คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3
บทที่ 3
*~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~*
แสงแดดอันรุนแรงที่สาดส่อง บานหน้าต่างที่ถูกเปิดระบายกลิ่นอับชื้น เตียงนอนยับยู่ยี่ซึ่งปราศจากการพับเก็บ รวมถึงเศษฝุ่นผงที่กระจายเกลื่อนอยู่ตามพื้นห้องนั้นเองคือยามบ่ายที่เมอร์ลินได้เผชิญ ณ ห้องนอนขององค์รัชทายาทแห่งคาเมลอท และด้วยสภาพนั้นเองที่ทำให้เขาได้รับรู้ถึง ‘ศักยภาพ’ อันแท้จริงของอาเธอร์ในการทำห้องของตนให้รกเละเทะได้ภายในเวลาไม่เกิน 3 วินาทีหลังจากก้าวเข้ามาในห้องซึ่งเขาจำได้ว่ามันเคยเรียบร้อยอยู่เมื่อเช้า... เมอร์ลินถอนหายใจก่อนจะเริ่มกวาดตามองไปรอบห้องอย่างเหนื่อยหน่าย
“ให้ตายสิ... ซกมกจริงๆเลยแฮะ” เด็กหนุ่มบ่นพึมพำพลางทำปากขมุบขมิบอย่างขุ่นเคืองเล็กน้อย... ใช่สิ เขาเป็นองค์รัชทายาท เขาเป็นอัศวินผู้เก่งกาจ... แต่แล้วยังไงล่ะ? ในสายตาของเมอร์ลิน อาเธอร์ก็ไม่ต่างไปจากเด็กเอาแต่ใจนักหรอก... เด็กหนุ่มนึกพลางถอนหายใจออกมาอีกรอบอย่างเสียไม่ได้ เขารู้ดีว่าถึงแม้อาเธอร์จะทำอะไรไม่เป็นมากนัก แต่สุดท้ายแล้ว ในตัวของเขาก็ยังมีเสี้ยวเล็กๆเสี้ยวหนึ่งซึ่งทำให้ผู้ที่เข้ามาสัมผัสมันเคารพนับถือในตัวขององค์รัชทายาทผู้นี้ได้อยู่ดี... แน่ล่ะว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน เมอร์ลินคิดก่อนจะถอนหายใจ
“ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างน้า...”
เด็กหนุ่มพึมพำกับตนเองในขณะที่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบๆอยู่พักหนึ่ง... ดวงตาสีฟ้าเข้มแลดูเลื่อนลอยเมื่อเขาค่อยๆนึกภาพการเดทอันสงบสุขท่ามกลางป่าเขาของคนทั้งคู่ ก่อนที่ความคิดหนึ่งจะแวบขึ้นมาขัดในฉับพลัน
...เขาลืมขัดรองเท้าให้อาเธอร์...
“ซวยล่ะ...” เมอร์ลินรำพึงออกมาเบาๆก่อนจะรีบเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้ที่ตนนั่งอยู่เมื่อครู่ในทันที เขารีบก้าวข้ามสิ่งของที่ทิ้งเกะกะอยู่ตามพื้นไปยังอีกฟากของห้องเพื่อหยิบรองเท้าบู๊ทคู่โปรดของผู้เป็นนายออกมาจากที่เก็บด้วยอาการรีบร้อน และถ้าหากจะถามว่าทำไมเขาถึงต้องลนลานขนาดนี้ด้วยล่ะก็... นั่นคงเป็นเพราะคำสั่งอันเด็ดขาดขององค์รัชทายาทเมื่อเย็นวานที่บอกให้เขาทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จก่อนที่อาเธอร์จะกลับจากการเดท... มิฉะนั้นเขาคงจะต้องไปลงเอยอยู่กลางตลาดพร้อมกับการโดนปาผลไม้ใส่เป็นแน่
“...หวังว่าอาเธอร์คงจะไม่รีบกลับหรอกนะ...” เมอร์ลินพึมพำในขณะที่หยิบรองเท้าออกมาวางเรียงกัน... แน่ล่ะ เป็นถึงองค์รัชทายาททั้งทีมีรองเท้าแค่คู่เดียวก็คงไม่ได้หรอก... เด็กหนุ่มมองกองรองเท้าที่เรียงกันเป็นตับอยู่พักหนึ่งด้วยความปลงตกก่อนจะเริ่มลงมือทำงานในที่สุด
