คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ภาษารัก
2
ตอนนี้ฉันกำลังยืนเถียงกับเซลเซียสเรื่องฟาเรนไฮต์ที่จะมานอนที่นี้ด้วย เซลเซียสลากฉํนเข้ามาในห้องทันทีที่รู้ว่าฟาเรนไฮต์จะมานอนด้วย จะโทษฉันมันได้ที่ไหนเล้าจะโทษก็ไปโทษพี่ชายนายสิT^T
“อะไรกัน เธอ...-O-+++”
“จะมาโทษฉันไม่ได้นะ ฉันไม่ได้ชวนเขาสักหน่อยนึงอะ”
“ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะใคร”
“กะ…ก็เพราะนายนั่นแหละ ฝากแบบแผนกับฉัน ฟาเรนไฮต์เลยรู้ว่าฉันรู้จักนายอะ แล้วก็รู้หมดเลยTT^TT”
“โอ๊ย แล้วเธอจะบอกทำไมละYOY!”
“ก็มันมาจากนายนี่!!”
“โธ่! ฟังนะ เธอห้ามพักที่นี้แล้ว กลับไปเลย ฉันไม่ยอมให้ไอ้ไฮต์มาชิ่งความสุขวันนี้ไปเด็ดขาด ที่มันจะมานอนด้วยก็เพราะเธอ ถ้าเธอกลับไปมันก็ต้องกลับไปแน่นอน”
“นายจะมาไล่ฉันตอนนี้ไม่ได้นะ ตอนนี้มันกลางคืนแล้ว ที่นี้ไม่ใช่ว่าจะใกล้กับบ้านฉันนะ-O-” ฉันโวยยกใหญ่ อีกตาบ้านี่จะให้ฉันเดินกลับบ้านหรือไงเนี่ย
“ก็เรียกคนที่บ้านเธอมารับสิ”
“นายจะบ้าหรือไงนั่นสามทุ่มจะสี่ทุ่มแล้วนะ ไม่รู้แหละ ฉันจะนอนที่นี้ เดี๋ยวนี้เลย”
“ยัยคุณหนูฟังฉันนะ ถ้าไอ้พี่บ้านี่มาอยู่ในห้องฉัน อย่าหวังว่าฉันจะได้แอ้มโมจิเลย แค่แตะยังแทบไม่ได้ด้วยซ่ำ ที่ฉันเอาเธอมาอยู่ด้วยเพราะจะให้เธอมาเฝ้าห้องให้เฉยๆ จะออกจากห้องกับโมจิสองคนยังยากเลยถ้าไอ้ไฮต์อยู่ด้วย เพราะฉะนั้นเธอต้องเอามันกลับไป รู้ไหมกว่าโมจิจะว่างตรงกับฉัน ฉันรอมานานขนาดนั้นT_T”
“เอางี้ไหม ฉันจะช่วยนายเอง เอ่อ…อย่างๆน้อยก็น่าจะช่วยอะไรได้บางแหละ”
“สัญญาไหมละ”
“สัญญาเลย!!”
เช้าวันต่อมา…
วันนี้ไม่มีเรียนที่มหาลัย เพราฉันจะโดด ถึงไปวันนี้ก็แทบไม่ได้เรียนเพราะฉะนั้นฉันเลยยอมมานอนอุตุอยู่ที่ห้องของเซลเซียสยังไงละ ตอนนี้ฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเซลเซียสถึงไม่อยากให้ฟาเรนไฮต์มาอยู่ด้วย
“โมว่าโมจะออกไปห้างนะ เซลจะไปด้วยไหมอะ” โมจิหันไปหาเซลเซียส ฉันนั่งอยู่ที่เคาร์เตอร์บาร์เพราะไปอยากไปนั่งเป็นกขค
“ไปสิ…” เซลเซียสว่าพลางลุกขึ้น “งะ…งั้นโมไปแต่งตัวเถอะ”
“อ่า…”
“…” ฟาเรนไฮต์จ้องพวกเขาอย่างไม่วางตา สรุปฟาเรนไฮต์ไม่ไว้ใจโมจิ หรือว่า ไม่ไว้ใจเซลเซียสกันแน่เนี่ย=O=
“ฟังนะพี่ไฮต์ ฉันกับโมจิเป็นคู่หมั่นกัน นั่นหมายความว่าพี่ต้องไว้ใจโมจิสิ ไม่ใช่ไปจ้องเธอแบบนั่น แล้วก็ช่วยหยุดมองเธอด้วยสายตาแบบนั่นสักทีเถอะ ฉันจะไปเที่ยวกับโมละ ฝากยัยเอพริลไว้กับพี่ด้วยแล้วกัน” เซลเซียสว่าก่อนจะเดินไปแต่งตัว
ปัง
เสียงปิดประตูของเซลเซียสดังไปทั่วห้องราวกับไม่พอใจในการที่ฟาเรนไฮต์ไม่ไว้ใจโมจิ ฉันได้มองเขาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ
“มันไว้ใจได้ที่ไหน…” ฟาเรนไฮต์บ่นพึมพัมกับตัวเอง ฉันโดดลงจะเก้าอี้และเดินไปหาฟาเรนไฮต์
“นายน่ะ หัดวางใจซะบ้างสิ พวกเค้าเป็นคนรักกันนะ ถ้าคนในครอบครัวของอีกฝ่ายไม่ยอมรับคิดเหรอว่าเขาจะไม่อึดอัดน่ะ” ฉันเดินไปนั่งข้างๆฟาเรนไฮต์
“ไอ้เซลมันแคยเกือยตายเพราะผู้หญิงคนนั่นนะ..” ฟาเรนไฮต์ไม่ทันพูดจบฉันก็ตัดหน้าเขาเสียก่อน
“แล้วเขาเต็มใจที่จะตายเพื่อผู้หญิงคนนั่นหรือเปล่าละ!!”
“ผู้หญิงคนนั่นไม่น่าไว้ใจ”
“นายเอาอะไรมาตัดสินคนอื่นแบบนี้ ฉันนึกว่านายเป็นคนมีเหตุผลมากกว่านี้ซะอีก ผิดหวังจริงๆ”
“…-_-”…ใครใช้ให้เธอมาคาดหวังในตัวฉัน
“นี่ฉันรู้นะว่านายทำหน้าแบบนั่นหมายความว่าไง”
“…-_-”…เก่งจริงๆ
“อย่ามาประชดฉันนะ-O-;;”
“เอาละ ฉันไปก่อนนะ” เซลเซียสกับโมจิที่แต่งตัวเสร็จแล้วกำลังออกจากห้องโดยที่ไม่ลืมย่ำให้ฉันเฝ้าห้อง
“ฉันจะไปด้วย-_-” จู่ๆฟาเรนไฮต์ที่หายไปก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่หล่อเหลาเข้ากับชุดไปรเวทสีดำที่ดูเข้ากับคนไร้ความรู้สึกอย่างเขาที่สุด เฮ้ย!ดะ….เดี๋ยวสิถ้าเขาไปฉันก็ต้องนั่งเฝ้าห้องคนเดียวเหรอ ไม่เอาอะT^T
“ถะ…ถ้านายไปฉันก็จะไป!!” ฉันยืนกราดและล็อกแขนฟาเรนไฮต์ไว้ เซลเซียสถลึงตาใส่ฉัน ฉันขยิบตาให้เขาพยายามสือว่า ‘ไม่เป็นไร เดี๋ยวจัดการเอง’ ถึงแม้ไม่รู้ว่าจะจัดการได้หรือเปล่าก็เหอะ
“….-_-” ฉันลากฟาเรนไฮต์เข้าห้องในขณะเดียวกันเซลเซียสก็รีบฉุดให้โมจิเดินไปที่รถให้เร็วที่สุด หลังจาดเขาห้องมาเป็นที่เรียบร้อย ฟาเรนไฮต์ก็ปรายตามามองฉันอย่างไม่ไว้วางใจ ฉันเป็นคุณหนูนะไม่ใช่มิฉาชีพT^Tไม่เห็นต้องจ้องกันแบบนั่นเลย
“นายจะไปด้วยใช่ไหม งั้นรอฉันตรงนี้ก่อนขอไปแต่งตัวห้านาที” ฉันว่าและรีบวิ่งเข้าห้อง ฉันบอกแล้วว่าฉันเป็นคุณหนูแต่ฉันไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเป็นชั่วโมงๆใช่ไหมละ ฉันอาบน้ำสามนาทีก็เสร็จแล้ว แต่งตัวก็แค่หาชุดทาครีมแค่นั่น ห้านาทีก็พอแล้วสำหรับฉัน
“…เร็วดีนะ” ฟาเรนไฮต์บอกพร้อมกับสายตาที่จ้องไปดูนาฬิกาแขวน ฉันที่แต่งตัวเรียบเหมือนคนเดินห่างธรรมดา(ความจริงถ้าอยู่บ้านก็จัดเต็มเหมือนกันแหละ)
“ถ้าไม่เร็วฉันกว่าว่านายจะงับหัวฉันน่ะ”
“…-_-”
“เลิกพูดโดยใช้สายตาได้หรือยัง ฉันฉลาดก็จริง(ดูมันชมตัวเอง)แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะที่จะมาแปลภาษาสายตาของนาย-*-”
“โอเคๆ”
“ให้ตายสิ ฉันว่าคนที่อยู่ดุริยางคศิปล์จะต้องมีใจเฟรลี่กว่านี้ซะอีก ยิ่งนายที่เป็นเดือนของคณะด้วยน่ะนะ” ฉันบ่นพึมพัมกับตัวเองด้วยความไม่สบอารมณ์
ชิ้ง!
