ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic: One Piece] Drop D. จูนเสียงหัวใจ อย่างไรก็ใช่ 'เธอ'

    ลำดับตอนที่ #1 : Drop D. : Good Girl Gone Bad.

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 66


     

     

     

     

    ห้องโถงสี่เหลี่ยมกว้างขวางถูกจัดวางด้วยเฟอร์นิเจอร์มินิมอล เน้นงานไม้เรียบง่าย เต็มไปด้วยความหรูหรา

    โซฟาตัวยาว โต๊ะรับแขกเล็กๆสูงพ้นเข่าเล็กน้อย กระถางต้นไม้ตามมุมห้องเพื่อเพิ่มสีเขียวให้ห้องมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

    เข้ากับวอลเปเปอร์สีขาวโทนสะอาดตา นอกจากของตกแต่งสบายตาแล้วเต็มด้วยเครื่องดนตรี กลองชุด กีต้าร์ไฟฟ้า

    เบส ขาตั้งไมค์ คีย์บอร์ด

    “ อัลบัมใหม่ยังไม่…โอเลยนะ เหมือนมันขาดอะไรไปสักอย่าง ” สแคชเมนท์ อาพู ในตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของวง

    ถึงกับต้องถอดหูฟังครอบศีรษะออกมาแล้วพูดคุยกับหนุ่มๆทั้งสี่คนอย่างเปิดเผย “ ฉันว่าเราหามือคีย์บอร์ด

    เพิ่มขึ้นมาอีกคนดีไหม? นอกจากเล่นคีย์บอร์ดแล้วก็ร้องประสานเสียงด้วยเป็นไง? ”

    “ อาพู พวกเราไม่ใช่วงบอยแบนด์นะ! ” ยูสทัส คิด ผู้มีศักดิ์เป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ

    กับคำพูดก่อนหน้า พวกเขาคือกลุ่มวงดนตรีพั๊งค์-ร็อค ฟอร์มวงกันมามากกว่าเจ็ด แปดปีที่แล้ว! 

    นอกจากจะเป็นกระแสของคนที่ชื่นชอบแนวเพลงและสไตล์การแต่งตัวของพวกเขา แนวของวงดนตรีของเขานั้น

    แตกต่างวงพั๊งร็อคโดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง และมีฐานแฟนคลับไปทั่วทุกมุมโลก อีสบลู เซาท์บลู หรือจะทุกน่านน้ำ

    ทะเลแกรนด์ไลน์  คงไม่มีใครไม่รู้จักกับวง ‘วิคตอเรีย พั๊งค์’ แม้จะเป็นร้านขายของชำติดแอร์ ห้องติดพัดลมธรรมดา

    ก็เปิดเพลงของพวกเขาผ่านคลื่นเอฟเอ็มให้ได้ยินจวบจนถึงทุกวันนี้

    สมาชิกของของพวกเขานั้นมีสี่คน แถมอยู่กันครบตั้งแต่รุ่นบุกเบิกถึงปัจจุบันโดยไม่มีการเปลี่ยนสมาชิกเลยสักคน!

    หรือจะอาถรรพ์ของวงการดนตรี… มือกลอง ส่วนมากมักมีอายุไม่ยืด คงจะยกเว้นวงของพวกเขา!

    ดังนั้นการจะเพิ่มสมาชิกเข้ามาอีกคนหรือจะหายไปอีกคน ต้องผ่านความคิดเห็นของสมาชิกทุกคนในวง(ยกเว้นสุดวิสัย)

    “ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคิด ” อาพูแก้ตัว ก่อนที่คิดจะหัวเสีย ‘ฉันอยากให้นายลองใจเย็นๆ 

    แล้วลองฟังฉันสักหน่อย’ ใช้หลังข้อนิ้วดันแว่นกรอบสี่เหลี่ยมเข้าที่

    “ พวกเราทัวร์คอนเสิร์ตแทบทุกวันโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย คงไม่มีใครอยากมาลำบากกับพวกเราหรอก”  

    คิลเลอร์สมาชิกมือกีต้าร์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง แล้วยกแก้วน้ำเก็บความเย็นขนาดพอดีมือประจำตัวขึ้นมาดื่ม

    หาใช่แค่คิลเลอร์ คนอื่นๆ ทั้งฮีท ไวร์  มือเบสคุมเสียง มือกลองคุมจังหวะของเพลง ทั้งสามคนพยักหน้าเห็นต้องพร้อมกัน

     

    “ เฉียบ! คิลเลอร์ ใครมันจะมาลำบากกับพวกเราวะ ” ฮีทสนับสนุนกับความคิดของคิลเลอร์

    “ ใช่ๆ สี่แสนล้านภพ สี่แสนล้านชาติในอเวจีปอยเปรต ”  แทบจะลงไปคุกเข่าแล้วกราบ ไวร์ตอบรับ พยักหน้า

    งานคอนเสิร์ตจบลง ไหนจะงานตามผับ บาร์ งานร้องเพลงเปิดคอนเสิร์ตในกับศิลปินอีกเยอะแยะ นับไม่ถ้วน!

