ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DegreeFahrenheitองศาไร้หัวใจยิ่งใกล้ยิ่งรักเเบบฉบับยัยคุณหนู

    ลำดับตอนที่ #5 : ดูเเลคนป่วย

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 56


    คอนโดxxx

    ฉันสาวเท้าอย่างเร็วๆเดินไปจะขึ้นลิฟท์ไปชั่นสี่ แต่พี่ยามเขาก็ไม่ยอมให้ฉันขึ้นไปเพราะนั่นเป็นห้องวีไอพีพิเศษ(อีกแล้ว)ไม่ให้คนนอกเข้าก่อนได้รับอนุญาต

    “โอ๊ย  พี่ยามคะ จะเอาบัตรประชาชนหนูไปเป็นตัวประกันเลยก็ได้ หนูไม่ใช่โจร หนูเป็นเพื่อนกับเจ้าของห้อง แล้วเขาก็กำลังไม่สบายอยู่ด้วยT^T

    “คุณผู้หญิงช่วยไปนั่งรอที่โซฟาก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะติดต่อไปหาคุณฟาเรนไฮต์ก่อน”

    “ให้ไวๆเลยนะคะ”

    “ครับๆ เชิญทางนี้ครับ” พี่ยามพูดอย่างสุภาพก่อนจะเชิญให้ฉันไปนั่งรอที่โซฟา ตอนนี้ก้นฉันไม่ติดกับเก้าอี้แล้วเนี่ย ใจก็เป็นหวงเขาแทบจะขาดเป็นร่อนๆ

     

    ห้อง 402…

    (ไม่)นานเกินพี่ยามก็เดินมาหาฉันและทำการพาฉันมาส่งถึงหน้าห้องของฟาเรนไฮต์

    “ขออภัยจริงๆครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ เชิญคุณผู้หญิงตามสบายครับ” พี่ยามก้มหัมนิดๆ ฉันได้แต่ยิ้มแห้งกลับไปให้พี่ยาม “นี่ครับ คีย์การ์ด”

    “ขอบคุณคะ” ฉันรับคีย์การ์ดห้องของฟาเรนไฮต์มา ฉันคิดว่าเขาคงไม่มีแรงเดินมาเปิดประตูห้องก็เลยขอคีย์การ์ดมาด้วย ตอนแรกเขาก็ค้านหัวชนฝา พอฉันยืนบัตรประชาชนให้ดู พี่ยามก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย-*-

    ติ๊ด~

    เมื่อแตะคีย์การ์ดผ่านฉัน็เปิดประตูทันที

    “ขออนุญาตคะ” ฉันพูดเบาก่อนจะเดินเขาห้องและปิดประตูเบาๆ ว่าแต่ฟาเรนไฮต์อยู่ไหนเนี่ย=_=? ฉันเดินเข้าไปในห้องและสังเกตุดูรอบๆ ห้องนั่งเล่นไม่มีคนอยู่ห้องครัวก็ไม่มี แล้วเขาอยู่ไหนเนี่ยห้องนอน…-///- ฉันไม่ได้คิดอะไรเลยน

    ฉันเดินไปเปิดประตูห้องนอนที่เป็นห้องสุดท้ายที่ยังไม่ได้เปิด(ยกเว้นห้องน้ำนะ) ความจริงก็ยังมีอีกหลาย้องที่ฉันยังไม่ได้เปิด แต่มันไม่ได้ถูกปิดฉันก้เลยเห็นว่ามันไม่มีคนอยู่

    สภาพห้องนี่ก็เละใช้ได้เลย-_-

    ฉันเปิดประตูห้อนอนเข้ามาก็พบฟาเรนไฮต์ที่นอนหอบหน้าแดอยู่บนเตียงแถมยังเหงื่อออกท่วมตัวอีกต่างหาก นี่ขนาดเปิดแอร์แล้วนะ แถมยังห่มผ้าซะสามชั่นอีกต่างหาก-O-;;

    “เฮ้ นายโอเคนะ”

    …-_-;”…เข้ามาได้ไง

    “เรื่องนั่นช่างมันเถอะ แล้วนี่นายกินข้าวกินยาหรือยัง”

    “แค่กๆ เธอเดี๋ยวก็ติดหวัดหรอก ฟาเรนไฮต์พูดเสียงอ่อน มือหนึ่งก็พยายามใช้ดันตัวขึ้นมา

