ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DegreeFahrenheitองศาไร้หัวใจยิ่งใกล้ยิ่งรักเเบบฉบับยัยคุณหนู

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 56


    “คุณหนู ตื่นได้แล้วนะคะ วันนี้คุณหนูต้องไปมหาลัยนะคะ คุณหนู แม่บ้านเคาะประตูรัวๆฉันพลิกตัวหนีเสียง อยากนอนไม่อยากไปT^T

    แกร๊ก

    เสียงประตูลูกบิดดังขึ้น นั่นหมายความว่าแม่บ้านเอากุญแจมาไขเพื่อที่จะเข้ามาปลุกฉันแล้วนั่นเอง ฉันพลิกตัวอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ไปมา

    “ตื่นได้แล้วนะคะ ไม่งั้นป้าจะไปตามคุณชายมาปลุก”

    “ว้าย!” ฉันกระเด้งตัวลุกขึ้นทันที ถ้าให้ให้เลือกระหว่างคุณชายกับไปมหาลัยฉันยอมไปมหาลัยดีกว่ะT^T คุณชายที่ว่าก็คือพี่ชายต่างแม่ของฉันเอง ชื่อของขาคือ เมษา ชื่อเหมือนผู้หญิงจะตายแต่ดันเป็นผู้ชายซะได้-3- เขาเป็นลูกเมียน้อยของพ่อแต่แม่ของเขาเสียไปแล้วเลยต้องให้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหญ่ เขาดุยิ่งกว่าหมาอีกใครจะยอมให้เขาเข้ามาปลุกกันเล่า คุณแม่ฉันก็รักเขายังกับลูกในไส้ คิดแล้วแค้นT_T

    “รีบไปอาบน้ำได้แล้วคะ คุณหนูเอพริล”

    “ค่ะๆ”

    ใช่แล้วค่ะ ฉันคือคุณหนูเอพริล ในภาษาไทยก็คือเดือนเมษายนนั่นเอง หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็หันไปมองนาฬิกาในห้อง ตายแล้ว!ไปต้องนี้จะทันเข้าเรียนไหมเนี่ย-O-;; คิดได้แบบนี้ฉันก็รีบวิ่งไปคว้ากระเป๋าและเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ทันที

    “ข้าวละคะ คุณหนู”

    “ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวไปกินที่มหาลัยฉันปิดประตูรถ คนขับรถออกรถทันทีที่ฉันปิดประตู

     

    สามสิบนาทีต่อมา

    ตอนนี้รถไม่ยอมขยับไปไหน พูดง่ายๆคือรถโครตติด ซึ่งนั่นหมายความวั่นอาจจะเข้าเรียนไม่ทัน แบบนี้ไม่ได้การแล้ว เห็นทีฉันจะต้องเดินไปมหาลัย จริงอยู่ที่ไม่มีการเช็คชื่อตอนเข้าเรียนแต่ถ้าขาดเรียนฉันก็ไม่รุ้เรื่องอะจิ ยิ่งสมองไม่ค่อยดีอยู่ด้วย เข้าห้องเลกเชอร์จะทันไหมเนี่ย><’

    “จอดๆ จอดข้างทางนี่เลยคะ เดี๋ยวหนูเดินไปเอง”

    “แต่ว่า…”

    “ไม่มีแต่คะ จอดตรงนี้เลยคะ รถติดแบบนี้มีหวังไปไม่ทันพอดี” ฉันว่าก่อนีลุงคนขับจะยอมเทียบริมฟุตบาทให้ฉันลง พูดก็พูดเถอะควมจริงฉันอยากจะถามทางก่อนด้วยซ่ำ

    “คุณหนูเห็นทีข้ามถนนตรงนั่นไหมครับ” ลุงคนขับชี้ไปทางไฟแดงที่ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโล

    “เห็นคะ”

    “ใหคุณหนูข้ามไปฝั่งตรงข้าม แล้ก็เดินไปอีกสองซอยจะเจอที่ข้ามถนนอีกที ให้คุณหนูข้ามไปแล้วเดินตรงตามทางไปเรื่อย ระวังตัวด้วยนะครับ” คุณลุงคนขับบอกและยิ้มให้ฉันเล็กน้อย