แต่ทว่าดูเหมือนความโล่งใจของเมอร์ลินจะดำเนินไปได้ไม่นานนัก เมื่อความคิดที่ว่าอาเธอร์คงจะมัวใช้เวลาอยู่กับเกว็นนิเวียร์จนเย็นถูกขัดลงด้วยเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งที่ดังแว่วมาตามทางเดิน... เด็กหนุ่มหยุดมือจากสิ่งที่ทำอยู่ด้วยความสงสัยก่อนจะเริ่มเงี่ยหูฟังอย่างระมัดระวัง... เขารู้ดีว่ามันอาจเป็นเสียงเดินของทหารยามหรือเด็กรับใช้ที่ผ่านมาแถวนี้ก็ได้ แต่ทว่าจังหวะการลงเท้าที่บ่งบอกชัดเจนว่าเกิดจากคนๆเดียวกับวิธีการกระแทกกระทั้นฝ่าเท้าอย่างไม่เกรงใจใครนั้นช่างฟังดูเหมือนวิธีการเดินของอาเธอร์เสียจนเขาไม่อาจมองข้ามได้... เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่นอย่างชั่งใจในขณะที่เสียงนั้นค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆและเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้าย...
ปัง!!
เสียงกระแทกที่ดังขึ้นพร้อมกับบานประตูที่ถูกเปิดพรวดออกมาทำให้เมอร์ลินสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เขาเผลอทำที่ขัดรองเท้าตกกระทบพื้นห้องเป็นเสียงดังกังวานในจังหวะเดียวกับที่ร่างสูงของอาเธอร์ลอดพ้นจากช่องประตูมาด้วยอาการรีบร้อนอย่างพอดิบพอดี... และทันทีที่ดวงตาของชายหนุ่มเหลือบมาสบเข้ากับเขานั้น ทั้งสองก็นิ่งค้างไปครู่หนึ่งด้วยอาการประหลาดใจพอๆกัน
“เมอร์ลิน?”
เป็นอาเธอร์ที่เริ่มเปิดประเด็นขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงงุนงง... เขามองหน้าเด็กรับใช้ของตนด้วยอาการตื่นๆเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาอยู่ที่นี่ “...เจ้ามาทำอะไรในห้องข้าตอนนี้เนี่ย?”
เมอร์ลินนิ่งค้างไปพักหนึ่ง
“เอ่อ... คือ... ข้า...”
ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้องเลิกคิ้วสูงกับอาการผิดปกติของฝ่ายตรงข้าม แต่ถ้าจะให้สารภาพตามตรง... เขาอยากพุ่งเข้าไปกอดอีกฝ่ายเหลือเกินเมื่อได้เห็นใบหน้าสวยที่แสดงอาการลนลานอยู่ตรงหน้า... อาเธอร์เก็บความรู้สึกชื่นชมปฏิกิริยาอันแสนน่ารักของเมอร์ลินเอาไว้ในใจก่อนที่สายตาของเขาจะไปปะทะเข้ากับกองรองเท้าซึ่งยังทำความสะอาดไม่เสร็จนั้นพอดี... และนั่นก็ดูเหมือนจะช่วยสร้างความกระจ่างให้กับสิ่งที่ชายหนุ่มสงสัยได้มากเกินพอ
“ข้ารู้แล้ว...” เขาว่าพลางเอามือกอดอก ดวงตาสีฟ้าเข้มจับจ้องเด็กหนุ่มเหมือนผู้ใหญ่ที่พึ่งจับได้ว่าเด็กของตนทำความผิด... “ที่แท้ เจ้าก็ลืมขัดรองเท้าให้ข้านี่เองสินะ?”
