คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ครอบครัว (ตอนจบครับ)
ผมมองมือถืออย่างคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวน้ำตาที่ไหลลงมาเมื่อไหร่ไม่รู้อาบอยู่เต็มแก้ม
"บุ้ง รอพีอยู่ตรงนั้นนะ พีจะไปหา" มันหมายถึงอะไรกันนะ แล้วโทรศัพท์ก็เงียบไปกดกลับ
ไปก็ไม่มีคนรับ จึงไแต่ถอนใจมองดูไอ้ปูนิ่มที่ดูว่ายน้ำวนไปวนมาเหมือนมันกังวลอะไรอยู่
ไม่เคยเห็นมันลุกลี้ลุกลน ขนาดนี้มาก่อน ผมจึงเอื้อมมือไปลูบหัวมันไว้เบาๆ ใจคิดถึงคนที่วาง
สายไปเมื่อตะกี้ ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรหา แล้วไงวันนี้ทำไหมเขาถึงโทรมา
"มึงอยากให้กูมีคนอื่นจริงๆเหรอ" คำถามนั้นน้ำเสียงแบบนั้นทำเอาหัวใจผมแทบขาด
อยากจะบอกว่าไม่ ไม่อยากให้นายมีใคร อยากให้มีแค่เราสองคน มันก็คงเห็นแก่ตัวมากสินะ
ความรักที่ทุเรศของไอ้บุ้งในสายตาของไอ้พีคงจะยิ่งอัปลักษณ์เข้าไปใหญ่ที่จะเห็นแก่ตัวแบบนั้น
"พี ขอให้นายมีความสุขในงานหมั้นพรุ่งนี้นะ" ผมอวยพรไอ้พีจากใจก่อนจะหลับตาลง
..................
"บุ้ง คุณพีเกิดอุบัติเหตุรถชน ตอนนี้อยู่ห้องไอซียู ยังไม่ฟื้นเลยลูก"
ประโยคนี้ดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวหลังจากผมรับโทรศัพท์จากยายในเช้าวันใหม่ กว่าจะบินจาก
เชียงใหม่มาถึงโรงพยาบาลที่ไอ้พีเข้ารักษาตัวอยู่ได้หัวใจผมก็เจ็บจนชา ทำไหมนะพีทุกครั้ง
ที่เราห่างกันนายต้องมีแต่เรื่องเจ็บตัว
ทำไหมนะนายถึงไม่ดูแลตัวเอง
ทำไหมนะนายต้อง... คำถามพรั่งพรูอยู่ในใจจนสับสนไปหมด
ขอให้นายฟื้นมาอาละวาด รอเราด้วย เป็นสิ่งที่ผมปราถนาที่สุดในใจตอนนี้ ขณะที่ก้าวเข้าไปในโรงพยาบาล
ผู้คนมากมายมารอให้ไอ้พีฟื้นอยู่หน้าห้องไอซียู ผมเห็นคุณหญิงถูกคนล้อมรอบคอยปลอบใจหนึ่งในนั้นคือ
ว่าที่คู่หมั้นของไอ้พีด้วย ขณะที่ผมยืนนิ่งอยู่ยายผมมาจากไหนไม่ทราบมาโอบตัวผมร้องให้แล้วร้องให้เบาๆ
"อาการเป็นยังไงบ้างครับ" ผมถามยายเสียงแผ่ว
"สภาพร่างกายปกติดีทุกอย่างนะบุ้ง มีรอยฟกช้ำทั่วร่างไม่มีอะไรแตกหัก แต่ไม่ยอมฟื้นตั้งแต่เมื่อคืน"
ยายบอกผมเสียงสั่นเครือผมลูบหลังยายเบาๆ เพื่อปลอบโยน แล้วจู่ๆคุณหญิงที่เห็นร้องให้เงียบๆเมื่อครู่
ก็วิ่งเขามากอดผมอีกคน พร้อมร้องให้เสียงดังลั่นอย่างไม่อายใคร พลางเขย่าตัวผมไปมา
"บุ้งๆๆ ช่วยตาพีด้วยนะ อย่าทิ้งตาพีอีกนะ แม่ขอร้อง ช่วยตาพีด้วยนะ นะบุ้งนะ" ผมพยายามลูบหลัง
ของคุณหญิงและยายที่ซุกอยู่บนอกผมคนละข้างเบาๆพูดอะไรไม่ออก มันแน่นจนจุกอกไปหมด
เวลาผ่านไปจนถึงบ่าย ผมกับคุณหญิงและยาย ยังนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียู ผู้คนในตอนเช้าค่อยๆหายไป
เมื่อเริ่มค่ำ ผมก็ได้สติบอกให้ยายและคุณหญิงไปอาบน้ำอาบท่าก่อนจะมาเฝ้าต่อซึ่งกว่าคุณหญิงจะไปผมก็
ต้องสัญญากับท่าน "ผมจะไม่ทิ้งไอ้พีไปไหนแน่ครับผมสัญญาผมจะอยู่ข้างมันแน่นอน" เหมือนจะ
พอใจ คุณหญิงจึงยอมไปอาบน้ำทานข้าว ผมนั่งลงอย่างหมดแรงอยู่หน้าห้องไอซียู
"พีนายอย่าหลับนานนักนะ รู้ไหมบุ้งเหนื่อยแค่ไหน" ผมเอ่ยเบาๆในหัวใจหวังให้คนที่อยู่ในห้องรับรู้
.....................
