คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เพลงของบุ้ง
ด้วยความที่อยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กไม่มีเพื่อสนิทสักคนเวลาเหงาๆผมเลยชอบเล่นกีต้าโปร่ง
ว่างๆก็แอบเขียนเพลงเล่นบ้างแต่ไม่เคยได้ไปแสดงหรือเล่นให้ใครฟังเลย
จริงๆแล้วคนเดียวที่อาจจะได้ยินผมเกากีต้าให้ฟังก็น่าจะเป็นยายนั่นเอง และตัวผมเองไม่
เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งผมต้องใช้ความสามารถนี้เอาตัวรอดในยามคับขัน
....
ตอนมัธยมผมไม่เคยร่วมกิจกรรมใดๆของโรงเรียนได้แต่แอบอยู่หลังห้องตามซอกหลืบไปวันๆ
แต่ตอนนี้ในห้องเรียนผมต้องอยู่แถวหน้าเพราะดันเป็นผู้ชายคนเดียวที่เรียนเอกอาหารไทย
ท่ามกลางสาวๆนับสี่สิบชีวิตผมจึงเป็นทาสรับใช้ที่ต้องทำตามคำบัญชาเหล่าองค์หญิงตลอดเวลา
"ไอ้บุ้ง ของที่ฉันฝากซื้อเมื่อวานเรียบร้อยไหม"
"อยู่นี่"ผมยื่นให้
"ขอบใจ"พูดจบไอ้แมวก็รับเอาถุงเครื่องแกงไปจากผม ซึ่งไอ้แมวหรือมนตราเป็นผู้หญิง
ที่สวยมากแต่นิสัยต่างจากหน้าลิบลับ มันโคตรจะแมนกว่าผมสะอีก และคนที่มันข่มขู่ได้
ทุกวันก็คือผมนี่เอง
"พรุ่งนี้แกโทรหาฉันแต่เช้าๆหน่อยนะเว้ย"
"มีไรเหรอ"
"ฉันจะพาแกไปเลือกเสื้อผ้า แต่งหน้าทำผมแล้วเย็นๆ ไปงานบอลมหาลัยพร้อมกัน"
"เอ่อ ผมไม่ชอบงานเลี้ยง "ผมปฏิเสธ
"ไอ้นี่เดียวแม่ตบ แกจะไม่ไปได้ไง พรุ่งนี้แกกับฉันเป็นตัวแทนปีหนึ่งคณะคหกรรมนะยะ"
" ตัวแทนไร"ผมงงโคตร
"ดิฉันจะเขาประกวดดาว ส่วนแกก็ไปประกวดเดือน เราจะประกายบนฟ้าพร้อมกันพรุ่งนี้"
พูดพลางทำไม้ทำมือเหมือนคนกำลังอยู่กลางเวทีนางงามแต่ผมนิ่งไปครู่หนึ่งเพราะช็อค
"ผะ ผมนี่นะประกวดเดือน คะใครเป็นคนเลือก ผมจะไปขอเปลี่ยน"ผมถามกะตุกกะตัก
"ไม่มีใครเลือกหรอกยะ ทั้งคณะก็มีแกเป็นตัวผู้อยู่คนเดียว จะให้เอาหมาที่ไหนไปประกวด"
.....
ตอนค่ำผมเดินวนอยู่ในห้องนึกถึงว่าตัวเองต้องปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนนับหมื่นพรุ่งนี้ก็เหมือนอยากเป็นไข้เอาดื้อๆ
หลังจากคุยกับมนตรา อาจารย์ก็เรียกผมไปพบอีกครั้ง พร้อมให้งบในการแต่งตัวมาด้วย ยิ่งทำให้ผมตระหนักว่า
มันไม่ใช่ความฝัน ผมไม่รู้เรื่องประกวดเดือนดาวนี่เลยสักนิด ผมอยากรู้ว่าจะทำยังไงแต่ไม่รู้จะคุยกับใคร
ใครกันที่พอผ่านการประกวดมาบ้าง แล้วชื่อไอ้พีก็ลอยเข้ามาในหัวผม เพราะผมเคยได้ยินว่าไอ้นี่คือดาวโรงเรียน
ในสมัยมัธยม แต่ผมไม่อยากเจอมันเลยหลังจากมันจับผมแก้ผ้าวันนั้นผมหลบมันตลอด แต่วันนี้คงต้องยอมหน้าด้าน
"พีๆ อยู่ไหม ขอคุยด้วยหน่อย"ผมเอ่ยขึ้นหลังจากเคาะประตู
"กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าห้ามเข้าห้องกู"คำตอบมันทำผมใจฝ่อ
"มีเรื่องจำเป็นจริงๆ ขอร้องออกมาคุยกันหน่อย"
"กูไม่ออกมึงอยากคุยเข้ามาเอง"ไม่รู้มันจะเอาไงเดียวให้เข้าเดียวไม่ให้เข้าผมคิดแล้วเซ็ง
แต่ก็เปิดประตูเข้าไป แต่ผมไม่ได้ปิดประตูตามหลังนะครับ เปิดอ้าไว้งั้นแหละ
และยืนคุยกะมันที่ตรงประตูเลย ใครจะกล้าไปใกล้ไอ้หน้าหล่อแต่นิสัยแย่ที่นั่งอยู่บนเตียงละ
"กูขอถาม..."
