ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DegreeFahrenheitองศาไร้หัวใจยิ่งใกล้ยิ่งรักเเบบฉบับยัยคุณหนู

    ลำดับตอนที่ #7 : ขี้หมาเป็นเหตุ

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 56


    6

    บนรถ

    บรรยากาศเงียบเกินจะบรรยาย ฉันกับเซลเซียสไม่เคยมีบรรยายกาศแบบนี้ด้วยกันมาก่อน ปกติอยู่ด้วยกันแล้วก็จะเฮฮาปาร์ตี้กันไปตามภาษาเพื่อนสนิท อยากจะถามจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น-_-?

    “ฉันไม่ควรรู้เรื่องอะไรเลยหรือไง”ฉันถาม ก็ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ที่พูดไปเพราะอยากรู้ทั้งนั่นแหละ

    “โอเค๊ ถ้าเธออยากรู้ฉันบอกให้ได้อยู่แล้วแหละ แต่อย่ามาเสียใจภายหลังก็แล้วกัน”

    “ฉันจะเสียใจทำไมไม่ได้เป็นอะไรกับพวกนายสักหน่อย-3-“

    “ถ้าชอบพี่ไฮต์ละก็นะ”

    คำพูดนั่นของเซลเซียสทำเอาฉันหยุดหายใจไปชั่วขณะ  ความจริงแล้วบางทีฉันอาจจะชอบฟาเรนไฮต์ไปแล้วก็ได้นี่เนอะ อ๊ากก ทำไมฉันจะต้องคิดอะไรบ้าๆด้วยเนี่ย ชอบหรือไม่ชอบแล้วมันยังไงละ

    “บอกๆมาเถอะน่า ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมานั่งร้องไห้เพราะใครก็ไม่รู้หรอกนะ”ฉันว่าด้วยท่าทางชิลๆ

    “เอางั้นก็ได้ ถ้าเธอร้องไห้ฉันไม่ช่วยปลอบนะ เหอะๆ-_-“

    “เออ~~

    “ก็พี่องศาเป็นคนรักของไอ้ฟาเรนไฮต์น่ะสิ ไม่น่าถามเลย พูดถึงพี่เขาก็คงเป็นแค่อดีตที่พี่ไฮต์ลืมไม่ได้ก็เท่านั่นแหละ ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไปหลงรักไอ้คุณป้าขี้บ่นนั่นได้ยังไง”

    …”

    “อ้าวเฮ้ย! ไหนเธอบอกว่าจะไม่ร้องไห้ไง ยัยบ้า”เซลเซียสหันมาทำหน้าเหวอใส่ฉันที่น้ำตากำลังไห้พราก เฮ้ย!นี่ตูเป็นอะไรของตูฟะT_T จู่ๆน้ำตามันก็ไหลอะ แง้ๆ

    “ฉะฉัน ฮึกๆ

    “พอๆ ถ้าเธอร้องไห้ฉันก็ขับรถไม่ได้น่ะสิ”เซลเซียสว่าก่อนจะขับรถไปเทียบฟุตบาทข้างทาง  ก่อนจะทำท่าทีลุกลีลุกลน ฉันเอามือกุมหน้าปาดน้ำตา โอ๊ย ให้ตาย ฉันไม่ใช่คนที่ชอบเสียน้ำตาซะหน่อยนะ แง้~TOT

    “เซลทำไม

    “ทำไม? ทำไมอะไรของเธอ-O-^”

    “ก็ทำไมฉันถึงร้องไห้ไง ฮือ~”ฉันตะโกนร้องลั่น

    “เฮ้ย จะตะโกนหาเตี๋ยแกเหรอ ยัยคุณหนูบ้า เดี๋ยวพ่อจับฆ่าซะเลยนี่=O=!”เซลเซียสทำท่าจะเข้ามาบีบคอฉัน  โธ่!ฉันเป็นอะไรของฉันเนี่ย นี่มันไม่ใช่ฉันเลยนะ

    “ทำไมอ่าาา~~ ฮือ~”ฉันปล่อยโฮไม่หยุด

    “ฉันจะไปรู้เธอไหมเนี่ย หยุดร้องๆๆๆ พอๆ ไม่งั้นฉันจะเรียกพี่ไฮต์มาแล้วนะ โฮๆTOT”เซลเซียสทำน้าเหมือนจะร้องไห้ตามฉัน

    “นี่ นายจะร้องไห้ทำไมเนี่ย ฮือๆT^T”

    “แล้วเธอจะร้องทำบ้าออะไรหล่า ยัยบ๊อง ฮือ~”ฉันกับเซลเซียสร้องไห้โฮกันยกใหญ่ สงสัยว่าเซลเซียสจะขับรถต่อไม่ได้แล้วละ

    “ผู้ชายบ้าอารายยยฮะ ลูกผู้ชายเขาต้องไม่ร้องไห้สิ ฮือออ”

    “ไมรู้โว้ยย ฮึก ฮือๆ”

     

    21:00 .

