คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Say : One step closer.
- One step closer.
“ แบบนี้ต้องฉลอง เรียวตะจัดห้องเสวยเร็วเข้า ” เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วโอยามาดะใช้ฝ่ามือดันใบหน้าคาโอรุ
ให้ออกห่างจน หล่อนเสียหลักล้มลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้ากับพื้น โอยามาดะกำมือชูแขนขึ้นกลางอากาศทั้งสองข้างเหมือนเด็กๆ
กำลังดีใจได้ของเล่นทำนองนั้น โทบิรามะได้แต่ทำหน้างงกับท่าทางของโอยามาดะ
“ ได้ไงอ่ะ ?” คาโอรุถามอย่างงุนงง เพราะดูจากทรงแล้วว่าโทบิรามะก็ไม่อยากแต่งงานกับหล่อนด้วย
คิดว่าโทบิรามะจะจากไปทิ้งหล่อนไว้กลางดงระเบิด เข้ามาเยาะเย้ยตามนิสัยคนชอบแกล้งและจากไปเหมือนพวกตัวร้าย
ในหนัง ทว่าอยู่ดีๆโทบิรามะก็ตอบตกลงแต่งานซะอย่างนั้น ไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ!
ก่อนจะตกลงปลงใจหรือพูดออกอย่างนั้น โทบิรามะตริตรองแล้วก่อนจะตัดสินใจ
ในชีวิตจริงโทบิรามะพบปะผู้คนมามากมาย ตั้งแต่ คนงานก่อสร้าง บรรดาพ่อค้าแม่ขายติดต่อสินค้านำเข้าจากต่างแคว้น
จนกระทั่งไปถึงท่านเจ้าเมืองหรือท่านไดเมียว เขาสามารถมองคนออกภายในไม่กี่วินาที(ในที่นี้หมายถึงอุปนิสัย ใจคอ )
โทบิรามะมองโอยามาดะครั้งเดียวก็รู้แล้วว่า โอยามาดะมีบางอย่างคล้ายกับฮาชิรามะเหมือนกัน
ดูภายนอกเป็นคนสบายๆ เหมือนจะเป็นคนไร้แก่นสานสาระหรือไม่เอาจริงเอาจังสักอย่าง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อพวกคนแนวนี้
เป็นที่พึ่งหัวหน้าได้ดีเยี่ยมให้กับทุกคนได้ดีเชียวละ
และคาโอรุ...แตกต่างจากผู้หญิงที่เขาพบได้ทั่วไปอย่างมาก หล่อนไม่มีสายตายั่วยวน
เชิญชวนในการมองเขาสักอย่างไม่มีรอยยิ้มไม่มีการทักทาย ไม่มีกระทั่งแม้แต่จะพูดจาดีๆ ปราดตามองครั้งแรก
ก็ดูออกแล้วว่าคาโอรุมีนิสัยใจคอเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย รักพวกพ้อง ใส่ใจแม้กระทั่งโทบิรามะ
คาดว่าในส่วนลึกของจิตใจหล่อนเป็นคนดีมีจิตใจอ่อนโยน ยกตัวอย่างเช่น
“ ก็ได้ ท่านพี่ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ข้าไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเขา เขามาที่นี่ในฐานะอะไร เขาอาจจะมีลูก เมีย
รออยู่ที่บ้านก็ได้ ข้าไม่อยากเป็นคนไปแย่งไปทำลายครอบครัวของคนอื่น ” เขาจำคำพูดของคาโอรุได้อย่างแม่นยำ
ราวกับกินขนมปังช่วยของโดราเอมอนจำอย่างนั้น โทบิรามะไม่ได้ตั้งใจแอบฟังสองพี่น้องคุยกัน
แค่เข้าไปอยู่ในวงสนทนาด้วยเท่านั้นเอง เพียงเท่านี้ก็แสดงให้ออกแล้วว่าหล่อนเป็นคนมีนิสัยส่วนตัวแบบไหนกัน.
ที่สำคัญไปกว่านั้น เขาไม่ชอบอะไรที่มันได้มาง่ายๆ
“ ข้าก็เป็นกังวลว่าคาโอรุจะเป็นโรคจิตเสียอีก ”
“ โรคจิต? ”
“ ใช่ ข้าเคยคิดว่าคาโอรุจะสวมเสื้อโค้ทตัวเดียวแล้วเข้าไปในเมือง ไปหาสาวน้อยหน้าตาน่ารักๆ
เปิดเสื้อให้ดูเสียอีก ” แม้คาโอรุจำต้องทำงานร่วมกับผู้ชายมากหน้าหลายตา ดูเหมือนคาโอรุจะไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ
โอยามาดะไม่เคยได้ยิน คาโอรุพูดถึงผู้ชายคนไหนด้วยซ้ำ กลับพอมีนางในวังหรือแม่บ้านตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเดินผ่าน
คาโอรุมักจะมักจะมีท่าทีเขินพวกนางซะอย่างนั้น แล้วจะให้คนเป็นพี่อดห่วงไม่ได้หรืออย่างไรกันเล่า?
