยู่กับเขาต่ออีกสักพัก ใช้เวลาเรียนรู้อะไรๆซึ่งกันและกัน… ได้อีกหรือเปล่า หรือบางทีหล่อนอาจจะมีธุระ
จำต้องรีบไปไหนไหม? ภาวนาในใจขอให้อย่าได้มีเป็นอันขาด!
“ ? ” คนฟังถึงกับงง
“ วันนี้พวกฉันมีอัดรายการเพลง ก็เป็นรายการใหม่ของค่าย… ลองมานั่งฟังเพลงหน่อยไหมละ? ”
มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มให้หล่อนได้ทั้งดื่ม กิน ได้ทั้งวัน นั่นก็มาจากทางสปอน์เซอร์หลักของรายการ แล้วก็นั่งฟังเพลง
เพลินๆบางทีอาจจะลืมเรื่องร้ายๆ… ไปได้สักพัก ก็ยังดี
“ ก็เอาสิ ” แจ็คสันก็ตอบตกลงแบบง่ายๆ วันนี้เธอก็ไม่ได้ไปไหน อยู่นั่งฟังเพลงชิลๆสักเพลงสองเพลง
แล้วค่อยขอตัวกลับก็ได้ จะได้ไม่เสียน้ำใจคนชวน
คิดชวนให้แจ็คสันขึ้นลิฟท์แล้วก็พากลับลงสู่สตูดิโอที่สี่ ชั้นในการถ่ายทำ พวกวิคตอเรีย พั๊งค์ รออยู่กันเรียบร้อย
ทุกคนรอพร้อมถ่ายทำรายการ ส่วนแจ็คสันนั่งรอตรงที่ทางทีมงานได้จัดไว้ให้ในฐานะแขกของหนุ่มพั๊งค์
เป็นความแปลกใหม่ให้กับหญิงสาว การอัดรายการอันนั้นเคยไปแต่ก็ไม่บ่อยนักแค่โปรโมทเพลงเท่านั้น พวกเกมโชว์
วาไรตี้ อย่าได้หวังว่าจะเจอหล่อนตามรายการพวกนั้น สิ่งเดียวที่เหล่าแฟนๆจะได้เห็นผ่านตามก็ไอจี เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์
เหมือนว่าตอนนี้ทีมงานกำลังจัดแจงเตรียมเครื่องดื่มก่อนจะเริ่มงานด้วยซ้ำ ตากล้อง ช่างภาพ ช่างไฟ โปรดิวเซอร์
ทุกคนพร้อมหมดยกเว้นแต่…
“ พิธีกรวันนี้ยังมาไม่ถึงอีกหรอ? ” โปรดิวเซอร์หันไปถามทางทีมงานกลุ่มหนึ่ง ซึ่งนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์
ทุกคนส่ายหน้า ไม่แน่ใจว่าพิธีกรดำเนินรายการได้มาแล้ว ยังไม่มา หรือไม่มีใครรู้เลยกันแน่
พวกหนุ่มพั๊งค์เริ่มชนแก้วดื่มกันเรียบร้อย พูดคุยกันเรื่องของสคิปรายการ ส่งเสียงหัวเราะกันตามประสา
เหล่าทีมงานเริ่มเกรงกลัวกันว่าหากไม่รีบดำเนินรายการภายในตอนนี้ พวกหนุ่มๆคงได้เมากันก่อนจะเริ่มอัดรายการแน่ๆ
ทางเลือกสุดท้าย คงไม่ใช่ ทีมงานหันมาเห็นแจ็คสันที่กำลังมองดูนั่นนี่โน่น ให้ความสนใจกับรายการบนเก้าอี้
จากมุมมืดเพียงเงียบๆ ทางทีมงานจัดธีมแคมป์ปิ้ง รอบกองไฟ ทั้งด้วยรถตู้แวนสีขาวคลาสสิคจอดเก๋ๆเป็นฉากหลัง
ตั้งเตนท์สีขาว สีครีมออกแนวมินิมอล จัดตั้งไฟสีส้มเล็กๆ แบบระย้า เพื่อความสว่าง(นอกจากไฟสตู) ต้นไม้สีเขียว
แล้วก็มีติดป้ายของสปอนเซอร์ ไทน์อินสินค้าอย่างอื่นแบบเนียนๆ กองฟางสำหรับจัดมาให้นั่งครบตามจำนวนคน
ก็ไม่เลวนะ บรรยากาศน่านั่งเลยทีเดียว ทางทีมงานจัดซะเหมือนกำลังนั่งบนภูเขา ท่ามกลางป่าที่ไหนสักแห่ง
เหล่าทีมงานในห้องอัดขนาดกว้าง ทุกคนต่างพาหันไปมองแจ็คสันเป็นตาเดียว เจ้าตัวเริ่มรู้สึกถึงสายตาหลายคู่
จับจ้องมองมาทางหล่อน ใบหน้าสวยหันมองทุกคนกลับแล้วส่งรอยยิ้มมุมปากให้หนึ่งหน
แต่ไม่ใช่แค่มองนะสิ… พวกเขาพยักหน้าเป็นจังหวะเดียวกันอีกตังหาก!