    กลุ่มสมาชิกวงดนตรีของพวกนั้นอยู่บนเวที และอยู่ด้านล่างของเวทีนั้นเป็นคนละคน บนเวทีทุกคนพร้อมคึกคะนอง

    เวทีที่แทบจะลุกเป็นไฟแผดเผาทุกอณูอากาศด้วยเสียงดนตรี! อาละวาดด้วยเสียงเพลงด้วยความก้าวร้าว

    พอลงเวทีมาแล้วทุกคนมากันเงียบกริบ ราวกับมีซิปสีใสตรงปากพวกเขารูดปิดปากแน่น ไม่มีใครส่งเสียง

    แม้จะพูดคุยกันเบาๆ

     

    “ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น หยู๊ดดดดด กลับมาก่อนทุกคนนนน ” อาพูต้องยกมือขึ้นมาห้ามทัพ 

    เขาวางฝ่ามือทั้งสองลงบนโต๊ะตรงหน้า “ ลองงานคอลแล็ปกับค่ายอื่นหน่อยไหม? ” อาพูโพล่งขึ้นถาม เผื่อว่าบางครั้ง

    วิคตอเรีย พั๊งค์ จะได้มีอะไรที่แปลกใหม่ เซอร์ไพรซ์คนฟังรอบโลก

    “ กับใคร? ” คิดนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้พอดีตัวเงยหน้าขึ้นมาถาม แถมมองหน้าอาพูอย่างเอาเรื่อง

    การพูดคุยของอาพูไม่ได้เหมือนจะแก้ตัว แก้ต่างหรือใดๆ ส่วนพวกเขานั้นรอฟังการแถ หรือจะรออาพูแถลงต่อ

     

    เสียงบานประตูหน้าห้องเคาะดัง เป็นจังหวะสามหน 

    เจ้าของห้องอัดมินิมอลแห่งนี้ขานรับเสียงดัง ไม่ทันไรบานประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากด้านนอกอาคันตุกะผู้มาใหม่

    ส่งรอยยิ้มมาก่อนที่จะขยับปลายเท้าเข้ามาใกล้

    “ ฉันมาขัดจังหวะหรือเปล่าคะ? ” หล่อนเอ่ยน้ำเสียงเสนาะรื่นใบหู แม้แต่คิดที่กำลังเล่นโทรศัพท์ทัชสกรีนในมือ

    ยังต้องเงยขึ้นมาอีกหน 

    เรือนผมสีบรอนด์ทองโทนสว่างยาวสลวยถึงกลางแผ่นหลังพริ้วไหวตามแรงเดิน เครื่องสำอางแต่งแต้มประทิน

    บนผิวหน้าเนียน ขับให้เห็นโครงหน้าของหญิงสาวชัดเจนมากขึ้น ตั้งแต่ขนคิ้วเรียงตัวสวย  จมูกโด่งเชิด พวงแก้ม

    ทั้งสองข้างมีสีชมพูระเรื่อ ริมฝีปากบางเคลือบด้วยลิปสติกสีส้มโทนอ่อน หล่อนสวมเสื้อผ้าทะมัดทะแมง เสื้อหนังกลับ

    แขนยาวสีดำ เสื้อกล้ามสีขาวด้านใน กางเกงยีนส์พอดีตัว รองเท้าบูทหนังสบายๆ สังเกตุจนเห็นว่ามือของหล่อนนั้นติด

    หมวกกันน็อคเต็มใบมาด้วย 

    “ กำลังพูดถึงเธออยู่เลย แจ็คสัน ” อาพูลุกขึ้นยืน กล่าวต้อนรับ แล้วผายฝ่ามือให้กับผู้มาใหม่

    “ สวัสดีคะ แจ็คสันนะคะ ” หล่อนโค้งตัวทำความเคารพอย่างนอบน้อม แล้วส่งรอยยิ้มที่พิมพ์ใจที่สุดเท่าที่เคยยิ้ม

    โคลงศีรษะทำความเคารพทุกคนในห้องอัดโดยไม่สนว่า อายุหล่อนอาจจะมากกว่าสมาชิกคนใดคนหนึ่งในห้อง 

    “ โห อย่างกับนางฟ้านางอัปสร ” คิลเลอร์มองตาแทบไม่กระพริบ แม้จะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าที่แท้จริง

