ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเรียนประวัติศาสตร์กับเฮตาเลีย[hetalia / APH]

    ลำดับตอนที่ #96 : [คั่น] รวมเรื่องสั้น(มากๆ)ที่แต่งในเฟส 15+ มันมีsm...

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 691
      1
      31 ต.ค. 55

    italy x germany

    "เฮ้ เฟลี่ นายเป็นอะไรไหม" ชายหนุ่ม(ถึก //โดนต่อย)ชาติเยอรมันเขย่าร่างบางของเด็กหนุ่มชาวอิตาลีที่ถูกยิงที่แขนมาเบาๆ
    "ล...ลุควิก..." เด็กหนุ่มปรือตาขึ้นมองคนที่เขย่าเขาอยู่
    "นายเป็นอะไรไหมเฟลี่?" ลุควิกถามซ้ำเมื่อเห็นอีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมา
    "ไม่เป็นไรหรอก แผลแค่นี้เอง..." ไม่รู้เขาคิดไปเองรึเปล่า แต่เหมือนแววตาของเฟลิเซียโน่เปลี่ยนไป
    ปกติ แค่เขาโน่บาดเจ็บก็จะมาเกาะแล้วก็ร้องไห้จะเป็นจะตายแล้วแท้ๆ แล้วทำไมตอนนี้ถึงพูดแบบนั้น
    เฟลิเซียโน่ลุกขึ้นยืนมองสนามรบตรงหน้าแล้วยิ้ม
    "ไม่ต้องห่วงหรอกนะลุควิก เดี๋ยวเค้าจะจัดการเจ้าพวกนี้ให้หมดเลย" จบประโยค ลุควิกก็รู้สึกเย็นหลังวูบขึ้นมาเสียเฉยๆ
    นี้ไม่ใช่เฟลิเซียโน่ วาลกาสที่เขารู้จัก นี้ต้องเป็น'เวเนเซียโน่ วาลกาส' อีกบุคลิกหนึ่งของเฟลิเซียโน่ที่เคยถล่มกองทัพศัตรูราบมาแล้วในสงครามโลกครั้งที่1แน่ๆ
    ทันใดนั้น เวเนเซียโน่ก็หันมาหาคนที่นั่งอึ้งอยู่ก่อยจะพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่เขา(ด๊อย)คิดว่ามันช่างสยองและน่ากลัวเป็นที่สุด

    "ไม่ต้องห่วง... เค้าจะปกป้องลุควิกเอง..."


    ______________________________________________________

    US x UK [sweet devil]

    อะไรคือสิ่งที่เขารักงั้นหรอ...
    คำถามนี้ยังคงวนเวียนไปมาหลังจากที่คุยกับฟรานซิส
    เขาไม่รู้ว่าเขารักอะไรและมีอะไรที่เขารักบ้าง อาจจะเป็นลม ต้นไม้ อากาศ ละมั้ง
    คิดไปคิดมาชักเมื่อยเลยนั่งลงริมผาแบบไม่กลัวตก ถึงตกเขาก็บินขึ้นมาได้ไม่เห็นต้องคิดมาก
    "นี้...อัลเฟรด..." เสียงหวานเย้ายวนดังมาแต่ไกลก่อนที่เจ้าของเสียงจะมานั่งเกาะแขนคลอเคลียเขา
    "มีอะไรหรออาเธอร์?" อัลเฟรดถามเสียงนิ่งๆ ถึงในใจจะไม่ใช่แบบที่แสดงออกมาก็เถอะ
    "ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ เป็นอะไรรึเปล่า?" ถามไปเอาหัวถูไถแขนอีกฝ่ายไป แถมเสียงยัง... อยากจับกอดให้มันรู้แล้วรู้รอดจริงๆ
    "ไม่เป็นไรหรอก แค่คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ" ยิ้มนิดๆ ถ้ากอดตรงนี้คงไม่เป็นไรมั้ง
    "งั้นหรอ...มีอะไรบอกฉันได้นะ" เสื้อน่ะเสื้อ ไหล่มันเปิดแล้วนะ
    คิดมองยิ่งเตลิดไปไกล ให้ตายเถอะ
    "ฟรานซิสถามฉันว่าฉันรักอะไรน่ะ" เผื่ออีกฝ่ายจะพอหาคำตอบให้ได้บ้าง อย่างน้อยให้คำปรึกษานิดหน่อยก็ดี
    "ทำไมตอบไม่ได้ล่ะ? นายไม่รักฉันหรอ" มือบางค่อยๆเลื่อนไปกอดอีกฝ่าย
    "ขอโทษนะที่ตอนนั้นฉันไม่ทันคิดว่าสิ่งที่ฉันรักก็เป็นสิ่งมีชีวิตได้ แต่ตอนนี้ฉันตอบได้แล้วล่ะ" เขากอดอีกฝ่ายเหมือนไม่อยากให้คนตรงหน้าหนีไปไหน