“ อะไรหรอคะ? ” แจ็คสันที่ไม่ทันรู้เรื่อง รู้ความก็ถูกตัวแทนทางทีมงานผู้หญิงมาพูดคุยเอ่ยเชิญชวน
ให้แจ็คสันมาเป็นพิธีกรรับเชิญ ซึ่งคราแรกแจ็คสันก็เอ่ยปากปฏิเสธไปเพราะหล่อนไม่ใช่สายบันเทิง เหมาะสมกับบทผู้ชม
แต่ทางทีมงานเหมือนจะไม่ยอมแพ้ ถึงขั้นอ้อนวอนคุกเข่าให้หล่อนได้ช่วย “ นะคะ นะคะ นะคะ ”
“ คุณแจ็คสันเรียกค่าตัวมาได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับทางบริษัทให้ อีกอย่างเรื่องการถ่ายทำวันนี้
ทีมงานดำเนินการกันหมดแล้ว ไหนจะตากล้อง ช่างไฟ จะยกของกลับหมดเลยก็กลัวจะเสียเที่ยว ” เพราะทุกอย่าง
มีค่าใช้จ่าย แถมค่าใช้จ่ายก็ได้เบิกไปแล้วส่วนหนึ่ง หากไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันทางผู้จัดคงโดนบ่นยับ ไม่พอ
เรื่องของสปอนเซอร์อาจจะถอนตัวไปอีกก็เป็นได้
“ ตกลงค่ะ ” แม้ทีมงานจะไม่พูดในส่วนที่เหลือ แจ็คสันก็เข้าใจดี ตามจริงก็ไม่ใช่สิ่งที่หล่อน
ต้องมารับผิดชอบร่วม คนรับผิดชอบงานนี้ควรเป็นพิธีกรที่ได้รับค่าจ้างคนนั้นมากกว่า แต่ก็ไม่ได้เป็นการปิดโอกาส
ของตัวเองจนเกินไป “ แล้วฉันต้องพูดอะไร ตรงไหนบ้างละคะ? ” ทางทีมงานส่งสคิปให้ทันทีแล้วบรีฟกับแจ็คสันอีกครั้ง
ก็จะเปิดรายการด้วยการร้องเพลง แล้วก็พูดคุยถามเรื่องสารทุกข์สุกดิบกันไป ในสคลิปก็จะให้พูดถึงสปอนเซอร์เครื่องดื่ม
เพื่อนำมาเสิร์ฟให้กับหนุ่มพั๊งค์และพิธีกร ซึ่งก็เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เพิ่งวางขายในตลาด แล้วก็พูดคุยกันอีกเล็กน้อย
ร้องเพลงและจบรายการ
ซึ่งการอัดรายการตามที่ผู้ชมได้เห็นว่าสี่สิบห้านาที หนึ่งชั่งโมง ตามจริงแล้วเวลาในห้องอัดมากกว่านั้น
ทางทีมงานกลับไปตัดต่อให้ย่อย สั้นและกระชับ เพื่อรักษาเรื่องของเวลา
“ ฉันไม่คิดเลยว่าการเป็นพิธีกรรายการก็เหนื่อยเหมือนกันแฮะ ” แจ็คสันบอกกับตัวเองขณะเดินกลับลานจอดรถ
หล่อนบอกลาทีมงานทุกคนแล้วก็ขอตัวกลับออกมา การถ่ายรายการจบลง ทีมงานก็ชวนดื่มต่อ ซึ่งกว่าจะหลบออกมาได้
ไม่ต้องห่วงเรื่องเครื่องดื่มส่วนผสมล้วนแล้วแต่ไร้แอลกอฮอล์ (ม็อคเทลล้วนๆ) ในส่วนแจ็คสันเท่านั้นนะ
รับหมวกกันน็อคเต็มใบจากหน้าเคาน์เตอร์รับฝากของแล้ว ก็ออกมายังลานจอดรถ ในส่วนของมอเตอร์ไซค์
กลับมาที่บิ๊กไบค์คันโปรดของหล่อน วาดขาเรียวขึ้นไปนั่งคร่อม เตะขาตั้ง กดปุ่มสตาร์ท
เงียบกริบ
“ เอาใหม่อีกที ” แจ็คสันเป็นงง มอเตอร์ไซค์ของหล่อนนั้นสตาร์ทไม่ติด ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมไม่เสียบกุญแจละ
ก็นี่ไม่เสียบกุญแจแล้วมันจะติดหรอ? ขอตอบตรงนี้ติดจ้าเป็นกุญแจแบบคีย์เลส ข้อดีคือช่วยในเรื่องของความปลอดภัย
แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่ารถจะหาย ถูกขโมย
กดปุ่มสตาร์ทเครื่อง เงียบกริบ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มดุดันดังมาก่อนที่ตัวรถจะแล่นมาถึง แจ็คสันมองตามเสียงก็พบ Maserati MC20 สีดำวาว
แล่นเข้ามาจอดใกล้ๆ เขาลดกระจกลงช้าๆแล้วตะโกนเรียก
“ ขึ้นรถ ” คิดเห็นว่าหล่อนนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์นานเกินไปแล้ว หล่อนควรจะ สวมหมวกกันน็อค
แล่นรถออกไปทันที ไม่ใช่ยังอยู่ตรงนี้! “ มาเถอะน่า! ” ก่อนที่เขาจะพุ่งตัวลงไปคว้าหล่อนแล้วโยนขึ้นรถ!
