คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ป่าลวงตา
"นี้ อายะ ชั้นหิวข้าวแล้วอะ" เสียงเอื่อยๆ ของมินางิที่กำลังเดินตามอายะ
"หนวกหูน่า บ่นอยู่นั้นแหละ ถ้าวันนี้หาของกินมาได้ไม่ได้ก็อดกันหมดนั้นแหละ" อายะเริ่มหัวเสีย
"..." อลิสเดินกอดหนังสือตามหลังต้อยๆ
สาวน้อยทั้งสามคนกำลังเดินลุยป่า ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายส่องปะหน้า มีเหงื่อไหลจากหน้าของมินางิทั้งๆ ที่เธอก็ใส่หมวกใบใหญ่ก็ยังไม่สามารถบังแดดได้ อายะใช้ไม้ไล่ผี ปัดกิ่งไม้ และพุ่มไม้ที่อยู่ตรงหน้าเพื่อเดินฝ่าป่า และมองหาของที่ดูจะกินได้
"ฮืม...ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะพวกเธอนั้นแหละ" อายะหันกลับไปบ่น
[
ที่ศาลเจ้าโดเมียวยะ มินางิ และอลิส เข้ามานั่งกินข้าวที่อายะทำอย่างสบายอารมณ์ ทำเอาอายะเริ่มฉุน
"นี้พวกเธอ ไม่มีจะกินกันรึไง ถึงมาขอข้าวที่นี้กินอยู่นั้นแหละ" อายะบ่น
"มีมันก็มีอยู่หรอก แต่ป่านนี้คงเสียไปแล้วมั่ง แล้วชั้นก็ชอบอาหารฝีมืออายะมากกว่า" มินางิพูดพร้อมกับกินข้าวต่อ
"มินางิไปไหน อลิสก็จะไปด้วย แล้วอลิสก็อยากเจออายะด้วย ก็เลยตามมา" อลิสตักกับข้าวเข้าปาก
"เอาแต่กินฟรีอยู่นั้น ชั้นจะกินแกลบอยู่แล้วนะ หัดบริจาคให้กับศาลเจ้าซะบ้างสิ (ชั้นจะได้มีกิน)" อายะยังไม่หยุดบ่น
"อายะอยากได้เงินบริจาคเหรอ เอาสิ อลิสมีเยอะเลย" แล้วอลิสก็เปิดหน้าหนังสือ เธอตบที่ปกหนังสือ มีเงินจำนวนมากไหลออกมาจากหน้าหนังสือ ทำเอาอายะตาค้าง
"แค่นี้พอมะ" อลิสชี้ไปที่กองเงินจำนวนมหาศาลที่กองอยู่บนพื้นห้อง
อายะยืนตัวสั้น แล้วรีบไปเอาอาหารมาเสิร์ฟเพิ่ม ยิ่งทำเอามินางิดีใจมากขึ้น รีบกินอาหารที่อายะเอามาเสิร์ฟให้อย่างสบายอารมณ์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลายวัน
"อะไรนะ!" อายะทำเสียงประหลาดใจ
"ก็อย่างที่บอกไปนั้นแหละ" มินางิซดชา อลิสเปิดหน้าหนังสือมาดูเล่น
"เธอจะบอกว่าที่นี้ไม่มีร้านขายของงั้นเหรอ" มินางิพยักหน้าให้อายะ
"มีเงินแต่ไม่มีร้านขายของ แถมตอนนี้เสบียงที่เก็บไว้ก็หมดแล้ว จะมาส่งอีกทีก็อาทิตย์หน้า อย่างนี้ชั้นก็อดตายนะสิ" อายะเอามือจับที่สีข้างทั้งสอง
"เอาน่า ไม่มีอะไรกินก็ไปหาเอาในป่าก็ได้นี้ ปกติพวกเราก็ทำแบบนั้นกันอยู่แล้ว" มินางิแนะนำ
[
"เพราะงั้นผลก็เลยออกมาแบบนี้ เข้าใจไหม พวกเธอก็ต้องช่วยชั้นหาของกินด้วยนะ" อายะพูดเสียงดัง แต่ก็ต้องตกใจ "นี้ ฟังอยู่รึเปล่า"
มินางินั่งพัก แล้วเอาหมวกพัดหน้าของตัวเอง ส่วนอลิสก็เปิดหน้าหนังสือ แล้วมีลมพัดออกมาเป่าที่หน้าของเธอจนผมปลิว
โป๊กๆๆ
"อายะ ยังหาไม่เจออีกเหรอ หิวจะตายแล้ว" มินางิเดินไหล่ตกที่หัวมีรอยบวมปูด
"..." อลิสที่เดินตามที่หัวก็มีรอยบวมปูดจากฝีมืออายะเหมือนกัน
"ก็ช่วยกันตั้งใจหาเร็วๆ เข้าสิ ชั้นก็หิวไม่แพ้กันหรอกนะ"
จากนั้นมินางิก็สังเกตเห็นกระต่ายตัวเล็กที่อยู่ในพุ่มไม้ เธอรีบดึงกระโปรงของอายะแล้วชี้ให้เห็นกระต่าย ก่อนจะย่องเข้าไปตะคลุบกระต่ายตัวน้อย
