คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Request #6 : Train
“Request #6 : Train”
[Double NN]
*****************************************************************
ที่ชานชาลาของสถานีรถไฟวอลมาเรียยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหลังคาที่เป็นกระจกสีเขียวใส สะท้อนความงดงามไปทั่วบริเวณ...
อาร์มินหันซ้ายหันขวาอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจ
ตอนนี้ร่างเล็กของเด็กหนุ่มผมบลอนด์กำลังยืนอยู่ข้างกับหนึ่งในประตูของรถไฟขบวนที่จอดรออยู่ในชานชาลาขนาดใหญ่นี้... แน่นอนว่าหากพูดถึงการจอดอยู่ในชานชาลา นั่นหมายความว่า รถไฟขบวนนี้กำลังจะออกเดินทางไปสู่จุดหมายของมันในอีกไม่ช้า...
แต่ประเด็นก็คือว่า เอเลน เยเกอร์... เพื่อนสนิทที่เป็นคนออกปากชวนเรื่องการนั่งรถไฟไปเที่ยวชมทะเลแถวชนบทนั้น ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะโผล่เงาหัวมาให้เขาเห็นเลยแม้แต่น้อย...
“เอเลนเนี่ย... มัวทำอะไรอยู่กันนะ...”
เด็กหนุ่มออกปากบ่นพึมพำเบาๆ พลางเหลือบมองกระเป๋าสัมภาระของตนอย่างหนักใจ
สิ่งที่เขาเตรียมมาในการไปเที่ยวในวันหยุดยาวครั้งนี้ก็คือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่แทบจะหนักเป็นครึ่งหนึ่งของน้ำหนักตัวกับกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำใบเล็กที่มีลักษณะคล้ายกล่อง... แน่นอนว่ากระเป๋าใบแรกนั้นจำเป็นอย่างแน่นอนเนื่องจากบรรจุของจำพวกเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ประจำวัน แต่กระเป๋าอีกใบนั้นกลับบรรจุเพียงแค่หนังสือ หนังสือ และสมุดบันทึกประจำวันของเด็กหนุ่มเท่านั้น...
การได้เห็นทะเลคือความฝันของเขา... เพราะฉะนั้นอาร์มินจึงตั้งใจจะจดบันทึกความทรงจำดีๆเหล่านั้นเอาไว้ให้เต็มที่...
ติดอยู่เพียงแค่ว่า ถ้าเอเลนตกรถขึ้นมาจริงๆละก็ เขาจะทำยังไงนี่สิ...
“...อืม... ขึ้นไปจองที่นั่งก่อนจะดีกว่าแฮะ...”
เด็กหนุ่มพึมพำขึ้นมาเบาๆหลังจากเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของตนเอง... ใกล้เวลาออกรถมากแล้ว เพราะฉะนั้น หากขึ้นไปจองที่นั่งด้านบนไว้ก่อนคงจะดีกว่า...
อาร์มินคิดไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจหอบกระเป๋าสองใบผ่านประตูรถไฟเข้ามาอย่างทุลักทุเล
ทว่าทันทีที่ได้เห็นที่นั่ง ปัญหาใหม่ก็ดูเหมือนจะตามเขาเข้ามาติดๆ...
ก็ไอ้ช่องเก็บของข้างบนมันสูงซะขนาดนั้น... จะให้เขาเอื้อมถึงได้ยังไงกันเล่า!!
“โอ๊ย... งานเข้าอีกแล้วสิเนี่ย...” แน่นอนว่าหากมีความสูงของเอเลนละก็คงพอจะช่วยได้บ้างแน่... แต่ลำพังตัวเขาเห็นได้ชัดว่าไม่ไหวสุดๆ...
อาร์มินเหลือบมองกระเป๋าสัมภาระของตนที่วางเกะกะขวางทางเดินอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้...
**************************************************************
“เอ้า ฮึบ!”