    “ขอบคุณคะ^O^!” ฉันบอกก่อนจะโบกมือลาคุณลุงคนขับรถ

    เอาละ! รถติดแบบนี้จะให้ฉันนั่งรถไปมหาลัยเหรอ นั่งรถไปมีหวังไม่ถึงมหาลัยพอดี ถึงจะไปถึงแต่ก็ไปไม่ทันพอดี โชคดีนะทีฉันพอจะมีทักษะคุณหนูรากหญ้าอยู่บ้าง-..-

    ฉันเดินมาเรื่อยๆและหยุดตรงที่ข้ามถนน ตอนนี้รถติดอยู่ข้ามไปเลยก็ได้มั้ง^O^ คิดได้แล้วฉันก็เดินข้ามถนนไป

    ปิ๊ดดดด~

    ฉันหันไปทางเสียงแตรรถที่บีบใส่และมีรถกำลังพุ่งมมาทางฉัน

    “กรี๊ดดดดดดดด>O<!” ฉันร้องสุดเสียง ไม่เอานะ ฉันยังไม่อยากตายT^T

    พรึบ

    มือปริศนาฉุดแขนฉันให้ไปอีกทาง ฉันโดนแรงฉุดลากไปกระทบกับร่างของใครบางคนก่อนที่ฉันจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขา สายตาของเขาที่มองมาทางฉันดูแข็งก้าวแต่มองไปในดวงตาลึกๆแล้วนั่นดูแสนจะอบอุ่น เราสบตากันได้ไม่ถึงสิบวินาทีฉันก็ต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาออกมาก่อน อ้อมกอดที่อบอุ่นค่อยๆคลายออกเพื่อให้อิสระแก่ฉัน ฉันก้าวถอยหลังมาสองสามก้าวเพื่อเว้นระยะห่าง ทะทำไมใจฉันต้องเต้นแรงแบบนี้ด้วยนะ

    “เออขอบคุณนะฉันก้มหน้าขอบคุณอย่างอายๆก่อนจะโค้งให้เขาเล็กน้อย เขามองฉันด้วยท่าทีนิ่งๆสบายๆ แต่ฉันกลับเกร็งไปหมดทั้งตัว

    คราวหน้าระวังด้วยละ=_=”

    “ค่ะ^^;”

    เขาเดินไปอีกทางซึ่งฉันเองก็ต้องไปทางนั่น อะเอาไงดีวะ เดินตามไปเขาจะหาว่าเราเป็นพวกโรคจิตหรือเปล่านะT_T แต่ทางเลือกก็มีไม่มากนั่น รถก็ไม่มี ถึงมีก็ไปไม่ทัน เอาวะ เป็นไงเป็นกัน

    และแล้วผมสุดท้ายก็คือการเดินตามเขาไปอย่างช่วยไมได้ ไม่ได้การละ ฉันต้องรีบอธิบายก่อนที่เขาจะเข้าใจฉันผิด ต้องรีบอธิบายให้เขาฟังแล้ว>_<

    “ฉันไม่ใช่พวกโรคจิตนะ แต่มหาลัยฉันมันก็ต้องไปทางนี่เหมือนกัน แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันเดินไปมหาลัยด้วย เพราะงั้นเลยไม่ค่อยรู้ทาง แต่ฉันไม่ใช่พวกโรคจิตนะ>_<;;;” ฉันหลับตาปี๋บอก และค่อยๆลืมตาขึ้น

    แปลกคน-_-

    “หะห๊ะ?”

    “เธอแปลกดีนะ พูดคนเดียวก็ได้ด้วย ตกใจจนเห็นภาพหลอนหรือไง-_-?”

    “ฉะฉันเปล่าพูดคนเดียวนะ ฉันพูดกับนายต่างหาก

    “กับฉัน?”

    “อื้อ” ฉันพยักหน้าหงึงๆ ดูสิ เขาคิดว่าฉันพูดคนเดียวละ ฮือๆเขาต้องคิดว่าฉันบ้าหรืออะไรเทือกๆนั่นแน่เลยอ่าT_T ชีวิตช่างอาพับยิ่งนัก แง้ๆ นายหน้าหล่อกระตุกยิ้มที่มุมปากดูชั่วร้ยก่อนจะเดินต่อ อะอะไรของเขาเนี่ย คงไม่คิดว่าฉันเพี้ยนหรอก ใช่ไหม?