"จับได้แล้ว" มินางิดึงหูของกระต่ายตัวน้อยขึ้นมา และทำท่าเหมือนผู้ชนะ
"น...นั้นๆ"
อายะยืนตัวสั่นแล้วชี้ไปที่กระต่ายในมือของมินางิ อลิสเอามือปิดตา มินางิเริ่มงงกับการกระทำของทั้งสอง เลยหันไปมองกระต่ายที่ตัวเองจับ กระต่ายตัวนั้นฉีกยิ้มยิงฟันที่แหลมคมให้มินางิ ในปากของมันมีน้ำลายไหลเยิ้มออกมา มินางิหน้าซีด
"นั้นมันตัวคุดัง (เป็นปีศาจที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เมื่อเกิดมาจะทำนายแต่เรื่องร้ายๆ ให้กับผู้ที่ไปพบมัน จากนั้น มันก็จะตายทันที) รีบทิ้งไปซะ" อายะตะโกน
มินางิรวบรวมพลังไฟฟ้าไว้ที่หมัดแล้ววชกตัวคุดัง จนลอยหายไปบนฟ้า ก่อนจะทำท่าโล่ง อก
"เกือบซวยแล้วไหมล่ะ ถ้าโดนตัวคุดังนั้นทำนายให้ เธอก็จะเจอแต่โชคร้าย ดีไม่ดีถึงตายด้วยซ้ำ" อายะเตือน
"นั้นสิ ชั้นเคยเจอตัวแบบนั้นมาครั้งนึง ซวยไปเป็นเดือนเลย"
"แต่คำทำนายมันมีผลแต่กับมนุษย์ ก็เลยไม่น่ากลัวเท่าไหร่" อลิสอธิบาย
"เธอไม่ใช่มนุษย์ก็พูดได้นะสิ" อายะกับมินางิพูดเสียงดังพร้อมกัน
ทั้งสามยังคงเดินตามหาอาหารต่อไป ที่สิ่งที่เจอนั้นเป็นทั้งสารพัด ปีศาจไร้รูป แปลงตัวเป็นของกินมาหลอก อีกาผี ที่ตามบินวนเวียน สร้างความรำคาญให้ เห็ดพิษและหญ้าประหลาดที่ทำให้เกิดอาการคัน ดวงวิญญาณ และอีกสารพัด ทำให้ทั้งสามเกิดความรำคาญสุดๆ
"หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอซะที" อายะนั่งพิงมินางิ
"นั้นสิ หิวจนไม่มีแรงแล้ว ปกติหาไม่ยากขนาดนี้หรอก" มินางินั่งพิงอายะ
แล้วอลิสก็เสนอความเห็นออกมา
"นี้ มินางิ ทำไมมินางิไม่ไปหาเจ้าหญิงแห่งป่า เหมือนปกติดูล่ะ เพราะปกติมินางิก็ไปขออาหารจากเขาอยู่แล้วนี้"
"เออ...จริงด้วย ลืมไปซะสนิทเลย ว่ายังมียัยนั้นอยู่นี้" มินางิลุกขึ้นยืนอย่างดีใจทำเอาอายะที่นั่งพิง ล้มหัวฟาดพื้น
"จ...เจ็บๆๆ แล้วถ้างั้นทำไมไม่ไปกันตั้งแต่แรกเล่า" อายะลุกขึ้นยืน เอามือลูบหัว
"ก็เค้าลืมอะ" มินางิเอานิ้วชี้จิ้มแก้มของตัวเองทั้งสองข้าง แต่อายะกับอลิสไม่ขำด้วย
ทั้งสามเดินฝ่าป่า ผ่านต้นไม้ใหญ่ ผ่านหน้าผา เดินข้ามแม่น้ำ ผ่านน้ำตก ผ่านหินก้อนยักษ์ ผ่านฝูงปีศาจ และอื่นๆ อีกต่างๆ นานา จนมาถึงทุ่งดอกไม้กลางป่าที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงกลาง
"มาถึงแล้ว ที่นี้ไง" มินางินำเสนอ อายะและอลิสที่เดินตามมาหายใจหอบ
"นี้ขอถามอะไรอย่างสิ" อายะสูดลมหายใจเข้า
"อะไรเหรอ" มินางิทำหน้าเอ๋อ
"เข้ามาตั้งไกล ทำไมพวกเราไม่บินมาล่ะ ยังไงก็บินได้ทุกๆ คนอยู่แล้วนี้" อายะถาม
"ลืมอะตัว" มินางิทำหน้าเอ๋อหนัก เอากำปั้นค้อนไว้บนหัว แลบลิ้นออกมา
"เอาล่ะ ไปกันเถอะ" อายะเดินนำ อลิส จ้องมองไปที่มินางิที่ตอนนี้ นอนสิ้นสภาพ ใบหน้าถูกซ้อมมาอย่างเต็มที่
เมื่ออายะเดินมาถึงกลางทุ่งดอกไม้ มีสายลมแรงพัดผ่าน พร้อมพัดเอาดอกไม้ปริวขึ้นมารอบๆ ตัวอายะ และอลิส
"พวกคุณเป็นใคร ต้องการอะไรคะ" มีเสียงของหญิงสาวลอยมาตามลม
"เสียงใครน่ะ ไม่เห็นตัวเลย" อายะหันซ้ายหันขวา
"นี้ชั้นเองเอดีน่า มินางิไง ชั้นมาหาน่ะ" มินางิตะโกะไปที่ต้นไม้