    “นายไม่ต้องลุกขึ้นมาเลย เดี๋ยวฉันจะทำน้ำผึ่งมะนาวมาให้และจะช่วยเก็บห้องทำความสะอาดให้ด้วย นอนพักอยู่เฉยๆเถอะ”

    …”

    “หนาวไหม เดี๋ยวฉันไปลดแอร์ให้” ว่าแล้วฉันก็เดินไปปรับอุณหภูมิให้เหลือยี่สิบเจ็ดองศา “นอนดีๆละ แล้วเดี๋ยวจะเข้ามาเช็ดตัวให้”

    ก่อนอื่นก็ต้อขอวัดไข้เขาก่อนละนะ

    “นี่ ตู้ยาอยู่ไหนเหรอ อยากได้ปรอทวัดไข้น่ะ” ฉันว่า ฟาเรนไฮต์ชี้ไปที่ตู้ลอย ฉันเดินไปหยิบเก้าอี้และปีนขึ้นไปหยิบ อยู่ไหนนะ ปรอทวัดไข้ อ๊ะ!เจอแล้วๆ

    ค่กๆ” ฟาเรนไฮต์ไอหนักขึ้นกว่าเก่า สงสัยว่าจะต้องเอายาให้เขากินก่อน แต่ก่อนกินยาก็ต้องกินข้าว โอ๊ย!งานเยอะจริงๆ

    “อ๊ะ อมไว้นะ” ฉันยื่นปรอทวัดไข้ไปใส่ไว้ที่ใต้ลิ้นของเขา เขาทำหน้าเอือมก่อนจะยอมให้ฉันวัดไข้ “งั้นเดี๋ยวฉันทำข้าวต้มให้แล้วกัน ว่าแล้วฉันก็เดินไปที่ห้องครัว ตอนเด็กฉันเคยอย่าเป็นกุ๊กก็เลยเคยเล่นำอาหารไว้บ้าง แค่ข้าวต้มกุ๋ยแค่นี้ไม่ใช่ปันหาเลย

    ว่าแล้วฉันลงมือทำ ข้าวแล้วก็น้ำ เอาใส่หมอแค่นี้แล้วก็ตั้งไฟ ความจริงขี้เกียจอธิบายเลยบอกแบบลวกๆไปก่อน-_- ครบห้านาทีแล้ว ฉันต้องไปดูปรอทวัดไข้

    “ขอฉันหน่อย” ฉันหยิบปรอทออกมาดู “สี่สิบองศาO_O!!

    ฮัดเช้ย! ค่กๆ”

    “นาย นี่มันไม่ใช่ไข้ธรรมดาแล้ว นายเป็นไข้หวัดหรือไง”

    “แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก…-_-

    “ให้ตายเถอะ มันจะไม่เป็นอะไรได้ยังไงละ นี่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วนะ เดี๋ยวฉันจะเรียกหมอมาดูอาการนายให้” ฉันว่างพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่ฟาเรนไฮต์ก็จับแขนฉันเอาไว้

    “ไม่ต้อง…”

    “แต่ว่า”

    “ไม่ต้องก็คือไม่ต้อง แค่กๆ”

    “ก็ได้ นายไม่ต้องพูดมากหรอก เดี๋ยวจะเจ็บคอ จริงด้วยเดี๋ยวฉันไปทำน้ำผึ่งมะนาวอุ่นๆให้กิน” ว่าแล้วฉันก็เดินไปในห้องครัวอีกครั้ง เพื่อความรวดเร็วฉันหยิบแก้วหนาใส่น้ำและเอาไปเข้าไมโครเวฟหนึ่งนาทีก็จะได้น้ำอุ่น มะนาว น้ำผึ่งพร้อมเหลือแค่รอ

    ไม่นานฉันก็ทำน้ำผึ่งมะนาวเสร็จ มันน่าจะละลายเสมหะในคอของเขาได้บางแหละ

    “อ๊ะ กินให้หมดนะ ข้าวต้มก็จะเสร็จแล้ว กินกับไข่เจียวแล้วกันเดี๋ยวฉันทำให้” ฉันว่าอีกรอบก่อนจะเดินออกไป กะจะทำไข่เจียวใส่หอมหัวใหญ่ให้เขากิน แต่ฟาเรนไฮต์ก็จับมือฉันไว้เชิงห้าม อะไรของเขา-*-

    “ปล่อยมือฉันก่อนสิ จะจับไว้ทำไมเนี่ย-^-!

