คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เหนือกาลเวลา : แคร์บางคน คนบางแค
- แคร์บางคน คนบางแค -
- Itachi's talking.
อยู่ดีๆรุ่นพี่เท็นโซหรือหัวหน้ายามาโตะก็ปราดมาหาผมแบบเงียบๆ เอ่ยทักทายเล็กน้อยพอเป็นพิธีแล้วก็จากไป
เดี๋ยวก่อนนะผมเริ่มเล็งเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง เมื่อครู่ยังเห็นเป็นรุ่นพี่คาคาชิกลับเข้าบ้านพร้อมชุน
แต่ตอนนี้กลายเป็นรุ่นพี่ยามาโตะเฉยเลย ดูจากรูปเหตุการณ์คงมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นมาแน่ ผมรีบออกจากที่ซ่อน
เข้าไปในบ้านฮาตาเกะพบชุนอยู่ในห้องนอน ชุนเปิดบานหน้าต่างห้องออกแล้วกวักมือเรียกให้ผมเข้ามา
" มีอะไรหรือเปล่า?" ผมถาม
" มีสิ " ชุนตอบ
" ? "
" คาคาชิแอบรับภารกิจซ้อน เขาไม่บอกอะไรฉันสักคำดูสิแล้วให้คนอื่นมาสวมรอยแทนอีกตังหาก! "
ชุนพูดด้วยน้ำเสียงโทนนิ่งพอจับความรู้สึกได้ว่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก
" ใจเย็นๆ ฉันเชื่อว่ารุ่นพี่คาคาชิต้องมีเหตุผลดีๆ "
" นั่นเรียกว่าข้ออ้าง!....ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย! " ชุนพ่นลมหายใจออกทางจมูก
" งั้นเราต้องไปสืบเรื่องภารกิจของรุ่นพี่คาคาชิกัน " ผมเสนอ
" สืบ? "
" ใช่ ระหว่างที่เขาหายไป ฉันต้องหากระเป๋าของโอโรจิมารุ " ชุนบอกความต้องการ
" ชุนเรื่องนั้นนะ ..." เรื่องที่ชุนเคยเล่าว่าตนเองมาจากโลกอื่น แล้วต้องตามหาของบางอย่าง
ซึ่งนั่นคือกระเป๋าของท่านโอโรจิมารุ กระเป๋าเจมส์บอนด์สีดำใบนั้นก็คงเปรียบเสมือนไทม์แมชชีน เครื่องมือ-
ในการเดินทางข้ามเวลา
" นายรู้ไหมฉันกำลังจะเป็นบ้าตาย มันอึดอัดมากนะที่จะพูดเรื่องเหนือธรรมชาติออกไป ถ้าคนอื่นที่ไม่รู้จักฉัน
เช่นนายคงคิดว่าฉันหกล้มหัวฟาดพื้นสมองกลับแน่ แต่ขอยืนยันเลยนะว่าฉันพูดเรื่องจริง ฉันรู้สึกและรับรู้ว่าที่โลกนินจา-
ไม่เหมาะกับฉันเลย มันไม่ใช่ที่ที่ฉันควรอยู่ " ชุนพูดรวดทีเดียวโดยกลั้นหายใจยาว ผมรับฟังและรับรู้ถึงความรู้สึกของชุน
เป็นอย่างดี
" เข้าใจแล้ว ฉันจะช่วยอีกแรง " ผมยินดีพร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่
เราตกลงคุยเรื่องแอบสืบภารกิจของคาคาชิว่าจะกลับวันไหน ปกติแล้วคงสามวันสองคืนเป็นอย่างต่ำ
ดังนั้นเรายังมีเวลาเหลือเฟือ อย่างแรกชุนขอไปที่ห้องสมุดเพื่อประชาชน เพื่อค้นหาแบบแปลนโครงสร้างของตึกสำนักงาน
โฮคาเงะ และโรงพยาบาลโคโนฮะ ผมจำแบบแปลนได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเสาทุกต้นสายไฟทุกเส้น
ดังนั้นจึงขอเป็นคนร่างแบบคร่าวๆพร้อมอธิบายสั้นๆก็เป็นพอ
" เรื่องเก็บรักษาศพของโอโรจิมารุคงเป็นโรงพยาบาลใหญ่ ดูเหมือนโรงพยาบาลใหญ่คงเป็นโรงพยาบาลโคโนฮะ
คงมีหัวหน้านินจามากฝีมือระดับคาคาชิเฝ้ายามแน่ " ชุนเสยผมขึ้นและแสดงความคิดเห็น มันเป็นไปตามความคาดเดา
ของชุนจริงๆด้วย บริเวณหน้าห้องทำงานโฮคาเงะเต็มไปด้วยเหล่านินจามากฝีกมือผลัดเปลี่ยนเวรยามตลอดสามชั่วโมง
รวมถึงหน้าห้องชันสูตรด้วย ผมบอกข้อมูลลับที่รู้เพียงแค่ไม่กี่คนให้ชุนรับรู้ ส่วนชุนเริ่มลงมือวางแผนไปตามลำดับขั้นตอน
บอกตามตรงเลยว่าผมรู้สึกตื่นเต้นไปกับแผนการขั้นตอนทุกอย่างที่ชุนวางไว้ ชุนต้องการไปดูศพของท่านโอโรจิมารุ
และของกลางที่ยึดเก็บทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตรวมไปถึงไอ้สิ่งที่ชุนเรียกมันว่าปืนบาเร็ตต้าเอ็มเก้าเอหนึ่งสีดำ
ชุนอยากได้สนับมือหรือถ้าเป็นไปได้ดาบคาตานะสักเล่มก็ดี ซึ่งผมสามารถจัดหาให้ชุนได้อยู่แล้ว
" ดีนะที่คาคาชิวางกับบัตรเครดิตไว้ " ชุนหยิบธนบัตรบนโต๊ะทำงานของคาคาชิมายื่นให้
แล้วบอกว่าเป็นค่าอุปกรณ์ ซึ่งผมไม่รับมันสักเรียวของพวกนี้ผมมีเกลื่อนบ้านอยู่แล้ว
" แล้วทำไมนายถึงได้ให้ความร่วมมือกับฉันละ มันไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยลับเลย " ชุนเป็นฝ่ายถามอีกครั้ง
เป็นไปตามที่ชุนถามด้วยความอยากรู้นั่นแหละ ถ้าเกิดมีใครล่วงรู้เรื่องนี้เข้าละก็ มีหวังผมคงโดนท่านโฮคาเงะรุ่นที่สาม
จับขังลืมแบบไม่ได้เห็นเห็นตะวัน ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับผู้ต้องหา!