    ลุกขึ้นยืนตามอาพูแล้วส่งมือทักทายตามธรรมเนียมสากล ความงดงามของหล่อนนั้นสามารถเรียกได้ว่า ‘ล่มได้ทั้งเมือง’

    สมาชิกทุกคนแนะนำตัวกันอย่างครบถ้วน ยกเว้นเสียแต่ นักร้องนำ พ่วงด้วยหัวหน้าของวงที่ลุกขึ้นยืนคนสุดท้าย

    ไม่ต้องแนะนำตัวก็รู้ว่าเขาคือ คิด ‘ยูสทัส คิด’ นักร้องนำของวง กล้ามเนื้อทรงพลังใต้เสื้อผ้าเคลื่อนไหว 

    ท่วงท่าการขยับตัวสง่างามประดุจเสือดำ

    “ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะคะ ” แจ็คสันส่งฝ่ามือน้อยๆของตน จับตรงที่ฝ่ามือหนาของคิดด้วยความมั่นใจ 

    เขาทาเล็บสีดำครบทุกนิ้ว เส้นผมสีแดงเพลิงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เซ็ทผมทั้งหมดไปทางด้านหลัง เปิดให้เห็นใบหน้า

    ดวงตาสีบรั่นดี จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงเข้ม ทุกองค์ประกอบบนใบหน้ารับสันกรามเด่นชัด 

    เขาเป็นผู้ชายที่หล่อเหลา สง่างาม อันตราย เต็มไปด้วยพิษสง 

    “ หมายความว่าอย่างไรกันอาพู? ” คิดปล่อยมือของหญิงสาวทันที จับมือของหล่อนไม่เกินห้าวินาทีต้องรีบปล่อย 

    ราวกับถูกไฟฟ้าล้านโวลต์ช็อตเข้าให้ แล้วหันไปมองหน้าโปรดิวเซอร์

    “ คืองี้นะ…. แจ็คสันเป็นนักร้องค่ายเพลงอิสระแห่งหนึ่ง ซึ่งก็อยากให้พวกเราร่วมคอลแล็ปด้วยกันสักเพลง ”

     อาพูกำลังอธิบายให้ทุกคนเข้าใจกันอย่างเรียบง่าย ถึงจุดประสงค์ของการมาของหญิงสาวในวันนี้ 

    “ อันนี้เป็นเดโม่เพลงนะคะ แล้วก็เนื้อเพลงฉันส่งแอร์ดรอปไปให้นะคะ ” แจ็คสันหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมา

    ส่งแฟรชไดร์ฟให้อาพูเพื่อนำไปเปิดเดโม่เพลง แล้วยกโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมาเพื่อส่งข้อมูลเนื้อหาของงานให้  

    “ ส่งให้พวกเราด้วยนะครับ ” หนุ่มๆสมาชิกอีกสามคนพร้อมใจกันยกโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อขอให้หล่อนส่งเนื้อเพลง 

    “ … ” คิดเงียบแต่ไม่แม้แต่จะมองหน้าของแจ็คสัน

    “ ได้เลยแจ็คสัน ” ว่าแล้วอาพูก็รับแฟรชไดร์ฟเล็กๆ จากหล่อนเพื่อนำไปเปิดเพลงเดโม่ที่ถูกอัดไว้

    เพื่อที่จะไปในส่วนของเครื่องเสียง โต๊ะทำงานของเขา

    “ แต่ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะ ” คิดพูด แล้วเดินตามอาพู ต้องการให้ได้ยินเพียงแค่สองคน

    แต่เหมือนจะไม่ทัน แจ็คสันได้ยินเต็มๆสองหู 

     

    “ ฉันว่าท่อนนี้เหมาะกับพวกคุณนะคะ ” แจ็คสันพูดจบแล้วก็ร้องไกด์ไลน์เพลงขึ้นมาโดยไร้ดนตรีประกอบ

    เพื่อให้ทุกคนทราบทั่วกันว่าเป็นท่อนของคิดร้องตรงนี้ 

    “ … ” คิดถึงกับชะงักแล้วมองใบหน้าของหล่อน น้ำเสียงหวานทำนองเสนาะราวกับเสียงของเครื่องดนตรีนุ่มหู

    เขาตั้งใจฟังตั้งแต่ประโยคแรกจบลง ต่อด้วยท่อนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อจนกระทั่งจบลง 

    “ เป็นไงละ ใช้ได้เลยไหม? ” อาพูยักคิ้วหนึ่งทีแล้วอมยิ้มมุมปากเบาๆ 

    แค่ยี่สิบวินาทีเท่านั้นเองนะ ยังไม่เต็มเพลงเลย!

