คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Request #13 : Suit
“Request #13 : Suit”
[Pamyu]
*********************************************************************
“ไง มิคาสะ! ชุดนี้เป็นไงบ้าง?”
เสียงถามของเด็กหนุ่มนามเอเลนดังขึ้น ในขณะที่เด็กสาวอีกคนหันไปมองพลางคลี่ยิ้ม
“ดูดีมากเลยล่ะ”
อาร์มินหันหน้าไปมองเพื่อนทั้งสองของตัวเองอย่างขำๆในขณะที่เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มยังคงโพสต์ท่าหล่อๆในชุดสูทสีดำ-แดงมาดเท่ ประกบด้วยมิคาสะในชุดราตรีสีแดงสดเข้าคู่กันที่กำลังเออออห่อหมก... ปรบมือปรบไม้ให้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย...
ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในร้านขายพวกเสื้อสูทและชุดราตรีสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชายแห่งหนึ่งใกล้กับโรงเรียน... แน่นอนว่าในร้านเองก็เต็มไปด้วยพวกเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกันหรือแม้แต่ที่เป็นคนรู้จักกันกำลังลองชุดกันอยู่ด้วย
ถ้าถามว่า... ทำไมน่ะเหรอ?
ก็เพราะว่า งานเลี้ยงจบรุ่นชั้นมัธยมศึกษาปีที่สามที่พวกเขากำลังจะจัดขึ้นนั้น เป็นธีมชุดราตรีน่ะสิ...
“เอ้อ จริงสิ... แล้วอาร์มินเลือกชุดได้รึยัง?”
พอโดนเพื่อนตัวเองถามคาดคั้นขึ้นมาแบบนั้นเด็กหนุ่มร่างเล็กที่ยังคงอยู่ในชุดลำลองก็สะดุ้งเล็กน้อย... เขากำลังทำท่าเหมือนจะเลือกชุดอยู่หน้าราวแขวนเสื้อสูทก็จริง แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้อยู่ดีว่าควรจะใส่ชุดไหน... “เอ่อ... คือ... ผมยังไม่แน่ใจน่ะ...”
เอเลนนิ่งฟังประโยคนั้นพลางครุ่นคิด ก่อนที่รอยยิ้มชั่วร้ายจะฉายแววอยู่บนใบหน้า
“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวฉันช่วยเลือกให้เองนะ~” ปากพูดไปอย่างนั้น ทว่าเจ้าตัวกลับตรงดิ่งไปอีกทางแทนที่จะเป็นโซนของชุดสำหรับผู้ชาย... อาร์มินกับมิคาสะที่ยังคงตกอยู่ในอาการมึนงงหันมามองหน้ากันพักหนึ่ง ก่อนที่ร่างสูงของเอเลนจะกลับมาด้วยความไวแสงพร้อมกับชุดๆหนึ่งในมือ... “แท่น แท๊นนนน~”
“...หา??”
พอได้เห็นชุดนั้นเต็มๆตาเข้า อาร์มินก็ถึงกับทำหน้าเหวอ...
ทำไมน่ะเหรอ?
เพราะชุดที่เอเลนถืออยู่... มันไม่ต่างอะไรกับชุดเจ้าสาวเลยน่ะสิ!!
“อ... เอเลน... ทำไมต้องเป็นชุดผู้หญิงด้วยล่ะ?”
เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ถามขึ้นพร้อมอาการปากคอสั่น... ทว่าเจ้าตัวคนต้นเรื่องกลับยังคงตีสีหน้าตายในขณะที่ตอบกลับ...
“ก็แหม... พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะควงกันเข้างานสามคน?” เอเลนว่าพลางทำหน้าตาเยี่ยงผู้รู้ซึ่งกำลังบรรยายเรื่องราวทางวิชาการ... “ถ้าเกิดว่าเข้างานแบบผู้ชายสองผู้หญิงหนึ่งมันก็แปลกๆสิจริงไหม? แต่ว่าถ้าเป็นผู้ชายหนึ่งแล้วควงผู้หญิงอีกสองคนละก็... เลิศไร้ที่ติ!”
มันเลิศตรงไหนไม่ทราบครับ!... อาร์มินอยากจะพูดออกไปเช่นนั้น... ทว่าปากคอที่แข็งเป็นหินจากอาการช็อกไปแล้วกลับไม่เอื้ออำนวยให้เขาสามารถตบมุกได้... “ถ- ถ้างั้นผมขอไปหาคนควงเข้างานคนอื่นดีกว่า...”
“หยุดการกระทำของนายเดี๋ยวนี้เลยนะ อาร์มิน!” เอเลนว่าในขณะที่ชี้ตรงมายังเขา... มิคาสะเองก็เหมือนจะรับคำสั่ง(?) “มิคาสะ! จับอาร์มินเข้าห้องลองเสื้อ!!”
