คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Drop D. : lesson 1
ร่างเปลือยเปล่าถูกคลุมด้วยเสื้อยืดสีขาวคอวีเนื้อบาง ชายเสื้อสั้นกุดเปิดเผยเนื้อหนังมังสาแค่ช่วงฐานอกอวบ
เอวบางหน้าท้องแบนราบ สวมเพียงแพนตี้ลายลูกไม้สีดำตัดกับสีผิวขาวเนียนสะอาดคล้ายเนยชั้นดี
เรียวขายาวเนียนไร้รอยขีดข่วนเตะผ้าห่มบนตัวออก เผยให้เห็นว่านอกจากช่วงขาเนียนเรียวยาวรับกับสะโพกกลมกลึง
ขยับบิดกายช้าๆ บนเตียงนอนขนาดคิงไซส์สีขาว ทุกอย่างนอกจากเครื่องนอนบนเตียงล้วนแล้วแต่เป็นสีขาว
แสงแดดอ่อนๆยามเช้าส่องลอดผ่านจากช่องเล็กๆทางหน้าต่างบานใหญ่ ผ่านผ้าม่านสีขาวโปร่งอีกชั้น
ร่างของหญิงสาวส่งเสียงประท้วงในลำคอ เครื่องปรับอากาศถูกปิดไปเรียบร้อยดีตามที่ตั้งเวลาไว้นานพอสมควร
จนเกิดความร้อนภายในห้อง นอกจากแสดงแดดยามเช้าเป็นตัวช่วยในการปลุกให้ตื่นจากนิทรา ก็มีเครื่องปรับอากาศ
เป็นตัวเร่งให้หญิงสาวนั้นออกจากเตียงนอนโดยไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพิ่งจะทัวร์คอนเสิร์ตแบบเวิร์ลทัวร์จบเองนะ ขอเวลานอนต่ออีกสักสองสามชั่วโมงไม่ได้หรืออย่างไรกัน?
แถมอีกอย่าง วันนี้หล่อนก็ไม่ได้ไปไหนด้วย…
ดังนั้นแล้วควานหารีโมทเครื่องปรับอากาศอย่างสะเปะสะปะ แม้ยังไม่ลืมตาตื่น หล่อนก็คว้ารีโมทขนาดเหมาะมือ
ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มาอยู่ในฝ่ามือแล้วเปิดเครื่องทำงานต่อทันที
แจ็คสันเป็นอีกคนที่ทุ่มเทกับเครื่องนอนเป็นอย่างมาก ทุกอย่างต้องเป็นของทำมาจากวัสดุชั้นดี ราคาพรีเมี่ยม
แพงระยับขนาดไหนหล่อนก็ไม่หวั่น สามารถควักเงินในกระเป๋าสตางค์จ่ายเพื่อความสบายสำหรับการนอนพักผ่อน
อย่างเต็มที่แถมไม่มีอั้น!
กลิ่นหอมของเทียนหอมชื่อสุดแสนจะติดเรท ถูกโคมไฟสีส้มส่องผิวเทียนเปิดใช้งานตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า
ก็ช่วยให้หล่อนได้ผ่อนคลายอีกเช่นกัน ซุกใบหน้าหวานลงบนหมอนยัดไส้ขนห่านอย่างดี กลิ้งตัวนอนบนท็อปเปอร์
ทับบนเตียงคิงไซส์ยืดลำตัว แขนยาเรียวยาวคล้ายการคลายกล้ามเนื้อ ไม่กี่นาทีต่อมาหล่อนก็กลับเข้าสู่นิทราอีกครั้ง
และเหมือนจะไม่ยอมตื่นขึ้นมาอย่างง่ายๆ
นี่สินะที่เรียกว่า ‘ที่นอนดูดชีวิต’
แจ็คสันนอนหลับชนิดที่เรียกว่านอนเต็มอิ่ม เริ่มขยับดวงตา เปิดเปลือกตาขึ้นในเวลาต่อมา ยังไม่ทันได้ลุก
ขึ้นอยู่ในท่านั่งเอนหลังบนเตียง เสียงข้อความจากโปรแกรมแชททางโทรศัพท์เด้งเตือน เมื่อมีข้อความใหม่ส่งมา
หล่อนส่งมือไปยังโต๊ะเล็กๆข้างหัวนอนเพื่อหยิบเจ้าโทรศัพท์ทัชสกรีนชาร์ตแบตทิ้งไว้เมื่อคืนขึ้นมาเปิดดู
ปลดสายชาร์จแล้วก็ปลดล็อคหน้าจอ อ่านข้อความใหม่ล่าสุด
‘ หวัดดีแจ็คสัน ฉันคิลเลอร์นะ เย็นนี้พวกฉันมีงานเฟส.นะ สะดวกมาแจมด้วยกันไหม? ’
หล่อนยังไม่ทันได้ตอบว่าจะสะดวกหรือไม่ อีกฝ่ายก็ส่งโลเคชั่น สถานที่มาให้บอกเรื่องของเวลา
‘ ถ้ามาถึงงานแล้วโทรหาฉันนะเดี๋ยวออกไปรับ ’
เฟสติวัลหรอ?
ปลายนิ้วเรียวถึงกับรีบพิมพ์หาจากอากู๋ ถามกูเกิ้ลก่อนว่างานเฟสติวัลที่ว่ามีศิลปินวงไหนขึ้นเล่นบ้าง?
ได้ความว่า งาน Jumping festival. ก็งานเทศกาลดนตรีปกติทั่วไปนี่ละ แล้วก็เช็ครายชื่อของศิลปินไปร่วมงาน
‘ ตกลงค่ะ เดี๋ยวเจอกันที่งานนะคะ ’
กดพิมพ์ข้อความส่งกลับไปให้อีกฝ่าย กดไปหน้าแรกเพื่อทำการแอดรับคิลเลอร์เพิ่มเป็นเพื่อน นอกจากนั้นก็มี
สองหนุ่มทั้งคุณฮีท คุณไวร์ เลือกส่งสติ๊กเกอร์น่ารักๆไปให้เพื่อเป็นการขอบคุณ
นอนทำใจอยู่บนเตียงอีกสักพัก ร่างสูงโปร่งของหญิงสาวก็ยอมลุกออกจากเตียงนอนแต่โดยดี
บิดลำตัวไปมาเพื่อคลายกล้ามเนื้อแม้จะเป็นยามนอน ชันเข่าทั้งสองข้าง กางแขนขนาดบนเตียงบิดลำตัวช่วงล่าง
ให้กลายเป็นเลขแปดคล้ายท่าสำหรับการจัดกระดูก เกิดเสียงดังกร๊อบแกร๊บพอใจแล้วค่อย สลับอีกข้าง
พลิกตัวนอนคว่ำแล้วทำท่าโยคะหายใจเข้าตั้งแขนสองข้างคล้ายท่าวิดพื้น ยกท่อนบนขึ้นเงยใบหน้ามองเพดาน
ผ่อนลมหายใจอกเอนตัวไปทางด้านหลังให้มากที่สุด เอนลำตัวไปด้านหน้า ผ่อนลมหายใจหมดแล้วค่อยขยับยกช่วงเอวขึ้น
มาอยู่ในท่าคุกเข่า ตามความยาวของร่างกาย มือสองข้างห้ามขยับเขยื้อน แล้วดันตัวลงไปทางด้านหลังเพื่อยืนกล้ามเนื้อ
ตั้งแต่ปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง ช่วงแขนเล็กๆ จนกระทั่งถึงแผ่นหลัง
เอาละ ลุกจากที่นอนได้!