    อึ้ง อึ้งสิวะ อึ้งกิมกี่ไปเลยดิ! 

    น้ำเสียงของหล่อนนั้นไพเราะจับใจ ไม่ได้มีเทคนิคการร้องเพลงหวือหวามากนัก แถมเป็นแก้วเสียงชนิดที่หาตัวจับยาก 

    แค่นั้นไม่พอเป็นน้ำเสียงที่คิดเฝ้ารอคอยตามหามานานกว่าแปดปี! 

    “ เหอะ ” คิดแค่ส่งเสียงในลำคอหนาแล้วเดินออกจากห้องโถงกว้าง เพื่อออกไปสูดอากาศข้างนอก

    นอกห้องโถงก็เป็นระเบียบรับลมถูกจัดวางด้วยโต๊ะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เก้าอี้ฝั่งละสามตัว หัวท้ายอย่างละตัวครบชุด 

    คิดหย่อนสะโพกนั่งลง ล้วงหยิบซิกการ์ออกจากกล่องใต้อกเสื้อหนัง จุดไฟด้วยซิปโป้ตรงปลายส่วนของแท่งมะเร็ง 

     

    เขาควรดีใจไม่ใช่หรอ? ที่ตามหาสิ่งที่ขาดหายไปจนเจอ แล้วหล่อนยืนอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว!

     

    พ่นลมหายใจนำควันบุหรี่ออกทั้งทางปากและปลายจมูกโด่ง เอนตัวพิงกับพนักใช้เวลาเงียบๆกับตัวเอง

    ชั่วครู่ เคาะนิ้วมือลงบนที่เขี่ยบุหรี่ทรงกลมใกล้มือแล้ววางลงบนฝีปากหยัก สายตาคมกริบมองเห็นสิ่งมีชีวิตมากขา

    กำลังเดินมาใกล้มือ เขามองหาแก้วสีใสคาดว่าอาพูคงไม่ได้เก็บแก้วสำหรับดื่มเหล้า คิดส่งมือข้างที่ว่างหยิบแก้ว

    ถูกตั้งวางทิ้งไว้ขึ้นมาแล้วคว่ำปากแก้วลง จังหวะนั้นเขาพ่นควันออกทางปากใส่เจ้าแมงมุมตัวเล็กๆสีดำแล้วใช้แก้วเหล้า

    ครอบตัวแมลงมุมนั้นไว้ มันขยับตัวไปทางซ้ายทีขวาที พยายามปีนแก้วด้านในไม่กี่วินาทีถัดมามันก็นอนแน่นิ่งไป

    คิดกระตุกยิ้มด้วยความสนุกแล้วเอนหลังเพื่อพิงพนักเก้าอี้ ยกท่อนขายาวสองข้างพาดกับโต๊ะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

    ส่งสายตาสีบรั่นดีมองหาสิ่งที่น่าสนใจ สิ่งใหม่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งซิกการ์ในมือลุกลามจนหมดแท่ง ฝ่ามือหนาขยี้ดับ

    ดวงไฟสีแดงส้ม ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มสัดส่วน

    ร่างของแจ็คสันปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง ดวงตาสีเทาของหล่อนมองแก้วเหล้าสลับกับมองใบหน้าของเขา

    คิดยกมือขวาขึ้นมา ลดนิ้วมือทั้งหมดลงเหลือแต่นิ้วชี้ แล้วหมุนนิ้วมืองเป็นวงกลม เพื่อให้อีกคนหมุนตัวช้าๆ

    แจ็คสันไม่ได้คิดเยอะ หล่อนหมุนตัวช้าๆตามที่เขาต้องการ

    “ หน้าอกคัพซี เอวยี่สิบสี่ สะโพกสามสิบแปดคงรู้นะว่าต้องทำอะไร ” ใช้ได้เลยทีเดียว แม้จะมองผ่านเสื้อกล้าม

    สีขาวก็พอเห็นบิ๊กเปาขาวจั๊วะสองลูกเบียดเสียดใต้ร่มผ้า เอวบางๆหน้าท้องแบนราบ สะโพกกลมกลึงรับกับช่วงขายาว

    ปราดตาสีบรั่นดีมองเรือนร่างของหญิงสาวตรงหน้า ใบหน้างดงามราวกับเทพธิดา เส้นผมสีบรอนด์ทองม้วนเป็นลอน

    ยาวสลวยคล้ายเกลียวคลื่นท้องทะเล แผ่กระจายบนปลอกหมอน ปลุกเร้ากระตุ้นความต้องการยามค่ำคืน

    ของผู้ชายหลายๆคน ออกมาได้อย่างไม่สิ้นสุด!