“ ฮ่า ฮ่า ” โทบิรามะหลุดขำกับความคิดของโอยามาดะ
“ ข้าพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า? ”
“ ไม่หรอกท่านโอยามาดะ เรื่องแต่งงานสำหรับผู้หญิงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ” โทบิรามะบอก
“ ข้าลืมไปเสียสนิทเลย ” โอยามาดะลืมคิดไปเลยด้วยซ้ำ ถ้าโทบิรามะไม่ได้บอกก็คาดมันไม่ถึง
ภรรยาสาวของโอยามาดะมักจะพูดถึงเรื่องเสื้อผ้าและพิธีการในงานแต่งบ่อยครั้ง เธอพยายามจับคาโอรุ
ใส่ชุดแต่งงานด้วยสิ ซ้ำยังกำชับกับโอยามาดะอีกว่าต้องให้คาโอรุเตรียมตัวได้แล้ว ไม่ว่าจะเสื้อผ้าหน้าผม
หรือซ้อมพิธี(ที่ไม่มีเจ้าบ่าว)ไปก่อนก็ยังดี
โทบิรามะกระพริบตาช้าๆ เขากลับไปคิดถึง ‘เธอ’ อีกแล้ว ภาพของหญิงสาวเส้นผมสีแดงยาวสลวยถึงเอว
เจ้าของดวงตาสีมรกต และรอยยิ้มแสนหวาน ขึ้นมาในทันที
“ ท่านพ่อฮะ ผมจับท่านพ่อได้แล้ว ” เด็กชายตัวน้อยโผวิ่งเข้ามากอดขาโอยามาดะแน่น
“ ผมก็จับได้เหมือนกัน ”
“ ผมด้วยฮะๆ ”
“ เอาล่ะลูกลิงพ่อมีแขกนะเบาๆกันหน่อย ” โอยามาดะหันไปบอกบุตรชายทั้งสามคนอย่างอ่อนโยน
“ ท่านพ่อฮะได้เวลาอาหารแล้ว ท่านแม่บอกให้ท่านพ่อพาแขกไปด้วยฮะ ”
“ ทานอาหารร่วมกันนะท่านโทบิรามะ ” โอยามาดะหันมาชวนแล้วเดินนำโทบิรามะไปยังห้องอาหาร
อีกฝั่งของห้องทำงาน
เมื่อมาถึงห้องอาหารโอยามาดะแนะนำให้โทบิรามะได้ทำความรู้จักกับ กิโกะ ภรรยาสาวคนสวยกิโกะ
มีเส้นผมสีดำยาวสลวย รวบขึ้นอย่างเรียบร้อยแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าทันสมัยสวมชุดคลุมท้องสีสันสดใส
แฝงไปด้วยความเรียบร้อย
โทบิรามะร่วมวงทานอาหารพร้อมกับโอยามาดะและครอบครัว เขาหันไปมองเก้าอี้ด้านข้างแล้วรู้สึกแปลกใจ
คาโอรุไม่ได้มาร่วมวงทานอาหารด้วย
“ วิถีคนผอมของคาโอรุเขาหน่ะ ”
“ ที่รัก อย่าไปแซวน้องแบบนั้นเดี๋ยวคาโอรุมาได้ยินหรอกค่ะ ” กิโกะภรรยาคนสวยตักเตือน
“ มาสิให้มาได้ยินไปเลยนี่มันเวลาครอบครัวนะ แทนที่จะอยู่กินข้าวพร้อมหน้ากันให้ตายสิ
คาโอรุไม่ได้เรื่องเลยแย่จริงๆ ” โอยามาดะจัดชุดใหญ่มาเต็ม
“ อาหารเย็นชืดแล้วคะที่รัก ” กิโกะใช้ตะเกียบในมือคีบไข่หวานยัดใส่ปากโอยามาดะ เพื่อให้เขาหยุดพูด
แล้วทานอาหารเสียที อีกอย่างก็เกรงใจโทบิรามะรอทานข้าวพร้อมกันด้วย
มื้ออาหารได้จบลง กิโกะพาลูกลิงทั้งสามไปอาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอน โอยามาดะชวนโทบิรามะไปดื่มต่อ
ที่ห้องทำงานของเขาตั้งแต่ช่วงเย็นของวันยันเกือบสามทุ่ม
“ ท่านโทบิรามะ ข้าหมักเบียร์เองเลยนะ ลองชิมหน่อยไหม? ”
“ ท่านหมักเลยเรอะ ไหน ฉันต้องลองชิมหน่อยแล้วละ ”
โอยามาดะนำเบียร์ที่ได้หมักมาเจัดแจง รินให้เบียร์ใส่แก้ว นั่งคุยไปจิบกับโทบิรามะหลายเรื่อง พลางโขกหมากรุก
ลงบนกระดานไม้ โทบิรามะสังเกตได้ว่าโอยามาดะดื่มเบียร์หมดไปเป็นลัง แต่สติยังครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ขาด ไม่เกิน
ถือว่าโอยามาดะก็คอแข็งเหมือนกัน หมากรุกยังไม่ทันได้จบเกม โอยามาดะบอกให้โทบิรามะไปพักผ่อนเพราะว่าวันนี้
เขาเจอเรื่องมาเยอะจนเหนื่อยเกินไป ยังกล่าวขอโทษโทบิรามะด้วยว่าเขารั้งตัวโทบิรามะไว้จนดึก
“ หัวหน้าเรียวตะติดธุระ กระหม่อมฮินาตะท่านสามารถเรียกใช้บริการเอ้ย
เรียกใช้กระหม่อมได้ตลอดเวลาฮะ” หนุ่มน้อยหน้าสวยพาโทบิรามะไปส่งที่หน้าห้องพัก ไม่ได้พามาส่งอย่างเดียว
เขายังแบกกระเป๋าของโทบิรามะไว้บนบ่าด้วย
“ ขอบใจนะ ” โทบิรามะกล่าวเมื่อมาถึงหน้าห้องพัก
“ ราตรีสวัสดิ์ฮะ ” ฮินาตะส่งกระเป๋าบนบ่าคืนเจ้าของแล้วโค้งตัวกล่าวลา
“ เช่นกัน ” โทบิรามะมองฮินาตะเดินจากไป ครั้งแรกที่เห็นฮินาตะเ ขาคิดว่าเป็นเด็กหญิงคนสนิท
ของคาโอรุ พอมองอีกทีฮินาตะก็เป็นเด็กชายบอบบาง ถ้าไม่ทันสังเกตลูกกระเดือก ข้อมือ โทบิรามะก็อาจจะเข้าใจผิด
ไปก็ได้ โทบิรามะเข้าห้องพัก เขากวาดตามองไปรอบห้องเพื่อสำรวจห้องเล็กๆขนาดแปดเสื่อ เครื่องปรับอากาศ
ตู้เสื้อผ้า โคมไฟเล็กๆ ที่นอนปิกนิกสำหรับนอนคนเดียว โต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆ ห้องน้ำในตัวเล็กๆไม่มีประตูมีเพียงแต่ม่านใสสีขุ่น
กั้นไว้เท่านั้น โทบิรามะไม่เรื่องมากอยู่แล้วขอแค่มีที่นอนให้ก็พอ เขาวางกระเป๋าในมือลงเดินเข้าไปเปิดผ้าม่านดู
บรรยากาศภายนอก
สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาบ้างแล้ว คาดว่าราตรีนี้ฝนยังตกลงแบบไม่ลืมหูลืมตาอีกแน่
โทบิรามะถอดเสื้อบนตัวออกทันที ย่างเท้าเข้าไปในห้องน้ำมันต่างกันลิบลับข้าวของเครื่องใช้ ในห้องน้ำมีครบครัน
ไม่ว่าจะสบู่ ยาสระผม ครีมนวดผม ไดร์เป่าผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ไหมขัดฟัน น้ำยาป้วนปาก มีดโกนหนวด
ครีมโกนหนวด เกลือสปาขัดผิว ครีมบำรุงผิวต่างๆ วางเรียงรายให้ โทบิรามะได้เลือกสรร
เขาพร้อมจะทำความสะอาดร่างกายและเข้านอนในเวลาถัดมา
คาโอรุกลับมาจากการสำรวจป่าเหมือนเช่นเคย หล่อนมุ่งหน้าตรงไปหาโอยามาดะในห้องทำงาน
เรียวตะนั่งอยู่นอกห้องบอกว่าโอยามาดะคุยธุระกับโทบิรามะอยู่ คาโอรุไม่อยากเข้าไปขัดให้เสียเวลา
หล่อนบอกกับเรียวตะว่า จับพวกกองกำลังนินจาของหมู่บ้านคิริงาคุเระนับได้ทั้งสิ้นห้าร้อยนาย
และต้องการคำตัดสินว่าจะทำอย่างไรกับพวกนินจาพวกนั้นดี ?