“รับทราบ!”
“เอ๊? เอ๊?? ด-เดี๋ยวก่อนสิ! ไม่อ๊าววว~!!!”
“จัดการ!!”
ว่าแล้ว... สองเด็กหนุ่มและหนึ่งเด็กสาว ก็พากันผลุบหายเข้าไปในห้องลองเสื้อพร้อมกับเสียงโครมครามยกใหญ่...
***********************************************************
ในขณะเดียวกันนั้น อีกฟากหนึ่งของโซนเสื้อสูทสำหรับผู้ชาย... เด็กหนุ่มร่างสูงนามว่า แจน กิลชูไตน์ ก็กำลังหมุนตัวชื่นชมตัวเองอยู่หน้ากระจก... ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในชุดลำลองเซอร์ๆอย่างเคย แต่พลิกมาดมาเป็นเทพบุตรสุดหล่อ(?)ในชุดสูทสีขาวสะอาด ตั้งแต่เสื้อด้านใน เสื้อนอก ลงไปจนถึงกางเกง... เรียกได้ว่าเนี๊ยบเว่อร์ๆผิดลุคในขณะที่เจ้าตัวกำลังจัดตำแหน่งของไทด์หูกระต่ายอย่างพึงพอใจ...
แต่ว่าภาพนั้น... ก็ทำให้ใครบางคนที่เดินผ่านมาเห็นถึงกับตกใจจนทำเสื้อสูทสีน้ำตาลในมือตัวเองหล่นพื้น...
“จ... แจน... ม-ไม่น่าเชื่อ...”
เด็กหนุ่มร่างสูงผู้ถูกทักด้วยน้ำเสียงสั่นๆนั้นเลิกคิ้วก่อนจะหันกลับไปมอง... และพบว่าโคนี่ สปริงเกอร์... เด็กหนุ่มหัวเกรียนเพื่อนซี้ของตัวเองที่เดินผ่านมาถึงกับทำชุดสูทในมือร่วงหมดพร้อมกับชี้ไม้ชี้มือมาที่เขาด้วยท่าทางโอเว่อร์เกินจริงจนน่าถีบ... “นาย... ดูดีขนาดนี้ได้ด้วยเรอะ?!!”
“แหมๆ คนมันหล่อน่าอย่าใส่ใจ...” แจนตอบพร้อมกับออกปากหัวเราะอย่างหลงตัวเอง จนทำให้คนที่มีเจตนาจะชม(แม้จะเว่อร์ไปนิด)เมื่อครู่ถึงกับเปลี่ยนท่าทีมาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย...
“ไหนตอนแรกนายบอกว่าไม่เอาชุดที่เรียบร้อยเกินไปไม่ใช่เหรอ... แล้วนี่อะไรวะ?”
“หืม...? อืม... ก็...” ร่างสูงกว่ามีท่าทีอึกอึกเล็กน้อยในขณะที่กระแอมออกมาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อนิดๆ... “จะไปชวนใครบางคนมาเต้นรำด้วยในงาน... ทำตัวดูดีไว้ก่อนคงไม่เสียหายอะไรหรอก...”
โคนี่มองท่าทางของฝ่ายตรงข้ามอย่างขำๆก่อนจะผิวปากแซว... “นี่ไปนัดสาวที่ไหนไว้วะเนี่ย? ไม่บอกเพื่อนซักคำเลยนะ~?”
“เฮ้ย! เปล่านะเว้ย คือ... ม-ไม่ได้นัดบ้านัดบออะไรเลย! แค่... เอ่อ... จะลองเสี่ยงชวนดู...” แจนหันมาพูดแก้ต่างให้ตัวเองทั้งๆที่ใบหน้ายังคงไม่หายจากอาการเขินอาย... “อ-เอาเป็นว่าฉันเอาชุดนี้แหละ!! เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดกลับก่อนนะ นายก็รีบเลือกล่ะเผื่อจะจ่ายตังค์พร้อมกัน”
“เออๆ รู้แล้วน่า...”
โคนี่ตอบด้วยท่าทางเบื่อหน่ายเล็กน้อยในขณะที่หันไปทาบชุดที่ตัวเองถือมาลงกับตัว... ดูท่าทางจะกำลังวัดขนาดอยู่หน้ากระจกในขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนตัดสินใจเดินหายไปบริเวณโซนห้องลองเสื้อพร้อมด้วยชุดลำลองในมือเพื่อจะเปลี่ยนกลับ
ทว่า... ทันใดนั้นเอง...
“เอเลน! เอาชุดผมคืนมานะ!!”
เสียงหนึ่งที่ดังออกมาจากหนึ่งในห้องลองเสื้อตรงหน้าเขานั้นทำให้แจนหันไปมองบริเวณห้องซึ่งน่าจะเป็นต้นเสียงอย่างมึนงง... เอเลนงั้นเหรอ?
