คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : แค่คนใช้
ผมใช้เงินไปกับการเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเรียนในวันจันทร์มากที่เดียว นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้
ไปโรงเรียนจริงๆ แม้มันจะถูกเรียกว่ามหาวิทยาลัย แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งฟังครูทั้งวัน
ได้เจอเพื่อนห้องเดียวกัน เพราะการเรียนผมตั้งแต่ปอหนึ่งถึงมอหกมันอยู่นอกระบบ ประสบการณ์
แบบนี้ทำให้ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก ต่างจากเจ้านายผมที่หลับมั่งตื่นมั่งทั้งวัน
" เฮ้ยไอ้เคน ไอ้ตัวเล็กที่ตามมึงต้อยๆทั้งวันนี่ชื่อไรวะ ไม่คิดแนะนำเพื่อนๆมั่งเหรอ"
ไอ้วีหัวหน้าห้องตะโกนถามไอ้เคนหลังจากเรียนชั่วโมงสุดท้าย
"ไอ้นี่ชื่อแทน คนรับใช้ส่วนตัวกู ห้ามใครมายุ่ง" ไอ้เคนตอบ
เพื่อนๆในห้องหัวเราะครืน แม้จะเป็นความจริงผมก็อดแปลบในใจไม่ได้ ก็คนรับใช้จริงๆนี่นะ
"ไอ้แทนไปดื่มน้ำชากับพวกกูไหม"ไอ้วีเดินมาถามผมใกล้ๆ แต่ผมจะตัดสินได้ไง
"ไม่ วันนี้กูไม่ว่าง" ไอ้เคนตอบแทนผมได้แต่ยิ้มแหยๆให้ไอ้วีเป็นคำตอบ ก่อนไอ้เคนจะ
ลากผมตัวผมออกมาจากห้อง เอาเถอะคนใช้ก็คนใช้ตั้งหน้าตั้งตาทำให้ดีที่สุดดีกว่า ผมคิด
..............
แม้มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนจะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแต่ก็เป็นอันดับหนึ่งของประเทศขึ้นชื่อว่า
เข้าง่ายแต่จบยาก แล้วไอ้เคนมันดันเลือกให้ผมเรียนเอกบริหารธุรกิจ เอกเดียวกับมัน ผมเลย
ต้องใช้เวลาอ่านหนังสือในแต่ละวันอย่างหนัก เพื่อเรียนให้ทัน การบ้าน และงานที่อาจารย์สั่ง
ก็ท่วมหัวเพราะผมต้องทำเผื่อไอ้เคนทุกอย่าง มันใช้ผมเกินคุ้มจริงๆ เดือนหนึ่งที่ผ่านมา
แต่ละวันผมแทบสลบกว่าจะได้นอนในแต่ละคืน
" แทนนายทำการบ้านที่อาจารย์สุดาสั่งเมื่อวานเสร็จยัง" ไอ้วีเดินมาถามผมที่หลังห้อง
"ไอ้เคนมันเอาไปให้สาวๆลอกอยู่โน่นไง"
ผมตอบพลางพยักหน้าไปที่ไอ้เคนซึ่งถูกพวกผู้หญิงห้องเราห้อมล้อมอยู่หน้าห้อง
"ไอ้เชี่ยนี่มันจะโปรยสเน่ห์ไปทำไหมว่ะ ไม่ต้องเอาการบ้านมาล่อแม่งก็เลือกไม่ไหวอยู่แล้ว"
ไอ้วีบ่นยิ้มๆกับผม มันก็จริงอย่างที่ไอ้วีบอก ไอ้เคนมันคนป๊อปที่สุดในมหาลัย
"ซ้อมมั่ง ไม่หว่านนานๆเดียวขึ้นสนิม" ผมบ่นมั่งเพราะรู้สึกมันไส้ไอ้เคนเหมือนกัน
"เฮ้ยว่าแต่มึงมีแฟนหรือยังว่ะ กูเห็นมึงเดินตามแต่ไอ้เคนต้อยๆ" ไอ้วีถามผม
"ก็มันเป็นเจ้านายกูนี่" ผมย้ำให้ตัวเองฟังด้วย
"แต่มึงก็ต้องมีชีวิตของมึงนะโว้ยหรือมึงจะเป็นคนใช้เขาตลอด" ไอ้วีสอนผม
"กูไม่อยากคิดอะไรว่ะจะเรียนจบหรือเปล่ายังไม่รู้ด้วยซ้ำ" ผมพูดเบาๆที่ผมกล้าเปิดใจกับไอ้วี
เพราะหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันเป็นเพื่อนคนเดียวในห้องที่เข้ามาตีสนิทกับผม ผมรู้สึกว่ามัน
เป็นคนดีไม่น้อย ต่างจากเพื่อนคนอื่นๆที่ทักทายกันเท่าที่จำเป็น
"มีอะไรให้กูช่วย บอกได้นะเว้ย อย่าลืมว่ากูเป็นเพื่อนมึงนะ"
ไอ้วีพูดพร้อมกับจับบ่าผมบีบเบาๆ ผมมองมันอย่างขอบใจ ในคำว่าเพื่อนที่ผมไม่เคยมี
"มึงมายุ่งอะไรกับคนของกู"
ไอ้เคนมาตอนไหนไม่รู้พูดขึ้นพร้อมกระชากมือไอ้วีออกจากบ่าผม
"เฮ้ย เป็นบ้าอะไรว่ะ กูกับไอ้แทนคุยกันอยู่ดีๆ " ไอ้วีบ่นพึมพำ
"กลับบ้าน กูเบื่อแล้ว" ไอ้เคนพูดพร้อมกับดึงผมออกจากโต๊ะให้ตามมันไป
..............