ตั้งแต่มีเรื่องมีราวเมื่อวาน หล่อนควรจะระแวดดระวังตัวให้มากกว่านี้สิ ‘ขี่มาทำไมมอตอร์ไซค์เนี่ย!’ ไม่ขับเบนซ์มาละ?
“ เอ่อ ” แจ็คสันเลิ่กลั่ก
“ เร็วๆ ” คิดพยักหน้าเร่งให้แจ็คสันรีบตัดสินใจ ขึ้นมาบนรถของเขาตอนนี้ เวลานี้ วินาทีนี้
ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจ
เห็นดวงตาสีบรั่นดีของเขาทำให้หล่อนยอมลงจากมอเตอร์ไซค์อย่างจำยอม แล้วกลับมาขึ้นรถซุปเปอร์คาร์
ราคาแพงระยับ แค่ปิดประตูฝั่งคนขับได้ ฝ่าเท้าโตๆเหยียบลงบนคันเร่งทันที
“ ขอบคุณ ” เหมือนว่าเขาจะมาในเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือพอดี ‘เธอมาได้ทันเวลาพอดีราวกับรู้ใจ’
หล่อนกล่าวเมื่อขึ้นมาอยู่บนรถ วางหมวกกันน็อคเต็มใบลงบนตัก
“ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้หรือเปล่าละ? ” เหมือนว่าช่วงนี้
คิดจะได้ยินคำพูดคำนี้ของหญิงสาวบ่อยมาก บ่อยจนเกินไปแล้ว ตามจริงก็ยอมรับว่าหล่อนเป็นคนมีมารยาท
เข้าสังคมเป็น แล้วก็น่ารักน่าคบหา คิดสลับถอนฝ่าเท้าจากคันเร่งแตะเบรคเบาๆค้างไว้ หลังสัญญาณไฟจราจรสีแดง
“ ถ้าไม่ให้พูดขอบคุณแล้วจะเป็นอะไร? ” หญิงสาวกดปุ่มเปิดเครื่องทำงานตัวกล้องโกโปรจากบนหมวกกันน็อค
กดปุ่มยางเล็กเพื่อเปิดให้กล้องทำงานแล้วหันมองคู่สนทนา ยังไม่ทันได้มองสบตาริมฝีปากของหล่อนก็ถูกครอบครอง
คิดเคล้นคลึงริมฝีปากนุ่มด้วยความเดือดดาล ไร้การทะนุถนอมเกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นสากด้วยความช่ำชอง
ไม่ปล่อยให้หล่อนได้หายใจหายคอ เนิ่นนานหลายนาทีถึงยอมถอนจูบออกมา
แจ็คสันหอบแฮ่ก หายใจเข้าเต็มปอดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อครู่หล่อนแทบหมดสติคาอกเขา
ยังไม่ทันได้หายใจเข้าปอดลึกๆซ้ำสักสามหน คิดก็บดจูบจุมพิตอันป่าเถื่อนอีกรอบ
แจ็คสันทั้งดิ้นและขัดขืน ทั้งทุบทั้งตีลงบนร่างหนากำยำ มีแต่หล่อนเองที่เจ็บมือราวกับว่ากำลังใช้มือของหล่อน
ทุบลงบนหินแกรนิต หินแม็กม่า หินภูเขาไฟมีความแข็งขั้นสุด จนต้องยอมหยุดมือด้วยความเจ็บนั้นซะเอง
ไม่ทันไรสองมือของหล่อนก็ถูกเขารวบไว้ เพื่อไม่ให้ทำประทุษร้ายเขาได้อีก ดวงตาของหล่อนเริ่มพร่ามัว ความร้อน
แรงอันหฤหรรษ์ที่เขามอบให้
คิดขบเรียวปากเล็กเย้ายวน หญิงสาวเริ่มส่งเสียงร้องในลำคอด้วยความเจ็บระคนสยิว จมูกโด่งกดลงบนผิวเนียน