เมอร์ลินอ้าปากค้างอย่างคิดจะหาคำแก้ตัว แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาทำได้ก็มีแค่เพียงการปัดป่ายมือไปมาอย่างลนลานเท่านั้น... “ข...ข้าก็กำลังทำอยู่นี่ไง อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะน่า”
“อ้อ เหรอ~” อาเธอร์ล้อเลียนพลางกลอกตา “เฮ้อ... ช่างเถอะ”
เด็กหนุ่มงุนงงเล็กน้อยกับปฏิกิริยาของฝ่ายตรงข้ามในขณะที่นั่งมองตามร่างสูงที่ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มของตนอย่างเงียบๆ... เมอร์ลินกระพริบตาสองสามครั้งอย่างประหลาดใจ เขาอุตส่าห์เตรียมใจรับบทลงโทษได้แล้วแท้ๆ แต่พออาเธอร์ทำตัวเฉยชากับความผิดของเขามันก็ชวนให้ตะหงิดใจแปลกๆ... เด็กหนุ่มนิ่งเงียบไปสักพักอย่างชั่งใจก่อนจะหันกลับไปทำงานของตนเองต่อและตัดสินใจถามขึ้น
“...ท่านมีปัญหาอะไรกับการเดทรึเปล่า?”
ชายหนุ่มบนเตียงชะงักไปเล็กน้อย “...เปล่านี่”
“แต่ท่านกลับมาเร็วเกินไปนะ” เด็กหนุ่มยังคงไม่ลดละในขณะที่สะบัดหน้ากลับมาจ้องฝ่ายตรงข้ามเขม็ง “ระยะทางจากที่นั่นกลับมาก็ใช่ว่าจะใกล้ซะที่ไหน”
“เรื่องนั้น...” อาเธอร์เอ่ยพลางหาคำแก้ตัว แต่สุดท้ายก็นึกคำโกหกอะไรดีๆไม่ออก... ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปในขณะที่เหม่อมองขึ้นไปบนเพดานก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ... “ดูยังไงก็ความผิดเจ้าชัดๆ”
“...ห๊ะ?” เมอร์ลินหลุดอุทานออกมาคำหนึ่งอย่างงุนงง “...ข้า?”
อาเธอร์เหลือบมองไปยังเด็กหนุ่มที่ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างมึนๆแล้วหลุดขำในใจในขณะที่ยังคงปั้นสีหน้านิ่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทีสบายๆ... เขาพยายามทำให้ใบหน้าตัวเองดูเหมือนคนที่กำลังโกรธ แต่ก็คงไม่เนียนนักเมื่อภายในหัวเขาก้องไปด้วยเสียงหัวเราะขำขันจากท่าทีตอบสนองของฝ่ายตรงข้ามจนทำให้สติกระเจิดกระเจิงไปหมด...
“ใช่... ความผิดเจ้าทั้งนั้นนั่นแหละ”
เมอร์ลินนิ่งค้างไปสักพักหนึ่งก่อนจะกระพริบตาอย่างงุนงงกับการโยนความผิดของฝ่ายตรงข้าม... เขาพยายามทบทวนถึงลำดับขั้นตอนการทำงานของเขาในวันนี้ตั้งแต่เช้าไปจนถึงเสี้ยววินาทีก่อนอย่างละเอียดแต่ก็ไม่พบอะไรที่ดูใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ข้อผิดพลาด’ เลยแม้แต่น้อย... เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันอย่างครุ่นคิด... นี่ข้าไปทำอะไรขัดใจเขาอีกล่ะเนี่ย? เมอร์ลินพึมพำในใจอย่างสงสัยเต็มแก่ก่อนจะตัดสินใจถามว่า “ข้าไปทำอะไรให้ท่านกัน?”
“เหอะ นี่เจ้าไม่รู้ตัวเลยรึไง?” อาเธอร์พ่นล่มหายใจเป็นเชิงประชดประชันก่อนจะอธิบายไปตามทักษะการแถอันยอดเยี่ยมของตนเอง... “ที่ๆเจ้าปูเบาะปิคนิกให้ข้าน่ะมันขรุขระสิ้นดี... นี่ถ้าข้าถูกเศษหินแทงทะลุหลังจนตายใครจะรับผิดชอบ?”