"นี่จะไปไหน ยังไม่ได้เรียนเลยนะ หยุดก่อน กูจะกลับไปเรียน"
ผมสะบัดแขนออกจากมือไอ้เคนขณะที่มันลากผมไปที่จอดรถ แต่มีหรือที่ผมจะต้าน
แรงมันได้ ที่สุดผมก็ต้องโดนมันจับยัดใส่รถให้ไปกับมันอยู่ดี
"นี่ ถ้าเราไม่เรียนวันนี้เราจะไม่รู้อะไรอีกเยอะนะ เกิดอาจารย์สั่งงานอีก"
ผมพูดเบาๆพยายามใจเย็นกับไอ้เจ้านายที่นั่งหน้าบึ้งไม่พูดไม่จาที่กำลังขับรถอยู่
"มึงชอบไอ้วีเหรอ" จู่ๆไอ้เคนก็ถามขึ้น
"ก็ชอบสิเราเป็นเพื่อนกันนี่ นิสัยมันก็ดี " ผมบรรยายตามจริงโดยไม่ได้ใส่ใจนัก
ใจกำลังคิดถึงการโดดเรียนที่ไม่สมควรของตัวเองอยู่ จู่ๆไอ้เคนก็จอดรถข้างทาง
ผมแอบดีใจแว่บเออ สงสัยมันจะพากูกลับไปเรียน แต่แล้วก็ต้องนั่งตัวแข็งเมื่อ
ไอ้เคนโน้มตัวมาหาผมมือมันจับบ่าทั้งสองข้างผมบีบจนเจ็บขณะที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของ
ไอ้คนหล่อบดขยี้กับปากผมอย่างรุนแรงเหมือนจะอยากลงโทษผม ยิ่งผมพยามยามผลักมันออก
ริมฝีปากไอ้เคนยิ่งบดเบียดผมแรงขึ้น ลมหายใจฟืดฟาด ที่คุกรุ่นรินรดหน้าผมอยู่บ่งบอกถึง
ความโกรธจัด ผมพยายามดิ้นหนีแต่มือที่บ่าก็กดผมไว้แน่น ผมจึงอ้าปากหวังจะกัดริมฝีปาก
ไอ้เคนให้มันเจ็บ มันจะได้เลิกรังแก กลับเป็นว่าผมเปิดทางให้ลิ้นสีชมพูของคนหน้าเข้มเข้ามา
กอดรัดลิ้นผมไว้แน่น จนผมไม่สามารถกัดลงได้เพราะกลัวถูกลิ้นตัวเองด้วย แม้ลิ้นผมจะถูก
ยึดเป็นตัวประกันแต่ริมฝีปากไอ้เคนยังคงบดขยี้ไปมาบนริมฝีปากผมไม่หยุด ผมเริ่มเหนื่อย
และรู้สึกเจ็บจนต้องยอมอ่อนให้กับคนที่แข็งแรงกว่าทำอะไรก็ตามใจมัน เมื่อผมเริ่มนิ่งลิ้นไอ้เคน
ก็ขยับตัวปล่อยลิ้นผม แล้วก็กลับมากอดรัดใหม่เป็นจังหวะ ความเจ็บปวดที่มีตะกี้เริ่มกลายเป็น
ความฉ่ำหวาน ซาบซ่านริมฝีปากที่เริ่มบวมของผมถูกไอ้เคนลูบไล้ด้วยริมฝีปากที่รุ่มร้อนของมัน
เหมือนต้องการจะปลอบโยนในสิ่งที่ทำไปก่อนหน้า ผมเริ่มลืมสิ่งรอบตัวเผลอไผลไปกับรสสัมผัส
ที่เพิ่งเคยพบเจอ ไอร้อนแถวช่องท้องโลดแล่นขึ้นมาที่บริเวณอก ใบหน้าผมวูบวาบไปกับรสชาติ
