ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สัญญาหัวใจของยัยหมูอ้วน

    ลำดับตอนที่ #1 : แล้วเขาก็กลับมา

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 48


    ก่อนอื่นก็ต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ  อันตัวข้าพเจ้านี้นามปากกาแก้มป่อง  สืบเนื่องมาจากตัวจริงเป็นคนแก้มป่องมากกก  สำหรับนิยายเรื่องนี้เขียนเป็นเรื่องแรกค่ะ ไม่ชอบยังไงก็คอมเม้นได้นะคะ  หรือถ้าชอบก็บอกกันด้วยจะได้มีแรงปั่นงานต่อคะ

    ป.ล.ถึงจะเขียนบรรยายเยอะไปนิดก็ขอให้อ่านจนจบก่อนนะคะค่อยปิดทิ้ง

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



                                                                  คุณเคยรออะไรซักอย่างไหม

                                                        

                                                         แล้วขีดจำกัดการรอของคุณคือเท่าไหร่

                                                                        

                                                                           1  วัน

                                                                        

                                                                           1  เดือน

                                                                        

                                                                           1  ปี

                                                                      

                                                                           10 ปี

                                                        

                                        แต่สำหรับฉันแล้ว มันเกือบตลอดชีวิตเลยทีเดียว



                                                 ********************************







    “รอเรานะ  ไม่นานหรอก แล้วเราจะกลับมา”

    “อือ เราจะรอ รอจนกว่าเชนจะกลับมา”



    กริ๊ง ------กริ๊ง------กริ๊ง--------

    “โอ๊ย  รู้แล้ว ๆ ตื่นเดี๋ยวนี้แหละ เจ้านาฬิกาบ้าจะเที่ยงตรงอะไรกันนักกันหนา” ( + _+)



    เฮ้อ……เป็นเช้าที่ไม่ค่อยสดใสเอาซะเลย มันเป็นเพราะอะไรกันนะ หรืออาจเป็นเพราะฝันบ้า ๆ เมื่อคืนนี้ก็ได้  บ้าจริง ! ผ่านมาตั้งนานแล้วทำไมกันนะ  ทำไมถึงลืมมันไม่ได้ซักที  ทำไมฉันถึงได้อดทนรอกับสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงได้รึเปล่า ได้นานขนาดนี้   ฮืม…รู้สึกว่าตัวเองนี่ทึ่มชะมัด  

    (—_—)



    “โอ๊ย สายแล้ว ๆ มัวมานั่งคิดอะไรบ้า ๆ อยู่ได้นี่เรา เดี๋ยวไปทำงานพิเศษไม่ทันกันพอดี”



    ซ่า  ซ่า



    จะมองกี่ทียัยผู้หญิงผมฟู  ที่คาบแปรงสีฟันจ้องตอบจากกระจกข้างหน้านี่ก็ไม่ได้ดูน่ารักเท่าไหร่เลยแฮะ  ตาก็โตเหมือนคนที่ตกใจอยู่ตลอดเวลา  แก้มก็เหมือนกับมีซาลาเปา 2 ลูกมาเกาะอยู่ที่หน้า มีดีก็แต่จมูกที่ไม่แบน  ผิวที่ขาวเหมือนแม่กับริมฝีปากที่ดูเซ็กซี่นี่แหละที่ทำให้ฉันภูมิใจได้ว่า อย่างน้อยก็ไม่ขี้เหร่เท่าไหร่หรอก (คิดว่างั้นนะ )