เมอร์ลินถอนหายใจปนเสียงหัวเราะเล็กน้อยให้กับคำอธิบายนั้นก่อนจะส่ายหัวเป็นเชิงเหนื่อยหน่าย
“นี่ท่านกำลังจะบอกว่า... ‘อัศวินผู้เก่งกล้าซึ่งมีศักดิ์เป็นถึงองค์รัชทายาทแห่งคาเมลอทและจะเป็นกษัตริย์ในภายภาคหน้า’ จะมา ดับอนาถ เพราะโดนหินแทงหลังระหว่างไปปิคนิกจีบสาวเนี่ยนะ?” เด็กหนุ่มถามก่อนจะสอดแทรกเสียงหัวเราะเล็กน้อยที่ท้ายประโยคอย่างสุดจะทนกับข้ออ้างไร้สาระเหล่านั้น... “น่าเชื่อตายล่ะ”
“แล้วเจ้าไม่รู้รึไงว่าบรรยากาศคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการปิคนิกน่ะ หือ?”
“...เหอะ” เมอร์ลินแค่นหัวเราะเบาๆในขณะที่มีสีหน้าไร้ความเชื่อถือในคำพูดนั้นอย่างชัดเจน... “ท่านจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ เพราะยังไงข้าก็รู้ดีอยู่แล้วว่าท่านไม่มีทางยอมรับความผิดของตัวเองได้หรอก... รึไม่จริงล่ะ?”
ชายหนุ่มชะงักไปแวบหนึ่งก่อนจะเด้งตัวขึ้นมานั่งหลังตรงพร้อมกับเลิกคิ้วมาทางเมอร์ลินอย่างประหลาดใจ
“...ข้าไม่เคยทำแบบนั้นเลยเหรอ?”
เด็กหนุ่มกลอกตาพลางทอดถอนหายใจอย่างเซ็งเต็มที...
“ไม่เคยเลยซักครั้งเดียว”
คำตอบฟันธงอันหนักแน่นนั้นทำให้อาเธอร์นิ่งเงียบไปเพื่อทบทวนตัวเองอยู่พักใหญ่... เขาล้มตัวลงบนที่นอนอีกครั้งพลางครุ่นคิดไปถึงสถานการณ์หลายๆอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายกล้าพูดถึงขนาดนั้น... ทว่ายิ่งคิดปฏิเสธเท่าไหร่ ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ‘การปัดความรับผิดชอบ’ นั่นกลับยิ่งกลายเป็นคุณสมบัติที่เด่นชัดในตัวของเขามากขึ้นเท่านั้น... อาเธอร์ใช้เวลาในการหาข้ออ้างมาปฏิเสธตัวเองมากมายแต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุด... ตอนที่เมอร์ลินคิดว่าฝ่ายตรงข้ามคงจะหลับไปแล้วนั้นเอง... ชายหนุ่มก็ดีดตัวขึ้นมาจากเตียงอย่างรวดเร็วจนทำให้เด็กหนุ่มที่ไม่ทันตั้งตัวแทบสะดุ้งด้วยความตกใจ
“อะไรกัน จู่ๆก็-”
“ความผิดข้าเอง!”
คำพูดโพล่งนั้นทำให้รอบบริเวณถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบจากการชะงักค้างของเมอร์ลินและการรอดูปฏิกิริยาตอบสนองของผู้พูด... ก่อนที่เด็กหนุ่มที่ตามเนื้อหาของกระบวนการคิดของอีกฝ่ายไม่ทันจะต้องย้อนถามเพื่อความมั่นใจอีกรอบ “...เมื่อกี้ท่านว่าไงนะ?”
อาเธอร์พ่นลมออกทางจมูกเล็กน้อยก่อนจะลุกมานั่งที่พื้นข้างๆกับร่างบางที่กำลังงุนงงได้ที่... ชายหนุ่มจ้องเข้าไปในนัยน์ตาสีฟ้าเข้มที่แสนงดงามนั้นก่อนจะพูดช้าๆ
“ความ-ผิด-ข้า-เอง-” เขาย้ำในขณะที่มุมปากเรียวปรากฏให้เห็นรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย... “ข้ายอมรับแล้วว่าไอ้ที่ข้ากลับมาเร็วกว่าปกตินั่นเป็นความผิดข้า... พอใจรึยังล่ะ?”