แจ็คสันแต่งหน้าโทนอ่อน เน้นงานผิวธรรมชาติ ตามจริงลงแค่กันแดด แป้งผุ่น ทาลิปกลอสเพื่อความชุ่มช่ำ
ของเรียวปาก ไดร์ผมให้ม้วนลอนอีกสักนิด ฉีดสเปรย์ฝุ่นจับทรงอีกหน่อย ใส่น้ำหอมกลิ่นประจำตัวลงบนจุดชีพจร
เพื่อความมั่นใจ
เปิดตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนขนาดใหญ่เลือกเสื้อผ้าสำหรับไปงานคอนเสิร์ตอย่างเรียบง่าย ไม่เด่นหรือเตะตาใครมากนัก
ก็แค่เสื้อยืดวงดนตรี Guns and Roses ธรรมดาสีดำตัวโคล่งๆเว้าคอเสื้อเล็กน้อย แขนกุดเพื่อโชวร์เรียวแขน
กางเกงยีนส์พอดีตัวขาดเข่าเพื่อความเซอร์ รองเท้าคอนเวิร์สหุ้มข้อสีน้ำเงิน แค่นี้ก็ได้ลุคสำหรับวันสบายๆเรียบร้อย
หยิบกระเป๋าคาดอกสีดำพอใส่กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถ คีย์การ์ดห้องได้ สเปรย์แอลกอฮอล์ หน้ากากสำหรับปิดปาก
สีดำมีหนามประดับประดาสีเงิน แค่นี้ก็ออกห้องได้แล้ว เดินออกจากห้องพักส่วนตัวลงลิฟท์มาถึงชั้นจอดรถ
เมื่อขึ้นรถได้ก็รีบล็อครถทันทีตามนิสัย สตาร์ทรถเพื่อวอร์มเครื่อง หลังจากที่จอดทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งานมาหลายวัน
ส่วนมากแจ็คสันมักขี่บิ๊กไบค์คันโปรดมากกว่าจะนำรถใหญ่ไปธุระเพราะรถคันเล็ก ซ่อกแซ่กได้ หาที่จอดได้ง่าย
ที่สำคัญคือรถไม่ติด ไม่เสียเวลาบนท้องถนนอีกด้วย
หาดอกไม้ติดมือไปด้วยอีกสักช่อก็ดี…
เสิร์ชหาร้านดอกไม้ใกล้ตัว แล้วก็โทรศัพท์สั่งล่วงหน้า เพื่อถึงเวลาแล้วก็สามารถเข้าไปรับได้เลยโดยที่ไม่ต้องรอ
พูดคุยอีกสองถึงสามประโยคแจ็คสันกดตัดสาย แล้วออกรถเพิ่มที่จะไปร้านดอกไม้ก่อนแล้วไปตามสถานที่ ที่คิลเลอร์
ส่งนัดแนะมาทางข้อความ ใกล้ถึงสถานที่จัดมินิคอนเสิร์ตก็โทรหาคิลเลอร์เพื่อรายงานตัวว่าใกล้ถึงงาน
เขาจะได้เตรียมตัว
ได้ความว่า คิลเลอร์ได้เตรียมกับทีมงานเรื่องของที่จอดรถ และคอยอำนวยความสะดวกตั่งต่างใหหญิงสาว
เขามารับหล่อนถึงลานจอดรถด้วยตนเอง เพื่อพาเข้าไปรอที่แบ็ค สเตจ ห้องสำหรับศิลปินรอการขึ้นเวที
ทีมงานสวมเสื้อยืดสกีนลายของงานคอนเสิร์ตพูดคุยผ่านทางวอร์กี้ทอร์คกี้สีแดง แล้วผายมือส่งทั้ง คิลเลอร์
แจ็คสัน เดินเข้าด้านหลังเวที เพื่อไม่ให้ไปเจอกับศิลปินท่านอื่นๆตามที่พวกเขาต้องการความเป็นส่วนตัว
เมื่อคิลเลอร์พามาถึงห้องรับรองสำหรับรอคิวเล่นคอนเสิร์ตแล้ว เขาก็ผายมือให้แจ็คสันเดินเข้าไปด้านใน
หล่อนกล่าวสวัสดีกับสมาชิกทุกคน ทั้ง ฮีท ไวร์ รวมถึงคิด แล้วโค้งตัวทำความเคารพอย่างสุภาพอ่อนโยน
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา
“ ดอกไม้คะ ยินดีด้วยนะ ” แม้จะเป็นแค่งานเฟสติวัลธรรมดา แจ็คสันส่งดอกไม้ในมือให้คิลเลอร์
“ อุ้ย ขอบคุณครับ ” คิลเลอร์ยิ้มแก้มแทบแตก แม้ว่าพวกเขาจะได้ดอกไม้อยู่เสมอ แต่พอเป็นหญิงสาว
ตรงหน้าเขาถึงกับแทบเก็บทรงไม่อยู่ แม้จะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าที่แท้จริงไว้ตลอดเวลา มีแค่เส้นผมสีทองยาวสลวย
โผล่เป็นอิสระให้ประชาชนได้เห็น
“ แม่ง มาก็ช้า แถมยังพาทีมช่างแต่งหน้าไปหมดเลย ให้ทีมงานมาขอเวลาวงพวกเราไปเล่นเพลงมันอีก ”
ฮีทบ่นอุบหน้าตาย ใครจะไปล่วงรู้ละว่าทีมช่างแต่งหน้าส่วนตัวของ ‘วิคตอเรีย พั๊งค์’ จะยังมาไม่ถึงห้องแต่งตัว
แถมเวลาในการแสดงของพวกเขานั้นถูกดึงไปอีก ตอนแรกที่ได้ยินเขาก็ไม่บ่น ไม่ว่าเพราะเหนื่อยเหมือนกัน
แต่แฟนเพลง แฟนคลับที่รออยู่ในงาน จ่ายเงินเสียค่าบัตรเพื่อมาดูพวกเขานะ! นอกจากค่าบัตรก็ยังมีค่าเดินทาง
ค่าอาหาร อีกยิบย่อย ไม่อาจจะนับได้ครบ ดังนั้นพวกเขาก็อยากแสดงฝีมือ อาละวาดบนเวทีกันบ้าง!