    ก็แหงละ  สำหรับผู้หญิงที่สูงแค่ 162  แต่หนักตั้ง  56 จะเอาอะไรมาสวยเหมือนคนอื่นได้เล่า แต่ไม่เป็นไรหรอกอย่างน้อยฉันก็ไม่อ้วนมาก  เพียงแต่ดูอวบอิ่มเกินไปก็เท่านั้น [ ไม่จริงเลยนะนั่นขอยืนยันโดย- แก้มป่อง(-^v^-) ] แปลกนะ ทั้ง ๆ ที่ฉันเป็นคนส่วนมากของสังคม(พูดง่าย ๆ ก็คือคนจนนะแหละ) แต่น้ำหนักฉันกลับดูสวนกระแสเหลือเกิน  แต่ช่างมันเถอะยังไงฉันก็เป็นผู้หญิงที่มีความสุขก็แล้วกัน ความสุขกับสัญญาเล็ก ๆ ในวัยเด็กของฉัน  ถึงจะเป็นแค่สัญญาเล็ก ๆ แต่ก็เป็นข้อผูกมัดที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่ขนาดไหนนะแหรอ ก็ขนาดที่ว่าทำให้ฉันไม่มีแฟนจนถึงทุกวันนี้เลยแหละ



    ตึง ตึง ๆ



    “โธ่ พี่เฟิร์น ทำตัวให้สมกับเป็นกุลสตรีหน่อยซิฮะ”

    นี่เป็นคำทักทายตอนเช้าของทุกวันของเจ้าเฟย์น้องชายสุดหล่อของฉัน  ซึ่งนับวันจะทำตัวเป็นตัวแทนของพ่อและแม่ที่เสียไปได้เหมือนจริงยังกับท่านมายืนบ่นให้ฉันด้วยตัวเอง



    “รู้แล้วน่าก็คนมันรีบนี่”  



    “รีบ..แล้วทำไมไม่ตื่นให้เช้ากว่านี้ละฮะ”



    “ก็เมื่อคืนนอนดึกนี่นา”  



    “นอนดึก…..ทำไมถึงนอนดึก”   น่าน….เสียงแข็งขึ้นมาเชียวตกลงใครเป็นพี่ ใครเป็นน้องกันแน่นี่



    “เอ่อ ….. ก็มันนอนไม่ค่อยหลับนี่เลยนั่งเล่นเกมจนเกือบเช้านะแหละ” (\"-_-)  ฉันตอบเลี่ยงไปงั้นแหละ  ที่จริงฉันรับจ๊อบพิเศษรับจ้างพิมพ์งานต่างหาก  แต่บอกเจ้าเฟย์ไม่ได้หรอก  ขืนรู้ว่าฉันรับทำงานเพิ่มนะ  มีหวังคิดมากไม่สบายใจอีก  มันช่วยไม่ได้นี่นาเดี๋ยวเจ้าเฟย์ก็ต้องเข้ามหาลัยแล้ว  ขืนไม่เตรียมเงินไว้ได้แย่กันพอดี



    “แล้ววันนี้พี่จะกลับกี่โมง” (-_-)



    “อ้อ  ก็ประมาณ  2 ทุ่มนี่แหละ” (-^v^-)



    “เอ้านี่  ข้าวกล่องเอาไปกินซะ” (-_-)



    “อะไรกัน  ไม่ต้องทำให้ก็ได้  อย่าบอกนะว่าที่นายตื่นเช้าก็เพื่อจะมาทำข้าวกล่องนี่  พี่ว่าซื้อกินเอาไม่ง่ายกว่าเหรอ” (-^v^-)



    “ใช่  มันง่าย  แต่สารอาหารมันไม่ครบนี่นา  แถมพวกอาหารเส้น ๆ ที่พี่ชอบกินนี่ มันก็ไม่ได้มีคุณค่าอะไรเลยนอกจากช่วยเพิ่มระดับชั้นของพุงพี่ก็เท่านั้น” (-_-)



    “พูดอะไรออกมาน่ะ  พี่ไม่ได้อ้วนซักหน่อย แค่อวบไปหน่อยเดียวเอง” (”- -)  



    “ไม่หน่อยมั้งพี่ ไม่รู้ละยังไงต่อจากนี้พี่ต้องห่อข้าวไปกินทุกวัน จะได้เป็นการควบคุมน้ำหนักของพี่ด้วยไง”     ไม่พูดเปล่าเจ้าเฟย์ยังรีบยัดเอาข้าวกล่องใส่กระเป๋าเป้ของฉัน  เฮ้อ  ช่างมันเถอะเข้าใจว่าน้องมันห่วงสงสัยกลัวว่าพี่สาวจะขายไม่ออก