"ปิดประตู แล้วมานั่งคุยบนเตียงกะกูดีๆ"มันขัดขึ้นก่อนผมพูดจบ
"เอ่อไม่เป็นไร ถาม..."
"ไสหัวไป แล้วปิดประตูให้กูด้วย"คราวนี้มันตะโกนใส่ ผมก็เลยต้องปิดประตูแล้วไปนั่ง
ริมเตียงคนละฝั่งกับมัน
"นายเคยประกวดดาวโรงเรียนใช่ไหม"ผมถามทันที
"เออ เคย พรุ่งนี้ก็ยังต้องประกวดเดือนอีกเบื่อโคตร" มันบ่น
"แล้วมึงจะถามทำไหม"
"พรุ่งนี้นายเตรียมตัวอะไรบ้าง"ผมเข้าประเด็นทันที
"ไม่มีนี่ ได้โชว์ความสามารถพิเศษคนละสิบนาทีแค่นั้น กูยูโดสายดำไม่คณามือหรอก"มันพูดโดยไม่มองใคร
"เฮ้ย อย่าบอกนะว่ามึงจะเข้าประกวดเดือนมหาลัยด้วย"
มันพูดขึ้นมาเหมือนพึ่งนึกได้ แล้วหันมาจ้องตาถามผมตรง ซึ่งผมก็พยักหน้ารับเศร้าๆ
"55555 "ไอ้พีหัวเราะจนตัวงอ
แล้วลุกพรวดมานั่งข้างหน้าผม จับผมลุกขึ้นยืน หมุนตัวผมไปมา
"หุ่นแบบนี้นะเดือนคณะ ถ้าดาวคณะล่ะพอไหว แต่มึงต้องแต่งหญิงนะ"
มันพูดขณะที่ยังหมุนตัวผมไปมาเพื่อสำรวจต่อ
"หรือมึงแอบไปฟิตกล้ามมา" ตอนนี้มันทำท่าเหมือนจะถอดเสื้อผมดู
แต่ไม่ทันผมหรอกผมกระโดดทีเดียวถึงประตู เปิดประตูได้ก็วิ่งเข้าห้องทันที
"เกือบไปแล้วกู" ผมหายใจหอบแฮ่กๆบนเตียงหัวใจยังเต้นตูมตาม
......
อาจเป็นเพราะทรงผมใหม่ เสื้อผ้าใหม่หรือฝีมือของช่างแต่งหน้า ก็สุดจะเดา
ที่ได้ดลบันดาลให้ผมถูกโหวตจนเข้ารอบห้าคนสุดท้ายของการประกวดเดือนมหาลัย
และแน่นอนหนึ่งในห้าคนก็มีไอ้หน้าหล่อที่อยู่บ้านเดียวกับผมด้วย
ซึ่งตอนนี้มันยืนโอบไหล่ผมทำทีเหมือนเป็นเพื่อนรักกันมานานแสนนาน รอยยิ้มโคตรเท่ห์
ของมันเรียกเสียงกรี๊ดจนหอประชุมสั่นทุกครั้ง ดูจากสภาพแล้วเดือนมหาลัยคงไม่หนีมันไปไหน
เพราะหล่อโดดอยู่คนเดียวจริงๆ ส่วนผมเตี้ยและผอมกระหร่องที่สุดในบรรดาห้าคน
"ต่อไปขอให้ผู้เข้าประกวดแสดงความสามารถตามแต่ตนถนัดให้เวลาคนละสิบนาทีนะครับ"
เสียงพิธีกรประกาศพร้อมกับเสียงกรี๊ดดังลั่นอีกครั้ง
ทุกคนทยอยออกไปโชว์ความสามารถพิเศษของตนเองที่ด้านหน้าเวที ทีละคน
ไอ้พีอยู่ก่อนหน้าผม ส่วนผมเป็นคนสุดท้าย ทุกคนที่ออกไปได้รับเสียงกรี๊ดสนั่น โดยเฉพาะ
ไอ้หน้าหล่อ ที่ออกไปโชว์ยูโดสายดำของมัน เสียงกรี๊ดที่ดังลั่นจนสายกีต้าในมือของผมสั่นเลยทีเดียว
พอไอ้พีเข้ามาก็เป็นคิวของผม "ทำดีๆนะไอ้เชี่ยถ้าขายหน้ามาถึงกูมึงตายแน่"พูดพร้อมกับอัด
กำปั้นใส่ท้องผมจนจุก "ไอ้เชี่ยนี่มันจองเวรกูไม่เลิกจริงๆ"ผมด่ามันในใจขณะที่เดินออกไป
หน้าเวที
......