    ค่กๆ ไม่ต้องทำให้ยุ่งยากหรอก ฉันไม่หิว” ฟาเรนไฮต์ว่าก่อนจะปล่อยมือ

    “ไม่กินไม่ได้ ถ้านายไม่กินแล้วจะกินยาได้ยังไง จริงๆเลย”

    “แค่ข้าวต้มอย่างเดียวก็พอแล้วฉันไม่ชอบไข่ แค่กๆ”

    “โอเคๆ ก็ได้=_=”

    ฉันเดินออกไปตักข้าวต้มเปล่าๆให้เขากิน กินข้าวต้มเปล่าๆมันอร่อยตรงไหนเนี่ย-_-? แต่ก็ไม่วามารถขัดใจคุณชายเขาได้ แนวางถ้วยข้าวต้มไว้ที่โต๊ะข้างๆเตียง และช่วยประคองฟาเรนไฮต์ให้ลุกขึ้นนั่ง

    “นายกินเองได้หรือเปล่า ให้ฉันป้อนไหม”

    ” ฟาเรนไฮต์ไม่ตอบเขาแค่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบชามข้าวต้มไป

    “งั้นเดี๋ยวฉันไปเตนรียมน้ำกับยาให้” ฉันเดินเข้าไปที่ห้องครัวอีกรอบ คิดว่าน่าจะเป็นรอบที่ล้านแล้ว-.,- ก่อนจะหยิบแก้วกับน้ำและยา

    แพล้ง!!

    ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียง รีบหยิบน้ำกับยาวิ่งไปดูฟาเรนไฮต์ในห้องทันที

    “นายไม่เป็นไรนะ”

    เศษข้าวต้มและเศษชามเกลือนเต็มพื้น

    “อือ โทษที แค่กๆ อึก” ฟาเรนไฮต์หายใจฟึดฟัด

    “หายใจไม่ออกเหรอ”

    “นิดหน่อยแค่กๆ เขาว่า “ขอฉันนอนพัก”

    “ได้ๆ งั้นนายกินยาก่อนนะ ค่อยนอนพัก แล้วก็เดี๋ยวฉันเก็บตรงนี้เสร็จแล้วจะเช็ดตัวให้” ฉันว่าก่อนจะไปหยิบผ้ากับถุง ยี้!ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะเนี่ยTOT

    นานพอควรกับการเก็บเศษชามข้าวต้มและข้าวต้ม นิ้วฉันมีแต่แผลเต็มไปหมดเลย โดนเศษชามบาดนิ้วไปตั้งหลายรอบ ถึงจะบอกว่าเปิดแอร์ก็เถอะ ตอนนี้เหงื่อฉันก็ยังท่วมตัวอยู่เลย อยากจะเพิ่มแอร์นะแต่เกรงใจฟาเรนไฮต์ที่นอนโทรมอยู่บนเตียง นี่ฉันยังต้องไปเตรียมน้ำกับผ้ามาเช็ดตัวเขาอีกนะเนี่ย เหนื่อยเวอร์!!

    แทนที่วันนี้จะได้ไปดูหนัง กลับต้องมาเฝ้าคนป่วย(อย่างเต็มใจ)แทน มันซวยอะไรแบบนี้เนี่ย

    ฉันเลิกบ่นกับตัวเองและเดินไปหยิบผ้ากับกาละมังมาใส่น้ำ ก่อนจะเดินเข้าไปวางไว้ข้างๆเตียง ตอนนี้สิ่งที่ฉันไม่อยากทำอยากที่สุด(แต่เต็มใจทำสุดๆ) คือการเช็ดตัวให้เขายังไงละ กรี๊ดด>////< เกิดมายังไม่เขาเห็นสัดส่วนผู้ชายเลยนะจะบอกให้-.,-

    ฉันย่อตัวนั่งข้างเตียงและค่อยเอาผ้าห่มของเขาออกจากตัว กรี๊ดดด อกเดี๊ยนจะแตกตาย>O</// ฉันเลือนมือไปจับที่กระดุมเสื้อเม็ดแรกของเขา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือของฟาเรนไฮต์ยื่นมาจับมือฉันีกครั้ง

    “เธอจะทำอะไร แค่กๆ-_-

    “ก็ฉันจะเช็ดตัวให้นายไง เหงื่อนายออกเต็มไปหมดแล้วนี่-///-

    “งั้นเหรออึก ฟาเรนไฮต์กลั้นไอไว้ดัง อึก เขากระแอ่มเบาๆ แง้ๆ ฉันอยากจะบ้า เกิดมาต้องมาลูบๆคล้ำๆตัวผู้ชายแบบนี้ แอร๊ยยย>///<(ใกล้บ้า)