    “งั้น พี่ไปทำงานก่อนนะ” (”- -)  



    “อ้าวแล้วไม่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนเหรอฮะ” (-_-)



    “ไม่หรอก  กลัวอ้วนไปละ” (-o-)



                                  -------------------------------------



    แฮ่ก แฮ่ก  ถึงร้านซักที ทำไมวันนี้รถมันถึงติดนักนะ  แถมยังมีไอ้รถลีมูซีนอวดรวยนั่นอีกรถเลยยิ่งดูติดขึ้น   ฉันไม่เข้าใจเลยนะว่าการนั่งรถลีมูซีนคนเดียวมันเหลานักรึไงถึงต้องมีรถตำรวจ คอยขับล้อมหน้าล้อมหลัง ยังกับคุมนักโทษไปเรือนจำอย่างงั้นแหละ น้ำมันยิ่งแพง ๆ อยู่ด้วยไม่เสียดายพลังงานกันหรือไง



    “เฟิร์น วันนี้เธอมาสายนะ”   แพมเพื่อนสาวสุดสวยและหุ่นดีของฉัน ร้องทักฉันด้วยคำพูดที่ฉันคุ้นเคยกับมันดี



    “ก็รถมันติดนี่นา” (-o-) ฉันตอบกลับด้วยประโยคเดิมเหมือนทุกครั้ง



    “งั้นก็ตื่นให้เช้ากว่านี้ซิ”  



    “พูดเหมือนเจ้าเฟย์เลย  นี่ถ้าพวกเธอสองคนมาอยู่ด้วยกันนะ ฉันคนหนึ่งละที่ต้องขออยู่ห่างพวกเธอซัก  10  กิโลเมตร” (-o-)



    “ยะ ถ้าน้องของเธอยอมมาอยู่กับฉันก็ดีซิยะ  ก็น้องเฟย์ออกจะหล่อนี่ ผิวก็ขาว คิ้วก็เข้ม  ตาก็คม แถมาหุ่นก็ทรมานใจสาวขนาดนั้น  ฉันละไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพวกเธอสองคนเป็นพี่น้องกันได้ยังไง ถามจริง ๆ เถอะเฟิร์น  เธอเป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยงหรือเปล่า” (-^o^-)



    “อ้าว ๆ พูดงี้ก็สวยเดะแพม”  (-o-)



    “แน่นอน  ฉันสวยอยู่แล้ว” (-^o^-)  ไม่ต้องแปลกใจค่ะเรื่องยอตัวเองไม่มีใครเกินแพมไปได้



    “ฉันเป็นพี่เจ้าเฟย์นะ เกิดก่อนเจ้าเฟย์  ถ้าครอบครัวฉันจะมีเด็กเก็บมาเลี้ยงก็ต้องเป็นเจ้าเฟย์ซิ”

      



    “ช่วยไม่ได้นี่ ก็คุณลุงคุณป้า  ท่านออกจะหน้าตาดี น้องเฟย์ทีรักของฉันก็หน้าตาดีเหมือนท่าน  จะมีก็แต่เธอนั่นแหละยัยเฟิร์นที่เป็นลูกเป็ดขี้เหร่ของบ้าน” (-^o^-)



    “นี่หล่อนตอนฉันผอม ฉันก็สวยนะถ้าไม่เชื่อจะเอารูปตอนเด็ก ๆ มาให้ดูก็ได้” (>o<)



    “จ้า ๆ รู้แล้วว่าเธอตอนเด็กนะสวย ก็เล่นเอารูปมาอวดฉันสัก 100 รอบได้มั้ง แต่อย่าลืมไปนะว่าตอนนี้เธอไม่ได้เด็ก ผอม สวยเหมือนเดิมแล้ว  แต่เป็นยัยหมูอ้วนพุงพลุ้ยผมฟู ไม่เหลือเค้าสาวน้อยผมเปียก้มใสเลยซักนิดต่างหาก  โฮะ โฮะ” (-^o^-)