เด็กหนุ่มส่งเสียงเรียกความฮึดให้กับตัวเองเบาๆ ในขณะที่ดันกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เข้าไปในช่องเก็บของด้านบนด้วยสองมือ
ตอนนี้อาร์มินกำลังอยู่ในสภาพที่ทุลักทุเลอย่างเห็นได้ชัด... สองเท้าที่เขย่งเต็มที่เหยียบอยู่บนกระเป๋าใส่หนังสือสีดำแบนๆที่เจ้าตัวจับมันวางราบไปกับพื้น ในขณะที่สองแขนอันบอบบางที่ดูราวกับจะรับน้ำหนักสัมภาระของตนเองไม่ไหวนั้นก็กำลังพยายามดันกระเป๋าเสื้อผ้าอีกใบของตัวเองให้เข้าไปในช่องเก็บของเบื้องบนอย่างสุดชีวิต... ทว่า หากพิจารณาจากร่างกายเล็กที่ยืดเกร็งจนถึงขีดสุดแบบนั้นแล้ว ไม่ว่าใครก็คงจะลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ไหวแน่ๆ...
และ แน่นอน... อาร์มินก็ลงความเห็นล่วงหน้าให้ตัวเองไปแบบนั้นแล้วเช่นกัน...
“ให้ตายเถอะ... เมื่อไหร่เอเลนจะมาซักทีนะ...?”
เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์พึมพำอย่างคับแค้น ระหว่างที่พยายามเขย่งปลายเท้าให้มากขึ้นอีก
ทว่าทันใดนั้นเอง
ปลายเท้าเล็กที่กำลังซวนเซหาที่เหยียบบนกระเป๋าใบน้อยๆของตน กลับก้าวพลาดเจออากาศเสียอย่างนั้น...
“หวา?!!”
นี่คือเสียงอุทานเดียวที่หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากของอาร์มิน ในขณะที่เจ้าตัวกำลังเอนล้มไปข้างหลังพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ที่ค่อยๆไถลตกลงมาจากช่องเก็บของเมื่อครู่ราวกับภาพสโลว์โมชั่น... ดวงตาสีฟ้าใสเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าสภาพการณ์ตรงหน้าชักจะอันตรายขึ้นทุกที... และถ้าเป็นอย่างนี้... ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปละก็...
ไม่ต้องสงสัย... ตายแน่!!
“เฮ้ย?! อันตราย!!”
เด็กหนุ่มยังคงงุนงงเมื่อเสียงนั้นดังขึ้นข้างๆตัวพร้อมกับร่างของใครบางคนที่พุ่งตรงเข้ามาจากทางด้านหลัง ก่อนที่ในวินาทีต่อมาความรู้สึกเคว้งคว้างจากการลื่นล้มจะหายวับไปพร้อมๆกับแขนแข็งแรงที่ตรงเข้ามาล็อกเขาเอาไว้ที่บริเวณเหนือเอวขึ้นไปเล็กน้อย... แผ่นหลังเล็กที่แนบสนิทกับร่างสูงของใครบางคน บวกกับแขนอีกข้างของเด็กหนุ่มด้านหลังที่ยกขึ้นมาดันกระเป๋าเดินทางใบที่กำลังจะหล่นลงมากลับเข้าไปในที่ทางของมันได้โดยสวัสดิภาพนั้นทำให้อาร์มินรับรู้ได้ด้วยสัญชาติญาณว่าเขา ‘ปลอดภัยแล้ว’
ทั้งสองนิ่งค้างอยู่ในสภาพนั้นพักหนึ่งราวกับจะสงบสติอารมณ์ของตัวเองให้หายตกใจ ก่อนที่อาร์มินจะรู้สึกตัวขึ้นมาก่อนแล้วเริ่มเปิดปาก...
“เอ่อ... คือ...”
ร่างข้างหลังมีอาการสะดุ้งเล็กน้อย
“อ๊ะ? ห... หวา!! ขอโทษที!!”