    ฉันกับเซลเซียสที่หลังจากร้องไห้แง้ๆอยู่กว่าสองชั่วโมง ก็ได้เที่ยวเล่นไปทั่วกรุงเทพเพื่อคลายเครียด และในที่สุดเราก็มาหยุดกันที่ผับ วันนี้ฉันจะดริ้งให้ลืมโลกไปเลย

    “ทำไมไม่โทรชวนเพื่อนที่ณะมาหน่อยละ จะได้มันส์กว่านี้ นั่งดื่มสองคนมันไม่สนุกหร๊อกกก”ฉันว่าพลางใช้มือโอบไหล่เซลเซียสอย่างสนิทสนม

    “ใครจะให้พวกมันเห็นสภาพแบบนี้ของฉันกันเล่า”เซลเซียสว่า อ้อ จริงสิ ตอนนี้มันตาบวมเลยนี่น่าพวกเราสองคนยังต้องใส่แว่นดำเพื่อปิดบังตาบวมของพวกเราทั้งสองคน ตอนเข้าผับยังถูกมองแบบแปลกๆเลย คิดแล้วมันน่าอายชะมัดT_T

    “นี่มาดื่นรวดหนึ่งแก้วเลยไหม”

    “เออ ก็เอาสิฟะ ดื่มให้ลืมโลกไปเลย ฉันไม่อยากจำวันอุบาทอย่างวันนี้นักหรอก”

    “จัดไป”ฉันหยิบเหล้าที่วางอยู่มาใส่แก้วทั้งสองแก้วเตรียมจะผสม

    “เฮ้ย! อยากลืมไม่ต้องผสมหรอกเซลเซียสจับมือฉันไว้ก่อนจะจัดการรินเหล้าใส่ประมาณครึ่งแก้ว เฮ้ย!มอนี่มันบ้าไปแล้วหรือไงจะให้กินเหล้าเปล่าเยอะขนาดนั่นเนี่ยนะO_O!

    “นายบ้าไปแล้วหรือไง”

    “ไม่บ้าโว้ย เพราะเธอฉันถึงได้ร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังขนาดนั่น รับผิดชอบด้วย!”เซลเซียสหยิบแก้วขึ้นมายัดใส่มือฉันพร้อมกับนับถ้อบหลัง “เอ้า! สาม สอง หนึ่ง…”

    ติ๊ดๆ

    ฉันซดเหล้าเข้าไปเต็มกระเพาะ รสชาติคมๆติดลิ้นอย่างแรงเลยแฮะ ยี้ ไม่อร่อยเลยอ่า@_@

    “ใครโทรมาวะ”เซลเซียสวางแก้วเหล้าที่ยังไม่ได้กระเดือกเข้าไปสักอึกไว้ที่โต๊ะก่อนจะรับสาย “เฮ้ย เดี๋ยวมา”

    “เออๆ@_@”

    บอกตรงๆตอนนี้ฉันรู้สึกอยากอ้วกมากๆ คลื่นไส เวียนหัวไปหมด สงสัยตอนนี้โลกคงหมุนรอบตัวเองอยู่หรือเปล่า ฉันฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะก่อนจะควานหาขวดน้ำเปล่า เพลงในผับถูกเปิดดังสนั่น โอ๊ย มึนหัวจังเลย

    สักพักเซลเซียสก็เดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมชายอีกคนหนึ่ง ภาพมันเบลอจนฉันมองไม่เห็นว่าเป็นใครซะแล้วน่ะสิ ตัวสูงชะมัดเลยแฮะ งืมๆ

    “กว่าจากลาบมาน้า อ้ายเซลเชี่ยยย”

    “ยัยบ้า เซลเซียสโว้ย-O-”