     

    “ มันจะมากเกินไปแล้วนะคะ ” กิตติศัพท์เรื่องความปากปีจอของเขานั้นได้ยินมาบ่อย ไม่นึกว่าจะมาเจอกับตัว 

    แต่ไม่คิดว่าจะเป็นหนักขนาดนี้!  เขาส่งสายตานิ่งๆมองการเคลื่อนไหวแล้วก็คาดคะเนเรื่องสัดส่วนของหล่อน

    อย่างถือวิสาสะ พูดออกมาโดยไม่ผ่านชั้นกรองอะไร หรือบางทีอาจจะไม่มีก็ได้!

    “ ก็ปกตินะ หึ ทำเพลงกับอาพู… คนอย่างอาพูมันพาวอร์มเสียงก่อนอัดเพลงด้วยอยู่แล้ว ” คิดไม่ต้องพูดเยอะ

    แต่ก็ไม่แน่นะว่าจะใช้ไมค์ไหนในการจ่อปากเพื่ออัดเสียง อาจจะเป็นไมค์ที่อยู่ตรงหว่างขาก็ได้

    “ นั่นปากหรอที่พูด? ” เเจ็คสันไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พูดออกมานั้นคือปากคนจริงๆ 

    “ ก็ต้องปากสิ แล้วคิดว่าปากไหนละ? ” คิดอยู่กับวงการเพลงมานาน นักร้องสาวเสียงหวาน หน้าสวย หุ่นดี

    ฟีลไอดอลฮิพฮอพ เคบ็อปบิ๊กแบง อันนั้นก็ผ่านการโมมาหมดยกเครื่องทั้งนั้น!  

    หน้าตาไม่ดีใช่ไหม? ตา หู จมูก ปาก ดร.คุเรฮะ จัดให้! โมหน้าใหม่ไม่ต้องรอชาติหน้า แถมหน้าอกดูมดูมอีกคู่!

    หรือจะกำจัดไขมันส่วนเกิน ดูดออกได้โดยไม่ต้องออกกำลังกายให้เสียเวลา!

    ส่วนเรื่องของเสียง ง่ายแล้ว เดี๋ยวนี้มีออโตจูน!

    ต่อให้เสียงร้องราวกับแมวข่วนสังกะสีก็สามารถร้องเพลงเพราะได้หากผ่านโปรแกรมนี้ ถ้ายังร้องไม่ดีก็ตัดแปะท่อนเสียง

    นำท่อนเพลงร้องได้ตรงคีย์ ตรงมาตรฐานเสียงแล้ว นำมาเรียงกันแปะๆกันจนเป็นประโยค รวมๆกันจนเป็นเพลง

    ต้องพึ่งเทคโนโลยีสมัยใหม่กันเลยทีเดียว

     ส่วนมากนักร้องผู้หญิงที่เขาเจอ หรือจะเป็นนักร้องในค่ายของเขาเองก็เน้นขายหน้าตา รูปร่างมาก่อน

    เรื่องเสียงค่อยมาทีหลัง ไหนจะนักร้องเดี่ยว ดูโอ้ เกิร์ลกรุ๊ปที่ไม่มีวันยุบวง มีแค่ประกาศจบการศึกษา ชื่อวงยังอยู่

    แค่เปลี่ยนสมาชิกเรื่อยๆ

     

    แต่มันไม่ใช่ วิคตอเรีย พั๊งค์! ไม่ได้ขายเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก! 

     

    อาชีพเต้นกินรำกินอย่างเขา ขายเสียง ขายเรื่องความสามารถมาก่อนเป็นอันดับแรก 

    จะให้ร้องสดแล้วผ่านมาออโตจูนพร้อมวงดนตรีประกอบ คงไม่ได้หรอกจริงไหม? 

     

    ไม่งั้นวงของเขาคงไม่อยู่ทน อยู่นาน เหมือนร้าบานหรอ? 

     

     

    “ ถ้าจะพูดจาแบบนี้ฉันว่า เก็บปากไว้กินเหล้าเถอะคะ ” นั่นไงหนึ่งดอก!

    ผู้ชายอะไรปากไม่เป็นมงคลเลย! อยากจะเอ่ยปากชมเรื่องหน้าตาเขาก็ดีอยู่หรอก ยกเว้นปากของเขาที่หมา-นเกิน!