“ไม่มีทางจนกว่านายจะยอมให้ฉันถ่ายรูป! เอาล่ะ มิคาสะ!! เราไปหยิบกล้องที่กระเป๋ากันเหอะ!!”
มิคาสะด้วย?... เด็กหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีขาวหน้าห้องลองเสื้อยิ่งงุนงงหนักกว่าเก่า สมองเริ่มประมวลผลไปถึงบุคคลที่เกี่ยวโยงกันในตอนที่เจอที่ห้องเรียน... ถ้ามีเอเลน มีมิคาสะ ก็แสดงว่าอีกคนที่เหลือ...
อีกคนที่เหลือ... ก็อาร์มินน่ะสิ?
ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเจอกันในที่แบบนี้... ความคิดนั้นทำให้ใบหน้าของแจนเริ่มร้อนขึ้นมาในขณะที่ภาพของใครอีกคนในชุดสูทลอยอยู่ในหัว... เสื้อเชิ้ตสีขาวในเสื้อสูทสีฟ้าอ่อนๆ เรือนผมสีบลอนด์ที่ถูกรวบไปด้านหลังพร้อมด้วยริบบิ้นผูกสีฟ้า ไทด์หูกระต่าย กางเกงสีขาว ใบหน้าน่ารักๆที่กำลังมองจ้องมาทางเขานั่น...
มโนไปไกลขนาดนี้... คงไม่จำเป็นต้องพูดกันแล้วว่าเจ้าตัวตั้งใจจะแต่งหล่อไปชวนใครเต้นรำ...
แจนเริ่มกลืนน้ำลายผ่านลำคอแห้งผากในขณะที่ดวงตาสีน้ำตาลคู่คมเหลือบไปมองร่างของเด็กหนุ่มและหญิงสาวเจ้าของเสียงเมื่อครู่ซึ่งผลุนผลันออกมาจากห้องลองเสื้อพร้อมด้วยเสื้อผ้าที่ดูเหมือนจะเป็นชุดลำลองของอาร์มินพร้อมกับหัวสมองที่เริ่มคิดแผนการชั่วร้าย... เอ่อ... ความจริงก็ไม่ชั่วร้ายอะไรมากหรอก เพราะมันเป็นเพียงแค่ภาพที่เขาตั้งใจจะเปิดม่านของห้องลองเสื้อที่อาร์มินอยู่เขาไปด้านในแล้วออกปากชวนอีกฝ่ายเต้นรำในชุดสูทหล่อๆชุดนี้ก็เท่านั้น...
แต่ก็... ไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าอยากเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นในสภาพที่กำลังเปลี่ยนเสื้ออยู่เหมือนกัน... แจนคิดในขณะที่หลุดเสียงหัวเราะแปลกๆออกมาราวกับตาแก่โรคจิต...
ช่างเป็น... คนที่น่ากลัวจริงๆ...
“เอาล่ะ... งานนี้ต้องเต็มที่กันหน่อยละนะ!” เออะ... เต็มที่เรื่องอะไรกันละนั่น...? เสียงสวรรค์ลอยมาจากที่ๆไกลออกไปในขณะที่แจนก้าวขายาวๆไปตรงหน้าผ้าม่านสีแดง มือข้างหนึ่งเอื้อมเข้าไปจับที่ปลายผ้าเพื่อเตรียมจะเลื่อนเปิด...
ทว่า... ทันใดนั้นเอง...
“อ๊ะ? ย-อย่านะ!!”
เสียงนั้นดังขึ้นมาทันที... จากการคาดเดาดูเหมือนว่าอีกคนจะจ้องผ้าม่านที่ไม่มีตัวล็อกรับประกันความปลอดภัยอะไรเลยนั้นเอาไว้อย่างระมัดระวังอยู่แล้วถึงได้สังเกตเห็นรอยยับจากด้านใน เสียงร้องห้ามอะไรบางอย่างเป็นเชิงว่า ‘รอก่อน!’ หรือ ‘อย่าเปิดนะ!!’ ดังออกมาเป็นระยะ ก่อนที่ในวินาทีถัดจากนั้น... แขนข้างหนึ่งของอีกฝ่ายจะยื่นออกมาจากช่องว่างบริเวณปลายผ้าม่านแล้วจับมือเขาไว้แน่น
“อ... อย่าพึ่งเปิดเลยนะ... ผมใช้อยู่...”
เด็กหนุ่มหลังผ้าม่านเอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา ในขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนได้แต่จ้องท่อนแขนที่ได้เห็นนั้นไม่วางตา...
แขน... ของอาร์มิน...?
ขาว... ชะมัด...