เมอร์ลินทำปากพะงาบๆอยู่พักใหญ่โดยที่ไม่มีเสียงเล็ดลอดก่อนจะพ่นคำพูดสั้นๆออกมาได้คำหนึ่งหลังจากผ่านไปนานพอสมควร... “ท่านพูดจริงดิ?”
“ก็จริงน่ะสิ”
และคำตอบนั่น... ประโยคที่ดูมั่นอกมั่นใจอย่างสมบูรณ์แบบนั้นก็ดูเหมือนจะยิ่งทำให้เมอร์ลินช็อคหนักกว่าเก่า... และใบหน้าตื่นๆแบบนั้นเองที่ทำให้อาเธอร์หลุดขำออกมาโดยที่เจ้าตัวคิดไปว่าตัวคืดไปว่า ‘ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา... เจ้าน่ะน่ารักเกินไปแล้วจริงๆนี่!’ ...แต่ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มซึ่งไม่ได้รับรู้ถึงความคิดนั้นจะมองไปในอีกแง่มุมหนึ่งอย่างสิ้นเชิง
“...ข้าว่าท่านต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ อาเธอร์” เมอร์ลินมองเขาด้วยสายตาที่แสดงอาการไม่ไว้วางใจนัก “หรือไม่ก็ไม่สบาย หรืออาจจะเมา... แต่ที่แน่ๆน่ะไม่ใช่ท่านตอนปกติชัวร์ๆ”
และ... แน่ล่ะ ข้อสันนิษฐานนั่นยิ่งทำให้อาเธอร์หัวเราะหนักกว่าเก่า... หนักเสียจนเขาเริ่มมีความคิดว่าตัวเองคงจะเป็นบ้าขึ้นมาแล้วจริงๆเลยทีเดียว... “จะคิดยังไงก็เรื่องของเจ้าเถอะ!”
เด็กหนุ่มเลิกคิ้วให้กับท่าทางแปลกๆของเขาอย่างประหลาดใจก่อนจะหันกลับไปก้มหน้าก้มตากับงานของตัวเองต่อ... ทิ้งให้องค์รัชทายาทซึ่งสงบสติอารมณ์ของตนเองลงเรียบร้อยแล้วถอนหายใจกับตนเองเงียบๆ ก่อนที่เขาจะปรับท่านั่งเสียใหม่ และจ้องมองไปยังเด็กรับใช้ของตนอย่างไม่วางตา...
อาเธอร์กำลังใช้ความคิด... เขากำลังไตร่ตรองถึงสิ่งที่เขาคิดถึงมาโดยตลอดตั้งแต่ที่ได้เห็นหน้าเมอร์ลินตอนเช้า... ความรู้สึกรุนแรงในอก อาการโหยหาคลั่งไคล้ในตัวของฝ่ายตรงข้าม รวมถึงริมฝีปากนั่น... ชายหนุ่มเบนสายตาไล่ไปตามเรียวปากของเมอร์ลินพร้อมกับอารมณ์บางอย่างที่พลุ่งพล่านขึ้นมา... มันช่างดึงดูดเสียเหลือเกิน... อาเธอร์คิดในขณะที่เปลี่ยนไปจับจ้องดวงตาคู่งามของอีกฝ่ายแทน จนกระทั่งเมอร์ลินที่หันมาหลังจากรู้สึกแปลกๆจากสายตาของฝ่ายตรงข้ามตัดสินใจถามขึ้น
“ท่านมองอะไรน่ะ?”
“...ห๊ะ?” อาเธอร์หลุดเสียงแสดงความประหลาดใจออกไปเล็กน้อยก่อนจะปรับท่าทางให้กลับมานิ่งเฉยเช่นเดิม... “ไม่มีอะไรหรอก...”