    ยัยแพมหัวเราะอย่างสะใจที่สามารถพูดให้ฉันหมดความมั่นใจได้ในทุกครั้งที่เธอมีโอกาส



    “รู้แล้วน่า  ฉันไปจัดหนังสือหลังร้านก่อนแล้วกันขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้ว” ( T^T)  



    ที่จริงร้านที่ฉันทำงานพิเศษอยู่ตอนนี้ก็จัดว่าเป็นร้านที่ดังอยู่เหมือนกันนะ  หนังสือเล่มไหนหายาก ๆ ไปซื้อที่ไหนไม่มีถ้ามาที่นี่แล้วต้องเจอแน่นอน  เพราะเจ้าของร้านที่นี่เขาเป็นคนที่รักหนังสือมากแล้วร้านนี่ก็เปิดเพราะใจรัก  ไม่ได้หวังกำไรอะไรมากมายเพราะเขามีธุรกิจส่งออกเป็นรายได้หลักอยู่แล้ว  และเวลาเขาไปติดต่องานที่ต่างประเทศก็มักจะซื้อหนังสือดี ๆ มาด้วยเยอะแยะ หนังสือที่ร้านนี้จึงแตกต่างจากร้านอื่น



    “ เฟิร์น  เฟิร์น  มะ ..มานี่หน่อยซิ” แพนเรียกฉันตะกุกตะกักซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากเพราะจริง ๆ แล้วความสามารถพิเศษของเธอคือพูดได้เก่งชนิดลิงยังหลับได้เลยแหละ



    “มีอะไรแพม  ฉันกำลังวุ่นกับชั้นหนังสืออยู่นะ” (>o<)



    “ตะ..แต่..มะ..มานี่ก่อนเถอะ..ลูก..ลูกค้าต้อง..ต้องการ…ช่วยหาหนังสือให้”



    “ได้ ได้ ไปเดี๋ยวนี้แหละ” (- o -)

    ทุกครั้งเลยที่ลูกค้าต้องการหาหนังสือ ยัยแพมจะต้องเรียกฉันไปหาให้เพราะหล่อนไม่รู้ว่าชื่อหนังสือที่ลูกค้าเอ่ยมามันเป็นประเภทไหน  ทำไมนะเหรอก็เพราะหล่อนเกลียดการอ่านหนังสือนะซิ (แต่ดันมาเลือกงานขายหนังสือ) สงสัยต้องหาเวลาว่างสอนวิธีหาหนังสือให้ยายแพมซะแล้ว



    “แพม  ไหนลูกค้าที่จะให้ช่วยหาหนังสือให้” (- o -)



    “นะ…นั่นไง เห็นกลุ่มผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงชั้นหนังสือฝั่งนั้นไหมเฟิร์น” แพมบอกฉันด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นจนฉันเองก็แปลกใจ



    “เห็นแล้ว  แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องทำเสียงตื่นเต้นอย่างนั้นด้วย” (- o -)



    “ก็..เธอต้องได้เห็นหน้าเขาก่อนถึงจะอยู่ว่าทำไม คนอะไรก็ไม่รู้หล่อชะมัดเลย  หล่อจนฉันแทบกองลงตรงนี้  เพราะถูกละลายด้วยสายตาของเขาเลยแหละ” (>o<)



    “เวอร์…นะแพม”  (- o -)ฉันไม่เชื่อยายนี่สุดขีด  เพราะผู้ชายทุกคนบนโลกนี้สามารถละลายหล่อนด้วยสายตาของเขาได้หมดแหละ



    “ฮึ  เธอก็ไปดูด้วยสายตาของตัวเองซิถ้าไม่เชื่อ”    



    ฉันรีบเดินเข้าไปหากลุ่มลูกค้าที่ยืนเลือกหนังสืออยู่     อืม..สูงจังแฮะ  แต่เอะ !ไหนพูดภาษาอังกฤษกัน เอ… หรือว่าเป็นคนต่างชาติ  ตายละฉันยิ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ด้วย

    ไหน ๆ ก็มาแล้วลองพูดด้วยภาษาไทยก่อนแล้วกัน



    “เอ่อ..คือ ขอโทษคะ หนังสือเล่มไหนคะที่ต้องการให้ทางร้านหาให้” (-º◊º-)