    ส่งปลายนิ้วมือเล็กๆทั้งห้าจับส่วนของก้นแก้วเหล้าสีใส เพื่อปลดพันธนาการเจ้าแมงมุมให้เป็นอิสระ 

    หล่อนวางแก้วลงแล้วหันหลังเดินจากไป เหมือนเจ้าแมงมุม ควันบุหรี่ได้สลายหายปะปนกับอากาศ มันขยับขาหยุบหยับ

    สองสามทีคล้ายคนเมา เดินโซซัดโซเซ ชันตัวขึ้นแล้วออกเดินต่อไปเรื่อยๆ

     

    แจ็คสันพ่นลมหายใจออกทางปาก คราแรกหล่อนอยากจะเข้ามาพูดคุยหรือทักทายกับเขาอย่างเป็นมิตร

    กลับกลายเป็นว่าหล่อนซะเองที่ไม่เป็นมิตรกับเขา ไม่สิ! ท่าทางของเขาไม่เป็นมิตรไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ หรืออะไรทั้งนั้น!

    คำพูดหยาบคายแกมดูถูกทำให้แจ็คสันหัวเริ่มอุ่นๆเหมือนกัน ทำไมจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด

    เขาพยายามสื่อออกมาว่า หากหล่อนต้องการทำเพลงสักหนึ่งเพลงมันต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ว่า

    ไม่ใช่แค่จำนวนเงิน หรือเวลา แต่มันหมายถึงร่างกายตังหาก!

     

    เต้าไต่หรอ?

    ไม่มี! คนอย่างแจ็คสันดังได้ทุกวันนี้คือความสามารถของหล่อนล้วนๆ เขามีสิทธิ์อะไรมาพูดจาแบบนั้น?

     

     

    “ ขอบใจที่ยังใช้คำว่า ‘กิน’ ” คิดพูดขึ้นแม้คู่สนทนาจะเดินลิ่วไปแล้ว เขายังเอ่ยชื่นชมกับการเลือกใช้คำ

    หากหล่อนหยาบคายกว่านั้นคงได้พูดว่า ‘ปากแบบนี้เก็บไว้แด-กเหล้าเถอะค่ะ!’ 

     

    ชอบ!

    สนุกดีวะ!

    คิดแสยะยิ้ม ใบหน้าหล่อเหลาเคลือบด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ ลุกขึ้นยืนเต็มสัดส่วนอาศัยช่วงขายาวของตนให้เกิดประโยชน์

    ก้าวขาเพียงไม่กี่หน ก็มาถึงตัวของหล่อนแล้ว เขาจงใจปราดเข้าไปตรงแล้วส่งฝ่ามือข้างซ้ายค้ำร่างหนาของตนยังไม่พอ

    เป็นฉากกั้นไม่ให้หญิงสาวตรงหน้าได้หลบหนี หลุดรอดไปจากท่าคาเบะด้ง*ได้

    แจ็คสันว่าตนมีส่วนสูงพอสมควร เผลอๆอาจจะสูงกว่าผู้ชายปกติด้วยซ้ำ เมื่อเจอกับร่างหนาของคิด

    ส่วนสูงของเขานั้นก็ร่วมสองเมตรนิดๆ ส่วนหล่อนที่ภาคภูมิใจกับช่วงขาสลักเสลาหนึ่งร้อยเจ็ดสิบแปดเซนติเมตร 

    ซึ่งก็เป็นส่วนสูงของท็อปโมเดลระดับโลกอย่าง จีจี้ ฮาดิส เชียวนะ!  แต่พอได้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของร่างหนา 

    สูงโปร่งเกิือบสองเมตรอัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ หล่อนกลายเป็นเด็กน้อยตัวกระจ้อยโดยปริยาย

    “ ปล่อยฉันนะ! ” แจ็คสันเห็นท่าว่าจะไม่ดี เขาคุกคามหล่อนมากเกินไปแล้ว อาศัยจังหวะนั้นเบี่ยงตัวหลบ

    เสี้ยววินาทีสั้นๆกลับถูกฝ่ามือขวาของเขาคว้าต้นแขนเรียวของหล่อนไว้ ออกแรงดึงไม่มากร่างของหล่อนกลับมาอยู่ที่เดิม

    วินาทีหนึ่งหล่อนมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจด้วยแววตาปกติ ช่วงเวลาไม่กี่วินาทีสายตาของหล่อนปรับจุดโฟกัส

    ลดสายตาลงมองตรงบ่าข้างขวา ซึ่งก็ทำให้คิดได้ส่งสายตาสีบรั่นดีมองตามแมงมุมตัวนั้นไต่จากท่อนแขนล่ำสัน

    กำลังมาถึงกำแพง มองสลับกับใบหน้าของแจ็คสัน ดวงตาสีขนของนกพิราบกำลังสั่นไหวด้วยอารามหวาดกลัว

    หล่อนกลัวแมงมุม แต่ก็ยังช่วยเหลือแมงมุมออกจากแก้วที่เขาได้พ่นควันบุหรี่ใส่

     

    กลัว… แต่ยอมช่วยเหลือ ไม่ได้กลัวเลยหรือไงว่าแมงมุมมันจะหันมาแว้งกัดเอา?

