คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4
บทที่ 4
*~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~*
เช้าวันใหม่ยังคงมาเยือนเหมือนปกติในอาณาจักรอันสงบสุขซึ่งมีนามว่า ‘คาเมลอท’ ...ผู้คนออกมาทำมาหากินแต่เช้า ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า ช่างตีเหล็ก หรือแม่ครัว... แน่นอนว่ารวมไปถึงเด็กรับใช้ส่วนพระองค์ขององค์รัชทายาทด้วยแม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่ปรารถนามันเลยก็ตาม...
เมอร์ลินกำลังหอบหิ้วบางอย่างซึ่งน่าจะเป็นผ้าปูที่นอนไปตามระเบียงทางเดินในปราสาท ทักทายกับผู้คนที่เดินสวนมาบ้าง หรือไม่ก็ถูกเหล่าอัศวินที่บังเอิญเจอกันกลางทางกลั่นแกล้งเอาบ้างเล็กๆน้อยๆก่อนจะรีบปล่อยให้เขาไปทำหน้าที่ของตนเองต่อไป... แน่ล่ะ สิ่งเหล่านี้ล้วนถูกรวมเข้ากับชีวิตประจำวันของเขาไปแล้วอย่างแยกไม่ออก... แต่สิ่งที่ไม่มีอยู่ในสารบบของเขาเลยก็คือ ‘การถูกสารภาพรักอย่างกะทันหันจากเจ้านายของตัวเอง’ นี่สิ... เพราะจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงเชื่อว่าไม่มีคนสติดีที่ไหนจะคาดหวังคำสารภาพรักจากอาเธอร์ เพนดราก้อนทั้งที่ตัวเองยังเป็นผู้ชายอยู่หรอก... หรือไม่ก็เขาคนนึงแหละที่ไม่ได้หวังอย่างนั้นน่ะนะ... เมอร์ลินถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างคนรันทดชีวิตก่อนจะย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องขององค์รัชทายาทแห่งคาเมลอทหลังจากที่เขาโดนขโมยจูบนั้นไปอย่างเงียบๆ...
‘ตอนแรกข้าก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่หรอกนะ...’ เสียงของอาเธอร์เริ่มพูดกับเขาในห้วงความคิดอีกครั้งหนึ่ง... ‘ข้าแค่รู้สึกว่าเจ้า... ดูมีเสน่ห์ขึ้น... แต่ตอนนี้ดูเหมือนข้าจะเข้าใจแล้วล่ะ...’
ทันใดนั้นเสียงพูดกลับขาดหายไป... และภาพในหัวของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าคมที่ยื่นเข้ามาใกล้พร้อมกับสัมผัสจากนิ้วมือกระด้างที่บริเวณข้างแก้มซึ่งเมอร์ลินยังคงจดจำมันได้ทุกครั้งที่หวนนึกถึง... ลมร้อนที่ถูกเป่ารดใบหูพร้อมกับคำพูดที่ถูกกระซิบเข้ามาหลังจากนั้นซึ่งเมอร์ลินคิดว่าเขาคงไม่มีทางลืมมันไปได้ตลอดชีวิตทำให้เขาเริ่มหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่... แหงสิ ถึงเขาจะบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับอาเธอร์เลยก็เถอะ... แต่ลองเจอแบบนี้เข้าไปเป็นใครก็ต้องเขินกันทั้งนั้นแหละน่า! เมอร์ลินหาข้ออ้างให้ตัวเองในใจก่อนที่ประโยคต่อมาในเหตุการณ์เมื่อวานนั้นจะผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง...
‘ท...ท่านจะบ้าเหรอ!’ เสียงของตัวเขาเองดังขึ้นฝ่าความเงียบอันน่าอึดอัดในภาพความทรงจำ... ร่างของอาเธอร์ที่ถูกเขาผลักขยับห่างออกไปในระยะที่ปลอดภัยกว่าเดิมเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูดต่อ ‘ท่านอย่ามาล้อเล่นกับข้าแบบนี้นะ!!’
