ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Shine Maiden ศึกมิโกะป่วนฟ้า ภาค อาคมแห่งลูกแก้วฟ้าดิน

    ลำดับตอนที่ #7 : สาวใช้แห่งคฤหาสน์ราตรี

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 49



                   
    ภายในคฤหาสน์ราตรีอันเงียบสนิท แต่ภายนอกรอบๆ คฤหาสน์มีสภาพเสียหายมากจากการต่อสู้ เต็มไปด้วยเศษซากของต้นไม้และรากไม้ ขนนกจากหมอน เศษไม้จากเตียง และความเสียหายต่างๆ จากพายุ
     

    อายะ มินางิ และเอดีน่า ซึ่งมาเพื่อพบกับผู้ที่ทำให้ เรียวจินโซ มืดมิด และได้เข้ามาภายในบริเวณรั่วคฤหาสน์แล้ว

    "พวกเธอเป็นใครกัน"

                    เสียงอันดังลั่น แต่เปี่ยมไปด้วยความเด็ดขาด อีกทั้งยังดูเยือกเย็นในเวลาเดียวกัน ทำเอาอายะ มินางิ และเอดีน่า ต้องหันไปมองทางเดียวกัน เจ้าของเสียงเป็นสาวน้อยผมขาว นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลดูแนวแน่และเยือกเย็น สวมชุดกระโปรงบานสีน้ำเงินเข้ม ผูกหูกระต่ายที่คอเสื้อ ที่ศีรษะคาดผ้าคาดหัวของสาวใช้ไว้ และใส่ผ้ากันเปื้อน ซึ่งดูเหมือนสาวใช้มาก เธอเหน็บดาบไม้สั้นสีดำและแดงไว้ด้านหลังสองเล่ม


    "
    พวกคุณเป็นใครไม่ทราบ ถึงได้ถือวิสาสะบุกรุกคฤหาสน์ราตรีแห่งนี้" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง และเพ่งมองพวกอายะ

    "เอ่อ...รูบีเรียอยู่ไหม ชั้นมาขอพบน่ะ" มินางิออกหน้า

    "อ๊ะ...คุณคามิชิโระนะเอง ต้องขออภัย แต่ว่าตอนนี้คุณหนูไม่ประสงค์จะพบใครทั้งนั้น" สาวใช้ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

    "เอ่อ...เรยะก็ได้ ขอชั้นเข้าไปพบหน่อยได้ไหม"
     

    มินางิทำท่าจะก้าวเดิน แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะสาวใช้ปาไพ่ไปปักตรงหน้าเท้าของมินางิ ทำเอามินางิเหงื่อตกเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มฝืดๆ ออกมา


    "
    ขอประทานโทษด้วย แต่ดิฉันได้รับสั่งมาว่าห้ามใครเข้าใกล้ตัวคฤหาสน์ไปมากกว่านี้อีกแล้ว เห็นแก่ความเป็นเพื่อนของท่านเรยะ ดิฉันจะปล่อยไป ดังนั้นขอเชิญออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้ด้วย" สาวใช้ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

    "เอ่อ...เอาไงดีอะ อายะ" มินางิหันไปถามอายะ

    "คือว่าไงดี...ว่าแต่คนนั้นใครเหรอ ดูเหมือนจะรู้จักเธอนะ" อายะใช้นิ้วโป้งชี้ไปทางสาวใช้

    "ดิฉันมีชื่อว่า คาเงชิม่า เรริเน่ จะเรียกว่า เรนริ ก็ได้ เป็นสาวใช้ของคฤหาสน์ราตรีแห่งนี้ ยินดีที่ได้รู้จัก..." เรนริแนะนำตัว

    "เอ่อ...ชั้น โดเมียวยะ อายะ เป็นมิโกะของศาลเจ้าโดเมียวยะ ส่วนนางไม้คนนี้ชื่อ เอดีน่า เดสตินี่" อายะแนะนำตัวตามมารยาทพร้อมแนะนำเอดีน่าแถมให้ด้วย

    "งั้นก็ขอเชิญพวกคุณทั้งสามออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้ด้วย" เรนริยังคงไม่เลิกความคิดที่จะไล่พวกอายะให้ออกจากคฤหาสน์

    "เอ่อ...เขาว่างั้นน่ะ อายะ เรารีบไปจากที่นี้เถอะนะ" มินางิมีท่าทางผวาเล็กน้อย

    "เป็นอะไรขอเธอน่ะมินางิ ทำกลัวไปได้" อายะทำหน้าสงสัย

    "ก็...แบบว่า...มัน..." มินางิอ้ำอึ้ง

    "พวกคุณจะออกไปได้รึยังคะ" เรนริเริ่มดูหัวเสีย

    "ขอโทษด้วยนะ แต่เรามาหาเจ้าของคฤหาสน์ เพราะเรื่องที่ท้องฟ้าไม่สว่างซะที เลยจะมาถาม..." แต่อายะไม่ทันพูดจบ เรนริก็พุ่งตรงเข้ามาอยู่ตรงหน้าของอายะด้วยความเร็วสูง เร็วจนไม่น่าเชื่อ จนทำเอาอายะถึงกับตะลึง


    "
    ระบำดาบแห่งความมืด"