“ อะไรหรอคะ? ” แจ็คสันสงสัยว่าทำไมทุกคนถึงทำหน้าเซ็ง จากที่เดินผ่านหรือสอบถามคิวจากทีมงาน
สต๊าฟได้บอกกับหล่อนว่า วิคตอเรีย พั๊งค์ จะเล่นเป็นวงปิดงาน ซึ่งตอนนี้หนุ่มๆก็สแตนด์บายรออยู่ที่ห้องเรียบร้อย
หนุ่มๆหันมาทักทายพูดคุยกับหล่อนกันเพียงเล็กน้อย แล้วก็หันไปสนใจเรื่องของตนเองต่อ
“ เอ่อ คือ ” คิลเลอร์ลังเลที่จะพูดเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น
“ เดี๋ยวฉันมานะคะ ” ดวงตาสีขนนกพิราบว่องไว มองใบหน้าของทุกคนก็พอจะรู้ว่าพวกเขาก็ไม่ได้แต่งหน้า
หรืออาจจะแต่งบางๆ เพียงเท่านั้น ดังนั้นแล้วหล่อนรีบกลับไปที่รถยนต์ส่วนตัว หยิบกระเป๋าบรรจุเครื่องสำอาง
ทรงสี่เหลี่ยมกลับมาที่ห้องพักศิลปิน รีบเดินจ้ำด้วยความว่องไวและไม่อยากให้ใครมาเห็นหล่อนอยู่ที่นี่
“ มาค่ะ เดี๋ยวฉันดูให้ ” แจ็คสันขยับตัวนั่งลงด้านข้างของไวร์ วางกระเป๋าเครื่องสำอางลงบนโต๊ะ
ด้านหน้าเป็นบานกระจกขนาดใหญ่ แสงไฟสีขาวจากหลอดนีออนสว่างจ้า ช่วยให้แต่งหน้าได้ดี มองเห็นอย่างชัดเจนขึ้น
กางกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมออกมา สไลด์ชั้นเครื่องสำอางแยกซ้ายขวา ข้างละสามชั้นเล็กๆ วางแปรงสำหรับแต่งหน้า
อีกแถวขนาดใหญ่ราวๆเกือบเมตรเรียงลำดับตั้งแต่อันเล็กสุดไปจนถึงอันใหญ่สุด
“ โว้ นางฟ้ามาโปรดชัดๆ ” ฮีทถึงกับยิ้มออก แจ็คสันไม่ได้มาเป็นกำลังใจให้พวกเขา ส่งมอบดอกไม้แล้วกลับ
คราแรกเขาก็นึกว่าหล่อนคงกลับไปแล้วหรือไม่ก็รอดูงานคอนเสิร์ตของศิลปินคนอื่นๆมากกว่า
“ รบกวนด้วยนะคะ ” แจ็คสันเอ่ยพร้อมรอยยิ้มอย่างถ่อมตัว
“ ม ม ไม่เลยครับ ไม่รบกวนเลย แต่พวกผมนี่ละรบกวน ” ฮีทยกมือทั้งสองขึ้นมาโบกไป มา
“ งั้นขออัดคลิปลงบล็อคส่วนตัวได้ไหมคะ? ” แจ็คสันเอ่ยขอ หากปล่อยเพลงที่ได้คอลแลปกันไปแล้ว
อาจจะลงคลิปแต่งหน้าหนุ่มๆเพื่อเรียกเรทติ้งยอดเพลงมากขึ้นก็ได้ หรือไม่… ก็อาจจะปล่อยคลิปแต่งหน้าของหนุ่มๆก่อน
เพลงจะเผยแพร่สู่สาธารณะ
“ ยินดีครับ ” ฮีทยิ้มพยักหน้า ปล่อยให้แจ็คสันได้ลงมือทั้งอัดคลิปและแต่งหน้าของเขา
ตามจริงแล้วพวกเขามีช่างแต่งหน้าประจำวง แต่เหมือนว่าจะเกิดเรื่องขึ้นอย่างฉุกละหุกทำให้ทีมช่างแต่งหน้า ยังมาไม่ถึง
ไม่สิ ช่างแต่งหน้าทำผม มาถึงงานเรียบร้อยแล้ว ต้องเรียกว่ามาไม่ถึงห้องของพวกเขามากกว่า!
ทีมแต่งหน้าของพวกเขาก็เป็นผู้ชายแต่ใจสาวเท่านั้น ไม่เคยมีทีมช่างแต่งหน้า ทำผม เพศหญิงได้เข้ามาร่วมหายใจ
อยู่ด้วยกันภายในห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้ ยกเว้นเพียงแจ็คสัน!
เพราะความต้องการของคิด… อย่าว่าแต่ช่างแต่งหน้า ทำผมเลย หมาตัวเมียยังไม่มีมาเฉียด!
“ ทำไมถึงวนๆอยู่ตรงตาละ? ” ฮีทส่องกระจกบานใหญ่ตรงหน้า แล้วถือกระจกบานเล็กในมือ
เพื่อเช็ครายละเอียดบนใบหน้า มืออิสระอีกข้างชี้นิ้วในส่วนดวงตาทั้งบน ล่าง
“ ที่คุณฮีทกรีดตามาแล้วก็คมดี แต่ฉันอยากให้มีมิติมากกว่านี้อีกคะ ก็เลยคัดเบ้าตาให้ดูลึกขึ้น ”
แจ็คสันกำลังใช้แปรงขนอ่อนเบรนสีบนเปลือกตาของฮีท อย่างเบามือ ฮีทเองก็มองการแต่งหน้าของหญิงสาว
หล่อนใช้สีหลายสีเหมือนกัน เริ่มจากสีเหลือง น้ำตาลเข้ม เติมน้ำตาลเข้มเรื่อยๆตามด้วยสีดำเบรนสีให้ทุกอย่างกลืนกัน
อย่างลงตัว ตามด้วยกลิตเตอร์วิ้งเพิ่มความวาววับ
“ ไม่บอกก่อนละครับ จะได้อดนอนสักสี่ห้าวัน ” ฮีทพูดติดตลกหน้าตาย เบ้าตาลึกแบบธรรมชาติด้วย
ชนิดที่ว่าไม่ต้องแต่งตาก็ได้ เขาขึ้นเวทีได้เลยทันที! กลับกลายเป็นเสียงหัวเราะของหนุ่มๆ และทีมงานในห้องเฮฮาลั่น
“ กลัวสุขภาพจะแย่ด้วยนะสิคะ ยิ่งโหมงานเยอะขนาดนี้ ขอฉันเน้นตรงหัวตาเพิ่มกับหางตานะคะ ”
แจ็คสันห่วงเรื่องสุขภาพ วางแปรงแต่งหน้าลงแล้วหยิบอายไลน์เนอร์สีดำขึ้นมา แล้วเขียนเน้นหัวตา หางตา
เพิ่มความคมเข้ม จากนั้นปาดแก้ม ด้วยบลัชออนเพื่อให้ผิวซีดของฮีทคล้ายบ่มแดดมา
“ ว้าว เหมือนมืออาชีพเลย ” ฮีทเอ่ยด้วยความพึงพอใจ ทั้งมองกระจกบานใหญ่ สลับมองกระจกในมือ
รอยสักที่เป็นรอยเย็บตัวขาบบนใบหน้า จากมุมปากซ้ายขวา ถึงข้างแก้ม ตามลำตัวของเขาก็ยังดูเด่น ไม่ได้ด้อย
หรือถูกลบหายไปด้วยพวกคอนซีลเลอร์ ตามที่แจ็คสันว่าเน้นเรื่องของดวงตาให้คม เราะเขาไม่มีคิ้ว ดวงตาของเขาดูมีมิติ
มากกว่าเดิม ผิวกายขาวซีดไม่เคยต้องแสงแดดเพราะอยู่แต่ในร่ม แทบไม่เจอแสงยูวีทำให้ผิวขาว ได้บลัชออนมาเพิ่ม
แถมคอนทัวร์หน้าตรงสันกราม เพื่อให้เห็นโครงหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น ฉีดสเปรย์น้ำแร่สุดท้ายเพื่อให้เครื่องสำอางติดทน
เท่านี้เป็นอันเรียบร้อย
“ โหย อย่างกับโลกคู่ขนาน ” ฟ้ากับเหวคงธรรมดาเกินไป! ฮีทพูดขณะจ้องมองหน้าตัวเองกับกระจก
บีฟอร์กับอาฟเตอร์นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
“ เสร็จแล้วก็ลุกสิครับ คนอื่นรออยู่ ” ไวร์เอ่ยเพื่อเตือนให้ฮีทลุกออกจากเก้าอี้ได้แล้ว!