และภาพที่ปรากฏขึ้นเป็นลำดับถัดมาก็คือภาพใบหน้าของอาเธอร์ที่จ้องมาทางเขาด้วยแววตาแน่วแน่จนเขารู้สึกหวั่นไหวแปลกๆ... เด็กหนุ่มเงียบอยู่อย่างนั้น แน่นอนว่าชายหนุ่มตรงหน้าก็เช่นกัน... เมอร์ลินในตอนนั้นพยายามที่จะจ้องอีกฝ่ายด้วยท่าทีคุกคาม แต่สุดท้ายก็ต้องหลบตาเพราะสู้ดวงตาสีฟ้าเข้มที่ส่องประกายจริงจังนั้นไม่ได้... จนท้ายที่สุดฝ่ายที่ต้องทำลายความเงียบในเวลานั้นลงก็คืออาเธอร์
‘ข้าไม่ได้กำลังเล่นอยู่นะ เมอร์ลิน’ เขาพูดขึ้นในขณะที่เอื้อมมือมาคว้าฝ่ามือที่กำแน่นอยู่บนตักของเด็กหนุ่มเอาไว้... ‘ไม่ว่าจะกับเจ้า... กับข้า... หรือกับเกว็นนิเวียร์ก็ตาม...’
เมอร์ลินในตอนนั้นไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้นอกจากการก้มหน้าหลบสายตาอยู่อย่างนั้น... เขาพยายามจะไม่ใส่ใจแววตาจริงจังของฝ่ายตรงข้ามที่ตอกย้ำความเป็นจริงซึ่งเขาพยายามจะหลีกเลี่ยงนั้นในขณะที่คิดในใจกับตัวเองว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่นไร้สาระที่อีกฝ่ายกุขึ้นเพื่อกลั่นแกล้งเขาเหมือนปกติ... จนสุดท้าย อาเธอร์ที่เหมือนจะรับรู้ถึงความพยายามของเขาได้ในตอนนั้นจึงปล่อยมือจากเขาและลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ
‘เจ้าจะไม่เชื่อข้าก็ไม่เป็นไร...’ เสียงของเขากล่าวขึ้นในที่สุด ‘แต่ต่อจากนี้ไป... ข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่าข้าจริงจังกับเรื่องนี้มากแค่ไหน เมอร์ลิน’
จากนั้นห้องทั้งห้องก็เงียบลง... ความคิดของเขาก็หยุดลง... เพราะนั่นคือคำพูดประโยคสุดท้ายที่อาเธอร์ทิ้งไว้ก่อนจะเดินหายออกไปจากห้องของตนเองในที่สุด...
เมอร์ลินในปัจจุบันถอนหายใจอีกครั้ง... ความมุ่งมั่นของอาเธอร์... มันดูเป็นของจริงเสียจนเด็กหนุ่มปฏิเสธได้ยากเหลือเกิน... แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่สามารถทำให้ชายหนุ่มที่เคยรักเคยหลงผู้หญิงคนหนึ่งจนสุดหัวใจกลับมาสารภาพรักกับเด็กหนุ่มซึ่งเป็นแค่เพื่อนสนิท หรืออาจจะเป็นแค่เด็กรับใช้ในสายตาคนอื่นด้วยซ้ำไปในเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน... เมอร์ลินขมวดคิ้วให้กับความขัดแย้งที่ตีกันอยู่ในหัวของตนเองก่อนจะรู้สึกตัวว่ามาถึงที่หมายของตนแล้วในท้ายที่สุด...
“ขอให้เรื่องเมื่อวานเป็นแค่เรื่องล้อเล่นทีเถอะนะ...” เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก และตัดสินใจเคาะประตูตรงหน้าในที่สุด...