     

    “ ป ป ปะ ไปแล้วใช่ไหม? ” แจ็คสันเสียงสั่น พยายามส่งสายตามองโดยที่ร่างกายของหล่อนไม่ขยับเขยื้อน 

     

    ขำว่ะ!

    คิดแทบเก็บเสียงหัวเราะของตนไม่ไหว แม้เขาก็ไม่ได้ตลกโปกฮาหรือมีอารมณ์มากนัก ยิ่งเห็นท่าทีของหญิงสาวผู้มาดมั่น

    ไม่ได้หวาดกลัวกับความอันตรายเฉกเช่นตัวเขา

    บางที ที่เขาปราดเข้ามาด้วยความเร็วอาจจะไม่ได้ทำคาเบะด้ง* อาจจะหวดหน้าหล่อนให้สลบคาที่ก็ได้ใครจะรู้!

    ทว่าหญิงสาวไม่ได้รู้สึกถึงความหวาดกลัว น่าเกรงขามมาจากตัวของเขาเลยสินะ!

     

     

    ลองแหย่หน่อยดีกว่า

     

    “ เกาะอยู่บนหัว  ” คิดพูดเสียงนิ่งโทนปกติ

    “ … ” ใบหน้าของหล่อนนิ่งราวกับถ่ายบัตรประชาชน

    ส่วนร่างสูงที่กำลังส่งมอบความฟินสไตล์ญี่ปุ่นให้นั้นส่งปลายนิ้วมือหนา ลากผ่านเส้นผมสีบรอนด์ทองโทนสว่าง

    ขับให้ใบหน้างดงาม ผิวกายเนียนราวกับเนยชั้นดีหล่อนนั้นดูผิวเปล่งปลั่งกว่าปกติ พับข้อนิ้วชี้และนิ้วกลางชิดฝ่ามือ

    แล้วแตะสัมผัสข้างแก้มเนียนเบาๆอย่างถือวิสาสะ

     

    นุ่น เนียน ละมุน ไม่รู้ว่าเลือกสรรใช้คำไหนที่เหมาะสมกับผิวกายของหล่อนได้ 

    รู้เพียงแค่เขาอยากส่งฝ่ามือร้อนรุ่มของเขาสัมผัสลงบนผิวกาย สำรวจหาความผิดปกติเรือนร่างของหล่อนมากกว่านี้ 

     

    “ ออกไปแล้ว ” คิดปดคำโต ที่จริงแล้วแมงมุมนั้นเป็นอิสระได้ก็อันตธานหายไปทันที

    “ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว… เอ่อ ขอบคุณนะ ” ได้ยินที่เขาบอก แจ็คสันรีบขยับปลายเท้าออกมาทางซ้ายมือ

    โดยไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ โค้งตัวทำมุมสี่สิบห้าองศาอย่างสุภาพด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน 

     เส้นผมของหล่อนพริ้วไหวกลางอากาศ ยามเมื่อขยับร่างกาย ปลายจมูกโด่งของคิดสูดกลิ่นหอมกลางอากาศ

    เข้าเต็มปอด ไม่ว่าจะกลิ่นหอมของเส้นผมยาวสลวย หรือจะเป็นน้ำหอมอ่อนๆจากต้นคองามละหง กลิ่นหอมหวาน

    ราวกับว่าหลอกล่อให้เขาอยากเข้าไปเป็นภมรตัวภู่ดอมดมจากผิวกาย นอกจากต้นคอขาวๆ แล้วกลิ่นของหล่อน

    มาจากตรงไหน ส่วนใดบนร่างกายอีก

     

    “ ไม่เล่นด้วย ก็ไม่เล่นด้วยสินะ ” คิดแสยะยิ้มมุมปาก

    นึกชื่นชมหญิงสาวในใจ ที่ผ่านมาเขาเจอแต่พวกผู้หญิงปากว่าตาหยิก ปากบอกว่าไม่เอา! ไม่ชอบ! ไม่เล่นด้วย!

    แสดงท่าสงวนทีของกุลสตรี รักษาครองพรหมจรรย์ไว้หลังแต่งงาน ต่างจากชุดเสื้อผ้าอาภรณ์บนตัวไม่ว่าจะเว้าหน้า

    เปิดหลัง หรือจะโป๊หมดเลย เศษผ้าบนตัวราคาแพงแทบไม่อาจจะปิดซ่อนเรือนกายไว้ได้ แต่ก็ไม่สามารถตบตา การแสดง

    ความปารถนาอันแรงกล้าออกเกินกว่าที่กุลสตรีควบคุมได้! 

