ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DegreeFahrenheitองศาไร้หัวใจยิ่งใกล้ยิ่งรักเเบบฉบับยัยคุณหนู

    ลำดับตอนที่ #6 : สิ่งที่ยังไม่รู้

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 56


    ฉันไม่รู้ว่าร้านแบร์มี่อยู่ที่ไหน จึงนัดว่าจะไปรอที่บ้านเซลเซียสตอนสิบโมงจะได้ไปพร้อมกันเลย และตอนนี้ฉันก็อยู่หน้าบ้านของเซลเซียสแล้วด้วย ดูเหมือนพี่ยามจะจำหน้าฉันได้ว่าเป็นเพื่อนของเซลเซียสเลยยอมให้ฉันเข้าไปง่ายๆ

    “มาเร็วกว่าที่คิดแฮะ” เสียของเซลเซียสดังมาจากทางด้านหลัง ฉันหันควับไปทางต้นเสียง

    “นายเพิ่งตื่นหรือไงเนี่ย-O-

    “จะบ้าเหรอ ฉันไปแอบหลับมาที่สวนหลังบ้านน่ะ เมื่อคืนไอ้โรมมันป่วน! คิดแล้วเจ็บใจชะมัด”

    ?”

    “อยากรู้ไหมละ”

    (-_-)(_ _)(-_-)” ฉันพยักหน้า เซลเซียสถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ

    “ไอ้โรมมันเข้ามาในห้องของฉัน แล้วก็เล่นไว้ซะเละเลยน่ะสิ กว่าแม่บ้านจะเก็บเสร็จก็เกือบตีหนึ่ง ง่วงเป็นบ้า”เซลเซียสว่าพลางบิดขี้เกียจไปมา

    “แล้วทำไมไม่ไปนอนห้องอื่นละ”

    “ฉันชอบนอนห้องตัวเองมากกว่า แถมห้องอื่นมันแคบเกินไป”

    โอ๊ย! ไอ้คุณชายเอ๋ยยย

    “อ่ะจ้ะๆ พ่อคุณชายย” ฉันพูดลากเสียงอย่างประชดประชัน อีหมอนี่มันน่าหมั่นไสเป็นบ้าเลย “แล้วจะไปกันได้หรือยังละ สิบโมงจะครึ่งแล้วนะ”

    “เข้าบ้านก่อนสิ พวกมันคงนั่งอยู่ในบ้านนั่นแหละ” เซลเซียสว่า เออ จริงสิ ฉันลืมคิดไปเลยว่าทำไมตอนที่ฉํนมาบ้านเข้าฉันถึงไม่เคยเห็นหน้าพี่ของเซลเซียสเลยรวมถึงน้องด้วยนะ

    “นี่ๆ ทำไมเวลาฉันมาบ้านนายแต่ก่อน ไม่เห็นเคยเห็นพวกพีน้องนายเลยละ?”

    “อ้อ ช่วงนั่นพวกมันนอนหอกันน่ะ”

    “อย่างงี้เองสินะ-^-”

    ฉันเดินตามเซลเซียสไป ฟาเรนไฮต์จะใส่ชุดอะไรน่า ช่างเถอะ เขาใส่อะไรก็หล่อทั้งนั่นแหละ แอร๊ยยย~~~>///< เดี๋ยวๆ นี่ฉันกลายเป็นพวกคลั่งผู้ชายหล่อแบบเขาไปแล้วงั้นเหรอเนี่ยTOT?

