คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เด็กเหงาๆกะเต่าตัวน้อย
เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เป็นเรื่อง เรื่องเล็กๆก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ สาเหตุของเรื่องผมสรุปแล้ว
มันก็มาจากไอ้บุ้งกับเต่าของมันแน่ๆ มันทำให้ตารางชีวิตที่แสนสนุกของผมต้องรวน แถม
มันยังเจ้าเล่ห์ล่อหลอกให้ผมเผลอทำใน เรื่องทุเรศผิดเพศผิดเพี้ยนบ่อยๆ ถ้ามันกับไอ้ปูเน่า
ไม่มาอยู่บ้านผม มีเหรอที่ผมต้องเจอแบบนี้ คิดแล้วผมอยากอัดมันให้หมอบ คาตีนจริงๆ
....
ผมไม่เคยคิดอยากไปใกล้ไอ้ตุ้ดนั่นเลยสักนิด แม้เมื่อวานผมเกือบจะเผลอไปจูบมันเข้าก็เถอะ
ก็ตอนนั้น ตัวมันนิ่มเหมือนผู้หญิงนี่หนา ผิวก็ขาวเนียนกว่าสาวๆบางคนอีก สงสัยเป็นผล
พวงจากโรคกลัวที่แคบของผมด้วยมั่ง แต่เพราะมันทำให้ผมลืมเรื่องที่แคบรอบตัวได้
ผมเลยไม่ติดใจเรื่องนั้นแล้วถือว่าเจ๊ากันไป
"ตาพีเหม่ออะไรอยู่แม่ถามไม่ตอบ"
"อืม แม่มีอะไรหรือครับ"
"แม่อยากให้แกไปช่วยงานที่บริษัทบ้างเวลาแกว่าง ไม่ใช่มัวแต่ยุ่งอยู่แต่กับผู้หญิง"
"แม่ครับ เราตกลงกันแล้วนี่ว่าจะให้เวลาผมปีหนึ่ง ยังไงปีหน้าผมก็เข้าบริษัทอยู่แล้ว "
ผมทบทวนสัญญาให้แม่ฟัง ก็ผมยังอยากใช้ชีวิตวัยหนุ่มให้คุ้มนี่ครับ
"เอาเหอะๆ ฉันจะทน อีกสิบเดือนสินะ เฮ้อ แกช่างไม่รักแม่เลยดูตาบุ้งเป็นตัวอย่างบ้างสิ"
"เอ้าแม่เอาผมไปเปรียบกับมันได้ไง"
"ทำไหมจะไม่ได้ ตาบุ้งเเขาดูแลเอาใจใส่ยายเขาขนาดไหน งานหนักงานเบาเขารับทำหมด
เสื้อผ้าอาหาร เขาดูแลยายเขาไม่ขาดตกบกพร่อง แกละเคยซักผ้าให้แม่บ้างไหม"
ผมได้แต่เหวอไปเลยครับกับการโอดครวญของแม่ผมร้อยวันพันปีไม่เคยเป็น ผมเลยอยากหักคอ
ไอ้บุ้งที่ทานข้าวเฉยเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ทั้งที่นั่งทานข้าวอยู่โต๊ะเดียวกันแท้ๆกลับไม่ช่วยอะไรผมเลย
"ตาบุ้ง เย็นนี้ทานไรกันดีลูก" ทีกับไอ้ตุ้ดพูดสะ
"คุณหญิงอยากทานไรละครับ"
"บอกให้เรียกคุณแม่ ตั้งหลายครั้งแล้ว ไม่รักแม่เหมือนตาพีอีกคนละสิ" ท่างอนคนแก่น่าอนาถจริงผมคิด
"คุณแม่อยากทานไรเป็นพิเศษละครับ" ไอ้บุ้งตอบไอ้เชี่ยนี่เปลี่ยนสีเร็วมาก ว่าแล้วแม่ผมก็คุยเรื่องกับข้าว
กับไอ้บุ้งเป็นวรรคเป็นเวร แต่ผมก็ว่าดี ลืมเรื่องผมไปสะได้
....