เรียวตะเป็นคนรับเรื่องไว้และจะสานต่อให้ บังเอิญโอยามาดะเปิดประตูออกมาส่งโทบิรามะพอดี
หลังจากฮินาตะพาโทบิรามะไปพักผ่อนแล้ว คาโอรุรีบแจ้งเรื่องให้โอยามาดะทราบในทันที
“ ข้าจับพวกนินจาคิริงาคุเระได้อยู่ที่ชายป่าด้านหลังเขา ”
“ ดีมากคาโอรุ ”
“ แล้วจะทำอะไรต่อดีล่ะ? ”
“ ข้าจัดการต่อเอง เจ้าก็มาเหนื่อยๆดื่มนี่ซะก่อนสิ ” โอยมาดะยัดแก้วเบียร์สดใส่มือคาโอรุเฉยเลย
โอยามาดะรู้ดีว่าคาโอรุคออ่อนจะตาย หลอกกินเบียร์ชิมเหล้านิดหน่อย ก็คอพับหลับไม่รู้เรื่องแล้ว
ฮินาตะรับอาสาพาคาโอรุมาส่งห้องพักอย่างทุลักทุเล อาจจะเป็นเพราะความสูงของฮินาตะ
ห่างจากคาโอรุด้วยทำให้เกิดข้อเสียเปรียบ
“ นี่มันไม่ใช่ทางไปห้องข้าหนิ ” คาโอรุท้วง
“ หัวหน้าโชเฮย์เข้าไปฉีดปลวกที่ห้องนอน รบกวนท่านคาโอรุไปพักอีกห้องเถอะฮะ ”
“ แล้วมาฉีดอะไรตอนนี้เล่า! ” คาโอรุโวยวาย
“ แหะ แหะ ” ฮินาตะหัวเราะแห้งๆ ใส่ไม่รู้จะตอบคำถามอย่างไรดี
ฮินาตะเดินมาทางเดินกับที่มาส่งโทบิรามะ เขาพาคาโอรุไปหาห้องพัก ล้วงมือควานหากุญแจห้องในกระเป๋าได้
รีบไขกุญแจทันใด ดันร่างของคาโอรุเข้าไปในตัวห้อง ปิดประตูแถมไขกุญแจล็อกห้องจากทางด้านนอกให้ด้วย
สภาพคาโอรุแทบดูไม่ได้
นอกจากตัวจะเปียกน้ำฝนแล้วก็เมาเละเทะอีกตังหาก เมื่อเข้ามาในห้องได้ คาโอรุวางดาบยามาโตะ
ลงข้างที่นอนปิกนิก ถอดเสื้อผ้าบนตัวออกทุกชิ้น มุดตัวเข้าไปอยู่ในผ้าห่มผืนจ้อย ความอ่อนล้าทำให้ร่างกายต้องการพัก
ผ่อนเป็นอย่างมาก
ใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีคาโอรุเข้าสู่นิทราเรียบร้อย
เข็มนาฬิกากำลังเดินเป็นวงกลมส่งเสียงต๊อก ต๊อก ตามกลไกการทำงานของมัน
โทบิรามะรู้สึกถึงความชื้นบางอย่างบริเวณแผ่นหลัง ทำให้ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกอย่างช่วยไม่ได้
กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจอุ่นๆมารดต้นคอตนลอยเตะเข้าจมูก มีสบถอย่างหัวเสียเล็กน้อย เอื้อมมือไปเปิดสวิตท์
โคมโฟเล็กๆตรงหัวนอนเล็กน้อย เพื่อดูว่ามีบางอย่างนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม
“ คาโอรุ ” เขาเรียกชื่อหล่อนเบาๆ ก่อนจะนอนเขาก็อยู่ในห้องคนเดียวนี่หว่า
ตอนแรกก็คิดว่าผีหลอกวิญญาณหลอน ไม่รู้ว่าคาโอรุมุดเข้ามาอยู่ด้านหลังตั้งแต่ตอนไหนแต่ช่างเถิด
นอนต่ออย่าให้เสียเวลา มีสาวสวยนอนขนาบข้างแบบนี้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกดีกว่าฮาชิรามะมานอนเบียดข้างหลังละกัน
“ อย่าเอาหน้าอกมาเบียดหลังฉันน่า! ” โทบิรามะเอียงหน้าหันไปบอก แม้ว่าคาโอรุจะไม่รู้เรื่องก็ตาม
หน้าอกหน้าใจมหึมา ไร้ปราการเบียดอยู่บนแผ่นหลังเรียกว่าแนบเนื้อ เล่นโทบิรามะถึงเขว(บ้าง)
เขาเองก็ไม่ใช่พวกหื่น ทะลึ่ง ชีกอ บ้ากาม (ไรท์ชิว:หันมามองทางนี้ทำไมเนี่ย?)
ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุมือเล็กๆของคาโอรุวางพาดบนต้นคอ คลายดึงต้นคอหนาๆให้หันมา
โทบิรามะสูดลมหายใจทางจมูกเต็มแรง เพื่อระงับสติของตัวเอง " ได้ คาโอรุ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ! "
ว่าแล้วโทบิรามะก็ตัดสินใจ พลิกตัวกลับมาหาคาโอรุ จ้องมองใบหน้าหวาน ตาคู่สวยแม้จะปิดอยู่
จมูกโด่งเป็นสันปลายจมูกเชิดรั้นๆขึ้นเหมือนนิสัยดื้อรั้น ริมฝีปากกระบางน่ากดจูบแรงๆ พยายามหักห้ามสายตา
ไม่ให้เบนสายตามองต่ำลงไป ทว่ามันก็ยากที่จะทำ ดังนั้น
โทบิรามะจะไม่ฝืนตัวเองอีกต่อไป ฝ่ามือหนาไม่อยู่เฉย จับต้องบนผิวกายน่าทะนุถนอม
บอกตามตรงว่าเลยโทบิรามะชอบคาโอรุ
ตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรก แม้ว่า Love At First Sight ของทั้งคู่อาจจะไม่สู้ดีนัก โทบิรามะกระชับอ้อมแขนแกร่ง
ให้คาโอรุขยับเข้ามาใกล้ชิดกายมากขึ้น สูดกลิ่นหอมเย้ายวนใจใคร่อยากรู้ว่าหล่อนใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรกัน
ทำให้เขาอยากรับกลิ่นนั้นอยู่ตลอดเวลา กว่าจะรู้สึกตัวว่าแอบลักขโมยจูบ ตักตวงความหวานนั้นหลายครา
โทบิรามะก็หาเหตุหล เพื่อที่จะหาเศษหาเลยกับคนที่กำลังหลับ อย่าไรก็ตาม…
เขาและคาโอรุต้องต้องแต่งงานกัน ต้นสายปลายทางก็ต้องลงเอยกันอยู่ดังนั้นเเล้ว
เขาไร้ความผิดที่จะจูบหรือทำอะไรๆ มากไปกว่านี้กับว่าที่ภรรยา
“ อะ อืม ” คาโอรุส่งเสียงครางในลำคอเบาๆ เปิดเปลือกตามองภายในห้องช้าๆ
เพื่อรับแสงสว่างส่องเข้ามาทางหน้าต่างห้อง หล่อนดึงตัวลุกมาอยู่ในท่านั่งยืดขาตามความยาว บิดขี้เกียจไป มาอย่างนั้น
ได้ยินเสียงกระดูกลั่นเบาๆ กว่าจะรู้สึกตัวว่าโป๊ร่างกายเปลือยเปล่าไม่ได้สวมอะไรไว้สักชิ้น!
ต้องรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอก โทบิรามะเดินออกจากห้องน้ำพอดีเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ากระจกของตู้เสื้อผ้า
เขามีแค่ผ้าขนหนูสีน้ำเงินพันรอบเอวลวกๆปิดความเป็นชายแค่ผืนเดียว คาโอรุฉวยโอกาสสำรวจโทบิรามะเสียเลย
เส้นผมสีเทาควันบุหรี่ยาวกำลังพอดียังเปียกชื้นสีคิ้วสีเดียวกับสีผม ดวงตากลมโตสีแดงสดคมกริบคล้ายกับเหยี่ยว
จมูกโด่งเป็นสันคมรับกับโครงหน้าของเขาอย่างดี ริมฝีปากหยักอวบอิ่มสีแดงอ่อน มองดูจากส่วนสูงแล้วไม่น่าเกิน
หนึ่งร้อยแปดสิบสอง หยาดน้ำหยาดเล็กเกาะบนผิวกายขาวเนียนสะอาดทั่วทั้งตัว
ร่างกายของโทบิรามะอัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็นช่วงไหล่ แผ่นหลัง ด้านหน้า แผงอกและกล้ามเนื้อส่วน
ท้องเป็นมัดได้รูปไร้ไขมันแทรกขัดต่อสายต่อ แถมไรขนอ่อนใต้กล้ามหน้าท้อง หายวับซ่อนใต้ผ้าขนหนูผืนนั้นชวนให้ลุ้นต่อ
รวมๆแล้วว่าที่สามีของหล่อนก็หล่อ... ไม่ได้หล่อแบบธรรมดา ต้องเรียกว่าอย่างหล่อไม่ได้มีแค่หล่ออย่างเดียว
โทบิรามะก็มี ‘สเน่ห์’ อีกด้วย คาโอรุถึงกับกับริมฝีปากล่างแน่น หัวใจเต้นแรงผิดคีย์
ทั้งๆที่หล่อนทำงานร่วมกับพลทหารนับพันนาย หล่อนไม่มีท่าทางเขินอายเมื่อพวกเขาเหล่านั้นถอดเสื้อโชว์กล้าม
เลยแม้แต่น้อย
หล่อหรอ ? แล้วอย่างไร ? กินไม่ได้ซะหน่อย ! คาโอรุประท้วงกับความคิดตัวเองในใจ
โทบิรามะยักคิ้วซ้ายใส่กระจกตรงหน้า ก็ต่อเมื่อเห็นว่ามีคนแอบมองเขาสะท้อนในกระจกอย่างนั้น
สภาพเส้นผมสีแดงชีฟูอย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าสวยงัวเงียเล็กน้อย คงเพราะเพิ่งตื่นนอน โดยมีแสงแดดอ่อนๆ
