ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิศวาทสีน้ำผึ้ง

    ลำดับตอนที่ #9 : เหนื่อย

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 51


    การมีใครสักคนมาสนใจเราเป็นพิเศษมันเป็นเรื่องน่ายินดีไม่น้อย แต่น้องเจนสนใจผมตรงไหนนะ
    รูปร่างหน้าตาผมเองก็พอรู้ตัว ว่าไม่มีอะไรดึงดูดเลย ทรัพย์สินเงินทองยิ่งแล้วใหญ่ หรือเธอ
    จะมองเห็นหัวใจอันงดงามของผม หรือเธอชอบเก็บขยะเหมือนกัน คิดในแง่นั้นผมก็อดยิ้มไม่ได้
     " ไอ้แทนมึงอยากรู้หัวใจผู้หญิงไหม"
     จู่ๆเจ้านายผมก็พูดขึ้นมาขณะเรากำลังลงลิฟท์เพื่อพาน้องเจนไปเดทด้วยกัน
    "อยากรู้สิ" ผมรีบตอบเพราะกำลังอยากรู้หัวใจน้องเจนอยู่
    "ก็ได้แต่มึงต้องเผื่อใจไว้นะ อย่าโกรธกู" ไอ้เคนบอก
    "อืมส์ มีไรเหรอ" ผม งง
    "ถ้ากูกับมึงไปหาน้องเจนพร้อมกัน ถ้าน้องเจนสนใจกูแทนมึง มึงจะยังไปเดทกับเขาอีกไหม" ไอ้เคนถาม
    "ก็ ก็คงไม่แต่จะให้นายไปแทน" ผมตอบอ้อมแอ้ม แต่ผมม่คิดว่าน้องเจนจะเป็นคนแบบนั้นหรอกนะ
    "อืมส์งั้นถ้าน้องเจนเขาสนใจกูมึงก็กลับใช่ไหม" มันย้ำ
    "ใช่ แต่เราว่าน้องเจนไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก" ผมคิดแบบนั้นจริงๆเธอดูจริงใจมากอย่างนั้น
    คงไม่หลงใหลไปกับรูปลักษณ์ภายนอกจนไม่ให้เกียรติคู่เดทเธอหรอกน่า
    ..................
    น้องเจนวิ่งจากหน้าร้านสะดวกซื้อที่เธอทำงานอยู่โผเข้าเกาะแขนไอ้เคนทันทีพลางกรีดร้องอย่างลืมตัว
    "กรี๊ด คุณเคน คุณมาจริงๆด้วย เจนอุตส่าห็ชวนคนใช้คุณไปดูหนังเผื่อคุณจะไปด้วยแล้วคุณก็มาจริงๆ"
    ทั้งๆที่ผมกับไอ้เคนเดินมาหาเธอพร้อมกันสองคน น้องเจนก็มัวแต่ส่งสายตาชื่นชมไอ้เคนจนออก
    นอกหน้าไม่มองผมที่ยืนห่างจากไอ้เคนไม่กี่ก้าวสักนิด เธอเฝ้าแต่พร่ำบอกเจ้านายผมว่าเธอรักเธอชอบ
    เขาเพียงใด เธอเพียรพยายามแค่ไหนที่จะพบไอ้เคน  ดูเธอมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำมาก ผมจึงได้แต่ถอนใจ
    เดินกลับขึ้นลิฟท์ไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
    "คนใช้อย่างเรามีค่าเท่าไหร่กันนะ"
    ผมคิดในใจ บางทีเธออาจจะยังไม่ทันได้หลอกด้วยซ้ำ ผมต่างหากที่คิดไปเอง
    "กูนี่เป็นไอ้อ่อน ไอ้โง่อย่างที่ไอ้เคนเคยด่าจริงๆ" ผมย้ำกับตัวเอง
    ถ้าไอ้เคนไม่มากับผมวันนี้ ผมจะเป็นอย่างไรนะ เธอจะบอกผมไหมนะว่าเธอจะใช้ผมเป็นสื่อไปหาไอ้เคน
    หรือเธอจะหลอกผมเป็นเครื่องมือ ผู้หญิงซื่อตรงๆ ไม่อ้อมค้อม จะมีมาสนใจผมไหมนะ แล้วผมจะมีโอกาส
    เจอใครสักคนไหม หรือผมเกิดมาเพื่อที่จะอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียวไปตลอดชีวิต พอคิดมาถึงตรงนี้
    ตัวผมก็รู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้ในถังขยะอีกครั้ง ไม่มีใครต้องการผมจริงๆสักคนจริงๆเหรอ
    ..................