คนอื่นจะได้แต่งหน้าบ้าง “ อ๋อ ถ่ายคลิปได้เลยนะครับ ” ไวร์เอ่ยอนุญาตก่อนที่หญิงสาวจะขอร้อง เขาก็ให้ความร่วมมือ
ไวร์ไม่ได้สวมผ้าคลุมผมสีดำเหมือนตอนเล่นคอนเสิร์ตบนเวที เห็นว่าเขาตัดผมสั้น อันเดอร์คัทแบบขาว เกรียน
เส้มผมสีดำซอยสั้นเสยไปทางด้านหลังเพื่อที่จะสวมผ้าคลุมสีดำทับอีกชั้น
แจ็คสันมองใบหน้าของไวร์ เขาพอแต่งตาสโมคกี้อายมาเบาๆล่วงหน้า เก็บทรงคิ้วนิด หล่อนเติมอีกหน่อยก็โอเค
ดัดขนตา ปัดขนตา ผิวหน้าค่อนหน้าดี อาจจะมีรอยคลำใต้ตากลบด้วยคอนซีลเลอร์ หยิบดินสอเขียนคิ้ว
เติมคิ้วให้ยาวเท่ากับหางตา เขียนแบบเรียงเส้นเพื่อความธรรมชาติ เน้นส่วนหัวตาอีกนิด ปัดแก้มชมพูระเรื่อเบาๆ
เติมปากอีกหน่อยด้วยลิปมันแค่นี้ก็เรียบร้อย
“ ลิป ตรงปากมันเย็นๆนะว่าไหม? ” ไวร์พยายามพูดขยับริมฝีปากน้อยที่สุด เปล่งเสียงจากลำคอ
ขณะแจ็คสันเติมปากให้
“ ความเย็นจะช่วยให้ริมฝีปากกระชับ แล้วก็ไม่เหี่ยวด้วยคะ ” นี่คือข้อดีของลิปที่หล่อนเลือกมาใช้
นอกจากการให้สีแบบธรรมชาติ ก็บำรุงริมฝีปากไปในตัว หยิบทิชชู่ขึ้นมาพับครึ่ง ให้เขาเม้มปากเป็นเส้นตรง
เพื่อซับส่วนเกินจากริมฝีปากเบาๆ เพื่อสีที่สวยธรรมชาติไม่หลอกตาและติดแน่นยิ่งขึ้น
“ แพงไหมละครับเนี่ย? ” ไวร์ส่งมือหยิบกระปุกลิปของหล่อนขึ้นมาดู ทั้งฉลากและยี่ห้อด้วยความสนใจ
“ ซื้อมานานแล้วคะ ราคาน่าจะอยู่ที่สองพันเบรีกว่าๆค่ะ ” แจ็คสันเติมปากให้ไวร์เสร็จพอดี
“ สงสัยต้องซื้อตามแล้วละ ขอถ่ายรูปหน่อยนะครับ ว่าแต่แจ็คสันแต่งหน้าออกงานเองหรือ? ”
ไวร์ล้วงหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมา เข้าโหมดถ่ายรูปเพื่อบันทึกภาพเก็บไว้ หากไปเดินห้างสรรพสินค้า จะเข้าไป
ส่วนเครื่องสำอางตามหาเคาน์เตอร์แบรนด์ แล้วซื้อมาใช้ตามที่หญิงสาวใช้ เห็นจากกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยม
บรรจุเครื่องสำอางเต็มใบหมด แล้วก็อุปกรณ์การแต่งหน้า ของหล่อนแล้วเกิดสงสัย
“ ได้เลยค่ะ ด้วยความยินดี ตอนแรกฉันก็จ้างช่างแต่งหน้าค่ะ เขาไปทัวร์กับเรา เขาได้แค่งานเดียว หากไม่ได้ไป
เขารับงานแต่งหน้าได้อีกสองถึงสามงานเลยค่ะ ” ดังนั้นแล้วหล่อนเรียนรู้ ฝึกแต่งหน้าด้วยตนเองจะดีกว่า
แจ็คสันอนุญาตพยักหน้าเอ่ยปาก วางมือลงบนบ่าของไวร์เพื่อไม่ให้เขาขยับตัว หล่อนหยิบขวดสเปรย์น้ำแร่ขึ้นมา
เพื่อลงขั้นตอนสุดท้าย
“ ปกติไม่ค่อยเห็นลุคคุณไวร์แบบนี้เลย ” เท่าที่แจ็คสันตามดูคอนเสิร์ตผ่านยูทูป หรือดูภาพนิ่ง บ้านเบสตั่งต่าง
หรือจะจากเพจออฟฟิเชี่ยล เหมือนว่าครั้งนี้หล่อนจะแต่งหน้าของเขาเข้มขึ้นกว่าเดิม คิ้วคมๆ ตาแน่นๆ ฟาดแก้ม
ฟาดปาก ตามจริงหากไวร์ไม่ได้ไปขึ้นคอนเสิร์ตเขาก็สามารถแต่งหน้าแนวนี้ได้เช่นกัน ส่วนจะไปไหนนั้นก็ไปเถอะ แล้วแต่!