“เข้ามาได้”
เสียงของอาเธอร์ที่ดังทะลุลอดบานประตูหนาหนักออกมานั้นแทบจะทำให้เมอร์ลินอยากจะหันหลังแล้ววิ่งกลับไปซุกตัวในห้องของตนทั้งวันเสียจริงๆ... แต่เมื่อถึงขั้นนี้แล้วอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด... เมอร์ลินปลอบใจตัวเองไปอย่างนั้นแล้วค่อยๆก้าวผ่านขอบประตูเข้าไปอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่สายตาของเขาจะเหลือบไปเห็นบุคคลผู้เป็นเจ้าของห้องซึ่งยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าของตนเองเป็นอย่างแรก... และเมื่อชายหนุ่มหันมาเห็นร่างที่พ้นจากกรอบประตูเข้ามาในฉับพลันนั้น เขาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยทักขึ้นก่อน
“อรุณสวัสดิ์ เมอร์ลิน” อาเธอร์พูดในขณะที่ส่งยิ้มมาให้เขาเล็กน้อย “วันนี้เจ้ามาสายนะ”
คำพูดทักอันปกติสุขของฝ่ายตรงข้ามนั้นทำให้เมอร์ลินถึงกับพูดอะไรไม่ออก... ใช่ๆ เขารู้ว่ามันเป็นคำพูดทักทายตอนเข้าธรรมดาๆนั่นแหละ แต่เพราะมัน ‘ธรรมดา’ นี่สิถึงทำให้เขาไปไม่เป็น... เขาอุตส่าห์ซักซ้อมวิธีการรับมือการกระทำหรือคำพูดแปลกๆที่เขาคาดว่าจะเกิดขึ้นมาเกือบร้อยอย่างได้ แต่พออาเธอร์มาทักทายกันง่ายๆอย่างนี้แล้วเขาก็ก็เลยไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดีน่ะสิ...
“เอ่อ... ข้า... ข้าแค่ตื่นสายน่ะ...” เมอร์ลินตอบตะกุกตะกักในขณะที่วางกองผ้าปูที่นอนเอาไว้บนเตียงของอีกฝ่าย “เมื่อคืนข้าแค่... อืม... นอนดึกไปหน่อย...”
“...เจ้าอ่านหนังสือตอนดึกเหรอ?”
ใครว่าล่ะ... ข้าซ้อมรับมือกับท่านต่างหาก! เมอร์ลินคิดเช่นนั้นด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ตอบกลับไปว่า... “ใช่ ข้าอ่านเพลินไปหน่อย”
อาเธอร์เพียงแค่พยักหน้ารับเล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะหันกลับไปง่วนอยู่กับตู้เสื้อผ้าของตนเองอีกครั้งจนเมอร์ลินประหลาดใจ... ไหนบอกว่าจะเอาจริงกับข้า? แล้วไอ้อาการเมินกันแบบนี้มันหมายความว่าไง... เด็กหนุ่มนึกพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างสงสัย ทว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไรนอกเหนือไปจากการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนอย่างเงียบๆและหลีกเลี่ยงการพูดถึงประเด็นที่จะทำให้ตัวเขาลำบากให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้... แต่จนแล้วจนรอด ด้วยนิสัยช่างพูดก็ทำให้เด็กหนุ่มอดที่จะทำลายความเงียบขึ้นมาไม่ได้ในท้ายที่สุด...
“แล้ว...” เขาเริ่มด้วยเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้... “เมื่อเช้าใครเป็นคนยกถาดอาหารมาให้ท่านเหรอ?”
อาเธอร์เหลือบมองมาทางเขาเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปพร้อมกับคำตอบ...