เด็กหนุ่มร่างสูงชะงักไปครู่หนึ่งในขณะที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด... แขนของอาร์มิน? ไม่สิ! ไม่มีอะไรเลยงั้นเหรอ?? เจ้าตัวไม่อยากจะจินตนาการว่าหลังผ้าม่านนั้นมีอาร์มินในรูปแบบไหนซ่อนอยู่ในขณะที่สัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อในอกของตัวเองที่กำลังเต้นระรัว... ใจนึงก็อยากเปิดอยู่หรอกนะ แต่ศีลธรรมเขาเองก็มีอยู่บ้าง... แจนปล่อยให้ความคิดฝ่ายดีกับฝ่ายชั่วตีกันตายอยู่ในหัวในขณะที่เสียงเล็กๆนั้นเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างไม่มั่นใจนัก
“เอ่อ... คือ... นาย... ใครเหรอ?”
เด็กหนุ่มผู้ยังคงถูกจับมือไว้รับรู้ได้ว่าใบหน้าของตัวเองร้อนไปถึงใบหูก่อนจะเอ่ยตอบ... “ฉัน- แจน... เอ่อ... กิลชูไตน์...”
ร่างนั้นเหมือนจะสะดุ้งเล็กน้อย... แจนสัมผัสได้จากแรงกระตุกบนฝ่ามือที่อีกฝ่ายกุมเขาเอาไว้
“ง-งั้นเหรอ... แจน...” เสียงของอาร์มินสั่นเล็กน้อยราวกับกำลังลังเลก่อนที่เจ้าตัวจะพูดต่อ... “ช่วย... หยิบสูทซักชุดจากราวแขวนมาให้หน่อยจะได้ไหม?”
...ประโยคนั้น ทำเอาแจนถึงกับชะงัก
สูท... ซักชุด?
หมายความว่า ตอนนี้ไม่มีชุดติดตัวเลย... รึเปล่านะ?
“อ... เอ่อ... ข-เข้าใจแล้ว... รอเดี๋ยวนะ...”
เด็กหนุ่มร่างสูงรีบลนลานตอบไปอย่างนั้นในขณะที่รีบผละมือออกมา... ใบหน้าร้อนจัดลามไปทั่วจนเหมือนจะร้อนไปทั้งตัวในขณะที่แจนคิดไปว่าจู่ๆร้านนี้ก็แอร์เสียขึ้นมาหรืออย่างไร... มือของเจ้าตัวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อจับเลือกชุดบนราวนั้นอยู่พักหนึ่งทั้งที่ยังทำใจให้กลับมาเต้นในจังหวะปกติไม่ได้...
ทำไมนะ...
ทำไมถึงต้อง... ใจเต้นแรงขนาดนี้?
“เอ่อ.. ชุดไหนก็ได้เหรอ?” แจนเสี่ยงถามออกไปอย่างไม่มั่นใจในขณะที่กำลังเลือกชุด... ดวงตากวาดมองผ่านเสื้อสูทหลากสีก่อนที่มโนภาพที่ตัวเองนึกเอาไว้ตอนแรกจะแวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง “...สีฟ้าไหม?”
“อ... อื้ม... อะไรก็ได้...” เสียงนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ติดจะร้อนรนเล็กน้อย... “เร็วๆเข้าเถอะ”
“อ... ข-เข้าใจแล้ว...”
ว่าเช่นนั้นแล้ว... เจ้าตัวก็รับดึงกระชากชุดสูทสีฟ้าที่ตัวเองหมายตาเอาไว้ออกมาจากราวแขวนทันที...
“เอ้า!”
“อ๊ะ? ขอบใจนะ...” อาร์มินพูดขึ้นหลังจากที่เห็นชุดสูทเต็มยศในไม้แขวนที่อีกฝ่ายส่งลอดทางช่องว่างของผ้าม่านเข้ามาให้...
ตัดกลับมาทางด้านของเด็กหนุ่มผมบลอนด์... ตอนนี้เจ้าตัวกำลังอยู่ในห้องลองเสื้อที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมแคบๆ ซึ่งด้านในไม่มีอะไรมากนักนอกจากกระจกเต็มตัวหนึ่งบานกับที่แขวนเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนที่ติดอยู่บนผนัง... ชวนให้นึกถึงว่าเขาโดนเอเลนกับมิคาสะจับมาขังเอาไว้ในห้องอะไรซักอย่างที่ต่อให้อยากออกก็ออกไปไม่ได้... แต่ไอ้เรื่องที่ว่าออกไปไม่ได้นี่มันก็ไม่ใช่เพราะว่าประตูห้องถูกล็อกแน่นหนาหรืออะไรหรอกนะ...
แต่เป็นเพราะว่า... ตอนนี้ตัวเขากำลังอยู่ในชุดที่น่าอายสุดๆต่างหาก...
“เอเลนนะเอเลน... เลือกชุดอะไรมาให้ก็ไม่รู้...” อาร์มินยังคงบ่นพึมพำในขณะที่หันไปแขวนชุดสูทสีฟ้าที่พึ่งได้มาไว้บนผนัง ตั้งใจจะเปลี่ยนเป็นชุดนั้นให้เร็วที่สุดก่อนจะเหลือบมาส่องกระจกดูตัวเองอีกครั้งด้วยท่าทางอายๆ...