    “งั้น...ขออนุญาตนะ”

    “อือ” ฟาเรนไฮต์ปล่อยมือออกและทิ้งตัวลงไปนอนเหมือนเดิม ตอนนี้มือไม้ฉันสั่นไปหมดแล้ว

    และแล้วกระดุมเม็ดแรกก็ถึงแปลดออกได้สำเร็จ ฉันแอบถอดหายใจเบาๆ เขาจะหนาวไหมเนี่ย ต้องรีบๆทำให้เสร็จ คิดได้ฉันก็รีบปลดกระดุมเม็ดต่อไป

    เฮ้อ~~ มาถึงเม็ดที่ห้าฉันเกืบเลือดกำเดาไหล ตอนนี้หน้าอกและซิกแพ็กของเขาอยู่ตรงหน้าฉันแล้วT////T เฮ้!ฉันไม่ได้คิดอะไรบ้าๆแบบนั่นนะ เม็ดที่หกเม็ดที่เจ็ดเม็ดต่อไปเรื่อยๆๆๆเม็ดสุดท้าย

    เย้ๆ!ในที่สุดก็ได้เห็มหมดแล้ว เอ้ย!ม่ใช่ ในที่สุดก็จะถอดเสื้อเขาได้แล้ว (คำเตือน : อย่าคิดลึกกับประโยคพวกนี้นะ-w-!)

    “นี่ ฟาเรนไฮต์”

    อื้อ…” เขาครางเบาๆก่อนจะบิดตัวไปมา หน้าตาเขาดูทรมานมากเลยอะ ฉันจะทำไงดี ฉันยื่นหน้าไปมองหน้าเขาใกล้ๆก็สังเกตุว่ามีข้าวติดอยู่ที่มุมปาก ฮิๆ น่ารักจัง>_< ฉันดึงทิชชู่มาเช็ดที่ปากของเขา

    “หนาว…”

    อร๊ายย ฉันลืมไปเลยว่าปลดกระดุมเสือเขาออกหมดแล้ว-O-

    “นี่ๆ” ฉันจิ้มแขนเขาเบาๆ ถ้าไม่ถอดเสื้อออกฉันจะเช็ดตัวให้ได้ยังไงละ เล่นใส่แขนยามซะด้วย-_-

    พรึบ

    “เฮ้!O///O” ฉันแทบสติหลุดออกจากร่างเมื่อจู่ๆเขาก็ดึงฉันเข้าไปกอด อะไรของเขาเนี่ย-O-///

    พี่…”

    “เฮ้ยๆ ฉันไม่ใช่พี่นายนะ” ฉันว่า ตัวเขาร้อนจัง หรือว่าจะเป็นเพราะไข้

    “อย่าไปขอผมอยู่อย่างนี้ก่อนอย่าเพิ่งไป….

    …” ฉันเงียบ ความจริง ฟาเรนไฮต์อาจจะมีพี่อีกคนที่ไม่ได้อยู่กับเขาแล้วหรืออีกกรณีคือพี่คนนั่นคือรุ่นพี่ที่ไม่มีความเกี่ยวพันธุ์กันทางสายเลือด

    “พี่ศา….” ฉันมองหน้าของฟาเรนไฮต์ จู่ๆน้ำตาของเขาก็ไหลลงมาเป็นสาย เอ่อหลับไปแล้วทำไมยังต้องกอดฉันอยู่อีกละ หรือฉันควรโน้มตัวลงไปนอนข้างๆเขา ความจริงฉันก็ง่วงอยู่นะ งั้นขอนอนก่อนแล้วกัน….

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น

    “อื้อ~~” ฉันบิดตัวไปอีกทาง ทำไมรู้สึกเตียงมันแคบจังนะ นอนไม่สบายเลย แถมยังไม่ชินอีกด้วย

    “(-_-)Zzz”

    ฉันค่อยๆลืมตามขึ้นมือรู้สึกเหมือนมีคนหายใจอยู่ใกล้ โอ๊ย!เมื่อยชะมัด

    “กรี๊ดดดดดดดดดด” ฉันเด้งตัวขึ้นลุกทันทีเมื่อเห็นฟาเรนไฮต์กำลังนอนหลับยู่ใกล้

    อื้อ

    จริงสิ เมื่อวาน ฉันเฝ้าไขเขาแล้วก็เผลอหลับไปนี่น่า ว่าแต่นี่เขาไม่ได้ติดกระดุมเสื้อนี่-///- เออลืมไปว่าเมื่อวานแนจะเช็ดตัวเขาเลยปลดกระดุมออกนี่หว่า ถ้าฉันหลับต่ออีกหน่อยจะเป็นอะไรไหมนะ-O-? ก็มันยังง่วงอยู่เลยอ่า

