ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ละคร
แม้ผมจะรู้สึกโกรธและสะอิดสะเอียนที่ไอ้หน้าจืดอย่างไอ้บุ้งมาสารภาพรักแค่ไหน
ผมก็ไม่ใช่คนใจหยาบ พอที่จะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะครับ
วันนั้นที่เกือบจะฆ่าไอ้ปูนิ่มด้วยลูกเตะผม ความรู้สึกผิดยังคั่งค้างอยู่ในใจ วันนี้
หลังจากผมเห็นไอ้บุ้งลงไปรดน้ำต้นไม้ที่หน้าบ้าน ผมก็ย่องเข้าไปในห้องของมัน
ไอ้ปูนิ่มว่ายน้ำไปมาอย่างสบายอุราอยู่ในอ่างแก้วบนโต๊ะข้างๆหัวเตียงไอ้บุ้ง
พอเห็นผมไปจ้องมัน ไอ้ปูนิ่มก็หยุดว่ายชูคอมาจ้องตาผมเหมือนกัน
"ปูนิ่ม วันนี้กูมาดีนะ กูมาขอโทษเรื่องวันนั้น"ผมพูดพลางเอื้มมมือไปจับหัวมันเบาๆเหมือนที่เห็นไอ้บุ้งทำ
แต่มือผมไม่ทันได้แต่มันหรอกครับ มันก็อ้าปากงับมือผมเข้าให้ดีที่ผมหลบทัน ถึงอย่างนั้นผมก็ได้แผลเลือดไหลซิบๆ
"ไอ้เชี่ยนี่ เจ้าเล่ห์เหมือนเจ้าของมึงเลยนะ อย่าเผลอนะมึงพอจะจับไปปล่อยถนนให้สิบล้อทับ" ผมอาฆาตไอ้ปูนิ่ม
......
"มึงมาทำไรลูกกู" เสียงไอ้บุ้งดังขึ้นที่หน้าประตู ห้องสงสัยมันเพิ่งมา
"เปล่า " ผมเดินไปที่ประตู เพื่อออกไปจากห้องไอ้บุ้ง
"กูไม่เชื่อ มึงเอาอะไรมีพิษมาให้ลูกกูกินเปล่า" มันขวางประตูไว้ไม่ให้ผมออกจากห้อง
"เฮ้ย มึงอย่าฟุ้งซ่าน"ทำตาขวางใส่ให้มันหลีกทาง
"กูเตือนไว้ก่อนนะ ถ้าไอ้ปูนิ่มเป็นอะไรไป กูจะฟ้องคุณหญิงแล้วกูจะอัดมึงให้เละเลย" ไอ้บุ้งขู่ฟ่อ
ผมมองร่างบอบบางและซีดเซียวที่ยืนถือจานผักบุ้งอยู่ตรงหน้าแล้วอยากหัวเราะ
"ไอ้เชี่ยนี่ สงสัยมันโกรธจนลืมตัว หุ่นขี้ก้างแบบนี้หมัดเดียวมึงก็ฟุบแล้ว"ผมคิดในใจ
"หลีกไป กูจะกลับห้อง" ผมเบื่อจะเถียงกับมัน
"เดียว ขอกูพิสูจน์ไรก่อน" มันว่าแล้วก็เดินไปหาไอ้ปูนิ่ม ยื่นผักบุ้งสดที่มันใส่จานมาด้วยไปให้เต่ากิน
"ทานอาหารเช้าก่อนลูก" มันบอกลูกมันแต่ไอ้ปูนิ่มก็นิ่งเฉยไม่ขยับ
"ทานสิลูก นี่ก็สายแล้วลูกยังไม่ได้กินไรเลยนะ" ไอ้บุ้งพยายามยื่นผักบุ้งให้ไอ้ปูนิ่มกินอยู่นานแต่ไอ้นั่นก็ไม่อ้าปากสักที
"มึงทำไรลูกกูบอกมานะ ไอ้ปูนิ่มมันไม่เคยเป็นแบบนี้"
"ไอ้เชี่ยนี่ มึงจะเอาสาระไรกับเต่าตัวเดียว"
"มึงอย่าพูดพล่อยๆนะ ถ้าเพื่อนกูเป็นไรไป กูไม่ยอมมึงแน่" มันขู่ผมฟ่อ
"เออกูจะรอ" ผมพูดอย่างอารมณเสียก่อนจะออกจากห้องมันมา
"ไอ้เต่าเชี่ยนั่นมันสำออยอะไร ว่ะ อยู่ๆไม่อยากกินไรขึ้นมาเฉยๆ" ผมด่าไอ้ปูนิ่มในใจ
....
เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ผมจึงได้พักสบายๆไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย
แม่กับยายจันให้คนขับรถพาไปวัดตั้งแต่เช้าทั้งบ้าน
เหลือแต่ผมก็ไอ้หน้าจืดนั่นคนเดียว ขณะที่ผมนั่งเล่นดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก พร้อมกับคุยโทรศัพท์กับ
น้องมาลินีหวานใจคนล่าสุดของผมอยู่ เสียงออดประตูก็ดังขึ้น"ไอ้บุ้ง ๆ เปิดประตู" ผมตะโกนบอกไอ้บุ้งในห้องครัว
ก่อนจะคุยกับมาลินีต่อ
"คืนนี้เหรอว่างสิ ผับไหนเหรอ ไม่เอาดีกว่า เจอกันที่คอนโดดีกว่านะ ผมเบื่อผับ"
ผมนัดแนะมาลินีเพื่อหาความสุขกันที่คอนโดของเธอคืนนี้
"อืม ต้องวางแล้วนะมีแขก บายครับ" ผมรีบกดวางสายทันทีที่เห็นสุภาเดินตรงมายังห้องรับแขก
สุภาเป็นคู่ขาเก่าของผม รู้สึกผมจะได้กับเธอเพราะความเมาแค่ครั้งเดียวเมื่อหลายเดือนก่อน
แต่เธอก็ตื้อผมไม่เลิก ทั้งทางโทรศพท์จนผมต้องเปลี่ยนซิม ทั้งที่มหาวิทยาลัยจนผมต้องเสีย
โอกาศดีๆที่จะได้สาวๆมาควงไปหลายคน นึกไม่ถึงวันนี้เธอจะบุกมาถึงบ้าน ถ้าเธอเข้าถึงแม่ผม
อะไรจะเกิดขึ้น คู่ขาผมทุกคนรู้กฏดีว่าต้องไม่ผูกมัด แต่คนนี้เธอจะจับผมให้ได้
"อ้าว สุภา สวัสดีครับ มีธุระไรเหรอครับถึงมาถึงนี่"ผมพูดพร้อมกับผายมือเชิญเธอนั่งเก้าอี้ตรงหน้า
แต่สุภากลับมานั่งชิดกับผม มือเธอลูบไล้บนขาผมไปมา"ก็คิดถึงที่รักนะสิคะ จะอะไรอีก"
ผมเห็นท่าไม่ดี ประจวบกับไอ้บุ้งยกน้ำออกมาเสริฟให้แขก แผนบางอย่างจึงเกิดขึ้นไม่ทันตั้งตัว
" สุภานี่แฟนผม" ผมเอ่ยขึ้นหลังจากลุกขึ้นไปกอดเอวไอ้บุ้งไว้ในมือ
"อะอะไรนะ" สุภามองหน้าผมและไอ้บุ้งที่ยืนอยู่สลับกันไปมา
"นี่แฟนพี่ครับ เราอยู่ด้วยกันมา สี่เดือนแล้ว" ผมย้ำ
" นี่ผู้ชายนะคะ พี่พี อย่าบอกนะว่าพี่เป็นเกย์" ผมพยักหน้ารับเธอ
" ภาไม่เชื่อ อย่ามาโกหกให้ตาย..." เสียงสุภาขาดไปทันทีเพราะผมจูบปากไอ้บุ้งที่ยืนงงอยู่นานให้ดู
แรกๆผมว่าจะแตะปากไอ้บุ้งสักแปปเดียว แต่ปากไอ้บุ้งนิ่มดีอย่างไม่น่าเชื่อผมเลยบดปากมันเล่นไปมา
และ เหมือนมันจะพูดอะไรเพราะริมฝีปากมันเผยออกผมเลยได้จังหวะลองเอาลิ้น
ไปซุกไซ้ในปากมันดู ความวาบหวามแปลกๆ ทำให้ผมใช้ลิ้นไปใล่พัน ลิ้นของไอ้บุ้งที่พยายามหนีอุตลุต
แต่ด้วยความช่ำชองของผมที่สุดลิ้นผมก็กระหวัดพันลิ้นไอ้บุ้งได้ ผมรุกเร้าความรู้สึกของตัวเองและร่าง
บอบบางในอ้อมกอดอย่างลืมตัว
"ไปตายซะ "เสียงสุภาพูดขึ้น พร้อมกับสาดน้ำเย็นในแก้วบนโต๊ะใส่ผมกับไอ้บุ้ง
แล้วเธอก็เดินลิ่วออกจากห้องรับแขกไปโดยไม่หันกลับมามองผมที่ยิ้มอย่างโล่งอกตามหลัง
"กูยอมเป็นเกย์ดีกว่าถูกจับแต่งงาน"ผมนึกในใจ
.....