หลังจากท่องราตรีกับเพื่อนๆในแก๊งและแฟนผมจนเหน็ดเหนื่อย ผมก็กลับบ้านด้วยอาการซึมเหล้าเล็กน้อย
ที่จริงมาลินีชวนผมไปค้างคืนด้วยแต่ไม่รู้ผมเป็นบ้าอะไร ปฏิเสธไปดื้อๆ อาจเป็นเพราะความรู้สึกกลวงๆในใจมั่ง
ผมเลยอยากจะคิดอะไรคนเดียว ผมเดินขึ้นบันไดที่จะยังดาดฟ้าบ้านตัวเองที่ซึ่งมันเปรียบเหมือนทุ่งโล่งสำหรับผม
เป็นที่ๆผมชอบ ขึ้นไปมองดูบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่นั่นเป็นที่ส่วนตัวของผมตลอดมา
"ให้ตายสิ ไอ้เชี่ยนี่มันจะยุ่งกับกูไปถึงไหน"
ผมตะโกนอยู่ในใจ เมื่อเห็นไอ้บุ้ง นอนถอดเสื้อใส่กางแกงขาสั้นอยู่บนเสื่อ
โดยมีไอ้ปูนิ่มและกีต้าอยู่ข้างกาย ผิวขาวของมันต้องแสงจันทร์ น่าสัมผัสมาก หน้าจืดๆของมันเวลาอยู่ไต้แสงจันทร์
เหมือนเป็นคนละคน ปากบางๆที่ผมเคยจูบไปแล้วครั้งหนึ่ง ดูเหมือนจะน่าจูบยิ่งขึ้น มันลุกขึ้นนั่ง หันข้างให้ผม
หยิบกีต้าขึ้นมากอดไว้นิ่งเหม่อเหมือนคนใจลอย "ไอ้เชี่ยนี่ยั่วผู้ชายฉิบหาย มึงรู้สิว่ากูจะมาถึงเตรียมไว้รอ"
แต่ดูเหมือนมันจะต่างจากที่ผมคิด เพราะมันเริ่มเกากีต้า ไม่สนใจผมที่ยืนมองดูอยู่ในเงามืดทางขึ้นดาดฟ้าแม้แต่น้อย
"...เราพบกันในวันฟ้าใส หัวใจฉันยังจำได้ สายรุ้งที่เปล่งประกาย ยังอายสายตาของเธอ..."
"...เราสองคนเคยรักกัน ฉันเองยังพร่ำยังเพ้อ ทุกคืนฉันยังละเมอ ถึงเธอในวันฟ้าผ่อง..."
"...ผ่านไปทุ่งหญ้าสีเขียว ฉันยังเฝ้าเหลียวมองตาม เจอเมฆลอยบนฟ้างาม ฉันยังเฝ้าถามถึงเธอ ..."
"...มีอะไรตั้งมากตั้งมาย ผ่านชีวิตเราเข้ามา แต่เธอจะรู้ไหมว่า เวลาฉันไม่เคยเปลี่ยน ..."
"...เราพบกันในวันฟ้าใส เธอยังจำได้หรือเปล่า น้ำค้างยอดหญ้าพร่างพราว จดจำเรื่องราวของเรา..."
..ฮือ ฮื้อ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือฮ้อ ฮือฮือ...
ผมยืนพิงผนังนิ่งอยู่เหมือนถูกสะกด ภาพไอ้บุ้งเกากีต้าและครวญเพลงง่ายๆที่เหมือนมันจะแต่งเองอยู่ตรงหน้า
ทำให้ผมนึกในใจว่า"กูรู้จักคนคนนี้แค่ไหนนะ " นับจากวันที่มันโทรเรียกผมออกไปสารภาพรัก ผมคิดว่า
มันคือพวกแอบแมนบ้าผู้ชาย แต่ตอนนี้ ภาพที่ผมเห็นคือ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ นั่งร้องเพลงเหงาๆ อยู่กับเต่าตัวหนึ่ง
ความเหงาที่มันถ่ายทอดออกมา ทำให้ความรู้สึกกลวงๆ ในใจของผมคืนนี้ มลายสิ้น กลายเป็นความรู้สึกอุ่นๆ
เหมือนผมได้เจอ คนที่เหงากว่า มาพูดคุยอยู่ข้างๆ
"นายมายืนอยู่นี่ทำไหม" เสียงจากไอ้บุ้งปลุกผมจากภวังค์ มันมายืนอยู่หน้าผมแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ตอนนี้มันใส่เสื้อแล้ว หอบข้าวของ และไอ้ปูนิ่ม เหมือนจะกลับลงไปข้างล่าง
" ไอ้เชี่ย ที่นี่มันดาดฟ้ากู มึงแหละมาทำไหม" ผมเสียงดังเพื่อเบี่ยงประเด็น
" ก็ มาดูดาว นายมานานยัง"
"เพิ่งมานี่แหละ มึงเล่นกีต้าเป็นด้วยเหรอ" ผมโกหก กลัวมันรู้ว่าผมแอบดู
" นิดหน่อย มึงเมาเปล่านี่" ไอ้บุ้งพูดพร้อมบีบจมูกตัวเอง
ผมย่อตัวลงให้หน้าอยู่ระดับเดียวกับไอ้บุ้ง แล้วอ้าปากไปงับริมฝีปากบางของมันหยอกเล่นหนึ่งที
"ตอนนี้กูงับปากมึงแทนไอ้ปูนิ่มหนึ่งครั้ง มึงจะให้กูพิสูจน์อีกไหมว่ากูเมาเปล่า"
ผมพูดพร้อมส่งสายตายั่วคนตรงหน้า พลางกางมือออกเหมือนจะรวบตัวมันมากอด
แต่ไอ้บุ้งกระโดดหนีไวมาก แพล่บเดียวหายไปจากทางเดินลงดาดฟ้า
ผมส่ายหัวเบาๆ"กูไม่น่าไปยั่วมันเลย เสียดาย เฮ้อ" ผมพึมพำกับตัวเอง
พลางถอนหายใจ แต่ผมไม่รู้จริงๆที่ว่าเสียดาย ผมเสียดายอะไร
ความคิดเห็น