                    เรนริชักดาบไม้สีดำและแดงทั้งสองอย่างรวดเร็ว แล้วหมุนตัวควงอยู่ตรงหน้าอายะด้วยความเร็วก่อนจะฟาดฟันดาบเข้าช่วงท้องน้อยของอายะ อายะตั้งสติแล้วใช้ไม้ไล่ผีป้องกันการโจมตีตามสัญชาติญาณ แต่เรนริปัดไม้ไล่ผีของอายะให้หลุดออกจากรัศมีป้องกัน ก่อนจะลงมือฟาดฟันดาบสั้นคู่เข้าที่ท้องของอายะพร้อมกัน อายะรู้สึกจุกเสียดที่ท้องน้อยเพราะโดนดาบไม้ฟันใส่ ความจุกแผ่ซ่านทั่วท้อง กระเพาะในตัวอายะบีบรัดตัวเอง อายะหมดสติไปในทันที ก่อนจะล้มลงกองกับพื้น


    "
    อายะ!!!" มินางิตะโกนลั่น

    "คุณอายะคะ" เอดีน่าร้องเรียกอายะ นัยน์ตามีน้ำตาคลอ


                   
    แต่เรนริยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เธอสะบัดตัวแล้วพุ่งเข้าหาเอดีน่า ที่ดูไร้การป้องกันโดยสิ้นเชิง ตอนนี้เธอเข้าประชิดตัวเอดีน่าได้แล้ว เอดีน่าหน้าเปลี่ยนสีด้วยความตกใจเมื่อเรนริมาหยุดอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาของเรนริฉายแววนักฆ่า ก่อนจะพุ่งปลายดาบไม้เข้าใส่เอดีน่า


    "สปาร์คช็อค!!"

                    มินางิชกหมัดประกายไฟฟ้าลงพื้น เกิดคลื่นไฟฟ้าวิ่งตามพื้นพุ่งเข้าใส่เรนริที่กำลังจะโจมตีเอดีน่า เรนริเห็นคลื่นไฟฟ้าวิ่งเข้ามาใกล้ ในชั่วพริบตา ตัวของเรนริก็กลายเป็นไพ่นับสิบใบร่วงลงบนพื้นและหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย คลื่นไฟฟ้าวิ่งผ่านตัวเอดีน่าไประเบิดเข้ากับกำแพงของคฤหาสน์


    "
    หายไปไหนแล้ว" มินางิมองซ้ายมองขวา


                   
    เรนริปรากฏอยู่ด้านหลังของมินางิ เธอฟาดดาบทั้งสองเล่มใส่มินางิด้วยความเร็วสูง มินางิที่ไม่ทันได้ป้องกันตัว ภายในใจคิดว่าเสียท่าซะแล้ว


    "
    คมหอกรากพฤกษา"

                    รากปลายแหลมพุ่งเข้าใส่เรนริแบบไม่ทันระวังตัวจากด้านหลัง แล้วแทงเข้ากลางหลังของเรนริจนเธอกระเด็นไปไกลจนเลือดกระเซ็นไปตามทาง ดูเหมือนปลายรากจะแทงเธอตื้นไปนิดแต่ก็สามารถทำให้ถึงตายได้เหมือนกัน


    "
    ว้าย ขอโทษค่ะ ดิฉัน ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายถึงขนาดนั้น" เอดีน่าน้ำตาคลอ

    "โดนไปขนาดนั้นถึงตายได้เลยนะเนี้ย" มินางิเหงื่อตกเล็กน้อย


                   
    มินางิและเอดีน่า ค่อยๆ เดินเข้าไปดูเรนริที่นอนจมกองเลือดแบบไม่ได้สติ และจะรีบเข้าไปช่วย แต่ก็ต้องชะงัก แขนของเรนริกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างดันร่างของตนขึ้นจากพื้น แต่การลุกขึ้นยืนของเรนริดูแปลกๆ เพราะเธอใช้ขายันพื้นก่อน ขาทั้งสองของเธอยืนตรงแล้ว แต่ลำตัวกลับห้อยอยู่ด้านหลัง แล้วค่อยๆ กลับมายืนตัวตรงอย่างช้าๆ แล้วก้มหน้าลง ผมสีขาวที่ปิดหน้าเธออยู่ดูน่ากลัวมาก มินางิและเอดีน่าถึงกับหน้าเปลี่ยนสี แล้วเริ่มกอดกันด้วยความหวาดกลัว เรนริเงยหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดขึ้นมา และจ้องมองมินางิกับเอดีน่าด้วยแววตาอาฆาต


    "
    หนูขอโทษค่า..." มินางิและเอดีน่าร้องเสียงหลง น้ำตาพุ่งเป็นสายด้วยความหวาดกลัว

    "พวกคุณสองคน ต้องตาย"

                    เรนริค่อยๆ ตวัดดาบอย่างช้าๆ แล้วเกิดเป็นรัศมีดาบสีแดงพุ่งไปหามินางิกับเอดีน่า ทั้งสองรีบกระโดดแยกออกจากกันทันที เรนริขว้างดาบไม้ทั้งสอง ดาบสีแดงพุ่งไปหามินางิ ดาบสีดำพุ่งไปหาเอดีน่า มินางิพยายามสลัดดาบให้หลุด ทั้งขี้ไม้กวาดหนี ทั้งยิงพลังไฟฟ้าใส่ แต่ดาบนั้นยังคงตามมินางิมาติดๆ ส่วนเอดีน่าซึ่งเคลื่อนไหวได้เชื่องช้าไม่สามารถหลบดาบได้ จึงสร้างกำแพงด้วยรากไม้ขึ้นมาขวางไว้ แต่ดูท่าจะไม่เป็นผล เพราะดาบไม้เล่มนี้ฟันทะลุกำแพงเข้ามาเหมือนดาบจริง เอดีน่าหลบการโจมตีของดาบไม้ได้อย่างฉิวเฉียดเพราะการเคลื่อนไหวของดาบเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อยจากการใช้การฟาดของเถาวัลย์เข้าใส่ แต่ก็ยังคงต้องหาทางหนีต่อไปเพราะดาบไม้ยังไม่หยุดพุ่งเข้ามาโจมตี