"คนไข้อาจจะฟื้นตอนไหนก็ได้นะครับหรืออาจจะต้องใช้เวลา"
หมอบอกพวกเราขณะที่ไอ้พีออกจากห้องไอซียูมาอยู่ห้องพักพิเศษได้ในวันที่สาม
"ลูกเดี้ยนจะเป็นเจ้าชายนิทราหรือเปล่าคะหมอ"คุณหญิงถามคุณหมอด้วยใจที่หวาดวิตกไม่ต่างจากผม
"อันนี้ไม่อาจคาดเดาได้ครับ สมองร่างกายเขาปกติทุกอย่างอาจต้องใช้เวลา" หมออธิบาย
"นานแค่ไหนคะ"คุณยายผมถามขึ้น
"หมอไม่ทราบครับ เราต้องช่วยกันทุกคนนะครับ" หมอบอก
"หมายความว่าอาจจะไม่ฟื้นเลยก็ได้ใช่ไหมคะ" คุณหญิงย้ำ
"ไม่แน่ครับอาจฟื้นวันนี้ก็ได้นะครับ เราจะช่วยกันเต็มที่นะครับ" คุณหมอพยายามให้กำลังใจเต็มที่
แต่ดูเหมือนสายไปสะแล้ว คุณหญิงทรุดร่างลงทันทีดีที่ผมรั้งไว้ทันก่อนหัวฟาดพื้น
"คุณหมอครับช่วยคุณหญิงด้วยท่านเป็นโรคหัวใจนะครับ" ผมยกตัวคุณหญิงอุ้มไว้ในอ้อมกอด
ก่อนจะรีบเดินตามคุณหมอไปยังห้องตรวจ
.....................
มันคือช่วงเวลาแห่งความทุกข์ที่แสนจะเนิ่นนาน วันเวลาเหมือนโดนลูกตุ้มถ่วงไว้ให้คลืบคลานไปช้าๆ
ผมกับยายต้องผลัดกันดูแลคุณหญิงซึ่งช็อคไม่รับรู้สิ่งใด รอบตัวและไอ้พีที่ยังไม่ฟื้นจากการนอนหลับ
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ผู้คนที่เคยแวะมาเยี่ยมเยือนเงียบหายไปหมด นี่สินะที่เขาเรียกว่าครอบครัว
คงมีเพียงแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่จะเคียงข้างคุณ ในยามที่ใครๆลืมคุณหมดสิ้น ผมยาย ไอ้พี
คุณหญิง ตาพง และเจ้าปูนิ่ม ยังคงเวียนเข้าเวียนออกรอบตัวซึ่งกันและกันเพราะเราคือครอบครัว
" แม่ครับไอ้พีต้องตื่นแน่นอนเชื่อผม มันบอกให้ผมรอ เพราะงั้นมันต้องมาแน่เชื่อผมนะครับ"
ผมคุยกับคุณหญิงพร้อมจับมือท่านมากอดไว้เพื่อให้ท่านตั้งสติ
"จริงเหรอลูก"แม่ไอ้พีเอ่ยขึ้นคำแรกหลังจากไม่พูดมาสี่วัน
"จริงสิครับ แม่ต้องช่วยดูแลปกป้องไอ้พีนะไว้ให้มันแข็งแรงผมกับมันจะดูแลแม่เอง" ผมย้ำกับท่าน
"จริงๆนะ ลูกต้องปลุกตาพีให้ตื่นมาหาแม่นะลูก" คุณหญิงเริ่มร้องให้หลังจากที่นั่งนิ่งไม่มีอารมณ์ใดๆมาหลายวัน
"จริงสิครับแม่ผมสัญญา แม่ช่วยผมปกป้องไอ้พีด้วยนะครับ แม่ต้องเข้มแข็งนะครับ" ผมพูดเพื่อให้ท่านได้สติ
คุณหญิงร้องไห้โฮ โอบไหล่ผมมากอดแน่น ผมลูบหลังท่านเบาๆ พลางบอกว่า
"หลังจากคุณแม่ร้องให้เสร็จแล้วเราลุกขึ้นมาสู้เพื่อไอ้พีด้วยกันนะครับ"
คุณหญิงร้องให้อยู่นานพอควร แล้วท่านก็ผลักผมออกจากอ้อมกอด
"แม่อยากอาบน้ำ ทานข้าว รู้สึกหิวแหะ สงสัยช็อคไปหลายวัน" ท่านพูดกับผมพลางยิ้มให้ทั้งน้ำตา
"เดียวบุ้งจัดการให้นะครับ" ผมรีบโทรบอกยาย ตาพง และพยาบาลมาดูแลคุณหญิง
......................