" ฉัน .." ผมอ้ำอึ้งคิดไม่ออกเลยต้องเรียบเรียงคำพูดอย่างไรดี
" มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า? " ชุนจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของผมเหมือนว่าเขากำลังเข้ามาอยู่ในจิตใจของผม
" ตระกูลอุจิฮะจะทำการปฏิวัติการปกครองนายต้องรีบไปซะ " ผมกลั้นใจบอกทุกอย่างให้ชุนรับทราบ
ผมเชื่อว่าความลับครั้งนี้จะไม่รั่วไหลออกไปเพราะผมไว้ใจชุน
" สงครามสินะ " ชุนปิดเปลือกตาลง และเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ เขาสรุปออกมาสั้นๆ เหมือนรู้ว่าจะเกิดอะไรหลังจากนั้น
" ใช่ ...ฉันเกิดมาในช่วงสงครามครั้งที่สองที่ผ่านมา ฉันรู้ว่ามันย่ำแย่ขนาดไหนเป็นห่วงมากที่สุดก็คงเป็นซาสึเกะ "
" ซาสึเกะ....อุจิฮะ ซาสึเกะ คือน้องชายของนาย?" ชุนแทบไม่เชื่อ เพราะคิดว่าเป็นเครือญาติ
" ใช่ น้องชายแท้ๆเลยล่ะ "
" แล้วนายจะจัดการอย่างไร? "
" ฉันคิดไว้แล้วว่าเรื่องมันควรจบแบบไหน " ผมวางแผนการทุกอย่างไว้ในสมองเรียบร้อย เหลือเพียงแค่ซาสึเกะ
ทำตามทุกอย่างตามลำดับขั้นตอนก็พอ
" ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดตามที่นายบอก ฉันว่าเราเริ่มแผนกันคืนนี้เลยดีกว่า " ชุนเสยผมขึ้น
และมองแผ่นกระดาษแบบแปลนของตึกสำนักงานโฮคาเงะและโรงพยาบาลโคโนฮะ ทั้งสองบนโตะทานข้าว
พร้อมกับวางแผน
" อืม " ผมพยักหน้า
End Itachi's talking.
- Kakashi's talking.
ตอนนี้พวกเราสมาชิกทีมคาคาชิหมู่เจ็ดกำลังพร้อมออกเดินทางนอกหมู่บ้าน ปลายทางคือแคว้นนามิโนะคุนิ
กับภารกิจคอยคุ้มกัน ดาซึนะ ชายวัยกลางคนจากแคว้นนามิโนะคุนิ เงื่อนไขคือ คุ้มครองปกป้องจนกว่าที่ดาซึนะ
จนกว่าจะะสร้างสะพานเสร็จเพิ่งเดินทางออกจากหน้าหมู่บ้านไม่ถึงสามเมตรดี
" ออกเดินทาง! " นารูโตะแผดเสียงร้องดังลั่น
" จะกระดี้กระด้าอะไรนักหนาย๊ะ! " ซากุระอดไม่ไหวต้องต่อว่านารูโตะ
" เฮ้ เด็กพวกนี้จะไหวเร้อ? " ดาซึนะหันมาถามผมเพื่อความชัวร์
" ฮ่ะ ฮ่ะ มีโจนินอย่างผมตามไปด้วยหายห่วงครับ " เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ
" เฮ้ย! ลุงอย่าหยามนินจาให้มากนักนะ อย่างผมเนี่ยอย่างเริ่ดเลยรู้ป่าว สักวันก็จะเป็นนินจาระดับสูงสุดยอด
ที่ได้รับฉายาโฮคาเงะ ชื่อนั่นหรือคือ อุซึมากิ นารูโตะจำไว้ซะ! " นารูโตะประกาศเจตจำนงของตัวเองเสียงดังสนั่น
ฝูงนกกาหลบตามพุ่มไม้ต่างพากันแตกรัง ตีปีกฟึ่บฟั่บโบยบินหนีออกจากพุ่มไม้เป็นว่าเล่น
" โฮคาเงะสุดยอดแห่งนินจาแห่งหมู่บ้านเชียวเรอะ ฉันว่าอย่างนายไม่มีทางฟ่ะ! " พูดอย่างไม่อ้อมค้อมเลยนะ
ดาซึนะไม่มีความเชื่อมั่นในตัวนารูโตะสักนิด! แค่เด็กเมื่อวานซืน....
" ฮู้ยย สามหาวผมเนี่ยพร้อมจะบุกน้ำลุยไฟไงก็ได้เพื่อใหได้เป็นโฮคาเงะ ถ้าผมได้เป็นโฮคาเงะ
เมื่อไหร่แม้แต่ลุงเองก็ต้องมาศิโรราบคาบแก้วแหงแซะ! " นารูโตะเจ้าเก่าอีกตามเคยไม่ยอมที่หยุดพล่ามเรื่องโฮคาเงะสักที
" ไม่มีทางหรอกเฟ้ย เจ้าเด็กเมื่อวานซืนต่อให้ได้เป็นโฮคาเงะก็จริงเถอะ! " ดาซึนะไม่มีทางเชื่อ
หรอกว่านารูโตะจะเป็นที่ได้รับตำแหน่งโฮคาเงะคนต่อไป ก็เพราะท่าทางเด็กบ้าพลังแบบนี้นะสิ....ใครจะไปเชื่อกันลง!
" ฉันจะฆ่ามานนนน! " นารูโตะร้องลั่นถลาตัวจะเข้าหาดาซึนะ ลำบากคนกลางอย่าง
ผมต้องเข้าไปดึงเสื้อฉุดไว้ตามเคย
" พอทีเถอะเจ้าเด็กบ้านี่! " ผมรู้สึกว่านารูโตะชักจะเล่นใหญ่กว่ารัชดาลัยเธียเตอร์แล้วต้องปรามให้เบาลงมาหน่อย
" นี่คุณดาซึนะ แคว้นของคุณคือ นามิโนะคุนิ ใช่หรือเปล่า ? "
" ก็ใช่แล้วไง " ดาซึนะพยักหน้ารับ
" ครูคาคาชิคะ แคว้นนามิโนะคุนิมีนินจาด้วยเหรอ? " ซากุระสมาชิกผู้หญิงคนเดียวถามเพื่อต้องการข้อมูล
" แคว้นนามิโนะคุนิน่ะไม่มีนินจาหรอก แต่แคว้นอื่นส่วนใหญ่ถึงจะมีวัฒนธรรมประเพณีต่างกัน
แต่ก็จะมีคางุเระซาโตะ(หมู่บ้านลับแล)แล้วก็มีนินจาด้วยกันทั้งนั้น พวกเธอก็สงสัยในตัวท่านโฮคาเงะอยู่ใช่ไหมล่ะ?