                   
    ส่วนทางเรนริที่กำลังทำการร่ายรำเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของดาบ เริ่มเห็นว่าการโจมตียังคงทำอะไรได้ไม่มากจึงคลี่ไพ่ทั้งสองมือ ก่อนจะทำการปาไพ่นับร้อยใบ ไพ่พุ่งการโจมตีออกเป็นวงกว้าง และพุ่งไปทางมินางิและเอดีน่าที่กำลังหลบดาบไม้อยู่


    "
    เหวอ นี้มันอะไรกันเนี้ย" มินางิหมุนรอบไม้กวาดเป็นควงสว่านเพื่อหลบไพ่นับร้อยที่พุ่งเข้าใส่ พร้อมกับหลบดาบที่ฟันเข้ามาอย่างไม่หยุด

    "ช่วยด้วยเจ้าค่า" เอดีน่าขี่ใบไม้แล้วบินหลบไพ่พร้อมใช้ท่ากระสุนใบไม้ขวางการโจมตีของไพ่

    "หลบไม่พ้นหรอก"

                    มินางิและเอดีน่าถูกดาบไม้และฝนห่าไพ่นับร้อยไล่ต้อนจนทั้งสองชนกันเองเข้าอย่างจัง ทั้งมินางิและเอดีน่าล้มลงกองกับพื้น ฝนไพ่นับร้อยพุ่งคมเข้าใส่อย่างไม่ปราณี เอดีน่าเรียกรากไม้ขึ้นมาคุ้มกันการโจมตี แต่เพราะไพ่มีขนาดเล็กและบางจึงไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมด มีไพ่บางส่วนผ่านช่องของรากไม้พุ่งเข้าเชือดเฉือนมินางิและเอดีน่า


    "
    โอ๊ย!!"

                   

                    เอดีน่าร้องด้วยความเจ็บปวดจากการที่เอาตัวเข้ารับการโจมตีของไพ่เพื่อป้องกันมินางิ คมของไพ่เชือดเฉือนเสื้อผ้าและผิวหนังของเอดีน่าจนมีเลือดไหลซึมออกมาเปื้อนชุดสีขาว เอดีน่าเข่าอ่อนและนั่งลงกับพื้น


    "
    เอดีน่า ทำใจดีๆ เอาไว้นะ" มินางิรีบเข้าไปพยุงตัวเอดีน่า

    "ปลอดภัยดีนะคะ คุณมินางิ" เอดีน่าพูดเสียงหอบ

    "ยัยบ้า ทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม..."
     

    แต่มินางิพูดยังไม่ทันจบ ดาบไม้เจ้ากรรมทั้งสองเล่มก็พุ่งสวนเข้ามาอีก คราวนี้เรนริหวังจะเผด็จศึก โดยให้ดาบไม้โจมตีพร้อมกันทั้งสองคน ดาบไม้ทั้งสองหมุนควงด้วยความเร็วสูงก่อนจะพุ่งเข้าใส่ทั้งมินางิและเอดีน่า


    "
    เปรี๊ยะ!!" เสียงอะไรบางอย่างหัก


                   
    มินางิเอาตัวเข้ารับการโจมตีของดาบไม้โดยใช้แขนซ้ายเข้ารับการโจมตีของดาบไม้สีแดง แต่แขนขวารับการโจมตีของดาบไม้สีดำไม่ทันจึงโดนฟันเข้าที่เอว แต่มินางิก็เปลี่ยนทิศทางของดาบไม้ไม่ให้โดนจุดตาย มินางิระเบิดพลังไฟฟ้าออกมารอบๆ ตัว จนเกิดแรงระเบิด ดาบไม้ทั้งสองพุ่งเข้าหาเจ้าของเดิม ส่วนมินางิก็ทรุดลงไปกับพื้นอีกครั้ง


    "
    คุณมินางิ เป็นอะไรไหมค่ะ" เอดีน่าทำเสียงตกใจเพราะกลับกลายเป็นฝ่ายโดนปกป้อง

    "อุ้ย...เจ็บชะมัดยาดเลย ดูท่าแขนซ้ายกับซี่โครงขวาจะหักแล้วสิ" มินางิยังฝืนยิ้มแต่ทำเอาเอดีน่าน้ำตาคลอ

    "คุณมินางิ ทำไมถึงเอาตัวเข้ารับการโจมตีล่ะคะ" เอดีน่าเข้าผยุงตัวของมินางิแต่ทำได้ยากเพราะตนก็บาดเจ็บไม่น้อย

    "ทีเมื่อกี้เธอยังปกป้องชั้นเลย ทำไมชั้นจะทำไม่ได้ล่ะ" มินางิพูดเสียงหอบ

    "ต...แต่ว่า..."