ตอนนี้เขาอยู่ในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์... หนำซ้ำ ที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือมันเป็นชุดเดรสแบบเกาะอก... เนื้อผ้าสีขาวที่ถูกตัดเป็นทรงเพื่อเน้นเอวบางของผู้สวมใส่ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดถึงสัดส่วนบอบบางของร่างเล็ก แถมด้านหลังยังเว้นช่วงเว้าลงไปจนเห็นแผ่นหลังขาวนวลได้เต็มตาแม้จะถูกปิดบังไว้บางส่วนจากริบบิ้นสีขาวเส้นเล็กๆซึ่งไขว้กันไปมาเป็นรูปกากบาทคล้ายการผูกเชือกรองเท้า... และเมื่อรวมส่วนประกอบทั้งหมดเข้ากับชายกระโปรงยาวฟูฟ่องซึ่งยาวจนระพื้นนั้นแล้วละก็ ขอบอกได้คำเดียวเลยว่าไม่ผิดอะไรกับชุดเจ้าสาวเลยแม้แต่น้อย...
อาร์มินมองตัวเองที่ชักจะเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกที ก่อนจะหน้าแดงด้วยความอาย...
นี่ถ้า... ตอนนั้นปล่อยให้แจนเปิดมาเห็นเขาในสภาพนั้นละก็...
ไม่อยาก... จะคิด...
“โอ๊ย! แล้วนี่เรามัวคิดอะไรอยู่กันนะ เปลี่ยนชุดๆๆ” เด็กหนุ่มผมบลอนด์ส่ายหน้าแรงๆก่อนจะพยายามกลับมาโฟกัสกับสิ่งสำคัญที่ต้องทำตรงหน้า... จะต้องถอดชุดนี้ออกให้เร็วที่สุด...
ทว่า... พอมือเล็กเอื้อมไปเพื่อจะคลายปมเชือกที่หลังออกนั้น เจ้าตัวก็ต้องหน้าซีดเผือดอย่างตื่นตระหนก...
แกะ... ไม่ออก...
“ย... แย่แล้ว...” ทำยังไงดี...? อาร์มินคิดในขณะที่หันซ้ายหันขวา... แต่ก็แน่นอนว่ารอบตัวไม่มีอุปกรณ์ช่วยใดๆที่พอจะทำให้ปมเชือกที่หลังของเขาหลุดออกมาได้แน่ และถ้าจะเอาให้ออกก็คงต้องใช้อยู่วิธีเดียว...
เรียกคนอื่น... มาแกะให้...
คิดแล้วเด็กหนุ่มก็ถึงกับหน้าแดงจัดขึ้นมาทันที... แน่นอนว่าเขารู้ดีอยู่แล้วว่า คนอื่น ในตัวเลือกนี้หมายถึงใคร... แต่การจะให้แจนเข้ามาเห็นเขาในสภาพนี้ –ในสภาพน่าอายอย่างนี้– มันจะดีแล้วจริงๆน่ะเหรอ?
แต่ว่า... หลังจากการเปรียบเทียบความเสียหายระหว่าง ‘โดนเอเลนถ่ายรูปแล้วเก็บเอาไว้ประจานจนวันตาย’ กับ ‘ให้แจนเห็นแล้วไม่ต้องถูกถ่ายรูป’... ยังไงซะอันหลังก็คงดีกว่าเห็นๆ...
เด็กหนุ่มร่างเล็กตัดสินใจเด็ดขาด ก่อนจะกลืนน้ำลายดังเอื้อก
“เอ่อ... แจน? ยังอยู่ตรงนั้นอยู่รึเปล่า??” ตัดสินใจถามลองเชิงออกไปแบบนั้น... ก่อนที่เสียงโต้ตอบจะดังกลับมา
“อยู่... มีอะไรเหรอ?”
ทว่า... แค่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายเด็กหนุ่มก็กลับหน้าแดงด้วยความเขินขึ้นมาซะอย่างนั้น... อาร์มินได้แต่อึกอักๆไปมาอย่างลังเลใจอยู่ในห้องแคบๆนั้นก่อนจะตัดสินใจเด็ดขาด...
“คือ... ผมมีเรื่องอยากให้ช่วยน่ะ เข้ามาข้างในได้รึเปล่า?”
ทันทีที่ประโยคนั้นถูกส่งออกไป ด้านนอกก็เกิดเสียงโครมครามขึ้นเล็กน้อยก่อนที่ซักพักจึงจะมีเสียงตอบ...“ด-ได้... รอเดี๋ยวนะจะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“อ-อื้อ...”