ผมหันมาเผชิญหน้ากับไอ้บุ้งที่ยืนมองหน้าผมอยู่
"มึงเข้าใจสิ่งที่กูทำไหม" ผมถามมัน
" คิดว่านะ"มันตอบ แต่ไม่ยอมสบตาผม
"ก็แค่อยากไล่ สุภาออกไปจากชีวิตกู มึงพอเข้าใจไหม"
"อือ"ริมฝีปากแดงเห่อเพราะถูกผมบดปากนั้นตอบเบาๆ
"เพราะงั้นเรื่องเมื่อกี้ กูขอบใจมึงมาก แต่ให้ลืมไปให้หมด เข้าใจนะ" ผมพูดเสียงเข้ม
หวังให้ไอ้บุ้งไม่คิดเลยเถิดไปไกล
"ได้ มึงไม่ต้องห่วงหรอก ขำๆ " มันเอ่ยพร้อมกับมองหน้าผมด้วยแววตาเฉยชา
"ดีแล้วมึงห้ามเข้าห้องกูและห่างๆกูเอาไว้อย่าลืมข้อนี้นะ"ผมย้ำกับมันก่อนเดินขึ้นชั้นบน
เมื่อผมได้นอนแผ่อยู่บนที่นอนหัวผมกลับคิดถึงรสจูบของไอ้น่าจืดนั่นอีกครั้ง ความหวานซาบซ่านมันยัง
ติดอยู่ริมฝีปาก "ไอ้เชี่ยเอ้ยแม่งมึงต้องวางยาอะไรให้กูกินแน่ๆ กูถึงฟุ้งซ่านขนาดนี้"
ผมอยากจะจับไอ้บุ้งขว้างออกจากหัวผมจริงๆ
ผมก็ไม่ใช่คนใจหยาบ พอที่จะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะครับ
วันนั้นที่เกือบจะฆ่าไอ้ปูนิ่มด้วยลูกเตะผม ความรู้สึกผิดยังคั่งค้างอยู่ในใจ วันนี้
หลังจากผมเห็นไอ้บุ้งลงไปรดน้ำต้นไม้ที่หน้าบ้าน ผมก็ย่องเข้าไปในห้องของมัน
ไอ้ปูนิ่มว่ายน้ำไปมาอย่างสบายอุราอยู่ในอ่างแก้วบนโต๊ะข้างๆหัวเตียงไอ้บุ้ง
พอเห็นผมไปจ้องมัน ไอ้ปูนิ่มก็หยุดว่ายชูคอมาจ้องตาผมเหมือนกัน
"ปูนิ่ม วันนี้กูมาดีนะ กูมาขอโทษเรื่องวันนั้น"ผมพูดพลางเอื้มมมือไปจับหัวมันเบาๆเหมือนที่เห็นไอ้บุ้งทำ
แต่มือผมไม่ทันได้แต่มันหรอกครับ มันก็อ้าปากงับมือผมเข้าให้ดีที่ผมหลบทัน ถึงอย่างนั้นผมก็ได้แผลเลือดไหลซิบๆ
"ไอ้เชี่ยนี่ เจ้าเล่ห์เหมือนเจ้าของมึงเลยนะ อย่าเผลอนะมึงพอจะจับไปปล่อยถนนให้สิบล้อทับ" ผมอาฆาตไอ้ปูนิ่ม
......