"มินางิ...มินางิไหน ดิฉันไม่รู้จักนะคะ" เสียงนั้นกังวาลยิ่งขึ้น
"ทำเป็นลืม เดี๋ยวก็เตือนความจำด้วยวิธีนั้นซะหรอก" มินางิเดินไปที่ต้นไม้ อายะและอลิสเดินตาม
"วิธีนั้น...ม...ไม่เอานะคะ อย่านะคะ" เสียงนั้นตื่นตระหนก
"เจอเอดีน่าแล้ว" มินางิชี้ไปที่สาวน้อยผมทองสั้นที่คาดมงกุฎใบไม้และดอกไม้ สวมชุดกระโปรงสีขาวประดับด้วยใบไม้ แอบอยู่ในซอกของต้นไม้ สาวน้อยคนนั้นทำท่าลำบากใจ
"ไม่นะ ดิฉันไม่ใช่ เอดีน่า นะคะ" สาวน้อยคนนั้นนั่งปิดตา
"ถ้าเธอไม่ใช่เอดีน่า แล้วจะเป็นใคร เลิกเพ้อเจ้อซะทีน่า" มินางิเริ่มทำท่าเบื่อหน่าย
มินางิเดินเข้าไปจับแขนของสาวน้อยคนนั้น แต่เธอกลับรีบสะบัดมือหนี แล้ววิ่งไปหลบหลังต้นไม้อีกต้น มินางิวิ่งตามไปจับ แต่สาวน้อยคนนั้นก็วิ่งหนีไปแอบหลังต้นไม้อีกต้น อายะมองการกระทำของมินางิถึงกับเหงื่อตก
"นี้พวกเขาเล่นอะไรกันอยู่เหรอ" อายะถามอลิส
"ปกติก็แบบนี้แหละ ยัยต้นไม้นั้นกลัวมินางิ เพราะมินางิชอบทำแบบนั้นกับเธอ" อลิสอธิบาย
"แบบนั้นน่ะ มันแบบไหนเหรอ" อายะเริ่มสงสัย
แต่อลิสไม่ต้องอธิบาย อายะก็เริ่มจะเข้าใจแล้วว่า วิธีนั้นของมินางิที่ว่าคืออะไร หลังจากที่มินางิไล่ตามจับสาวน้อยคนนั้นอยู่นาน เธอก็จับตัวสาวน้อยคนนั้นได้เสียที แต่ลักษณะการจับ มินางิจับสาวน้อยคนนั้นจากด้านหลัง
"ม...ไม่นะ อย่านะคะ" สาวน้อยคนนั้นน้ำตาคลอเบ้า
"แฮ้กๆ ทำเอาฉันเหนื่อยเลยนะ แบบนี้มันต้อง..."
แล้วมินางิก็ประกบมือไว้ที่หน้าอกของสาวน้อย แล้วออกแรงบีบหน้าอกอันอวบอิ่มของสาวน้อยคนนั้นจากด้านหลัง สาวน้อยคนนั้นน้ำตาคลอเบ้าและส่งเสียงร้องออกมา มินางิยังไม่หยุดบีบ อีกทั้งยังลูบคลำลูบขึ้นลูบลงอย่างเป็นจังหวะ สาวน้อยคนนั้นพยายามดิ้นสุดใจ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่มีแรงเอาซะเลย
"อะไรกัน นี้ใหญ่ขึ้นนี้ ไม่ยุติธรรมเลย เธอทั้งสวย น่ารัก หุ่นดี อกก็โต แถมยังนุ่มอีก น่าอิจฉาชะมัดยาด อย่างนี้มันต้องบีบนวดเข้าไปอีก"
'เวรกรรม ชั้นจะเป็นลม -_-||' อายะคิด
อลิสที่นั่งดูการกระทำของมินางิเหมือนกับกำลังชมละครด้วยสายตานิ่งเฉย และก็ไม่รู้ว่าเธอเอาขนมมาจากไหน แต่เธอนั่งกินขนมไปด้วยดูไปด้วย
มินางิยังไม่หยุดบีบหน้าอกของสาวน้อยคนนั้น เธอพยายามสะบัดแขนอย่างสุดแรงเพื่อให้หลุดจากมินางิ แต่ยิ่งออกแรงมากก็ยิ่งอ่อนแรง มินางิยังคงสนุกอยู่กับการกระทำของตนเองไม่เลิก สาวน้อยคนนั้นเริ่มอ่อนละทวย ใบหน้าเต็มไปด้วยสีแดงไปหมดแล้ว
ผัวะๆๆ ผลักๆๆ โป๊กๆๆ
"นี้เธอเป็นอะไรมากไหม" อายะพยายามปลอบสาวน้อยผู้บอบบางและเริ่มจะร้องไห้ อายะจึงพยายามลูบหัว เพื่อให้เธอรู้สึกดี
"ทางนู้นคงไม่เป็นอะไรมาก แต่ทางนี้ท่าจะแย่เอานะ" อลิสหันไปถามอายะ ตัวเองนั่งยองๆ แล้วเอาไม้จิ้มมินางิที่นอนสิ้นสภาพ หลังโดนอายะอัด
"นิ่งซะนะๆ ไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่มีคนแกล้งเธอแล้ว" อายะลูบหัวสาวน้อยคนนั้นอย่างอ่อนโยน
"ข...ขอบคุณมากค่ะ ถ้าคุณไม่ช่วย ป่านนี้ดิฉันคง
" สาวน้อยคนนั้นสะอื้น น้ำตาคลอเบ้า
