ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    x xx xWantedx xx x

    ลำดับตอนที่ #1 : Wanted 1

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 49


    x xx xWantedx xx x

    [T] K + [D] S + [M] k

    BY  R~Y~O

    Wanted Chapter

    1

    "อะไร นี่เช้าแล้วนะ ยังไม่ตื่นอีกเหรอ อยากไปสายมากรึไงฮะ!!"

    เสียงที่ดังโหวกเหวกแต่เช้าตรู่ เสียงที่โทชิยะคิดว่าน่ารำคาญที่สุด ดังลั่นมาจากชั้นล่างของบ้าน และแน่นอน ไม่ใช่ใครที่ไหน แม่เทพธิดาแสนสวยของพ่อ..แม่ใหม่ของลูกที่สุดแสนจะซวย

    โหย..เห็นน่าตาน่ารักๆ เงี้ย นึกว่าจะใจดี  พ่อนะพ่อ จะหาแม่ใหม่ทั้งที เลือกที่มันสวย หงิม ติ๋มจ๋า..ไม่ได้รึไง

    "อีกสิบนาทีจะเข้าเรียนแล้ว รีบๆ กินซะสิ กว่าจะเสด็จออกจากบ้าน ชักช้าแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่ทันจนได้"

    โทชิยะหน้าบึ้งตึง แต่ก็ตักข้าวใส่ปากเรื่อยๆ...ก็มันอร่อยนิ...เว้ย..แพ้ฝีมือปลายจวักซะได้

    "วันนี้ไปเองนะ พ่อไม่อยู่ รีบออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว"

    โทชิยะจะสำลักข้าวตายเมื่อได้ยินที่แม่บอก ตาเหลือกรีบก้มลงมองนาฬิกาข้อมือตนทันที นั่น เข็มยาวทำไมมันถึงเดินเร็วแบบนี้ ตายล่ะหว่า!!

    ไม่อยู่!!..ทำไมไม่รีบบอกเล่า...สิบนาทีจากเนี่ยถึงโรงเรียนคิดว่าทันเหรอ เมื่อคว้ากระเป๋าได้โทชิยะก็รีบวิ่งออกจากบ้านตรงไปที่ป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุด

    "เดี๋ยว!! โทชิยะเงินยังไม่ได้หยิบไปเลย"

    ตะโกนไล่หลัง แต่ว่าสายไปแล้ว...โทชิยะวิ่งไปไกลจนไม่ได้ยินแล้ว

    "อะไรวะ ทำไมไม่มี" โทชิยะหัวเสีย เมื่อควานหาเงินในกระเป๋าจนทั่วแล้วก็ไม่พบเงิน

    "นี่จะไปรึเปล่า รถจะออกแล้วนะ" คนขับรถเมล์ตะโกนเรียก

    "เดี๋ยวพี่" โทชิยะล้วงกระเป๋ากางเกงใหม่อีกรอบ แต่ก็ไม่มีอยู่ดี

    "เฮ้ยเดี๋ยวสิ จอดก่อนๆ" โทชิยะตะโกนเรียกเมื่อเห็นว่ารถกำลังแล่นออกไป มือทุบไปที่ตัวรถ แต่ก็ต้องหยุดเมื่อรถวิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ

    "พนันกันไหม...ถ้านายไปถึงโรงเรียนก่อนฉัน ให้เตะเลย" เสียงดายดังขึ้นจากทางด้านหลัง บนรถเก๋งสีดำเปิดประทุนกับแฟนสาวโทโมเอะ ส่งยิ้มยียวนให้โทชิยะแล้วเหยียบคันเร่งออกไป

    "เออ ถึงฉันจะไปถึงก่อน แต่ก้นเน่าๆ ของแกใครจะไปเตะลงวะไอ้เด็กเวร" โทชิยะสถบเมื่อถูกดายซึ่งเป็นรุ่นน้องกวนใส่

    เจอเรื่องแย่ๆ แต่เช้า อารมณ์เสียทุกๆ นาที ผมหงอกคงจะขึ้นเต็มหัวแล้ว ในเวลาแบบนี้ ก็ดันคิดถึงอีกจนได้

    "...โทโมเอะ.."

    ก็คนที่นั่งข้างๆ ดายนั่น อดีตแฟนเก่าของเขาเอง คนที่เคยเชื่อมั่นว่าจะรักกันตลอดไป สุดท้ายก็ทำแบบนี้

    ผู้หญิงนี่ใจดำกันหมดเลยหรือไง..