เมอร์ลินเอียงคอให้กับคำตอบปัดนั้นก่อนจะมองไปด้านหลัง และหันกลับมาอีกพร้อมกับอาการนิ่วหน้า “...ท่านมองข้า?”
อาเธอร์อ้าปากจะเถียงแต่กลับได้พบว่าไม่มีสิ่งในหลุดออกไปจากระบบการเปล่งเสียงของตนเองเลยแม้แต่คำเดียว... เขาชักนึกโทษหัวสมองอันเชื่องช้าขึ้นมาทันทีที่ไม่สามารถคิดหาคำอธิบายให้กับการกระทำที่ถูกชักนำโดยสัญชาตญาณนั้นได้ก่อนจะเกาหัวแกรกๆ
“โอเคๆ ข้ามองเจ้านั่นล่ะ” ชายหนุ่มตอบรับด้วยน้ำเสียงงึมงำในลำคอเล็กน้อย “ช่วงสองวันมานี้เจ้า... เอ่อ... ไปทำอะไรแปลกๆกับตัวเองมาบ้างรึเปล่า?”
ผู้รับคำถามเลิกคิ้วด้วยอาการงุนงง “...ก็แล้วไอ้ ‘อะไรแปลกๆ’ ที่ท่านว่านั่นมันคืออะไรล่ะ?”
อาเธอร์แทบจะขยี้หัวตัวเองให้ยุ่งหนักกว่าเก่าด้วยความคิดประมาณว่า ‘ข้าพูดอะไรออกไปเนี่ย!’ ก่อนจะค่อยๆเริ่มสงบสติอารมณ์ของตนเองลงด้วยการถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ก็อย่างเช่นว่า... กินยาแปลกๆที่ช่วยบำรุงเสียง ลองใช้ยาหยอดตาที่ทำให้ตาสวยแบบผู้หญิง ขัดผิว หรือว่า...” เขาลดเสียงลงก่อนจะหลบตาหนี “...ทำเสน่ห์?...”
เมอร์ลินเลิกคิ้วให้กับข้อสันนิษฐานประหลาดๆเหล่านั้นก่อนจะส่ายหน้า
“เปล่านี่...” เขาตอบ “นอกจากท่านจะนับรวมการอาบน้ำของข้าเมื่อคืนล่ะก็นะ... นอกจากนั้นข้าก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษเลย”
อาเธอร์พึมพำตอบรับในลำคอเบาๆในขณะที่เริ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากร่างของฝ่ายตรงข้ามจางๆ... กลิ่นธรรมชาติที่หอมหวานจนน่าหลงใหล... ชายหนุ่มคิดในขณะที่ใบหน้าเริ่มขึ้นสีเล็กน้อยเนื่องจากการคิดไปถึงภาพหยดน้ำที่เกาะพราวตามผิวขาวเนียนละเอียดของเด็กหนุ่มข้างกายในขณะที่เจ้าตัวกำลังอาบน้ำอย่างสบายใจในจินตนาการของเขา ก่อนที่อาเธอร์จะต้องรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตนเองออกไปเพื่อกำจัดความคิดอกุศลที่มีต่อเรือนร่างบางนั้นก่อนจะพยักหน้ารับให้กับเมอร์ลินอย่างหนักแน่นอีกทีว่า ‘ไม่มีอะไร’
“...ข้าว่าท่านเริ่มจะทำตัวแปลกๆแล้วนะ อาเธอร์” เด็กรับใช้ของเขากล่าวขึ้นในที่สุด... ใบหน้าขาวนวลนั้นขยับยื่นเข้ามาใกล้ในขณะที่จ้องลึกเข้ามาในตาของชายหนุ่มอย่างสงสัย... “ท่านไม่สบายรึเปล่า? หน้าแดงๆด้วยนะ...”