"แหมๆๆ แค่ล้อเล่นนิดหน่อยเท่านั้นเอง" มินางิเดินเข้ามาใกล้ แต่สาวน้อยคนนั้นก็ไปแอบหลังอายะ
"ถ้าเธอทำอะไรสาวน้อยคนนี้อีก ชั้นจะไม่ให้เธอกินข้าวอีก" อายะขู่ แต่ดูท่าจะได้ผล มินางิตาค้าง ปากอ้าไม่หุบ
"ช...ชั้นขอโต้ด >_/|_< ชั้นผิดไปแล้ว อภัยให้ชั้นด้วย ให้ชั้นกินข้าวฝีมือของอายะตลอดไปเถอะนะ ได้โปรด" มินางิก้มลงไหว้ น้ำตาไหลอาบ ขอโทษขอโพยยกใหญ่
"เข้าใจก็ดีแล้ว"
"ขอบคุณมากเลยนะคะ คุณ...เอ่อ...คุณ..." สาวน้อยคนนั้นอ้ำอึ้ง
"ชั้นมีชื่อว่า โดเมียวยะ อายะ เป็นมิโกะคนใหม่ของศาลเจ้าโดเมียวยะ" อายะแนะนำตัว
"ดิฉัน...','>_< เจ้าหญิงแห่งป่า เอดีน่า เดสตินี่ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" เอดีน่าทำท่าลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย
"อืม ยินดีที่ได้รู้จัก"
"เอ่อ...แล้วพวกคุณมา มีธุระอะไรเหรอคะ" เอดีน่าถาม
"ก็จะอะไรซะอีก ก็มาขออาหารไง" มินางิเริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง ทำเอาเอดีน่าตกใจ
"เอ๊...จะมาขออีกเหรอคะ ต...แต่ว่า..." เอดีน่าอ้ำอึ้ง
"ทำไมล่ะ ทุกทีก็เห็นมีเยอะแยะเลยนี้ จะแบ่งให้บ้างไม่ได้รึไง" มินางิทำท่าขู่
โป้ก
"บอกให้เลิกแกล้งเขาซักที ไม่เข้าใจรึไง" อายะโขกหัวมินางิอีกครั้ง
"นี้ มันเจ็บนะ วันนี้เธอโขกหัวชั้นไปกี่ทีแล้วเนี้ย" มินางิลูบหัวของตน
"ถ้าเธอไม่มีก็ไม่เป็นไรหรอก พวกชั้นแค่จะมาหาของป่าเอาไปทำอาหารน่ะ เพราะยัยสองตัวนี้ กินอาหารของชั้นซะหมด ลำบากแท้หนอ" อายะทำท่าเมินมินางิ
"เอ่อ...ถ้าอย่างนั้น ดิฉันจะแบ่งให้บ้างก็แล้วกันนะคะ แต่ก็มีไม่มากเท่าไหร่"
"ไม่หรอก แค่จะให้ก็ดีใจแล้ว"
แล้วเอดีน่าก็พาอายะเดินเข้าไปในป่า มินางิกับอลิสเดินตาม ทั้งสี่เดินฝ่าป่าเข้าไปถึงด้านในสุด และพบกับสวนผัก ผลไม้ ที่เอดีน่าปลูกไว้ อายะถึงกับตกตะลึง และมองไปรอบๆ สวน เอดีน่าเดินเข้าไปในกระท่อมที่อยู่ข้างๆ สวน พวกอายะยืนรออยู่ด้านนอก แล้วเอดีน่าก็เดินกลับมาพร้อมกับตะกร้าที่มีผักและผลไม้อยู่เต็ม
"ขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้แบ่งให้ได้แค่นี้จริงๆ เพราะเมื่อวันก่อน มีใครบางคนคันโซกุกัน เลยส่งผลกระทบ ทำให้ พืชผักภายในสวนเสียหายหมด ไว้คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกันนะคะ" เอดีน่ายื่นตะกร้าให้กับอายะ
"แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ ขอบใจเธอมากเลยนะ" อายะรับตะกร้ามาจากเอดีน่า
"แต่ก็ยังเป็นสวนที่กว้างใหญ่เหมือนเดิมเลยนะ เธอเนี้ยสุดยอดจริงๆ" มินางิชื่นชม
"ม...ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ -///-" เอดีน่าทำหน้าแดง
"แล้วเป็นการ คันโซกุ ของใครเหรอ สวนของเธอถึงได้เสียหายขนาดนั้น" อลิสถาม
"เอ่อ...ไม่รู้สิคะ แต่รู้สึกว่า จะโดนคลื่นพลังไฟฟ้าขนาดใหญ่ พุ่งเข้ามาทำลายถึงในสวนเลยนะค่ะ" เอดีน่าทำท่านึก
"คลื่นพลังไฟฟ้า..." อายะพูด
"ขนาดใหญ่..." อลิสหันไปมองมินางิ
มินางิยืนผิวปาก เหงื่อแตกพลัก แต่ทั้งอายะและอลิสก็ยังคงจ้องมองไปที่มินางิอยู่ ทำเอาเอดีน่าทำหน้าสงสัย