“ ใช่ คุณไวร์นั่งอยู่! ” แล้วจะลุกได้อย่างไรกันละ? เสียงของทีมงานในห้องพักศิลปินแทรกขึ้นมา
ก็พาลให้ทุกคนหัวเราะกันด้วยความครื้นเครง
“ ลุคไม่ใช่ลุกเฟ้ย! ” ไวร์ถึงกับต้องตบมุกแก้ให้ตอนท้าย!
“ ผมแต่งบ้างสิ ” คิลเลอร์เอ่ยแซว หลังจากนั่งมองอยู่มุมห้องมานาน สองหนุ่มเจ้าสำอาง
แต่งหน้ากันไปอย่างที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ก็เหลืออีกสองคนเขากับคิดเท่านั้น
“ โฮ่ย ใส่หน้ากากอย่างแก ยังต้องแต่งหน้าอีกเรอะ? ” ฮีทส่งเสียงแขวะหนึ่งที มือสองข้างสางเส้นผมสีฟ้าจัดทรง
คนหวงเนื้อหวงตัวไม่มีแม้แต่ให้เห็นเสี้ยวหนึ่งของใบหน้าอย่างคิลเลอร์ มันจะแต่งไปไหน แถมแต่งให้ใครดู?
ถึงแต่งหน้าอย่างไรก็สวมหน้ากากทับอีกชั้น ทั้งบด ทั้งบัง ไม่มีใครเห็นอีกตังหาก!
“ ฉันก็แต่งไว้เผื่อวันไหนไปเที่ยวจะได้ถอดหน้ากากเล่นกับสาวๆ ทำไม? ” ตามจริงแล้วการใส่หน้ากาก
ปิดบังใบหน้าก็มีข้อดีอย่าง หากวันใดเขาไปเดินในที่สาธารณะ หรือจะไปในที่ๆอโคจรเช่น อาบอบอวด
อย่างน้อยก็ไม่มีใครจำได้! เจอไรท์ชิวใช้บริการที่นั่น คงไม่เข้ามาขอถ่ายรูปด้วยแน่ ไม่เป็นที่ติฉินนินทา ข่าวใหญ่โต
ให้เกิดความเสื่อมเสียด้วย
“ เออๆ ไม่สนใจก็ไม่สนใจละ ไม่อยากรู้ละ ” คิลเลอร์มันร้ายเว้ยเฮ้ย มันนัดสาวที่ไหนอีกวะ?
ปกติอยู่ด้วยกันก็ใส่หน้ากากแทบตลอดเวลา ราวกับว่าหน้ากากที่สวมอยู่นั้นเป็นผิวหน้าของมันจริงๆ ยิ่งได้ยินคำพูด
ข้างต้น แสดงว่าลับหลังพวกเขานั้นคิลเลอร์แอบถอดหน้ากากแล้วไปเที่ยวเลาจ์แน่ๆ ฮีทแกล้งทำเสียงไม่ใส่ใจ
แต่พอเอาเข้าจริงแล้วเขากลับเป็นตรงกันข้าม ยิ่งได้ยินคำว่า ‘เล่น’ ด้วยแล้วใจยิ่งไม่ดี!
“ อ่า คนสุดท้าย ” ไวร์เดินไปจับข้อมือของหัวหน้าวงซึ่งนั่งอยู่อีกมุมของห้อง พากลับมานั่งตรงข้ามของแจ็คสัน
ซึ่งเป็นเก้าอี้ที่พวกเขาได้นั่งเพื่อทำการแต่งหน้า
“ ขออนุญาตนะคะ ” หล่อนโค้งตัวเล็กน้อย แล้วเช็ดทำความสะอาดหลังฝ่ามือซ้ายด้วยทิชชู่เปียก
เพื่อที่จะได้แต่งหน้าของคิด ดวงตาสีเทาของหล่อนมองใบหน้าของคิดชั่วครู่ แล้ววิเคราะห์ออกมาได้ทันที
เขาเป็นผู้ชายที่ผิวหน้าดีอยู่แล้ว มีแค่รอยสิว ขอบตาคล้ำ แทบไม่ต้องปกปิดอะไรมาก ลงรองพื้นเพื่อให้ผิวสม่ำเสมอ
คอนซีลเลอร์เน้นตามจุดรอยสิวแล้วก็ใต้ตา ปัดแก้มไม่ให้ผิวขาวซีดราวกับกระดาษเอสี่ ซีดจนเกินไปให้ดูมีชีวิตชีวา
มากขึ้น แต่งตาคมๆ ทาปาก สมองของหล่อนประมวลผล มือของหล่อนเริ่มลงมือบีบขวดรองพื้นลงบนหลังมือ
ใช้ฟองน้ำชุดน้ำบิดหมาดช่วยเกลี่ยบนผิวทั่วใบหน้า
แท็ป แท็ป แท็ป
“ ฉันมือหนักไปหรือเปล่าคะ? ” แจ็คสันเอ่ยถามด้วยความตกใจ กดฟองน้ำลงบนผิวซีดของคิดย้ำๆวนๆทั่วใบหน้า
การกดรองพื้นแรงๆ เน้นๆ ย้ำๆ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งแต่อย่างใด เป็นการที่ทำให้เครื่องสำอางติดกับผิวได้มากที่สุด
ผิวขาวซีดของคิดตอนนี้เริ่มกลายเป็นสีชมพู “ หน้าคุณแดงไปหมดแล้ว ” หล่อนตกใจจนต้องหยุดมือ
หน้าตาหล่อเหลาราวกับพระเจ้าตั้งใจปั้นเองกับมือ โดยเฉพาะดวงตาของเขาจับจ้อง ทุกการเคลื่อนไหว
ของหล่อนตลอดเวลา ความมีอำนาจประหลาดบางอย่าง ผสมความน่าเกรงขามเป็นอันตรายฉายชัดจากตัวเขา
ดวงตาสีบรั่นดีจ้องมองมาที่หล่อนที เริ่มทำอะไรเลิกลั่ก
แจ็คสันพยายามข่มใจ ทำทุกอย่างให้เหมือนปกติ ดวงตาของ ยูสทัส คิด เปี่ยมด้วยอำนาจมหาศาล
ทั้งสเน่ห์ความแพรวพราวท่วมท้น ดึงดูดราวกับแม่เหล็ก สามารถทำให้ร่างกายของผู้พบเห็นได้ทั่วไปกลายเป็นสถานะ
ของเหลวได้ภายในพริบตา
คงเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่จงใจมอบของขวัญแสนพิเศษ สุดล้ำค่าให้ผู้ชายแสนร้ายกาจคนได้ไปได้อย่างไร
ยูสทัส คิด ไม่สมควรที่จะได้รับดวงตาสวยขนาดนี้ เพราะมันทำให้หล่อนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ยามสบดวงตากับเขา
“ ไม่แน่ใจว่ามือหรือ… ” คิดไม่พูดจบครบประโยค เขาจงใจเว้นช่องว่างให้หญิงสาวเติมคำที่เหลือ