"บุ้ง แม่จะไปดูแลบริษัท ดูแลบ้าน แทนตาพี ทางนี้แม่ฝากด้วยนะ" คุณหญิงฝากผมก่อนจะกลับบ้าน
"ได้ครับ ผมจะปลุกไอ้พีรอแม่เอง" ผมยิ้มให้ความมั่นใจท่าน
"อืมส์แม่จะรอ เราจะรอเขากลับมาด้วยกันนะ" ท่านหอมแก้มผมเบาๆก่อนขึ้นรถไป
ผมกลับมานั่งข้างๆเตียงไอ้พีอีกครั้งหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ยายนำมาให้เปลี่ยนจากบ้าน หัวใจผม
มันนิ่งจนน่าแปลกใจ มันรู้สึกไม่เจ็บไม่ปวด ไม่กลัว ผมจับมือไอ้พีมากอดไว้ ร่างกายมันเหมือนคนนอน
หลับลึกไม่รับรู้เรื่องใดๆ ไม่รับรู้แม้ว่าผมกำลังกุมมือมันร้องไห้อยู่เงียบๆ ความเชื่อมั่นที่พยายามสร้างให้
คนอื่นเห็น พออยู่ต่อหน้าไอ้พีมันมลายสิ้น น้ำตาที่คิดว่าหมดแล้วก็ยังมีมาไม่ขาดสาย
"พีจะทำให้บุ้งร้องให้อีกกี่ครั้ง พีไม่รู้หรือว่า มันเหนื่อยแค่ไหน ไม่รู้บ้างเหรอว่าบุ้งรักนายเท่าไหร่"
ผมพูดไปอย่างสุดกลั้นหลังจากที่ได้แต่กุมมือมันร้องไห้มาหลายวัน ไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ
"ทำไหมให้บุ้งรอนานนัก ทำไหมต้องทำแต่เรื่องให้บุ้งห่วง ไม่รักบุ้งบุ้งก็ไม่ว่า ตื่นมาด่าก็ได้"
"คะ ใครบอก พีรักบุ้งนะ" เสียงแผ่วๆมาจากริมฝีปากไอ้พี มือที่ผมกำอยู่กำตอบผมแน่น
"พีรักบุ้งนะ รักมากๆ ไม่แพ้ที่บุ้งรักพีหรอก" เสียงนั้นชัดเจนขึ้นอีก หัวใจผมเหมือนจะหยุดเต้นที่เห็น
ตาไอ้พีกำลังลืมตาขึ้นมองผมอย่างช้าๆ
" พีนายปวดหัวไหม เจ็บตรงไหนไหม มองเห็นบุ้งไหม"ผมอยากถามอีกหลายคำถามแต่ถูกไอ้พีดึงตัวเข้าไป
กอดไว้แน่นก่อนจะจูบผมอยู่นานเหมือนอยากจะบอกว่ามันคิดถึงผมมากเพียงใด
"พี คิดถึงบุ้งมากรู้ไหม พีเหมือนถูกปิดปากไว้ มองเห็นบุ้งนั่งร้องไห้อยู่แต่บุ้งไม่เอ่ยอะไรสักคำ
พีตะโกนบอกรักบุ้งจนเหนื่อยบุ้งก็ไม่ได้ยิน" ไอ้พีพูดเสียงแหบแห้ง
"ทานน้ำก่อนนะใจเย็นๆ บุ้งอยู่นี่แล้ว เดียวบุ้งจะบอกหมอให้มาตรวจพีก่อนนะ" ผมป้อนน้ำในแก้ว
ให้เจ้าหัวใจของผมดื่มก่อนจะกดกริ่งเรียกพยาบาล สักครู่หมอก็พาไอ้พีเข้าห้องตรวจอีกครั้ง
......................