"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ" เอดีน่าถาม
"เปล่าๆ ไม่มีอะไรๆ" ทั้งสามพูดพร้อมกัน
"นี้ ไลท์เทนนิ่งมาสเตอร์ ของเธอมันแรงขนาดมาถึงที่นี้เลยเหรอ" อายะกระซิบ
"แหงะล่ะ ไม้ตายของชั้นนี้" มินางิยังคงทำเมิน
"ถ้ายัยต้นไม้นี้รู้เข้า ว่าเป็นฝีมือของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ" อลิสกระซิบ
"ไม่ต้องห่วง ยัยนี้เอ๋อจะตาย ไม่มีทางรู้หรอก ว่าชั้นเป็นคนทำ" มินางิทำหน้าตาย แล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง
"คือว่า ดิฉันได้ยินนะคะ" เอดีน่าทำหน้ามืด
มินางิทำหน้าซีด อลิสกำหนังสือไว้แน่น อายะเหงื่อตก แต่ดูเหมือนเอดีน่าจะไม่พูดดีด้วย ตอนนี้เธอเรียกไม้เท้าทรงสายฟ้าออกมา เธอแกว่งไม้เท่า มีใบไม้ลอยมาตามลม แล้ววนเวียนอยู่รอบๆ ตัวพวกอายะ
"เอ่อ...เดี๋ยวสิ เอดีน่า เราพูดกันดีๆ ได้ใช่ไหม" มินางิหน้าซีด
"ชั้นว่าเขาไม่ยอนนะ" อายะกระซิบ
"ทำไมล่ะคะ ทำไมต้องมาทำลายป่าของดิฉันด้วย" เอดีน่ายืนตัวสั่น
"เอ่อ...คือว่าชั้นขอโทษ...ชั้นเสียใจ" มินางิเริ่มหงอ
"มาทำป่าของดิฉันเสียหายเป็นแถบ คุณกับพูดแค่ว่าชั้นเสียใจเหรอ" ดูท่าเอดีน่าจะโกรธได้ที่แล้ว
"งึ
-A-||" มินางิซีดหนัก
"มาตัดสินกันด้วยการ คันโซกุ เถอะค่ะ ถ้าคุณชนะ ชั้นจะยกโทษให้ แต่ถ้าแพ้ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี้เลยนะคะ" ใบไม้รอบตัวพวกอายะกระจุยเป็นชิ้นๆ และเกิดลมกรรโชก
"อายะ ช่วยชั้นด้วย TAT||" มินางิเข้าไปเกาะอายะ
"ขอโทษด้วยนะ ชั้นช่วยเธอไม่ได้ พลังของชั้นมีไว้ใช้เพื่อสู้กับพวกปีศาจ และวิญญาณ ไม่ใช่สู้กับต้นไม้" อายะหลบหน้ามินางิ
"อลิส..." มินางิหันไปอ้อนอลิส
"เวรย่อมระงับด้วยการจองเวร" อลิสพูด อายะเหงื่อแตก
"ง่ะ...-A-" มินางิอ้าปากค้าง
เอดีน่าเรียกใบไม้ที่อยู่บนพื้น ให้ลอยขึ้นมารอบตัว แล้วเธอก็กระแทกไม้เท้ากับพื้น
"กระสุนใบไม้"
ห่าใบไม้นับร้อยพุ่งตรงมายังมินางิ อายะกับอลิสกระโดดหนีหายไปกันคนละทาง ทิ้งไว้ให้มินางิรับกรรม มินางิกระโดดเข้าป่าหวังจะหลบกระสุนใบไม้ แต่ใบไม้เหล่านั้นคมยิ่งกว่ามีดเสียอีก ใบไม้พวกนั้นตัดผ่านพุ่มไม้ กิ่งไม้ แล้วพุ่งเข้าใส่มินางิ
"ไลท์ติ้งเวป"
มินางิเรียกใยแมงมุมไฟฟ้า ขึ้นมากันการโจมตีของกระสุนใบไม้ แต่ก็รับได้ไม่หมด จนกระสุนใบไม้เฉี่ยวกระโปรงของมินางิขาดบางส่วน มินางิรีบวิ่งเข้าไปแอบหลังพุ่มไม้
"หวังว่ายัยนั้นคงหาเราไม่เจอนะ" มินางิแอบมองผ่านทางพุ่มไม้
"ตราบเท่าที่ยังคงอยู่ในป่านี้ ยังไงก็หนีดิฉันไม่พ้นหรอกนะคะ" เอดีน่าเข้ามากระซิบหลังหูของมินางิ
มินางิรีบกระโจนออกจากพุ่มไม้ แล้วทำการหนีอีกครั้ง เธอเรียกไม้กวาดออกมา แล้วพยายามขี่พุ่งออกไปเหนือป่า แต่ก็ต้องติดขัด เพราะไม้กวาดของเธอถูกรากไม้รัดไว้ รากไม้นั้นดึงไม้กวาดของเธอให้ต่ำลงเรื่อยๆ ก่อนจะรัดแน่นจนไม้กวาดของมินางิหัก มินางิร่วงลงกับพื้นพร้อมทั้งน้ำตา อายะบินโฉบไปรับตัวมินางิไว้
"อ้า...อายะ วีรบุรุษของชั้น ชั้นรู้ว่าเธอจะต้องมาช่วย" มินางิน้ำตาคลอ