กระทบลงผิวหน้าผิวกาย ชวนให้น่าหลงไหล แม้ว่าจะเป็นสภาพตื่นนอน สาวๆหลายคนมักไม่อยากให้ผู้ชายเห็นก็ตาม
โทบิรามะหมุนตัวเดินเข้ามาใกล้ คาโอรุ มากขึ้น มากขึ้นจนกระทั่งมาถึงตรงหน้า โทบิรามะคลี่ยิ้มให้อีกครั้งแล้วค่อย
ยกมือขึ้นมาสัมผัสข้างริมฝีปากล่างของคาโอรุ อย่างเบามือแล้วบอกกับหล่อนว่า
“ น้ำลายหกแล้ว ” โทบิรามะส่งยิ้มให้อีกที เขาหันตัวแล้วเดินไปหน้ากระจกอีกครั้ง ตั้งใจถอดผ้าขนหนู
สวมใส่กางเกงยีนส์สีดำขาเดฟเข้ารูป
“ ข้าเป็นผู้หญิงนะ มาถอดผ้าแบบนั้นได้ไง! ” คาโอรุหลับตาปี๋ หล่อนหยิบหมอนหนุนยัดไส้ขนเป็ดอย่างดี
ปาใส่แผ่นหลังโทบิรามะให้ เสียใจด้วยคาโอรุ โทบิรามะคว้ามันได้กลางอากาศ เขาปาใส่หน้าคาโอรุคืนดังปุ้ง
คนเริ่มสงครามปาหมอนถึงกับหน้าหงายเงิบ
“ อืม ก็น่าจะเป็นผู้หญิง ...ฟองน้ำเยอะจัง ” โทบิรามะหันไปเห็นบราเซียร์ลูกไม้สีดำอยู่ใกล้ตัวเขาหยิบขึ้นมาดู
ในระดับสายตา เขามีเหล่มองคาโอรุเล็กน้อย คาโอรุกระชับผ้าห่มห่อตัวแน่นไม่รู้ว่าโทบิรามะคิดจะทำอะไร
เขาหยิบเสื้อยืดสีขาวคอวีออกจากกระเป๋าเสร็จ ค่อยส่งบราเซียร์ในมือซ้ายคืนเจ้าของทำนอง ‘ เอ้าใส่เร็วเข้า’
“ นายถั่วงอก! ” คาโอรุก่นด่าเบาๆ หลังจากรับมาได้ในมือ หล่อนรีบสวมมันแล้วความหาชิ้นส่วนอื่น
ที่กระจัดกระจายในห้องอย่างรวดเร็ว โทบิรามะยืนใส่เสื้อเสร็จพอดีกับเจอโอยามาดะหน้าห้องพัก
“ เมื่อคืนหลับสบายหรือเปล่า? ” โอยามาดะถามเขาแต่เช้า
“ อุ่นดี ”
“ อุ่นดีอย่างนั้นหรอ? ข้าจะพาท่านไปจิบกาแฟนะ ” โอยามาดะรีบพาโทบิรามะออกจากหน้าห้องพัก
เขาเริ่มได้ยินเสียงคาโอรุโวยวายและพังข้าวของ กลัวว่าออกมาเจอกับเขาจะยิ่งไปกันใหญ่
เอาเป็นว่าไม่มีใครอยากเห็นใบหน้าบูดบึ้งคล้ายกับยักษ์กินคนของคาโอรุแต่เช้า เดี๋ยวพาลหลอนนอนไม่หลับในยามดึก
โอยามาดะพาโทบิรามะออกเดินสำรวจตลาดในยามเช้า พ่อค้าแม่ขายต่างพากันตั้งร้านทั้งสองฝั่งอย่างคึกคัก
พวกเขาเล่านั้นยังส่งเสียงเรียกลูกค้าด้วยความเป็นกันเอง บรรยากาศที่นี่ก็ไม่ได้ต่างกับหมู่บ้านโคโนฮะมากนัก
“ ถึงแล้วละ” โอยามาดะหันมาบอกแล้วเดินนำเข้าไปในร้านกาแฟเล็กๆ กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟคั่วบด
ลอยฟุ้งในทุกอณูอากาศเหมาะสำหรับคอกาแฟเป็นอย่างมาก โทบิรามะมองสำรวจไปรอบร้าน ตัวร้านเป็นอิฐเปลือย
ตกแต่งให้ดูทันสมัยเล็กน้อยไม่ว่าจะมีชั้นหนังสือตั้งเป็นมุม ตู้จดหมาย จักรยานโบราณหรือต้นไม้ต้นเล็กๆภายในร้าน
โอยามาดะพาโทบิรามะออกมานั่งตรงระเบียงด้านนอก จัดทำเป็นเคาน์เตอร์และเก้าอี้ทรงสูง อีกสี่ห้าตัว
ตั้งไว้สำหรับชมวิว
“ คาโอรุชอบมาที่นี่ ” โอยามาดะบอกแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ทรงสูง
โทบิรามะนั่งลงข้างๆโอยามาดะ เขามองวิวภูเขาตรงหน้า ใช่ ภูเขาทับซ้อนกันอยู่หลายลูกเป็นแนวทอดยาวออกไป
พระอาทิตย์กำลังทอแสงสีเหลืองทองอร่ามตัดกับทะเลหมอกในยามเช้า (เกิดเนื่องจากฝนตกหนักเมื่อคืน)
ทำให้อากาศเย็นเล็กน้อย มีหมอกควันลอยเหนือทิวเขา
สำหรับโทบิรามะแล้วทิวทัศน์ตรงหน้าเขาไม่เคยได้เห็นจากที่ไหนมาก่อน เสียดายไม่ได้หยิบกล้องถ่ายรูป
ติดมือมาทำภารกิจด้วย
โอยามาดะส่งแผ่นรายการอาหารให้โทบิรามะ ส่วนตัวเขานั้นเขียนชื่อรายการอาหารที่ต้องการลงของตน
รอเขียนของโทบิรามะลงใน แผ่นสั่งอาหาร ที่ร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้ไม่ได้มีแค่กาแฟอย่างเดียว ยังมีชุดขนมปัง
คลับแซนด์วิช ยันข้าวต้มหรือโจ๊กแต่รายการอาหารพวกนี่น่าจะใช้เวลารอนานหน่อย