    “ดะเดี๋ยวสิ นายจะไปไหนน่ะ

    “มาถามคนที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อแบบนี้จะดีเหรอ” เขาหันมาบอก ฉันที่กำลังวิ่งตามเขาอยู่

    “จริงสินะO_O! งั้นฉันเอพริล

    “เอพริล…-_-

    “แล้วนายละ ชื่ออะไรเหรอ”

    “ฟาเรนไฮต์”

    “โหย! ชื่อเท่ดีนะ ไม่เคยเจอคนชื่อแบบนี้มาก่อนเลยอะ นายนี่เกิดมาโชคดีชะมัด ชื่อเท่สุดๆ จริงสิ! สรุปนายจะไปไหนเหรอ ฉันจะไปมหาลัยน่ะ” ฉันว่า

    …”…ชื่อเธอก็แปลกพอๆกันนั่นแหละ-_-‘

    “เงียบทำไมละ ฉันถามนายอยู่นะ-O-^^”

    “มหาลัย ฉันแต่งตัวดูเหมือนคนไปรบมากหรือไง บ๊อง-_-*” ฟาเรนไฮต์ตอบและเดินต่อ คำตอบที่ได้มาเมื่อกี้ทำให้ฉันรู้สึกสตันไปสามวินาที

    “รอฉันด้วยสิ>O<!” ฉันรีบตะโกนและวิ่งตามเขาไป บอกตามตรงฉันเพิ่งสังเกตุว่าเขาใสยูนิฟอร์มเดียวกับมหาลัยของฉัน พูดถึงก็หน้าคุ้นๆอยู่นะเนี่ย ฟาเรนไฮต์น่ะ

    …”

    …”

    เงียบกริบ!

    ฉันไม่ได้เปิดปากคุยกับฟาเรนไฮต์เลยสักคำ เราเดินมาที่รั่วมหาลัยซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคนจะเดินมากันนักหรอกนะ มีแต่พวกไฮโซชั้นสูงทั้งนั้นแหละ แต่ใช่ว่าฉันจะไม่ใช่ไฮโซนะแค่ชิลๆกับเรื่องแบบนี้เฉยๆ มหาลัยนี้มีแต่พวกรวยๆทั้งนั่นแหละ แต่ใช่ว่าพวกระดับธรรมดาจะไม่มีนะ มันก็มีบาง แต่ไม่ได้คบกับพวกเราก็เท่านั่นแหละ

    “นายเรียนคณะอะไรเหรอ”

    “ดุริยางคศิลป์”

    *O*!”

    …-_-?”

    “นายเล่นดนตรีเป็นด้วยเหรอเนี่ย สุดยอดเลย ลองเล่นให้ฟังหน่อยได้ไหมอะ จริงสิที่แบกมานี่กีต้าร์เหรอ ว้าว*-*” ฉันเอื้อมมือไปหวังจะจับี่กระเป๋าใส่กีต้าแต่ฟาเรนไฮต์กลับขยับตัวหนีห่าง

    “ใช่ แต่ฉันไม่เล่นให้เธอดูหรอกนะ-*-” ฟาเรนไฮต์ว่า

    “โอเคๆ ไม่ดูก็ได้ ว่าแต่ดนตรีเขาเรียนกันยังไงเหรอ ฉันเรียนคณะบริหารธุรกิจน่ะ ไม่ค่อยจะรู้เรื่องพวกนี้สักเท่าไหร ว่างๆว่าสอนฉันบ้างดิ*O*!”