เอาเหอะ สบายใจได้ภารกิจระดับCไม่ใช่การดวลกันระหว่างนินจา เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอกว่าจะต้องเผชิญหน้ากับ
นินจาแคว้นอื่นรับรองได้ " ผมอธิบายเพิ่มเติมเสริมความรู้ให้ทุกคน ผมพูด ทั้งสามสะดุ้งเหมือนว่าแทงใจดำ
ซาสึเกะหันมามองผมเล็กน้อยและเดินต่อทำท่าเหมือนสงสัยบางอย่างแต่ไม่กล้าถาม
ขณะนั้นผมกวาดตามองรอบตัวสำรวจทุกทิศทาง ไร้วี่แววของนินจาหลบซ่อนตัวตามพุ่มไม้หรือซุ่มดูอยู่
มีเพียงแต่แอ่งน้ำขังเท่านั้นที่ทำให้รู้สึกถึงความผิดปกติทันใดนั้นเอง รู้สึกว่ามีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนตัวมาทางด้านหลัง
เข้ามาด้วยความเร็ว นับได้สองตำแหน่งผมหัวเราะหึหึ กับลูกไม้เก่าๆ เดิมๆ ที่คิดว่าควรเลิกเล่นของพวกมัน
ทำให้ผมเอือมระอา แต่ละ..ยอมเล่นด้วยทำตามกฏกติกาเกมเสียหน่อย
" อะไรเนี่ย? " ไม่ถึงสามวินาทีพวกมันทั้งสองคนใช้โซ่ในมือ จัดกันยึดร่างของผมไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนแม้แต่ปลายนิ้ว
" ตัวที่หนึ่ง! " พวกมันกระตุกโซ่กับอาวุธเฉพาะตัวบางอย่าง ที่สวมอยู่บนท่อนแขนเพื่อให้โซ่เกิดทำงานหวังจะ
ป่นผมให้กลายเป็นชิ้นๆ ช่วงเวลาสั้นๆผมใช้คาถาสลับร่างกับท่อนไม้แล้วหามุมอับสายตา แอบดูละครลิงอย่างเงียบๆ
" ตัวที่สอง! " พวกมันบอกกับนารูโตะคล้ายกับล็อกเป้าหมายคนต่อไป ซาสึเกะกระโดดลอยตัวกลางอากาศ
ดึงคุไนและดาวกระจายออกมาอย่างละหนึ่ง อย่างแรกซาสึเกะปาดาวกระจายออกไป เพื่อให้โซ่เชื่อมระหว่างนินจา
สองคนนั้นติดกับต้นไม้ใหญ่บริเวณใกล้เคียง สองซาสึเกะใช้คุไนปาซ้อนทับในช่องวงกลมของดาวกระจายกันเหนียว
ไม่ให้พวกมันดึงโซ่หลุดออกมาเล่นงานได้ใหม่อีกครั้ง ผมมองพัฒนาการของซาสึเกะ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม
เขาสามารถมองเห็นจุดบอดของศัตรูได้ทันเวลานับได้ว่าเฉียบแหลมไม่เบาคงไม่แพ้อิทาจิแน่
ในเมื่อโซ่ติดกับต้นไม้พวกมันกลับปลดโซ่ออกเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ ครานี้พวกมันมุ่งหน้าเข้าหาดาซึนะ
หวังปลิดชีพอย่างพร้อมเพรียง ซากุระชักคุไนออกมาขวางหน้าดาซึนะไว้ ไม่พอซาสึเกะเข้ามาบังซากุระไว้อีกชั้น
ดูเหมือนซาสึเกะจะเครื่องติดนิดๆ เขาพร้อมเข้าโหมดไฝว้ลุยอย่างเต็มที่ พอละเบื่อดูละครลิงแล้วสิ ผมออกจากที่ซ่อน
เข้าไปจัดการล็อกคอพวกมันทั้งสองคน และจัดการมัดพวกมันไว้กับต้นไม้ใหญ่เพื่อป้องกันการหลบหนี
" นารูโตะฉันขอโทษนะที่ไม่ได้ช่วยเธอในทันทีเลยทำให้เธอเจ็บตัว นึกไม่ถึงว่าเธอจะช่วยตัวเองไม่ได้ขนาดนี้
แต่ซาสึเกะทำได้ดีมาก ซากุระก็เหมือนกัน " ผมต้องกล่าวชื่นชมกับลูกทีม เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติ
หน้าที่ต่อไป
" ไง บาดเจ็บหรือเปล่าเจ้าปอดแหก? " ซาสึเกะจงใจส่งลูกยั่วประสาทใส่นารูโตะเต็มๆ
คนถูกยั่วประสาทเกือบแตกแทบถลาตัวเจ้าใส่ซาสึเกะ
" นารูโตะเรื่องทะเลาะกันไว้ทีหลัง เล็บของเจ้าพวกนี้อาบยาพิษไว้ด้วยต้องรีบถอนพิษให้เธอด่วน
ไงซะก็ต้องกรีดปากแผลให้กว้างแล้วรีดเลือดพิษออกซะ อย่าเคลื่อนไหวมากเดี๋ยวพิษกระจายไปทั่ว "
ผมห่วงความปลอดภัยของนารูโตะ
" ส่วนคุณดาซึนะผมขอคุยด้วยหน่อย " พวกที่เล่นงานพวกเราเมื่อครู่คือนินจาจากแคว้นคิริงาคุเระ
เป็นที่รู้จักกันกันดีว่าเจ้าพวกนี้เป็นนินจาที่จะต่อสู้ไม่ยอมเลิกแม้ต้องเอาชีวิตเข้าแลก
" มองการเคลื่อนไหวของพวกเราออกได้อย่างไร " พวกมันถาม
" วันนี้อากาศดีฝนยังไม่ตกจะมีแอ่งน้ำขังได้อย่างไร " ผมให้คำตอบสั้นๆ
" คุณรู้ขนาดนี้แล้วยังปล่อยให้เด็กๆลงมือกันอีก? " ดาซึนะหัวเสียเล็กน้อย
" ถ้าผมจะเอาจริงพวกนี้คงตายตั้งแต่ทีแรกแล้วแต่ว่า ..ผมมีเรื่องต้องรู้นั่นคือเป้าหมายของศัตรูคือใคร ? "
" หมายความว่าไง? "
" นั่นคือคนที่ถูกหมายหัวคือคุณหรือว่าพวกเราคนใดคนหนึ่งกันแน่ พวกเราไม่เคยรู้ว่าคุณถูกนินจาหมายหัวอยู่-
ตามที่คุณจ้างวานมา ก็แค่ให้คุ้มครองจากพวกกลุ่มติดอาวุธ จำพวกแก๊งอันธพาลหรือไม่ก็หัวขโมยเท่านั้น
แต่ถ้าภารกิจแบบนี้มันเป็นภารกิจเหนือกว่าระดับบีแล้ว จุดประสงค์ในการจ้างวานของคุณก็คือคุ้มครอง
จนกว่าจะสร้างสะพานเสร็จไม่ใช่รึ? ถ้าศัตรูเป็นนินจาละก็..จะต้องจัดเป็นภารกิจระดับบีที่ราคาสูงกว่าอยู่แล้ว ”
ผมอธิบายเท่าที่พอจะสันนิษฐานไว้ ตั้งแต่ต้นเรื่อง สตรอรี่คงไม่มีอะไรให้ชวนปวดหัวมากนัก
“ ภารกิจนี้ยังเร็วเกินไปสำหรับพวกเรานะคะ เลิกดีกว่าเรายังต้องใช้ยาชาในการกรีดแผลขับพิษให้กับนารูโตะด้วย