    "เอาล่ะ สั่งเสียกันเสร็จแล้วสินะคะ คราวนี้ดิฉันจะทำให้พวกคุณได้สบายเดี๋ยวนี้แหละ" เรนริเดินกำดาบไม้ทั้งสองจนแน่นแล้วค่อยๆ เดินเข้ามาหาทั้งสองอย่างช้าๆ

    "ทำยังไงดีล่ะคะ แบบนี้มีหวังพวกเราได้ตายกันหมดแน่" เอดีน่าทำเสียงรน

    "เอดีน่า เอียงหูมานี้ซิ ชั้นมีแผนดีๆ แล้ว" มินางิกระซิบอะไรบางอย่างให้เอดีน่าฟัง

    "บ...แบบนั้นจะได้ผลเหรอคะ"

    "ยังไงก็เป็นวิธีสุดท้ายแล้วล่ะ ชั้นเชื่อใจเธอนะ ฝากด้วยล่ะ" มินางิค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง


                   
    เรนริไม่รอช้า พุ่งตัวเข้าใส่ทั้งสองด้วยความเร็วอีกครั้ง เอดีน่าดันมินางิแล้วใช้เถาวัลย์ดีดตัวเองให้พุ่งไปคนละทาง เรนริเห็นมินางิบาดเจ็บจนแทบขยับไม่ได้แล้วจึงหันไปโจมตีเอดีน่า เอดีน่าเรียกรากไม้พุ่งเข้าใส่เรนริ แต่เรนริกลับใช้ดาบไม้ฟันรากไม้จนขาดได้อย่างง่ายๆ เหมือนใช้ดาบจริง


    "
    อะไรกัน ทำไมดาบไม้นั้นถึงตัดรากไม้ได้ล่ะ" เอดีน่าทำเสียงตกตะลึง

    "ไม่เห็นจะแปลก นักดาบที่ฝึกดาบมาจนเชี่ยวชาญแล้ว แม้ดาบไม้ก็ใช้ตัดเหล็กได้"

    "งั้นถ้าโดนดาบนั้นเข้าไปก็ไม่ต่างอะไรกับดาบจริงเลยนะสิ"

    เรนริไม่รอช้า แทงดาบเข้าใส่เอดีน่าด้วยความเร็ว การโจมตีของดาบพุ่งทะลุตัวของเอดีน่าไป แต่เรนริก็ต้องตกใจเพราะจุดที่ตนแทงใส่นั้นกลับกลายเป็นตอไม้ที่ยึดรากลงพื้น


    "
    พฤกษาพันธนาการ"

                    มีรากไม้และเถาวัลย์นับสิบพุ่งขึ้นมาจากพื้นแล้วรัดข้อมือ เท้า ขา ดาบ และร่างกายของเรนริ สาวใช้ร่างเล็กไม่สามารถขยับร่างกายได้ และไม่สามารถดึงดาบที่ปักคาตอไม้ได้ เอดีน่าที่ทุ่มพลังสุดตัวกับการพันธนาการตัวเรนริ เธอใช้มือสัมผัสกับพื้นดินแล้วปล่อยพลังผ่านดินโดยตรงเพื่อให้รากไม้และเถาวัลย์รัดตัวเรนริให้แน่นขึ้น


    "
    นั้นคุณคิดจะทำอะไรกัน" เรนริถาม

    "ก็จับตัวคุณให้อยู่เฉยๆ นะสิค่ะ" เอดีน่าตอบ

    "ของแค่นี้จับดิฉันได้ไม่นานหรอก" เรนริเริ่มแสดงท่าทีขัดขืน

    "แค่เสี้ยววินาทีก็พอถมเถือแล้ว" เสียงของมินางิดังขึ้น


                   
    เรนริหันไปมองมินางิแล้วก็ต้องประหลาดใจ มินางิชาจน์พลังไฟฟ้าเต็มที่ไว้ที่มือทั้งสองข้าง ถึงแม้แขนข้างซ้ายจะหักอยู่ แต่มินางิก็พยายามทนต่อความเจ็บจนมีเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลเต็มใบหน้า และสีหน้าก็บงบอกถึงความเจ็บปวดอย่างมาก มินางิเหวี่ยงแขนทั้งสองข้างไปด้านหน้าอย่างเต็มกำลัง


    "
    ไลท์เทนนิ่งมาสเตอออออออออออออออร์"

    "ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม"

                    คลื่นไฟฟ้าที่มีพลังทำลายขนาดยักษ์โหมกระหน่ำเข้าใส่เรนริเข้าอย่างจัง พลังการทำลายล้างมีมากจนทะลุกำแพงคฤหาสน์จนออกไปด้านนอกแล้วกระทบเข้ากับภูเขาจนเกิดแรงระเบิดมหาศาล พลังการทำลายกินพื้นที่เป็นวงกว้างจะบริเวณรอบๆ ถูกดูดเข้าไปในคลื่นไฟฟ้าขนาดใหญ่ และเกินแรงสั่นสะเทือนขึ้น


    [


                   
    ภายในคฤหาสน์ราตรีชั้นใต้ดินซึ่งเป็นห้องทดลองของเรยะ ภายในห้องเรยะที่ทำการผสมยาในหลอดแก้วอยู่ยังต้องหยุดมือเพราะแรงสั่นสะเทือน


    "
    นี้มัน ไลท์เทนนิ่งมาสเตอร์...มินางิมาเหรอ" เรยะหลุดปากออกมา

    "ดูท่าแขกวันนี้จะทำให้คฤหาสน์ของชั้นเสียหายไม่น้อยเลยนะ" เสียงของรูบีเรียลอยเข้ามาที่หูของเรยะ ทำเอาเรยะสะดุ้งเล็กน้อย