"นี้ ทำไมเธอไม่สู้กับเขาให้มันจริงจังหน่อยล่ะ เธอก็ใช่ว่าจะไม่เก่งนี้" อายะถาม
"จริงๆ แล้ว..." มินางิกระซิบข้างหูอายะ
"ว่าไงนะ หิวจนไม่มีแรงแล้ว" อายะเอามือตบหน้าผากตัวเอง
"แฮ่ๆๆ ก็เค้าหิวอะตัว" มินางิเอานิ้วชี้จิ้มกัน
"จะหนีไปไหนกันคะ" เอดีน่ายืนอยู่บนต้นไม้ ทำเอาอายะและมินางิสะดุ้ง
"คมหอกรากพฤกษา"
มีรากไม้จำนวนมากพุ่งเจ้าเสียบอายะที่กำลังอุ้มมินางิอยู่ อายะพยายามบินหลบการโจมตี รากไม้นับสิบพุ่งเข้ามาไม่หยุด อายะบินหมุนตัวไปรอบๆ เพื่อหลบปลายแหลมของรากไม้ ทำเอาหัวมินางิโขกกับกิ่งไม้เต็มๆ
"เจ็บๆๆๆๆๆ บินดีๆ หน่อยสิอายะ" มินางิโวยวาย
อายะชักฉุนมินางิ เลยปล่อยมือให้มินางิร่วงลงกับพื้น เธอร่วงลงบนพุ่มไม้อย่างแรง
"ยัยบ้า ปล่อยชั้นทำไม" มินางิยังไม่เลิกโวยวาย
"หุบปากซะทีน่า"
อายะหยุดอยู่กลางอาการ ตอนนี้เธอประกบมือ ท่องคาถาอะไรบางอย่าง แล้วเธอก็โยนเข็มนับร้อยเล่มออกจากภายใต้แขนเสื้อของเธอ เข็มเหล่านั้นพุ่งไปโดนรากไม้ รากไม้เหล่านั้นมุดกลับเข้าไปในดินอีกครั้งหนึ่ง
"ชั้นช่วยเธอได้แค่นี้นะ ถ้าเธอไม่มีแรง ก็เอาพลังจากในกล่องเก็บเวทย์ของเธอมาใช้ก่อนก็ได้นี้"
"เอ่อ...จริงด้วย ลืมไปเลย" มินางิหยิบกล่องเวทย์ทรงหกเหลี่ยมออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
"คราวนี้แหละ ชั้นจะได้เอาจริงซะที" มินางิสูบพลังเวทย์จากกล่องเข้าไปในตัว
"เจอตัวแล้ว" เอดีน่ายืนอยู่บนรากไม้ที่เลื้อยเข้ามาอย่างเร็ว
"เจอตัวก็เท่านั้น ตอนนี้ชั้นมีพลังเต็มเปี่ยมแล้ว เธอแพ้แน่" มินางิเริ่มรวมพลังไฟฟ้าไว้ที่ฝ่ามือทั้งสอง
"เอาไปกิน ไลท์เทนนิ่งมาสเตออออออออออออออออออออออออออร์(1/2)" มินางิปล่อยคลื่นพลังไฟฟ้าออกมาแต่มีขนาดเล็กกว่าที่ใช้กับอายะ
"พฤกษาพันธนาการ"
มีรากไม้เข้ามายึดขาของมินางิ ทำเอาเธอสูญเสียการทรงตัว กลายเป็นว่าเธอปล่อยคลื่นพลังขึ้นไปบนท้องฟ้า มินางิหยุดปล่อยพลังไม่ได้ เอดีน่ามายืนยิ้มอยู่ตรงหน้า มินางิทำหน้าซีดหลังจากที่ปล่อยพลังเสร็จ
"จัดการ!"
เอดีน่าสั่งให้รากไม้พุ่งเข้าโจมตีมินางิ การโจมตีของรากไม้เหมือนกับการชกหมัดรั่วออกไป มินางิหน้าหันซ้ายหันขวา เธอโดนรากไม้ชกไปทั่ว ก่อนรากไม้จะซัดมินางิให้ลอยขึ้นฟ้าไป มินางิล้มลงกับพื้น สิ้นสภาพนักศึกษา น่วมไปทั้งตัว
"เป็นไงคะ ยอมแพ้ซะเถอะค่ะ แล้วมารับกรรมอยู่ในป่านี้ซะดีๆ" เอดีน่ายืนอยู่ตรงหน้ามินางิ ที่ร้องโอดครวน และค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
"นี้ ชั้นโมโหขึ้นมาจริงๆ แล้วนะ อย่างนี้มันต้อง..." มินางิบ่นอุบอิบขณะที่กำลังลุกขึ้นมายืน
เกิดคลื่งพลังไฟฟ้าอยู่ที่เท้าของมินางิ จากนั้นเธอก็พุ่งตัวอย่างรวดเร็วไปคว้าตัวเอดีน่าที่ทันได้ตั้งตัว มินางิสไลด์ไปกับพื้นด้วยคลื่นไฟฟ้า เธอพุ่งเข้าใส่ต้นไม้ต้นใหญ่ แล้วเธอก็ไต่ไปตามลำต้นของต้นไม้อย่างเร็ว
"ปล่อยดิฉันนะคะ จะทำอะไรนะคะ" เอดีน่าส่งเสียงอย่างตื่นตระหนัก
"ท่าของเธอมันใช้ได้แต่บนพื้นนี้ เพราะฉะนั้นชั้นจะพาเธอไปเที่ยวบนฟ้าหน่อยนะ" มินางิยิ้ม