“ รับรายการหน่อย ” โอยามาดะเรียกให้เด็กหนุ่มอายุไม่เกินสิบห้าเข้ามารับรายการอาหาร
เด็กหนุ่มบริกรเดินเข้ามารับพร้อมรอยยิ้มแต่ต้องหุบลงเมื่อเขาเห็นชายตรงหน้า
“ ไม่ต้องคุกเข่า รีบไปทำรายการอาหารมาซะ ” โอยามาดะดักทางถูก เขารู้ว่าเด็กหนุ่มตัวเกร็งไปหมด
จึงพยายามลดความถือตัวลง เพิ่มความเป็นกันเองมากขึ้น เด็กหนุ่มพยักหน้ารัวๆรีบวิ่งแจ้นเข้าหลังร้าน
โดยไม่ทวนรายการอีกรอบ
กษัตริย์ปกครองแผ่นดินนั่งอยู่ตรงหน้าใครจะไปกล้ายืนค้ำหัวอยู่แบบนั้น ถ้ามีผู้ติดตามมาด้วย
เด็กหนุ่มบริกรอาจจะโดนลงโทษหรืออาจจะไม่มีเงาหัวก็เป็นได้ ในระหว่างรออาหารโอยามาดะและโทบิรามะได้รับกาแฟ
กันคนละแก้ว พวกเขาทั้งสองได้ยิน ผู้สูงอายุจับกลุ่มนั่งคุยกันอย่างถนัดหู
“ ได้ข่าวมาว่าท่านโอยามาดะเสร็จมาแถวนี้ ”
“ เบาๆกันหน่อยนะ ”
“ พวกทหารในวังกำลังซ้อมรบกับคิริงาคุเระอีกแล้ว ”
“ ข้าเสียทั้งตาซ้ายแล้วก็ลูกชายไปในสงครามครั้งก่อนไม่รู้ว่าครั้งนี้จะต้องเสียอะไรไปอีก ”
“ มีสงครามทุกปีแบบนี้พวกทหารก็คงไม่ไหวจะต้องสูญเสียไปอีกนานแค่ไหนกัน? ”
“ ท่านโอยามาดะน่าจะทำสัญญาพันธมิตรซะจะได้จบๆเรื่อง มีสงครามมาไม่หยุดไม่หย่อนแบบนี้
พวกทหารก็รับมือไม่ไหวหรอก ”
“ ไม่รู้ว่าท่านโอยามาดะคิดอะไรอยู่เหมือนกันนะ ”
“ เมื่อไหร่สงครามจะยุติเสียที ”
“ เราย้ายร้านดีไหม? ” โทบิรามะเลี่ยงที่จะเรียกชื่อ อยากเปลี่ยนที่คุยเสียแล้วสิ
บอกตามตรงว่าไม่ได้ตั้งใจจะฟังบทสนทนาของคนอื่นมากนัก ทว่าภายในร้านมีเพียงแค่กลุ่มคนสูงอายุมานั่งจิบกาแฟ
จับเข่าคุยพูดคุยกันเรื่องสงครามในร้านนี้ กับแค่โทบิรามะ โอยามาดะสองคนเท่านั้น
ทำให้ได้ยินทุกคำพูดดังมาจากอีกโต๊ะเท่านั้น โทบิรามะเข้าใจดีว่าโอยามาดะรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหน
โอยามาดะมักจะแสดงออกทางแววตามากกว่าสีหน้าให้คนอื่นเห็นมากกว่า
“ ข้าก็ไม่ได้อยากทำสงครามนักหรอก ” โอยามาดะพูดเบาๆ ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดพวกนั้น
เขาสูญเสียทหารเอก แกร่งกล้าวิชาฝีมือดีเยี่ยม เสียเพื่อน เสียคนรักไปในสงครามทั้งหมดเพื่อปกป้องเกาะจันทร์เสี้ยว
ดินแดนที่ได้รับเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่น ไม่มีใครเคยล่วงรู้เลยว่าเขาเองก็เสียใจ เจ็บได้และ ร้องไห้เป็น
มีความรู้สึกเหมือนกับชาวบ้านที่กำลังพูดคุยถึงตัวเขาเช่นกัน
“ นี่มันอะไรกัน ? ” คาโอรุเบิกตากว้างม่านตาขยายตัวออกด้วยอาการตกใจสุดขีด
เหตุเกิดเมื่อคืนว่าหล่อนจับพวกทหารกองกำลังของคิริงาคุเระได้ แล้วนำไปบอกโอยามาดะ
“ ข้าจัดการต่อเอง เจ้าก็มาเหนื่อยๆดื่มนี่ซะก่อนสิ ” โอยามาดะยัดแก้วเบียร์ใส่มือคาโอรุแถมยัง
มอมหล่อนเมาปลิ้นอีกตังหาก คาโอรุส่ายหน้าไม่ยอมรับกับภาพที่เกิดขึ้น กลิ่นคาวเลือดคุ้งไปทั่วยังติดอยู่ปลายจมูกอยู่เลย
ขาเรียวเล็กรีบถอยหลังกลับตัววิ่งหนีด้วยความไวหล่อนรับไม่ได้กับภาพตรงหน้า โอยามาดะไม่สังหารนินจาพวกนั้น
แค่เล่นงานบาดเจ็บ จับพวกนั้นเสียบกับไม้แหลมยาวปักประจารไว้บนพื้นโดยเสียบจากแผ่นหลังทะลุทรวงอก
เป็นการทรมานคนตายอย่างช้าๆเสียงร้องโหยหวน โอดครวญยังดังไปทั่ว เหล่านกแสก อีกาต่างพากันลงมาโฉบจิก
กินเนื้อเหล่านินจาคล้ายกับบุฟเฟ่ต์ไม่กำหนดเวลา
โทบิรามะนั่งคุยกับโอยามาดะทนแทบจะหมดเรื่องคุยอยู่แล้ว พวกเขานั่งกันเงียบๆมองดูวิว
ก้อนเมฆกำลังเปลี่ยนรูปร่างไปตามกระแสลม ทันใดนั้นโทบิรามะได้ยินเสียงฝีเท้าตรงดิ่งมาหาเขาด้วยความเร็วจน