    "สิ่งที่ฉันรักที่สุด ก็นายไงล่ะอาเธอร์"


    ----------------------------------------
    คนรีเควสบอกว่าเหมือนแองเจิลแหละ...(หงิง...)
    หนูแต่งยั่วม่ายเป็นนนนนนนนน //หลุดบทแล้ว
    _____________________________________________

    Russia x US

    เสียงแส้และเสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นมาจากห้องทึบที่มีเพียงแสงสลัวๆจากกระจกบานเดียวเล็ดลอดเข้ามาเท่านั้น
    "คุณนี้...น่ารักจังเลยน้า" ชายร่างสูงใหญ่ยืนถือแส้ นัยน์ตาสีม่วงมองไปยังชายหนุ่มอีกคนที่ถูกมัดรวบแขนรวบขาอยู่มุมห้อง
    "ปล่อยฉันเดียวนี้!!!!" คนถูกมัดตะโกน แต่ดูเหมือนชายที่ถือแส้อยู่ไม่ได้กลัวเลยแถมยังกวนเขาซะอีก
    "ฮะๆๆ น่ากลัวจังเลย" แกล้งหัวเราะนิดนึง "ยังอุสาห์พูดแบบในทั้งๆที่ถูกมัดอยู่ได้ สมเป็นคุณดีนะครับ" แล้วก็ลงแส้อีกซักรอบ เวลาเขาเห็นคนอื่นทรมานมันช่างมีความสุขจริงๆ โดยเฉพาะการได้เห็นคนตรงหน้าเจ็บปวดยิ่งมีความสุขเข้าไปอีก
    คนถูกมัดพยายามกัดฟังไม่ร้องออกมาเพราะความเจ็บของแส้ที่คู่อริฟาดเขา ไม่งั้นคนฟาดคงได้ใจมากกว่านี้
    "นาย...มันเลว..." คนถูกฟาดพูดออกมา นัยน์ตาสีฟ้าดั่งท้องฟ้ายามไร้เมฆบดบังฉากแววอาฆาต
    "ใช่...ผมเลว... แต่เรื่องทั้งหมด... คุณเริ่มก่อนไม่ใช่รึไง คุณทำให้ผมเสียคนที่รัก เสียความรู้สึก เสียทุกสิ่งทุกอย่าง มันก็เพราะคุณ!!!!!" ชายชาวรัสเซียเอาแส้ฟาดคู่กรณีติดต่อกันหลายครั้งหมายเอาให้สาหัส แต่คนที่ถูกฟาดไม่ยั้งกลับไม่ร้องออกมาแม้แต่นิดเดียวจนคนฟาดหมดทั้งแรงและกำลังใจ
    "คุณมัน... ฮึก......" คิดว่าคนที่ตัวเองฟาดไปน่าจะสลบไปแล้ว คงไม่เห็นเขาร้องไห้อยู่หรอก
    "รู้ไหมว่าผมเหงาแค่ไหน คุณมาเอาทุกอย่างไปจากผม ทุกคน...ไปจากผมหมด เหลือแค่ผม ทำไม ทำไม..."
    ไม่ทันไรก็ถูกทักขึ้นมา

    "นายร้องไห้อยู่นะ อีวาน..."