    จริงสิ ไข้เขาลดหรือยังนะ ฉันเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของฟาเรนไฮต์ เฮ้อ~ ไข้ลดแล้วสินะค่อยยังชั่ว ถ้าไข้ไม่ลดมีหวังฉันได้ติดหวัดเขาแน่ๆ

    “นี่ๆ นาย” ฉันเขย่าเขาไปมา

    เธอ ฟาเรนไฮต์ค่อยๆลืมตาขึ้นช้า หน้าตาตอนเขางัวเงียนี่น่ารักเป็นบ้าเลย>///<

    “นายดีขึ้นหรือยัง ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า เอ่อ…” สายตาฉันเริ่มเลื่อนลงไปที่หน้าท้องของเขาอีกแล้วอะ

    “ดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว ขอบใจ-_-” ฟาเรนไฮต์ว่าด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนปกติ ต่างจากเมื่อวานโดยปริยาย หน้าเขาก็หายแดงแล้ว ไข้ก็ลดแล้ว เสียงก็ไม่แหบแล้วก็ไม่ขึ้นจมูกแล้วด้วย แสดงว่าจะหายแล้วสินะ ทั้งๆที่เมื่อวานไข้ตั้งสี่สิบแท้ๆ แต่อย่างน้อยก็โล่งไปเปลอะหนึ่งละนะ

    “นายโอเคจริงนะๆ”

    อือ-_-

    “ค่อยยังชั่ว เฮ้อ เมื่อวานสีหน้านายแย่มากเลย แถมไข้ก็ตั้งสี่สิบแน่ะ”

    “ขอบใจ…”

    “ห๊ะ?” ฉันทำหน้างงๆ ฟาเรนไฮต์ไม่ได้ใส่ใจเขาลุกพรวดไปเข้าห้องน้ำทันที ดูเหมือนว่าจะไปอาบน้ำแหละ แล้วฉันจะทำอะไรดีละเนี่ย-O-;;

    ติ๊ดๆๆๆ

    อ๊ะ โทรศัพท์ฉัน

    “ฮัลโหลคะ”

    (ยัยบ้า เธออยู่ไหนเนี่ย-O-!!!)

    “คะคอนโดxxx”

    (ไปทำไมเอ๋ะ เดี๋ยวนะ นั่นมันคอนโดที่ฟาเรนไฮต์พักอยู่…)

    “เฮ้ย!นายจำผิดแล้วม้างงงTOT!”

    (ไม่ผิดอะ ห้อง402 คอนโดxxx เพราะตอนนี้ฉันก็กำลังจะไปหาไอ้ไฮต์)

    กรี๊ดดดด ไอ้บ้าเซล แกจะมาทำมายยยTOT

    “งะงั้นเหรอ แล้วจะถึงยังอะYOY”

    (กำลังขึ้นลิฟท์อยู่เนี่ย จะถึงชั่นที่ห้องมันอยู่แล้ว)

    อ๊ากกก ตายแน่ฉัน เมื่อวานไม่ได้กลับบ้าน แล้วถ้ามีคนรู้ว่าฉันมานอนกับผู้ชายฉันจะทำยังไงT_T

    ปิ๊งป๊อง~

    (แค่นี้นะ พอดีฉันอยู่หน้าห้องของพี่ไฮต์แล้วอะ)

    “จริงดิ เวรละO_O”

    (ทำไมแกต้องทำเสียงตื่นตัขนาดนั่นด้วย-_-)

    “เปล่าๆ แค่นี้นะ” ฉันกดตัดสายของเซลเซียสเสร็จปุ๊บก็มองไปที่ประตู

    ปิ๊งป๊องๆ~

    ฉันรีบเดินไปส่องตาแมวทันที เซลเซียสจริงๆด้วย ฉันควรเปิดประตูให้มันดีไหม หรือไปหลบในห้องนอนดี เอาไงดีๆ T_T ถ้าไอ้เซลมันคิดว่าฉันได้กับฟาเรนไฮต์ไปแล้วละ ไม่เอาๆ ไม่อาววววTOT