    “ไม่ว่าง=_=” ฟาเรนไฮต์รีบตอบทันควัน

    “ไม่เห็นต้องรีบตอบขนาดนั่นเลย อ้อยื่นมือมาหน่อยสิฉันแบมือรอรับมือของเขา และเขาก็ยอมยื่นมือมาให้ฉันแต่โดยดีไม่ขัดขืนฉันสักนิด เมื่อเขายื่นมือมาให้ฉันก็จับไว้แน่นก่อนจะล่วงหยิบปากกาขึ้นมา

    “อะไรของเธอ” ฟาเรนไฮต์ขมวดค้วมอง ฉันไม่สนใจและคงเขียนยุกยิกๆอยู่บนมือของเขา

    “อ๊ะ! เสร็จแล้ว” ฉันปล่อยมือของฟาเรนไฮต์ออก

    “อะไร=_=”

    “เบอร์มือถือไง ไอดีไลน์ด้วย พูดถึงก็ขอเบอร์นายหน่อยดิ” ฉันล้วงกระเป๋าและหยิบโทรศัพท์มือถือยื่นไปปให้เขา เขามองนิ่งๆก่อนเดินเมินออกไป อะไรกัน-O-;;

    …”

    “เดี๋ยวก่อนสินาย” ฉันตะโกนเรียก แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เล่นแบบนี้อีกแล้ว-*- ฉันวิ่งตามเขาไปเขาไม่หยุดเดินรอฉันสักนิดเลยอ่าT^T

    “มีอะไร-_-“

    “ขอเบอร์มือถือ-^-!”

    “ไม่ให้ ทำไมฉันจะต้องให้เบอร์กับคนแปลกหน้าอย่างเธอด้วย” เขาว่า คนแปลกหน้า ฉันน่ะเหรอ ก็เดินมาด้วยกันแล้วยังเป็นคนแปลกหน้าอีกหรอ ฮือๆTOT

    “โอเค๊ ก็ได้ ฉัน นางสาว กัญญ์วรา  อธิพัฒน์เดชากร  อายุสิบเก้าปี เกิดวันที่ 23 เมษายน พ.. 2537  เป็นลูกคนเดียว ชอบกินน้ำโกโก้ อาหารโปรดไม่มี สีที่ชอบคือสีฟ้า สีที่ไม่ชอบไม่มี มีพี่ชายต่างแม่ที่โครตดุ และฉันเป็นลูกเมียหลวง ตื่นค่อนข้างสายและชอบใช้ชีวิตชิลๆไม่ยึดติดกับหลักการคุณหนู หรือชีวิตแบบสบายๆ สถานที่ที่ชอบไปคือสวนสาธารณะที่สงบๆลมเย็น เออความจริงแล้วฉันมีเชื้ออังกฤษนิดหน่อยเพราะย่าฉันเป็นคนอังกฤษ แล้วก็หนังที่ชอบฉันไม่ค่อยดูหรอกชอบดูการ์ตูนจำพวกโดราเอมอนมากกว่ามันสนุกดี แล้วฉันก็ไม่ชอบทะเลด้วย น้ำทะเลมันทำให้ฉันรู้สึกเหนียวตัวและก็คัน แถมยังมีสัตว์มีพิษด้วย แดดฉันก็ไม่ชอบนะแต่ก็ชอบมากกว่าน้ำทะเลแหละ ถ้าให้อยู่ร้อนหรือหนาว ฉันจะเลือกอยู่ที่ร้อนๆ บ้านฉันทำธุรกิจเกี่ยวกับยารักษาสัตว์

    …-_-“

    “ฉันเรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจ ซึ่งฉันเคยบอกไปแล้วรอบหนึ่ง เหตุผลเพราะว่าฉันอยากเป็นแบบพ่อ พ่อฉันบริหารเก่งนะจะบอกให้ ส่วนแม่ฉันเป็นสัตวแพทย์ ถ้าไม่เป็นจะทำยาผลิตขายก็คงยากแหละ แล้วบ้านฉันก็ทำเกี่ยวกับสวนสัตว์ ว่างๆนายจะไปก็ได้นะ บ้านเลขที่ของฉันคือ xxx/xx มีพื้นที่อยู่ประมาณร้อยไร่ และไร่เปล่าอีกพันกว่าไร่ บ้านฉันไม่รวยหรอกนะแต่ก็อยู่ในระดับหนึ่ง เอ๋ะ~ยังมีอะไรที่ฉันยังไม่ได้บอกอีกหรือเปล่านะ-^-?”