เด็กหนุ่มอีกคนมีท่าทีลนลานหลังจากที่เริ่มรู้สึกตัวว่าตนเองกำลังทำอะไรก่อนจะรีบปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ... ใบหน้าคมนั้นแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อยทันทีที่อาร์มินหันมาหา ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าใสซึ่งยังคงติดจะออกอาการงุนงงอยู่เล็กน้อยจ้องสำรวจผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไว้ ตั้งแต่เรือนผมสีวอลนัทที่ตัดเป็นทรงสั้นแปลกตา ดวงตาสีน้ำตาลคมเข้มที่ดูเหมือนจะกระวนกระวายเล็กน้อย ลงไปจนถึงเสื้อเชิ้ตสีเขียวแก่ กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินคาดขาวของเจ้าตัว...
ร่างเล็กกว่ากระพริบตาปริบๆราวกับยังมึนไม่หาย “...อ๊ะ?!!” ...ก่อนจะทำหน้าราวกับนึกขึ้นได้แล้วรีบลนลานก้มหัวให้
“ข... ขอบคุณมากนะ เรื่องเมื่อกี้!!”
“ห๊ะ? อ้อ... เอ้อ... ไม่เป็นไรหรอก...” เด็กหนุ่มแปลกหน้าที่เหมือนจะยังมึนๆอยู่เช่นกันรีบตอบรับตามมารยาทก่อนจะโบกมือปฏิเสธทั้งรอยยิ้มเก้ๆกังๆ... “คือ... ฉันบังเอิญผ่านมาเห็นเข้าพอดีน่ะ ก็เลย...”
“ง... งั้นเหรอ...” เด็กหนุ่มร่างเล็กติดจะประหม่าเล็กน้อยในขณะที่เกาแก้มตอบรับทั้งที่ยังไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย...
อาการใจเต้นตอนที่ตัวสัมผัสกันเมื้อกี้... มันคืออะไรกันแน่นะ...?
“อ... เอ้อ... คือว่า...” ฝ่ายตรงข้ามมีท่าทีลังเลเล็กน้อยในขณะที่ยื่นมือออกมาด้านหน้า... “ฉันชื่อแจน... แจน กิลชูไตน์... แล้วนายล่ะ?”
“อ้ะ? เอ่อ... อาร์มิน อัลเลอร์โต้...” เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์รีบแนะนำตัวเองก่อนจะยื่นมือไปจับกับร่างตรงหน้า “ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“อืม เช่นกัน”
เด็กหนุ่มทั้งสองพยายามยิ้มให้กันด้วยท่าทางเก้ๆกังๆทั้งคู่จากความอบอุ่นที่รู้สึกได้ผ่านทางฝ่ามือ... ในขณะที่อาร์มินหัวเราะแหะๆ
ใจเต้นอีกแล้ว... ทำไมกันนะ...?
“เฮ้ย?!! นั่นแกคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่วะ! ไอ้หน้าม้า!!”
“ห.. หือ? เฮ้ยเดี๋ยว... อุ๊ก!!”
รวดเร็วยิ่งกว่าลมพัด... ร่างสูงของเด็กหนุ่มที่มีชื่อว่า เอเลน เยเกอร์ ก็พุ่งเข้ามาน็อกเอ้าท์ศัตรูทันทีหลังจากส่งเสียงเตือน(?)ล่วงหน้าไม่ถึงสามวินาที...
อาร์มินที่ยังคงไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นยืนกระพริบตาปริบๆในขณะที่รู้สึกได้ว่าความอบอุ่นที่กุมมือของตัวเองอยู่เมื่อครู่หายวับไปราวกับถูกสูบ... ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าใสซึ่งเห็นภาพการตะลุมบอนกันกลางทางเดินของเด็กหนุ่มทั้งสองจะส่งภาพไปให้สมองประมวลผลได้ในที่สุด
เอเลนกับ... แจน...? กำลังทะเลาะกัน??