“เกว็นนิเวียร์น่ะ”
กรรม... นั่นคือคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเมอร์ลินโดยฉับพลัน... เขาอุตส่าห์จงใจไม่ลากเข้าประเด็นอะไรที่อาจจะเป็นอันตรายแล้วนะ แต่ทำไมคนที่มาทำหน้าที่ยกถาดอาหารเช้าแทนเขา(ซึ่งเด็กหนุ่มวานให้ไกอัสช่วยจัดการให้)ถึงต้องเป็นเกว็นนิเวียร์ด้วยละเนี่ย?! เมอร์ลินคิดในใจอย่างลนลาน... แล้วคราวนี้เขาควรจะทำยังไงดี? จะเปลี่ยนประเด็นไปเลยก็คงจะพอได้อยู่หรอก แต่นิสัยอยากรู้อยากเห็นของเขามันดันสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นซะแล้วสิ... และก่อนที่เมอร์ลินจะทันห้ามปากตัวเอง เขาจึงถามต่อไปว่า
“นางพูดอะไรบ้างรึเปล่า?”
อาเธอร์นิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะยักไหล่
“เปล่า” เขาตอบ “นางไม่ได้พูดอะไรเลย”
“อ้อ...” เมอร์ลินพึมพำพลางพยักหน้ารับ... งั้นก็ดีไปละมั้ง? เขานึกระหว่างที่รู้สึกโล่งอกว่าปากเจ้ากรรมของเขาไม่ได้ไปปลุกประเด็นสำคัญอะไรเข้าอีก ในขณะที่มือทั้งสองที่ว่างอยู่ก็ขยับจัดผ้าปูที่นอนให้เรียบร้อยตามหน้าที่ที่ควรทำ...
เวลาผ่านไปสักพักท่ามกลางความเงียบที่เข้ามาครอบคลุมระหว่างคนทั้งสอง... เมอร์ลินซึ่งเสร็จจากหน้าที่ของตนเองแล้วเหลือบมองไปทางอาเธอร์เล็กน้อยอย่างไม่แน่ใจนักว่าควรจะทำประการใดต่อไปดี ทว่าพอเห็นร่างของชายหนุ่มที่กำลังวุ่นวายอยู่กับอะไรบางอย่างในตู้เสื้อผ้าของตัวเองโดยไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเขาเลยนั้นจึงทำให้เด็กหนุ่มหวนคิดถึงอะไรบางอย่าง...
เรื่องที่อาเธอร์สารภาพรักกับเขาเมื่อวาน...
เมอร์ลินจับจ้องไปที่ฝ่ายตรงข้ามเงียบๆอย่างใช้ความคิด... ในวันนี้ท่าทางของอาเธอร์ดูปกติมากเสียจนเขาแทบจะคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั่นเป็นเพียงแค่ภาพฝัน หรือบางที... เมื่อวานอีกฝ่ายอาจจะโดนผีเข้าหรืออะไรซักอย่างแล้วพอตื่นขึ้นมาเช้านี้อาจจะลืมไปแล้วก็ได้? เมอร์ลินคิดพลางลอบยิ้มกับตัวเอง... ถ้าเป็นแบบนั้นก็ค่อยยังชั่วล่ะนะ
“เอ่อ...” เด็กหนุ่มเริ่มพูดขึ้นในที่สุด “ข้าไปได้รึยัง?”
อาเธอร์หยุดคิดเล็กน้อย
“อืม ได้”
พอเห็นท่าทางการพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายเช่นนั้นเมอร์ลินก็แทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ... สงสัยว่าเรื่องที่เขากลัวจะกลายเป็นแค่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นไปแล้วจริงๆนั่นแหละนะ?... เด็กหนุ่มคิดไปยิ้มไปในขณะที่กำลังจะเปิดประตูออกจากห้องไปด้วยอาการโล่งอก
แต่ทว่า...
“อ้อ... เดี๋ยวก่อน เมอร์ลิน”
เสียงเรียกของอาเธอร์ที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้ผู้ถูกเรียกชะงักไปเล็กน้อย แต่ด้วยอารามดีใจประกอบกับความค่อนข้างแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษกับเขาแล้วนั้นทำให้เขาไม่ได้เอะใจเลยว่าฝ่ายตรงข้ามเรียกรั้งเขาไว้ทำไม... เมอร์ลินหันไปเลิกคิ้วให้กับผู้เป็นเจ้าของห้องพร้อมกับรอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าอย่างไม่ระแวงสงสัยใดๆ
“มีอะไรเหรอ?”