อาเธอร์ชะงักไปพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างอึดอัด... ทำไมน่ะเหรอ? ก็ดูระยะที่เมอร์ลินยื่นหน้าเข้ามาสิ! มันแทบจะทำให้จมูกของพวกเขาชนกันอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่าเขาผงะถอยหลังไปเล็กน้อยด้วยความตกใจในตอนแรกนั่น... และถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเมอร์ลินไม่ได้คิดอะไรกับสิ่งที่ตัวเองทำก็เถอะ... แต่ปัญหาก็คือ ‘เขาคิด!’ แล้วตอนนี้ใบหน้าใสที่จ้องเข้ามาอย่างตั้งใจด้วยดวงตาสีฟ้าบริสุทธิ์ใสซื่อนั่นมันยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมานอกอกอยู่รอมร่อ... อาเธอร์จัดระเบียบความคิดอันแตกตื่นต่างๆนาๆที่ผุดขึ้นมาอย่างถี่รัวในหัวของตนเองได้ลำบากเต็มทีในขณะที่สายตาเริ่มเลื่อนลงไปที่เรียวปากของเมอร์ลินอีกครั้ง... สีชมพูสด ริมฝีปากฉ่ำหวาน... รวมทั้งลมหายใจอุ่นร้อนที่เล็ดลอดออกมาสัมผัสกับเรียวปากของอาเธอร์ในระยะประชิดนั่นยิ่งทำให้เขาแทบคลั่งด้วยความต้องการในตัวของเด็กหนุ่มตรงหน้า จนสุดท้าย... ความคิดเดียวที่แจ่มชัดอยู่ในหัวสมองของเขาตอนนี้ก็คือ...
...ครั้งนี้เขาจะไม่ทน...
“เจ้ามันยั่วเกินไปเองนะ เมอร์ลิน” อาเธอร์กระซิบแค่พอให้ตัวเองกับเด็กหนุ่มซึ่งตกเป็นเป้าหมายของเขาได้ยินก่อนจะดึงรั้งอีกฝ่ายเข้ามาประกบริมฝีปากลงไปอย่างไม่รอความเห็นใดๆ... จนเมอร์ลินที่พึ่งจะประมวลผลได้ว่าประโยคคำพูดก่อนหน้านั้นคืออะไรตอนที่โดนช่วงชิง ‘จูบแรก’ ไปแล้วถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ... เด็กหนุ่มพยายามขัดขืนด้วยการผลักแผ่นอกกว้างออกแต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลนักเมื่อเทียบกับฝ่ามือแข็งแรงที่กดบริเวณท้ายทอยของเขาเพื่อให้รสจูบที่ล้ำลึกลงไปอีกนั้น... และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าอาเธอร์จะแยกแยะได้อย่างชัดเจนแล้วระหว่าง ‘ริมฝีปากอันจืดชืดของเกว็นนิเวียร์’ กับ ‘รสจูบอันเร่าร้อนและหอมหวานที่ได้จากเมอร์ลิน’ ...จนสุดท้าย ด้วยความพยายามในการขัดขืนด้วยเรี่ยวแรงอันเล็กน้อยของเมอร์ลิน และการประท้วงจากอาการขาดอากาศหายใจที่ถูกสูบหายไปจากการกระทำนั้นจึงทำให้อาเธอร์ยอมผละริมฝีปากออกจากเด็กหนุ่มตรงหน้าในที่สุด... เขามองดูเมอร์ลินที่ยังคงอยู่ในอาการอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกผ่านใบหน้าที่แดงซ่านเพราะการจูบและเรียวปากที่ถูกบดขยี้เมื่อครู่ก่อนจะยิ้มออกมา
“ตอนแรกข้าก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่หรอกนะ...” เขาเริ่ม “ข้าแค่รู้สึกว่าเจ้า... ดูมีเสน่ห์ขึ้น... แต่ตอนนี้ดูเหมือนข้าจะเข้าใจแล้วล่ะ...”
อาเธอร์เอ่ยเสียงแผ่วเบาในขณะที่เอื้อมมือไปแตะเบาๆที่ข้างแก้มของร่างบางก่อนจะค่อยๆโน้มใบหน้าลงไปหาพร้อมกับเสียงกระซิบ...
“ทั้งหมดนั่นก็เพราะข้ารักเจ้ายังไงล่ะ... เมอร์ลิน...”