“อ๊ะ! หวา!! เดี๋ยวๆๆๆ เอเลน... เอเลน!!” ทันทีที่เข้าใจว่าหายนะอะไรกำลังบังเกิดขึ้น ร่างเล็กของเด็กหนุ่มผมบลอนด์ก็รีบดิ่งตรงเข้าไปแยกเพื่อนสนิทของตัวเองออกจากผู้มีพระคุณของเขาทันที... อาร์มินลากเอเลนที่กำลังบ้าคลั่งออกมาจากการทะเลาะวิวาทนั้นอย่างทุลักทุเลก่อนจะตะโกนถาม “นายบ้าไปแล้วเหรอเอเลน?! จู่ๆก็!!”
“ฉันไม่ได้บ้า! แต่ไอ้หมอนี่ต่างหากที่บ้า!!” เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มหันหน้ากลับมาเถียงในฉับพลันก่อนจะชี้หน้าเด็กหนุ่มร่างสูงอีกคนที่กำลังพยายามลุกขึ้นมาจากพื้นทางเดินรถไฟอย่างมึนงง... “นายคิดว่า พอฉันเห็นไอ้เจ้าหมอนี่จับมือนายด้วยรอยยิ้มแบบนั้นกับสายตาแบบนั้นแล้ว ฉันจะยอมอยู่เฉยได้งั้นเหรอ?!!”
“...หา? รอยยิ้ม? สายตา...?”
“ก็ใช่น่ะสิ!! นี่นายไม่เห็นรึไง? หมอนั่นน่ะ-”
“เฮ้ยๆ นายตรงนั้นน่ะ พูดให้ดีนะเว้ย” แจนที่เหมือนจะตั้งสติได้ในที่สุดลุกขึ้นมาแล้วเริ่มเอ่ยตอบโต้... “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นใคร... แต่ไอ้การที่มาทึกทักว่าคนที่แค่กำลังจับมือทักทายกันเป็นคนไม่ดีเนี่ย ฉันรับไม่ได้นะเฟ้ย!!”
“หนอย! ยังจะมาเถียงอีก!! แค่เห็นสายตานายฉันก็รู้แล้วว่า-”
“เอเลน! พอได้แล้วน่า!!”
เด็กหนุ่มร่างสูงที่ถูกเพื่อนสนิทของตัวเองออกปากปรามออกอาการฮึดฮัดเล็กน้อย ทว่าก็ยอมสงบลงแต่โดยดี... “ก็ได้ๆ งั้นนายก็คุยกับมันไปก็แล้วกัน... ฉันจะไปเก็บกระเป๋าล่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นอย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนนะอาร์มิน”
เด็กหนุ่มร่างเล็กถอนหายใจก่อนจะพยักหน้ารับเนือยๆ... ปล่อยให้เอเลนเดินฟึดฟัดกลับไปหยิบกระเป๋าที่ตัวเองโยนทิ้งไว้ในตอนแรกอย่างเหนื่อยหน่ายใจในขณะที่หันกลับมาหาแจนด้วยท่าทางรู้สึกผิด... “ขอโทษนะ... คือ... เพื่อนผมเขาเป็นคนอย่างนี้แหละ ใจร้อนอยู่บ่อยๆ... ต้องขอโทษจริงๆ...”
“หืม? อ๋อ ช่างเถอะ...” ร่างสูงกว่าตอบรับด้วยอาการไม่คิดมากก่อนจะโบกมือปฏิเสธ... “ฉันไม่ได้โดนอะไรมากมายหรอก เรื่องแค่นี้เองนายอย่าคิดมากเลย”
“ง... งั้นเหรอ... ถ้างั้น...”
อาร์มินหยุดคิดไปพักหนึ่งราวกับลังเลใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้
“ผมกับแจน... เป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหม?”