    ทันทีที่เข้าไปในห้องพักตัวเองได้ ผมก็รู้สึกหมดแรงเอาดื้อๆ จนต้องนั่งทรุดลงข้างเตียง ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจ
    เพราะน้องเจนสักนิด ขอบคุณเธอด้วยซ้ำที่เธอชี้ให้ผมเห็นว่าผมมีค่าแค่ไหน ขอบคุณที่เธอพูดออกมาว่าใช้
    ผมเป็นเครื่องมือ เพียงแต่ตอนนี้ผมรู้สึกอ่อนแรงกับชีวิตตัวเอง ความเหงาที่เป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่จำ
    ความได้ มันอัดแน่นอยู่ในอกแน่นจนน้ำตามันไหลออกมาดื้อๆ ดีที่ผมไม่เปิดไฟ ไม่งั้นผมคงอายตัวเองแย่
    แต่จริงๆผมไม่มีใครให้อายหรอก ในเมื่อทั้งชีวิตผมเคยมีใครที่ไหน คิดแล้วผมก็เลยหลับตาสะอื้นให้กับชีวิตตัวเอง
    " มึงจะร้องให้ทำไหมให้ผู้หญิงแบบนั้น"
    เสียงไอ้เคนดังอยู่ข้างๆ ผม ผมลืมตามขึ้น ตอนนี้ไฟห้องสว่างจ้าไอ้เจ้านายนั่งอยู่ข้างๆผม  พอมันเห็นผมลืมตาขึ้น
    ก็ส่งขวดเบียร์ในมือมาให้ ผมไม่เคยดื่มมาก่อนและไม่เคยคิดดื่มด้วยแต่วันนี้ผมกลับยกดื่มลงคอไป รสชาติเบียร์
    ขมเหมือนชีวิตผมจริงๆ ผมเฝ้ากล้ำกลืนมันลงคอด้วยความเจ็บใจ
    "นายควรเก็บน้ำตาไว้ร้องไห้ให้กับสิ่งมีค่ากว่านี้นะ" มันสั่งสอนผมต่อคงคิดว่าผมเสียใจเพราะน้องเจน
    "เปล่านะ กูไม่ได้เสียใจเพราะน้องเจน แต่เสียใจให้กับชีวิตกูต่างหาก" ตอนนี้ผมอยากพูดกูมึงกับคนข้างๆ
    ผมอยากเป็นเพื่อนมันมากกว่าเจ้านายลูกน้อง
    "กูเสียใจที่มีชีวิตเน่าๆ  ขณะที่กูอยู่ในถังขยะแต่คนอื่นอยู่ในอ้อมกอดพ่อแม่ " ผมพร่ำตามใจไปเรื่อย
    "งั้นเหรอ น่าสงสารนะ" ไอ้เคนพูดขึ้นเบาๆ
    "ไม่ต้องมาสงสารกูหรอก ที่กูร้องไห้มันก็แค่อารมณ์แว่บเดียวที่กูรู้สึกเหมือนกูอยู่คนเดียวในโลกแค่นั้น"
    ผมอธิบายให้มันฟังความจริง ผมยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองมาตลอดนี่หน่า
    "งั้นตะกี้มึงก็แค่เหนื่อยสินะ" ไอ้เคนถาม
    "ใช่แค่เหนื่อย หายเหนื่อยแล้วกูก็ลุกเองได้ไม่เห็นต้องมาสงสาร" ผมบอกไอ้เจ้านาย
    "หนุนตักกูไหม" ว่าแล้วไอ้เคนก็ดึงตัวผมให้ไปนอนหนุนตักมัน ผมไม่อยากทำจึงจะดันตัวลุกขึ้น
    "หนุนตักกูเถอะน่าเวลากูเหนื่อยกูจะได้หนุนตักมึงบ้าง" ถ้อยคำของมันทำให้ผมกลิ้งขวดเบียร์เปล่าทิ้งไป
    ข้างผนังห้องก่อนจะล้มตัวลงนอนหนุนตักไอ้เคน ด้วยความรู้สึกที่เหมือนมีคนคอยอยู่ใกล้ๆ ในคืนที่หนักอึ้ง
    ทำให้ผมไม่อยากคิดไม่อยากพูดอะไร นอกจากหลับตานิ่งๆ ให้หัวใจมันอุ่นขึ้นเองช้าๆ ผมเหมือนตัวเองได้
    ถูกความมืดมิดกลืนหายไปอย่างช้าๆ รอบกายไม่มีแสงใดนำทาง แต่ทำไหมนะผมกลับไม่รู้สึกกลัวสักนิด
    ..................