ตามซอกคอ เพื่อตามหากลิ่นหอมประหลาดชวนให้เขาผ่อนคลาย ลืมเรื่องทุกๆอย่าง มือหนาอีกข้างของเขาสัมผัส
ลงบนเสื้อฮู้ดดี้สีดำเนื้อดีบนตัวก็เป็นเสื้อของเขา เอวเอส หน้าท้องแบนราบ หากจะปลดถอดออกจากตัวหล่อน
เพื่อต้องการคืน
ความร้อนแรงจากฝ่ามือแทรกผ่านเสื้อผ้าเข้ามาสู่ผิวกาย สร้างความสยิวปั่นป่วนในช่องท้องอย่างรุนแรง
คิดบดจูบดุดันแทรกปลายลิ้นเข้าไปละเลียดชิมน้ำหวานในโพรงปากอ่อนนุ่ม มือหนาเลื่อนสูงขึ้นวางแหมะลงบน
ปทุมถันข้างหนึ่งพร้อมเริ่มกอบกุมเคล้นคลึงตามแรงอารมณ์ แม้นจะมีเสื้อผ้าบนตัวครบทุกชิ้น มอบความรู้สึกพิเศษ
จนคิดครางออกมาด้วยความพงพอใจ
“ อา ” เขาลากเสียงทุ้มต่ำ
“ ฮึก ฮือ ” เรียวปากบวมเจ่อจากการถูกจูบรุนแรง พอขยับเปิดแล้วเปล่งเสียงได้เล็กน้อย
ดูเหมือนว่าคิดจะไม่ยอมถอนจูบง่ายๆ ไฟแดงนี่ก็นานเหลือเกิน ไม่รู้ว่าจะติดอะไรนักหนาอธิฐานในใจ
ว่าอย่าได้มีขบวนเสด็จนั้นผ่านเส้นทางบนท้องถนน หากเป็นคนอื่นก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจกับรถติดแหง่กๆเป็นธรรมดา
แต่หากเป็นหล่อนแล้ว คงไม่รอดจากเสือร้ายตรงหน้าแน่ๆ
ว่ากันว่าผู้ชายเจ้าชู้มักเสียท่ากับให้น้ำตาของผู้หญิง ก็ลองดูสิว่าจะใช้ได้กับยูสทัสหรือไม่…
น้ำตาสั่งได้โดยไม่ต้องพึ่งน้ำตาเทียม ขอบตาของหล่อนเริ่มร้อนผ่าวภายในเสี้ยววินาทีราวกับสั่งได้
หากแจ็คสันเอาดีทางด้านการแสดงเล่นละครผ่านจอแก้ว นางเอกละครสาวสวยผมบ็อบดังอย่าง ซินดี้ ต้องยอมหลีก
ทางให้แน่!
“ ? ” คิดชะงัก ได้ยินเสียงสูดน้ำมูกฟืดฟาด ต้องเคลื่อนใบหน้าออกห่างระยะแค่คืบ
ร่างกายของหญิงสาวตัวสั่นเทาด้วยความกลัว หยาดน้ำตาหยาดแล้วหยาดเล่าเปราะเลอะบนใบหน้างาม คนเจ้าชู้เห็น
แล้วต้องยอมปล่อยมือ คืนอิสระให้แต่โดยดี
“ คุณจะปล้ำฉันอย่างนั้นหรอ? ” แจ็คสันค่อยๆขยับ มองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ ยกมือสองข้างขึ้นมาปิดลำตัว
กลัวว่าเขาจะฉีกเสื้อหล่อนขาดเป็นเสี่ยง
“ ไม่ใช่อย่างนั้น ” คิดพยายามจะอธิบายให้หล่อนได้เข้าใจ เขาแค่จูบหล่อนเฉยๆเท่านั้นเพื่อเป็นการตอบแทน
ที่เขาคอยให้ความช่วยเหลือ แต่หากได้อย่างอื่นเพิ่ม… เขาก็ไม่เกี่ยง
“ ฉันก็หลงนึกว่าคุณเป็นคนดี ไม่คิดเลยว่าคุณจะทำตัวเหมือนนายการบูรนั่น! ” แจ็คสันเริ่มตีโพยตีพาย
เล่นใหญ่ขึ้นไปอีก เพื่อให้อีกคนได้สำนึกผิด
“ ฉันขอโทษ ” แล้วดูสิ่งที่หล่อนนำไปเปรียบเทียบ เปรียบเขากับคาริบูนั่น!