    ตึง  โครม



    เปล่าคะ  ไม่ใช่เสียงช้างล้มหรอกคะ  แต่เป็นเสียงของผู้หญิงอวบเกินไปนิดคนหนึ่งที่ล้มชนชั้นหนังสือ  เพราะความดีใจ   ตกใจ  สุขใจ  แปลกใจ  อะไรไม่รู้มันมั่วไปหมด ทันทีที่เขาคนนั้นหันมา เขาคนนั้นที่เธอฝันเห็นมาตลอดไม่ว่า ยามหลับหรือยามตื่น  ผู้ชายที่เธอเฝ้ารอมาตลอด  10  ปี



    “เฮ้  คุณ  เป็นไรรึเปล่า” (\"-_-)

    ว้าว   เสียงของเขายังฟังดูอบอุ่นเหมือเดิมเลย



    “เอ่อ  ไม่เป็นไร  ไม่เป็นไรซักนิด” (>o<)ฉันพยายามตะเกียกตะกายยื่นหน้ากลม ๆ ออกมาจากกองหนังสือเพื่อมาตอบเขา



    “แน่ใจนะครับ  ให้ผมช่วยอะไรคุณไหม” (\"-_-)

    น่านยังใจดีเหมือนเดิมด้วย



    “ไม่เป็นไร  แค่นี้สบายมาก เอ่อจริงซิ กลับมาเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอเชน  ยังไงก็ยินดีต้อนรับกลับเมืองไทยนะจ๊ะ” (>v<)ฉันพยายามส่งยิ้มที่คิดว่าทำให้ผู้หญิงอวบที่ล้มแหมะ อยู่ใต้กองหนังสือดูดีที่สุด   แต่เอะ! ไหงเขาทำหน้างงอย่างงั้นละ  ดูซิคิ้วก็ขมวดจนผูกโบว์ได้แล้ว  หรือว่าเขาจำฉันไม่ได้  จริงซิเราลืมแนะนำตัวเองนี่นา



    “เอ่อ  ฉัน เฟิร์น ไงเชน  อะไรกันแกล้งทำเป็นลืมละซิ  อย่าอำกันเลยน่ารู้ทันหรอก” (>o<)

    น่าน…ยังแกล้งทำหน้างงอำฉันอยู่อีก  [แล้วหล่อนจะนอนอยู่ใต้กองหนังสืออีกนานไหมยัยเฟิร์น ทำไมไม่ลุกซักทีรอให้เขามาอุ้มหรือไง -แก้มป่อง(-^v^-) -- ถ้าได้ก็ดีซิเจ๊:เฟิร์น ]



    “เฟิร์น ใครกัน  ผมไม่รู้จัก แล้วคุณรู้จักชื่อผมได้ยังไง” (\"-_-)





    เปรี้ยง

    ไม่ใช่เสียงฟ้าผ่าตอนฟ้าใสหรอกคะ  แต่เป็นเสียงประกาศิตจากปากของเขาทีมีอานุภาพเท่ากับฟ้าที่ผ่าลงตรงกลางใจฉันพอดี  ผ่าซ้ำไปซ้ำมาด้วยซิ

    เฟิร์น ใครกัน  ผมไม่รู้จัก  ผมไม่รู้จัก   ผมไม่รู้จัก   ผมไม่รู้จัก  ผมไม่รู้จัก   ผมไม่รู้จัก  ผมไม่รู้จัก

    ไม่รู้จักงั้นเหรอ  อะไรกันแล้วที่ผ่านมาฉันรอมันไปเพื่ออะไรกันเล่า  อืม  ทำไมห้องมันมืดจัง เอหรือว่าฉันกำลังฝันไปกันแน่เนี่ย  ต้องฝันไปแน่นอนฝันเหมือนกับทุกคืนตลอด  10  ปีที่ผ่านมา  อือ ง่วงจริง ๆ แฮะ



    “เฮ้  คุณเป็นไรไป”



                                                       *+*+*+*+*+-*+*+*+*+*+*+
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×