“-_-+++”
แฮะๆ ดูเหมือนว่าเขาเองก็จะไม่สบอารมณ์เหมือนแฮะT_T
โรส เซ็นทรัล
ฉันเดินมาอยู่ที่หน้าร้านอาหาร และพยายามติดต่อหาเซลเซียส ฟาเรนไฮต์ก็กลายเป็นคนดังในห้างเพราะหน้าตาที่ดูดีผิดมนุษย์และแน่นอนว่าฉันก็พลอยเดือดร้อนเพราะมีแต่คนคิดว่าฉันเป็นแฟนเขา ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้พูดแก้ต่างอะไรให้เลยแม้แต่น้อย
ความจริงเขาอาจจะชอบฉันอยู่(?) ซึ่งความเป็นได้เท่ากับศูนย์=_=
“ถ้าได้จะช่วยปริบปากพูดสักคำฉันจะดีใจมากTT_TT” หลังจากที่เขานิ่งและตอบฉันผ่านทางสายตาอย่างเดียว ทำให้ฉันเหมือนคนบ้าที่กำลังยืนคุยอยู่คนเดียว ถ้าเขาคิดจะตอบสักคำฉันจะดีใจเป็นอย่างมากของมากของมากที่สุด
“…-_-”…เรื่องของฉัน
“นี่ นายอยากให้ฉันเหมือนคนบ้าที่คุยกัยใครที่ไหนไม่รุ้หรือไงกัน อีกอย่างเขาไม่ได้มองเพราะฉันเป็นบ้าอย่างเดียวนะ เขาคงมองว่านายเป็นคนใบ้ที่หล่อเอาการอีกด้วย”
“…-_-;”…แล้วมันจะยังไง?
โอ๊ย!หัดเข้าใจฉันสักวินาทีจะได้ไหมเนี่ยTOT
“นายรู้ไหมว่านายชอบทำหน้าตายังไงเวลาไปไหนมาไหน”
“-_-”
“ใช่นายจะทำหน้าแบบนี้ >>-_- หรือไม่ก็แบบนี้>> -_- หรือไม่ก็แบบนี้>>-_- ซึ่งทุกหน้านายไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ให้ตายเถอะบร๊ะเจ้าT^T”
“รู้ไหมว่าเธอชอบทำหน้ายังไงเวลามองมางฉันหรือไม่ก็คุยกับฉัน”
ในที่สุดก็ปริบปากพูดแล้ว*^*!
“หน้าฉัน(‘ ‘)???”