    +++++++++

    โทชิยะเงยหน้ามองนาฬิกาบานใหญ่แขวนไว้หน้าตึกเรียน ที่หอนาฬิกาบนชั้นบนสุดของตึกใหญ่ โทชิยะถอนหายใจ มองไปรอบๆ โรงเรียนที่ดูเงียบ ไม่ค่อยมีนักเรียนพลุกพล่าน แต่ก็ได้ยินเสียงร้องเฮมาจากทางโรงยิม แต่โทชิยะไม่สนใจ เดินไปที่ห้องเรียน

    "มาแล้วๆ" น้ำเสียงของริวอิจิตื่นเต้น เมื่อเห็นเพราะผู้เล่นตัวสำคัญของทีมที่รออยู่ กำลังเดินมาทางนี้

    เคียวหันไปมองตามที่ริวอิจิชี้ น้ำตาแทบร่วงเมื่อเห็นไอ้เพื่อนยากเพื่อนเย็นกำลังเดินมา

    "เคียว เดี๋ยวรีบพาฮาระมาเลยนะ เดี๋ยวพี่วิ่งไปบอกไอ้เจก่อน"

    เคียวพยักหน้า ริวอิจิรีบวิ่งออกไป

    "โทชิย้าาาาาา จะแข่งครึ่งหลังอยู่แล้ว รีบไปเปลี่ยนชุดเร็ว" เคียววิ่งเข้าไปลากแขนเสื้อโทชิยะให้วิ่ง แต่โทชิยะสะบัดมือเคียวออก

    "เฮ้ย!! เดี๋ยว แข่งอะไรวะ"

    "ไอ้บ้า!!รอบรองชนะเลิศแข่งวันนี้นะเว้ย นี่แกลืมเหรอวะพี่เจยัวะใหญ่แล้ว ถ้าลงแข่งแทนได้นี่คงลงไปแล้วมั้ง"

    "..เฮ้ย!!! ไม่จริง.." โทชิยะอุทาน ความซวยซ้ำซากมีไม่สิ้นสุดจริงๆ

    "จริงเว้ยไอ้บ้า"

    เคียวเอามือตบไหล่โทชิยะ แทบอยากจะกระโดดถีบซ้ำ แต่ไม่มีเวลาแล้ว ลากโทชิยะวิ่งตรงไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

    "ถ้าแกมาช้ากว่านี้ละก็ อย่าคิดว่าจะรอดนะ มาสายกี่หนแล้วฮะ ฮาระ ทำไมช่วงหลังถึงเหลวไหลแบบนี้ ถ้าเกิดทีมแพ้ขึ้นมา จะทำยังไงเล่า" เจบ่นฉอดๆ โทชิยะเปลี่ยนเสื้อไป ฟังคำบ่นไป หน้าที่บึ้งแล้วยิ่งบึ้งตึงเข้าไปอีก

    "แค่ชนะก็พอใช่ไหม" น้ำเสียงเริ่มไม่พอใจ โทชิยะเปลี่ยนเสื้อเสร็จเตรียมจะเดินออก

    "เออ ถ้าไม่ชนะ ตายยยยแน่" พูดลากเสียงให้ชวนขนลุก

    "อย่าทำหน้าแบบนั้นโทชิยะ แล้วมันจะชนะได้ไงท่าทางเหมือนจะหมดอาลัยตายอยากจริงๆซะงั้น"

    โทชิยะถอนหายใจ คำพูดเจทำให้อารมณ์ของเขายิ่งห่อเหี่ยว เดินออกไปที่สนามแข่งแบบหมดเรี่ยวแรง ถึงแม้เจนิสัยจะออกโหดๆ ไปหน่อย แต่เขาก็ไม่เคยคิดมาก ก็มือที่เดินมาตบที่บ่านี่ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี 

    "ไอ้บ้า อย่ามัวแต่ยืนเหม่อนะเว้ย" เคียวตะโกนอยู่ข้างสนาม โทชิยะหันมามองก็เบือนหน้าหนี หันไปส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมทีม

    ข้างหลังเคียว..โทโมเอะ...ผู้จัดการชมรม..กำลังนั่งจู่จี๋กับดาย รุ่นน้องในชมรม เขาเห็นมันเต็มสองตา

    แล้วจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนลงไปแข่ง ไม่อยากเห็นภาพที่ทำให้ทรมานหัวใจ เวลาแบบนี้เขาต้องทำตัวแบบไหนนะ ถึงจะฝืนส่งยิ้มออกไปให้ได้ ถึงจะแกล้งทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาได้ ต้องทำแบบไหนล่ะ ถึงจะกล้าพอที่บังคับหัวใจตัวเอง ไม่ให้เจ็บอยู่อย่างนี้ต่อไป

    "ปรี๊ดดดดด" เสียงนกหวีดบอกว่าเริ่มการแข่ง โทชิยะมองไปที่ดายอีกรอบ รอยยิ้มหยันที่ส่งมาให้

    ...ก็เข้าใจอยู่หรอกนะ...