     

    ร้านแบร์มี่

    ตอนนี้เรามาถึงร้านแบร์มี่เรียบร้อยแล้ว เรายืนอยู่หน้าร้าน สีหน้าของทุกคนแย่หมดยกเว้นโรเมอร์ที่หน้าตาสดใสเป็นพิเศษ ฉันพอรู้แล้วละว่าทำไมทุกคนถึงไม่อยากมาร้านนี่ เพราะร้านนี้มันมีเด็กผู้หญิงเต็มไปหมดแถมยังมีแต่ตุ๊กตาหมีหลากหลายชนิดอีกด้วย ร้านเป็นโทนสีน้ำตาล และดูเป็นร้านที่หวานมากๆ เหมาะกับพวกผู้หญิงหรือเด็กมากกว่า

    “ร้านแบร์มี่ ยินดีต้อนรับค่าาา~”พนักงานสาวหน้าตาน่ารักเดินเข้ามาหาพวกเรา

    “คุณบีฟซัง ผมขอห้องเดิมนะ เอาหมีเยอะแล้วที่เหลือก็เหมือนเดิมนะครับ นะๆๆ(‘^’)” โรเมอร์เดินเข้าไปเกาะแขนพนักงานสาว

    “ได้ค่ะ แต่น้องโรมคะ พี่บอกว่าให้เรียกพี่ว่าพี่แบร์ไงคะ”

    “ก็หน้าพี่บีฟมันไม่เหมาะจะเป็นหมีของผมนี่ หน้าพี่น่ารักเหมือนหมาข้างบ้านผมมากกว่า(‘^’)”

    เอ่อสงสารพี่แบร์จัง

    “อ่าจ้ะ พี่ก็ว่างั้นแหละ กระซิกๆTTOTT

    “งั้นไปกันเถอะ พี่ๆ^O^” โรเมอร์รวบแขนทั้งสามคนรวมทั้งฉันเองก็ด้วยแล้วเดินเข้าร้านและขึ้นลิฟท์ขึ้นไปชั่นสิบเอ็ด ห้องกว้างสุดๆ วิวดีมาก และมีน้องหมีเต็มไปหมด ไม่ว่าจะดโปสเตอร์หรืออื่นๆ หวา น่ากลัวแปลกๆแฮะ ตอนนี้ฉันเริ่มเข้าใจพวกเขาแล้วละว่าทำไมถึงไม่อยากมาร้านนี้T_T

    …-_-ฉันอยากออกไปแล้ว

    ฉันเหล่ไปเห็นน่าฟาเรนไฮต์ที่มีสีหน้าแย่สุดๆ เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้แฮะ

    “คิกๆ”

    “ขำอะไรของเธอ-_-” ฟาเรนไฮต์หันควับมามองฉันทันที

    “อุ๊บส์ โทษทีพอดีร้านมันน่ารักดีน่ะ

    “ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน ไอ้ร้านบ้าบอนี่-_-” ฟาเรนไฮต์ตีหน้าเรียบเฉย แต่ฉันมองหน้าเขาก็รู้ทันทีเลยว่าเขาอยากออกจากร้านนี้สุดใจเกิดแล้วละ

    “เดี๋ยวนี้พี่พูดมากขึ้นนะ เพราะเธองั้นเหรอ” เคลวินเดินเข้ามาถามฟาเรนไฮต์ ฉันมองและกระพริบตาปริบๆ เพราะฉัน อย่างงั้นเหรอ(‘O’)?

    “อย่าพูดมาก-_-” ฟาเรนไฮต์พลักอกเคลวินเบาๆก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาหมีหมีอีกแล้ว

    “ให้ตาย ฉันเกลียดที่นี้จัง” เซลเซียสว่าและเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยว

    “ฉันก็เหมือนกัน” เคลวินเตะหมอนรูปหมีกระเดนไปอีกฝั่งราวกับระบายอารมณ์ โรเมอร์หันมามองเคลวินตาขวาง “โทษทีๆ-_-” เคลวินว่าและเดินไปนั่งที่เก้าอี้หมีเดี่ยว

    อ้าว งั้นที่นั่งเดี่ยวมันก็หมดแล้วน่ะสิ สะสดงว่าฉันต้องไปนั่งข้างๆฟาเรนไฮต์สินะ-///-