แค่ชะงักไม่พอความชั่วช้าสามานต่ำตมขนาดไหน ถึงทำกับหล่อนได้ลงคอ ยิ่งแจ็คสันเจอเรื่องเมื่อเช้าก็ไม่ใช่เรื่องดี
เขายังไปซ้ำเติมลงบนรอยแผลที่เดิมคงจะไปสร้างความทรงจำแย่ๆนั้นให้มากกว่า ดังนั้นจึงต้องรีบชิงจังหวะขอโทษ
“ คุณต้องบอกขอโทษร้อยครั้ง ปฏิบัติ! ” ราวกับเป็นสาวในเครื่องแบบสั่งการ เพื่อให้เขาและหล่อนได้ใจเย็น
“ อะไรกัน แค่จูบเองนะ ใครๆเขาก็จูบกันทั้งนั้นแหละ หรือว่าไม่เคย? ” คิดบ่ายเบี่ยงที่จะขอโทษ
เขามองว่าเป็นอะไรที่ไร้สาระ ขอโทษร้อยครั้งนี่นะ? ตลกน่า! “ อายุก็… ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ” เขาหรี่ตามอง คาดเดาพูดต่อ
“ ก็… เคยอ่ะ แต่ไม่ถูกจู่โจมแบบนี้! ” โดนเขาไล่บี้ พูดความจริงทีถึงกับไปไม่ถูก พยายามคุมเสียงของตนให้ปกติ
แล้วแสร้งเฉไฉไปอย่างเนียนๆ อีกอย่างใครจะไปกล้ายอมรับละ ก็ใช่ นั่นคือจูบแรกของหล่อนนั่นแหละ ถูกเขาช่วงชิงไป!
“…” คิดตีหน้านิ่งแล้วเสใบหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถ รอยยิ้มประดับบนใบหน้าลูกรักของประเจ้า
จูบแรกหรอ?
ก็ดีสิ!
“ ขำอะไรคุณ? คุณต้องขอโทษฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ” แจ็คสันเห็นว่าเขาแอบยิ้ม ซึ่งต้องเป็นการหัวเราะเยาะหล่อนแน่
จึงถือโอกาสนี้เอาคืนเขากลับ ให้เขาได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปเมื่อครู่
“ ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ ” คิดยอมทำตามแต่โดยดี เพื่อจะได้จบเรื่อง ส่วนแจ็คสันจัดแจงเสื้อผ้า ผมเผ้าให้เข้าที่
“ ไม่เอาแล้ว ฉันย้ายไปนั่งเบาะหลังดีกว่า ” แจ็คสันทำท่าปีน ขยับตัวย้ายที่นั่งของตัวเองไปทางด้านหลัง
ดวงตาสองข้างถึงกับเปิดกว้างเมื่อได้เห็นว่ารถของเขาไม่มีเบาะหลังเหมือนที่คาดไว้ “ รถบ้าอะไรโคตรใจแคบเลย! ”
ซุปเปอร์คาร์ที่ขับไม่สิ ไฮเปอร์คาร์ของเขา ราคาหลักยี่สิบล้านแต่นั่งได้สองคน! โคตรไม่มีน้ำใจเอาเสียเลย
เบนซ์จีคลาสที่หล่อนขับ ราคาถูกกว่าเกือบเท่าตัวแถมนั่งกันได้เกือบทั้งครอบครัว!
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” คนใจแคบหัวเราะลั่นกับท่าทางของแจ็คสัน ท่าทางที่กำลังจะปีนไปด้านหลังต้องกลับมานั่งที่เดิม
แถมยังส่งเสียงกระจองอแงแบบเด็กๆ คิดยิ่งส่งเสียงหัวเราะดังขึ้นอีกระดับ
เอ็นดูนะ!
ก็เอ็นดูจริงๆนั่นแหละ ไม่ต้องผวนแต่อย่างใด!
สัญญาณไฟจราจรเปลียนสี สีแดง สีเหลือง หยุดที่สีเขียว คิดถอนฝ่าเท้าออกจากเบรค เปลี่ยนไปเหยียบลงคันเร่ง
Maserati MC20 แล่นทะยานพุ่งตรงไปด้านหน้าด้วยความเร็วปกติตามที่ทางกฏหมายควบคุม เส้นทางที่เขาใช้
ก็เป็นเส้นทางที่คิดขับรถตามไปส่งแจ็คสันที่คอนโดมิเนียม
เลี้ยวขวาข้างหน้าแล้วก็ตรงยาวๆ เมื่อถึงสี่แยก…
“ คุณขับรถอันตรายจัง ส่งฉันลงข้างหน้าเถอะคะ ” แจ็คสันเริ่มกลัว ไม่รู้ว่าเขาจะพาหล่อนไปไหน
อาจจะพาไปฆ่าหมกป่าข้างทางก็ได้ หล่อนบอกแถมยังขยับตัวเพื่อไปปลดล็อคบานประตูตรงแผงปุ่มควบคุมไฟฟ้า
ฝั่งด้านข้างคนขับ
แต่จังหวะไม่ได้เอื้ออำนวยอย่างที่ใจหวัง คิดหักพวงมาลัยรถหลบมอเตอร์อีกคันแล่นเข้ามา
แจ็คสันไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยจึงเกิดเสียหลัก ใบหน้างามๆถึงนาบลงตรงสู่ความเป็นชายของคิดพอดิบพอดี!
“ ฮื้ม ใจเย็นหน่อยคุณ ” แค่ส่งมือมาแตะมาจับพอให้สยิว แต่นี่เล่นมาทั้งมือ ทั้งหน้า ทั้งปาก คงหิวกล้วยน่าดู!