ต้องหันกลับไปมองผู้มาใหม่
“ ท่านพี่อยู่ไหน? ” คาโอรุถามปนหอบ
โทบิรามะหันไปมองข้างตัวอีกที โอยามาดะหายไปอย่างว่องไวไม่มีเหลือแม้แต่ถ้วยกาแฟ
“ ฮึ่ย! ” คาโอรุกัดฟันกรอด หล่อนเปลี่ยนใจต้องคุยกับโอยามาดะจากห้องทำงานเสียแล้ว
ทั้งๆที่ในใจอยากจะเข้าไปกัดคอโอยามาดะให้หลุดออกมา โทบิรามะเดินไปจากเงินหน้าเคาน์เตอร์
พนักงานของร้านบอกว่า โทบิรามะจ่ายเงินเรียบร้อย พอเขาลองถามหาโอยามาดะ พนักงานกลับตอบว่าท่านโอยามาดะ
ไม่ได้เสร็จมาตั้งแต่ห้าวันที่แล้ว
สร้างความแปลกใจให้โทบิรามะอย่างมาก
โทบิรามะจึงตั้งข้อสงสัยว่าอาการแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับเหล่านินจาที่แอบลับลอบ
ขึ้นไปยังเกาะจันทร์เสี้ยวไม่มีผิดไม่มีใครรับรู้ข่าวสารเลยว่า ดินแดนแห่งนั้นเป็นอย่างไร ให้การไม่รู้ความ
หาประโยชน์จากนินจาไม่ได้เลย คิดเล่นๆว่าคงเป็นคาถานินจาบางอย่างที่สามารถลบความทรงจำ
ในช่วงสั้นๆออกจากสมองได้
“ มีอะไรเร่งด่วนหรือเปล่าคาโอรุ? ” โทบิรามะเดินกึ่งวิ่งตามคาโอรุ
“ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย ” หล่อนตอบอย่างเร่งรีบ ขาทั้งสองข้างจ้ำอ้าวไปด้วย
“ งั้นฉันก็ไม่บอกละกันว่าท่านพี่ของคุณหายไปไหน ” โทบิรามะงัดไม้นี้ออกมาใช้ ได้ผลคาโอรุยอมหยุดหัน
มายืนประจันหน้ากับเขา
“ นายถั่วงอกนี่มันเรื่องคอขาดบาดตาย ฉันไม่มีเวลามาเล่นหรอกนะ ” คาโอรุว่าให้
“ จ้างให้ก็ไม่บอกหรอก ”
“ ก็ได้ จำไว้เลยนะนายถั่วงอก ไม่ต้องตามฉันมาเลยนะ ” คาโอรุเดินหนีโทบิรามะ
“ ก็อยากไปด้วยหนิ ” โทบิรามะตอบแบบกวนๆ
“ พอแล้ว กลับไปซะออกไปจากเกาะนี้! ”
“ ทำไม ? ”
“ ก็ได้ฉันไม่รู้จักนาย ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แล้วจะแต่งไปทำไม รักก็ไม่ได้รัก เลิกเอาใจท่านพี่ฉันเถอะ
บอกเลยว่ามันไม่คุ้ม! ”
“ แล้วเราจะไม่ศึกษาซึ่งกันและกันเลยหรือไง? ” โทบิรามะถาม
“ ฉันไม่ต้องการความรักจากใครทั้งนั้น! ”
“ งั้นหรอแล้วถ้าฉันอยากแต่งเองล่ะ? ” ที่จริงก็ไม่ได้มีใครมาบังคับโทบิรามะหรอก
เพียงแต่เขาคิดว่าแต่งไปก็ไม่เสียหายอะไร
“ นายไม่ใช่แบบที่ฉันชอบสักอย่าง หน้าตา รูปร่าง สีผมสี . . . ” คาโอรุมีหยุดพูดเว้นวรรคทิ้งช่วง
“ ไวท์ ” โทบิรามะตอบให้
“ ใช่ สีไวท์รู้ไหมฉันเห็นนายแล้วคุณละอดคิดถึงท่านพ่อไม่ได้เลย! ” คาโอรุกวนประสาทกลับเต็มๆ
“ ไว้(ท์)หน้ากันบ้างสิ !” โทบิรามะเริ่มโมโห เขาเองก็ไม่ชอบเด็กพูดจาไม่น่ารักแบบคาโอรุแล้วสิ
อย่างนี้ต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก ให้รู้จักผู้ใหญ่ รู้จักกาลเทศะด้วย
“ ไม่ขำไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้เลยนะนายถั่วงอก ! ” คาโอรุยิ่งอารมณ์ไม่ดีหล่อน
ยังต้องมาเจอกับโทบิรามะในเวลานี้อีก
พระเจ้าช่างเล่นตลกกับคนสวยเสมอ สงครามประสาทจึงเกิดขึ้นย่อมๆกันอย่างต่อเนื่อง
แบบไม่มีใครยอมใคร ก็ต้องดูกันอีกต่อไปว่าใครจะเป็นเดอะวินเนอร์ในครั้งนี้!
“ ท่าทางไม่ได้รับการอมรบเรื่องมารยาทมาสินะ ดีฉันจะอบรมให้ ” โทบิรามะคว้าตัวคาโอรุได้
เขาจับหล่อนพาดบ่าแล้วฟาดก้นแรงๆดังป้าบ เข้าให้
“ อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ปล่อยไง ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ! ” คาโอรุดิ้นพล่าน
ต้องหลุดออกจากการจับกุมของโทบิรามะให้ได้
“ มารยาทแย่ ” เพี๊ยะ!
“ พูดจาไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ” เพี๊ยะ!