“ใช่ มันจะเป็นแบบนี้ >>T^T ไม่ก็แบบนี้ >>T_T ไม่ก็แบบนี้ >>TOT มีอีกนะ แบบนี้>> *O* แบบนี้>>*^* แล้วก็ชอบทำหน้าตาคาดหวังด้วย-_-” ฟาเรนไฮต์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แต่ดูหน้าที่เขาทำตามฉันสิตลกเป็นบ้า เดี๋ยวก่อนนะถ้าฉันเคยทำหน้าแบบนั่นแล้วฉันคิดว่ามันตลกแสดงว่าหน้าที่ฉันทำก็ต้องตลกด้วยใช่ไหมTTOTT
“ฉันอยากฆ่านายชะมัดT_T”
“จะมาฆาฉันทำไมเนี่ย ประสาทททท-_-“
ขอบคุณที่ทำให้เขาพูดเยอะขึ้น ถึงในคำผู้นั่นมันจะเสียดแทงใจฉันมากก็ตามT^T
“เออ ฉันมันบ้าTT^TT” จำใจพูดสุดๆคิดว่าเขาคงจะช่วยพูดปลอบใจฉันบ้างละนะ ต้องปลอบฉันแน่ๆ
“ก็ดีที่ยังรู้ตัว-_-^^”
กรรซ์ อยากฆ่ามันYOY
ทำไมฉันถึงเข้าใจผิดไปว่าเขาดูเป็นคนที่น่านับถือ อย่างเช่นตอนที่ช่วยฉันไว้ แล้วทำไมก่อนหน้านี้ฉันถึงสนใจเขาได้ ที่ฉันสนใจมันเป็นเพราะอะไรกัน ความจริงตอนนี้เขาก็ยังน่าค้นหาอยู่นะ และฉันก็รู้สึกสนใจเขามากๆ แต่ทำไมนิสัยเขามันถึงเป็นแบบนี้ เขาก็ดูเป็นคนที่อบอุ่น แต่ทำไมชอบทำหน้าตาเหมือนด่าฉันอยู่ตลอดเวลา ไม่ด่าตรงๆก็ด่าอ้อมๆนั่นแหละT^T
“แล้วไอ้เซลละ”
“โดนรอบฆ่าไปแล้วมั้ง รอมาชาติกว่าแล้ว”
“…-_-”…อยากจะมีอีกชาติไหมละ จะได้ช่วย
“ไม่ละขอบคุณ-O-;;” ฉันตอบโดยการพูด แน่นอนว่าฉันคุยทางสายตาไม่เป็น และการที่ตอบทางสายตาไม่เป็นเลยต้องพูดออกไปเป็นคำพูด เป็นทักษะที่เพิ่งได้มาเมื่อได้เจอเขาเนี่ยแหละ ซึ่งมันก็ดูจะไม่แย่ซะทีเดียวเพียงแต่มันแค่ดูเหมือนฉันเป็นคนบ้าที่พูดอยู่คนเดียวก็นั่นเอง
“…” และแล้วบรรยากาศก็เงียบลงอีกครั้ง ก็ไมรู้สินะว่าจะว่าไงดี แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกใจเต้นแปลกๆ ฉันนั่งก้มหน้าข่มริมฝีปาก ตอนนี้มันรู้สึกเกร็งแปลกๆที่จู่ๆก็ต้องมาอยุ่กับเขาสองต่อสองในห้าง(คนออกจะเยอะ=3=)เหมือนกับมาเดทกันอย่างงั้น
“นะ…นี่”
“หือ-_-?”
“นายว่ามันแปลกไหม ที่จู่ต้องมาอยู่กับฉันสองคนแบบนี้” ฉันหลับตาปี๋แล้วกำมือแน่น ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะลอยอย่างงั้นแหละ กล้าถามไปได้ยังไงเนี่ยฉันTOT
“ก็ไม่นี่…อยู่กับเธอก็สนุกดี”
“…” ฉันเงียบ ตอนนี้หน้าฉันเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆแต่ตรงข้ามกับคนพูดที่ยังมีสีหน้านิ่งไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร
“จะไปกินอะไรก่อนไหมละ-_-”
“อะ…อื้ออ” ฉันตอบ ใบหน้าเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยเขาออกปากชวนมาก่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตเลย ฉันควรดีใจใช่มั้ย?