    “ไอ่หย่า ซอรี่ๆ ช้านนม่ายยรู้ อุวะฮ่าๆ@_@

    “อุวะฮ่าๆ บ้านพ่อแกสิ ยัยบ้า เมาแล้วใช่ไหมเนี่ย”

    “อุ๊ยโย่  ครายมาว พูดห้ายดีๆหน่อยย ช้านม่ายมาวว”

    …-_-”สายตาของคนตัวสูงมองมาที่แน เมื่อจะสื่อความหมาย คลื่นไสจังแฮะ

    “แน่ะๆ พาครายมาหยอ ม่ายบอกช้านเบยยย”

    “โอ๊ย กลับๆ แกเมาไม่เหลือแบบนี้เดี๋ยวถ้าฉันนั่งดื่มต่อมีหวังต้องขับรถเข้าข้างทางแหง ลุกได้แล้ว ยัยขี้เมา-_-^”เซลเซียสเดินเข้ามาพยายามจะพยุงฉัน ฉันไม่เมาซะหน่อย จะมาพยุงทำมายหว่า@^@

    แกกลับบ้านไปก่อน เดี๋ยวฉันเอายัยนี่ไปส่งเอง-_-

    “เอางั้นเหรอ ก็ได้ๆ”เซลเซียสวางฉันลงที่เก้าอี้เหมือนเดิม ก่อนที่จะมองอย่างเป็นห่วงแต่สุดท้ายก็เดินออกไปอย่างไม่ใยดี

    กรี๊ดด ไอ้บ้าเซลเซียส แกปล่อยให้ฉันอยู่กับคนแปลกหน้าหรา@O@!

    …-_-”สายตาของคนตัวสูงมองฉันอีกครั้งก่อนจะอุ้มฉันพาดบ่า

    “อ้ายบ้า ปล่อยช้านนน>O<///”ฉันใช้มือทุบไปที่แผ่นหลังเขาไปหลายรอบ แต่เขาก็ไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด เอิ๊ก!อุบส์ ถ้าเขายังไม่หยุดเขย่าหน้าท้องฉันละก็มันต้องทะลักออกมาแน่เลย@_@

    เขาอุ้มฉันออกมาจากร้านเดินมาถึงรถของเขา บีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำคันหรูดูเข้ากับเขาจังน้าโอ๊ย!นี่ไม่ใช่เวลามาชมขักหน่อย ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว เพราะฉันจะกลั่นมันไม่ไหวแล้ว

    “เธอ…”

    “โอ๊ย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”ฉันพยายามควบคุมสติเพียงน้อยนิดของตัวเอง คนแปลกหน้าวางฉันลงกับเบาะหน้าข้างคนขับ ฉันมองหน้าเขาภาพทุกอย่างเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ นะนีมันฟาเรนไฮต์-O-!

    -_-”

    “สะสวัสดีจ้ะ@^@!”ฉันเริ่มทำตัวให้เหมือนคนเมาเหมือนเดิมดีกว่าโดนเขาดุแหละ เอ๋ะ!แต่เขาไม่ชอบพูดนี่คงไม่ดุฉันหรอกมั้ง เอ่อถึงไม่ทางคำพูดก็ทางสายตาอยู่ดี ทำไมพอเห็นหน้าเขาฉันรู้สึกว่าฉันสร่างเมาเลยอะT_T

    “รีบๆขึ้นไปนั่งให้ดีๆสิ-_-+”

    “อ่ะอือฉันรีบเก็บแขนหุบขาเข้ามาในรถทันที

    ปัง!

    เสียงปิดประตูดังกระแทกหน้าฉัน โอ๊ย!อาให้หูฉันหนวกเลยไหมT^T ต่แปลกจัง ปกติถ้าจะสั่งอะไรแบบนี้เขาชอบจะส่งสายตาหรือไม่ก็แพร่รังสีมานี่น่า แปลกจัง-O-

    …”

    …”

    ทำไมฉันรู้สึกว่ามันเงียบจนได้ยินเสียงแอร์เลยละ ทำไมวันนี้ไม่เปิดเพลงเหมือนทุกทีนะ เซ็ง-3-! บรรยากาศดูน่าอึดอัดชะมัดเลยแฮะ เขาแค้นอะไรฉันมาหรือเปล่าเนี่ย

    “ขะขอฉันเปิดเพลงได้ไหม(._.)