    -------------------------------------------------------------
    แก้คำผิดแล้วนะครับ... (ตอนนั้นเบลอเขียนผิดเยอะมาก)
    ___________________________________

    Russia / Anastasia / America(?)
    นานแล้วสินะ...หลังจากวันนั้น วันที่ราชวงศ์โรมานอฟถูกพรรคบอลเชวิคปลงพระชนม์...
    "วันนี้ก็ดอกไม้สวยเหมือนเดิมนะครับ" ชายหนุ่มผมทองอ่อนทักแม่ค้าอย่างอารมณ์ดี
    "แหม...ชมแล้วไม่ซื้อไปซักหน่อยหรอจ๊ะพ่อหนุ่ม" แม่ค้ายิ้ม เธอเห็นชายคนนี้มานานตั้งแต่ตอนที่เธอเปิดร้านตรงนี้ใหม่ๆแล้ว เขาดูไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย ทั้งหน้าตา เหมือนเขาไม่มีวันแก่อย่างไรอย่างนั้น
    "ซื้ออยู่แล้วล่ะครับ" เขาที่ว่าเดินเข้ามาดูดอกไม้นานาพันธุ์จากในตะกร้ารอบๆร้านก่อนจะไปสะดุดตรงดอกลิลลี่สีขาวดอกหนึ่ง
    "ป้าครับ ผมขอดอกนี้ได้ล่ะ เท่าไหร่ครับ?" เรียกเขาว่าป้า ตัวเองแก่กว่าตั้งไม่รู้กี่ร้อยปี
    "2รูเบิลจ๊ะ ป้าลดให้" เขายื่นเงินให้ป้าขายดอกไม้ แต่ก่อนจะเดินออกไปป้าก็เรียกไว้ก่อน
    "เดี๋ยวๆ ป้าแถมดอกนี้ให้" ว่าแล้วป้าก็ยื่นดอกลิลลี่อีกดอกให้เขา
    "จะดีหรอครับ?"
    "ดีสิ เอาไปเถอะ"
    เขารับดอกไม้อีกดอกมาจากป้าขายดอกไม้แล้วเดินออกมา
    ระหว่างเดินไปก็คิดถึงช่วงเวลาที่เขาได้อยู่กับเจ้าหญิงอนาสตาเซียไป
    เจ้าหญิงอนาสตาเซียเป็นคนที่น่ารักมาก เขาชอบคุยกับเธอที่สุด เขาแอบโทษตัวเองที่ช่วยเธอและราชวงศ์คนอื่นๆไว้ไม่ได้ นึกๆไป ตอนที่เขารู้ข่าวใหม่ๆเขากินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวันเลยทีเดียว
    "ถึงแล้วหรอ..." เขาหยุดอยู่หน้าหลุมศพแห่งหนึ่ง
    หลุมศพนี้อาจจะไม่ได้สวยหรูนักเพราะเขาทำเองโดยใช้เวลาจำกัด ข้างใต้มีเถ้ากระดูกของอนาสตาเซียเท่าที่เขาจะหามาได้ฝังอยู่
    "ผมมาเยี่ยมแล้วนะครับ..." เขาค่อยๆวางดอกลิลลี่ทั้งสองดอกลงก่อนจะนั่งมองอยู่แบบนั้นจนกระทั่ง...
    "ไงอีวาน มานั่งทำอะไรตรงนี้น่ะ" ผมควรถามคุณมากกว่าว่าจะข้ามทวีปมาทำอะไรที่นี้ "แล้วนั้น..."
    "อนาสตาเซียน่ะครับ..." ตอบเบาๆพอให้อีกฝ่ายได้ยิน
    "งั้นหรอ..." อีกฝ่ายมอง เวลาเห็นคนตรงหน้าเศร้ามันบอกไม่ถูกจริงๆ "เฮ!!! มันเศร้าๆพิกลนะ ไปหาของกินกันดีกว่า แต่ว่านายเลี้ยงนะ!!!"
    "อ...เอ๋??? ทำไมให้ผมเลี้ยงล่ะครับ!!!" แล้วก็ถูกชายชาวอเมริกาขี้เล่นลากออกไป
    เสียงเด็กสาวลอยมากับสายลมดั่งเสียงกระซิบเบาๆที่ไม่ต้องการให้ใครได้ยิน