    +++++++++

    "ไม่ไปกินข้าวด้วยกันเหรอ" เสียงเพื่อนในทีมคนหนึ่งชวนขึ้นมา โทชิยะโบกไม้โบกปฏิเสธ นึกถึงในโรงอาหารที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายก็ละเหี่ยใจ อยู่บนนี้จะยังดีซะกว่า แล้วที่สำคัญ เงินก็ไม่มี โทชิยะนั่งลงอยู่ใต้แป้นบาส เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่ไหล เพียงชั่วครู่ ใบหน้าที่เหมือนจะดูสดใสก็เศร้าหมองลง โทชิยะถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ทั้งใจและกาย

    "ทำหน้าเหมือนอยากตายอยู่ได้" เคียวนั่งลงข้างๆ โทชิยะหันไปมอง กระป๋องน้ำอัดลมจากมือเคียวถูกส่งให้ โทชิยะรับมันไว้ แต่ยังไปเปิด ถือกระป๋องเย็นๆ นาบลงบนต้นคอ แล้วไล่ชึ้นมาที่แก้ม ความเย็นทำให้รู้สึกดีไม่เลว

    "กินข้าวแล้วเหรอ"

    โทชิยะส่ายหน้า นึกขอบใจเคียวอยู่ในใจ มองร่างเล็กที่นั่งยิ้มระรื่นอยู่ข้างๆ คงยังไม่ได้กินเหมือนกันล่ะสิ

    "อือ หิวไหม เดี๋ยวไปซื้อให้ก็ได้"

    มัวซึมอยู่แบบนี้สิ...เดี๋ยวก็แย่หรอกไอ้บ้า

    ไอ้ท่าทางที่มันใกล้จะดูเหมือนเหม่อลอยขึ้นทุกวันแบบนี้ ไม่ไหวเลย อีกคนแล้วที่ต้องพ่ายแพ้ต่อความรัก ไม่ว่ารายไหนรายไหน เคยเตือนแล้วน้า แต่นายไม่ฟังเอง แต่จะมัวมาซึมอยู่แบบนี้ เดี๋ยวจะแย่เอา!!

    ".... ขอบใจ..."

    "ไม่เป็นไร" เคียวเอามือตบบ่าโทชิยะ ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากโรงยิม

    ท่าทางของโทชิยะ แม้แต่เพื่อนในทีมก็ยังดูออก ชอบไปยืนเหม่อในสนามแข่ง แล้วยังท่าชู๊ตที่ทำเอาใจหายใจคว่ำอยู่บ่อยครั้ง

    "..แต่ลงน่า.." โทชิยะตอกกลับ

    เออ!! ถ้ายังลงก็ไม่ว่าอะไรหรอก  แต่ถ้าพลาดขึ้นมาหละ เคียวถอนหายใจ นึกถึงรอบชิงชนะเลิศในอีกไม่กี่วัน นี่เขาต้องทำยังไงดีนะ โทชิยะมันถึงจะเลิกซึมได้แล้ว

    "แป้กๆ"

    แต่พอจะแกะน้ำกระป๋องเพื่อดื่ม ก็ได้ยินเสียงเดาะลูกบาสจากอีกด้านซะก่อน โทชิยะมองไป เห็นคนๆ หนี่งกำลังเล่นบาสอยู่คนเดียว พอฝ่ายนั้นหันหน้ามา โทชิยะก็รู้ว่าใคร อีกฝ่ายไม่สนใจก็ยังยืนชู๊ตไปเรื่อยๆ โทชิยะมองอย่างสนใจ ลูกชู๊ตแต่ละลูกบ่งบอกได้ดีว่าคนๆ นี้มีฝีมือเพียงไร

    "มองทำไม"

    "............."

    เสียงที่ดังขึ้น โทชิยะเงยหน้ามองร่างนั้น ใบหน้าขาวจั๊วะของฝ่ายนั้นกำลังหันมามองทางนี้  โทชิยะจ้องมองไปที่ตาคู่สวย แล้วเผลอสบตาเข้าให้

    คงไม่ใช่เสียงใครอื่นเป็นแน่ ก็บนโรงยิมนี่ ในตอนนี้ มีเพียงแค่เขากับ..นิอิคุระ

    "..เปล่ามอง.."

    ก่อนที่จะตกอยู่ภายในความเงียบ และเกมส์จ้องตาที่อาจเนิ่นนานกว่านี้ โทชิยะจึงตัดสินใจพูด

    ร่างนั้นที่ถือลูกบาสไว้ในมือ ท่าทางเหมือนอยากจะปาใส่เขาซะงั้น กับนิอิคุระ โทชิยะไม่เคยคิดว่าจะได้คุยด้วยกันอีกครั้ง...

