ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic: One Piece] Drop D. จูนเสียงหัวใจ อย่างไรก็ใช่ 'เธอ'

    ลำดับตอนที่ #5 : Drop D. : Nothing feels better than this.

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 65


     

     

     

    เนื้อหาในตอนนี้เต็มไปด้วยพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะทางเพศ  ภาษา การใช้ความรุนแรง

     หากนักอ่านท่านใด ไม่สะดวกที่จะอ่านต่อสามารถกดกากบาทมุมขวาปิดได้ครับ

     

     -PR30+ 

            ไป! ไปตามมาอีกสามสิบคน! 

                    เอ๊ย! หากอายุยังไม่ถึงก็กดปิดออกไปก่อนนะ อายุถึงค่อยกลับมาใหม่! 

     

     

    - Nothing feels better than this.

     

     

    เขามีแต่กินอิ่มนอนหลับ!

     

     กินทันที ขรี้ทันควัน!

     

    แต่สำหรับคิดแล้ว… กินอิ่มได้ออกแรงทันทีทันใด!

     

    คงเป็นเพราะการตัดสินใจของเขาแม่นยำ แถมยังไม่เคยผิดพลาด แม้แต่ครั้งเดียว!

     

                หรือถ้าเป็นหวย… ก็คงรางวัลที่หนึ่ง! 

     

    ร่างสูงโปร่งเลยสองเมตรกับอีกนิดกำลังเดินตาม โดยเว้นช่วงระยะห่างให้กับหญิงสาวผมบรอนด์ทอง

    เส้นผมยาวสลวยคล้ายเกลียวคลื่นของท้องทะเลกำลังพริ้วไหวดุจแพรไหม ยิ่งสะท้อนกับแสงไฟนีออนเหนือศีรษะ

    จากลานจอดรถ  คล้ายเกลียวคลื่นทะเลยามค่ำคืนซัดเข้าชายฝั่งจนถึงสะโพกกลมกลึง เพรียวยายาวสลักเสลา 

    ตามจังหวะแรงก้าวเดินสับขาอย่างว่องไว แทบห้ามส่งมือออกไปลูบไล้เส้นผมนั้นไม่ไหว 

     

    เสียงของท่อรถมอเตอร์ไซค์บาดลึกยันลำไส้ดังขึ้นหนึ่งหน แล่นผ่านร่างของคิดล่วงหน้าไปก่อนหนึ่งคัน

    ขับเดี่ยวเข้าใกล้จงใจเบี่ยงแฮนด์รถสี่สูบเกือบจะชนหญิงสาวให้กลิ้งกระเด็นไปให้พ้นทาง มันคงหวังจะเล่นหล่อนทีเผลอ

    จุดประสงค์หลักเพื่อชิงกระเป๋าสะพายคาดอก…

    “ แว้ก! ” หล่อนส่งเสียงร้องด้วยอารามตกใจ รู้สึกเหมือนว่ามีบางอย่างกำลังกระชากกระเป๋าคาดอก

    แจ็คสันเบี่ยงตัวหลบแถมยังส่งมือเล็กสองข้าง ฉุดข้อมือกระชากคนร้ายให้หล่นล่วงลงมาจากมอเตอร์ไซค์

     

    ก็ให้มันไปเลยสิ แล้วจะไปดึงมันลงมาทำไมวะ?

     

    ชีวิตมันไร้ค่า ไร้ราคา น้อยกว่ากระเป๋าใบเดียวขนาดนั้นหรือไง?

     

    คิดได้เห็นดังนั้นถึงกับต้องกุมขมับ แทนที่หล่อนจะโยนกระเป๋าให้พวกมันไปซะก็สิ้นเรื่อง โยนไปไกลๆให้ห่างจากตัว

    เอาตัวรอดจากตรงนี้ให้ได้ก่อน ของในนั้นช่างมันก็ได้มั้ง!  ไม่ตายก็หาได้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ?