    “อือ”

    ฉันเอื้อมมือไปกดเปิดเครื่องเล่นเพลง ก่อนที่เสียเพลงจะดังขึ้น ฟาเรนไฮต์เหลือบมามองฉันก่อนจะหันกลับไปเหมือนเดิม

    “นายโกรธอะไรฉันหรือเปล่าเนี่ย-O-;” ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดและถามเขา แอร์เย็นฉ่ำแต่เหหงื่อฉันกลับไหล ให้ตายสิ T^T

    “ก็เปล่านี่-_-” ฟาเรนไฮต์พูดโดยไม่ได้หันมาสบตากับฉัน

    “โกหกชัดๆ”

    “ห๊า-_-!?”

    “สบตาฉันแล้วบอกสิว่าไม่ได้โกรธไม่งั้นฉันไม่เชื่อจริงๆด้วย-3-!” ฉันว่าพลางสะบัดหน้าหนี

    “ฉันขับรถอยู่นะ ว่าแต่เธอเถอะ สร่างแล้วเหรอ”

    “เห็นหน้านายแล้วไม่กล้าเมา”

    “อ้อเหรอ=_=”

    “อะ...อือ...ฉันดีใจนะที่นายไม่โกรธแล้วก็ไม่เกลียดฉัน แล้วก็ขอบใจที่นายไม่คุยภาษาสายตากับฉันแล้วด้วย ก็ไม่รู้ว่าคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า แต่หมู่นี้ฉันรู้สึกเหมือนนายแคร์ฉันขึ้นมานิดๆน่ะเนี่ย ฮ่าๆ”

    …-_-;;;”…ยี้

    “อย่ามายี้ สิยะ-O-^”ฉันว่า

    เหม็น” ฟาเรนไฮต์ว่าพลางยื่นมือมาเปิดลิ้นชักด้านข้างคนขับ เท่าที่ฉํนเห็นเขาหยิบสเปยร์กระป๋องขึ้นมาอะเหร่-O-!? ทำไมต้องหันขวดสเปรย์มาทางฉันด้วยเล่า

    ฟู่~

    “กรี๊ดดดด” ฉันหลับตาหันหน้าหนี เมื่อรู้ตัวว่าเขาจะฉีดไอ้สเปยร์กระป๋องนั่นใส่ฉัน “แค่กๆนายจะบ้าหรือไงเนี่ย ฉีดอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือ ถ้าเกิดมันเข้าตาฉันขึ้นมาจะทำยังไงละTOT”

    “หา-_-? ฉันฉีดไปข้างใต้นั่นต่างหากละ

    “เอ๋ะ-O-” ฉันก้มลงไปมอง

    ตรงเท้างั้นเหรอ?

    “เท้าเธอ โครตเหม็นเลย ถอดร้องเท้างั้นเหรอ-_-” ฟาเรนไฮต์ว่า ฉันมองเท้าตัวเองงงๆ ไม่เห็นจะได้กลิ่นเลย แต่เกิดมาเพิ่งเคยเห็น ฟาเรนไฮต์พูดคำว่า โครต เป็นครั่งแรก แสดงว่ามันเหม็นจริงๆงั้นสินะ

    “ฉันไม่ได้ถอดร้องเท้าสักหน่อยนะ ฉันพลิกเท้าตัวเองขึ้นมาดู สีเหลืองทองอร่ามตา ติดอยู่กับร้องเท้านั่นทำให้ฉันรู้เลยว่ามันคือขี้หมา  ชีวิตใครจะมาโชคร้ายไปกว่าฉันTT_TT

    “สรุปคือ…?”

    งั้นถ้าสมมุติว่าฉันบอกว่า

     

    ฉันถอดร้องเท้า เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเท้าฉันเหม็น แหะๆ

    ไม่อ๊าววววT_T

     

    ฉันไปเหยียบขี้หมามาตอนไหนก็ไม่รู้อะ แฮะๆ

    ถ้าฉันจะน่าเกลียดขนาดนี้นะT^T

     

    งั้นถ้าฉันตอบปฎิเสธความผิดไปละ

     

    จะบ้าเหรอ ฉันว่านายต้องจมูกดีเกินไปจนได้กลิ่นอะไรแปลกแน่เลย ฮ่าๆ

    ,มีหวังโดนเขาจับฆ่ายัดส้วมพอดี แง้~

     

    ฉันว่า จมูกนายเสียแล้วละนะ ว่างๆไปเช็คจมูกหน่อยดีกว่านะ ฉันเองก็ไม่เห็นจะได้…’