“ คงตีนละมั้ง ก็ต้องมือสิ ” คงเป็นคำพูดที่เขาอยากได้ยินมากที่สุดก็คงจะได้ ดังนั้นจึงพูดส่วนที่ต้องการให้
วางฟองน้ำลง แล้วหยิบคอนซีลเลอร์มาแต้มรอบสิว ใต้ตาแล้วก็ส่วนที่อยากจะเน้น แล้วก็ใช้ฟองน้ำอันเดิม
ใช้ส่วนปลายแหลมแท็ป แท็ป แท็ปตรงใต้ตา รอยสิว ตามด้วยแป้งฝุ่นทั่วบริเวณใบหน้า
เพียงเท่านั้นใบหน้าของเขาก็แมตต์สมใจหล่อนแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คอนทัวร์หน้า เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
หยิบตลับคอนทัวร์ขึ้นมา แปรงปัดสำหรับแต่งหน้าปาดๆ แล้วเคาะหลังมือสองสามหน ค่อยปาดลงข้างกรอบหน้า
จมูกของเขาโด่งเป็นสันอยู่แล้วก็ยังมิวายงัดดั้งเพิ่มความคมเข้ม ปาดด้านข้างจมูกทั้งสองข้าง ตามด้วยปัดแก้ม
“ ปัดแก้มแบบชมพูธรรมชาติ ” วางแปรงสำหรับแต่งกรอบหน้าแล้ว หยิบแปรงขนอ่อนอันใหม่
เปิดพาเลทแต่งแก้มซึงก็มีสีสันฉูดฉาด สายตาสีบรั่นดีส่งกระแสจิตใส่เบาๆว่าไม่ต้องการสีเหล่านั้น! แจ็คสันจำต้องบอก
ถึงความต้องการของตนเอง ว่าเป็นชมพูแบบธรรมชาติ
“ ธรรมชาติบ้านเธอสิ มีสีนี้ด้วยหรอ? ฉันเที่ยว ทัวร์คอนฯมารอบโลกยังไม่เคยเจอสีชมพูนี้เลย! ดาวไหนวะ? ”
จะแกรนไลน์หรือนิวเวิล์ดก็ไม่เคยเจอสีนี้มาก่อน!
“ ดาวนาแม็กมั้ง! ก็สีชมพูแบบธรรมชาติ! ” แจ็คสันตอบให้ แล้วเน้นว่าเป็นสีชมพูปกติ เพื่อให้อีกคนเข้าใจ
แต่เหมือนจะไม่เข้าใจอะไรเลย ปากของเขายังคงหาเรื่องหล่อนได้ตลอดเวลา! หยิบแป้งฝุ่นมาทาตรงใต้ตาของเขาต่อ
ทั้งสองข้างเพื่อที่จะแต่งเปลือกตาทั้งสองข้าง
สองหนุ่มไวร์ ฮีท คงเคยชินกับการแต่งตา พวกเขาไม่มีอาการเกร็งหรือตัวสั่น เมื่อถูกแต่งเปลือกตา ชิดขอบตา
เขียนอายไลน์เนอร์แบบเจล ปัดขนตาทับ
ดวงตาสีบรั่นดีคู่คมทรงอานุภาพจับจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าเคลื่อนไหวตลอดเวลา มือของเขายังคงถือโทรศัพท์
มืออีกข้างวางบนตัก นั่งหลังตรงแด่วราวกับถูกขีดด้วยดินสอไม้กับสันของบรรทัด แจ็คสันจำต้องลุกจากเก้าอี้ที่กำลังนั่ง
สายตาของเขากำลังแผดเผาให้ร่างกายร้อนลุ่ม จนแทบจะไหม้ได้ตลอดเวลา
“ ฉันหาจุดโฟกัสหน่อย ” ว่าแล้ว หยิบพัฟของแป้งฝุ่นสวมทับไว้ตรงข้อนิ้วนางแตะ เพื่อปลายแปรงขนอ่อน
แต้มสีจากตลับพาเลทสำหรับแต่งตา เคาะกับหลังมือสองสามหนแล้วป้ายลงเปลือกตา ลงสีน้ำตาลก่อนค่อยเพิ่มความเข้ม
ตามด้วยสีดำแล้วเบรนสีให้กลืนกัน นอกจากเปลือกตาบนแล้วก็ต้องแต่งชิดขอบตาล่าง
“ เสียวหรือเปล่า? ” แตะปลายแปรงขนอ่อนเบาๆ โดยไม่ทันได้บอกว่าจะแต่งตาล่าง หล่อรู้สึกว่าเขานั่งนิ่ง
มีท่าทีแข็งๆ พยายามหลับตา ไม่ทันไรเขาวางฝ่ามือลงบนข้างเอวคอดของหล่อน ราวกับเตือนให้หยุด
“ ตาหรอ? ” ตรงอื่นของเขานั้นเสียวยิ่งกว่า
“ ฉันเข้าใจว่าถ้าคุณสบายใจกับช่างแต่งหน้า คนที่คุณโอเคคุณก็จะโอเค ” ส่วนมากเวลาแต่งหน้าผู้ชาย
ที่ไม่เคยแต่งหน้ามาก่อน มักเกิดอาการ กลัว ยิ่งการแต่งตานั้นไปกันใหญ่! “ ถ้ามันจะเข้าตาฉันจะบอกเอง ”
ลงกรีดอายไลน์เนอร์เน้นๆส่วนของดวงตาทั้งสองข้าง ไม่ได้คิดว่าเขาตะเต๊ะอั๋งแต่อย่างใด แจ็คสันคิดว่าหากเกิดอุบัติเหตุ
เขาคงจับหล่อนหักเอวก่อนเป็นอย่างแรก ยกร่างของแจ็คสันขึ้นกลางอากาศกระชากร่างของหล่อนเป็นสองส่วน
ด้วยมือคู่นั้น เขาคงทำได้โดยไม่ยาก!
ก็ใช่.. เขาสบายใจกับช่างแต่งหน้าประจำวงของเขา แต่เหมือนว่าทีมแต่งหน้าถูกเรียกไปให้บริการศิลปินคนอื่น
ทีมช่างแต่งหน้าของเขานั้นนอกจากจะเป็นผู้ชาย แต่ใจเป็นผู้หญิงแล้ว ทำงานร่วมกันมาเป็นเวลายาวนาน
จนเกิดความสนิทและเชื่อใจ หรือจะให้พูดง่ายๆว่าเขาไม่เชื่อใจหญิงสาวตรงหน้า
หากเกิดอุบิติเหตุขึ้นมาละ?
ใครจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบ?
แม้จะได้เห็นผลงานการแต่งหน้าของหล่อนแล้ว จากเพื่อนในวง สกิลการแต่งหน้าของหล่อนใช้ได้เลยทีเดียว!