    มือวิ่งราวนั้นถึงกับร่วงจากมอเตอร์ไซค์เสียหลักล้มลงอย่างไม่เป็นท่า มอเตอร์ไซค์ที่ขี่มาพุ่งเข้าชนกับรถยนต์จอดนิ่ง

    ในลานกว้าง เกิดเสียงร้องแกปากแสบแก้วหูจากสัญญาณกันขโมยลั่น สนั่นลานจอดรถ

    “ ไอ้เวร! ” หล่อนสบถออกมาแล้วหวดเตะด้วยขาซ้าย เข้ากลางอกของอีกฝ่าย 

    มือวิ่งราวนั้นสวมชุดดำ หมวกกันน็อคเต็มใบ เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบ นอนจุกอยู่บนพื้น

    ก็ยังมิวายยอมปล่อยมือจากกระเป๋าของหล่อน จำต้องเตะซ้ำสองง้างเต็มขาหวดเต็มแข้งเข้าไปอีกที

    พลั่ก!

    มันก็ยอมปล่อยมือ ราวีจากกระเป๋าของหล่อน แจ็คสันยังพอมีสติล้วงมือหยิบกุญแจรถออกมา ยังไม่ทันให้กดปุ่ม

    เพื่อปลดล็อครถยนต์ อาศัยจังหวะอีกไม่กี่วินาทีวิ่งหนีขึ้นไปบนรถแล้วขับหนีออกจากลานจอดแห่งนี้

     

    ร่างสูงโปร่งสองเมตรกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหา คว้าต้นแขนเรียวของหล่อนไว้แน่น ประสาทการได้ยินของเขา

    ได้ยินเสียงท่อรถมอเตอร์ไซค์แสบแก้วหูของเด็กแว้น เด็กเซ้ปป่วนกวนเมืองราวสามคัน หันไปมองต้นตอของเสียงก็พบว่า 

    มากันสองคันซ้อนท้ายมากันอีกคันละสองคน  

    “ รีบขึ้นรถไปซะ แล้วก็ไม่ต้องลงมา เป็นไปได้ขับออกไปเลยยิ่งดี  ” ร่างของคิดเข้ามาประกบแจ็คสันทางด้านหลัง

    เขาคว้าต้นแขนเล็กๆของหล่อน เสียมารยาทแย่งกุญแจรถจากมือของหล่อนมาอยู่ในมือเขา แล้วกดปุ่มปลดล็อคประตู

    อัตโนมัติ 

     

     “ ดีที่อยู่ไม่ไกล ” คิดเปิดบานประตูฝั่งคนขับ แล้วผลักร่างของแจ็คสันเข้าไป “ ล็อครถซะ! ” เขาสั่ง

    เมอร์เซเดส-เบนซ์ จี-คลาส จีสามร้อยห้าสิบ สีน้ำเงินเข้มใกล้ตัวแถมคอยบังไม่ให้คนอื่นได้เข้ามาทำร้ายหญิงสาว

     

    ส่วนที่เหลือเขาจัดการเอง!

     

    แก๊งมอเตอร์ไซค์อีกสองคันเข้าจอดห่างจากรถของแจ็คสันเล็กน้อย พวกมันตวัดขาลงจากมอเตอร์ไซค์

    พร้อมด้วยอาวุธเช่นไม้เบสบอลไม้เหล็ก ลูซิลล์(ก็ไม้เบสเบลแต่ติดออฟชั่นเสริมพิเศกว่านั้นคือตะปู ลวดหนาม 

    พันตั้งแต่ส่วนปลายด้านบนเกือบถึงส่วนกลางของด้ามจับ ซึ่งก็สามารถสร้างความเสียหายได้พอสมควร) 

    อาวุธครบมือตามที่พวกมันนั้นถนัดใช้ในการก่อเหตุ 

     

    ฉากต่อไปนี้อาจจะเห็นได้จากนิยายรักหวานแหววทั่วๆไป แต่ยกเว้นกับฟิคชั่นของไรท์ชิว!

     

    “ เก่งจังกับพวกผู้หญิงเนี่ย! ” คิดแค่กระดิกปลายนิ้วมือธรรมดา เป็นเชิงอนุญาตให้อีกฝ่ายดาหน้ากระดานเรียงสี่

    เข้ามาได้อย่างเต็มที่! จะใส่เดี่ยวหรือมาหมู่เขาก็ไม่เกี่ยง! ขอให้พวกมันได้เข้ามา มาใกล้ๆ อีกนิด!