ผมกระพริบตาหลบแสงสปอตไลท์ที่ส่องมาหาผม มันแยงตาจนพร่า เสียงในหอประชุมเงียบไปชั่วขณะ
ทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว เพราะมองไม่เห็นใคร มือผมเริ่มเกากีต้า กล่อมอารมณ์ตัวเองให้
ผ่อนคลายก่อนจะร้องเพลงที่ผมแต่งในค่ำคืนที่ไอ้พีทำร้ายจิตใจผมออกมา
"...ค่ำคืนที่ฉันไม่มีใคร และ เหมือนว่าหัวใจ เหนื่อยล้าเกินจะทน..."
"...หลับตามองขึ้นฟ้าเบื้องบน หมู่ดาวที่แสนสับสน ก็ไม่สนใจ คนอย่างเรา..."
"...แอบมองคล้ายดังกระต่าย ต้องกอดตัวเองเดียวดาย กลางสายลมเหน็บหนาว..."
"...นั่งร้องให้ใต้พระจันทร์ เหมือนสิ้นไร้ความฝัน เกี่ยวพันอยู่กับรักปลอม ปลอม..."
"...ไม่อยากจะรักใครอีก ไม่อยากจะมีรักแล้ว รักหนึ่งครั้งยังไม่มีวี่แวว ที่เธอจะมาสนใจ..."
"...ค่ำคืนนี้ฉันหมองหม่น เป็นเช่นคนที่ใจสลาย อยากร้องไห้เพียงเพื่อระบายไม่ได้หมายให้เธอกลับมา..."
"...หนึ่งคำที่ยังก้องในหัวใจ ไปให้ไกลอย่ามาใกล้กัน เกาะกุมหัวใจให้หวั่น ไม่มั่นใจจะก้าวไปหาใคร..."
พอร้องจบผมก็ลุกโค้งคำนับเดินเข้าไปหลังเวทีทันที ผมไม่ได้ิยินเสียงกรีดร้องสักแอะ คนดูคงช็อคใน
เพลงอุบาทของผมหมดแล้วมั่งเสียงกรีดร้องเริ่มดังกระหึ่มอีกครั้งเมื่อรายการแสดงคั่นเวลาออกไปโชว์
.......
ขณะที่ผมยืนทื่ออยู่หลังเวทีไอ้พีมาจากไหนไม่รู้ดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น
ผมตกใจกับการกระทำของมันจนลืมเรื่องประกวดไปสนิท
เสียงหัวใจตัวเองเต้นอยู่โครมคราม ผมกลัวว่าใครจะมาเห็น จะผละออกแต่สู้แรงไอ้พีไม่ได้
ต้องยืนฟังเสียงหัวใจตัวเองเต้น ตึกๆสลับกับเสียงหัวใจไอ้พีที่ดังมาจากหน้าอกมัน
ผมเผลอฝักจมูกลงหน้าอกไอ้หน้าหล่อเพื่อดอมดมกลิ่นเนื้อหนุ่มของมันอย่างไม่รู้ตัว
"มึงทำดีแล้ว ไปกันเถอะ "หลังจากเราอยู่นิ่งๆสักพักไอ้พีก็เอ่ยขึ้น
พร้อมกับจูงมือผมไปหน้าเวที แสงสปอตไลท์ยังคงสาดมาที่ผม
จนมองไม่เห็นทางได้แต่กุมมือไอ้พีไว้แน่น เสียงกรี๊ดสนั่นจนผมไม่ได้ยินอะไร
สักพัก มงกุฏ สายสะพาย อะไรต่างๆก็ถูกนำมามอบให้ผมที่ยืนเซ่อไร้สติอยู่
ท่ามกลางเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นหวั่นไหวจนผมหูชา"กล่าวคำว่าขอบคุณครับสั้นๆพอ"ไอ้พีกระซิบผม
"ขอบคุณครับ"ผมพูดตามไอ้พีบอกเมื่อมีไมค์มาจ่อปาก จากนั้นไอ้พีก็พาผมลงไปจากเวที
ขณะที่นั่งรถเดินทางกลับบ้านด้วยกัน ไอ้พีก็หยิบถ้วยรางวัลในมือผมขึ้นมาอ่านดังๆ
"เดือนมหาลัย...ประจำปี 2551" แล้วมันก็หัวเราะจนตัวงออยู่ข้างๆผม
ความคิดเห็น