"มึงมาทำไรลูกกู" เสียงไอ้บุ้งดังขึ้นที่หน้าประตู ห้องสงสัยมันเพิ่งมา
"เปล่า " ผมเดินไปที่ประตู เพื่อออกไปจากห้องไอ้บุ้ง
"กูไม่เชื่อ มึงเอาอะไรมีพิษมาให้ลูกกูกินเปล่า" มันขวางประตูไว้ไม่ให้ผมออกจากห้อง
"เฮ้ย มึงอย่าฟุ้งซ่าน"ทำตาขวางใส่ให้มันหลีกทาง
"กูเตือนไว้ก่อนนะ ถ้าไอ้ปูนิ่มเป็นอะไรไป กูจะฟ้องคุณหญิงแล้วกูจะอัดมึงให้เละเลย" ไอ้บุ้งขู่ฟ่อ
ผมมองร่างบอบบางและซีดเซียวที่ยืนถือจานผักบุ้งอยู่ตรงหน้าแล้วอยากหัวเราะ
"ไอ้เชี่ยนี่ สงสัยมันโกรธจนลืมตัว หุ่นขี้ก้างแบบนี้หมัดเดียวมึงก็ฟุบแล้ว"ผมคิดในใจ
"หลีกไป กูจะกลับห้อง" ผมเบื่อจะเถียงกับมัน
"เดียว ขอกูพิสูจน์ไรก่อน" มันว่าแล้วก็เดินไปหาไอ้ปูนิ่ม ยื่นผักบุ้งสดที่มันใส่จานมาด้วยไปให้เต่ากิน
"ทานอาหารเช้าก่อนลูก" มันบอกลูกมันแต่ไอ้ปูนิ่มก็นิ่งเฉยไม่ขยับ
"ทานสิลูก นี่ก็สายแล้วลูกยังไม่ได้กินไรเลยนะ" ไอ้บุ้งพยายามยื่นผักบุ้งให้ไอ้ปูนิ่มกินอยู่นานแต่ไอ้นั่นก็ไม่อ้าปากสักที
"มึงทำไรลูกกูบอกมานะ ไอ้ปูนิ่มมันไม่เคยเป็นแบบนี้"
"ไอ้เชี่ยนี่ มึงจะเอาสาระไรกับเต่าตัวเดียว"
"มึงอย่าพูดพล่อยๆนะ ถ้าเพื่อนกูเป็นไรไป กูไม่ยอมมึงแน่" มันขู่ผมฟ่อ
"เออกูจะรอ" ผมพูดอย่างอารมณเสียก่อนจะออกจากห้องมันมา
"ไอ้เต่าเชี่ยนั่นมันสำออยอะไร ว่ะ อยู่ๆไม่อยากกินไรขึ้นมาเฉยๆ" ผมด่าไอ้ปูนิ่มในใจ
....
เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ผมจึงได้พักสบายๆไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย
แม่กับยายจันให้คนขับรถพาไปวัดตั้งแต่เช้าทั้งบ้าน
เหลือแต่ผมก็ไอ้หน้าจืดนั่นคนเดียว ขณะที่ผมนั่งเล่นดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก พร้อมกับคุยโทรศัพท์กับ
น้องมาลินีหวานใจคนล่าสุดของผมอยู่ เสียงออดประตูก็ดังขึ้น"ไอ้บุ้ง ๆ เปิดประตู" ผมตะโกนบอกไอ้บุ้งในห้องครัว
ก่อนจะคุยกับมาลินีต่อ
"คืนนี้เหรอว่างสิ ผับไหนเหรอ ไม่เอาดีกว่า เจอกันที่คอนโดดีกว่านะ ผมเบื่อผับ"
ผมนัดแนะมาลินีเพื่อหาความสุขกันที่คอนโดของเธอคืนนี้
"อืม ต้องวางแล้วนะมีแขก บายครับ" ผมรีบกดวางสายทันทีที่เห็นสุภาเดินตรงมายังห้องรับแขก
สุภาเป็นคู่ขาเก่าของผม รู้สึกผมจะได้กับเธอเพราะความเมาแค่ครั้งเดียวเมื่อหลายเดือนก่อน
แต่เธอก็ตื้อผมไม่เลิก ทั้งทางโทรศพท์จนผมต้องเปลี่ยนซิม ทั้งที่มหาวิทยาลัยจนผมต้องเสีย
โอกาศดีๆที่จะได้สาวๆมาควงไปหลายคน นึกไม่ถึงวันนี้เธอจะบุกมาถึงบ้าน ถ้าเธอเข้าถึงแม่ผม