“ ได้ฉันจะเป็นพ่อแทนให้ละกัน ” เพี๊ยะ พูดอีกโทบิรามะก็หวดมือฟาดให้อีก
“ ฉันไม่มีพ่อแบบนาย ! ” ในที่สุดคาโอรุก็หลุดมาได้ เพราะโทบิรามะโยนหล่อนลงจากบ่า
ขาสองข้างยังทรงตัวไม่ดีทำให้ล้มพับไปนอนนิ่งกับพื้นชั่วครู่ คาโอรุลุกขึ้นมายืนเต็มสัดส่วนได้หล่อนชี้นิ้วใส่หน้าเขา
พร้อมกับตั้งท่าจะก่นด่าโทบิรามะก้าวขาเข้าไปหา คาโอรุถอยหลังแล้ววิ่งหนีเขาไปอย่างกะทันหัน
แถมยังออกตัววิ่งด้วยความไวขนาดนั้น โทบิรามะไม่อยากวิ่งตามเขามองเสื้อแจ็คเก็ตของหล่อน
ใช่มันยังเป็นตัวเมื่อวานอยู่เลย โทบิรามะทำท่าวิ่งตามไปอย่างนั้น
เขาดูจากเส้นทางแล้วว่ามันไม่ใช่ทางกลับไปยังที่พักแต่มันผ่านหมู่บ้านออกไป ผ่านป่าเป็นทางลาดลงเขา
โทบิรามะพยายามชะลอฝีเท้า เขาเริ่มเห็นท่าเรือตั้งอยู่ไม่ไกล คาโอรุวิ่งลงท่าเรือใช้ขาเรียวยาวของตัวกระโดดข้าม
ลงบนสปีดโบ๊ท พลางล้วงกุญแจออกจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง หล่อนหยิบลูกกุญแจออกมาแล้วไขกุญแจสตาร์ท
เครื่องนำเรือแล่นออกสู่ทะเลทันที
เรือแล่นออกจากท่าเป็นจังหวะเดียวกับโทบิรามะกระโดดลงเรือพอดี
“ หวังว่าคงว่ายน้ำเป็น ” คาโอรุพูดกับตัวเองพลางขับเคลื่อนเรือออกจากท่าด้วยความเร็วสูง
โดยไม่ทันมองว่าโทบิรามะเหินมาอยู่ด้านหลังเรียบร้อยแล้ว
“ จะไปไหน? ”
“ ไปไหนก็ได้โตแล้ว ! ” คาโอรุตอบอย่างกวนประสาท ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าโทบิรามะอยู่ด้านหลัง
โทบิรามะเข้าไปใกล้จะหวดก้นให้อีกรอบ คาโอรุกระโดดถอยหนีไปอยู่ด้านข้างคนขับ ซึ่งปล่อยให้เรือแล่นออกไปเอง
“ อ้าว เฮ้ย! ” โทบิรามะรีบเข้าไปคว้าพวงมาลัยไว้ทันที คาโอรุไม่ได้ขับดูทางเลยว่าอีกสองเมตรข้างหน้า
เรือกำลังจะชนกับทุ่นลอยน้ำ เขาหักพวงมาลัยไปทางซ้ายสุดดริฟท์หลบทุ่นลอยน้ำได้อย่างฉิวเฉียด คืนรอบพวงมาลัย
ให้เรือแล่นเป็นเส้นตรงไปได้สักพัก
“ เป็นไงเงียบปากได้ซะที ” คาโอรุเงียบกริบไม่มีเสียงก่นด่าเล็ดลอดออกจากปาก เกลียดนักพวกต่อปากต่อคำ
เถียงคำไม่ตกฟากแบบคาโอรุ หันมองข้างตัวอีกทีกลับไร้ร่างของคาโอรุ โทบิรามะรีบกวาดตามองไปทั่วเรือ
“ นายถั่วงอก! ” คาโอรุตะโกนลั่น หล่อนลอยตัวอยู่กลางน้ำ ไม่คิดเลยว่าเขาจะแกล้งขับปาดแบบนั้นทำให้หล่อน
เสียจังหวะหงายหลังตกลงมาว่ายน้ำป๋อมแป๋มอย่างนี้
“ จับทุ่นไว้ก่อน ” โทบิรามะบอก เขาหักพวงมาลัยกลับมาช่วยคาโอรุทันที คาโอรุว่ายน้ำไปเกาะทุ่นลอยน้ำ
พลางตีขาพยุงตัวไว้ไม่ให้จมน้ำ โชคดีไม่ได้พกดาบยามาโตะ มีแต่คันธนูและลูกธนูอยู่บนแผ่นหลัง
โทบิรามะดึงตัวคาโอรุขึ้นมา หล่อนนั่งนิ่งอยู่บริเวณท้ายเรือยกมือขึ้นมากอดอกแน่นโทบิรามะรีบวิ่ง
เปิดตู้เก็บของใต้พวงลัยออกมาดู อย่างน้อยน่าจะมีอะไรสักอย่างใช้ห่มไว้กันหนาว ในที่สุดก็เจอผ้าห่มผืนหนา
ขนาดไม่เล็กมาก โทบิรามะไม่รอช้ารีบคลุมผ้าห่มกันหนาวให้คาโอรุทันที
“ อย่ามาโดนตัวฉันนะ ! ” หล่อนมิวายตีมือเขาดังเผี๊ยะ หลังจากได้ผ้ามาห่มมาคลุมกาย
“ มือคุณเย็นไปหมดแล้วนะ ” โทบิรามะไม่สนจับมือทั้งสองข้างของคาโอรุไว้ ด้วยฝ่ามือหนาทั้งสองข้าง
เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ฝ่ามือเล็กเป่าลมหายใจเบาๆ ใส่ฝ่ามือเล็กสลับกับถูฝ่ามือทั้งสองข้างให้เกิดความร้อน
โทบิรามะทำแบบนี้นานกว่าสิบนาทีไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าคาโอรุนิ่งเงียบไปแล้ว
หล่อนมองโทบิรามะตาไม่กระพริบรู้สึกเพียงแค่ว่า ใบหน้าสวยนั้นร้อนผ่าวไปหมดรามจนถึงเครื่องใน ตับ ไต
ไส้ พุง ปั่นป่วน ตามหลักความเป็นจริงคาโอรุไม่ได้รู้สึกหนาวการจากแช่น้ำเมื่อครู่ อุณหภูมิแค่นั้น
ไม่สามารถทำความหนาวเย็นใส่ร่างกายหล่อนได้เลยแม้แต่น้อย
“ ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจขับเรือแบบนั้น ” โทบิรามะขอโทษจากสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อ
ถ้าจะพูดว่าทั้งหมดเป็นความผิดของคาโอรุที่ผละออกจากพวงมาลัยอย่างนั้น แล้วเขาต้องหักเรือหลบทุ่นลอยน้ำ
โดยไม่บอกคาโอรุทราบก่อนล่วงหน้า มันจะกลายเป็นทะเลาะเหมือนก่อนลงเรือ และอีกอย่างอากาศเย็นน้ำก็น่าจะหนาว
ไม่รู้ว่าคาโอรุลงไปว่ายเล่นไม่สิต้องเรียกว่าแช่แข็งเลยดีกว่า
คาโอรุเงียบอิ่มจุดไปทันทีไม่มีเสียงตอบกลับ สมองกำลังประมวลคำพูดขอโทษจากโทบิรามะหล่อนรู้ว่าน้ำเสียง
การกระทำของเขาออกมาจากใจไม่ใช่การสร้างภาพให้ตัวเองดูดี แม้ว่าเมื่อครู่จะทะเลาะตีกันแทบตาย
มันไม่ใช่หน้าที่ต้องรับผิดชอบ แต่เป็นการกระทำบางอย่างซึ่งออกมาจากใจล้วนๆโดยเฉพาะแววตาอ่อนโยน
ที่หล่อนไม่เคยได้เห็นจากเขามาก่อนเลย
โปรดติดตามตอนต่อไป..
1/7/2558
2 ก.ย. 2563
27 ก.ย. 2565
ความคิดเห็น