    "คิดอะไรของเธออยู่น่ะ รูบี้" เรยะหันไปมองรูบีเลียที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนอากาศ ที่มุมปากยิ้มด้วยความปิติ

    "ก็แค่นึกสงสารแขกที่มาหาก็แค่นั้นแหละ"

    [


                   
    มินางิยืนค้างอยู่ในท่าที่ปล่อยพลังออกไป ที่มือทั้งสองเกิดควันขึ้น และมีควันฟุ้งไปทั่วบริเวณ มินางิลดมือลง และหอบหายใจ เอดีน่ายังคงมองผ่าเข้าไปในกลุ่มควันเพื่อหาตัวเรนริ เมื่อควันเริ่มจากลงก็ปรากฏเป็นพื้นที่ที่ถูกพลังทำลายจนหายไปเป็นแถบ


    "
    หายไปเป็นแถบเลย แบบนี้จะเหลือซากไหมเนี้ย" เอดีน่านั่งเหงื่อตก เธอรู้สึกว่ารากไม้และเถาวัลย์ที่ตนใช้ยึดตัวเรนริก็สลายไป และคิดว่าเรนริที่โดนพลังอย่างจังจะเป็นอย่างไรมั่ง

    "เอดีน่า!...อันตราย!!...หนีไป!!!" มินางิตะโกนบอกเอดีน่า


                   
    เรนริที่ยืนมีควันฟุ้งรอบตัวมายืนอยู่ด้านหลังของเอดีน่า พอเอดีน่าหันหลังกลับไปมองก็โดนลูกเตะของเรนริเข้าที่กลางลำตัว จะเอดีน่าลอยพุ่งไปชนเข้ากับกำแพงจนเกิดรอยแตกและยุบลงไป เอดีน่าล้มลงหมดสติที่พื้น


    "
    เอดีน่า!!!" มินางิตะโกนร้องเรียกเอดีน่า แต่เธอสลบ และไม่แน่นิ่งไป แล้วเธอต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรนริเดินมาหาเธอ

    "ท...ทำไมกัน โดนท่าไม้ตายของชั้นเข้าไปแล้วทำไมถึงไม่เป็นอะไร...เธอมันตัวอะไรกันแน่" มินางิตาค้างเมื่อหันไปจ้องมองเรนริ

    "ความจริงดิฉันใช้ไพ่ตัดรากไม้ที่พันตัวรอบดิฉันเอาไว้ได้ แล้วใช้ผนึกอาคมคุ้มกาย จากยันต์คุ้มกายทั้งห้าของดิฉันป้องกันไว้ แต่ก็คงกันได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าโดนอีกทีก็แย่เหมือนกัน" เรนริอธิบาย

    "ยันต์คุ้มกาย แบบเดียวกับอายะงั้นรึ" มินางิรีบเอามือล่วงเข้าไปในเสื้อเพื่อจะหยิบกล่องเก็บพลังเวทย์

    "ช้าไปค่ะ"

                    เรนริพุ่งตัวเข้ามาใกล้มินางิอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอง้างดาบไม้ทั้งสองขึ้นสูง


    "
    ฉั๊วะ"


    [


    "
    อืม..." อายะค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา "เกิดอะไรขึ้นกันเนี้ย"

                    อายะที่ลืมตาตื่นขึ้น ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ แล้วเริ่มทบทวนความทรงจำในหัวอีกครั้ง เธอจำได้ว่าโดนเรนริโจมตีใส่จนตัวเองสลบลงไป จากนั้น...


                   
    แล้วอายะก็ต้องตาค้างเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของตน มินางิที่นอนจมกองเลือดโดยใบหน้าซุกกับพื้น ส่วนเอดีน่าที่นอนพาดกำแพงคฤหาสน์ ล้มตัวลงนอนกับพื้นอย่างไม่ได้สติ มีเศษกำแพงตกใส่เอดีน่าเล็กน้อย โดยระหว่างสองคนนั้นมีสาวใช้ร่างเล็กที่กำดาบไม้ที่เปื้อนเลือดไว้แน่น ก่อนที่สาวใช้คนนั้นจะหันมามองอายะ


    "
    ฟื้นแล้วเหรอค่ะ ทั้งๆ ที่นอนไปแบบนั้นจะสบายกว่าแท้ๆ" เรนริพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์

    "น...นี้เธอเป็นคนทำเหรอ" อายะตาค้าง

    "ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ แล้วดิฉันจะส่งคุณตามไปด้วยเอง" เรนริพาดดาบไว้ตรงหน้า แววตาฉายประกายนักฆ่า