ปากก็ว่าแซวแต่มือหนาๆของคิดตรึงท้ายทอยเล็กๆของหญิงสาว ให้ใบหน้าสวยนาบลงหว่างขาค้างไว้
ทรวงอกมหึมานั้นเบียดกับต้นขาแข็ง ปลุกเร้าอารมณ์ให้กับคิดอย่างมาก
“ กิซาโอะ! นี่คุณ! ” O//O จงใจแกล้งอย่างนั้นหรอ? แจ็คสันพยายามใช้มือแตะตรงอื่นที่ไม่ใช่ร่างกายของคิด
ใบหน้าเนียนถึงกับเปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ดยิ่งกว่าปัดบลัชออนผิดเบอร์ ถึงใบหู! หน้าหล่อนไม่ได้แค่แนบโดน…
เขายังขยับ…ตรงนั้นเบียดหน้าของหล่อนเข้าไปอีกระดับ
กำลังจะอ้าปากตำหนิ แต่ก็ต้องยั้งปาก ปิดปากของตัวเองไว้แน่นเม้มปากเส้นตรงแถมยังหลับตาปี๋!
ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น!
ครั้งนี้เขาทำเกินไปแล้วนะ!
“ ก้มไว้ก่อนฉันจะหยิบปืน ” เพื่อให้หล่อนได้เข้าใจ เขาไม่มีเจตนาอย่างที่หล่อนได้คิดอกุศล
ดวงตาสีบรั่นดีมองเห็นว่าแมง'ไซค์บิ๊คไบค์ไม่สวมป้ายทะเบียนโฉบมาเมื่อครู่ไม่ได้เข้ามาแบบหยอกๆ แต่มาด้วยความจงใจ
ดังนั้นการที่เขาจะหยิบอาวุธเพื่อป้องกันตัวจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
“ แต่ ชายน้อยของคุณมัน… ” ถ้าจะหยิบปืนจากช่องเก็บตรงหน้าของฝั่งด้านข้างคนขับ ก็ควรจะบอกหล่อนสิ
ไม่ใช่มาแกล้งกันแบบนี้!
“ หยาบคาย แบบนี้ไม่น่าเรียกน้อยแล้วนะ ” เอื้อมตัวหยิบปืนมาอยู่ในมือได้ เขาก็ปล่อยคืนอิสระให้แจ็คสัน
หล่อนคงเจอ ได้กินแต่อันกระจิ๋วหลิว แค่พริกเม็ดเล็กๆเช่น พริกกระเหรี่ยง เผลอๆแค่ข้อนิ้วก้อน เลยไม่ได้รู้จักกับพริก
ฮาลาเปนโญ่ ขนาดอ๋วบอั๋นใหญ่บึ๊กแถมแน่นเท่านิ้วกลาง ( Jalapeño อ่านว่า ฮา-ลา-เปน-โย)
“ ถ้าไม่ให้เรียกว่าชายน้อยจะให้เรียกว่าอะไร? ขอเป็นคำสุภาพนะ ” แจ็คสันรีบดักคออีกคน ก่อนที่เขาจะพรั่งพรู
แต่ละคำออกมา ซึ่งก็ไม่แน่ว่ารีดเดอร์ยังคงจะอ่านต่ออยู่ไหม แต่เดาว่าคงต้องกากบาทแล้วปิดหน้านิยายนี้ทิ้งแน่ๆ
“ ยักษ์ ดุ้นยักษ์ ท่อนซุง มังกร ” คิดไล่เรียงคำพูดดีให้กับหญิงสาวฟัง ซึ่งก็ไม่ใช่คำหยาบคายแถมสามารถ
พูดได้ในสาธารณะ
“ เว่อร์! ถ้าถอดกางเกงมาแล้วสี่สิบเก้านะ เก็บกลับเข้าไปเถอะ! ” เห็นมาเยอะแล้วพวกที่บอกว่าใหญ่
บอกว่าบิ๊กไซส์ ราคาคุยกันทั้งนั้น! พอเอาเข้าจริงหนอนผีเสื้อ หนอนไหม หนอนบุ้ง!
“ ทำไมละ? สี่สิบเก้าเขาก็มีหัวใจนะ อย่าไปว่าเขาสิ! ” อย่าบูลลี่สี่สิบเก้า! อย่าบูลลี่น้อง!