    ฉันเดินไปนั่งข้างๆฟาเรนไฮต์ด้วยท่าทีเกรงใจ ไม่เชิงว่าเกรงใจหรอก เรียกว่าเกร็งจะดีกว่า เคลวินและเซลเซียสกระตุกยิ้มที่มุมปากพร้อมกัน อย่าบอกนะว่ากรรซ์ พวกนายจะทำให้ฉันจะเป็นบ้าเดี๋ยวฉันจะเป็นบ้าตาบเพราะพี่ชายพวกนายนะ

    “ทำไมต้องสั่นด้วยละ-_-” ฟาเรนไฮต์ว่า ฉันเกร็งจนตัวสั่นเลยเหรอ “หนาวหรือไง”

    “อะอ้อ ใช่ๆหนาวนะ

    “อ๊ะ” ฟาเรนไฮต์ถอดเสื้อและยื่นให้ฉัน

    ?”

    …-_-”…รีบๆรับไปซะ

    “ขอบใจ” ฉันรับเสื่อมาและสวมมันเข้าไปทันที กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อนๆที่ติดมากับเสื้อ ให้ตายสิ นี่มันกลิ่นของฟาเรนไฮต์ชัดๆเลยนี่

    “เอ้าๆ เข้าเรื่องกันดีกว่า” เซลเซียสตบมือเรียกร้องความสนใจ ทุกคนหันไปที่เขา

    “ดีเลย ฉันอยากรู้นานแล้ว ว่าพวกนายจะให้ฉันช่วยอะไร”

    “งั้นขออธิบายเรื่องที่เราจะทำกันก่อน หนึ่งเลย อดีตพี่สาวบุญธรรมของพวกเราขอให้เราช่วยออกแบบงานแต่งให้ โดยมีงบประมาณให้ห้าล้านให้การจดงาน ซึ่งห้าล้านจะเป็นทั้งค่าสถานที่ อาหหาร เครื่องดื่ม สิ่งของประดับตกแต่ง”

    “แล้วทำไมพี่…”

    “อดีต!” ฟาเรนไฮต์รีบขัดขึ้น

    “ขะขอโทษที แล้วอดีตพี่สาวนายทำไมต้องให้พวกนายช่วยด้วยละ”

    ก็เพราะพี่กำลังจะแต่งงานไง พี่เค้าอยากให้เรามีส่วนร่วมในฐานะที่เคยเป็นครอบครัวเดียวกัน เราเต็มใจทำให้สุดๆ พวกแม่ๆก็ช่วยขอให้พวกเราช่วย คือก็ไม่ใช่อะไรหรอก แต่เราก็อยากทำเลยรับข้อเสนอมาง่ายๆ แต่ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดน่ะสิ เลยต้องการตัวช่วย” เซลเซียสว่า

    อ้อ อย่างงี้นี่เอง

    หรือว่าพี่คนนั่นจะเป็นพี่ศาพี่ศาคนนั่นกำลังจะแต่งงานเหรอ

    “ใช่คนที่ชื่อ…”

    ?”

    “อ้อ เปล่าไม่มีอะไรหรอก แฮะๆ โทษที^^;

    “อ่าๆ”

    “แล้วพี่นายจะแต่งงานวันไหนละ”ฉันถาม

    “วันวาเลนไทน์”

    “อื้ม~…งั้นเรื่องโรงแรมถ้าจะให้ประหยัดฉันคิดว่าน่าจะใช้โรงแรมของพวกนายนะ แม่พวกนายเป็นเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวใช่ไหมละ ส่วนเรื่องขอแม่พวกนายคงไม่ขดข้องหรอกมั้ง เพราะเขาเป็นคนอยากให้พวกนายทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอน่าจะให้ความร่วมมือนะ คราวนี้เราก็จะได้สถานที่ในการจัดงานมาแล้วไง ส่วนเรื่องอาหารเครื่องดื่มก็ต้องเลือกก่อนว่าจะเอาอาหารอะไร ไทย จีน ญี่ปุ่น หรืออาหารสไตล์อิตาลี”ฉันว่า คิดว่าแค่นี้ก็จัดการเรื่องสถานที่ไปได้แล้ว”

    “จริงด้วยสินะO_O!”