ผมนั่งอยู่ในอ้อมกอดของไอ้พีพลางเหม่อมองไปบนท้องฟ้าที่มีแต่ดาวเต็มไปหมดในคืนไร้แสงจันทร์ ไอ้พีเฝ้า
วนเวียนฝังจมูกไปตามซอกคอและแก้มผมเหมือนคนกระหายทียังทานน้ำไม่อิ่ม
"บุ้งพีรักบุ้งจัง" รู้สึกผมจะได้ยินไปนาทีเมื่อกี้นี้เองนะคำนี้ หลังจากฟื้นจากสลบมาได้หนึ่งอาทิตย์นี้ไอ้พีหวาน
จนผมแทบคลั่งในความน่ารักน่าหลงของมัน คนหล่อๆเข้มๆเวลาหวานนี่แทบจะอยากหยุดหายใจอยู่ในอ้อมกอดมัน
"บุ้งรู้ไหม พีไม่อยากมีใครนอกจากบุ้งกะไอ้ปูนิ่มนะ พีขอเป็นพ่อไอ้ปูนิ่มด้วยคนนะ" ไอ้พีกระซิบบอก
"พี พีไม่ต้องทำเพื่อบุ้งขนาดนั้นก็ได้ บุ้งยังอยากให้พีมีครอบครัวสมบูรณ์" ผมบอกไอ้พีจากใจจริง
"บุ้งรักพีมากแค่ไหน" ไอ้พีถามผม
"ไม่รู้สิ รักเท่าที่ทำได้มั่ง แต่ไม่รู้พีทำได้แค่ไหนนะ" ผมตอบตรงๆ
"พีโชคดีแค่ไหนนะ ที่มีบุ้งมารัก อย่าให้บุ้งต้องเจ็บเพื่อพีอีกเลยนะ อย่าดูถูกความรักของบุ้งด้วย "ไอ้พีหอมแก้มผมเบาๆ
"ให้พีเป็นคนนำครอบครัวเราไปนะ มีบุ้ง มีแม่ มียายของเรา ตาพง และปูนิ่ม บุ้งคิดว่าพอหรือยัง" ไอ้พีถามผม
" สำหรับบุ้งมันเกินพอแล้ว" ผมรู้สึกอบอุ่นในหัวใจจนน้ำตาซึมออกมา
"พีขอโทษ สำหรับความรู้สึกที่ให้บุ้งช้าเกินไป ขอโทษที่ทำให้บุ้งเหนื่อย และต้องรอ"เสียงกระซิบเบาๆที่หูของไอ้พีทำให้ผม
ขยับตัวเข้าไปซุกในอกมันให้แน่นแนบชิดยิ่งขึ้นด้วยความรู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งของร่างสูงที่โอบกอดอยู่
"บุ้งจ๋าพีทนไม่ไหวแล้วละ ทำเหมือนคืนนั้นเถอะนะ" เอาละสิ หวานๆแบบนี้ต้องมีอะไรแฝงแน่ผมโดนบ่อยจนเริ่มจับทางถูก
"ก็เพิ่งทำก่อนขึ้นมานี่ แปปเดียวเองนะ " ผมเตือนความจำคนขี้เอา
"บุ้งทิ้งพีไปเชียงใหม่กี่วัน" ไอ้พีถามผม
"สัปดาห์หนึ่งมั่ง" ผมตอบ
"แล้วพีสลบนานกี่วัน" ไอ้พีถามต่อ
"ก็สัปดาห์หนึ่งเหมือนกัน" ผมจำได้เพราะนับทุกวัน
"แล้วคิดดูสิพีจะสะสมกระสุนไว้เยอะแค่ไหน " ไอ้พีถามผมก่อนจะกดตัวผมนอนลงบนเสื่อเบาๆ แล้วขึ้นคร่อมตัวผมพลางยิ้มให้
"คิดได้หรือยังว่ากระสุนที่พีสะสมไว้ในนี้จะเยอะแค่ไหน" ไอ้พีไม่พูดเปล่ายังดึงปืนใหญ่ของตัวเองจากกางเกงมาให้ดูจ่ะๆตรงหน้า
"ใครจะไปรู้"ผมอายจนหน้าแดง แม้จะเคยเห็นบ่อยแค่ไหนใจผมก็เต้นไม่เป็นจังหวะทุกทีที่เห็นปืนไอ้พี
"งั้นเรามาพิสูจน์กันนะว่าวันนี้พีจะยิงได้กี่ครั้งถึงจะหมดลำกล้อง" ว่าแล้วไอ้พีก็ลงมือปฏิบัติทันที
เสียงครวญครางจากความสุขที่มันเอ่อล้นของเราสองคนไม่ได้ทำให้ไอ้ปูนิ่มเสียสมาธิการกินผักบุ้งของชอบแต่อย่างใด
มันชะเง้อคอดูร่างเปลือยของสองหนุ่มที่กอดรัด ฟัดกันนัวเนียอยู่เบื้องหน้าอย่างสนใจ คงลุ้นว่าพ่อคนไหนของมันจะน้ำแตกก่อนกัน
ความคิดเห็น