ขอพื้นที่ให้คนเบอร์เล็กหน่อย! ด้วยความห่วงใจจากคนไซส์เกินมาตรฐาน
“ ทำไม ร้อนตัวหรอ? ” โดนเขาแหย่มาตั้งแต่แรกเริ่มขึ้นรถ ถึงตอนนี้หล่อนได้ทีและเอาคืนอย่างสาสม
“ ฉันก็แค่ออกมาเรียกร้องให้สี่สิบเก้า ในฐานะที่ฉันเป็นผู้ชายเฉยๆด้วยกันเท่านั้น ” เขาไม่ได้คิดอะไรซับซ้อน
เหมือนที่หญิงสาวกำลังคิดอยู่ตอนนี้ก็ได้ “ สี่สิบเก้าก็ทำให้จุกนะ… ต่อยท้อง เตะซ้ำ ” คิดพูดเสียงนิ่ง ยกกำปั้น
ข้างที่ถือปืนให้เห็นว่าหมัดล้วนๆเพียวๆ ตามจริงเขาก็ไม่ค่อยได้ต่อยคนด้วยมือเปล่าหรอก แต่โปรแกรมการออกกำลังกาย
ของเขามีการต่อยมวยไทย ซึ่งก็เป็นการออกกำลังกายทั้งลำตัว ก็ต้องสวมนวมต่อยกับเป้าล่อของครูฝึก ไม่ว่าหมัด เท้า
เข่า ศอก ซึ่งการสวมนวมก็เป็นการลดแรงของเขา นวมยิ่งหนายิ่งต้องออกแรงเพิ่มมากขึ้น
คงเป็นเพราะเขาต้องการผลลัพธ์ที่ดี
สวมนวมด้วยความหนา น้ำหนักปอรด์เท่ากับนักมวยมืออาชีพ บางทีก็หนากว่าเพื่อการออกกำลังกายที่ดียิ่งขึ้น
แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ใช้ในชีวิตจริง เขาเรียนต่อยมวยเพื่อออกกำลังกาย ไม่ได้ใช้เพื่อทำร้ายร่างกายใคร ส่วนมากพวกนั้น
เข้ามาหาเรื่องก่อน เขาจึงป้องกันตัวกลับเท่านั้น!
“ ไม่ต้องเตะซ้ำหรอกค่ะ แค่ต่อยท้องฉันก็จุกจะแย่ ” แถมไม่ได้ลุกขึ้นสวนกลับด้วย!
ว่าแล้วก็สวมหมวกกันน็อคครอบศีรษะของตัวเอง เผื่อเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อครู่อีก อย่างน้อยใบหน้าของหล่อน
หรือว่าจะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ก็ไม่ไปถึงลูกถึงคนกับเขา!
“ ดูจากทรงแล้ว ฮืมมม ก็น่าจุกอยู่หรอก ” ดวงตาทรงสเน่ห์แฝงความร้ายกาจปราดมองหญิงสาวข้างกาย
พินิจพิจารณาบางอย่าง แล้วลากเสียงในลำคอ ยิ่งคำพูดกำกวมสองแง่สามร้อยง่ามอีก “ ผู้หญิงส่วนมากก็ชอบ
อะไรที่มันแบบว่าใหญ่ๆ จุกๆ คงจะรู้สึกฟินดี… ” เท่าที่เขาสังเกตุ คู่เซ็กส์ของเขามักมีความสุขอิ่มเอม
กับสิ่งที่เขาปรนเปรอให้ทั้งขนาด แรงดันและจังหวะลีลารักอันสุดร้อนแรง ไม่มีกล้าปฏิเสธสักราย!
“ อ่ะ หรือว่าไม่จริง? ” เขาคาดคั้นเอาคำตอบ
“ ก็ไม่ได้ชอบอะไรใหญ่ๆจุกๆหรอกค่ะ เรื่องขนาดก็ไม่ได้สำคัญหรอก สี่สิบเก้าฉันก็ไม่ติด ขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายมากกว่า
ว่าทำเป็นหรือเปล่า? ” ไหนๆก็มาสุดทางแล้ว แจ็คสันเองก็ยั่วอารมณ์เขาให้เต็มที่!
“ ทำเป็นหรือเปล่า… มันก็ต้องลองดู รับรองว่าติดใจชัวร์… อย่าได้ร้องพร่ำเรียกหาทุกคืนเชียวนะ ” เตือนแล้วนะ!
ตอนนี้คิดอาจจะยังไม่… แต่เขามั่นใจว่าส่วนขนาดใหญ่ตรงกลางลำตัวของเขาคงได้ทำให้หล่อนได้จุกสมใจแน่ๆ
อาจจะนานเสียหน่อยแต่เขาก็รอได้ และคุ้มค่าที่รอด้วย!
“ อื้อ หืมม์ แขวนหลวงปู่มั่นหรือไงกัน? ” มั่นเว่อร์! ไปเอาความมั่นใจผิดๆแบบนั้นมาจากไหนกัน?
“ แจ็ค! หลบ! ” หางตาข้างซ้ายของเขามองไปยังหญิงสาว จังหวะเดียวกับที่มอเตอร์ไซค์คันเดิมแล่นตามมาประกบ
คราวนี้มันชักปืนสีดำมะเมื่อมติดลำกล้องเก็บเสียง ปลดเซฟตี้ ส่งปลายกระบอกมาทางเขา คิดส่งมือขวาจับด้านศีรษะ
แจ็คสันแล้วออกแรงกดให้หล่อนก้มหน้าลงต่ำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
กิ๊ง!