ถ้าไม่รีบพากลับไปหาหมอที่หมู่บ้านละก็... " ซากุระเสนอความคิดและทางออกดีที่สุด ซึ่งผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง
" อืมม์ แบบนี้ค่อนข้างเป็นภาระแฮะงั้นถือโอกาสที่พานารูโตะไปหาหมอกลับหมู่บ้านเลยก็แล้วกัน "
ผมตัดสินใจอย่างนั้น เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย นารูโตะเหงื่อแตกพลั่กไหลจากข้างขมับ หล่นลงบนบ่า
รู้ซึ้งถึงการเป็นภาระของทีมจริงๆ ดังนั้นภารกิจถูกยกเลิกก็เพราะความประมาทของตนเอง นารูโตะหายใจแรง
มองหลังมือข้างที่ด้รับบาดเจ็บ ทันใดนั้นจึงตัดสินใจดึงคุไนออกจากซองเก็บช่วงต้นขา ไม่รอช้า เขาแทงเข้าหลังมือ
บริเวณแผลที่ได้รับจากนินจาคิริงาคุเระ เลือดสีแดงเข้มซึมออกจากปากแผลไหลหยดลงบนพื้น
" นารูโตะทำบ้าอะไรของนาย! " ซากุระเผลอหลุดกรี้ดเสียงดัง เห็นนารูโตะเกิดคลั่ง
ใช้คุไนแทงเข้าบริเวณหลังมือตนเอง คงไม่ใช่การรีดพิษออกจากร่างแน่ๆ
" ฉันจะใช้มีดนี้ปกป้องลุงเองภารกิจต้องดำเนินต่อไป! " นารูโตะประกาศศักดาเสียงดังพร้อมความกล้าหาญ
" นารูโตะเธอคัดเลือดได้อย่างชาญชัยอยู่หรอก แต่ถ้าคัดมากกว่านั้นระวังซี้ม่องเซ็กนะ " อันนี้พูดเรื่องจริง
ไม่อิงอะไรทั้งสิ้น ผมแอบกระซิบบอกนารูโตะเพื่อไม่ให้เก้อเขิน
" โน ม่ายยย! ครูคาคาชิ " นารูโตะดิ้นดุกดิกวิ่งมาทางผมขอร้องให้ช่วยตามนิสัย
" ไหนเอามือมาดูหน่อยซิ " นารูโตะทำตามอย่างว่าง่าย ส่งมือมาให้ผมดู
" นารูโตะชอบทำร้ายตัวเองอย่างนายเนี้ยนะ เขาเรียกว่าพวกมาโซคิสด์นะย๊ะ! " ปากก็ว่า
แต่ซากุระล้วงกระเป๋าอีกใบ กำลังเตรียมอุปกรณ์ทำแผลเบื้องต้น เพื่อทำแผลให้นารูโตะ
" ครูครับ ครูครับ ผมจะเป็นอะไรไหมเนี่ย? " นารูโตะหน้าซีดขนาดหนักเพราะกลัวเเสียเลือดมากจนเกินไป
" เฮ่ย คงไม่เป็นไรมั้ง " ผมมองหลังมือของนารูโตะอีกครั้ง
ซากุระทำความสะอาดบาดแผลด้วยชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลกล่องเล็ก มองหลังมือนารูโตะอีกครั้งบาดแผลเหวอะหวะ
เริ่มสมานตัวกันอย่างว่องไว คาดว่าคงเป็นพลังของจิ้งจอกเก้าหางภายในร่างกายนารูโตะ
พลังของจิ้งจอกเก้าหางยังทรงอานุภาพเหมือนเดิม.....
เมื่อนารูโตะบอกว่าภารกิจต้องดำเนินต่อและทุกคนดูเห็นพ้องต้องกันว่ายังไหว
ดังนั้นภารกิจคุ้มครองดาซึนะยังไม่พับลง ระหว่างการเดินทางเพื่อถึงแคว้นนามิโนะคุนิ ซึ่งล้อมไปด้วยผืนน้ำเป็นส่วนใหญ่
ดาซึนะเริ่มเล่าเรื่องถึงที่มาของภารกิจครั้งนี้ เท่าที่ฟังและจับใจความมาได้ถือดาซึนะกำลังถูก กาโต้ เศรษฐีระดับโลก
หมายหัวอยู่ ด้วยความที่ว่าทุกสิ่งไม่ว่าจะอุปโภค บริโภค ล้วนแล้วแต่อยู่ภายในกำมือของกาโต้ทั้งสิ้น
ดังนั้นสะพานที่ดาซึนะกำลังสร้างจึงเป็นความหวังเดียวของชาวบ้านทุกคนของที่นี่!
ความหวังที่จะมีโอกาสได้รับความเจริญก้าวหน้า ดูเหมือนว่าในทุกยุคทุกสมัยยังคงมีเรื่องของผลประโยชน์อยู่ทั้งสิ้น
เท่าที่ได้ฟังมาทั้งหมด คงด่วนสรุปได้เลยวาศัตรูในครั้งต่อไปที่จะออกมานั้น.... คงไม่ใช่ฝีมือระดับจูนินอย่างแน่นอน
คาดว่าคงเป็นโจนินระดับเดียวกับผมแน่ๆ
พวกเราลงจากเรือเสร็จกำลังเดินทางต่อด้วยเท้า เพื่อเข้าสู่แคว้นนามิโนะคุนิ ระหว่างเดินไปบ้านของดาซึนะ
สองข้างทางยังมีต้นไม้ใบหญ้าประกอบ เห็นได้ชัดเลยว่าที่นี่ยังคงอนุรักษ์ป่าไม้ไว้บ้าง ผมเห็นนารุโตะมองซ้าย ขวาที
แล้วควักดาวกระจายออกจากซองต้นขาข้างขวา
" ทางนั้นเองเรอะ! " นารูโตะร้องเสียงดังแล้วขว้างปาดาวกระจายในมือซ้ายออกไปทางด้านขวามือ
เข้าใส่พุ่มไม้ข้างทาง...ผลออกมาคือเงียบกริบ
" ฮีธ่อหนูนี่เอง! " นารูโตะด่วนสรุปเพราะไม่เห็นว่ามีผลอะไรตามมา
" หน็อย ยังจะทำเก๊ก!ตรงนั้นน่ะไม่มีอะไรตั้งแต่ทีแรกแล้วย่ะ " ซากุระไม่อยากบ่นนารูโตะมาก
เนื่องจากเพลียจากการเดินทาง
" ขะ...ขอร้องละฟะอย่าปาดาวกระจายมั่วนักได้ป่าวอันตรายนาทำเล่นไป " ผมเตือนนารูโตะ
" เฮ้ย เจ้า เปี๊ยก!! อย่าตื่นตูม ให้มันมากนักซีเฟ้ย! " ดาซึนะชักเริ่มเอือมกับนิสัยของนารูโตะ
นารูโตะล่อกแลก วิ่งซ้ายที ขวาทีดูท่าทางจะตื่นเต้นกับการเดินทางเป็นอย่างมาก จนผมอดส่ายหน้าเบาๆไม่ได้
คราวนี้ผมรู้สึกตัวได้เลยว่า ทิศเก้านาฬิกาเหมือนว่ามีคนจับตามองอยู่ไม่สิ ซุ่มแอบหลังพุ่มไม้
ครานี้นารูโตะทำท่าส่อง มองหาบางอย่าง เริ่มขว้างปาดาวกระจายออกไปอีกครั้ง
" บอกให้หยุดไง! " ซากุระโมโห เขกกระโหลกนารูโตะเต็มเหนี่ยว คราวนี้ไม่ออมมือให้แล้ว!