    …=_=”

    “อ้อ! นึกออกแล้ว ฉัน…”

    “พอแล้ว”

    “อ้าวแต่ว่า…”

    “เบอร์มือถือของฉันไม่ว่ายังไงก็ไม่ใช่เธอเด็ดขาด เพราะฉะนั่น เธอไปเรียนได้แล้ว ฉันก็จะไปเรียนของฉันเหมือนกัน ฉันไม่มีเวลามาเสวนากับคนแปลกหน้าอย่างเธอมากหรอกนะ ลาขาด-_-

    “อ๊ะ!” เขาเดินหายไปอย่างรวดเร็ว อะไรกัน แปลกคนดีจริงเล๊ยย เกิดมาเพิ่งเคยเห็นคนแบบนี้เป็นครั้งแรก=_= ฉันไม่ได้หวังอะไรอีก คิดว่าเขาคงติดต่อกลับมาหาฉันบ้างแหละ มั้งนะ ฉันเดินออกไปพร้อมกับความรู้สึกผิดหวังนิดๆ

     

    “เซลเซียส” ฉันเรียกเพื่อนคนหนึ่งทีถือว่าสนิทกับฉันมากพอควรและหล่อสุดๆ แต่โชคร้ายหน่อยที่มันมีแฟนแล้ว ฉันคุยกับเซลเซียสค่อนข้างถูกคอและเราก็เรียนคณะเดียวกันเลยสนิทกันเร็วขึ้น

    “ว่า?” เซลเซียสพูดโดยทีไม่หันมามองฉัน ฉันขมวดคิ้วๆเล็กก่อนจะถามต่อ

    “นายชื่อหน่วยเป็นองศาเหมือนกันใช่ไหมละ”

    “ก็ใช่-_-

    “งั้นพอรู้จักคนที่ชื่อ ฟาเรนไฮต์ บ้างไหมอะ เมื่อเช้าฉันเจอคนที่ชื่อนี้น่ะ”

    OoO!!!” เซลเซียสทำท่าทางตกใจและเบิกตากว้างอ้าปากเหวอ อีตานี่ทำท่าทีน่าเกลียดเกินไปแล้ว-O-;

    “ทำไมต้องตกใจขนาดนั่นด้วยเล่า ฉันก็แค่ถามเฉยๆเอง-O-?” ฉันว่า

    “ไอ้ไฮต์ เธอเจอไอ้ไฮต์เหรอ”

    “ถ้าหมายถึงคนที่ชื่อฟารเนไฮต์ละก็ใช่

    “แล้วเธอรู้ชื่อมันได้ไง หรือว่ารู้จักเพราะมันหล่อเป็นเดือนของคณะดุริยางคศิลป์”

    “ฉันไม่รู้จักหรอก ดาวเดือนของคณะนั่นน่ะ-_- ฉันรู้เพราะฉันถามเขา”

    “แล้วมันก็บอกเธอเหรอ”

    “ก็ใช่น่ะสิ นายคิดว่าฉันรู้เพราะอะไรเนี่ย ฉันไม่ใช่พวกบ้าผู้ชายหล่อเหมือนพวกผู้หญิงพวกนั่นนะ-O-;” ฉันเหล่หางตาไปมองกลุ่มผู้หญิงที่บ้าผู้ชายสุดๆ เรียกได้ว่าใครหล่อพวกหล่อนก็รู้จักหมด

    “เออ ก็จริง-_-;” เซลเซียสทำหน้เอือมก็จะหันมามองหน้าฉัน

    “สรุปรู้จักไหม?

    “พี่ชายฉันเองแหละ-_-“

    -O-!!!”

    “เฮ้! เธอยังอยู่ใช่ปะ เฮ้!!

    …”

    “ยัยคุณหนู ยังอยู่ใช่ไหม เฮโหลลล”

    “เออ~~ ยังอยู่-O-“

    ความจริงฉันรู้สึกสตันมากๆ ฟาเรนไฮต์เป็นพี่น้องของเซลเซียส มานึกดูดีๆฉันรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงหน้าคุ้นๆเพราหน้าเขากับหน้าเซลเซียสมันคล้ายๆกันยังไงละ! งั้นแสดงว่าเซลเซียสก็ต้องมีเบอร์มือถือของฟาเรนไฮต์ใช่ปะ-O-!?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×