อาร์มินส่งเสียงตอบรับออกไปทั้งที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำไปเพื่ออะไร... ร่างกายเล็กที่สัมผัสได้ถึงบางอย่างเลื่อนมือไปแตะที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย...
หัวใจ... ทำไมถึงเต้นแรงอย่างนี้นะ?
“ม... มาแล้-”
เด็กหนุ่มผมบลอนด์เกิดอาการสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อผ้าม่านถูกรูดเปิดอย่างไม่มีการส่งเสียงเตือนล่วงหน้า... สาบานได้ว่าเขาได้ยินอีกฝ่ายพูดไม่จบประโยคในขณะที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนจะจ้องใบหน้าเขาที่หันหน้าเข้าหากระจกผ่านเงาสะท้อนในนั้นอย่างไม่วางตา...
ดูเหมือนว่า... แจนจะคิดว่ามันดูเข้าท่ากว่าอะไรบางอย่างที่เขาคิดอยู่ในหัวตอนแรกไปเยอะ...
“อ... เอ่อ... นาย...?” เด็กหนุ่มร่างสูงยังคงพูดไม่เป็นภาษาในขณะที่สื่อสารกับเขาผ่านเงาสะท้อนในกระจก ก่อนที่เจ้าตัวจะทำท่าทางเหมือนนึกขึ้นได้แล้วรีบกระชากม่านให้รูดปิดในทันที... “นายใส่ชุดอะไรเนี่ย?”
“ผ-ผมไม่ได้อยากใส่ซักหน่อย! แต่เอเลน-” เด็กหนุ่มร่างเล็กพยายามทำท่าทางเหมือนจะสื่อสารต้นสายปลายเหตุให้รู้เรื่องในขณะที่หันหน้ากลับไปมองคู่สนทนา... ทว่าทันทีที่ดวงตาสีฟ้าใสสบเข้ากับใบหน้าคมที่ติดจะมีเลือดฝาดเล็กๆนั่นแล้ว เจ้าตัวกลับรีบหลบตากลับมาแทบไม่ทัน... “อ... เอาเป็นว่า... ช่วยแกะปมเชือกที่หลังให้หน่อยได้ไหม?”
“อ... อืม... ก-ก็ได้...”
ร่างสูงกว่าตอบเสียงสั่น ก่อนจะก้มลงไปให้ความสนใจกับปมเชือกนั้นแทน...
อาร์มินถอนหายใจออกมาเล็กน้อยอย่างโล่งอกทันทีที่เห็นว่าคนด้านหลังนั้นไม่ได้มองตรงเข้ามาในกระจกแล้ว... ในขณะที่ดวงตาสีฟ้าคู่สวยซึ่งไม่รู้จะหันไปมองที่ไหนดีในระหว่างที่รอให้ปมเชือกถูกคลายออกนั้นเบนไปโฟกัสที่อีกฝ่ายเงียบๆผ่านเงาสะท้อนของกระจก...
จะว่าไป...
แจน... ใส่สูทสีขาวงั้นเหรอ...?
เด็กหนุ่มผมบลอนด์ที่พึ่งรับรู้ได้ถึงความจริงข้อนั้นเลิกคิ้วเล็กๆ... จะว่าไปตั้งแต่ตอนที่อีกฝ่ายก้าวเข้ามาในห้องนั้นเขาเองก็ไม่ได้สังเกตเพราะมัวแต่หลบสายตากันไปมา แต่พอมามองดูดีๆถึงได้สังเกตเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นอยู่ในชุดที่ต่างออกไปจากเคย...
แต่งแบบนี้... ก็ดูดีเหมือนกันนี่นา...
อาร์มินแอบคิดคนเดียวในใจ ก่อนที่ใบหน้าจะแดงออกมาเล็กๆ...
แต่... เดี๋ยวสิ?
สูทสีขาวของแจน... กับชุดราตรีสีขาวของเขา...?
เด็กหนุ่มร่างเล็กคิดในใจ ก่อนที่ใบหน้าจะร้อนจนระเบิดบึ้มเมื่อนึกได้ถึงความจริงบางอย่าง...
แบบนี้มัน... แบบนี้มัน...
ยังกับเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันเลยไม่ใช่เหรอ?!!
“อีกนิดเดียว... จะได้แล้วรอแปปนะ...”
แจนที่ยังคงไม่รับรู้ถึงความคิดในจิตใจอาร์มินได้แต่มุ่งมั่นแกะเส้นริบบิ้นสีขาวพวกนั้นต่อไปพลางส่งเสียงบอกเป็นระยะๆ ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาจนถึงใบหู... นี่เขาคิดอะไรอยู่นะ? เรื่องแบบนี้??... อาร์มินแทบไม่อยากจะเชื่อตัวเองในขณะที่หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง... ก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่ากำลังสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย... แต่เบาๆหน่อยไม่ได้รึไงกัน?!!