ร้านอาหาร จุบุ้จุบุ้ชิ
ตอนนี้ฉันมานั่งในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ กินไม่อั้นหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หัวละสี่ร้อยเก้าเก้า ก็ไม่รู้ว่าจะแพงไปไหน-*- ฉันมองสายพานที่เลื่อนไปเรื่อยๆ ก็ไม่รู้จะกินอะไรดี ก็เลยหยิบนู้นหยิบนี้มาใส่หมอโดนทีไม่ได้เลือกเลย ฟาเรนไฮต์ก็เอาแต่นั่งขมวดคิ้วมองฉันอย่างงงๆ
“เธอ…กินเยอะชะมัด แถมกินไม่เลือกอีก-_-”
“ก็มันไม่รู้จะกินอะไรนี่”
“…-_-“…ยัยนี่คิดถูกที่มาบุฟเฟต์
“นายเป็นคนเลือกร้านให้ไม่ใช่เหรอ-O-!” ฉันโวยกลับทันทีที่แปลภาษาสายตาเขาออก
ซุบซิบ
“ยัยนั่นพูดอะไรคนเดียวอะ” บุคคลปริศนา1
“เออนั่นสิ บ้าหรือเปล่า” บุคคลปริศนา2
“อุ๊ย เธอดูสิๆ ผู้ชายคนนั่นหล่อจัง แต่คนที่มาด้วยที่นั่งพูดอยู่คนเดียวแล้วกินเยอะๆนั่น ใช่คนบ้าหรือเปล่าอะ” บุคคลปริศนา3
และอีกหลายคนตามมา
ฉันไม่ใช่คนบ้าที่พูดคนเดียวซะหน่อย ฉันพูดอยู่กับคนที่พวกหล่อนชมว่าหล่อต่างหากละยะTT^TT ทำไมพวกเขาไม่คิดบ้างลยนะว่าหมอนี่เป็นใบ้ มีแต่คนคิดว่าฉันเป็นบ้า โอ๊ย!ปวดเฮด
“ฉันขอสั่งให้นายพูดตอบฉันโดยไม่ใช่สายตา” ฉันยืนกราด
“…-_-”…ทำไมต้องฉันทำตามเธอด้วอย
“งั้นก็ช่วยสอนภาษาสายตาของนายสิ ตอนนี้ทุกคนเขามองว่าฉันบ้าเพราะนายคนเดียวเลยT^T”
“…-_-;”…ก็เรื่องของเธอปะ?
“มันก็จริงอยู่…แต่จะช่วยกรุณาขยับเมาส์พูดหน่อยได้ไม่ได้เลยหรือ TOT” ฉันร้องโอยครวญ ตอนนี้คงมีคนมองว่าฉันบ้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นร้อยแล้วแน่ๆ ฮือๆ
“ฉันไม่ชอบพูด…”
“ระวังเถอะ จะเป็นใบ้!!”
“พูดมากก็ระวังน้ำลายฟูปากตายนะ ยิ่งพูดไม่หยุดแบบเธอเนี่ย-_-“
มันมีกรณีพูดมากแล้วน้ำลายฟูปากตายด้วยเหรอ แง้ๆ
“นะ…นายอย่ามาขู่ซะให้ยากเลย เท่าที่ฉันเรียนมากพูดมากมันไม่เคยทำให้ใครตายซะหน่อย” ฉันโต้กลับ เขามองฉันนิ่งๆก่อนจะทำท่าเหมือนจะพูดต่อแต่ก็ต้องชะงัก
“หมดเวลาแล้วคะ” พนักงานหญิยิ้มหน้าแดงๆเดินมาบอก โอเค ทำไมมันหมดช้าจังเลยละ กำหนดหมดคือเที่ยวครึ่งแต่นี่มันบ่ายหนึ่งแล้วนะ-O-;;
“ครับ” ฟาเรนไฮต์ว่าก่อนจะหยิบบิลไปจ่ายเงิน ส่วนฉันก็เดินออกไปรอนอกร้าน เอ๋ะ!จริงสิ ฉันล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบกระเป๋าตังค์
“อ๊ะ เจอแล้วๆ” ฉันควัดแบงค์ห้าร้อยออกมาและยืนรอเขาเหมือนเดิม
“…” ไม่นานคนใบหน้านิ่งเดินออกมาจากร้าน ฉันเดินตรงเข้าไปหาทันที ฉันยื่นแบงค์ห้าร้อยให้เขา เขามองฉันด้วยสายตาเชิงถามว่า ‘นั่นมันอะไร’
“นี่อะไรน่ะเหรอ ก็เงินไง เงินน่ะ”
“เอามาให้ฉันทำไม”
“โอ๊ย! ก็ค่าอาหารไง สี่ร้อยเก้าสิบเก้าบาท”
“เธอดูถูกฐานะของบ้านฉันมากไปหรือเปล่า-_- แต่ก็เอามาเถอะ” เขาพูดและใช้มือรับมันแต่ฉันสะบัดแบงค์ออก
“จริงสิ ฉันไม่ควรดูถูกตระกูลของนายสินะ^^+” ฉันยิ้มให้เขา หน๊อย!เออดี รวยก็เลี้ยงฉันเลย ดีมาก ตังค์ก็ไม่ต้องจ่าย เจ๋งดี!!