    แม้อีกฝ่ายจะสวมหมวกกันน็อคเต็มใบ คิดหวดกำปั้นซัดเข้าส่วนบริเวณใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มแรง

    ส่วนกระจกสำหรับปิดบังใบหน้าถึงกับแตกกระจุยเพียงแค่หมัดเดียว ลามไปถึงส่วนข้างแก้ม ใบหน้าของมัน

    โดนหมัดของคิดไปเต็มๆ มีอาการวิ้งเห็นดวงดาวนับสิบลอยเหนือหัว ไม่ทันไร คิดจัดหนักประเคนกำปั้นหนักๆ หมับเข้าให้

    ไม่ว่าจะชายโครงซ้าย หวดเตะต้นขาเล่นอีกฝ่ายถึงกับเฟืองแตกเสียหลักล้มลง คิดจัดการเตะด้วยหลังเท้าอัดเข้าปลายคาง

    อีกฝ่าย แม้จะแค่หนเดียว

    ผลั๊วะ!

    ร่างของมันกระเด็นตามแรงแล้วนอนแน่นิ่งในทันที 

     

    นี่แค่คนแรกนะ แจ็คสันถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกใหญ่ หากเป็นศัตรูกับคนอย่าง ‘ยูสทัส คิด’ คงรู้จุดจบแน่

    สภาพศพอาจจะไม่ค่อยสวยนัก แต่พอเขามาช่วยอยู่ฝ่ายเดียวกับหล่อนแล้วรู้สึกถึงความปลอดภัยและโล่งใจ

      

    ร่างกายสูงโปร่งไม่ได้เทอะทะ เคลื่อนไหวกายได้ช้า จะกลายเป็นเป้านิ่งอย่างที่เข้าใจ 

    กลับกันเขาเคลื่อนไหวร่างกายอย่างว่องไว 

    คนต่อไปที่ก้าวขาเข้ามาด้วยความไม่กลัวตาย คิดไม่สนเลยว่าอีกฝ่ายจะสวมหมวกกันน็อคเป็นเกราะป้องกันส่วนหัว

    ส่งมือขวากระชากส่วนปลายคางใต้หมวกกันน็อคให้มันเข้ามาใกล้ มือซ้ายทุบท้ายทอยทีเดียวเล่นสลบเหมือดคาที่

     

    และต่อจากนี้จึงเกิดการชุลมุนรุมกินโต๊ะเกิดขึ้น

    พวกมันกวัดแกว่งอุปกรณ์ในมือ แล้ววิ่งกรูกันเข้ามาราวกับกองทัพแมลงสาบกำลังเห็นแหล่งอาหารชั่นเลิศตรงหน้า

    คิดโยกตัวหลบในท่วงท่าสบายๆ คิดจับอีกคนอ้อมมาทางด้านหลังออกจากจากบ่าไหล่ เพื่อยกร่างนั้นลยวืดกลางอากาศ

    แล้วจับทุ่มไปทางด้านหลัง แผ่นหลังของมันกระแทกพื้นเต็มแรงดังโครม ถึงกับต้องนอนหลังแอ่นอยู่บนพื้น

    ไม่หักก็ร้าว ราวกับว่าเป็นกิ้งกือถูกน้ำร้อนลวก หมดสิทธิ์ลุกขึ้นมาต่อสู้

    แจ็คสันทนมองดูการต่อสู้จากบนรถไม่ไหว กดโทรศัพท์บนจอทีชสกรีน โทร.ออกเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

    พูดคุยไม่กี่คำสายก็ถูกตัด

    “ ไม่ได้การละ ” แจ็คสันเห็นอีกฝ่ายล้วงมีดออกมา เมื่อรู้ว่าไม้เบสบอลพวกนั้นคงใช้กับคิดไม่ได้ผล

    ตามจริงไม้หน้าสามด้วยเช่นกัน ถ้าจะเล่น กดคนอย่างเขาลงแล้วละก็… หนทางเดียวน่าจะเป็นลูกปืน!

    แจ็คสันสตาร์ทรถมองกระจกส่องหลังติดตรงกลางเพดานรถในระดับสายตา พอคำนวณได้ว่าอยู่ในระยะของรถ

    ไม่เสียเวลาเข้าเกียร์ดี เหยียบคันเร่งเต็มแรงเพื่อเดินหน้าเต็มกำลังกระแทกร่างของอีกฝ่ายอัดเข้ากับเสาขนาดใหญ่

     จากนั้นเข้าเกียร์พีค้างไว้ รีบลงจากรถเพื่อช่วยเหลือคิด อันที่จริงไม่ต้องช่วยก็ได้ละมั้ง… 

     

    เสียงร้องโหยหวนดังมาจากนอกรถระงม ปนเสียงร้องขอชีวิต

     

    คิดโยนร่างของคนสุดท้ายลงกระแทกกับพื้นคอนกรีต ราวกับเป็นของเล่นหมดประโยชน์ ไร้ความหมาย

    การต่อสู้ชกต่อยเพียงแค่นี้ยังไม่พอหนำใจ พวกมันน่าจะยกโขยงพาพวกกันมาอีกนับสิบคนน่าจะดี! 