อาเธอร์ยิ้มตอบกลับมาเล็กน้อยก่อนจะกวักมือเรียก
“เจ้ามาทางนี้หน่อยสิ”
เมอร์ลินมีท่าทีประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ติดใจสงสัยอะไรและยอมเดินไปหาอีกฝ่ายแต่โดยดี... จนพอเขามายืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้านั้นแล้ว เขาจึงถามขึ้นอีกครั้ง
“มีอะไรเหรอ?”
อาเธอร์เกาหัวอย่างลำบากใจนิดหน่อยก่อนจะเปิดประตูตู้ให้เขาดูได้เต็มตา
“เจ้าช่วยเลือกหน่อยสิ”
“...หืม?”
เด็กหนุ่มส่งเสียงพึมพำออกมาเบาๆในขณะที่มองเข้าไปในตู้ไม้สี่เหลี่ยมสีน้ำตาลตรงหน้าและได้พบว่าพื้นที่ว่างทุกส่วนที่ยังเหลืออยู่นั้นถูกอัดเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสี หลากขนาด หลากหลายแบบละลานตาไปหมดจนเมอร์ลินชักเริ่มมึน... เขาคิดว่าดอกไม้ทุกชนิดที่เขาเคยเห็นมันอยู่ในป่าหรือวางขายอยู่ในตลาดคงจะมาอยู่ในนี้จนหมดแล้วอย่างแน่นอน
“เอ่อ แล้ว... ท่านจะให้ข้าเลือกจากอะไรล่ะ?” เมอร์ลินถามขึ้นในที่สุด
“ตามที่เจ้าชอบนั่นแหละ” อาเธอร์ตอบพร้อมกับยิ้มบางๆในขณะที่มองดูเด็กหนุ่มตรงหน้าหยิบนู่นจับนี่ขึ้นมาพินิจพิเคราะห์อยู่พักใหญ่
“อืม...” เขาพึมพำเบาๆอย่างใช้ความคิด “ท่านจะให้เกว็นงั้นเหรอ?”
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง
“เปล่า...” เขาตอบ “ข้าให้เจ้า”
“อ้อ... ให้ข้า...”
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับพลางพึมพำทวนอีกรอบ...
เฮ้ย?
เดี๋ยวนะ...
เขาฉุกใจขึ้นมาได้ในวินาทีถัดมาก่อนจะสะบัดหน้ากลับมามองผู้ที่พูดในฉับพลันแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“ให้ข้า?”
อาเธอร์ยักไหล่เล็กน้อยราวกับมันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร
“ก็นะ... เจ้าก็น่าจะรู้ว่าข้าไม่ค่อยเก่งเรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่...” เขาเริ่ม “เพราะงั้น ข้าก็เลยไม่รู้ว่าควรจะให้ดอกไม้อะไรเจ้าดี... อีกอย่าง ข้าก็ยังไม่รู้ด้วยว่าเจ้าชอบแบบไหนสีไหน ข้าก็เลยเหมามาหมดแล้วค่อยให้เจ้าเลือกไงล่ะ?”
เมอร์ลินนิ่งค้าง... นั่นมันใช่ประเด็นที่เขาอยากรู้ซะที่ไหนกันเล่า!!
“ไม่ๆๆ ข้าหมายความว่า...” เขาอธิบายใหม่ “ท่านให้ข้าทำไม?”
อาเธอร์อมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ
“เจ้านี่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆใช่ไหม?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว “การที่จะเริ่มจีบใครซักคนน่ะมันก็ต้องเริ่มที่ดอกไม้สิถึงจะดี... แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือต้องเป็นดอกไม้ที่เขาชอบถึงจะทำให้น่าประทับใจไงล่ะ?”