ใบหน้าคมขึ้นสีระเรื่อแวบหนึ่งในขณะที่มองรอยยิ้มนั้น ในระหว่างที่เจ้าตัวรีบส่งยิ้มกลับด้วยท่าทางดีใจ
“ของมันแน่อยู่แล้ว”
เด็กหนุ่มร่างเล็กส่งเสียงหัวเราะออกมาในขณะที่อีกฝ่ายยังคงยิ้มและมองใบหน้าหวานอันน่ารักสดใสไม่วางตา... ทว่า พอเจ้าตัวเหลือบไปเห็นรังสีอำมหิตที่ถูกส่งมาจากเด็กหนุ่มอีกคนซึ่งกำลังกอดอกมองมาจากในล็อกที่นั่งด้านหลังนั้นก็ดูเหมือนจะเริ่มรู้ตัว แล้วรีบละสายตาจากร่างตรงหน้าในทันที...
“เอ่อ ถ้างั้น เดี๋ยวฉันกลับไปที่ที่นั่งของตัวเองก่อนแล้วกันนะ... เพื่อนฉันก็กำลังรออยู่เหมือนกัน”
อาร์มินพยายามหยุดหัวเราะ ก่อนจะพยักหน้า... “อื้ม ขอบคุณอีกครั้งนะที่ช่วยผมไว้”
“ไม่เป็นไร งั้นฉันไปนะ” แจนว่าในขณะที่โบกมือแล้วทำท่าจะหันหลังกลับ ก่อนจะหยุดชะงักราวกับนึกอะไรขึ้นได้... “เอ้อ จริงสิ”
“...หืม?”
“คือ...” เด็กหนุ่มร่างสูงพูดค้างไว้ในขณะที่เกาแก้มอย่างลังเล แล้วจึงกระแอมออกมาเล็กน้อยพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มปนด้วยสีเลือดฝาด... “ฉัน... นั่งอยู่ตู้ถัดไปข้างหน้านะ”
อาร์มินนิ่งอึ้งไปแวบหนึ่ง ก่อนที่ใบหน้าจะแดงระเรื่อ “อ... อืม...”
“ง... งั้น! ฉันไปแล้วนะ!! ไว้เจอกันนะอาร์มิน”
“อ... อื้ม บาย”
อาร์มินว่าก่อนจะโบกมือส่งร่างสูงที่วิ่งออกไปทางประตูเชื่อมตู้รถไฟ ในขณะที่เสียงหวูดเป็นสัญญาณออกรถดังกังวานไปทั่วทั้งชานชาลาสถานี...
หัวใจ... เต้นแรงอีกแล้ว...
*****************************************************
ทำไมรู้สึกว่า... พอเป็นรีเควสต์ของตัวเองแล้วเขียนยาวทุกทีเลย... =v=;
การพบกันครั้งแรกของแจนและอาร์มิน! ก็หวังว่าทุกคนคงจะชอบกันนะคะ 555 XD
อ้อ แล้วก็... สำหรับคุณ[~Little_Killer~]นะคะ! ขอบคุณมากที่ส่งรีเควสต์อันใหม่เข้ามา... คือจะบอกว่าตอนนี้รีเควสต์ใกล้หมดแล้วค่ะ // หัวเราะ // ยังไงก็จะพยายามปั่นให้เร็วที่สุดนะคะ! ระยะห่างอย่างนั้นเหรอ อืม... // พึมพำๆ
แน่นอนว่าดิฉันยังไม่ลืมรีเควสต์ของคุณนะคะ คุณเพื่อนฟินเน่ 555 รอต่อคิวไว้ประมาณอันที่แปดอันที่เก้านี่ล่ะจ้ะ ฟฟฟฟฟ
ตอนนี้ไรเตอร์เริ่มหมดมุกแล้วค่ะ... จะทำไปได้อีกนานเท่าไหร่ละเนี่ย... // ทรุด
ความคิดเห็น