    หรือจะมากกว่านั้นก็ได้!

     

     

    “ ลงมาทำไม? แล้วทำไมไม่ขับรถออกไป? ” สิ่งแรกที่คิดถาม หลังเห็นว่าแจ็คสันลงจากลง

    แถมตรงดิ่งมาทางเขา

    “ เป็นอะไรหรือเปล่า? ” แจ็คสันกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาดูอาการ

    “ เป็นหมอหรอ? ” คิดยืนเท้าสะเอวทั้งสองข้างแล้วมองหน้าหล่อน นี่หล่อนถามเขาหรือถามถึงพวกมัน?

    “ ป่าว เป็นห่วง ” ดวงตาสีขนนกพิราบจ้องมองมือทั้งสองข้าง เนื้อตัวของเขา มันเปื้อน… โชกไปด้วยเลือด

    “ เหอะ ห่วงตัวเองก่อนดีไหม? จะห่วงพวกมันก่อนก็ได้นะ ” คนอย่างยูสทัส… ไม่มีอะไรน่าห่วง

    “ แต่มือคุณแตก ทำแผลก่อนเถอะ ” แจ็คสันเห็นว่าหลังมือของเขาเกิดรอย จึงส่งมือของตนเองเข้าไปจับ

    มือของเขาขึ้นมา ซึ่งก็เห็นรอยถลอกอย่างชัดเจนแถมรอยบาดซึ่งก็น่าจะเป็นฟันของอีกฝ่าย บาดเข้ากับหลังมือทั้งสองข้าง

    พาเขาไปที่หลังรถ เปิดกระตูท้ายรถเพื่อหยิบกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมเล็กๆออกมา ด้านข้างมีสัญลักษณ์รูปบวกสีแดง

    พื้นหลังวงกลมสีขาว ซึ่งเห็นแล้วก็รู้เลยว่ากระเป๋า กล่องยาแน่ แจ็คสันพาเขานั่งลงตรงท้ายรถแล้วทำแผล

    เริ่มจากน้ำเกลือ ราดบนแผลตรงๆ ใช้ผ้าก็อตเช็ดบริเวณปากแผลให้แห้ง หยิบคอตตอนบัดเล็กๆเหยาะยาฆ่าเชื้อ

    ใส่ตรงปลายไม้สีขาว แตะตรงบริเวณปากแผลเบาๆ

    “ รีบกลับไปเถอะคุณ เดี๋ยวตรงนี้ฉันจัดการต่อเอง ” คิดเห็นว่าบาดแผลของเขามันก็ไม่ได้แหวะหวะ

    หวาดเสียวอะไรมากนัก ถึงขั้นต้องให้หมอลอว์ จากโรงพยาบาลดรัมเจ็บให้ สองถึงสามสัปดาห์ก็คงจะหายสนิทดี 

    เสียงของรถหวอติดไซเรนแล่นเข้ามาจอดเรียงรายทั้งหน้าและหลังของพวกเขา

    รถสีดำมีสกีนลายด้านข้าง ตำรวจ ในท้องที่ มาถึงหกคัน ด้านหน้าอีกสาม ด้านหลังอีกสามคัน พวกเขาเปิดประตูรถลงมา

    ชายหนุ่มสวมชุดเครื่องแบบตำรวจก็ดีแล้วก็ชุดนอกเครื่องแบบมากันเพียบ ซึ่งไม่แน่ใจว่านี่มากันทั้งสน. เลยหรือเปล่า

    รถควบคุมตัวผู้ต้องหาแล่นตามมาสมทบตามด้วยรถพยาบาลอีกสองคัน 

    “ งี้ละ ยิ่งกว่าละครไทย ตำรวจมาตอนท้ายทุกที ” แต่เอาจริงๆไม่ถึงสิบนาทีหลังจากเกิดเรื่อง

    ตำรวจก็แห่แหนเข้ามาบุกจับ หญิงสาวนางพยาบาลจำเป็นของเขาควรกลับไปแต่เนิ่นๆ เพราะอีกไม่นาน

    เหล่าบรรดานักข่าวจมูกไว ได้ตามมาแน่และหน้าของพวกเขาทั้งคู่ก็จะเด่นหน้าบนปกหนังสือพิมพ์ทุกฉบับของวันรุ่งขึ้น!