"บนฟ้า ม...ไม่น่า ปล่อยดิฉันนะคะ" เอดีน่าเริ่มรู้แล้วว่าตัวเองกำลังจะโดนอะไร
มินางิที่จับเอดีน่าไว้ พุ่งตัวออกจากยอดของต้นไม้ใหญ่ได้แล้ว เธอพุ่งตัวขึ้นสูงด้วยการเคลื่อนที่ของพลังไฟฟ้าของเธอ เอดีน่าโดนพาลอยขึ้นไปสูงมาก น้ำตาของเธอไหลพราก และเริ่มหน้ามืดเนื่องจากเห็นความสูงที่ถูกพาขึ้นมา ทั้งสองลอยสูงขึ้นไปจนเหนือเมฆ เอดีน่าหมดสติไปเรียบร้อย
"ฮ้าๆๆ แค่นี้ชั้นก็ชนะแล้ว" มินางิหัวเราะ แต่ก็ต้องหยุดเพราะหลังจากที่คลื่นพลังไฟฟ้าที่วิ่งอยู่รอบเท้าของเธอที่คอยส่งตัวให้ลอยอยู่บนฟ้า กลับสลายไป
"อ้าว พลังงานหมดซะแล้ว แล้วทีนี้ชั้นจะลงไปยังไงล่ะเนี้ย" มินางิมองลงไปที่พื้นเบื้องล่าง
"ง่า...แล้วเจอกัน"
ทั้งสองร่วงลงพื้นอย่างเร็ว เอดีน่าสลบไปกลางอากาศ ส่วนมินางิได้แต่น้ำตาร่วงไหลเป็นสายไปตามทางที่ร่วง ในใจคิดไว้ว่าคงไม่รอดแล้ว แต่อลิสก็ใช้อสูรคิเมร่าของเธอพุ่งตัวเข้าไปรับมินางิไว้ ส่วนอายะพุ่งขึ้นไปรับตัวเอดีน่าได้ทันเวลาก่อนทั้งสองจะตกลงสู่พื้น ทั้งอายะและอลิสพาทั้งสองคนลงสู่พื้นได้อย่างปลอดภัย
"อายะ อลิส ขอบใจพวกเธอสองคนมาก" มินางิพูดทั้งน้ำตา ส่งสายตาอ่อนวอนและเข้ามาเกาะอายะ
"หยุดนะ ทำอะไรน่ะ น่าคลื่นไส้" อายะสะบัดตัวให้มินางิหลุดออกจากตัว ก่อนจะไปดูอาการของเอดีน่า
อายะดึงยันต์ออกมา เธอใช้มือประสานกับยันต์ ที่ปลายของยันต์ส่องสว่าง และอบอุ่น บาดแผลตามตัวของเอดีน่าและมินางิได้หายไปแล้ว จากนั้นยันต์ที่อายะถืออยู่ก็สลายตัวไป
"นี้เธอ ไม่เป็นอะไรมากนะ" อายะก้มถามเอดีน่าที่กำลังรู้สึกตัว
"เอ่อ...คุณ...อายะ คือว่า ดิฉัน" เอดีน่าค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่ง
"เอาล่ะ ถ้าเธอฟื้นแล้ว ชั้นก็ขอตัดสินการคันโซกุครั้งนี้ ให้มินางิเป็นฝ่ายชนะ เพราะเธอสลบไปก่อน คงไม่มีอะไรแล้วนะ" อายะรีบพูดขึ้นมาก่อนที่ทั้งสองคนจะเริ่มต่อสู้กันอีก
"...เข้าใจแล้วค่ะ" เอดีน่าทำหน้าจ๋อย
"แต่ว่านะ" อายะเสริมต่อ
"มินางิ ยังไงเธอก็ต้องขอโทษเอดีน่าเขานะ เพราะพลังของเธอทำให้ป่าของเขาเสียหาย" เธอกดหัวมินางิให้ก้มต่ำลง
"ขอโทษด้วยนะ เอดีน่า" มินางิทำหน้าจ๋อย
"แล้วเธอก็ด้วย เอดีน่า ยกโทษให้มินางิด้วย"
"...เข้าใจแล้วค่ะ" เอดีน่ายิ้มออกมา "ดิฉันไม่ถือแล้วล่ะคะ ก็ดิฉันแพ้แล้วนี้"
"ถ้าเข้าใจก็ดีแล้ว ถ้างั้นไว้พวกชั้นจะมาช่วยเธอจัดสวนที่เสียหายก็แล้วกัน" แต่หลังจากที่อายะพูดเสร็จ มินางทำหน้างง "ช่วยอะไรเหรอ"
"ก็จะอะไรซะอีก ก็สวนของเขาที่เธอทำพังไปไง" อายะเริ่มพูดเสียงดัง
"ไม่ต้องนี้ สวนมันก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้วนี้"
"หา...กลับไปเป็นเหมือนเดิม นี้เธอพูดอะไรออกมาน่ะ" อายะทำหน้าสงสัย
"เธอน่าจะสังเกตนะ ในวันหนึ่งๆ จะมีการ คันโซกุ หลายครั้งนะ แต่ละครั้งก็ทำเอา เรียวจินโซ แห่งนี้เสียหายได้ตลอด แต่ทำไมที่นี้กลับยังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ก็เพราะว่านะ ที่ เรียวจินโซ แห่งนี้อัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณ ทำให้ทุกสรรพสิ่งมีพลังในการคืนสภาพในตัวมันเอง สวนที่ถูกทำลายไปมันจะกลับเป็นเหมือนเดิมเอง แค่ต้องใช้เวลาซักหน่อยก็เถอะ เธอไม่แปลกใจเหรอ หลังจากที่เราสู้กัน แผลของเรากับหายได้ภายในไม่กี่อึดใจ" มินางิอธิบาย