“…-_-;;;”
ฉันไม่ได้พูดกับฟาเรนไฮต์อีกตั้งแต่ออกจากร้านอาหาร ใช่!ฉันงอนเขา ถ้าฉันงอนใครเข้าเมื่อไหรฉันจะเงียบ! และจะเป็นแบบนี้กับทุกคน ไม่เกินอาทิตย์เดี๋ยวฉันก็เป็นเหมือนเดิมแล้วละ-_- ถ้ามีคนง้อก็อาจจะหายวันนี้เลยก็ได้ ตอนนี้เราเดินมา
“เป็นอะไร” จู่ๆคนหน้านิ่งก็ยอมปริบปากถามด้วยสีหน้าเอือมๆเหมือนไม่รู้ความผิดตัวเอง ฉันไม่ตอบเพียงแค่มองหน้าและสบตากับเขาเท่านั่น
“…ก็เปล่า” ฉันว่า
“โกหกตกนรก-_-” เขาว่าต่อ
“มันก็เรื่องของฉัน ไม่ใช่เรื่องของนายที่จะมาใส่ใจอะไรไม่ใช่เหรอ” ฉันพูดอย่างปประชดประชัน ขนาดสาเหตุที่ฉันงอนฉันยังไม่ค่อยจะรู้เลย ก็แค่อยากงอนเฉยๆ สาเหตุอาจจะเพราะฉันหงุดหหงิดที่เขาพูดตอนอยู่ที่หน้าร้านอาหาร
“ฉันไม่ชอบคนไร้สาระ ถ้าเธอจะประชดฉันก็ไม่ได้ว่า” ว่าเสร็จเขาก็เดินตีตัวออกห่างจากฉันไป ฉันหันควับแล้ววิ่งตามเขาไปทันที
“เดี๋ยวสิจะทิ้งฉันไว้เหรอ ฉันไม่มีรถกลับนะ”
“เลิกทำตัวไร้เหตุผลได้แล้ว ฉันไม่ว่างมานั่งง้อเธอหรอกนะ”
“จ้ะๆ นายก็ไม่เคยว่างอยู่แล้วนี่ ไม่รู้ว่าเอาเวลาไปทำอะไรหมด ไม่เห็นจะเคยว่างสักครั้ง-3-”
โอเค บอกตามตรง ฉันหายงอนเขาแล้ว เพราะเขาน่ารักมาก>///<
“…-_-”…อย่ามาประชด
“โอเคๆ ไม่ประชด ไม่งอน ไม่ด่า ไม่ว่า ไม่ตี ไม่สั่ง ไม่ดุ พอใจไหม”
“นั่นแหละที่เขาเรียกว่าประชด-_-”
เออเนอะลืมT^T
“มะ…ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อยนี่ วันหลังก็อย่าดุฉันสิ”
“หึ”ฟาเรนไว้หัวเราะในลำคอเบาๆ และกระตุกยิ้มขึ้น
“ฉันไม่ชอบเวลามีใครมาดุเลย จริงๆนะ(.///.)”
“อือๆ ฉันรู้แล้ว-_-”ฟาเรนไฮต์วางมืบนหัวฉันลูบไปมาเบาๆ ฉันเหลือบตาขึ้นมือเขา…
ตึกตัก ตึกตัก
ให้ตาย หัวใจฉันเต้นเร็วเกินไปแล้ว เลือดสูบฉีดดีเกินไปมันไม่ดีหรอกใช่ไหมT^T?
‘…อยู่กับเธอก็สนุกดี’
ประโยคนี้มันชอบผุดขึ้นมาทุกทีเลย แสดงว่าเขาก็เริ่มมีใจให้ฉันแล้วใช่ปะ? สนุกก็แสดงว่ามีความสุขเปล่าวะ เเต่ช่างเถอะ แค่เขาสนุกไปกับฉันมันก็เกินพอแล้ว ว้ายๆ!พอแล้ว สนุกกับฉันแล้วมันจะทำไมเล่า-///-(ไม่ค่อยจะ…เล๊ยย)
ความคิดเห็น