    คิดนั่งนิ่งคิดในใจ หลังจากแจ็คสันกลับไป เขาจะไปให้ปากคำกับร้อยเวร ลงบันทึกประจำวันก็ได้ที่ตำรวจสถานี 

    เป็นลำดับถัดไป แล้วก็ดำเนินคดีพวกไอ้เวรนี่ตามกฎหมาย อาจจะรอสืบสวนเรื่องที่มันดักทำร้ายเพื่อขยายผลอีกนิดหน่อย

    “ สวัสดีคะ ผู้กองสโมคเกอร์ ฉันมีเรื่องรบกวนอีกแล้วนะคะ ” แจ็คสันเอ่ยทักทายอีกฝ่าย 

    โค้งตัวเบาๆทำความเคารพผู้ชายผมสีดอกเลามีอายุตรงหน้า แม้จะอยู่ในชุดนอกเครื่องแบบเขาก็สวมตราประทับ

    ของเจ้าหน้าที่ตำรวจคล้องอยู่บนลำคอ โชว์ให้เห็นตรงแผงอกกว้างกำยำ

    “ กลับกันไปได้เลยนะ เดี๋ยวตรงนี้ฉันจะสานต่อเอง ” สโมคเกอร์บอกกับแจ็คสัน และผู้ชายร่างโตะตรงหน้าเขา

    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวชายชุดดำขึ้นไปบนเปลสนามของรถพยาบาล อย่างน้อยต้องดูแลเรื่องอาการบาดเจ็บ

    สวมกุญแจมือไว้กันว่าจะเกิดการหลบหนีระหว่างทาง หลังจากนั้นก็จะไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ

    เพื่อนำมาเป็นหลักฐาน พิจารณาของคดี

    “ ขอบคุณค่ะ ” แจ็คสัน กล่าวขอบคุณผู้กองคนสนิท เขาหันหลังเดินกลับไปสั่งการกับผู้ใต้บังคับบัญชา

    แจ็คสันแกะพลาสเตอร์ยาแปะลงบนแผลหลังมือหนาเบาๆ แถมเป่าเบาๆอีกเพี้ยง 

    “ แผลจะได้หายไวไว ” อาจจะลงมนต์วิเศษเผื่อให้บาดแผลของเขาหายโดยเร็ววัน คิดหลุดหัวเราะออกมา

    ท่าทางอ่อนต่อโลกของเด็กไร้เดียงสาจากหญิงสาวตรงหน้า 

     

    “ ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะคะ ” ตอนนี้ดวงตาของหล่อนทั้งสองข้างแทบจำปิดตัวลง

    อิ่มหนำพุงกางจากอาหารที่เพิ่งทานเข้าไป ก็ใช่ เพราะของฟรี หนุ่มๆทั้งสี่ แย่งกันจ่ายอีกตังหาก!  

     ตรงกับคำว่า อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ! 

     

    “ อืม ” คิดแค่พยักหน้า หญิงสาวควรจะกลับบ้านไปได้แล้ว

    เขาขยับตัวลงจากท้ายรถของหล่อน แล้วออกไปยืนให้พ้นจากทิศทางการถอยรถ เนื่องจากนำร่างของชายชุดดำ

    ซึ่งติดอยู่ตรงหันชนหน้ารถออกมาด้วย

    เมอร์เซเดส-เบนซ์ จี-คลาส จีสามร้อยห้าสิบ สีน้ำเงินเข้มแล่นผ่านร่างของเขาไป ส่วนคิดเองก็กลับไปที่รถของเขา

    ก็ไม่ได้เดินไกลมากนัก เชื่อเถอะว่ารถของเขาจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรถของหล่อน! 