เมอร์ลินทำหน้ามึนงงอยู่พักใหญ่ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อเริ่มเข้าใจในความหมายของการกระทำนั้น
“เดี๋ยว... ท่านคงไม่ได้หมายความว่า...”
“ก็ข้าบอกเจ้าแล้วนี่?” อาเธอร์ขัดขึ้นในขณะที่ยิ้มกว้างส่งมาให้เขา... “ข้าบอกแล้วว่า ‘ข้าจะเอาจริง’ ”
คำตอบนั้นทำให้เมอร์ลินนิ่งค้างจ้องหน้าอีกฝ่ายอยู่นาน... ลางสังหรณ์ไม่ดีเริ่มผุดขึ้นมาราวกับน้ำเดือดปุดๆจนเกิดฟองอากาศแตกโพละอยู่ในหัวสมอง...
ไม่นะ... ไม่จริงใช่ไหม...
“เอ้า! มัวรออะไรอยู่ล่ะ? เลือกซะสิ...” อีกฝ่ายว่าพลางแย้มยิ้ม “...เนอะ? ‘ที่รัก’ ...”
ตอนนั้นเองที่เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบเริ่มหยดลงมาตามใบหน้าเนียนของเมอร์ลิน...
คราวนี้ไม่รอดแหง...
จากนี้ชีวิตเขาจะเป็นยังไงต่อไปน่ะเหรอ? เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่เขาแทบไม่อยากจะคิดถึงมันเลยจริงๆ...
<<< มุมสนทนารีเทิร์น!! >>>
สวัสดีบทสี่!! สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านเช่นเดิมด้วยค่ะ~ XD
ไรเตอร์เชื่อว่าตอนนี้หลายๆคนคงจะเริ่มทยอยเปิดเทอมกันแล้วสินะคะ... ตอนนี้ไรเตอร์เองก็งานยุ่งหัวปั่นมากทั้งๆที่พึ่งเปิดเทอมมาได้สองวัน = = แบบว่า... พอมาถึงห้องเรียนปุ๊ป ก็โดนการบ้าน รายงาน อัดกระแทกหน้าปั๊ปเลยล่ะค่ะ =w= เจอแบบนี้เข้าไปคนขี้เกียจอย่างเราก็เริ่มเหงื่อตกกันแล้วเนอะ 555
อ่า... ตอนนี้หลายคนคงเริ่มเอียนแล้วสินะที่ไรเตอร์เปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา =w=” ขอโทษด้วยนะคะ แต่แค่จะบอกว่าตอนนี้ไรเตอร์ยุ่งมากก็เลยไม่มีเวลาพล่ามยืดยาวแบบที่หลายๆคนเบื่อกันเต็มทนอย่างที่ผ่านมาแล้วล่ะค่ะ(หัวเราะ) เพราะงั้นวันนี้ก็จะพูดกระชับความสัมพันธ์กันแค่นี้ล่ะ!! ใบอ่านคิดวิเคราะห์ 2 ใบกับรายงานภาษาอังกฤษชวนอ้วกกำลังกวักมือเรียกอยู่... = = เพราะงั้นวันนี้คงต้องลากันแค่นี้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามเช่นเดิม และไรเตอร์ก็จะพยายามเข็นตอนใหม่ออกมาเรื่อยๆให้ได้ค่ะ! ดังนั้น เชิญเต็มอิ่มกับรูปแถมหวานๆ น่ารักๆ ของคู่พระ-นาย(?)ประจำเรื่องนี้ได้เลยค่ะ!! Let’s Go!!! XD
ปล.หัวข้อวันนี้คือ ‘การจีบของอาเธอร์’ ค่ะ 555 << หัวข้อเว่อร์ไปนะบางที... =w=
อ้ะ... แถมนิดนึงให้เข้ากับเนื้อหาตอน... =w= นี่คือหน้าหนูลินตอนโดนสารภาพรักค่ะ 555
แล้วเจอกันนะคะ!! XD
ความคิดเห็น