    “เธอไปทำอะไรตรงนั่น-_-” ฟาเรนไฮต์ออกมาในสภาพมีผ้าขนหนูตัวเดียวปิดท่อนล้างอยู่ ผมที่เปียกชื้นของเขายุ่งไม่เป็นทรง (แต่ถึงอย่างงั้นก็หล่อ>///<)

    “นาย…-///-

    “มีคนมาอย่างงั้นเหรอ-_-”

    “แค่พวกมือบอนน่ะTOT”

    ปิ๊กป๊อง

    “ไหนขอฉันดูหน่อยสิ-_-”

    ทำไมนายต้องทำหน้าไม่ไว้ใจฉันขนาดนั่นด้วยT^T

    ฟาเรนไฮต์เดินมาส่องตาแมว โดยที่ฉันยังยืนอยู่ชิดประตู แต่เพราะความสูงของเขามันไม่ยากเลยที่เขาจะมองตาแมว โดยที่ฉันยังอยู่ชิดกับประตูขนาดฉันยังต้องมาอะไรมาปีนดูเลย แต่ปัญหามันไม่ใช่ตรงนั่น ปัญหาคือแผ่นอกของเขาอยู่ใกล้กับฉันมากเลยอะ>///<

    แกร๊ก

    ฟาเรนไฮต์เปิดประตูให้เซลเซียสเข้ามา

    “อ๊ะ!” ดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปว่าฉันยืนอยู่ชิดกับประตู เลยทำให้ประตูชนหลังฉันจนหน้าคว่ำไปชนเขา

    ตุบ!

    อุ้ย ไม่เจ็บแฮะ

    O_o”

    “เฮ้ย!! พวกเธอมาทำอะไรกับหน้าประตูเนี่ยยยย เซลเซียสกับชายอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังทำหน้าเหวอ ฉันค่อนๆยันตัวลุกขึ้น ฮะเฮ้ย!!มื่อกี้ฉันนอนทับแผ่นอกของเขางั้นเหรอ อร๊ายยยย>.,<

    “ขะขอโทษ>O<///” ฉันรีบลุกขึ้นทันที ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าหน้ามันร้อนผ่าวไปหมด-///-

    “แน่ะๆ ยัยนี้นี่ยังไง ไหนบอกว่าฉันจำผิดไง ฮิ้วว~” เซลเซียสรีบแซวทันที มันไม่ใช่อย่างง้านนนนTOT

    “พี่ไฮต์ ชอบพี่คนนี้เหรอฮะ(‘ ‘)?” จู่ๆคนตัวเตี้ย หน้าตามุ้งมิ้งๆแบบใสๆก็เดินเข้ามา ในมือถือตุ๊กตาหมีไว้ อีกมือก็ถืออมยิ้มรูปหมี อะไรนะหมีงั้นเหรอ-O-!

    -_-<<หน้าฟาเรนไฮต์

    โหย! นี่ฉันไม่มีหวังเลยใช่มั้ยT^T

    “ขอโทษฮะ(._.)”

    “พวกแกมากันทำไม” ฟาเรนไฮต์ลุกขึ้นและเดินหนีไปที่ตู้เสื้อผ้าในห้อง

    “ก็มาเยี่ยมไข้คนป่วยไง แต่ดูเหมือนจะหายดีแล้วนะเนี่ยย ผู้ดูแลท่าทางจะดูแลดี เหอะๆ” คนตัวสูงหน้าตาเถื่อนๆ(แต่หล่อ)พูดขึ้น ฉันรีบกระถืบไปยืนข้างๆเซลเซียสทันที และสะกิดเขาเบาๆ

    “หือ”

    “ใครเหรอคนพวกนี้?”

    “อ้อ จริงสิ ฉันไม่เคยบอกเธอสินะ ยัยคุณหนู”

    ?

    “งั้นขอแนะนำเลยแล้วกัน ไอ้หน้าเถื่อนๆนี่คือพี่คนรอง ชื่อเคลวิน อยู่ปี2 ไอ้ไฮต์มันคนโตน่ะ ส่วนไอ้หน้าใสที่ถือตุ๊กตาหมีชื่อโรเมอร์ น้องคนเล็ก อยู่ม.6 ฉันเป็นลูกคนที่สามน่ะ-_-”

    “อ้อ…” ที่แท้ก็เป็นพี่น้องสี่คนนี่เอง แต่พูดก็พูดเถอะ หน้าตาเหมือนกันยังกับแกะ แค่คาแรกเตอร์คนละแบบเลยทำให้ดูแตกต่างเท่านั่นเองนี่-O-