อะไรจะเกิดขึ้น คู่ขาผมทุกคนรู้กฏดีว่าต้องไม่ผูกมัด แต่คนนี้เธอจะจับผมให้ได้
"อ้าว สุภา สวัสดีครับ มีธุระไรเหรอครับถึงมาถึงนี่"ผมพูดพร้อมกับผายมือเชิญเธอนั่งเก้าอี้ตรงหน้า
แต่สุภากลับมานั่งชิดกับผม มือเธอลูบไล้บนขาผมไปมา"ก็คิดถึงที่รักนะสิคะ จะอะไรอีก"
ผมเห็นท่าไม่ดี ประจวบกับไอ้บุ้งยกน้ำออกมาเสริฟให้แขก แผนบางอย่างจึงเกิดขึ้นไม่ทันตั้งตัว
" สุภานี่แฟนผม" ผมเอ่ยขึ้นหลังจากลุกขึ้นไปกอดเอวไอ้บุ้งไว้ในมือ
"อะอะไรนะ" สุภามองหน้าผมและไอ้บุ้งที่ยืนอยู่สลับกันไปมา
"นี่แฟนพี่ครับ เราอยู่ด้วยกันมา สี่เดือนแล้ว" ผมย้ำ
" นี่ผู้ชายนะคะ พี่พี อย่าบอกนะว่าพี่เป็นเกย์" ผมพยักหน้ารับเธอ
" ภาไม่เชื่อ อย่ามาโกหกให้ตาย..." เสียงสุภาขาดไปทันทีเพราะผมจูบปากไอ้บุ้งที่ยืนงงอยู่นานให้ดู
แรกๆผมว่าจะแตะปากไอ้บุ้งสักแปปเดียว แต่ปากไอ้บุ้งนิ่มดีอย่างไม่น่าเชื่อผมเลยบดปากมันเล่นไปมา
และ เหมือนมันจะพูดอะไรเพราะริมฝีปากมันเผยออกผมเลยได้จังหวะลองเอาลิ้น
ไปซุกไซ้ในปากมันดู ความวาบหวามแปลกๆ ทำให้ผมใช้ลิ้นไปใล่พัน ลิ้นของไอ้บุ้งที่พยายามหนีอุตลุต
แต่ด้วยความช่ำชองของผมที่สุดลิ้นผมก็กระหวัดพันลิ้นไอ้บุ้งได้ ผมรุกเร้าความรู้สึกของตัวเองและร่าง
บอบบางในอ้อมกอดอย่างลืมตัว
"ไปตายซะ "เสียงสุภาพูดขึ้น พร้อมกับสาดน้ำเย็นในแก้วบนโต๊ะใส่ผมกับไอ้บุ้ง
แล้วเธอก็เดินลิ่วออกจากห้องรับแขกไปโดยไม่หันกลับมามองผมที่ยิ้มอย่างโล่งอกตามหลัง
"กูยอมเป็นเกย์ดีกว่าถูกจับแต่งงาน"ผมนึกในใจ
.....
ผมหันมาเผชิญหน้ากับไอ้บุ้งที่ยืนมองหน้าผมอยู่
"มึงเข้าใจสิ่งที่กูทำไหม" ผมถามมัน
" คิดว่านะ"มันตอบ แต่ไม่ยอมสบตาผม
"ก็แค่อยากไล่ สุภาออกไปจากชีวิตกู มึงพอเข้าใจไหม"
"อือ"ริมฝีปากแดงเห่อเพราะถูกผมบดปากนั้นตอบเบาๆ
"เพราะงั้นเรื่องเมื่อกี้ กูขอบใจมึงมาก แต่ให้ลืมไปให้หมด เข้าใจนะ" ผมพูดเสียงเข้ม
หวังให้ไอ้บุ้งไม่คิดเลยเถิดไปไกล
"ได้ มึงไม่ต้องห่วงหรอก ขำๆ " มันเอ่ยพร้อมกับมองหน้าผมด้วยแววตาเฉยชา
"ดีแล้วมึงห้ามเข้าห้องกูและห่างๆกูเอาไว้อย่าลืมข้อนี้นะ"ผมย้ำกับมันก่อนเดินขึ้นชั้นบน
เมื่อผมได้นอนแผ่อยู่บนที่นอนหัวผมกลับคิดถึงรสจูบของไอ้น่าจืดนั่นอีกครั้ง ความหวานซาบซ่านมันยัง
ติดอยู่ริมฝีปาก "ไอ้เชี่ยเอ้ยแม่งมึงต้องวางยาอะไรให้กูกินแน่ๆ กูถึงฟุ้งซ่านขนาดนี้"
ผมอยากจะจับไอ้บุ้งขว้างออกจากหัวผมจริงๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น