<<< มุมสนทนาพาทีเจ้าค่า~>>>
อ่า... สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนเมอร์เธอร์(?)ที่น่ารักทุกท่าน... =w=
วันนี้ไรเตอร์ต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาอัพช้าไปหนึ่งวัน... TWT พอดีข้าน้อยเพลิดเพลินกับการเล่นเฟสในวันแรงงานมากไปหน่อยก็เลยลืมสนิทเลยง่า... // แหะๆ // แต่ยังไงก็มาอัพให้แล้วจ้า~ หวังว่าทุกคนคงจะถูกใจตอนนี้กันนะ!!
จะว่าไป พูดถึงบทที่สามนี้แล้วก็ขอเวิ่นเลยละกัน... คือว่านะ... ไรเตอร์ห่างหายกับการเขียนเรื่องนี้มาได้ประมาณสองเดือนแล้ว... (อ๊ะ! แต่ยังไม่คิดจะปิดไหดองหรอกนะ!! พอดีเห็นเรตติ้งขึ้นก็เลยทีกำลังใจทำต่อขึ้นมา... ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ ฮือออออ TWT ) พอกลับมาอ่านอีกทีก็เลยเกิดอาการประมาณว่า... เฮ้ยยยยยยย นี่ตรูเขียนอะไรลงป๊ายยยยย~ แล้วก็มานั่งอายม้วน ร้องอรั๊งๆอ๊ายๆอิย๊าๆอวาห์~ หรืออะไรประมาณนั้นอยู่หน้าคอมคนเดียวอ่ะค่ะ... =.,= คือแบบว่าเป็นคนที่พอเขียนในกระดาษเสร็จแล้วมาพิมพ์ในคอมมันจะมีการเปลี่ยนแปลงส่วนที่คิดว่ายังไม่ค่อยดีนิดหน่อย... และโดยเฉพาะตอนนี้ต้องขอบอกเลยค่ะว่าเปลี่ยนเยอะพอสมควร ให้อารมณ์อีกแบบกับในกระดาษเลยล่ะค่ะ... เพราะงั้นใครที่อ่านรอบพิเศษโดยที่อ่านกันในต้นฉบับแนะนำให้อ่านอีกรอบเลย เพราะส่วนที่เปลี่ยนนั่นแหละคือส่วนที่อรั๊งส์สุดของตอนนี้เชียวล่ะ หึๆ... =w=+b
เอาละค่ะ จะไม่พูดมากแล้ว! ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยที่มาอัพช้านะคะ!! แต่ตั้งแต่กำหนดอัพครั้งหน้าก็จะเข้าสู่ช่วงเปิดเทอมม.4แล้ว... จะให้พูดว่าว่างเหมือนเดิมก็คงไม่ได้ แต่ยังไงก็คิดว่าช่วงเปิดเทอมน่าจะแต่งได้มากกว่าช่วงปิดเทอมค่ะเพราะน่าเบื่อกว่าเลยต้องหาอะไรทำ... (หัวเราะ) ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ต่อไปนะคะ! ไรเตอร์จะพยายามทำให้มันเป็นฟิคเรื่องยาวเรื่องแรกในชีวิตที่จบบริบูรณ์ให้ได้เลยคอยดู!! โอ๊ทส์!!
ปล.สำหรับผองเพื่อนที่รอภาคสองเรื่องนี้อยู่รวมถึงฟิคอื่นๆของคู่นี้ที่ไปโม้พล็อตไว้อาจจะไม่ได้ทำแล้วนะจ๊ะ... ขออภัยด้วยเน้อ TWT
เอ้อ ลืมพูดถึงหัวข้อการแถมรูปซะสนิท... =w= แถมรูปวันนี้เป็นการแอบเหลือบมองกันและกันของทั้งสองคนค่า~ที่เหลือเราเชื่อมั่นว่าพวกท่านจิ้นกระจายกันอยู่แล้ว... เพราะงั้นก็คงไม่ต้องใส่ไฟอีกล่ะนะ หุๆ (แสยะยิ้ม)
งั้นก็... ไว้เจอกันใหม่วันหวยออกครั้งหน้าจ้า~ \>{}</
ความคิดเห็น