    ฟาเรนไฮต์เดินออกมาจากห้องหลังจากที่แต่งตัวเสร็จ เขาหันไปมองพวกน้องๆอย่างไม่วางใจ

    “พี่ไฮต์เอาลูกอมไหมฮะ ผมเอารูปหมีมาด้วยนะ(“ )

    เอิ่มรูปหมีมันเกี่ยวไรอะคะ-O-;;

    -_-” ฟาเรนไฮต์มองด้วยหางตา

    “ไม่เอาเหรอ(._.;;)”

    “ไม่เอา” และในที่สุดก็พูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ

    “เอ่อจะให้ฉันออกไปก่อนไหม ถ้าพวกนายจะคุยอะไรกันเป็นรายส่วน…”

    “ไม่ต้อง” ฟาเรนไฮต์เอื้อมมือมาจับแขนฉันไว้ไม่ให้เดินไปไหน

    “ว้าววว” สามคนประสานเสียงพร้อมกันด้วยความตื่นเต้น มันมีอะไรให้น่าตื่นเต้นมากหรือไงก็แค่เขาจับมือฉันไว้ไม่ให้ไปไหนเท่านั่นเอง

    “เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำให้ พวกนายคุยกันไปก่อนก็แล้วกัน-///-” ฟาเรนไฮต์ค่อยๆปล่อยข้อมือฉันออก ให้ตายเขาชอบทำให้ฉันใจเต้นอยู่เรื่อยๆเลยอ่า

    ฉันเดินไปที่ห้องครัวหยิบแก้วออกมาห้าใบ และถาดใส่แก้วอีกหนึ่งถาด จัดการรินน้ำให้เรียบร้อยเดี๋ยวก่อนนะ ของฟาเรนไฮต์ต้องเป็นน้ำอุ่นสิ ฉันมองแก้วที่ใส่น้ำเย็นของฟาเรนไฮต์ไปมา เอ่องั้นฉันกินเองแล้วกัน

    “อึกๆๆฮ่าาา~” ดื่มเสร็จฉันก็เอาแก้วไปวางไว้ที่ซิงค์น้ำ และเตรียมน้ำอุ่นให้ฟาเรนไฮต์แทน

    ฉันเดินออกมาเอาน้ำมาวางไว้ที่โต๊ะในห้องรับแขก

    “พี่เอพริล มาเล่นตุ๊กตาน้องมีกะผมมะ(*^*)/” โรเมอร์กระตุกแขนเสื้อฉันเล็กน้อย เอิ่มคือนี่เธออยู่,.6แล้วนะ น้องโรเมอร์ค่าาาา

    “ไม่เหรอ( . .)” โรเมอร์ทำหน้าตาผิดหวังและก้มลงไปเล่นตุ๊กตาของตัวเองด้วยท่าทางหงอยๆ ดูสิ เขาชอบใช้พลังโมเอะบังคับคนอื่นอะTOT

    “เล่นก็ได้จ้ะ^_^;;” ฉันย่อตัวลงไปนั่งข้างๆโรเมอร์ และหยิบตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลขึ้นมา จับโยกไปโยกมา

    “น่ารักมะ ตัวนี้มะม๊าซื้อให้เป็นของขวัญ สาวนตัวนี่พี่ไฮต์ ตัวนี้พี่เคล ส่วนตัวนี้พี่เซลแหละ” โรเมอร์แนะนำฉันก็ไม่เห็นว่าไอ้สามตัวหลังนี้มันจะมีความแตกต่างกันตรงไหนเลยนี่  จะเรียกว่าบังเอิญก็คงจะไม่ได้สินะ-O-;;

    “นะน่ารักจ้ะ^_^;;

    “จริงเหรอ(*^*  )

    อย่ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ให้มากนักสิ (ใจสั่นไปหมดแล้วเนี่ย>///<)

    “อะอื้อ ฉันตอบปัดๆ

    “ไอ้โรม เกเล่นแล้วมานั่งนี่ได้แล้ว-_-” ฟาเรนไฮต์ดึงคอเสื้อโรเมอร์ออกไป

    “แต่ว่าพี่เอ…(‘ ‘)” โรเมอร์มองหน้าฉันและกระพริบตาปริบๆ “ทำไมผมรู้สึก…”

    “ไอ้เวรโรม มานั่งนี่ได้แล้ว ไม่ต้องไปโมเอะใส่ยัยคุณหนูโหดเลย” เซลเซียสฉุดตัวโรเมอร์ไปนั่งบนโซฟาใกล้ๆ ฉันลุกขึ้นเดินไปนั่งที่โซฟา โรเมอร์ยังมองหน้าฉันตาก็กระพริบ เอ่อมันเกร็งนะT^T