    ที่จอดรถสำหรับซุปเปอร์คาร์ 

     

    Maserati MC20 สีดำวาววับ ขุมพลังหกร้อยสามสิบแรงม้าพุ่งทะยานสู่ราตรีกาล 

    มาเซราติสั่งทำพิเศษสำหรับยูสทัส คิด เพียงแค่คันเดียวในโลกกับออฟชั่นสุดแสนจะพิเศษล้ำกว่าใครบนโลก

    อัตตราการเร่งความเร็วตั้งแต่ศูนย์ถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตร ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสามนาที ไม่ทันไรมาเซราติของนักร้องหนุ่ม

    สุดฮอตก็ไล่ตามหันไฟท้ายหลังรถเบนซ์ จี-คลาสทัน

    คิดกดฝ่าเท้าโตๆเหยียบลงบนคันเร่งตาม โดยไม่กลัวว่าหญิงสาวที่กำลังถูกสะกดรอยตามนั้นจะรู้สึกตัว

    ฟิล์มกระจกรถสีทึบแทบมองไม่เห็นด้านใน หากมองจากด้านในออกไปด้านนอกได้อย่างสบายๆ เพราะเจ้าของรถ

    ต้องการความเป็นส่วนตั๊ว ส่วนตัว!

     

    แจ็คสันหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าคอนโดสุดหรูใจกลางเมือง เหมือนปกติทุกวัน ผ่านป้อมยามทางด้านหน้า

    วนรถไปทางด้านหลังของตัวตึกที่ตนพัก ขับรถขึ้นชั้นจอด สอดส่องสายตา ทั้งซ้าย ขวา เพื่อมองหาที่จอดรถใกล้ๆ

    กับทางเดินขึ้นลิฟท์ 

    “ โชคดีจัง ” ได้ที่จอดรถเดินใกล้ๆกับตัวลิฟท์

    หักเลี้ยวพวงมาลัยรถเพื่อทำการตั้งลำ เป็นเส้นตรงทั้งล้อหน้า ล้อหลัง แล้วถอยรถเข้าซอง เปลี่ยนเกียร์ไม่เกินเจ็ดครั้ง

    เข้าเกียร์พีค้างไว้แล้วก็ดึงเบรคมือ จากนั้นก็ดับเครื่อง หยิบสัมภาระเช่นกระเป๋าคาดอก กระเป๋าเครื่องสำอาง

    เพื่อนำไปทำความสะอาดหลังจากผ่านการใช้งาน 

    ล็อครถเรียบร้อย เช็คโดยการดึงที่จับบานบนประตูตัวรถซ้ำอีกหน ล้วงหยิบคีย์การ์ด

    เพื่อทำการขึ้นลิฟท์กลับห้องพักส่วนตัว 

    หมดแล้วหนึ่งวันของแจ็คสัน

     

     แผ่นหลังเล็กๆของแจ็คสันหายเข้าไปในส่วนของอาคาร ลิฟต์โดยสารของคอนโดมิเนียนสุดหรูหรา

    คงพาหล่อนกลับขึ้นห้องพักได้อย่างปลอดภัย คิดคงไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของหล่อน

    เขาเลี้ยวรถหา แล่นตาเพื่อหาที่จอดเงียบๆในมุมมืด จ้องมองแจ็คสันลับสายตาไปแล้ว 

    ดวงตาสีบรั่นดีหลุบตาต่ำลง เงยใบหน้าขึ้นมองเพดานของรถยกแท่นแขนข้างขวาพาดวางลงบนดวงตาเพื่อต้องการพัก

    สายตาแม้เพียงชั่วครู่

    ตักแข็งทั้งสองข้างรู้สึกถึงการกดทับบางอย่างจนคิดรู้สึก น้ำหนักตัวไม่ได้มากมายก็พอเดาได้ว่าเป็นหญิงสาว

    นั่งคร่อมอยู่บนตัก หันหน้าเข้าหาเขา เปิดเปลือกตามองก็พบหญิงสาว เจ้าของเรือนผมสลวยคล้ายเกลียวคลื่นถึงสะโพก

    ใบหน้างดงามหล่อนนั้นไร้เครื่องสำอางประทินโฉม ดวงตาสีเทาชวนให้จับจ้องสบตา ขนคิ้วเรียวโก่ง

    โค้งสวยรับกับใบหน้ารูปไข่  จมูกโด่งเป็นสันตรงปลายเชิ่ดขึ้น ริมฝีปากอวบอิ่มคล้ายเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงกุหลาบสด

    คิดประทับริมฝีปากหยักนาบลงบนริมฝีปากของหล่อนอย่างแผ่วเบา อาศัยสกิลความช่ำชองเปิดปากเรียวเล็กให้อ้ากว้าง

    มากขึ้นผลักลิ้นเล็กสู้กับลิ้นใหญ่อย่างไม่ลดละ  เสียงคำรามทุ้มต่ำยังดังต่อเนื่อง จากลำคอหนาคล้ายกำลังบอกว่าถูกใจ

     คิดเคลื่อนริมฝีปากหยักจูบลงบนปลายคางมน ลำคองามระหง เส้นไหปลาร้าผุดจากผิว ร่องอก

    ส่งสองมือหนาขยำหน้าอกไซส์เอ็กซ์แอลผ่านบนเสื้อวงดนตรี Guns and Roses หนักเบาสลับตามแรงอารมณ์

    เริ่มรู้สึกว่าเสื้อผ้าตัวบางๆกำลังขวางกั้นความสุข จัดการฉีดขาดเป็นสองส่วนใหญ่โยนทิ้งไปอย่างไม่สนใจเรื่องราคา

    บราเซียร์สีดำตัดกับผิวเนียนละเอียดก็ถูกปลดลอยล่องตามไปติดๆ เหลือเพียงแค่ร่างเปลือยเกือบเปล่า แพนตี้สีดำอีกตัว

    ซุกใบหน้าลงบนทรวงอกกลมกลึง ขบเม้มลงบนปลายยอดชูชันสีหวานส่งเสียงจ๊วบจ๊าบ

    ด้วยความตระกละตระกราม เคลื่อนฝ่ามือกอบกุมออกแรงเคล้นจนเนื้อเหลวปลิ้นทุกร่องนิ้วทั้งสิบ เสียงหวานครวญคราง

    เสนาะแถมแอ่นอกรับการเล้าโลมและลูบไล้ลงบนเอวคอดกิ่ว หุ่นทรงนาฬิกาที่เขาโปรดปราน หน้าท้องแบนราบ 

    สะโพกงอนเด้ง ต้นขาเรียวเล็กเปิดอ้าออก กดกลางลำตัว ลงช้าๆ เพื่อให้คิดได้รับสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มคล้ายกำมะหยี่ 

    โอบรัดรอบแก่นกายยามฝากฝังตัวไว้ในร่างของหญิงสาว ยิ่งหล่อนขับเคลื่อนตัวอยู่บนกายหนา บึกบึนเต็มไปด้วยมัดกล้าม

    ได้รูปในส่วนที่เร่งจังหวะขึ้นทีละนิด ทีละนิด 

    “ อ่าห์ ” คิดเปล่งคำรามในลำคอเสียงทุ้มต่ำอย่างพึงพอใจ ปล่อยให้ภาพในจินตนาการของแจ็คสัน

    แล่นอยู่ในหัวของเขาต่อ แม้เป็นเพียงแค่ความจินตนาการของเขาล้วนๆ คิดเองก็ขอให้ตัวเขาอยู่กับความมโน

    อย่างนี้อีกสักพักเสพสมกับร่างกายบอบบางอ้อนแอ้นนุ่มละมุนไปทุกส่วน พอสมดั่งใจหมายแล้วเขาก็เลื่อนรถ 

    เพื่อออกจากซองจอดมุมมืดของลานจอดรถ เหยียบฝ่าเท้าโตลงบนคันเร่ง พุ่งทะยานซุปเปอร์คาร์ราคาแพงระยับ

    สู่ถนนคอนกรีตอีกครั้งเพื่อเร่งเครื่องยนต์กลับคอนโดฯ ระดับซุปเปอร์วีวีไอพีเพื่อทำการพักผ่อน

     

     

     

    ชิวคงสโลแกนเดิมนะครับ

              คิดต่างเชิญทางอื่น แต่ถ้า ‘คิด’ หื่นเชิญทางนี้!

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป….

    2 ต.ค. 2565

     

    ว่าจะไม่ๆ อยู่แล้วเชียว! (ตีมือตัวเองดังเพี๊ยะ) 

     ตอนแรกก็บู๊ แอ็คชั่นเท่ๆอยู่หรอก แต่พอมาตอนท้าย อะฮื้ออออ เปลี่ยนมู้ดกันแทบไม่ทัน!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×