    "แกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

                    อายะสติขาดผึง พุ่งตัวเข้าใส่เรนริด้วยความเร็ว ทำเอาโบว์ที่ผูกผมหลุดออก ผมที่ยาวสลวยของเธอสะบัดพลิ้วกับอากาศ เรนริไม่รอช้า พุ่งเข้าใส่อายะตาม เธอฟาดดาบเข้าใส่อายะ อายะรับการโจมตีด้วยไม้ไล่ผี เรนริใช้แรงปัดไม้ไล่ผีให้กระเด็นออกไป แต่คราวนี้อายะออกแรงมากกว่าเดิมแล้วใช้ไม้ไล่ผีปัดดาบของเรนริให้ออกห่าง เรนริใช้ดาบอีกเล่มฟาดเข้าใส่ แต่อายะใช้ความเร็วปัดดาบอีกเล่มให้ออกห่างได้อีก แล้วใช้มือซ้ายชกเข้าตรงหน้าของเรนริจนหันออกขวา เรนริเลือดกบปาก อายะเตะเข้าที่ชายโครงของเรนริ และกระหน่ำหมัดเข้าที่ใบหน้าของเรนริ สาวใช้ที่กำลังหน้าหง่ายอยู่นั้นก็ได้ปาไพ่ใส่อายะ แต่ดูเหมือนอายะจะไม่สนแล้วถีบเรนริจนกระเด็นติดกำแพง มิโกะสาวสะบัดปลายแขนเสื้อเพื่อปัดไพ่ที่พุ่งเข้ามา แล้วพุ่งตัวเข้าไปชกเรนริ เรนริเตะส่วนอายะ แต่สภาพของเรนริดูจะเสียเปรียบกว่า อายะกันการโจมตีได้ แต่เรนริโดนหมัดของอายะเข้าอย่างจัง


    "
    รวมจิตสลายมาร"

                    อายะสร้างอาคมบอลพลังไว้ที่ฝ่ามือแล้วกระแทกเข้ากับอกของเรนริจนเกิดระเบิดขึ้น เรนริทะลุกำแพงคฤหาสน์ออกมาด้านนอก แล้วไถลไปกับพื้น อายะหายตัวมาอยู่เหนือหัวของเรนริแล้วพุ่งตัวลงมาเหยียบเข้าเต็มที่ เรนริหมุนตัวหลบการโจมตีอย่างฉิวเฉียด


    "
    วจีบุบผา"



     

                    เรนริหมุนตัวจนลอยขึ้น ไพ่นับร้อยพุ่งออกมารอบๆ ตัว อายะไม่ทันหลบการโจมตีของไพ่ จึงใช้ยันต์คุ้มกายป้องกัน แต่ไม่สามารถป้องกันการโจมตีไว้ได้มาก จึงใช้ไม้ไล่ผีช่วยปัดอีกครั้ง เรนริหายตัวไปจากตรงหน้าของอายะ แล้วมาปรากฏอยู่ด้านหลัง


    "
    ลำนำแห่งสายเลือด"

                    เรนริฟาดฟันดาบด้วยความเร็วสูงมาก จนเกิดรัศมีเป็นวงกว้าง เชือดเฉือนเสื้อและผิวหนังของอายะรอบๆ อายะใช้ไม้ไล่ผีกันการโจมตี แต่ก็ยังโดนโจมตีอยู่ เลือดจากบาดแผลไหลกระเซ็นไปตามรัศมีของดาบจนเกิดเป็นสีแดงฉาด อายะโดนท่าของเรนริรั่วการโจมตีใส่เข้าไปหลายสิบที จนเริ่มจับจุดได้ เรนริเห็นว่าอายะพอเริ่มจับจุดได้จึงฟาดดาบเข้ากลางลำตัวอายะจนกระเด็นไปไกล เรนริพุ่งตัวตามอายะไป เธอง้างดาบเพื่อหวังจะฟันจุดตาย แต่ก็ต้องชะงักเพราะเห็นอายะประกบยันต์สองใบเข้าด้วยกัน


    "
    รวมผนึก ประสานเวทย์"

                    เกิดคลื่นพลังซัดเข้าใส่เรนริเข้าอย่างจัง เรนริอาบคลื่นพลังที่เกิดจากยันต์สองใบเข้าไปจนลอยสูงขึ้นฟ้าแล้วกระแทกลงมาบนพื้นอย่างแรง อายะลุกขึ้นยืนหลังจากที่ล้มลงกับพื้นเพราะการโจมตี แล้วสำรวจเรนริที่นอนกองอยู่บนพื้น


    "
    ชนะรึยังเนี้ย"

                    แต่อายะก็ต้องตกใจ เพราะเรนริค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ รอบๆ ตัวเรนริมีบาดแผลอยู่เต็มไปหมด แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ใส่ใจกับบาดแผลเลยซักนิด และยังคงทำสีหน้าไร้อารมณ์ อายะจึงใช้ตาทิพย์เพ่งมองไปที่พลังวิญญาณของเรนริ แล้วก็ต้องตกใจ


    "
    เธอ...ไม่ใช่มนุษย์แล้วนี้ เธอเป็น..."

    "อันเดธ..." เรนริตอบ "ใช่แล้ว ดิฉันเป็นอันเดธ หรือมนุษย์ที่เคยตายไปแล้วครั้งนึงนั้นเอง"

    "เพราะงั้น ไม่ว่าจะโจมตีมายังไง ดิฉันก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยซักนิด" เรนริใช้ผ้าเช็ดเลือดที่อยู่บนใบหน้าก่อนจะมองไปทางมินางิและเอดีน่า

    "ช่างเป็นการโจมตีที่เปล่าประโยชน์ และสิ้นคิดจริงๆ " มีรอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนหน้าเรนริ

    "เธอว่ายังไงนะ" อายะเริ่มรู้สึกฉุนขึ้นมาทันที

    "ก็บอกแล้วไงว่าเปล่าประโยชน์ ถึงแม้พวกคุณจะเก่งซักไหนแต่ก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น ถ้าพลังหมดก็รู้สึกอ่อนแรง แต่ดิฉันไม่ใช่ ร่างกายของดิฉันถูกสั่งจากสมองให้ทำงานได้ตลอดเวลา และไม่ต้องใช้พลังกายมากมายนัก ดังนั้น ดิฉันจะให้เลือกโอกาสสุดท้าย...ว่าจะยอมตายดีๆ หรืออยากจะตายอย่างทรมาน"