ที่ไอ้เคนมอบให้ ลิ้นเล็กๆองผมเริ่มเข้าไปซุกไซ้ลิ้นที่ใหญ่กว่าเหมือนหยั่งเชิง
" อ๋าาาา" เสียงไอ้เคนครางออกมาเหมือนความอดทนบางอย่างสิ้นสุด
"ตื้ดๆๆๆๆๆ" เสียงโทรศัพท์ไอ้เคนดังขึ้นที่หน้าอกมัน มันชะงัก ไปนิดหนึ่งก่อนจะเคลื่อนลิ้น
ไปมาในปากผมต่อ แต่ผมได้ใช้จังหวะที่ไอ้เคนเผลอ ผละออกทันที แล้วรีบเปิดประตูลงไปยืนสั่น
หายใจหอบอยู่ข้างรถ ไอ้เคนนั่งนิ่งอยู่บนเบาะคนขับครู่หนึ่งก่อนจะเปิดประตูฝั่งมันออกมาหาผม
"อยากกับไปเรียนเหรอ" ไอ้เคนถามขึ้นเมื่อมายืนอยู่ข้างๆผม
"อือส์" ผมพูดเหมือนคราง หัวใจยังสั่นระริกๆ ไม่หาย
" ห้ามมึงให้ใครแตะต้องตัวมึงอีกนะ" มันสั่ง
"อืมส์" ผมตอบไปอย่างไม่รู้จะทำอะไร ร่างผมเหมือนแทบหมดแรงเมื่อมือร้อนผ่าวมาดึงผม
ให้เข้าไปนั่งที่เดิมแล้วปิดประตูให้จากนั้นไอ้เคนก็กลับไปนั่งเบาะคนขับ เคลื่อนรถพาเรากลับ
ไปมหาวิทยาลัย
..............
"เจ็บมากไหม " ไอ้เคนถามขึ้นขณะที่เรานั่งรถอยู่
"อืมส์" ผมเริ่มรู้สึกเจ็บปวกที่บวมเจ่อของตนเองขึ้นมาทันที
และพอไอ้เคนถามแล้วก็อยากร้องไห้ขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุ ทำไหมนะตั้งแต่มาอยู่กับ
ไอ้เจ้านายคนนี้ผมรู้สึกอ่อนแอบ่อยจังผมหลับตาลงไม่อยากคิดอะไรให้ฟุ้งซ่าน
แม้จะรู้สึกว่ารถหยุดแต่ก็ไม่ลืมตาอยากปล่อยๆมันไป
"เอ้าเอาแปะไว้สักพักก็หาย" ผมลืมตาเห็นผ้าเย็นที่ไอ้เคนยื่นให้อยู่ตรงหน้า
"ขอบใจ" ผมเอ่ยเบาๆก่อนจะรับผ้าเย็นมาแปะไว้ที่ปาก แล้วหลับตาลงอีกครั้ง
ความเย็นจากผ้าเย็นที่ไอ้เคนซื้อมาให้จากร้านค้าข้างทางช่วยให้ผมคลายความเจ็บปวดลง
อย่างช้าๆ แต่ร่องรอยที่ไอ้เคนมันฝากไว้ไม่ใช่แค่ที่ปาก ตราประทับที่ไอ้เคนฝากไว้ในความ
รู้สึกมันยังไหลวนอยู่ในหัวใจ และนับวันเหมือนจะยิ่งคุกรุ่นรอเวลาที่จะระเบิดออกมา
"ไอ้เคน กูเป็นคนใช้ของมึงนะ อย่ามาทำกับกูแบบนี้เลย"
ผมไม่ได้ต้องการบอกไอ้เคนแต่ผมบอกกับตัวเองต่างหาก
ความคิดเห็น