     

    ล้มเลิกความคิดซะเถอะT____T

    “ก็ไม่มีอะไรนี่”

    “หึ!” ฟาเรนไฮต์กระตุกยิ้มขึ้นอีกครั้ง มันมีอะไรให้น่าขำไม่ทราบยะ ฉันคนนะไม่ใช่ตัวตลกแล้วตัวตลกมันเป็นคนหรือเปล่านะโว้ย! แล้วฉันจะมานั่งคิดอะไรไร้สาระแบบนี้ทำไมเนี่ย “อุ๊บฮึๆ

    “ขำอารายยยยTOT”

    “ขี้หมาใช่ไหมละนั่น ฮ่าๆ ฟาเรนไฮต์หัวเราะร่า ฉันชะงักกึก เกิดมาฉันเพิ่งเคยเห็นฟาเรนไฮต์ยิ้มร่า และหัวเราะแบบนี้เป็นครั้งแรก ความหล่อของเขาเพิ่มอนูเป็นร้อนล้านเท่าเลยนะเนี่ย

    “นาย…”

    ?”

    “หัวเราะเป็นด้วยอย่างงั้นเหรอ*O*”

    …-_-เลิกทำหน้าตาแบบนั่นสักทีจะได้ไหม

    ฉันคงตอบว่า ไม่ได้ เพราะตอนนี้หัวใจฉันเหมือนล้นออกมากองอยู่กับพื้น ใช่ฉันคนแรกหรือเปล่าที่เขาขำให้เห็น ใช่ฉันคนแรกหรือเปล่าที่ทำให้เขาหันเราะ ใช่ฉันหรือเปล่า…? ฉันสามารถเป็นคนแรกของเขาได้หรือเปล่า?

    “ถามจริงเหอะ นายเคยหัวเราะให้ใครเห็นหรือเปล่า” ฉันถามโดนที่ไม่มองหน้าเขา

    “ถ้าฉันตอบว่าไม่แล้วมันจะทำไมเหรอ”

    “โห้ย! นายพูดเกินสิบคำด้วย สุดยอด*O*” ฉันเริ่มเบี่ยงประเด็น เอาเถอะ คนแรกหรือคนที่สองก็ช่างมันเถอะ ถ้าเขาไม่คิดแบบเดียวกับฉันมันก็เป็นได้แค่ฝันกลางวันY_Y

    …-_-“

    “เอ่อว่าแต่นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย คือแบบว่าฉันไม่คุ้นเคยถนนเส้นนี้ด้วยสิ มันค่อนข้างสับซ่อนแล้วตอนนี้ฉันก็รู้สึก มึนๆ@_@

    “จะให้ไปไหนละ ฉันไม่รู้จักบ้านเธอหรอกนะ”

    “เอ่อ ทางนี้ไปบ้านฉันได้ด้วยเหรอ” ฉันถามอย่างงงๆ เพราะตอนนี้ฉันก็มึนๆอยู่แล้วด้วย ไม่ผิดใช่ปะ!?

    “ถ้าเธอไม่รู้ แล้วใครมันจะรู้ละ”

    ขอโทษ(_ _)” ฉันพูดสั้นๆ

    “ไปพัทยาไหม”

    “ไปก็ไปสิ(_ _)”

    .”อยากไปพัทยา (ความคิดที่อยู่ในหัวฟาเรนไฮต์มีเพียงเท่านี้ ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงเลย-_-^)

    “ห๊ะ! เมื่อกี้นายว่าไงนะ ฉันไม่ยินไม่ชัดเลยOoO!?” ฉันว่าและสะดุ้งทันที เขาชวนฉันชวน ฉัน! ไปไปเที่ยว-O-

    “ตอบแล้วก็ถือว่าตกลง”

    ฟาเรนไฮต์เลี้ยวเปลี่ยนเส้นทางโดยไม่ถามสุขภาพฉันสักคำ นายอยากแต่ฉันไม่อยากนะ พรุ่งนี้ฉันต้องเรียนนะ โดดมาเยอะเกินไปแล้วTOT

     

    0:00 am

    ฉันนั้งอยู่กลางชาดหาด ลมพัดมาตีหน้า ผมปลิวสลวย และรู้สึกเหนียวตัวนิดๆ ในขณะที่ชายหน้านิ่งก็นั่งอยู่ข้างๆ มันเกือยจะโรแมนติกแล้วถ้าเขาเลิกทำหน้าซังกะตายแบบนั่น-_-

    “เกิดบ้าอะไรพาฉันมาที่นี้ แถมยังพามานอนกลางชาดหาดด้วยนะ เริ่ดสุดๆ”

    “บ่นคนที่ยอกมาด้วยคทือเธอเองต่างหาก”

    เหรอ!?