เด็กหนุ่มผมบลอนด์สูดหายใจดังเฮือกราวกับจะเรียกสติ ในจังหวะเดียวกันกับที่อีกฝ่ายเหมือนจะคลายปมเชือกได้พอดี...
“เอ้า ได้แล้ว”
“อ๊ะ... ขอบใ- หวา?!”
ทว่า... ชุดราตรีสีขาวอันหนักอึ้งนั้น กลับแทบร่วงลงไปกองกับพื้นทันทีที่สิ่งยึดเหนี่ยวถูกคลาย...
ก็แหม... คนใส่มันไม่มีหน้าอกให้เกาะน่ะนะ...
“เฮ้ย?!”
แจนที่รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนั้นร้องอุทานออกมาเล็กน้อยในขณะที่รีบรั้งมือซึ่งจับริบบิ้นพวกนั้นอยู่ให้ขึ้นมา ในระหว่างที่อีกมือหนึ่งซึ่งไม่ได้ผ่านการยั้งคิดเอื้อมไปจับขอบเกาะอกด้านหน้าของชุดแล้วช่วยพยุงเอาไว้...
ร่างกายชิดกัน... จนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจ
อาร์มินกับแจนได้แต่ยืนอยู่อย่างนั้นเงียบๆในขณะที่หน้าแดงด้วยกันทั้งคู่ ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นไปมองกระจก... ไม่งั้นคงจะรู้ว่าแต่ละคนตกอยู่ในอาการเขินอายด้วยกันมากแค่ไหน...
แต่จะปล่อย... ก็ไม่ได้...
“เอ่อ... อ-อาร์มิน...” เด็กหนุ่มร่างสูงเป็นฝ่ายเริ่มเอ่ยปากขึ้นก่อนในขณะที่สัมผัสได้ว่าร่างในอ้อมแขนตัวเองสะดุ้งเล็กน้อย... อาจจะเป็นเพราะริมฝีปากของเขาที่แทบจะชิดติดอยู่กับใบหูของฝ่ายตรงข้ามก็เป็นได้ถึงทำให้รู้สึกว่ามันเหมือนเป็นเสียงกระซิบ... “คือ... เรื่องงานเลี้ยงรุ่น...”
“อ... อื้ม... ม-มีอะไรเหรอ?”
“คือ...” แจนเริ่มพูดตะกุกตะกักอย่างลังเลใจ... ท่อนแขนข้างที่แนบอยู่กับแผ่นหลังขาวของอีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลที่ยิ่งทำให้หัวใจเต้นแรง... “เต้นรำ... กับฉันไหม?”
อาร์มินหน้าแดงเล็กน้อยทั้งที่ยังก้มหน้า... ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่... “ก็ได้...”
“เฮ้อ... ค่อยยังชั่ว” ฝ่ายตรงข้ามว่าพลางหัวเราะอยู่ข้างหู... “ขอบใจนะ”
“อ-อืม”
ทั้งสองคนยังคงค้างอยู่ในท่านั้น...
หัวใจ...
ค่อยๆเต้น... ในจังหวะเดียวกัน...
ทว่าเสียงผ้าม่านที่ถูกกระชากเปิดออกพร้อมกับร่างของเอเลนและมิคาสะที่โผล่เข้ามา กลับทำลายบรรยากาศนั้นลงโดยพลัน...
“อาร์มินนนน~!! กล้องมาแล้-”
เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลที่เปิดเข้ามาเป็นคนแรกส่งเสียงเข้ามาไม่ครบประโยค ในขณะที่คนทั้งสี่หันมามองหน้ากันแล้วเกิดอาการสตั๊นเล็กน้อย...
จุด จุด จุด บังเกิดขึ้น...
“เฮ้ยยย?!! แจน!! แกทำบ้าอะไรของแก!! ฉันจะฆ่าแก๊~~~”
“อ-เอเลน! ใจเย็นๆก่อน ชุดผมจะหลุดแล้วนะ!!”
“เฮ้ย?! ฟาดกล้องมาหาฉันเพื่- แอ๊ก-”
“แจน!! ทำใจดีๆไว้!!”
เสียงโหวกเหวกโวยวาย ยังคงดังต่อเนื่องออกมาจากห้องลองเสื้อคับแคบ...
ก็ไม่รู้ว่า... ความรู้สึกของคนทั้งคู่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จะส่งผลในงานเลี้ยงรุ่นอย่างไร...
กับความรู้สึกของแจน... ที่ยังพูดออกมาไม่หมด...
ทั้งหมดนั่น...
ก็คงต้อง... ลุ้นกันไปละนะ...?