" กะ ก็มีคนกำลังจ้องพวกเราอยู่จริงๆนี่นา " นารูโตะลูบเหม่งป้อยๆ ตรงบริเวณที่ซากุระเขก(ด้วยความรัก)
" โกหก! " นารูโตะกับซากุระยังทะเลาะกันตลอดทางไม่มีท่าว่าจะเบื่อกันเลย ส่วนซาสึเกะเดินตามมาอย่างเงียบๆ
ผมเดินเข้าไปแหวกดูพุ่มไม้ต้นเหตของเรื่อง พบกระต่ายน้อยตัวสีขาวที่ไม่ได้มาจากซูโทเปีย มีดาวกระจายคล้ายกับพร็อบ
ประดับอยู่กลางกระหม่อม(ต้อนรับวันฮาโลวัน) ซากุระเห็นเหมือนผม เธอจึงอดไม่ได้หันไปต่อว่านารูโตะอีกชุดใหญ่ๆ
" นารูโตะเห็นมั้ยว่าทำอะไรลงไป! นายมันคนบาป! " ซากุระพูดให้นารูโตะคำนึงถึงผลของการกระทำที่ตามมา
ส่วนคนถูกด่าถึงกับน้ำตาซึม ไปนั้นได้แต่นั่งคุกเข่าทั้งสองข้างไร้คำตอบโต้ เม้มปากเป็นเส้นตรงกำลังสำนึกผิดอยู่
" อ้าว กระต่ายหรอกหรือ? " ดาซึนะไปแปลกใจ คงคิดว่าไม่น่าเป็นจำพวกสัตว์ตัวเล็กออกหากิน
ผมยืนมองกระต่ายตรงหน้ามันคือกระต่ายหิมะ ตอนนี้อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้วแต่ขนปุกปุยของมัน
ยังคงเป็นสีขาวสะอาด กระต่ายหิมะจะผลัดขนตามระยะวลาได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ สีขาวเป็นสีของฤดูหนาว
ซึ่งช่วงเวลากลางวันสั้น แสดงว่านี่คงเป็นกระต่ายถูกเลี้ยงไว้ในห้องที่ไม่ค่อยมีแสงสว่าง เพื่อใช้คาถาสลับร่าง
คาดเดาได้ว่าศัตรูกำลังแสดงตนอกมาแล้วสินะ
ผมสัมผัสได้ว่ามีพลังงานบางอย่างเคลื่อนไหวเข้ามากลางวง ซ้ำยังว่องไวนัก!
" หมอบลง! " ผมหันไปสั่งกับทุกคน นารูโตะ ซาสึเกะ ซากุระ ดาซึนะต่างพากันกระโดด กลิ้งตัวหลบไปคนละทาง
ผมลุกขึ้นมายืนเต็มสัดส่วนอีกครั้ง กับวัตถุบางอย่างเพิ่งลอยละลิ่วปลิวเฉียดศีรษะไปเมื่อครู่คือดาบใหญ่สะบั้นเศียร
อาวุธประจำกายอันเรื่องชื่อของหนึ่งในเจ็ดดาบคิริงาคุเระ
" อ้าว นึกว่าใครที่แท้ก็นินจาแตกฝูงของหมู่บ้านคิริงาคุเระ โมโมจิ ซาบุสะนี่เอง " ผมเอ่ยทักทาย
ตามนิสัยคนเฟรนด์ลี่ ผมก็พบศัตรูตัวฉกาจ คนข้างกายผมในตอนนี้คือนารุโตะ เจ้าเด็กนี่ทำท่าจะสาวหมัดใส่ลูกเดียว
ไม่ได้การต้องรีบห้ามนารุโตะ! เพราะรู้ถึงความแตกต่างจากนินจาเมื่อครู่นี้ดี
ถ้าคู่ต่อสู้เป็นถึงระดับหมอนี่ เห็นทีจะต้องเอาจริงบ้างแล้ว!
" เห็นทีแบบนี้ต้องหนักมือสักหน่อยละ " ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ
งานเข้าจริงๆด้วยไม่ใช่งานธรรมดาแต่เป็นงานระดับพี่บิ๊ก ตามนิสัยผมก็ชอบอยู่หรอกเล็กๆไม่ ใหญ่ๆเนี่ยสิของชอบ
เลื่อนกระบังคาดหน้าผากขึ้นเพื่อใช้เนตรวงแหวนในตาซ้ายตัดจบปัญหา แบบรวดรัดเรื่อง
" ได้พบหน้าคาคาชิเนตรวงแหวนทั้งที แต่'โหสิวะ ไงฉันก็มาเอาตัวตาแก่นั่นไปให้ได้ "
ซาบุสะประกาศความต้องการออกมาอย่างชัดเจนเพื่อให้ทุกคนได้ทราบ กับการปรากฏตัวของเขา
" ตั้งกระบวนท่าสวัสดิกะ ปกป้องคุณดาซึนะไว้ พวกเธอห้ามเข้าร่วมการต่อสู้นั่นแหละคือทีมเวิร์คในตอนนี้
ซาบุสะไงก็มาเจอกับฉันหน่อย " ผมกำชับกับทีมเจ็ดอีกครั้งเพื่อเตือนให้ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองอีกหน
" หืมม์ ไม่คิดว่าจะได้เห็นเนตรวงแหวนที่เขาเล่าลือกันเร็วขนาดนี้ " ซาบุสะรู้สึกประหลาดใจ
เขาดูเตรียมพร้อมสำหรับรับมือ คล้ายว่าเตรียมการมาอย่างล่วงหน้าแน่และการต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นอีกในไม่ช้า
" เดี๋ยวนะที่คุยกันนี่มันอะไร เนตรวงแหวนคืออะไร ? " นารูโตะต้องการคำอธิบาย
" ตอนที่ฉันยังสังกัดหน่วยลอบสังหารของหมู่บ้านคิริงาคุเระ ในบันทึกภารกิจที่พกติดตัว มีข้อมูลของนายอยู่ด้วย
มันบันทึกไว้อย่างนี้ ก็อปปี้นินจาคาคาชิบุรุษผู้ก็อปปี้วิชานินจาไว้กว่าพันวิชา " ซาบุสะเเสยะยิ้มแม้จะมีผ้าพันแผลพันหน้า
ไหวไหล่ไม่ยี่หระ ต่อให้เป็นก็อปปี้นินจาคาคาชิ ก็ไม่หวั่นหรอกนะ! ร่างกายสูงโปร่งกำยำ อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะช่วงแขนพร้อมสับ ศัตรูให้เละเป็นชิ้นๆ
" ฮ่า ฮ่า ใครๆก็ว่างั้น " ผมรู้สึกเขินจริงๆนะ ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นมาเกาท้ายทอยเบาๆด้วยความเขิน
" เอาละเลิกคุยกันซะทีดีไหม ฉันจะฆ่าเจ้าแก่นั่นทิ้งซะให้เสร็จเรื่อง " ซาบุสะหายตัวไปพร้อมกับหมอกควัน
เริ่มหนาขึ้นไว้สำหรับซ่อนตัว ตาสองข้างแทบมองอะไรไม่เห็นรอบตัวกลายเป็นสีขาวโพลนไปหมด
คล้ายกำลังย้อมด้วยสีขาว ผมแอบห่อไหล่ลงเล็กน้อยบอกได้เลยว่าลูกไม้แบบเดิมๆเจอมาจนเบื่อ บางครั้งก็ผมเอง
อยากได้การต่อสู้แบบใหม่ๆตื่นเต้นเร้าใจกว่าเดิม
" อย่างแรกมันคงเข้ามาเล่นงานฉันก่อน โมโมจิ ซาบุสะ ในกลุ่มมือสังหารของคิริงาคุเระ หมอนี่ขึ้นชื่อ-
เรื่องความชำนาญการสังหารโดยไร้เสียง พอรู้สึกตัวอีกทีอาจจะไปอยู่เมืองผีแล้วก็ได้ ฉันเองก็ใช่ว่าจะใช้เนตรวงแหวน
ได้คล่องทุกอย่าง พวกเธอห้ามประมาทเด็ดขาดนะ! " ผมกำชับกับทุกคนอีกครั้ง รับรู้ได้ว่าลูกทีมกำลังตกอยู่ในสภาวะ
หวาดกลัวกับการต่อสู้
" ซาสึเกะ สบายใจได้ต่อให้ต้องตายฉันก็จะปกป้องพวกเธอให้ได้ พวกพ้องของฉันน่ะ
ไม่ยอมให้ใครมาฆ่าง่ายๆหรอก " ผมพูดทั้งรอยยิ้ม ต่อให้ต้องตายจริงๆลูกทีมของผมต้องมีชีวิตรอด
ทำไมผมถึงคิดถึงใบหน้าของใครบางคนผุดขึ้นมาในสมอง ใบหน้านั้นกำลังมองผมด้วยแววตาสีฟ้าเหลือบน้ำเงิน
ก่อนจะคลายเป็นคลี่ยิ้ม ผมจะรอดกลับบ้านกลับไปหาชุนให้ได้ ผมสัญญา!