    ก็หน้าบอกบุญไม่รับเวลามองมาที่เขา หรือคำพูดคำจาแต่ละครั้งดูจะประหยัดซะเหลือเกินทุกครั้งที่คุย เหมือนจะชอบตัดบทให้จบลงดื้อๆ โดยที่เจ้าตัวคงไม่รู้เหตุผล แต่ทุกครั้งนิอิคุระได้ทิ้งข้อกังขาให้ได้กลับมาคิดเล่นๆ ถึงสายตาที่ชอบใช้มองมา ท่าทาง ทุกอย่าง ให้ได้รู้สึกว่ากำลังโดนเกลียด ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เจอ ไม่ใช่ว่าไม่เคยคุยกันดีๆ.....แต่มันคงนานมากแล้วจนจำไม่ได้

    แล้วก็จำไม่ได้ด้วยสิ ว่าเคยไปทำอะไรให้ไว้

    "ก็นายมอง ชั้นเห็น"

    โทชิยะเพ่งมองใบหน้านั่นที่อยู่อีกฟาก ใบหน้าเชิด ตาคมจ้องมาไม่กระพริบ

    ท่าทางเอาเรื่องซะด้วย

    "นายที่อยู่ห้องเดียวกันรึเปล่า"

    โทชิยะเริ่มไม่แน่ใจแล้ว นี่คือนิอิคุระที่ห้อง คนเดียวกันกับที่ชอบเมินใส่เวลาเรียก คนเดียวกันกับที่ทำหน้าบึ้งตึงเวลามองคนอื่น คนเดียวกันกับนิอิคุระที่นั่งข้างๆ เขาจริงๆ หรือ...นี่นายเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อนนะ

    นั่งข้างๆ แต่ไม่เคยจะหันหน้าไปคุยกันหรอก เพราะอีกฝ่ายไม่จ้องที่กระดานก็เอาแต่หันออกไปมองนอกหน้าต่างห้องเรียน

    ข้างนอกนั่น มีอะไรให้มองงั้นหรือ?

    "โทชิยะ..มาแล้ว" เคียววิ่งตรงเข้ามา โทชิยะหันไปมองตามเสียงเรียก มือรับขนมที่เคียวโยนมาให้และเมื่อหันกลับมาอีกครั้ง คนๆ นั้นก็ไปซะแล้ว เหลือแค่ลูกบาสที่กลิ้งอยู่บนพื้นให้นึกถึงเล่นๆ

    "ทำไมมาช้าจังคาโอรุ" เคถามเมื่อคาโอรุเพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องคอมพิวเตอร์ของชมรม ทั้งๆ ที่การแข่งบาสก็จบไปตั้งนานแล้ว ปกติคาโอรุจะต้องรีบนำรูปมาลง แล้วส่งให้กับชมรมหนังสือพิมพ์ เพื่อไปลงหนังสือพิมพ์ในอาทิตย์หน้า

    คิดผิดเปล่าวะที่ให้ไปคนเดียว

    "แวะไปหาอาจารย์มา โดนเรียก" คาโอรุนั่งที่คอมพิวเตอร์เครื่องประจำ หยิบสายต่อกล้องเข้ากับเครื่องคอม

    "แล้วเอาไปให้ที่ชมรมหนังสือพิมพ์ด้วยนะคาโอรุ วันนี้กลับก่อนล่ะ" ปิดคอมด้วยใบหน้าเนือยๆ หลังจากคร่ำเคร่งมาตลอดช่วงบ่าย โคโบกมือลาแล้วเดินออกไปจากห้อง

    คาโอรุพยักหน้า แล้วก้มหน้าก้มตา เลือกรูปภาพจากภาพทั้งหมดเพื่อใช้ เพียงไม่กี่ภาพสำหรับลงหนังสือพิมพ์ แล้วภาพนี้ล่ะ ที่คิดว่า ดีที่สุดกว่าภาพอื่นๆ ที่ถ่ายมา ตัวเลขเบอร์ 17 ที่หราอยู่บนหลังเสื้อ เห็นชัดแม้จะมองจากด้านข้าง มือเรียวยาวคู่นั้นกำลังปล่อยลูก ผมดำยาวเกลี่ยไหล่สะบัดขึ้นเล็กน้อยตอนกระโดด หยาดเหงื่อที่กระเซ็นตามช่วงจังหวะของคนๆ นั้น..ฮาระ โทชิมาสะ..ดาวรุ่งพุ่งแรงในตอนนี้

    ร่างบางยกที่มุมปากนิดๆ เมื่อเลื่อนเมาท์ไปคลิกที่ภาพโทชิยะ ตอนที่กำลังทำท่าเหมือนจะตาย ตอนหันไปมองผู้หญิงที่ทิ้งตัวเองกำลังนั่งจู๋จี๋กับคนอื่น

    ภาพนี้ก็น่าจะใช้ได้นะ

    +++++++++

    'ปึ้กๆ'

    เสียงเดาะลูกบาสมาดังมาจากข้างบนโรงยิมในเวลาแบบนี้ คงจะเป็นพวกนักบาสกำลังซ้อมกันอยู่แน่ๆ