    “อ๊ะ!จริงด้วยสิ พ่อของพวกนายทำเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ไหมละ ขอพ่อของพวกนาย คราวนี้ก็เหลือแค่อาหารกับของประดับใช่ไหมละ ก่อนอื่นก็ต้องรู้จำนวนแขกในงานเสียก่อนถึงจะกะจำนวนอาหารได้ ฉันมีข้อคิดเห็นแค่นี้แหละ ส่วนพวกนายก็ลองคิดดูแล้วกัน”

    …”

    “อ้อมีอีกอย่างสิเกือบลืมแน่ะ บริกรกับดีเจแล้วก็พิธีกรด้วย เรื่องนี้ก็ลองไปหาคนมา หรือถ้าพวกนายอยากจะประหยัดอีกก็ไปเป็นพีธีกรกันซะเองเลย-_-”

    “เจ๋งนี่!” เสียงปรบมือของเซลเซียส เคลวินและโรเมอร์ดัวขึ้น

    “งั้นเดี๋ยฉันจะไปโทรหาพ่อกับแม่ก่อนนะ จะขอให้เขาอนุมัติ” เซลเซียสว่า

    “เออ ไปด้วยดิ ฉันจะไปบอกพี่ศาเหมือนกันมาได้ความคิดเจ๋งๆมาแล้วพี่เค้าจะได้ไม่เป็นหวงพวกเราแบบเวอร์อีก ฮ่าๆ ไอ้โรมจะไปด้วยกันไหม? แกคิดถึงพี่เขาไม่ใช่หรือไง”

    “ไปฮะ*^*” ทั้งสามคนเดินออกไปจากห้อง เหลือแค่ฉันกับฟาเรนไฮต์สองคน

    “เอ่อพี่ศานี่ใครเหรอ

    “ไม่ใช่เรื่องของเธอ-_-”

    “นะนั่นสินะ ฮ่าๆ” ฉันฝืนยิ้มนิดๆ ทำไมเขาต้องทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั่นด้วยนะ ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่านะ หรือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรถามจริงด้วยสิฉันไม่ใช่คนในครอบครัวเขาอยู่แล้วนี่น่า มันรู้สึกอึดอัดแปลกๆที่ต้องมานั่งในนี้สองต่อสอง แบบว่าสองคนจริงไม่เหมือนตอนที่อยู่ในห้างที่มีคนเดินเต็มไปหมด

    “นี่”

    “หะห๊ะ? ว่าไง

    “เธอเปล่า ช่างมันเถอะ

    อ้าวซะงั้น-_-

    ฉันล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาแกล้งทำเป็นเช็คนู้นเช็คนี้ ไม่ใช่อะไรหรอก แต่ฉันอึดอัดน่ะเลยพยายามหาอะไรทำT^T ความจริงจะคุยเรื่องหนังนั่นก็ได้นี่น่า

    “เมื่อวานก่อนขอโทษทะที่จู่ๆพี่ฉันก็เข้ามาดึงตัวไปเลยทำให้นายไม่ได้ไปดู”

    …-_-

    “เคืองฉันหรือไงT^T”

    “เปล่า แค่จะบอกว่าฉันไปดูมาแล้วเมื่อวันนั่นน่ะ-_-”

    -O-!!!!