                    เรนริตวัดดาบเป็นวงกว้าง รอบตัวของเธอเกิดเป็นออร่าสีแดงและดำฉายรอบตัว กลุ่มออร่าไหลไปตามร่างกายของเรนริแล้วไปรวบรวมกันที่ปลายดาบไม้ทั้งสอง แต่ปลายดาบเกิดแรงสั่นสะเทือนผิดสังเกต เรนริหันไปมองอายะ


    "
    เธอบอกว่าเปล่าประโยชน์งั้นเหรอ มันจะดูถูกกันมากเกินไปแล้วนะ" อายะก้มหน้าจนผมปกหน้า เธอเริ่มท่องคาถาด้วยความเร็ว ผมของอายะเริ่มสะบัดปลายขึ้นฟ้า มีออร่าสีขาวไหลออกมาจากร่าง บริเวณรอบๆ เกิดแรงสั่นสะเทือน แม้แต่ร่างกายของเรนริก็สั่นไปด้วย

    "น...นี้มัน ดูท่าจะไม่ดีแล้วสิ จะให้ท่านรูบีเลียเจอกับคนๆ นี้ไม่ได้แล้ว" เรนริกำดาบในมือไว้แน่น ก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่อายะ

    "ขอโทษด้วยนะ คงต้องใช้ท่านี้กับคุณซะแล้ว" เรนริเพิ่มความเร็วให้มากขึ้น

    "1 ดาบผ่าฟ้า"

    "2 ดาบผ่าปฐพี"

    "3 ดาบทลายพิภพ"

                    เรนริพุ่งตัวเข้าประชิดอายะภายในพริบตา


    "
    เพลงดาบผ่ามิติรัตติกาล"

    "สัจจะเทวะ"

    "ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม"

                    เกิดแสงสีสีขาววนรอบไปด้วยแสงสีแดงและดำพุ่งขึ้นฟ้า เกิดการทำลายเป็นวงกว้าง กินพื้นที่รอบคฤหาสน์ บรรยากาศรอบๆ ลำแสงเกิดบิดเบี้ยว และเกิดรอยแยกของมิติขึ้น เรียวจินโซเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอย่างแรง


    [


    "
    เกิดอะไรขึ้นกัน" ฮิโยริสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากที่นอน ก่อนจะหันไปมองข้างนอกหน้าต่าง เห็นแสงสีขาวพุ่งขึ้นฟ้า มาจากทางคฤหาสน์ราตรี แรงสั่นสะเทือนทำให้ฮิโยริเซเล็กน้อย เธอจับขอบหน้าต่างและมองออกไปด้านนอก
    "ไม่ใช่เล่นๆ แล้วนะเนี้ย พลังขนาดนี้ทำเอา เรียวจินโซ พังได้เลยนะเนี้ย" ฮิโยริมองตาค้าง


    [


                   
    อลิสสะดุ้งตื่นขึ้นมาเล็กน้อยจากแรงสั่นสะเทือน เธอหันออกไปดูนอกหน้าต่าง แต่เพราะมีภูเขาปกคลุมอยู่รวมทั้งท้องฟ้ายังคงมืดอยู่ ทำให้เธอนึกว่ายังเป็นตอนกลางคืน จึงล้มตัวลงนอนต่อ
    และยังมีอีกหลายคนในเรียวจินโซ ที่สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนและพลังการทำลายล้างอันมหาศาลได้ จึงเริ่มจับตามองการต่อสู้อย่างเงียบๆ


    [


    "
    พลังอะไรกัน ทำไมมันมหาศาลขนาดนี้" เรยะมองขึ้นเหนือหัว

    "ก็จะอะไรซะอีก เรนริ ใช้เพลงดาบผ่ามิติรัตติกาล นะสิ" รูบีเลียนั่งชันเข่า

    "ว่าไงนะ ยัยนั้นคิดจะทำลายคฤหาสน์แห่งนี้รึไงกัน ใครกันนะที่ทำให้เรนริต้องใช้ท่านี้ หวังว่าคงไม่ใช่มินางิหรอกนะ ชั้นไม่อยากให้เธอต้องตาย" เรยะทำน้ำเสียงเป็นห่วง

    "ไม่ใช่หรอก แล้วเรนริก็ดูท่าจะแพ้ซะแล้วด้วยสิ" รูบีเลียยิ้ม

    "หือ...เรนริใช้ท่านี้แล้วแพ้เนี้ยนะ จะเป็นไปได้ยังไงกัน" เรยะทำเสียงตกใจ

    "น่าสนใจจริงๆ ดูท่าชั้นต้องไปเตรียมตัวรับแขกซะแล้วสิ" แล้วรูบีเลียก็สลายตัวไปพร้อมกับความมืด

    "เดี๋ยวก่อนสิ รูบี้ ชั้นยังไม่เข้าใจ..." แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับ เรยะถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวในห้องทดลองแล้ว


    [


                   
    หลังจากควันที่ฟุ้งกระจายรอบๆ คฤหาสน์เริ่มจากหายไป ปรากฏ อายะที่ยืนอยู่เหนือหัวเรนริที่นอนแผ่อยู่บนหลุมกลางสวนของคฤหาสน์ที่ยุบลงไปจนลึก เรนริมองหน้าอายะ


    "
    ไม่น่าเชื่อเลย ชั้นแพ้เหรอเนี้ย" เรนริพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์

    "บอกแล้วว่าอย่างมาดูถูกกันให้มากนัก" อายะเอายันต์สีเหลืองมาติดบนหน้าของเรนริ

    "นี้มัน..."