    หากเป็นเหตุการณ์เมื่อครู่.. กับผู้หญิงคนอื่น มือไม้ของพวกเธอนั้นสัมผัสแตะต้องลงบนกล้ามเนื้อไร้ไขมันแทรก

    ของเขา เกือบจะทุกตารางส่วนบนร่างกาย 

     

    คงต้องยกเว้นหล่อนไว้คนหนึ่ง!

    คงเป็นเพราะที่ผ่านมาเขาเจอแต่พวกผู้หญิงกร้านโลก ชุดเสื้อผ้าอาภรณ์เร้าอารมณ์ร่างกายเย้ายวน ท่าทางเชิญชวน 

    พร้อมจะอ้าขาต้อนรับแรงกระแทกจากเขาแทบทุกตลอดเวลา!

     

     

    “ แจ็คสัน…  เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจดีนะ… ” คิดทวนชื่อของหญิงสาว กระตุกยิ้มมุมปาก 

    นอกจากน่าสนใจแล้วเขายังมีความน่าค้นหาอีกด้วย และขอให้เป็นอย่างนั้น! 

     

     

     

    คาเบะด้ง*

     

    ปล. อย่าเพิ่งเกลียดเฮียคิดนะ ตรรกเฮียไม่ได้บ้งขนาดน้านนนนน 

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป…

        13 ก.ย. 2565

     

     

           สวีดัด สวัสดี นายชิวเองนะครับ วันนี้ชิวมีพระเอกน้องใหม่ ใสกิ๊ง แกะกล่องมานำเสนอทุกท่าน ท๊าด๊าาาา

    ‘ยูสทัส คิด’ นั่นเองงง ชิวเองก็ไม่แน่ใจว่าจะถ่ายทอดนิสัย คงคาแรคเตอร์ของตัวละครออกมาได้ดีหรือไม่…

    ข้อมูลที่เก็บมาได้ก็น้อยนิดเสียเหลือเกิน…. ชิวจะพยายามไม่ให้หลุดจากคาแรคเตอร์เดิมนะครับ

    ตามจริงชิวก็ชอบ คิด นะครับ เห็นครั้งแรกจากตอนเปิดตัวซุปเปอร์โนวาแล้ว เออ ตัวละครมีเอกลักษณ์ 

    ห่ามๆ เถื่อนๆดี แต่ก็มีความเปิ่นๆ โก๊ะๆ ของตัวละครนั้นอยู่(ตามสไตล์อ.โอดะ)

           กลัวว่านักอ่านหลายท่านอาจจะเบื่อ การลงเรือโจรสลัดไปอยู่บนผืนน้ำต่อสู้กันไปเรื่อยๆ

    ชิวก็เลยเปลี่ยนเป็นความบันเทิงรูปแบบใหม่แบบสับ เป็นแนวนักดนตรี อยู่ในโลกปัจจุบันนั่นเองงง

           จังหวะเดียวกับที่หาพระเอกใหม่จากวันพีซ มีพล็อตเรื่องอยู่แล้วแต่ไม่แน่ใจว่าหวยจะออกที่ใคร

    สุดท้ายแล้วก็มาออกที่ ‘คิด’ นี่ละครับ! 

            ชิวปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องก็เยอะด้วยเช่นกัน เห็นตอนแรกทางเว็บเด็กดีสามารถลง NC ได้ แล้วดีใจ

    เด็กดีโตเป็นผู้ใหญ่แล้ววววว แต่พอลองอ่านข้อตกลงและกติกาอย่างครบถ้วนอีกครั้ง เออ มันเยอะจังวะ

    งั้นตัดของเดิมออกดีกว่า ซึ่งตามจริงแล้ว 80 per. ของเรื่องก็ 20+ แล้วก็เปลี่ยนเนื้อเรื่องที่เหมาะสม

    กับทางเว็บ และนักอ่านด้วย อาจจะมีวับๆแวบๆชวนให้จิ้น พอฟินๆละกันนะครับจะได้ใจเต้นระทึกกันบ้าง 

     

          ขอฝาก ‘คิด’ ไว้ในอ้อมใจของนักอ่านทุกท่าน รับไว้พิจารณาด้วยนะครับ

                คอมเมนต์ พูดคุย ติชมได้อีกเช่นเคยนะครับ เพื่อพัฒนางานเขียนให้ดียิ่งๆขึ้นไป

     

            ขอให้มีความสุขกับการอ่าน

                       นายชิว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×