    คาโอรุเดินผ่านโรงยิมออกไปทางหน้าตึกใหญ่ เสียงนาฬิกาดังเหง่งหง่างบอกเวลาไล่หลังมา คาโอรุเดินออกมาพ้นประตูหน้าโรงเรียน แต่แล้วก็หยุดเดิน เมื่อพ้นแมกไม้ในโรงเรียน ตรงนี้ที่เป็นสถานที่เปิดโล่ง ก็อดจะเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ตัดกับแสงจันทร์ที่กำลังส่องสว่าง มีแสงจากดาวดวงน้อยๆ กระพริบล้อมรอบจันทร์เสี้ยว คงใกล้คืนเดือนมืดทุกทีแล้ว

    'แชะๆ'

    เสียงกดชัตเตอร์จากกล้องดิจิตอลคู่ใจดังขึ้นถี่ ถึงแม้ภาพมันจะสู้กล้องแบบใช้ฟิลม์ไม่ได้ก็เถอะ คาโอรุก็ไม่หยุดถ่าย

    โทชิยะเดาะลูกบาสของตนเดินออกมาตามถนนในโรงเรียน มองไปรอบๆ โรงเรียนที่มีแต่แสงไฟหริบหรี่เปิดตามทางเดินแต่ละจุดอย่างคุ้นเคย เพราะปกติก็อยู่ซ้อมทุกเย็นอยู่แล้ว จึงเคยชินกับที่มืด และสำหรับเขาโรงเรียนในตอนนี้มันน่าอยู่มากกว่าเวลาที่มีแต่คนผลุกผล่านในตอนกลางวันเสียอีก

    ไฟบนโรงยิมทั้งชั้นบนและชั้นล่างยังคงเปิดจนสว่าง พวกนักวอลเลย์ที่อยู่ค้างที่โรงเรียนตบลูกกันสนั่นหวั่นไหว ตึกของพวกนักว่ายน้ำก็ยังเปิดไฟอยู่ หรือพวกนักเบสบอลที่สนามที่ยังคงซ้อม บรรยากาศในโรงเรียน แม้จะไม่คึกคักเท่าตอนกลางวัน แต่ก็มีเสียงเจี้ยวจ้าวของแต่ละชมรมดังขึ้นรอบๆ

    โรงเรียนที่เต็มไปด้วยกีฬาหลากชนิด คลาคล่ำไปด้วยนักกีฬาระดับประเทศ คงไม่แปลกถ้าเขาจะเป็นหนึ่งในพวกนักกีฬาพวกนั้น ที่นี่จึงไม่พ้นที่พวกมีพรสวรรค์มารวมตัวกันมากๆ หรือพวกอัจฉริยะแต่ละประเภท แต่ละคนล้วนถนัดคนละด้าน

    แชะๆ

    มืดแบบนี้ใครนะยังถ่ายรูปอยู่อีก คิดคำนึงด้วยความสงสัย โทชิยะเลี้ยงลูกไปจนถึงหน้าโรงเรียน หยุดมองเพียงด้านหลังของใครคนหนึ่ง ที่ยังคงไม่สนใจ ยังเลื่อนกล้องให้ต่ำลงแล้วกดชัดเตอร์ต่อ โทชิยะเลิกคิ้ว มืดแบบนี้มีอะไรให้ถ่ายนะ หน้าโรงเรียนก็มีแต่ต้นไม้ สองข้างทางห่างออกไปหน่อยจึงจะเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง

    เขาคงไม่เข้าใจอารมณ์ของพวกศิลปิน

    "........."

    คนถ่ายหมุนตัวไปเรื่อยจนหน้ากล้องหันมาทางเขา เสียงชัดเตอร์ก็หยุดลง  กล้องถูกลดต่ำให้เห็นหน้าของคนที่ถือกล้อง ใบหน้าขาวที่ยังเห็นเมื่อตอนเย็น

    ..นิอิคุระ คาโอรุ..

    ยังไม่กลับจริงๆ ด้วยสิ  

    คาโอรุมองโทชิยะที่ถือลูกบาสไว้  เหงื่อโทชิยะที่โชกจนเปียกตัวเสื้อยังคงแฉะๆ อยู่  ไม่ได้อยู่ชุดนักเรียน แต่อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อบาส แขนข้างขวาหนีบกระเป๋าถือไว้

    ดูขัดกันพิลึก

    'แชะๆ'

    เผลอกดถ่ายจนได้ ภาพแบบนี้ มีแต่คนชอบนัก  เห็นกล้ามที่แขนนั่นก็ต้องยอมรับเลยล่ะว่า หมอนี่ ฟิตหุ่นใช่เล่น  หน้าอกพึ่งผายนี่อีก หน้าท้องคงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อฟิตๆ หุ่นนักกีฬาก็คงแบบนี้  เพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง 

    อิจฉาเหรอเรา?

    ..เปล่านี่...