*************************************************************
ไรเตอร์ตัดจบไม่สวยอีกแล้ว... ;v; แถมคราวนี้เขียนออกมาเกรียนๆซะงั้น?(ฮา)
รีเควสต์นี้เขียนยาวมากค่ะ(หัวเราะ) แต่ว่าเริ่มใช้มุกซ้ำเหมือนเควสต์รถไฟซะแล้วสิ... ///Orz (มุกละครไทยมากๆ =v=) ขอโทษด้วยนะคะ... เริ่มหมดมุกจริงๆแล้วค่ะ... //ร้องไห้// แต่ยังไงก็ขาดไม่ได้! ขอขอบคุณคุณ[Pamyu]ด้วยนะคะสำหรับรีเควสต์สนุกๆแบบนี้! แล้วก็ขอขอบคุณที่คอยติดตามงานของไรเตอร์นะคะ กลายเป็นขาประจำไปแล้ว 555
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว... ไรเตอร์ก็อยากจะพูดความในใจถึงทุกคนค่ะ... =v=~ จะบอกว่าเรื่องนี้ที่เปิดขึ้นมานี่ก็ไม่ได้หวังอะไรมากมายเลยจริงๆ...(ถึงจะแอบหวังยอดวิวอยู่บ้าง เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ 555) แต่ว่าก็ไม่นึกว่าจะมีคนที่ตามมาอ่านทุกวันอยู่ด้วย... รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไรเตอร์เขียนได้สนุกมากแล้วก็ได้อะไรหลายๆอย่างเลยค่ะ ที่บอกว่าฝึกเขียนวันช็อตนี่ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะเริ่มโอเคขึ้นมาแล้วเพราะคำแนะนำแล้วก็กำลังใจของทุกๆคน... แล้วก็เป็นเรื่องที่รู้สึกผูกพันกับรีดเดอร์แต่ละคนมากๆ ก็ขอขอบคุณที่คอยมาคอมเม้นต์เรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะขาประจำทั้งสามคนอย่างวดี คุณ[Eclair&Xandria] แล้วก็คุณ[Pamyu]... รวมถึงคุณ[ซี.ควอลโล]ที่มาคนแรกตั้งแต่เปิดเรื่องแล้วก็มาตามอ่านตามเม้นต์กันให้ทุกตอนนะคะ อาจจะเว่อร์ไปหน่อย แต่ดูเหมือนไรเตอร์จะเริ่มรู้กลายๆแล้วว่าแต่ละคนจะมาคอมเม้นต์กันเมื่อไหร่(ฮา) แล้วก็รีเควสต์แต่ละรีเควสต์ที่ส่งกันเข้ามาก็เข้าใจว่าบางคนก็แอบคิดหนัก... =w=; ยังไงก็ขอบคุณอีกหลายๆครั้งนะคะ คือจะบอกว่าไรเตอร์รู้สึกดีมากๆที่สิ่งที่ไรเตอร์เขียนมันกลายเป็นสิ่งนึงที่ทุกคนจะนึกถึงหลังจากอ่านเสร็จ แล้วก็เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครบางคนที่มาเปิดเช็คกันทุกๆวัน... รวมถึงรีดเดอร์คนอื่นๆที่เม้นต์บ้างหรือนักอ่านเงาทุกคนนะคะไรเตอร์ก็ขอขอบคุณด้วย เพราะความจริงแล้วไรเตอร์ก็เข้าใจว่าอ่านๆไปแล้วมันก็ขี้เกียจคอมเม้นต์ใช่ไหมคะ(หัวเราะ) เข้าใจดีค่ะเพราะไรเตอร์ก็เป็นเหมือนกัน... =v=;
ก็... ไรเตอร์จะเปิดเทอมวันที่ 24 นี้แล้วนะคะ ก็คงจะห่างๆหายๆไปอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ อาจจะมีโผล่มาบ้างซักสัปดาห์ละครั้งหรือเดือนละครั้ง... แต่ก็จะไม่บ่อยแน่นอนเพราะตั้งแต่เปิดเทอมก็จะถูกโจมตีด้วยความวุ่นวายของโครงงานทันที... TvT ไม่รับปากว่าจะมาเรื่อยๆค่ะ แต่รีเควสต์ก็สามารถส่งกันเข้ามาได้เรื่อยๆนะ ไรเตอร์จะพยายามเคลียร์ให้ดีที่สุดค่ะ พูดจริงๆคือไม่อยากเปิดเทอมเลยอยากเขียนต่อมากกว่า...(หัวเราะ)
หวา... วันนี้พูดส่งท้ายยาวไปหน่อยขอโทษนะคะ =w=; ก็ขอบคุณมากๆค่ะ ยังไงไรเตอร์ก็จะเดินหน้าหามุกใหม่ต่อไปนะ! เย้!! XD
ปล.ไหนๆก็ไหนๆแล้ว... ถ้าไม่รังเกียจก็ไปคุยกันได้นะ! ทวิตไรเตอร์จ้ะ แจกของจริงไปเลยละกัน 555 >> @Saya_Lostmagic
ความคิดเห็น