    "นี่เงินเดือนมึง" ไอ้เคนยื่นสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มให้ผม ผมเปิดดูในบัญชีมีเงินอยู่ห้าหมื่นบาท
    "เอ๋ตอนนั้นในสัญญาสี่หมื่นเอ็ดเองนะเงินเดือนกู" หลังจากคืนที่ผมนอนหนุนตักไอ้เคนทั้งคืนพอผมตื่นมา
    ในตอนเชามันก็บอกให้ผมใช้มึงกูเถอะ มันขี้เกียจฟังคำสุภาพ ผมก็เลยสนองมันให้
    "พ่อกูเพิ่มโบนัสให้มั่ง" มันบอก
    "เหรอ โหววว รวยแบบนี้ เอาไปทำไรดีนะ โหววว มึงมีไรจะใช้กูไหม"ผมถามไอ้เคน
    "ไม่มีนี่ วันนี้เป็นวันหยุดมึงด้วยไม่ใช่เหรอ" จริงสิวันนี้เป็นวันอาทิตย์
    "งั้นขอกูนั่งนิ่งๆ คิดเรื่องใช้เงินก่อนนะ" ว่าแล้วผมก็รีบไปนั่งหลับตาในห้องรับแขกไม่สนใจเสียง
    หัวเราะของคนรวยที่นั่งทานข้าวเช้าอยู่ในห้องครัว แต่จนแล้วจนรอดไอ้เคนทานข้าวเสร็จผมก็คิดไม่ตกว่า
    จะใช้เงินจำนวนนี้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดดี
    "ให้กูหนุนตักหน่อยกูเหนื่อย" ไอ้เคนยกตัวผมไปนั่งริมโซฟาตัวยาว แล้วมันก็นอนลงหนุนตักผมทันที
    ผมทั้งอายทั้งเขิน ก็ศรีษะไอ้เคนมันหนุนอยู่บนหว่างขาผมนี่ เวลามันขยับมันก็เฉียดไปเฉียดมากับไอ้
    น้องชายของผมอยู่เป็นระยะ แต่จะไม่ให้มันหนุนก็ใช่ที่ เพราะมันยังให้ผมหนุนทั้งคืน เลยนั่งเกร็งตลอด
    "คิดได้ยังจะเอาเงินไปทำไร" ไอ้เคนถามขึ้น ตาคมเข้มจ้องหน้าผมเหมือนคนละเมอทำเอาผมแทบละลาย
    "ยังช่วยคิดหน่อยสิ เรียนต่อดีไหม" ผมพยายามไม่สนใจคนบนตักแต่ใจเต้นไม่ยอมหยุด
    "อืม ไม่ต้องใช้เงิน กูจะออกให้ วันจันทร์ไปเรียนเอกเดียวกันกะกูนะ"ไอ้เคนบอก
    "ไม่ละ จะเรียนรามเอา รบกวนมึงเปล่าๆ "ผมบอกตรงๆ
    "ไม่มึงต้องไปเรียนกะกู จะได้รับใช้กูด้วย กูขี้เกียจจด ขี้เกียจทำการบ้าน" มันบอก
    "โห งั้นทำไหมไม่ให้กูเรียนแทนเลยละ" ผมประชดมันไส้คนบนตัก
    "ทำได้ทำไปนานแล้ว" ไอ้เคนตอบหน้าตาย
    "ตัวมึงนี่หอมดีนะ มึงใช้น้ำหอมเหรอ" จู่ๆมันไอ้เคนก็วกมาตัวผม
    "เปล่า ไม่ได้ใช้อะไร" ผมบอกตามจริง
    "ไม่เชื่อมันต้องใช้อย่างน้อยก็โรลออนดับกลิ่นตัวละ" ไอ้เคนเถียง
    "ไม่ได้ใช้จริงๆ กูไม่มีกลิ่นตัวนะ" ผมตอบตรงๆ
    "แล้วที่หอมนี่กลิ่นไร"มันถาม
    "ไม่ได้หอมนี่ ก็กลิ่นเนื้อปกติ" ผมยกแขนตัวเองดม แล้วจู่ๆ ไอ้เคนก็ลุกขึ้น
    แล้วมาดึงเสื้อยืดผมออก ยังไม่ทันจะได้อ้าปากโวยวายมันก็บอกว่า
    "ไม่ต้องเอะอะน่ากูแค่จะดมพิสูจน์เฉยๆ" ว่าแล้วมันก็ฝังจมูกดมไปตามแถวหน้าอก หน้าท้องซอกคอ
    แผ่นหลัง ไม่เว้นแม้แต่ใต้รักแร้ จนผมไร้เรี่ยวแรงจะดิ้นไปไหน เพราะจมูกโด่งๆนั้น ทำเอาวาบหวาม
    ไปทั้งร่าง" พะพอเถอะ พอแล้ว"ผมพูดก่อนรีบผละหนี
    ก่อนจะเป็นคนทำอะไรลามกกับเจ้านายสะเอง
    "เนื้อหอมจริง" ไอ้เคนพูดพลางส่งสายตาที่ผมไม่อยากจะมองนัก กลัวคิดบ้าๆไปเองจะยุ่ง
    ผมรีบลุกหนีเข้าห้องนอนทันที ขืนอยู่ใกล้กันกว่านี้ อะไรที่เป็นเส้นกั้นระหว่างมันกับผมจะโดนผมก้าวข้ามไป
    หามันแล้วชีวิตผมจะเป็นอย่างไรต่อไป
    "ไอ้เคนอย่าดีกับกูนักเลยมันน่ากลัวนะมึงรู้ไหม"
    ผมได้แต่บอกไอ้รูปหล่อผู้เป็นเจ้านายอยู่ในใจ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×