    ใครอิจฉาคนแบบนี้

    "อ๊ะ!"

    ขณะที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อย จู่ๆ กล้องในมือที่ถือไว้ข้างตัวก็ถูกแย่งออกไป จากใคร? คาโอรุหันหน้าไปทางเจ้าคนที่ถือกล้องเขา มีอยู่คนเดียวแหละ คาโอรุสบตาร่างสูง รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจ ทำหน้าเหมือนไม่ชอบที่โดนเขาถ่ายรูปเมื่อสักครู่

    ร่างสูงยกกล้องขึ้นเหนือหัว เมื่อร่างที่บางกว่า ตัวเล็กกว่าเงื้อมมือขึ้นจะแย่ง คาโอรุกระโดดแล้วแต่ก็ยังเอื้อมมือไปไม่ถึง

    "เอา...คืน...มา"

    คาโอรุหยุดแย่ง พยายามข่มอารมณ์โกรธของตนไว้ ยืนเผชิญกับเจ้าคนตัวใหญ่กว่า

    "คืนมา"

    โทชิยะเพิ่งจะรู้สึกตัวเมื่อคาโอรุหยุดยืนอยู่ใกล้ในระยะประชิด แค่เพียงช่วงแขนนั่นแหละ เมื่อกี้ก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ เพียงแค่ได้ยินเสียงชัตเตอร์ที่กดใส่ ก็เลยฉุน

    "ชอบทำตัวแย่ๆ อย่างนี้เสมอเลยเหรอ"

    คาโอรุหน้าตึง เหยียดยิ้มที่มุมปากนิดๆ มองคนตรงหน้าที่ยังไม่ยอมคืนกล้องเสียที

    ..งั้นก็อย่ามายุ่ง..

    "กล้องของฉันขอคืน"

    โทชิยะลดแขนต่ำลง คาโอรุรีบฉวยกล้องไปจากมือเขา ได้ไปแล้วรีบตรวจดูสภาพ ยังกับว่ากลัวว่ามันจะพัง ทั้งที่มันอยู่ในมือเขาไม่ครบนาทีด้วยซ้ำ โทชิยะก้มลงเก็บลูกบาสที่ตกลงอยู่ข้างตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้..คงตอนที่เข้าไปแย่งกล้องนั่นแหละ

    พอเงยหน้าขึ้นจึงรู้ว่าร่างนั้นยืนออกห่างเขาเป็นวาๆ ไปแล้ว 

    รึว่าเพราะกลัว..คงไม่ใช่หรอก เมื่อกี้ก็ไม่ได้คิดแกล้งด้วยซ้ำ ที่ทำไม่รู้อารมณ์ไหนมันพาไป แค่รู้ว่าไม่พอใจ ที่ถูกถ่ายโดยไม่มีแม้แต่การขออนุญาตกัน แล้วก็..คงเป็นสีหน้าที่มักจะเฉยชาและเชิดหยิ่งนั่นล่ะมั้ง...ทำให้อยากรู้อะไรขึ้นมา

    "โทชิยะ ขึ้นรถได้แล้ว"

    โทชิยะสาวเท้าไปนั่งในรถ มองออกมาผ่านกระจก ร่างนั่นกำลังเดินไปอีกทางกับรถที่เคลื่อนตัวออก โทชิยะเหลียวมองตามจนถึงทางโค้ง

    มืดขนาดนี้จะกลับบ้านยังไง ไปทางไหน

    ไม่ใช่เรื่องของเรา...

    +++++++++

    ทอจจิหายหัวไปไหน...ที่สนามบาสก็ไม่อยู่  แล้ววันนี้มันเป็นอะไรของมัน  เอาแต่หน้าบึ้งลูกเดียว

    เมื่อวานยังเห็นซึมๆ  วันนี้เปลี่ยนซะแล้ว  เวรตามอารมณ์ไม่ทัน

    เดินไปเดินมาจนทั่วโรงเรียนจนเหงื่อซึม  ทั้งร้อนทั้งอึดอัด  ร่างเล็กคลายเนคไทสีน้ำเงินออกหมด 

    เขวี้ยงมันขึ้นไปบนหลังคาห้องเก็บของบนดาดฟ้า สำหรับเคียวแล้วเขาถือว่าบนนี้เป็นจุดชมวิว  เคียวเอนตัวลงนอนแผ่หลาอย่างได้ใจ  ทางสะดวก

    "..เฮ้อ.."

    "...เบื่อ..." มือเรียวยกขึ้นก่ายหน้าผาก ปากก็บ่นพึมพำไปเรื่อยตามอารมณ์

    อุวะ!! ไม่มีอะไรให้เล่นเลยรึไงนะ โรงเรียนนี้...เซ็ง..ห้องเรียนก็น่าเบื่อ

    เพี๊ยะ!!