“ ขอฉันดัดขนตาหน่อยนะ ” แจ็คสันบอกล่วงหน้า แล้วหยิบที่ดัดขนตามาอยู่ในมือ ดัดทั้งขนตาบนขนตาล่าง
ทั้งสองข้างเพื่อความงอน แล้วก็ปัดขนตาซ้ำ “ ขนตาคุณเป็นแพ สวยมากเลย ” ขนาดผู้หญิงต้องเอ่ยปากชม
“ ปกติผู้ชายต้องดัดขนตาด้วยหรอ? ” แต่งหน้ามานาน เขาไม่เคยได้ดัดขนตาสักครั้ง
“ ดัดสิ ผู้ชายเขาดัดกันหมด แต่ว่าการแต่งหน้าของพวกเขาแตกต่างจากผู้หญิง คือแต่งหน้าธรรมชาติ
ที่มองว่าแต่งเหมือนไม่ได้แต่ง บรู๊ค คาเวนดิช คาตาคุริ ” หล่อนอธิบายให้เขาได้เข้าใจ พร้อมกับยกตัวอย่างของศิลปิน
ดารา นายแบบ เกือบครึ่งวงการ
“ เอาละ ทาลิป ” ขั้นตอนสุดท้ายก็มาถึง
แจ็คสันเลือกหยิบสีแดงเข้มขึ้นมา แล้วสวอชสีลงบนหลังมือที่ไม่เลอะรองพื้น แตะด้วยปลายนิ้วนาง
ลงบนริมฝีปากหยักอย่างแผ่วเบา ตั้งแต่มุมปากซ้ายไปขวา คิดเม้มริมฝีปากเข้าหากันแล้วเริ่มถูกระจายสีให้ทั่ว
ซ้าย ขวา บน ล่าง
ระยะใบหน้าของหล่อนใกล้มาก ห่างจากใบหน้าของเขาไม่เกินหนึ่งช่วงแขน ปลายจมูกได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ
จากผิวเนียน กลิ่นหอมหวานละมุนจนอยากจะเข้าไปค้นหาต้อตอของกลิ่น ดวงตาสีบรั่นดีได้โอกาสสำรวจบนใบหน้า
ของหล่อนแทบทุกตารางนิ้ว ใบหน้าของแจ็คสันนั้นแทบไร้เครื่องสำอางประทินโฉม
ต่างจากหญิงสาวที่เขาเคยควง พวกเธอนั้นมักฉาบด้วยรองพื้นหนาเตอะปกปิดบังใบหน้า ผิวธรรมชาติ
เห็นเด่นมาแต่ไกลไม่ว่าจะรองพื้นคนผิวกับผิวจริง หน้าอีกสี ลำคออีกสี แถมใบหูก็ยังอีกสี ซึ่งไม่มีอะไรสีเดียวกันเลย
สวยร้อยลี้สวยร้อยเมตร พอเข้ามาใกล้เหมือนกันกับคนละคน หากจะล้างหน้าล้างตาออกมาจากห้องน้ำยิ่งแล้วใหญ่
แทบไม่เหลือเค้าโครงจากการแต่งหน้าเลยสักนิด ฉีดพ่นน้ำหอมทั่วทั้งตัวจน เกิดอาการฟุดฟิดคันปลายจมูก
ยิ่งคนประสาทสัมผัสไวต้องยกมือขึ้นมาปิดปากจมูก แล้วตามด้วยเสียงจามสนั่น!
ดวงตาสีเทาของหล่อนนั้นชวนฝัน จนคิดต้องเลื่อนหลุบสายตาลงต่ำ
กลายเป็นว่าเผลอจ้องริมฝีปากเล็กๆน่ากัดสีระเรื่อ ปลายคางเรียวมน ช่วงลำคองามระหง
ไหปลาร้าผุดขึ้นจากผิวกายเป็นเส้นตรง ผิวเนียนๆช่วงเนินอกและหน้าอกอวบอิ่ม ยิ่งหล่อนเข้ามาใกล้โน้มตัวเข้าหา
คอเสื้อตัวโคล่งกว้างๆนั่นเปิดให้เห็นไหนต่อไหน....
ซึ่งคนในมุมสูงสามารถกดสายตาลงมองเห็นอย่างชัดเเจ๋ว ด้วยความคมชัดระดับหนึ่งพันแปดสิบพี!
ทรวงอกเต่งตึงราวกับมะพร้าวห้าวสองลูกเบียดเสียดกันใต้เสื้อยืดวงดนตรี ถูกโอบอุ้มด้วยบราเซียร์สีเข้ม ตัดกับสีผิว
ขาวเนียนราวกับเนยชั้นดี เบียดเสียดกันอยู่อย่างนั้นฝ่ามือข้างที่กำโทรศัพท์แน่น เผลอๆอาจจะบีบโทรศัพท์ทัชสกีน
แตกเป็นเสี่ยงเล็กเสี่ยงน้อย เพื่อหักห้ามใจของตัวเองไม่ให้ส่งมือเข้าไปจับ หรือสัมผัสขยำหน้าอกล่อตาล่อใจตรงหน้า
“ เรียบร้อย ขอบคุณนะคะ ” แจ็คสันหันไปขอบคุณ แล้วกดหยุดบันทึกภาพเคลื่อนไหว หยิบกระดาษทิชชู่เปียก
เช็ดทำความสะอาดหลังมือ เก็บอุปกรณ์เข้ากล่องสี่เหลี่ยมให้เรียบร้อย
เสียงบานประตูหน้าห้องถูกเคาะเป็นจังหวะสามหน ก่อนถูกเปิดออกกว้าง ร่างของชายสวมชุดเสื้อยืด
สกีนลายงานเทศกาลดนตรีพยักหน้า
“ วิคตอเรีย พั๊งค์ เชิญข้างเวทีได้เลย ” เขาบอกแล้วผายมือ ให้ทุกคนตามเขาไป
“ ขอบคุณนะแจ็คสัน เธอเป็นนางฟ้ามาโปรดพวกฉันเลย ” ฮีทดีใจ กางแขนสองข้างทำท่าจะเข้าไปโอบกอด
หญิงสาวเพื่อแทนคำขอบคุณ
“ ไม่ต้องเลย บอกขอบคุณเขาก็พอ! ” ไวร์รีบดึงคอเสื้อฮีทจากทางด้านหลัง
“ ขอบคุณนะแจ็คสัน ” คิลเลอร์โค้งตัว เขาติดต่อกับอาพู เพื่อให้อาพูติดต่อกับผู้จัดการของแจ็คสันอีกที
เช็คตารางงานของหล่อน ว่าวันนี้หล่อนมีงานอีเวนท์ที่อื่นหรือไม่ ทางผู้จัดการบอกว่าช่วงนี้แจ็คสันพักผ่อน
เพราะเพิ่งจบคอนเสิร์ตใหญ่ทั่วโลกมาหมาดๆ นอนพักยังไม่ถึงสัปดาห์ดี ก็เกิดแรงฮึด ฟิตเร่งทำอัลบัมใหม่แล้ว
โชคเข้าข้างเพราะเขาชวนแจ็คสันมา การจะทำเพลงคอลแล็ปด้วยกันสักเพลง ก็ควรจะมีความสนิทสนมกันบ้างเล็กน้อย
เพื่อการทำงานที่ราบรื่นไปได้ด้วยดี ดังนั้นเขาจึงต้องละลายพฤติกรรมทั้งทางวงของเขา และตัวแจ็คสันด้วย