" งั้นหรอ? " เสียงของซาบุสะดังขึ้น
ก่อนจะกระโจนเข้าโจมตีกลางวง เป็นไปตามที่ผมสันนิษฐานไว้ไม่มีผิด ซาบุสะอาศัยการใช้หมอกพรางตาเข้าโจมตี
ผมชักคุไนออกจากซองต้นขาขวาจับมันให้มั่นคงแทบจะบีบมันแตกออกเป็นเสี่ยงแทงเข้าสู่กระบังลมของซาบุสะ
มันไม่ง่ายอย่างใจคิดว่าจะจบเรื่องจริงๆ ร่างของซาบุสะกลายเป็นน้ำไหลเทลงพื้น
" ครูคาคาชิฮะข้างหลัง! " นารูโตะตะโกนเสียงดัง เมื่อรู้อย่างนั่นผมยังไม่ทันได้ขยับแม้เเต่ปลายนิ้ว
ซาบุสะใช้อาวุธประจำกายฟันเข้ากลางร่าง เสียงกรีดร้องยิ่งกว่าโดนคาถาเสียดเเทงของซากุระ แทบทำให้หมดสติ
เสียสมาธิ บอกเลยว่าผมอาศัยช่วงหมอกลงแอบซ่อนร่างจริงไว้เพื่อลอบสังเกตวิชาของศัตรู
นิสัยเก่าของหน่วยลับคงแก้ไม่หายจริงๆ ซึ่งเป็นข้อดีในการเก็บข้อมูลและผมก็ได้วิชาคาถาแยกร่างน้ำ
วิชาใหม่มานับว่าคุ้มอยู่เหมือนกัน ผมลงมือใช้คาถาน้ำเพื่อสู้กับซาบุสะ เราผลัดกับรุกผลัดกันรับ
จนมาถึงขั้นที่ว่าผมดันประมาทฝีมือของซาบุสะมากเกินไป ชะล่าใจไปนักเสียท่าติดอยู่ในคาถาคุกน้ำ
ซาบุสะยังติดนิสัยของนักล่า เขายังไม่สังหารผมในทันที..คงค่อยๆทรมาณอย่างช้าๆ
หันไปสนใจกับพวกนารูโตะ ซาสึเกะ ซากุระแทนหวังจะเชือกไก่ให้ลิงดูเล่นๆ นิสัยกวนโอ๊ยยั่วโทสะของซาบุสะนับว่า
ไม่ควรได้รับการให้อภัย
" มันก็แค่เด็กเมื่อวานซืน " ซาบุสะหัวเราะคิก
" พวกเธอรีบพาคุณดาซึนะหนีไป ต่อให้ปะทะกับมันก็ไม่มีทางเอาชนะหรอก ตราบใดที่ฉันยังติดอยู่
ในคุกน้ำนี่มันเองก็ไปไหนไม่ได้ คาถาน้ำร่างแยกเองถ้าระยะห่างจากร่างจริงไปมากๆ ก็ใช้ไม่ได้ผลเช่นกัน
ตอนนี้หนีไปก่อนเร็ว! " ไม่อยากโทษว่ามีสมาชิกทีมเกะนินสามหน่อแล้วจะเอาซาบุสะอยู่
บอกได้เลยว่าถ้าหากชุนตามมาด้วยเหมือนครั้งนั้น มันก็คงจะดี... ผมวิตกอย่างมาก...ลูกลิงทั้งสามยังไม่ยอมขยับไปไหน
พวกเขายังยืนอยู่ที่เดิม!