ลูกตะกั่ววิ่งผ่านลำกล้อง ตัวเก็บเสียง ทะลุผ่านกระจกด้านข้างคนขับ เฉียดหัวของแจ็คสัน เข้ามาในห้องเครื่องทะลุออกไป
ด้านคนขับ แจ็คสันยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นแล้วเพียงแค่หันตามเสียงของบางอย่างเคลื่อนด้วยความไว มองไม่เห็น
ด้วยตาเปล่า ใช่ กระจกฝั่งที่หล่อนนั้นทะลุ ด้านฝั่งคนขับด้วยเช่นกัน
“ กิซาโอะ ระวัง! ” เงยหน้าขึ้นมาเห็นว่ามีรถบรรทุกสิบล้อ อีกคันแล่นเข้าประสานงา
คิดหักพวงมาลัยเพื่อเบี่ยงหลบ ฝ่าเท้าโตค่อยๆเหยียบเบรคเพื่อลดความเร็ว หากเหยียบเบรคแรงๆด้วยความตกใจ
รถอาจได้พลิกคว่ำ
“ เวรเอ๊ย! ” คิดอุทาน หลบสิบล้ออีกคันได้ เจอกับรถบ้านอีกคันบนถนนอีกเลน โชคดีที่อีกฝ่ายเข้าซ้าย
วิ่งช้าด้วยความเร็วไม่เกินแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง
คิดหักพวงมาลัยอีกครั้งแล้วตัดสินใจดึงเบรคมือ เพื่อให้รถของเขากระแทกกับบางอย่างเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว
โดยเขาเลือกฝั่งที่จะให้ด้านข้างของคนขับ เป็นส่วนรับแรงกระแทกทั้งหมด ตัวรถกระแทกแบริเออร์ข้างทางเต็มแรง
เขาที่คาดเซฟตี้เบล์ทรับแรงกระแทกทั้งหมด ครั้งเดียวรถจะหยุดหมุนทันที!
Maserati MC20 สีดำวาววับเสียหลัก คิดหักพวงมาลัยให้ฝ่ายคนขับกระแทกแบริเออร์ข้างทางเต็มแรงหนึ่งหน
ความแรงของรถนั้นเหมือนจะเบาลง เขาขยับตัวกางแขนขวาออกมาจนสุด ขยับตัวจากที่นั่งเพื่อบังร่างของแจ็คสัน
หล่อนไม่ได้คาดเซฟตี้เบล์ท ตัวคงลอยไปกระแทกกับคอนโซลหน้ารถ ไม่ก็ไหลลงไปด้านล่าง หนที่สองกระแทกกับต้นสน
ริมทางอีกที รถกำลังพลิกหงาย พลิกคว่ำ ตีลังกายวนไปมาหลายตลบ ราวกับอยู่ในเครื่องเล่นเฮอริเคนในสวนสนุก
ถ้าไม่หัวแตก ปากก็ฉีก เสี้ยวเวลาความเป็นความตาย แม้แจ็คสันจะสวมหมวกกันน็อคเต็มใบป้องกันใบหน้า
แต่คนขับก็ยังอดห่วงผู้ร่วมทางมาด้วยไม่ได้อยู่ดี แอร์แบ็คทำงานอย่างอัตโนมัติถุงลมสีขาวพองฟูฟ่องกระเด้งออกมา
จากพวงมาลัยรถ คอนโซลด้านหน้าข้างคนขับซัพพอร์ตอีกแรง ความรุนแรงนั้นกระแทกใบหน้าของคิดเต็มแรง
สติของเขากำลังเรือนราง ตามจริงก็เลือนรางข้างขมับกระแทกเข้ากับฝั่งบานกระจกแถมเจอถุงลมนิรภัยซ้ำอีก
ดวงตาสีบรั่นดีกำลังหลุบต่ำลงทีละนิด จนกระทั่งภาพทั้งหมดดับไปทุกอย่างย้อมด้วยสีดำ
ตู้ม
Maserati MC20 พลิกคว่ำร่วงหล่นริมแม่น้ำริมทาง รถยนต์หรูค่อยๆจมตัวลงสู่ก้นแม่น้ำด้านล่างอย่างรวดเร็ว
เฮียคิดไม่แผ่วจริงๆ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
เขาจูบกันแล้วพี่จ๋าาาาา /ป้องปากตะโกน
จะรอดกันไหมละเนี่ยคู่นี่???
ด่ากันไป ด่ากันมา ตีกันตลอดทางอีก เอาใจช่วยกันในตอนถัดไปนะครับบบ
โปรดติดตามตอนต่อไป…
9 ต.ค.2565
ตอนนี้ก็ยาวหน่อยน้า เพราะชิวจะกลับไปปั่น [Fic: One piece] Dr. Feel Good. อีกเรื่อง
ให้จบภายในเดือนนี้ครับ ไม่แน่ใจว่าจะได้กลับมาอัพตอนต่อไปอีกทีตอนไหน… ก็อ่านยาวๆกันไปพลางๆก่อนนะ
ความคิดเห็น