    อะอะไรนะ เขาไปดูมาแล้วงั้นเหรอ งั้นแสดงว่าเมื่อวานที่บอกว่าจะไปนั่นแล้วจู่ๆก็ไม่สบายขึ้นมาอยู่ในการคำนวนของเขาหรือไงกัน ฮือๆT^T

    “งั้นเรื่องที่นายไม่สบายก็…”

    “อันนั่นเรื่องจริง ไม่ได้คิดจะเบี้ยว-_-;”

    “เชื่อได้แค่ไหนกัน!TOT

    …-_-^”…อย่ามาคาดหวังอะไรกับฉันนะ

    “รู้แล้วน่าY_Y”

    ถึงฉันจะคาดหวังอะไรนายก็ชอบทำลายมันไปทุกที่นั่นแหละ ฮือๆYOY

     

    หลังจากที่นั่งอยู่กับฟาเรนไฮต์สองคนไม่นาน เซลเซลียส เคลวิน และโรเมอร์ก็กลับเข้ามาในห้องเหมือนเดิม ทุกคนยิ้มแก้มบานเหมือนกับว่าได้ปลดทุกข์-_-^

    “แม่กับพ่ออนุญาตโว้ย~” เซลเซียสร้องลั่น

    “มีอีกเรื่องหนึ่ง…” เคลวินเอ่ยขึ้น เราทุกขึ้นหันไปมองที่เขาเป็นตาเดียว เรื่องอะไรอีก?

    “มีอะไรอีกละ-_-?” ฟาเรนไฮต์เอ่ยถาม

    “พี่ศาฝากมาชวนยัยเอ๋อนี่ไปด้วย เขาบอกว่าอยากจะขอบคุณเธอที่ช่วยน้องชายที่ไม่ได้เรื่องของเขาน่ะ”เคลวินว่า

    “กรรซ์ ไอ้คุณพี่ศา ด่าได้ด่าดีจริงๆ-O-!” เซลเซียสทำท่าทางไม่พอใจกับประโยคของเคลวิน แต่จะทำไงได้ละ นายไม่ได้เรื่องจริงๆไม่ใช่เหรอ(‘ ‘;)?

    …-_-” ฟาเรนไฮต์มองเซลเซียสด้วยสีหน้าไม่พอใจกับคำพูดของเขา

    “ชะอุ้ย! แหม ขอประทานอภัยที่กระหม่อมบังอาจไปกล่าวร้ายแด่องค์พี่องศา พะย่ะคะ-_-” เซลเซียสพูดอย่างประชดประชัน แล้วทำไมฟาเรนไฮต์จะต้องทำท่าทางโกรธขนาดนั่นด้วยละ-O-?

    …” ฟาเรนไฮต์ลุกออกไปจากห้อง ฉันและคนอื่นๆมองไปทางเขาอย่างงงๆ นั่นเขาจะไปไหนน่ะ

    “เดี๋ยวสิ!”

    ปัง!

    เสียงปิดประตูห้องดังลั่น ฉันที่ยืนอยู่ถึงกับค้าง แต่คนอื่นๆกลับถอนหายใจเหมือนรู้อยู่แล้วว่าเขาจะเป็นแบบนี้มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้มากขนาดไหนกันนะ…?

    ทำไมเขาถึง…”

    “เธอยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่รู้ เพราะงั้นไม่ต้องสงสัยอะไรมากหรอกน่า ไปเหอะ” เซลเซียสและเดินเข้ามากอดคอฉัน พาเดินออกไปจากห้อง

    ฉันไม่ควรรู้เหรอ

    “ก็ไม่เชิงหรอก เรียกว่าอย่ารู้จะดีกว่า ยังไงซะเธอก็ไม่มีได้ความสัมพันธ์อะไรมากมายกับครอบครัวฉันอยู่แล้ว เพราฉะนั่นรู้ไปก็เท่านั้นแหละ” เซลเซียสเอามืออกจากคอฉันและเอื้อมมาจับมือแทน ไม่ใช่ว่าเราคิดอย่างอื่นกันนะแต่เราทำแบบนี้กันเป็นประจำอยู่แล้วน่ะ

    “งั้นเหรอ”

    “ใช่ เธอจะให้ฉันไปส่งไหมละ ยังไงซะฉันก็ยังไม่อยากกลับบ้านอยู่แล้วด้วย”

    “ก็เอาสิ^O^!” ฉันพูดยิ้มๆให้เซลเซียสก่อนจะเดินไปขึ้นรถ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×