"เอ๊ะ แล้วพวกเธอสู้กันทำไมล่ะเนี้ย ทั้งที่รู้ว่าไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากมายนักนี้" อายะทำหน้างง
"ก็...ดิฉันอยากได้คนมาช่วยทำงานที่นี้ นี้คะ แบบว่าอยากได้คนมาช่วยก็เลยต้องใช้กำลังกันนิดหน่อย" เอดีน่าทำหน้าทะเล้น
"ก็นะ ปกติการ คันโซกุ ที่ เรียวจินโซ ส่วนมากก็ใช้เพราะจุดประสงค์นี้กันทั้งนั้นแหละ" มินางิต่อ อายะได้ฟังคำพูดของเอดีน่าและมินางิ ทำเอาตัวสั่น
"อ้าวเป็นอะไรไป อายะ" มินางิก้มลงดูหน้าของอายะ
"นี้ชั้นเสียเวลาไปตั้งเยอะกับเรื่องไร้สาระมาตั้งนานเหรอเนี้ย" อายะตะโกนแหกปากขึ้นฟ้า
[
ทั้งสามเดินออกมาจากทุ่งดอกไม้ของเอดีน่า อายะแบกตะกร้าไว้บนหลัง เดินนำลิ่ว ไม่สนใจใคร
"ดูท่าอายะจะโกรธจัดเลยนะ" อลิสกระซิบกับมินางิ
"ก็ว่าอย่างงั้นแหละ"
"นี้ พวกเธอ อย่างมั่วชักช้า รีบกลับกันได้แล้ว" อายะตะโกน
"จ้าๆ" มินางิตอบกลับ แต่ก็ต้องชะงัก เพราะอลิสดึงกระโปรงไว้
"มีอะไรเหรออลิส" มินางิถาม อลิสชี้ขึ้นไปบนฟ้า มินางิมองขึ้นไปบนฟ้าตาม และก็ต้องทำหน้าตกใจ
"เสร็จกัน!" มินางิทำเสียงชะงัก
"เกิดอะไรขึ้น ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะ" อายะเดินเข้ามาถามเพราะเห็นทั้งสองคนไม่ยอมตามมาซะที
"แย่แล้วล่ะอายะ คืนนี้เราคงต้องอยู่ในป่านี้จนกว่าจะเช้าซะแล้ว" มินางิยังคงมองท้องฟ้าอยู่
"มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ" อายะทำหน้าสงสัย มินางิชี้ขึ้นฟ้าให้อายะมอง
"อืม...เย็นป่านนี้แล้วเหรอ ดูท่าพระอาทิตย์จะตกดินไปนานแล้วสิ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเหรอ" อายะหันกลับมามองมินางิ
"เธอไม่รู้เหรอว่าที่นี้คือป่าลวงตา ถ้าตกเย็นเมื่อไหร่ จะไม่สามารถออกไปจากที่นี้ได้ ถึงแม้จะบินได้ก็ตาม" มินางิเริ่มอธิบาย
"หมายความว่าไง ออกไปจากป่านี้ไม่ได้" อายะเริ่มสงสัยเข้าไปอีก
"พอตกเย็น ที่ป่านี้จะถูกปกคลุมไปด้วยมิติภาพลวงตา ไม่ว่าจะทำยังไงเราก็จะวนเวียนอยู่ในป่านี้ ถึงแม้จะบินอยู่บนฟ้าก็ตาม มีอยู่อย่างเดียวที่เราทำได้คือ รอให้ถึงเช้าถึงจะออกไปจากป่านี้ได้" มินางิทำหน้าจริงจัง
"นี้เธอไม่ได้พูดเล่นนะ" อายะเริ่มทำหน้าเปลี่ยนสี แล้วหันไปมองอลิส อลิสส่ายหน้าตอบ
"อะไรกัน" อายะไหล่ตก
"เอาเป็นว่าเรารีบหาที่พักสำหรับคืนนี้กันก่อนดีกว่า ในป่านี้ตอนกลางคืนมันน่ากลัวนะ ปีศาจมันเยอะ จะโดนโจมตีเมื่อไหร่ก็ไม่รู้" มินางิแนะนำ
"อลิสก็เป็นปีศาจนะ แต่อลิสไม่ทำอะไรหรอก" อายะกับมินางินิ่งเงียบกับคำพูดของอลิส
'แล้วเธอคิดจะทำอะไรล่ะยะ' ทั้งอายะและมินางิคิดพร้อมกัน
"เอาเถอะ ไหนๆ ก็ออกไม่ได้แล้ว เราไปหาที่พักกันดีกว่า"
แล้วอายะก็ออกเดินอีกครั้ง มินางิและอลิสเดินตาม โดยหารู้ไม่ว่า พวกเธอทั้งสามกำลังถูกแววตาสองคู่ จ้องมองมาตลอด หนึ่งในสองนั้นเริ่มแยกเขี้ยว
[
ความคิดเห็น