    เสียงฝ่ามือกระทบซีกหน้าใครสักคน แน่ๆ!! อยู่บนนี้จนเห็นเป็นภาพที่ชินตาแล้ว 

    จะพรอดรักก็ขึ้นมาบนนี้ จะทำ จะเลิกก็ขึ้นมาบนนี้

    สะดวกดีจริงๆ...

    ร่างเล็กเอนตัวขึ้นนั่ง บิดตัวไปมาไล่ความขี้เกียจ เลยเห็นได้เห็นฉากคู่รักอาละวาดใส่กันอย่างบ้าคลั่ง

    โรคจิตปล่าววะแบบว่าเออ เราไม่เคยเป็นอะไรบ้าๆ แบบนี้นี่หว่า

    เคยลองแต่ SEX…

    แต่ไอ้ความรักนี่ ไม่เคยมี

    ทำยังไง? รักยังไง  รักไม่เป็น

    แล้วก็เหลือฝ่ายนั้นที่ยังยืนซึมกะทื่อ  ดูท่าหมอนี่คงจะไก่อ่อนแหง  เข็มกลัดทอง ไทสีขาวสัญลักษณ์พวกกรรมการนักเรียน แล้วยังจะแว่นนั่นอีก

    ดูเด็กเรียนชะมัด

    แล้วถูกผู้ชายด้วยกันตบ ไม่ไหวเลย..

    เฮ้ย ๆ ไอ้นี่ท่าจะบ้า  ท่าเดินเหมือนกำลังจะ....ปีนรั้วข้ามออกไป นี่คิดจะโดดตึกเหรอวะ  บ้า!! 

    ความรักมันเหงซวยแบบนี้ไง

    ด้วยสามันสำนึก ก็เลยวิ่งเข้าไปห้าม ไม่ให้ไอ้หมอนี่มันปีนออกนอกรั้วไปเสียก่อน

    ที่ไหนได้  ผมเองแหละที่คิดบ้าๆ  โดดเดิดที่ไหน  หมอนี่คงไม่ได้คิดหรอก  พอเข้าไปดูหน้าใกล้ๆ  เย็นชาอย่างกับอะไรดี  แถมยังทำท่าเหมือนโมโหที่ผมเข้ามาดึงแขนเขาด้วย

    "นี่คุณ จะทำอะไรเกรงใจเจ้าของสถานที่หน่อยสิ"

    ไอ้หมอนี่ยิ้ม ก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไม ท่าทางแบบนี่ไม่ใช่คนฆ่าตัวตายแหง ๆ 

    "ว่างเหรอ.."  

    คำถามแบบนี้  ดูก็น่าจะรู้นี่  ไม่งั้นจะมานอนแกร่วๆ บนตึกนี่ทำไมล่ะ

    ก็ไม่มีใครเล่นด้วยนี่  ช่วงนี้..มีแต่เด็กดีขยันเรียนกันหมด

    "ไม่อ่านหนังสือรึไง จะสอบแล้ว..."

    คำพูดเหมือนจะเป็นห่วงเป็นใย น้ำเสียงก็โอเค  แต่ทำไมถึงรู้สึกว่ามันทะแม่งๆ ก็ไม่รู้

    เรื่องหนังสือเรอะ เหอะ!! อ่านจนเบื่อแล้ว 

    "แล้ว...นายเกี่ยวไร.." แล้วก็เราต้องเป็นฝ่ายที่นิ่ง เพราะหมอนี่ไม่ตอบ  มือเสยผมขึ้นไปลวกๆ เพราะดูเหมือนลมบนนี้จะแรงขึ้นมาเรื่อยๆ แล้ว

    ฝ่ายนั้นก้มหน้า  ดึงแว่นที่ตนเองใส่อยู่ออก แล้วเขวี้ยงมันออกไปนอกตึก แว่นถูกทิ้งไปอย่างไม่ใยดี เคียวขมวดคิ้ว ไม่อยากเดาว่าจะทำอะไรต่อ คิดจะเดินแยกออกไป

    ...เนคไทสีขาวเส้นนั้นสะบัดปลิวตามลมที่ลู่แรงขึ้นทุกทีๆ เส้นผมปลิวสะบัดกันจนยุ่งเหยิง มองจากด้านหลัง ตอนนี้รู้สึกว่าหมอนี่มันหุ่นดีชะมัด...เลยเผลอหยุดมองต่อจนได้

    หะ..

    เข็มกลัดทองเครื่องหมายแสดงเกียรติอันภาคถูมิของพวกนักเรียนดีเด่นนั่นอีกที่กำลังลอยละลิ่วตามแว่นลงไปข้างล่าง  ป่านนี้คงเละไม่มีชิ้นดี  เหลือแต่เนคไทอันทรงเกียรติ...จะทิ้งไหมนั่น  เนคไทสีขาวเงาแว๊บมีตราโรงเรียนเป็นลายด้านใน...สีที่ชอบซะด้วย ทำไมพวกรรมการนักเรียนได้แขวนสีขาวฟร่ะ ไม่ยุติธรรมเล้ย.. 