    'แค่คุณมีความสุข... เราก็ดีใจแล้วล่ะนะ...'
    __________________________________________________

    ฟอร์นเรื่องนี้แปลกไปนิด(เพราะก็อปวางเนื่องด้วยเวลาน้อย) ช่างเถอะเนอะ //สุดท้ายก็แต่งเจ้าหญิงอนาสตาเซียจนได้...
    _________________________________________________________________

    Russia

    กุหลาบ...บานแล้วสินะ?

    ผมมองดอกกุหลาบในสวนดอกไม้ที่ผมปลูกมันเอาไว้
    ใช่...ผมน่ะชอบดอกไม้มากเลย มันดูร่มรื่น สบายตา แล้วก็ทำให้จิตใจผมสงบขึ้นด้วย
    ผมลุกขึ้นเดินไปรอบๆ สองข้างทางเดินเล็กๆประมาณสองคนสวนกันได้เป็นต้นกุหลาบมอญสีชมพูอ่อนดอกใหญ่เป็นพุ่มไปตลอดทางเดิน ตรงไปอีกจะเป็นสวนขนาดไม่ใหญ่มาก ริมรั่วเป็นต้นสนสูงราวๆ3เมตรได้เรียงไปตลอดรั้ว ถอดออกมาเป็นต้นมะลิที่อ่อนดอกตลอดทั้งปี ถัดจากต้นมะลิมาอีกเป็นไฮร์เดนเยียสีฟ้าม่วง พวกมันเปรียบเสมือนรั่วต้นไม้ของสวนนี้ ข้างในห่างจากรั่วต้นไม้มาหน่อยก็จะเป็นต้นไม้พุ่มต่างๆที่ไม่สูงมากนัก มีดอกคาร์โมไมล์ที่เป็นดอกไม้ประจำชาติของผมขึ้นตามโคนต้นไม้ ถึงมันจะดอกเล็ก แต่สีขาวสวยนั้นก็ตัดกับสีเขียวของใบไม้ได้เป็นอย่างดี บางต้นก็เป็นดอกฟอร์เก็ตมีนอทไม่ก็แวววิเชียรแทนดอกคาร์โมไมล์

    ส่วนตรงกลางสวนนั้น...ต้นฟาวเวอร์ริ่งด็อกวู๊ด...

    มันออกดอกสีขาวปนชมพูจมเหมือนทั้งต้นมันเป็นสีชมพูไปแล้ว กลีบดอกไม้ค่อยๆร่วงหล่นลงมา เหมือนต้นซากุระอย่างไรอย่างนั้
    ถ้าจำไม่ผิด ต้นนี้อาเธอร์คุงให้ผมมาเมื่อปีที่แล้ว
    ผมชอบมันมาก แล้วก็ชอบมานั่งใต้โคนต้นมันบ่อยๆ
    เวลาผมมานั่งตรงนี้ ผมจะรู้สึกสบายใจ เหมือนลืมเรื่องเหนื่อยๆในชีวิตมาหมดเลยทีเดียว

    แต่ทำไม...มนุษย์เราถึงชอบทำลายธรรมชาติกันนะ...

    ทั้งๆที่มันออกจะสวยขนาดนี้แท้ๆ...

    ทำไม...กันนะ...

    _____________________________________________________

    ว่างๆอัพใหม่ ฮาาาาาา เดี๋ยวแต่งอีโรติกคู่สงครามเย็น //ผิด <<เก็บกดเพราะทำไรอัลฟ์ในกลุ่มไม่ได้ รอบหน้าจะ(แต่ง)ให้ยิ่งกว่านี้อีกคอยดู...(?)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×