    "ยันต์นั้นจะดูดพลังจากตัวเธอมารักษาร่างกายของเธอ แต่เธอจะขยับตัวไม่ได้ซักพักล่ะนะ"

    "เธอทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน"

    "อย่าเข้าใจผิดสิ ชั้นใช้ยันต์นี้เพื่อไม่ให้เธอขยับตัวได้เท่านั้น เพราะเดี๋ยวเธอจะมาโจมตีชั้นอีก ไอ้ชั้นก็ไม่อยากสู้กับเธออีกหรอก เพราะเธอเป็นคนแรกนะที่ทำให้ชั้นใช้ท่าไม้ตายออกมาได้"

    "รู้ดีจังนะ แน่นอนว่าถ้าชั้นขยับตัวได้ ชั้นจะจัดการเธอต่อแน่" เรนริส่งยิ้มให้อายะ

    "พอเหอะ ชั้นจะไปดูเพื่อนชั้นล่ะ นอนอยู่ตรงนี้นิ่งๆ ก็แล้วกัน"

    "อืม..." มินางิลืมตาตืนขึ้นมา

    "คุณมินางิฟื้นแล้ว" เสียงหวานๆ ของเอดีน่าที่ดูท่าทางโล่งอก มินางินอนอยู่บนตักของเอดีน่า

    "เอดีน่า นี้ชั้นเป็นอะไรไปเหรอ" มินางิค่อยๆ ทบทวนความทรงจำในหัว ก่อนจะนึกขึ้นออก

    "จริงสิ พวกเราสู้กับเรนริอยู่นี้ แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง" มินางิลุกพรวดขึ้นมากระแทกเข้ากับคางของอายะ จนหงายหลังแล้วล้มลงกับพื้น

    "เจ็บนะ ทำบ้าอะไรของเธอ" อายะลุกขึ้นและเริ่มตะโกนเสียงดัง แล้วใช้มือลูบคางตัวเอง

    "อ้าวอายะ เธอฟื้นแล้วเหรอ" มินางิเอามือลูบหัวตัวเอง

    "นั้นมันคำพูดชั้น เธอสิ โดยยัยสาวใช้นั้นอัดซะแขนกับซี่โครงหัก นี้ยังดีที่เอดีน่าใช้เวทย์รักษาได้ ไม่งั้นเธอคงตายไปแล้ว" อายะบ่น

    "เอ่อ...แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น" มินางิถาม

    "คุณอายะชนะคุณเรนริได้แล้วล่ะค่ะ เลยมาปลุกชั้นให้มารักษาคุณมินางิ" เอดีน่าตอบ

    "โห เก่งจังอายะ เอาชนะเรนริได้ยังไงกัน ยัยนั้นมันซอมบี้ชัดๆ" มินางิทำหน้าประหลาดใจ

    "ก็เพราะไม่ใช่มนุษย์นะสิ ถึงได้เอาชนะได้ ถ้าเป็นคนจริง ชั้นยังไม่แน่ใจเลยว่าจะเอาชนะยังไง" อายะถอนหายใจ

    "หมายความว่ายังไง"

    "เธอก็น่าจะรู้นี้ ชั้นเป็นมิโกะปราบปีศาจนะ ไม่มีปีศาจหรือผี ตัวไหนที่ชั้นปราบไม่ได้หรอก"

    "งั้นเราเข้าไปในตัวคฤหาสน์เถอะ จะได้จบเรื่องนี้กันซะที" มินางิค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

    "เออ...ขอโทษด้วยนะคะ แต่ดิฉันขอพักอยู่ตรงนี้ก่อนได้ไหม ดิฉันใช้พลังในการรักษามากเกินไป ตอนนี้หมดแรงแล้ว" เอดีน่านั่งพิงกำแพง

    "งั้นเธอพักอยู่ตรงนี้แล้วกัน ชั้นเข้าใจว่าการใช้เวทย์รักษามันเปลืองพลังชีวิต เอาไว้ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกชั้นก็แล้วกัน" อายะลูบหัวเอดีน่า

    "ขอบคุณค่ะ" แล้วเอดีน่าก็นั่งหลับไป

    "ดูท่ายัยนี้จะเหนื่อยจริงๆ แฮะ คงเพราะเธอไม่เคยต่อสู้ติดต่อกันเป็นเวลานาน แถมยังไม่มีแสงอาทิตย์อีก ยังไงยัยนี้ก็เป็นต้นไม้นี้นะ" มินางิเอานิ้วจิ้มไปที่แก้มของเอดีน่า


    "
    ผนึกอาคมคุ้มกาย"

                    อายะใช้ยันต์ปิดล้อมตัวเอดีน่าไว้ เกิดคลื่นพลังคุ้มกายล้อมรอบตัวเอดีน่า

    "พักให้สบายนะ"

    แล้วอายะกับมินางิก็วิ่งเข้าไปในตัวคฤหาสน์ราตรี โดยทั้งคู่ไม่ได้สังเกตเห็นว่าท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์ราตรีได้เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนเลือดไปแล้ว

    "หึๆๆ เชิญเข้ามาได้เลย แขกผู้น่ารักของชั้น"


    [

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×