" ฉันมีแผน ซาสึเกะเอียงหูมาดิ๊! " นารูโตะมีแผน ซุบซิบกับซาสึเกะเล็กน้อยแล้วแยกย้าย
ซาบุสะส่ายหน้าเห็นว่าไม่มีอะไรนักก็เเค่เด็กเล่นขายของธรรมดา จึงเล่นงานซาสึเกะ ส่วนนารูโตะใช้คาถาเงา
แยกร่างถลาตัวเข้าหาซาบุสะด้วยความกล้าหาญไม่ได้เกรงกลัวอาวุธของซาบุสะเลยแม้แต่น้อย
ร่างแยกเงาของนารูโตะหายหมดจนเหลือแค่ร่างต้น นารูโตะโยนดาวกระจายฟูมะให้ซาสึเกะรับ
ซาสึเกะรับและขว้างมันออกไปสุดแรง ผมคิดไว้เลยว่าซาบุสะมองการโจมตีทุกอย่างออกหมด
ซาบุสะร่างแยกเงาน้ำหลบทันจึงมาถึงร่างต้น ร่างต้นก็ดันหลบได้อีกแผนตื้นๆแค่นี้ใครๆก็มองออก
สิ่งที่ไม่คาดคิดดันเกิดขึ้น เมื่อดาวกระจายฟูมะระเบิดกลายเป็นร่างต้นของนารูโตะ นารูโตะขว้างคุไนในมือ
ออกไปใส่ซาบุสะ
ร่างต้นเช่นกัน ในระยะเผาขนขนาดนี้ ...ซาบุสะต้องจำใจปล่อยมือออกจากคาถาคุกน้ำทันที
" นารูโตะแผนของเธอยอดเยื่ยมจริงๆ พวกเธอก้าวหน้าขึ้นเยอะเลยนะ " ผมใช้หลังมือรับการโจมตีจากซาบุสะ
กั้นขวางไม่ให้ซาบุสะใช้ดาวกระจายฟูมะในมือกับพวกนารูโตะ
" แน่นอนอยู่แล้ว " นารูโตะยิ้มยิงฟันให้ ทำไมจะไม่เข้าใจแผนการซับซ้อนของนารูโตะ
ซ่อนร่างจริงในกลุ่มร่างแยกเงาอาศัยช่วงชุลมุนตีเนียน ถือว่าเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายจริงๆ
" ไอ้ฉันก็เกิดโทสะชั่ววูบเลยเผลอคลายคาถาคุกน้ำซะได้ " ซาบุสะจะพยายามข่มใจให้เย็นลง
" ผิดแล้วคาถาไม่ได้คลาย แต่ฉันแก้มันได้ตังหากบอกไว้ก่อนนะคาถาเดียวกันใช้กับฉันไม่ได้ผลอีกแน่
เอ้าทีนี้จะทำไงล่ะ? " ผมดูเชิงของซาบุสะเล็กน้อย เมื่อซาบุสะเริ่มประสานอินใช้ปลายนิ้วประสานเป็นรูปร่างตั่งต่าง
รวบรวมสมาธิจึงเกิดเป็นคาถานินจา เนตรวงแหวนของผมเริ่มทำงานอย่างว่องไว ใช่แค่เนตรวงแหวน
มือของผมทั้งสองข้างเคลื่อนไหวและใช้คาถาของซาบุสะได้อย่างรวดเร็วและว่องไว
คาถาน้ำระเบิดมังกรวารีน้ำบริเวณใกล้เคียงถูกดึงมาใช้ในการต่อสู้ พวกลูกลิงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
จึงพาดาซึนะอพยพหาที่ปลอดภัยเพื่อหลบการโดนลูกหลง จักระของผมเหลือไม่มากนักดังนั้น จึงต้องขอทำการปิดบัญชี
ไปเลยก็แล้วกัน ผมได้คาถานินจาน้ำตกพิฆาตวิชาใหม่สดๆซิงๆและแน่นอนละว่าครั้งนี้มันรวดเร็ว
กว่าเจ้าของคาถาจะประสานอินเสร็จ ผมชิงเลียนแบบคาถาและจบเรื่อง
หวังว่าคงได้ความไวของชุนมาได้สักเสี้ยวหนึ่งก็ยังดี ร่างของซาบุสะถูกกระแสน้ำพัดให้ออกห่าง
ส่วนตัวผมชักคุไนออกมาพร้อมใช้กระบวนท่าสลับกับคาถานินจา
" จบสิ้นกันสักที " มันคงถึงเวลาปิดฉากกันเเล้ว
" ทำไม...แกอ่านอนาคตได้งั้นรึ ? " ซาบุสะหัวเราะหึหึ
" ฮื่อ และแกต้องตาย " ผมพร้อมใช้คุไนปลิดชีพซาบุสะครั้นยังไม่ทันได้ขยับร่างกายแม้แต่มิลลิเมตรเดียว
วัสดุแหลมเล็กพุ่งเข้าใส่ลำคอซาบุสะ จากนั้นร่างของซาบุสะล้มลงนอนคว่ำบนพื้น
" หึหึ ตายจริงๆด้วย " ครานี้เป็นตัวละครหน้าใหม่บทน้อยโผล่มาอีกตัวมีเส้นผมสีดำยาวถูกมันเป็นมวย
และสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าจริงเอาไว้ ผมเคลื่อนกายเข้าไปเช็คตรวจสภาพอัตราการเต้นของชีพจรของซาบุสะ
ปลายนิ้วสัมผัสช่วงบริเวณต้นคอ...ไร้การตอบรับ คล้ายกับว่าทุกการโจมตีที่ผ่านมาการต่อสู้เลือดตาแทบกระเด็นคือล่ะ?
ต้องทำความเข้าใจใหม่ก่อนว่าคนมันจะตายทั้งที ไม้จิ้มฟันแทงเหงือกมันยังตาย แบบนี้ก็พอปลอบใจตัวเองได้เหมือนกัน
ถึงจะไม่มากก็ตาม
" ขอบคุณมากครับ ผมติดตามคอยหาโอกาสสังหารซาบุสะมาตลอด " ชายสวมหน้ากากกล่าวขอบคุณ
" หน้ากากนั่น เธอคือนินจาล่าสังหารจากหมู่บานคิริงาคุเระสินะ "
" รอบรู้จริงๆเลยนะครับ "
" ถือว่าเป็นคำชม " คงไม่ใช่คำด่าทางอ้อมกรอกนะ เอ๊ะหรือว่าด่ากันแน่นะ?
" นาย นายเป็นใครกันแน่เนี่ย? " นารูโตะตะโกนถามเสียงดัง ท่าทางจะดูตื่นตูมยิ่งกว่าเก่า
" ใจเย็นนารูโตะเขาไม่ใช่ศัตรู " ผมพยายามปรามให้นารูโตะใจเย็น
" ผมไม่ได้ถามเรื่องนั้นที่ผมข้องใจน่ะ เจ้านั่นฆ่าซาบุสะได้เชียวนะ ..." นารูโตะพูดเรื่องความไม่ยุติธรรม
" ฉันเข้าใจว่าเธอไม่อยากเชื่อแต่นี่เป็นความจริง ในวงการนี้นะเด็กที่อายุน้อยกว่าเธอแต่เก่งกว่าฉันก็ยังมี "
บางครั้งการเปิดโอกาสให้นารูโตะได้ออกมาจากโคโนฮะ ได้เรียนรู้จักโลกอันกว้างใหญ่ก็ไม่เสียหายอะไรนะ
ออกจะดีด้วยซ้ำไป นารูโตะเองจะได้ตระหนักว่าข้างนอกหรือโลกภายนอกยังมีคนที่เหนือกว่าตนนั้นอยู่อีกมากนัก!
" การต่อสู้ของพวกท่านคงจะจบแค่นี้แล้ว ผมต้องนำศพนี่ไปทำลายก่อนเพราะเป็นศพที่แฝงความลับไว้เยอะมาก
ขอตัวก่อนนะครับ " ว่าแล้วชายสวมหน้ากากก็พาร่างของซาบุสะหายวับไปกับตา
" เอ้า พวกเราต้องพาคุณดาซึนะไปส่งให้ถึงบ้าน ร่าเริงหน่อยไปกันได้แล้ว " ผมบอก
เพราะรับรู้ว่าบรรยากาศชักดีขึ้นกว่าเดิม ขณะดึงกระบังคาดหน้าผากลงมาปิดตาซ้าย
" ฮ่ะฮ่ะ ขอโทษจริงๆเลยทุกคน ไว้ไปพักผ่อนตามสบายที่บ้านฉันก็แล้วกัน " ดาซึนะดูเหมือนเข้าใจอะไรง่ายๆ
ผมรู้สึกว่าโลกกำลังหมุนขว้างไปหมดแต่มันไม่ใช่ร่างกายผมใช้เนตรวงแหวนมากเกินไปตังหากละ ถึงมีสภาพเช่นนี้
ขยับตัวแทบไม่ได้สักอย่างอาการคงเป็นแบบนี้ร่วมสัปดาห์ ผมรู้สึกว่ามีลางสังหรณ์ใจบางอย่างและรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีนัก
คงเป็นเพราะคิดถึงชุนด้วยละมั้งเวลาแบบนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะ ผมคงกลับไปไม่ทันตามที่ตกลงกับยามาโตะแน่
แค่ได้แต่หวังเล็กๆว่ายามาโตะก็คงสวมรอยไปจนถึงที่สุดละน่า ไม่ทันได้รู้สึกตัวเองเลยว่าแคร์ความรู้สึกของอีกคน
ขนาดไหน
ถ้าหากชุนล่วงรู้ความลับการสวมรอยของยามาโตะละก็มีหวังผมได้ตายจริงๆแน่
End Kakashi's talking.