    “เออๆ ฉันผิดเองแหละ ผิดตลอดอะ” ฉันว่าอย่างประชดประชัน

    …-_-”…เพิ่งรู้?

    “อ๊าก ฉันอยากจะฆ่านายซะตรงนี้เลยจริงๆน้า เฮ้ออ ทำไมจู่ๆฉันถึงติดใจนายได้ละเนี่ย แต่นายก็หล่อดีนะ^^” ฉันพูดลอยๆเหมือนไม่มีคนอยู่ด้วย ดวงดาวลอยอยู่เต็มฟากฟ้า ส่องแสงทอประกายมายังพื้นน้ำ ฉันเงยมองมันอยู่นายสองนานก่อนจะรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่

    …”

    ฉันหันหน้าไปมองคนข้างๆที่กำลังนั่งมองอะไรอยู่ก็ไม่รู้ เอ่อคงไม่ใช่เขาหรอกมั้ง ฉันหันไปมองน้ำทะเลและท้องฟ้สาอีกครั้ง อืออ หิวข้าวจังนะ เมื่อกี้เพิ่งอ้วกไปซะด้วยสิ-.,-

    “นายว่านั่นกลุ่มดาวอะไร” ฉันใช้มือชี้ไปที่กลุ่มดาวบนท้องฟ้า

    “จะไปรู้เหรอ”

    “ให้ตายสิ ฉันว่ามันอาจจะเป็นดาวลูกไก่ก็ได้นะ เอหรือเป็นกลุ่มดาวนกกานะ อื้อคิๆ กลุ่มดาวนี่ น่ารักเนอะ>_<” ฉันพูด แต่มันก็เหมือนบ่นกับตัวเองนั่นแหละ ไม่ต้องมีใครสนใจก็พูดได้ (เขาเรียกว่า บ้า )

    “เธอรอตรงนี้แป๊ปได้ไหม-_-

    “ไม่ได้ได้ปะ แนอยากไปร้านสะดวกซื้ออะ นายช่วยพาไปหน่อยสิ” ฉันส่งสายตาอ้อนวอน เอาเถอะ ยังไงฉันก็ยังมีเงินติดตัวอยู่น่ะนะ

    “กำลังจะไป”

    ?”

    “จะไปไหม”

    “ไปสิ ไป” ฉันเด้งตัวลุกขึ้น “หวาๆ”

    ข้อฉันเกิดพลิกขึ้นมากระทันหัน จะล้มแล้ว>O<

    พรึบ!

    ตุบ!

    “โอ๊ยย” ฉันร้องโอดครวญเมื่อก้นลงมากระแทกกับพื้นอย่างจัง มะมันเจ็บนะเนี่ยT_T “นายไม่คิดจะช่วยฉันเลยหรือไง เมื่อกี้นี้น่ะ-O-“

    “โทษที กะจะช่วยแล้วละ”

    แล้วทำไมไม่ช่วยละค่ะ!!

    ” ฉันจ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจนิดๆ

    ฉันพยุงตัวลุกขึ้นมาตั้งหลักอีกครั้ง และลูบคล้ำที่สะโพกของตัวเอง มีนะที่ฉันลงถูกจังหวะไม่งั้นมีหวังสะโพกเคลื่อนแน่ๆ เจ็บใช่ย่อยเลยนะเนี่ย

    “พอดีฉันนึกได้ว่าตัวเธอเบากว่าช้างนิดเดียวน่ะ-_-

    “ถ้าตัฉันเบาะแล้วทำไมกรรซ์ นายหลอกด่าฉันเหรอTOT”

    “ซุ่มซาม แถมยังโง่ให้หลอกอีก”

    อยากให้นายตายๆไปวันนี้ก็วันแรกแหละT_T

    “โอเค ฉันโง่ ฉันซุ่มซาม ฉันตัวเบากว่าช้างนิดหน่อย แต่มันก็ไม่หนักหัวใครซะหน่อย ชิ!