    อะไร นี่คิดจะทิ้งหมดเลยรึ

    "เดี๋ยว" เคียวรีบส่งเสียงห้ามไว้เมื่อเห็นหมอนั่นถอดเนคไทออกเตรียมจะขว้าง

     ทำไมหว่า ถ้ามันถูกพัดปลิวไปไกลๆ คงเสียดายแย่เลย

    "ทำไม?" น้ำสียงเจือด้วยความสงสัย มองเนคไทที่อยู่ในมือตน สิ่งของ...ที่เหมือนผูกมัดไว้ตลอดเวลา

    "เอ่อ..ฉันยังไม่เคยจับเลย  ขอได้ปะถ้านายไม่เอา"

    "จะเอาไปทำอะไรได้ ...ของแบบนี้"

    "..ขอแล้วจะให้มั้ย.." เคียวแบมือทำท่ายื่นมือไปรับ พอดีกับจังหวะที่ร่างสูงกว่าหันมามอง แม้เส้นผมจะปิดหน้าอยู่บ้าง ก็พอเห็นหน้าคนที่อยากได้เนคไทของเขา

    "ก็ได้" เงยหน้าขึ้นมาสบตาเท่านั้นแหละ เคียวแทบล้ม

    เสปก!! ให้มันหล่อแบบนี้สิ  ชอบ...

    น่าสนุก..

    +++++++++

    "ส่งแค่นี้หล่ะครับ"

    "ไปถูกใช่มั้ย ต้องให้โทรเรียกเจ้าโทชิยะมันไหม"

    "ไม่ต้องหรอกครับ" ก้มหัวโค้มตัวให้นิดๆ ให้คนมองนึกเอ็นดูขึ้นมา นึกถึงลูกชายตัวเอง ให้มันเป็นแบบนี้ได้สักนิดก็คงดีหรอก

    รถเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ  ร่างบางมองภาพนั้นจนลับสายตา... รถของพ่อใหม่

    "ตึก C ไปทางไหนเหรอครับ" เดินหาไปสักพักยังไม่เจอ เห็นคนนั่งอยู่ที่พื้นหญ้าในสวนก็ตรงปรี่เข้าไปถาม คนถูกถามเหล่สายตามาเหมือนมองแบบช่วยไม่ได้ มือหยุดล้วงชายเสื้อแฟนตนแล้วหยุดตอบ

    "ซ้าย" น้ำเสียงห้าวห้วน ตอบแบบไม่เต็มใจ ร่างบางไม่พอใจในมารยาทย่ำแย่และการปฏิบัติตนที่ดูออกจะต่ำทราม ทำแต่เรื่องใต้สะดือมากไปเสียหน่อย เลยทำเสียงหัวเราะให้พอได้ยิน ร่างสูงชะงักหยุด หันมามองอย่างเอาเรื่อง โทโมเอะหน้าแดง ชักจะอายที่ถูกคนแปลกหน้าจ้องเอาๆ แถมคนนี้ยัง หน้าตาสวยจนน่ากลัว...ถ้าไม่เห็นว่าใส่ชุดนักเรียนชายคงไม่เชื่อว่าเป็นผู้ชาย

    "นี่แก ไปไกลๆ เลยป่ะ เห็นไหมทำอะไรอยู่" ดายกดจมูกลงที่ซอกคอต่อ ไม่สนใจจะหันมามองหน้าตัวปัญหา เห็นแค่ชุดนักเรียนแปลกๆ คงเป็นเด็กใหม่ คิดว่าเดี๋ยวก็เลิกตอแย เด็กใหม่หงอๆ กันทั้งนั้น แค่ข่มหน่อยเอง ไม่รอด

    "เห็นครับ..."

    น้ำเสียงเหมือนจะหงอ ดายยิ่งได้ใจกะข่มเต็มที่

    "เออรู้แล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่ง"

    "...เออ..หน้าโง่ๆ อย่างนายใครอยากยุ่ง..."

    จู่ๆ น้ำเสียงหวานๆ ดันแข็งกร้าว แถมด่าเขาอีก

    เหมือนถูกหักหน้าอย่างแรง ดายฉุนกึกเมื่อไอ้หนุ่มหน้าสวยที่เห็นกำลังเชิดหนี  ทิ้งคำด่าเจ็บๆ แสบๆ ไว้  โทโมเอะก็พลอยหัวเราะคิกคัก  พวกผู้หญิงบ้า!!

    "แก!!เดี๋ยว" ตะโกนลั่นไล่หลัง ดายลุกเดินออกมา แวบเดียวชุดนักเรียนนั่นก็หายแวบไป

    ได้เอาคืนแน่ คนสวย!!

    to be con...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×