    “ไอ้เคล ฉันว่าแบบเผนของแกไม่เห็นเวริ์คเลย เปลืองเงิน-_-” ฟาเรนไฮต์ว่าก่อนจะโยนซองเอกสารกลับไปให้เคลวิน

    “ฮ่าๆ เห็นไหม บอกแล้วของไอ้เคลมันห่วยอยู่แล้ว” เซลเซียสหัวเราะปากกว้าง

    “ไม่ต้องพูดมาก ของแกแย่กว่าของมันอีกเอาคืนไป เรียนขณะบริหารบ้านแกทำได้แค่นี้ กลับไปไถ่นาดีกว่าไป๊-_-”

    “ว่าใครไม่ดูตัวเอง ฮ่าๆๆๆ” เคลวินยิ้มกว้างจนถึงใบหู(เวอร์)

    อย่างงี้หรือเปล่านะ ที่เขาเรียกว่าหัวเราะที่หลังดังกว่า เหอะๆ สมน้ำหน้า:p

    “สรุป พวกไม่มีใรได้เรื่องกันสักคนใช่มั้ยเนี่ย” ฟาเรนไฮต์บอกอย่างเนื่อยๆ โรเมอร์เลิกหันมามองฉันและหันไปมองฟาเรนไฮต์แทน ก่อนจะทำท่าเหมือนคนอะไรออก

    ทำไมไม่ให้พี่เอพริลช่วย…(._.)/” โรเมอร์บอกเบาๆ ทุกคนถลึงตาใส่โรเมอร์โดยมิได้นัดหมาย เอ่อมองแบบนั่นหมายความว่าไงฟระT_T

    “...” ก่อนที่ทุกคนจะมองฉันอย่างพิจารณา

    “อะอะไรเหรอ(‘ ‘)?” ตีหน้าซื่ออย่างเดียวคะท่านผู้ชมT_T

    …” มองใกล้อีก

    -O-^”

    “อื้อจากที่ฉันดู ยัยนี่ก็บริหารได้ดีที่เดียวเลยละ เก่งใช้ได้เลยนะ” เซลเซียสว่า ฉันหันไปปมองหน้าเซลเซียสอย่างงงๆ บริหง บริหารอะไรของมัน-O-?

    “งั้นเหรอ เหลือแค่ถามเจ้าตัวสินะ” เคลวินถอยหน้าห่างออกไปและทำท่าเหมือนใช้ความคิด

    “ดะเดี๋ยวสิ จะให้ฉันทำอะไรเหรอ ถ้าพวกนายคิดไปออกลองโทรไป BuG1113 สิ เพื่อเขาจะได้ตอบได้” ฉันพูดติดตลก

    “ปัญญาอ่อนหรือเปล่า โทรไปถามเขาก็หาว่าบ้าพอดี-_-” ทุกคนพร้อมใจกันทำหน้าเอือมๆใส่ฉัน อะไรฉันก็ไม่ได้พูดอะไรผิดซะหน่อยจริงไหมละ!-3- ที่สำคัญฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ

    “ก็พวกนาย…”

    “เอาละๆ เลิกเถียงกันสักทีเถอะ เอาเป็นว่าบยัยนี่(คงจะ)ช่วยเราได้” เซลเซียสว่า

    เฮ้ยๆ ฉันได้ยินจะไอ้คำว่า คงจะ น่ะ-_-

    “ถ้างั้นวันเสาร์นี้เจอกันที่….” เคลวินกำลังบอกสถานที่นัดแต่จู่ๆโรเมอร์ก็ส่งสายตาปิ้งๆมาให้จนทำให้เคลวินหยุดชะงักคำพูดไป

    “ร้านแบร์มี่*_*” โรเมอร์ส่งสายตามออนว้อนสุดชีวิต

    …-O-^” พร้อมใจกันทำหน้าคลื่นไสสุดชีวิต

    อะไรกัน ฉันก็ว่าโรเมอร์เขาน่ารักดีออก*^*

    และแล้วทุกคนก็ต้องยอมแพ้แก่พลังโมเอะของโรเมอร์และยอมไปร้านแบร์มี่ที่โรเมอร์ชอบเป็นที่สุดและโปรดปรานมาก เรียกได้ว่าแทบจะอยากย้ายที่อยู่ไปอยู่ที่นั่นซะให้รู้แล้วรู้รอด!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×