นอกจากมาให้ดอกไม้สวยๆช่อบะเอ้ก กำลังใจเล็กๆน้อยๆ หรือจะช่วยเรื่องการแต่งหน้าก่อนขึ้นเวที
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับพวกเขามาก่อนเช่นกัน แต่ก็ถือซะว่าเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันอีกหนึ่งกิจกรรม
แถมผ่านออกมาด้วยดี
หนุ่มๆ วิคตอเรีย พั๊งค์ เตรียมตัวแสตนด์บาย รอขึ้นเวที แจ็คสันเก็บข้าวของเสร็จแล้วจึงเดินตามไปด้วยทีหลัง
ระหว่างนั้นได้เห็นศิลปินก่อนหน้า ระหว่างโถงทางเดิน
“ อ้าว แจ็คสันมาด้วยหรอ? ” เขาเอ่ยทักทาย
“ รุ่นพี่โซล คิง ” หล่อนเอ่ยทักทายเขา ซุปตาร์โซล คิง หรือเรียกกันด้วยชื่อเล่นว่าบรู๊ค ศิลปินเดี่ยว
ผู้มากความสามารถ สุดยอดทั้งนักร้อง และเล่นดนตรี เหมือนกับแจ็คสัน ทั้งร้อง เล่น เต้น ได้อย่างครบเครื่อง
“ มาดูคอนเสิร์ตหรอ? ”
“ ค่ะ ”
“ ตะกี้เพิ่งเจอหนุ่มพั๊งค์ เขาเปลี่ยนทีมช่างแต่งหน้าใหม่หรอ? ” บรู๊คขยับแว่นตาสีดำทรงกลมบนใบหน้า
“ เอ่อ ดีหรือว่าไม่ดีคะ? ” แจ็คสันปั้นหน้าใสตาซื่อ ไม่รู้เห็นเกี่ยวกับคำถามของอีกคน
“ แต่งหน้าดีนะ ดีมากเลย แบดบอย เกเร กร้าวใจมากเลย สงสัยอยากได้ช่างมาแต่งหน้าให้บ้างเท่านั้นเอง ”
บรู๊คชื่นชมแล้วค่อยๆหรี่เสียง แล้วค่อยอธิบายให้อีกคนเข้าใจ โดยที่หญิงสาวตรงหน้าคงไม่รู้หรอกว่า เขาได้ดึง
รั้งทีมช่างแต่งหน้าไว้ให้นานที่สุด แต่งหน้าเพิ่ม ไม่ก็จัดทรงผมแอฟโฟร่จนกว่าเขาจะพอใจ ยื้อไว้จนวินาทีสุดท้าย
ก่อนจะปล่อยให้ทีมช่างเป็นอิสระ ไปแต่งหน้าให้กับศิลปินคนอื่น ซึ่งก็เหลือคนวงปิดคอนเสิร์ตเท่านั้น
ทว่าบรู๊คไม่รู้หรอกว่า คนที่แต่งหน้าให้กับหนุ่มพั๊งที่ว่าก็ไม่พ้นหล่อน หญิงสาวตรงหน้าของเขานั่นเอง!
เสียงกระหึ่มจากคนดูด้านนอก ส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นจนทั่งสองรู้สึกตัว ตามด้วยเสียงพูดคุยผ่านไมโครโฟน
ทักทายแฟนเพลงตามสไตล์ของวิคตอเรีย พั๊งค์ เสียงกรี้ดจากแฟนคลับรอชมคอนเสิร์ตปิดท้ายดังอีกระลอก
แม้จะอยู่โถงทางเดินยังได้ยินชัด
“ เดี๋ยวจะถามมาเผื่อนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ ” แจ็คสันไม่โพล่งปากบอก ว่าช่างแต่งหน้าที่เขาอยากได้ตัว
มาทำงานด้วยก็คือหล่อนเองละ!
“ อืมๆ ขอให้สนุกกับงานนะ ” บรู๊คก็พยักหน้า “ แล้วเจอกัน ” โบกมือลาหญิงสาว ทั้งที่ใจอยากจะชวน
พูดหรือคุยต่อ ลองสังเกตุจากท่าทางแล้วหล่อนคงอยากจะไปฟังเพลงมากกว่าที่จะสนทนาพาที ดังนั้นปล่อย
ให้เป็นโอกาสหน้า ค่อยหาเวลาชวนคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยใหม่
“ แม่ง มาก็ช้า แถมยังพาทีมช่างแต่งหน้าไปหมดเลย ให้ทีมงานมาขอเวลาวงพวกเราไปเล่นเพลงมันอีก ”
คงเป็นรุ่นพี่ที่มาก่อน บางทีอาจจะอินจากระบบโซตัสจากมหาวิทยาลัย มาใช้กับรุ่นน้องในค่ายเพลง
อ๋อ เป็นแบบนี้เองสินะ แจ็คสันจำได้ว่าคุณฮีทเคยบ่นอยู่แหมบๆ ก็คงไม่พ้นชายตรงหน้าสินะ
ถือเป็นการเปิดโลกของการเรียนรู้บทใหม่ ศิลปินชายไม่ว่าจะเดี่ยวหรือกลุ่ม ก็ยังมีเรื่องของการแข่งขัน
จะค่ายเดียวกันหรือว่าจะต่างค่าย ส่วนของแจ็คสันเองที่คิดว่าคงเป็นเพียงเฉพาะฝ่ายผู้หญิงสูงกว่า ที่ต้องแข่งขันกันเอง
ศิลปินเดี่ยว เกิร์ลกรุ๊ป ไม่ว่าจะด้วยหน้าตา ดวงตากลมโต จมูกต้องโด่ง ปากกระจับ=สวย รูปร่างตัวเล็กเอวบาง
ผอม=สวย ผิวขาว=สวย การตั้งบิวตี้สแตนดาร์ด จึงเกิดค่านิยมความสวยงามของผู้หญิงไปโดยปริยาย
นี่ขนาดยังไม่ทันได้พูดถึงเรื่องของเนื้องานเพลง ก็เห็นถึงการแข่งขันกันทางตลาดเพลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ยาวหน่อยนะครับ คิดว่าคงหายไปสักพัก.
โปรดติดตามตอนต่อไป…
19 ก.ย. 2565
เป็นอีกตอนที่ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป นะครับ ให้พระ-นาง ค่อยๆทำความรู้จักกัน นอกจากหน้าตาแล้วรวมถึงนิสัย
ฟาดฝีปากแซ่บๆ หรือจะปากแจ๋วกันไป-มา อย่ารีบเพิ่งเบื่อน้า รับรองตอนหน้ามีฮาแน่ๆ XD
ความคิดเห็น