    “สามีในอนาคตไง…”…ลืมไป เธอน่าจะขึ้นคานนี่เนอะ-_-

    “ไม่ต้องมาทำสายตาแบบนั่นเลยนะยะ!!!” ฉันเหวี่ยงเล็กน้อยก่อนจะเบ้ปากและบิดตัวหนี้ เชอะ ไม่ง้อหรอก

    โครกก

    “อุ๊บ…”

    โอ๊ย อีนังท้องบ้า นังไม่รักดี รักษาภาพภพน์ให้ฉันสักนิดไม่ได้หรือไงเล่าY_Y

    “โอเค ฉันแพ้แล้ว ฉันซุ่มซามเองแหละ แล้วก็ทำให้สามีในอนาคตหันหนักด้วย แต่ฉันไม่ขึ้นคานแน่นอนยะ” ฉันตอบและเอามือกอดอก อากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่ฉันมามันก็หนาวพออยู่แล้ว เพราะตอนนี้เป็นช่วงหน้าหนาวน่ะ เดือนพฤศจิกายน มันก็แบบนี้แหละ หนาวจนขี้มูกไหลเลยแฮะ

    “ไปได้แล้ว” ในขณะที่ฉันกำลังคิดอะไรเพลินๆ เสียงนิ่งๆของฟาเรนไฮต์ดังขึ้น หวา เขาเดินไปไกลขนาดนั่นตั้งแต่เมื่อไหรเนี่ย

    “ระรอด้วยสิ ฉันรีบวิ่งไปหาเขา บรรยากาศมืดกับเสียงของน้ำทะเลมันน่ากลัวนะจะบอกให้>_<

     

    ไม่นานมากสำหรับการเดินทางมาร้านสะดวกซื้อ ฉันกับฟาเรนไฮต์แยกกันเดิน อืมสิ่งที่ฉันต้องซื้อมีอะไรน้า ฉันคิดเพลินๆและหยิบของกินเล่นมาใส่ตระก้า คงไม่เกินพันหรอกมั้ง(‘ ‘)

    “ฉันไปรอข้างนอก” เขาไม่ได้รอคำตอบจากฉันและเขาก็เดินออกไปเลย ฉันถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินไปเคาร์เตอร์จ่ายตังค์

    “เสร็จแล้ว” ฉันเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ฟาเรนไฮต์อยู่ไหนละเนี่ย-O-? “ฟาเรนไฮต์…”

    …” คำตอบที่ฉันได้รับคือความเงียบ เขาหายไปไหน!? เขาทิ้งฉันไว้ในสถานที่ที่ไม่รู้จักได้ยังไงเนี่ย แย่ๆจริงๆ ช่างเถอะ บางทีเขาอาจจะเดินไปรอที่เดิมแล้วก็ได้ ฉันเดินไปที่ชายหาดที่ไม่ไกลมากนัก

    “ฟาเรนไฮต์!!” ฉันตะโกนเรียกชื่อเขาหวังว่าเขาจะได้ยินนะ ไม่ใช่ว่าโดนผีลักซ่อนจับตัวไปหรอกนะ ใช่มั้ย? “ฟาเรนไฮต์…!!

    เล่นอย่างงี้ฉันไม่ตลกด้วยนะT^T

    “นี่!” มือปริศนามาสะกกิดที่ด้านหลังของฉํน ฉันรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันใด

    “คะคะ?” ฉันค่อยๆหันหลังไป ก็เจอกับใบหน้าของคนทที่คุ้นเคย จู่ๆน้ำตามันก็คลอเบ้าขึ้นมาซะดื้อๆ

    พรึบ

    “ฮะเฮ้ย!-_-“ ฟาเรนไฮต์ทำหน้าตาเหวอไปนิดเมื่อฉันกระโดดกอดเขาแน่น ฮือ~~

    “นายหายไปไหนมาอะ รู้ไหนมว่าฉันกลัวจนฉี่แทบราดเลยนะ ฮืออ วันหลังอย่าหายไปแบบนี้อีกนะTOT” ฉันร้องไห้ออกมาเสียงดังและกอดเขาแน่น และเอาหน้าซุกลงไปที่อกของเขาและปล่อยโฮออกมาไม่หยุด จะบอกว่าฉันเป็นคนขี้กลัวนะ>_< ต่ได่ซุกอกคนหล่อแบบนี้ฉันยอมขี้กลัวไปตลอดชีวิตเลยอะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×