- 69's talking.
ขณะนี้เวลาเกือบเที่ยงคืนครึ่งทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบสงบอาคาร ร้านค้า บ้านเรือนต่างพากันปิดร้านลง
เหลือเพียงแค่ย่านใจกลางเมืองที่มีแต่คลับบาร์ สำหรับเหล่าผีเสื้อกลางคืนได้ออกมาใช้ชีวิตกันอย่างเต็มที่
ฉันแยกย้ายกับอิทาจิไปทำงานคนละหน้าที่ เพื่อให้งานของเราเสร็จไวขึ้น ตอนนี้ฉันอยู่หน้าโรงพยาบาลโคโนฮะ
กำลังทบทวนแผนที่แบบโครงสร้างภายในของตึกอีกครั้งศพของโอโรจิมารุ ถูกเก็บรักษาอยู่ที่แผนกชันสูตรศพ
และนิติเวชวิทยา ส่วนปืนบาเร็ตต้าเอ็มเก้าเอหนึ่งคงฝากไว้กับสถานีตำรวจชัวร์
เรื่องปืนไว้ทีหลังตอนนี้ฉันสนใจแค่ว่าศพโอโรจิมารุต้องอยู่โรงพยาบาลอย่างแน่นอน
ฉันปิดเปลือกตาลงและเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ หลังจากนั้นใช้ความไวสูงสุดวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาล
มันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นซูปเปอร์ฮีโร่เช่นแบร์รี่ หรือควิกซิลเวอร์ ใช้เวลาเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที
ฉันก็ลักลอบเข้ามาอยู่ในห้องชันสูตรเต็มไปด้วยเตียงนอนนับสิบ บนเตียงมีผ้าขาวบางคลุมศพไว้
ใช้เวลาน้อยนิดกับการตาม หาศพของโอโรจิมารุ เปิดผ้าคลุมออกมาเพื่อดูผลงาน บอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น
ผลงานอันน่าชื่นชม กระสุนทะลุหน้าผากออกกะโหลกด้านหลัง
นัดเดียวจอด..บอกเลยว่าฝีมือของฉันก็ไม่เบาเหมือนกัน รู้สึกว่ายิ่งพูดยิ่งอวยตัวเองดังนั้นขอหยุดพูดจะดีกว่า
ขณะกำลังจะปิดผ้าคลุมมีบางอย่างรั้งมือฉันไว้
" อิทาจิ " ฉันรู้ว่าเป็นเขาเพราะ รู้สึกตัวว่ามีบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้อย่างเงียบๆ
ลองหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นเขาจริงๆด้วย
" แฟ้มคดี " อิทาจิส่งแฟ้มสองเล่มใหญ่สีน้ำเงินให้ก่อนจะหันไปสนใจกับโอโรจิมารุ ฉันรีบเปิดแฟ้มแรกออกมาอ่าน
อย่างแรกคงเป็นประวัติของผู้เสียชีวิตรูปถ่ายในสถานที่เกิดเหตุ และของใช้ที่พบภายในตัวผู้เสียชีวิต บริเวณใกลเคียง
ภาพถ่ายกระเป๋าเจมส์บรอนด์สีดำถูกเปิดออก ปลายจมูกฉันกลับรู้สึกถึงกลิ่นฉุนกึกประหลาดคล้ายกลิ่นของแอมโมเนียนัก
จึงสันนิษฐานสงสัยไว้ก่อนแน่ ภายในกระเป๋าไม่พบอะไรคล้ายเป็นกระเป๋าเปล่าโล่งคาดว่าของด้านใน
คงถูกชิงไปก่อนหน่วยกู้ภัยหรือพยาบบาลจะเข้ามา ผลสรุปของคดีความการเสียชีวิตโอโรจิมารุ
เหมือนของโรงพยาบาลทั่วๆไปพบได้ในกรุงเทพหรือทั่วทุกประเทศ ฉันปิดแฟ้มในมือลงและเปิดอีกแฟ้มสุดท้าย
เป็นคดีของอิบิกิหรือคนที่สอบสวนฉันในห้องดำตอนแรกนั่นแล
ฉันปิดแฟ้มลงและส่งมันคืนให้อิทาจิเพราะรู้สึกว่าไม่มีอะไรคืบหน้าสักนิด
" ฉันมีเพื่อนอยู่ในหน่วยตำรวจของหมู่บ้านจึงสามารถเข้าไปหาของกลางได้ " อิทาจิรายงานสั้นๆ
" อืม " ฉันเสยผม รอฟังเขาพูดต่อ
" ในกระเป๋าเจมส์บอนด์ไม่มีอะไร มันก็แค่กระเป๋าเปล่าๆ " สิ้นเสียงอิทาจิ
ฉันกลับรู้สึกว่าไร้ความหวังที่จะกลับยังโลกเดิม มันอาจจะเป็นหนทางเดียวหนสุดท้าย ที่จะนำพาฉันกลับบ้านได้พังลง
อย่างไม่เป็นท่าเหมือนว่าการรอคอย ความหวังทุกอย่างได้สิ้นสุดลงหรือมันอาจจะเป็นสิ่งคาคาชิบอกไว้ว่า
ยังตามข่าวไม่ได้อะไรคืบหน้าเพียงเพราะแคร์ความรู้สึกของหล่อน
คนอย่างคาคาชิ...แทนที่จะแคร์ความรู้สึกของหล่อนบ้างว่าอยากได้ความจริงใจหรือความสบายใจกันแน่
" งั้นหรอ ? " ฉันผิดหวังจริงๆนะบอกเลย
" เสียใจด้วยนะชุน " อิทาจิเอื้อมมือแตะข้อศอกฉันเบาๆคล้ายกำลังส่งกำลังใจให้
และยื่นใบหน้ามาใกล้ใบหูเพื่อกระซิบบอกว่า " นี่ไม่ใช่โอโรจิมารุตัวจริง " คงไม่ใช่เรื่องตลกร้ายหรือการล้อเล่น
มุกตลกของอิทาจิแน่ ทั้งน้ำเสียง ท่าทาง สีหน้า แววตา อิทาจิคงไม่ได้พูดเล่นๆให้ฉันเชื่อ
" หมายความว่าไง ? " ฉันต้องการให้เขาอธิบายเพิ่มเติม อิทาจิคลี่ยิ้มเล็กน้อยจนทำให้ฉันเห็นฟันเขี้ยวเล็กๆ
ข้างซ้ายของเขาอย่างชัดเจนก่อนจะกระซิบข้างหูและบอกอีกว่า...
End 69's talking.
* แบร์รี่ คือชื่อของพระเอกซีรี่ส์เดอะแฟรช
* ควิกซิลเวอร์ ชื่อตัวละครจากหนังของมาเวล
โปรดติดตามตอนต่อไป...
31ส.ค.2559
ความคิดเห็น